คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 SUSPECT 100%
บทที่ 6
SUSPECT
เมื่อวานหลังจากเดินทางมาถึงโรม พวกเราทุกคนเข้าพักที่โรงแรมในเครือของวองโกเล่ ในปัจจุบันนั้นวองโกเล่ได้ทำการลงทุนไปยังกิจการต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งโรงแรมก็เป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้ผลตอบรับที่ดีและเม็ดเงินที่ได้กลับมานั้นค่อนข้างเป็นเงินที่เรียกได้ว่ามหาศาลอยู่เหมือนกัน
ทุกคนดูตื่นเต้นแต่ด้วยความเหนื่อยล้าและอาการเจ็ทแลคทำให้หลายๆคนหมดแรงที่จะซักถามเกี่ยวกับที่พักหรือเรื่องอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมแล้วแต่ละคนจึงรับคีย์การ์ดและกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง
09:00 AM
ยามเช้ามาเยือนพร้อมกับความวุ่นวายเล็กน้อยบริเวณห้องอาหารโดยมีผู้จัดการโรงแรมและพนักงานอีกสองคนยืนมองความวุ่นวายนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย ซึ่งความวุ่นวายที่ว่าก็คือพวกเพื่อนตัวดีทั้งหลายอย่างไรล่ะ เห็นว่ายืนเถียงกันมาจะครบชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเสียที แต่ละคนไม่ยอมกันเลยจริง ๆ
“ฉันบอกว่าไปที่ Piazza navona ก่อนไงล่ะ”
“มาถึงโรมทั้งทีก็ต้องไปดู Colosseum ก่อนสิ”ตอนนี้สถานการณ์ตรงหน้าแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
คือสองพี่น้องยาบุกิ ซูซูกิ นากามูระ กับซาโอโตมิ มิยาซากิ ชิบะ และฟูจิวาระ
“เอาน่า ๆ ทุกคนใจเย็น ๆ กันก่อนนะ” น้ำเสียงทุ้มของนภาแห่งวองโกเล่เอ่ยห้ามทุกคนก่อนที่จะบานปลายไปมากกว่านี้
“ก็แกดูสิฉันบอกว่าไปจัตุรัสนาโวน่า ก่อนไปโคลอสเซียมก็ไม่ยอม”
“ก็ไปที่โคลอสเซียมก่อนแล้วค่อยแวะเที่ยวที่จัตุรัสนาโวน่าก่อนก็ได้นี่!!” ยาบุกิ คนน้องเอ่ยอย่างไม่ยอมกัน ทั้ง ๆ ที่สถานที่สองแห่งนี้ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งแท้แต่ก็ยังเถียงกันอีกเนี่ยนะ
“งั้นเอาแบบนี้ แยกกันไปสิเดี๋ยวฉันกับฮายาโตะจะพาพวกนายเที่ยวโดยแบ่งทีมกัน ฉันจะพาพวกยาบุกิไปโคลอสเซียม ส่วนฮายาโตะพาพวกซาโอโตมิไปจัตุรัสนาโวนาและค่อยมาเจอกันที่ร้าน Gusto ตกลงตามนี้นะ” เมื่อพูดจบร่างสูงของสึนะจึงหันไปสั่งการกับผู้จัดการโรงแรมในการเตรียมรถ
“แต่ว่าสึนะครับเราต้องไปคุยเรื่องนั้นกับทางวาเรียนะครับ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้คุณฮิบาริกับยามาโมโตะไปแทน ฝากนายแจ้งกับทั้งสองคนด้วยนะ ส่วนทางวาเรียเดี๋ยวฉันจะบอกกับแซนซัสเอง” ว่าจบแล้วเอกนภาแห่งวองโกเล่จึงต่อสายหานภาสีเลือดแห่งวาเรียในทันที ท่ามกลางสายตางุนงงของกลุ่มคนอีกแปดคนที่เหมือนจะตั้งตัวไม่ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเจ้าห่วยสึนะนี่พูดจบก็หันไปพ่นภาษาอิตาลีกันรัว ๆ เลยน่ะสิ พวกเขาฟังไม่เข้าใจเลยสักนิด!!
“เชิญทุกท่านไปรอรถที่ล็อบบี้กันเถอะครับ” ผู้จัดการหนุ่มหล่อวัยกลางคนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเดินนำทุกคนไปยังล็อบบี้ของโรงแรม
“ซาวาดะนายนี่เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ” ชิบะเอ่ยขึ้น
“ห้ะ ฉันเนี่ยนะเปลี่ยนไป?” ร่างสูงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงงุนงง
“อืมมม ก็ท่าทางของนายดูเหมือนเต็มไปด้วยความมั่นใจกว่าเมื่อก่อน แถมวันนี้ก็ไม่ใส่แว่นแล้ว?”
“ใช่ ๆ ไหนจะสกิลภาษาอิตาลีของนายที่พูดเมื่อกี้อีก ถ้าหลับตาฟังฉันคงนึกว่านายเป็นคนอิตาลีแน่ ๆ เลย”
“ก็ฉันทำงานเกี่ยวกับโรงแรมนี่เลยต้องปรับเปลี่ยนกันบ้างสิ ส่วนแว่นที่ไม่ใส่เพราะวันนี้ฉันใส่คอนแทคเลนส์น่ะ” สึนะเอ่ยตอบ
“ว่าแต่ทำไมวันนี้แกกับโกคุเดระถึงใส่สูทซะเนี้ยบเลยล่ะ แค่ออกไปเที่ยวกับพวกฉันเองนะ”
“นั่น…เพราะว่าฉันทำงานโรแรมไงเลยชินน่ะเวลาอยู่โรงแรมแล้วต้องแต่งตัวแบบนี้เพื่อความเรียบร้อยไง” อ่า ทำไมรู้สึกเจ็บ ๆ ที่สีข้างจังนะ
“ห้ะ อะไรของแกแต่งชุดสูทเพราะชินเนี่ยนะ?” หึ พี่น้องยาบุกินี่กัดไม่ปล่อยเลยนะ
“ขออนุญาตครับ รถมาแล้วครับ” ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยตอบผู้จัดการโรงแรมก็เดินเข้ามาแจ้งเรื่องรถพอดี
“รถมาแล้วไปกันเถอะ” สึนะเอ่ยเสียงเรียบก่อนเดินนำทุกคนไปพร้อมกับร่างบางของผู้พิทักษ์วายุ
เมื่อเดินออกมาบริเวณหน้าโรงแรมก็พบกับรถ SUV 7 ที่นั่งสีดำสองคันจอดรออยู่ ทุกคนทยอยขึ้นรถโดยแบ่งเป็นคันแรกมีสองพี่น้องยาบุกิ นากามูระ ซูซูกิ และนภาของวองเล่ ส่วนคันที่สองจะเป็นซาโอโตมิ มิยาซากิ ชิบะ ฟูจิวาระ และผู้พิทักษ์วายุแห่งวองโกเล่
แต่ก่อนที่ร่างบางของผู้พิทักษ์วายุจะขึ้นรถเสียงทุ้มต่ำน่าฟังของเอกนภาแห่งวองโกเล่ได้เอ่ยรั้งอีกฝ่ายไว้
“ฮายาโตะฉันฝากด้วยนะ แล้วก็อย่าลืมใส่หูฟังสื่อสารล่ะ” สึนะเอ่ยบอกคนตัวบางที่อยู่ตรงหน้า
“ครับ สึนะก็อย่าลืมใส่นะครับถ้ามีอะไรเกิดขึ้นรีบบอกผมทันทีเลยนะครับ” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยเต็มไปด้วยความห่วงใย เพราะไม่รู้ว่าทำไมในการไปเที่ยวครั้งนี้นภาของตนจึงไม่ยอมพาคนติดตามไปด้วย ใช่ ไม่พาไปแม้กระทั่งผู้พิทักษ์วายุหรือมือขวาอย่างเขา
“ฮายาโตะมองฉันสิ” ร่างสูงเอ่ยด้วยนำเสียงจริงจังจนทำให้ร่างโปร่งบางต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“ฉันจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น เชื่อฉันสิ” แววตาที่มองสบกันนั้นเต็มไปด้วยความมั่นคง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นก็เต็มไปด้วยมั่นใจว่าตนจะทำตามที่เอ่ยได้เป็นอย่างดี
“ครับผมเชื่อสึนะ นะครับ”
“นี่พวกนายจะยืนจีบกันอีกนานมั้ยเนี่ย!!”
“ช่ายยย~~ รีบ ๆ มาได้แล้วน่า”
“จีบบ้าจีบบออะไรเล่าพวกแกนี่” พูดจบเจ้าตัวก็รีบขึ้นรถไปพร้อมกับใบหูแดง อ่า ฮายาโตะน่ารักจัง
รถยนต์สีดำคันหรูเคลื่อนออกจากโรงแรมเพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสีนวลตาสวยงาม บรรยากาศของผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน และผ่อนคอนคลายอยู่ในที
ใช้เวลาเดินทางจสกที่พักไม่นานคณะเดินทางก็มาถึงยังโคลอสเซียมที่เป็นเป้าหมายสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงโรมสนามกีฬากลางแจ้งนี้ตั้งอยู่กลางกรุงโรม สนามประลองโคลอสเซียมนั้นถูกสร้างขึ้นในยุคของจักพรรดิเวสเปเชี่ยนแห่งจักรวรรดิโรมันสนามประลองแห่งนี้มีลักษณะเป็นรูปร่างครึ่งวงกลม ก่อด้วยอิฐและสามารถจุคนได้จำนวนมหาศาลเลยทีเดียว
“โอ้โหหห สุดยอดไปเลยของจริงสวยกว่าในรูปอีก”
“ของจริงใหญ่มากกก ไม่น่าเชื่อ”
ทั้งห้าคนที่นำโดยสึนะ ตามมาด้วยสองพี่น้องยาบูกิ ซูซูกิ และปิดท้ายด้วยนากามูระพากันเดินเข้าไปต่อคิวซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมด้านใน
“พวกนายจะเลือกตั๋วแบบไหนมันมีตั๋วเข้าชมแบบไม่มีไกด์ราคา 16 ยูโร เป็นตั๋วแบบ Fast Track ไม่มีไกด์แต่ตั๋ว 17 ยูโรมีไกด์ พวกนายเลือกแบบไหนดี?”
“ตั๋วแบบแรกก็นะ” นากามูระเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย
“อือๆ เพราะถึงมีไกด์ไปเราก็ฟังภาษาอิตาลีไม่ออกอยู่ดีนี่” ซูซูกิเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
“แต่ว่าถ้ามีไกด์ฉันว่าก็ดีนะ มีคนนำทางด้วยจะได้ไม่หลงทาง”
“แต่ภาษา…”
“ไม่เป็นไรไกด์ของที่นี่พูดได้หลายภาษารวมถึงภาษาญี่ปุ่น”
“อ้าวเหรอ แล้วทำไมแกไม่บอกแต่แรกเนี่ยเจ้าห่วย”
สึนะแสร้งหัวเราะแหยๆ ก่อนเอ่ยตอบ “ก็พวกนายไม่ถามนี่นา”
"งั้นก็เอาแบบมีไกด์เลย ๆ "
"โอเค งั้นพวกนายรออยู่ตรงนี้ก่อนเดี๋ยวฉันไปจัดการให้" เมื่อสิ้นคำร่างสูงของสึนะจึงเดินเข้าไปยังเคาน์เตอร์จ่ายเงอนเพื่อซื้อตั๋วและติดต่อเรื่องไกด์ในทันที
.
.
.
“นี่ฉันว่าเจ้าซาวาดะต้องปิดบังความลับอะไรบางอย่างอยู่แหง ๆ ” ระหว่างรอคนไปซื้อตั๋วเสียงของยาบุกิคนพี่ก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบภายในกลุ่ม
“หา เจ้านั่นอ่ะนะจะมีความลับปิดบัง” นากามูระเอ่ยถาม
“จริง ฉันเห็นด้วยตอนนั้นก่อนที่จะถึงวันงานเลี้ยงรุ่น มิกิกับฉันน่ะรู้สึกว่าเหมือนเจอซาวาดะที่ห้างเลย แต่ตอนนั้นเจ้านั่นไม่ได้แต่งตัวแบบนี้น่ะ แล้วบรรยากาศก็แตกต่างกันมากด้วย”
“พวกนายดูตอนที่อยู่โรงแรมสิ ซาวาดะบอกว่าทำงานเกี่ยวกับโรงแรมก็จริงแต่หมอนั่นดูไม่เห็นจะคุ้นเคยกับการบริการแขกที่มาพักเลยนะ”
“อีกอย่างพวกพนักงานและก็ผู้จัดการโรงแรมก็ดูเกรงใจเจ้านั่นมาก ๆ เลยด้วย” เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนจึงเริ่มฉุกคิดสะกิดใจกับท่าทีของคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาอย่างซาวาดะ สึนะโยชิหรือเจ้าห่วยสึนะที่ทุกคนเรียก ไหนทั้งทางมั่นอกมั่นใจที่เมื่อก่อนคนแบบหมอนั่นไม่เคยมี และที่เห็นได้ชัดคงจะเป็นบุคลิกที่เปลี่ยนไปมีความกล้าที่จะตัดสินใจ อย่างเมื่อเช้าตอนที่ทุกคนกำลังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงเรื่องสถานที่เที่ยวแต่หมอนั่นกลับแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ไม่เปิดช่องให้พวกเขาได้ทันโต้แย้งเลยสักนิด
พอรู้ตัวอีกทีทุกอย่างก็ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว
Rrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้แต่ละคนหลุดจากความคิดของตนเอง มือเรียวบางหยิบฏทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อพบว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาจึงเกิดอาการหงุดหงิดเล็กน้อย
“จะโทรมาทำไมไม่ทราบ!!” เสียงตอบกลับของเจ้าตัวเจอไปด้วยความไม่พอใจ
“ก็ได้ข่าวว่าเธอไปถึงอิตาลีแล้ว” เสียงทุ้มตอบกลับ
“เดี๋ยวฉันติดต่อไปเองแค่นี้นะ!!” แต่ทว่าไม่ทันอีกฝ่ายจะได้ตอบกลับเจ้าของโทรศัพท์อย่างยาบุกิ ชินอิจิ ได้กดวางสายไปอย่างไร้เยื่อใยในทันทีที่พูดจบ
“หมอนั่นเหรอ? ยาบุกิคนพี่เอ่ยถาม
“อืม”
“พวกนายยัง…” ไม่ทันที่จะเอ่ยจนจบประโยคซูซูกิก็หันมาร่างคุ้นตาของสึนะพอดี
“อ้าว ซาวาดะมาแล้วเหรอ”
“อืม พอดีคนเยอะไปหน่อยเลยช้าน่ะ นี่คุณเอดิ เฟอเดริโกไกด์ของเรา”
“Buon giorno สวัสดีครับผมเอดิ เฟอเดริโกจะมาเป็นไกด์ให้พวกคุณวันนี่คับ เรียกผมว่าเอดิก็ได้ครับ”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
มีตรงไหนแปลก ๆ มั้ยคะ คอมเม้นบอกกันได้เลยนะคะ
My Twitter : https://twitter.com/Titaniannn
ความคิดเห็น