ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The secret of vongola family (Re-Write)

    ลำดับตอนที่ #8 : Who are you? 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 65


    บทที่ 7

    Who are you?

     

              เอดิ  เฟอเดริโก  ชายหนุ่มร่างสูงสัญชาติอิตาลีที่มีผมสีบลอนด์ทอง ดวงตาคมสีฟ้าสวยดั่งท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆหมอกบดบัง จมูกโด่งสวยได้รูปและริมฝีปากหนาสีธรรมชาติ เขาทำงานเป็นไกด์มาได้  6 ปี ชีวิตในการทำงานของเขาราบรื่นมาโดยตลอด แต่ทว่าวันนี้ที่เขาถูกเลือกให้มาเป็นไกด์นำเที่ยวให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง รู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ 

              “เรียกผมว่าเอดิก็ได้ครับผมจะมาเป็นไกด์ให้พวกคุณนะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

              “สวัสดีครับผมยาบุกิ เรียว ส่วนนี้น้องชายผมชินอิจิครับ ส่วนนั่นซูซูกิ กับนากามูระแล้วก็เจ้าเซ่อที่ยืนอยู่ข้างคุณคือซาวาดะครับ”

              เกือบดีแล้วเชียวนะยาบุกิถ้าไม่มีประโยคสุดท้ายนั่นน่ะ

              “ซาวาดะหรือครับ?” ชื่อนั้นมัน…

              “ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ?” คนตรงหน้าถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

              “อะ…เอ่อ ไม่มีอะไรครับ ทุกท่านเชิญทางนี้ดีกว่าครับ”  ไม่น่าใช่หรอกน่า  คน ๆ นั้นน่ะเป็นถึงบอส  ของวองโกเล่เลยนะ  จะมามัวพาคนชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ไงแค่คนชื่อซ้ำแน่ ๆ เพราะชาวญี่ปุ่นก็ชื่อซ้ำกันเยอะแยะนี่นา   

              .

    .

    .

              “โคลอสเซียม เป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเป-เซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส อย่างที่ทุกท่านเห็นครับ โคลอสเซียมนั้นเป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทราย นอกจากนี้ยังสามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คนครับ” 

              ไกด์หนุ่มเดินนำขบวนพร้อมกับอธิบายประวัติความเป็นมาของโคลอสเซียมให้ทุกคนได้ฟัง

              “โห สุดยอดเลยคนสมัยก่อนนี่เก่งจังเลยนะสร้างอะไรแบบนี้ได้” 

              “นั่นสิ  อีกอย่างอากาศก็ดีฉันล่ะชอบแบบนี้สุด ๆ เลย”

              “นี่เจ้าห่วย ถ่ายรูปให้ฉันหน่อยสิ” น้ำเสียงเอาแต่ใจของยาบุกิคนน้องเอ่ยขึ้นกับเอกนภาแห่งวองโกเล่ที่เหมือนจะพูดคุยเรื่องบางอย่างที่พวกเขาฟังไม่เข้าใจเลยสักนิดอยู่ทางโทรศัพท์  และดูเหมือนร่างสูงของนภาแห่งวองโกเล่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนพูดเลยสักนิด

              “นี่!!!  แกอย่ามาเมินฉันนะ”  สิ้นคำสายตาคมตวัดมองคนพูดด้วยความเย็นชาทำให้คนถูกมองเหมือนยืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็งอันเย็นเยียบ

              “ฉันคุยธุระอยู่”  ร่างสูงเอ่ย

              “แกก็มาถ่ายให้ฉันแปปนึงสิ!!”  เขาไม่ยอมหรอกนะเจ้าห่วยนี่นิ่อยู่ ๆ ก็ทำเป็นเข้ม

    “เอ่อ คุณครับเดี๋ยวผมถ่ายให้ดีกว่าครับ”  ไกด์หนุ่มรีบพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นสีหน้าของคนที่โดนเรียกว่าเจ้าห่วย พลางคิดไปว่าลูกทัวร์คนนี้อ่านบรรยากาศไม่ออกหรืออย่างไรกัน

    “ไม่เป็นไรครับคุณเอดิ  ผมคุยธุระเสร็จพอดีครับ”  เสียงที่ตอบกลับมาดูอ่อนลงกส่าก่อนหน้า

    “เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ๆ ทุกคนมาถ่ายรูปพร้อมกันดีกว่านะครับเดี๋ยวผมถ่ายให้”

    “ครับ ถ้างั้นรบกวนด้วยนะครับ”

    ไม่คร้าบบบ ไม่รบกวนเลยครับ 

     

    .

    .

    .

    แปลก คำ ๆ นี้สามารถใช้อธิบายตัวของซาวาดะ สึนะโยชิในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี  เพราะเมื่อก่อนตอนเรียนอยู่ที่นามิโมริเจ้านั่นก็เป็นแค่เจ้าห่วยคนนึงที่ทำอะไรก็แย่ไปซะหมดทุกอย่าง แต่ดูตอนนี้สิบรรยากาศรอบตัวหมอนี่เปลี่ยนไปเยอะมากเลยจริง ๆ 

    “นี่ยาบุกินายรู้สึกว่าเจ้านั่นแปลก ๆ ไปรึเปล่า”  หญิงสาวเพียงคนเดียวของกลุ่มเอ่ยถามเสียงเบา

    “อืม ฉันก็คิดเหมือนซูซูกินะ นายว่าไง” นากามูระที่เงียบมาสักพักเสริมขึ้น

    “ใช่ แต่ว่าแปลกที่ตรงไหนกันล่ะ”

    “จะว่าไปเรื่องแปลก ๆ ของหมอนั่นก็มีเยอะเหมือนกันนะตั้งแต่ม.ต้นแล้วน่ะ”

    “อืมม ก็จริงอย่างที่เธอว่านะ อย่างเรื่องโกคุเดระกับยามาโมโตะไง อย่างยามาโมโตะหมอนั่นชอบเบสบอลจะตายแต่ไหงดันมาทำงานเป็นพนักงานโรงแรมได้ล่ะ”

    “จริงด้วย ๆ แล้วอย่างโกคุเดระที่เหมือนจะเป็นนักเลงแต่โคตรเรียนเก่งนั่นอีกล่ะ ถ้าฉันเรียนเก่งอย่างหมอนั่นฉันคงไม่มาทำงานเป็นพนักงานโรงแรมแน่”

    “ฉันจำได้อีกเรื่องนึงนะ  จำตอนนั้นได้มั้ยประมาณปีหนึ่งหรือปีสองนี่แหละที่มีการเยี่ยมชมการเรียนการสอน  ตอนนั้นมีครูแปลก ๆ เข้ามาด้วยนี่นาแล้วเจ้าสึนะก็เหมือนจะร็จักครูคนนั้นด้วย”

    “อ๋ออ ฉันก็จำได้ ๆ แต่มันก็ไม่มีอะไรนี่นา” เขาจำได้ว่าวันนั้นจบด้วยที่เจ้าห่วยนั่นเอาแต่โวยวายให้ทุกคนตั้งใจเรียนแค่นั้นแหละ

    “ก็ครูคนนั้นอ่ะบอกว่าจะมาดูว่าในห้องเราน่ะ ใครมีแววจะได้เข้าแก๊งมาเฟียน่ะสิ”  เสียงของซูซูกิเบาลงเมื่อพูดประโยคสุดท้าย

    “เพ้อเจ้อน่า  ครูคนนั้นก็แค่ล้อเล่นแหละ”  นากามูระพูดติดตลกพลางคิดว่าเพื่อนของตนนี่ช่างคิดจริง ๆ  มาฟง มาเฟียอะไรกันเพ้อเจ้อจริง ๆ เลยยัยคนนี้

    “แต่ว่า…”

     “ฉันว่าเราค่อยกลับไปคุยเรื่องนี้กันอีกทีที่โรงแรมกับคนที่เหลือเถอะ  ฉันว่าเรื่องนี้มันแปลกจริง ๆ นั่นแหละ” เมื่อเอ่ยจบเจ้าตัวจึงเดินไปหาน้องชายของตนเพื่อแยกออกมาจากคุณไกด์และเจ้าซาวาดะที่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีนั่น  เฮ้อ น้องชายของเขานี่มันช่างเอาแต่ใจจริง ๆ คนแก่กว่าได้แต่ถอนหายใจก่อนจะลากน้องชายให้ไปเดินดูรอบ ๆ โคลอสเซียมแทน 

    .

    .

    .

    จัตุรัสนาโวนา 

    อะแฮ่ม  ดิฉันมิยาซากิ มาโกะขอต้อนรับเข้าสู่จัตุรัสนาโวนาค่ะ  วันนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับบรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจของที่แห่งนี้กันนะคะ

    จัตุรัสนาโวนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเป็นอันดับสามในอิตาลี  บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ผู้คนและนักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่หันไปมองทางไหนก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย  นอกจากนี้รอบ ๆ จัตุรัสยังรายล้อมไปด้วยตึกรูปร่างและสีสันสวยงาม มีรูปปั้นและน้ำพุอยู่เต็มไปหมด  ทุกอย่างดูเหมือนจะดีไปหมดยกเว้นอารมณ์ของคนนำเที่ยวนี่แหละค่ะ  หน้าเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมาก็ไม่รู้

    “โกคุเดระตอนนั้นนายบอกว่าเคยอยู่อิตาลีใช่มั้ย” พูดจบหญิงสาวจึงหันกล้องไปยังคนที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ทันที

    “ใช่  มีอะไร”  เสียงบ่จอยสุด แถมตวัดสายตามองเหมือนบอกกลาย ๆ ว่าห้ามถ่ายอีกต่างหาก

    “ก็ไม่มีอะไรหรอกน่า  แค่อิจฉานายเท่านั้นเองที่ได้อยู่ในประเทศที่สวยงามอย่างนี้อ่ะ” ถึงจะมีประวัติว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยพวกมาเฟียน่ากลัว ๆ ก็เถอะ

    “เหอะ  มันไม่ได้น่าอิจฉาแบบที่เธอคิดหรอกน่า”  คนตัวสูงเอ่ยตอบ

    “งั้นเหรอ  แต่ง่านายอยู่ที่อิตาลีเคยไปที่ท่องเที่ยวฮิต ๆ มาบ้างมั้ยฉันน่ะนะอยากไปเที่ยวที่ปราสาทวองโกเล่มาก ๆ เลยนะเห็นว่าเป็นสถานที่ ๆ ลึกลับแล้วก็เต็มไปด้วยมาเฟียน่ะ”

    “นี่เธอไปเอาชื่อนั้นมาจากไหน”  อะ อะไรเนี่ยอยู่ ๆ ก็ทำหน้าโหดเสียงแข็งอีก นะ น่ากลัว

    “อะ  เอามาจากซาโอโตมิน่ะ ยัยนั่นบอกว่าไปเจอมาในเว็บที่คนรู้จักแนะนำมาน่ะ ลองถามดูสิ”  ฮืออ หมอนี่ยังน่ากลัวเหมือนเดิมเลย และเมื่อได้รับคำตอบเจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจคนพูดอีกต่อไป

    “หมอนั่นยังน่ากลัวเหมือนเดิมเลยเนอะ”   ชิบะเอ่ยขึ้นเมื่อโกคุเดระเดินจากไป  สงสัยไปถามเรื่องเว็บที่ซาโอโตมิบอกมาแน่เลย

    “นั่นสิตอนม.ต้นนะหมอนั่นดูเป็นนักเลงสุด ๆ แต่พอมาตอนนี้เหมือนจะไม่เหมือนนักเลงแล้วแต่ก็ยังน่ากลัวอยู่ดี”

    “จริง  ฉันยังจำตอนนั้นได้อยู่เลยที่หมอนั่นย้ายมาใหม่ ๆ แล้วจ้องเล่นงานเจ้าห่วยสึนะ  แต่อยู่ดี ๆ เจ้าพวกนั้นดันสนิทกันเฉยเลย” เธอพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

    “แต่ตอนนี้ฉันสงสัยอยู่อย่างนึงนะ”

    “หือ เธอสงสัยเรื่องอะไรอ่ะ”  ชิบะเอ่ยถาม

    “ก็เรื่องงานที่สองคนนั้นทำน่ะสิ”

    “ก็แค่พนักงานโรงแรมธรรมดา ๆ ไม่ใช่เหรอ”

    “โธ่  นายลองคิดดูนะสองคนนั้นบอกว่าทำงานที่โรงแรมที่เราเข้าพัก แต่ว่าเมื่อเช้าฉันตื่นก่อนเลยเดินสำรวจในโรงแรมดู”

    “อ่าหะ แล้ว?” 

    “ฉันก็ไปเจอเข้ากับบอร์ดพนักงานน่ะสิ  แต่ว่าในนั้นไม่เห็นมีชื่อสองคนนั้นอยู่เลยนะ แล้วดูเหมือนเมื่อวานเจ้าพวกนั้นก็พักห้องที่อยู่บนสุดด้วยนะ นายลองคิดดูนะว้าจะมีโรงแรมไหนให้พนักงานพักชั้นบนสุดบ้าง”

    “ก็จริง  แต่เจ้าพวกนั้นบอกว่าเจ้านายใจดีมาก ๆ เลยนี่นาคงไม่น่าแปลกหรอกมั้งที่จะให้พนักงานพักในโรงแรมอ่ะ”  โอ้ยยย นี่ยังไม่แปลกอีกเรอะเธอล่ะเซ็งเพื่อนคนนี้จริง ๆ

    “โอ้ยย แถวบ้านฉันเรียกว่าแปลกจ้ะพ่อคุณ ฮ่วย!!”

    “อ่า งั้นเราค่อยกลับไปคุยกับพวกยาบุกิที่โรงแรมอีกทีดีมั้ย” เฮ้ออ ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละนะเพราะตอนนี้บุคคลในหัวข้อสนทนาเมื่อสักครู่เดินมาพร้อมกับซาโอโตมิและฟูจิวาระแล้วน่ะสิ แถมดูเหมือนบรรยากาศจะตึงเครียดนิด ๆ ด้วยสิ

    “พวกเธอเดินดูตรงไหนกันอีกมั้ยจะได้เวลาไปร้านที่นัดไว้กับสึนะแล้ว”

    “อะ  เอ่อ พวกเราขอเดินดูอีกสักรอบได้มั้ย”  เมื่อกี้มัวแต่นินทา เอ้ย คุยเรื่องพวกนายเลยยังไม่ได้เดินไปไหนเลยเนี่ย

    “ให้ไว  ฉันให้เวลายี่สิบนาที!!”  เจ้าตัวพูดพลางคิ้วขมวดอย่างที่ชอบทำ

    “จ้า ๆ นี่ไปทางนั้นกัน”  หญิงสาวว่าพลางดึงมือเพื่อน ๆ ไปทางน้ำพุที่หมายตาไว่ว่าจะไปถ่ายรูปตั้งแต่ต้น 

    ส่วนเรื่องที่สงสัยเดี๋ยวค่อยกลับไปคุยกับเพื่อนคนอื่น ๆ อีกทีก็ได้ตอนนี้ขอเที่ยวก่อนจ้า

     

    เมื่อกี้ตอนที่ได้ยินชื่อปราสาทวองโกเล่ออกจากปากของมิยาซากิทำให้ผมตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว  เพราะปราสาทวองโกเล่นั้นหากเป็นในวงการมาเฟียนั้นจะมีการพูดถึงกันอย่างแพร่หลายก็ไม่แปลก  แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับพูดออกมาว่าอยากไปเที่ยวที่นั่น  และเมื่อลองถามดูก็ได้รู้ว่าเธอได้ยินช่อนี้มาจากเพื่อนอีกคนซึ่งก็คือซาโอโตมิ

    ตอนแรกเธอบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบคำถาม  แถมยังถลึงตามองอย่างเอาเรื่องด้วยซ้ำ  แต่คนอย่างเขาทำไมจะต้องกลัวด้วย 

    แต่ข้อมูลที่ได้มาน่าตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเว็บที่เธอเข้าถึงคนธรรมดาไม่สามารถเข้าได้ เฮ้อ  มีแต่เรื่องวุ่นวายทั้งนั้นเลย  ใครกันนะที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้  และต้องการอะไรกันแน่ 

    .

    .

    .

    tbc

     

    Talk

    ตอนแรกว่าจะแอบ ๆ ใบ้ในตอนนี้เลยค่ะว่าใครกันนะที่เป็นตัวการอยู่เบื้องหลังคนที่ส่งจดหมายและเรื่องเว็บ  แต่คิดดูอีกทีขอรวบไปตอนหน้านะค้า

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×