ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The secret of vongola family (Re-Write)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 100%

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 64


    บทที่ 2

    Reunion

    หลังจากฮายาโตะตกลงที่จะพักในห้องของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมจึงพาเจ้าตัวขึ้นมายังห้องนอนเพื่อพักผ่อน 

    แกร๊ก 

    “ทำตัวตามสบายได้เลยนะ” เพราะที่นี่ก็เหมือนห้องของนาย

    “เอ่อ สึนะจะให้ผมนอนที่ไหนเหรอครับ” ร่างโปร่งบางเอ่ยถามขึ้นหลังจากเห็นว่าในห้องมีที่ให้นอนเพียงแค่ที่เดียว คือเตียงหลังใหญ่ สีเบจเพียงหลังเดียว

    “บนเตียงไง” ผมเอ่ยเสียง (ที่พยายามทำให้) เรียบ ๆ โดยไม่หันกลับไปมองหน้าตัวเล็ก ขืนหันไปล่ะก็ฮายาโตะต้องรู้แน่ว่าผมประหม่าอยู่

    “มะ ไม่ดีกว่าครับผมนอนที่โซฟาก็ได้ครับ!”

    “นอนโซฟาไม่จะสบายตัวเอานะฮายาโตะนอนที่เตียงเถอะ เตียงนี่ฉันให้คุณแม่เปลี่ยนใหม่แล้วเราสองคนนอนด้วยกันได้สบายเลยล่ะ”

    “ตะ แต่ว่า มันจะไม่เหมาะสมนะครับ” ไม่เหมาะสมอะไร เหมาะสมมาก ๆ เลยต่างหากล่ะ คนทั้งวองโกเล่รู้ CEDEF รู้ แม้แต่ Varia ยังรู้เลยว่ามันเหมาะสม!!  เฮ้อ  คงมีแต่เจ้าตัวนี่แหละที่ไม่รู้ 

    “ฮายาโตะรังเกียจที่นอนกับฉันเหรอ” ผมกล่าวพลางมองดวงหน้าสวยนั้นด้วยแววตาเศร้า ๆ หึ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล!

    “ไม่มีทางครับ!! ผมจะรังเกียจสึนะได้ยังไงกัน” เจ้าตัวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ลนลาน

    “งั้นนายก็นอนบนเตียงกับฉันสิ” 

    “ครับ ๆ ได้เลยครับ”

    “ดี งั้นนายไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวฉันจัดของเอง” พูดพลางหยิบผ้าเช็ดตัวและของใช้จำเป็นใส่มือ แล้วดันคนเข้าไปข้างในห้องน้ำ

    “อ่ะ ครับ ขอบคุณนะครับสึนะ” หลังจากนั้นเจ้าตัวจึงเข้าไปในห้องน้ำ

    เอาล่ะ มาจัดของกันดีกว่าแต่ก่อนที่จะจัดของ…

    “นี่ฉันเองตรวจสอบคนบางคนให้ฉันที อืม ใช่เดี๋ยวฉันส่งรายละเอียดให้อีกที” หลังจากสั่งการคนเรียบร้อยผมจึงจัดการกับกระเป๋าเดินทางตรงหน้า ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย พร้อมกับที่ฮายาโตะอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย

    “สึนะครับผมเตรียมน้ำร้อนไว้เรียบร้อยแล้วรีบเข้าไปอาบน้ำเถอะครับเดี๋ยวน้ำจะเย็นซะก่อน” อ่า (ว่าที่) แฟนของผมนี่ช่างดีงามอะไรแบบนี้

    “อื้อ ถ้าเหนื่อยนายนอนก่อนได้เลยนะ” 

    “ครับ”

    .

    .

    .

    หลังจากแช่น้ำร้อนเรียบร้อยออกมาอีกทีฮายาโตะก็หลับไปแล้ว สงสัยคงจะเพลียมาทั้งวัน

    “ฝันดีนะฮายาโตะ” เอาล่ะอีกสามวันงานเสี้ยงรุ่นจะจัดขึ้นที่โรงเรียนนามิโมริสินะ คงต้องเริ่มเตรียมการตามแผนซะแล้วสิ

     

    .

    .

    .

    09.00 น.

    หลังจากเมื่อวานพักผ่อนกันแล้ว วันนี้เราแพลนกันว่าจะไปเที่ยวรอบเมืองนามิโมริ เพื่อดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างในช่วงเจ็ดปีเราไม่ได้กลับมาที่นี่ 

    “สึนะ เอาเจ้านี่ไปด้วยมั้ยครับ?” พูดพลางยื่นแว่นอันโปรดให้ผม แว่นตาหรูที่มีฟังชันส์พิเศษเพิ่มเข้าไปด้วย โดยโชอิจิและสปาน่าช่วยกันออกแบบ และผู้พิทักษ์ทุกคนจะมีแว่นนี้ด้วยเหมือน ๆ กัน

    “เอาล่ะ พร้อมแล้วไปกันเถอะ”

    หลังจากนั้นทั้งสองจึงออกเดินทางด้วยกัน โดยเริ่มจากการสำรวจบริเวณรอบ ๆ บ้านจากนั้นจึงนั่งรถโดยสารประจำทางเข้าไปในย่านศูนย์การค้านามิโมริ ร้านรวงมากมายต่างเรียกลูกค้ากันอย่างครึกครื้น ทำให้สึนะหวนนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ที่ตนและพวกพ้องได้เล่นสนุก และเดินเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน

    “สึนะ สึนะครับร้านนั้นยังอยู่ด้วยล่ะ” เจ้าตัวพูดพลางเขย่าแขนผมให้หันไปทางร้านที่อยู้ตรงหน้า อ้อ เป็นร้านขายแผ่นเเพลง หรือพวกหนังต่าง ๆ นี่เอง 

    “เข้าไปดูมั้ย?” 

    “ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากเดินดูให้ทั่ว ๆ ก่อนน่ะครับเดี๋ยวค่อยกลับมาซื้อก็ได้”

    “เอางั้นเหรอ งั้นก็ตามใจนายละกัน” พูดเสร็จก็ยิ้มใส่พาลให้คนมองรู้สึกหน้าร้อน

    “อ่ะ งะ งั้นไปร้านนั้นกันครับ” ร่างบางพูดพร้อมกับเดินนำสึนะไปทางร้านขายเสื้อผ้ายอดนิยม และเปิดประตูเข้าไป

    “ยินดีต้อนรับค่ะ” ทั้งสองใช้เวลาในการเลือก และลองเสื้อผ้าอยู่นานจนได้เสื้อผ้าตามแบบที่ต้องการ

    “สึนะครับจะซื้อสามตัวนี้ไปด้วยเหรอครับ”ฮายาโตะถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะแบบเสื้อผ้าที่เจ้าตัวถืออยู่ไม่ได้ใกล้เคียงกับสไตล์ที่ผมใส่อยู่เลยสักนิด

    “อืม ใช่พอดีว่ามันจำเป็นน่ะ” ผมตอบพลางยิ้มใส่ตาฮายาโตะไปหนึ่งที 

    “เอ่อแต่ว่ามันค่อนข้างจะ….” เห่ยไปน่ะสิ

    “เอาน่าฉันมีเหตุผลนะฮายาโตะ เดี๋ยวกลับไปฉันจะเล่าให้ฟังนะ” ฮายาโตะมุ่ยหน้าอย่างไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบรับเสียงเบาในลำคอ นี่ผมคงไม่ได้โดนงอนอยู่ใช่มั้ย?

    “น่าๆฮายาโตะเราไปจ่ายเงินกันเถอะ” ว่าแล้วผมเลยจูงมือนุ่มนิ่มของฮายาโตะไปที่เคาเตอร์เพื่อชำระเงิน เมื่อชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกจากร้านพร้อมถุงเสื้อผ้าจากร้านเมื่อกี้ คราวแรกฮายาโตะจะถือถุงพวกนี้เองแต่เรื่องอะไรผมจะยอมล่ะเดี๋ยวมือสวยๆจะเป็นรอยซะหมด 

    “ฮายาโตะแวะร้านนี้กัน” ร้านที่ผมลาก อะแฮ่ม ชวนฮายาโตะเข้ามาเป็นร้านราเมงขนาดปานกลาง ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ว่าสวยงามดูดีกว่าที่คิด เราสองคนใช้เวลาอยู่ที่ร้านรางเมงนั้นไม่นานเท่าไหร่นัก เพราะดูเหมือนว่าฮายาโตะจะอยากเดินดูร้านขายของในศูนย์การค้าอีกหลายร้านเลยทีเดียว 

    “สึนะๆ ผมขอแวะร้านนั้นหน่อยนะครับ” พูดจบเจ้าตัวก็วิ่งเข้าไปในร้าน เมื่อหันไปมองป้ายชื่อร้านก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมเจ้าตัวเล็กถึงรีบร้อนขนาดนั้น เพราะเป็นร้านเครื่องประดับแบรนด์โปรดนี่นะ

    “มีกำไลข้อมือ PANTHERE DE CARTIER มั้ยครับ” ร่างบางถามด้วยน้ำเสียงตืื่นเต้นที่ปิดไม่มิด ก่อนหน้านี้เหมือนว่าจะเคยบ่น ๆ ให้ได้ยินว่าตอนที่รุ่นนี้ออกมาใหม่ๆเจ้าตัวติดภารกิจเลยทำให้สั่งจองไม่ทัน ทำให้พลาดกำไลนี้ไปอย่างนี้เสียดาย และที่สำคัญเจ้ากำไลนี่ยังทำให้ผมโดนงอนไปสามวันเพราะดันส่งเจ้าตัวไปทำภารกิจน่ะสิ กว่าจะง้อได้ก็นะ

    “มีค่ะเหลือสองวงสุดท้ายพอดีเลยค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายจะรับทั้งสองวงเลยหรือไม่คะ” 

    “รับทั้งสองวงเลยครับ” ผมเอ่ยตอบในขณะที่คนตัวเล็กยังคิดไม่ตก พร้อมกันนั้นก็ยื่นบัตรสีดำใบสวยให้พนักงานขายที่ทำตาโตเมื่อเห็นบัตร

    “สึึนะครับเดี๋ยวผมจ่ายเอง ๆ ” 

    “ถือว่าชดเชยให้ฮายาโตะไงที่ครั้งนั้นฉันทำให้นายพลาดไป” อีกอย่างก็…เหมือนได้ใส่ไอเท็มคู่เลยนี่นา :)

    “แต่ว่าแค่วงเดียวก็ได้นี่ครับ” เจ้าตัวเอ่ยเสียงอ่อย ๆ ยังเกรงใจไม่เลิกเลยสิน่า

    “ฮายาโตะใส่วงนึง ฉันใส่วงนึงไง” ผมพูดพลางรับบัตรกลับคืนพร้อมทั้งกำไลข้อมือสองวงที่บรรจุอยู่ภายในกล่องหรู

    “งะ งั้นขอบคุณนะครับสึนะ” ร่างเล็กขอบคุณผมพร้อมกับแก้มใสทั้งสองข้างที่ขึ้นสีชมพูจาง ๆ พร้อมรอยยิ้มน่ารักที่มุมปาก อา น่ารักซื้อหุ้นแบรนด์นี้ดีมั้ยนะ

    “สึนะมีที่ ๆ อยากไปอีกมั้ยครับ”

    “อืมม ไม่มีแล้วล่ะกลับกันเถอะ” เพราะนี่ก็เริ่มเย็นแล้ว

    “งั้นผมโทรเรียกให้ลีโอมารับนะครับ” หือ โทรหาลีโอ?

    “โทรให้ลีโอมารับ? นายมือเบอร์เจ้า..เอ่อ ลีโอด้วยเหรอ” ผมถามด้วยความสงสัย

    “อ่าครับ พอดีเมื่อวานหลังจากที่ลีโอกลับไป หมอนั่นก็ส่งข้อความกลับมาน่ะครับว่าถ้าสึนะอยากไปไหนให้สั่งการได้เลยครับ” หึ กล้ามาก 

    “ฉันอยากนั่งแท็กซี่กลับน่ะ ไม่ได้นั่งมานานแล้วเหมือนกันนะ” 

    “แต่ว่าความปลอดภัยของสึนะ..”

    “ไม่เป็นไรหรอกฉันมีฮายาโตะอยู่ทั้งคนนี่นะ”

    “อ่ะ งะ งั้นผมจะไปเรียกแท็กซี่ข้างหน้านะครับ” หึ เขินจนเดินหน้าแดงไปแล้วหนึ่ง เฮ้อ อยากฟัด

    .

    .

    .

    “นี่มิกิมองอะไรอยู่น่ะ” 

    “หือ อ้อเหมือนเมื้อกี้ฉันจะเห็นเจ้าห่วยสึนะ กับโกคุเดระมั้งเดินออกมาจากร้านนั้นน่ะ” หญิงสาวพูดพลางเชิดหน้าไปทางร้านเครื่องประดับที่ร่างสูงและร่างบางเดินออกมาเมื่อสักครู่

    “ไม่หรอกน่าา เธอมองผิดไปรึเปล่าอย่างเจ้าห่วยสึนะเนี่ยนะจะเข้าร้านแบบนั้น” 

    “อืมนั่นน่ะสิฉันว่าเธอตาฝาดไปรึเปล่า” 

    “แต่ว่า..” 

    “เอาน่า เดี๋ยววันเลี้ยงรุ่นมาถึงเราก็รู้กันเองแหละว่าใช่มั้ย ตอนนั้นค่อยถามก็ได้นี่” ไม่ทันที่หญิงสาวชื่อมิกิจะได้พูดต่อจนจบเพื่อทั้งสองของเธอก็ตัดบทและชวนเธอไปยังร้านเสื้อผ้าชื่อดังแทนทำให้เธอลืมเรื่องเมื่อครู่ไปจนสิ้น

    .

    .

    .

    “สึนะจะแต่งตัวแบบนี้ไปจริงๆเหรอครับ”

    “หืม ก็ใช่น่ะสิ”

    “แต่ว่ามัน…”

    “ก็เหมือนที่ฉันบอกฮายาโตะไง”

    “เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจสึนะเลยครับ” ผมได้แต่ยิ้ม เพราะการแต่งตัวในวันนี้เรียกได้ว่า เห่ยสุดๆ ด้วยการใส่เสื้อตัวหลวม และกางเกงขายาวตัวหลวมๆอีกเช่นกัน พร้อมกันเสื้อแขนยาวสีดำอีกหนึ่ง และที่ขัดใจฮายาโตะที่สุดคงเป็นแว่นตาทรงเหลี่ยมเชยๆอีกหนึ่ง ถ้าไม่บอกว่าแว่นนี่มีฟังชันส์พิเศษที่โชอิจิกับสปาน่าทำให้เจ้าตัวคงไม่ยอมให้ผมใส่แน่

    “เอาล่ะถึงแล้ว เข้าไปกันเถอะยามาโมโตะคงรออยู่ข้างในแล้วล่ะมั้ง”

    “อ่า ครับ”  

         เมื่อเราสองคนเดินเข้าไปในงานสายตาของอดีตเพื่อร่วมชั้นเรียนหลายคนก็มองมาที่เราสองคน บางคนก็ทำหน้าตาสงสัยแต่เมื่อเห็นการแต่งกายที่สุดเห่ยของผมก็หันหน้ากลับไปพร้อมกับส่งเสียงซุบซิบ เอาล่ะมาดูกันซิว่าคนที่ส่งบัตรเชิญไปให้ผมจะเป็นใครในนี้หรือเปล่านะ

     

     

    Talk 

    เป็นยังไงบ้างคะตอนที่ 2  การจัดหน้างงมั้ยคะ อ่านได้สะดวกมั้ยหรือมีตรงไหนที่จะให้เราปรับแก้ คอมเม้นต์ติกันเข้ามาได้เลยนะคะ ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ ขอบคุณค่ะ :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×