คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 แผนการ (เพิ่มเติม)
บทที่ 1
แผนการ
สภาพที่ถูกมัดมือไว้ด้านบนหัวเตียงทำให้เขาขยับหรือดิ้นรนลงจากเตียงนอนไม่ได้ ใครมามัดเขาไว้อย่างนี้กัน และต้องแปลกใจขึ้นไปอีกเมื่อจู่ๆ ร่างบอบบางเพรียวระหงของผู้หญิงสวมชุดดำเดินเข้ามาหาเขาที่เตียง
สายตาของเขาปะทะเข้ากับสายตาที่เชิญชวน และเต็มไปด้วยประกายที่เต้นระริกอยู่ข้างใน เสื้อกล้ามสีดำตัวในที่รัดรูปแต่สั้นแค่ใต้ราวนมทำให้มองเห็นส่วนคอดกิ่วของเอวบางที่นวลเนียนน่าสัมผัส รวมทั้งหลุมเล็กๆที่ส่วนกลางของลำตัวก็ดูมีเสน่ห์น่าลุ่มหลง เขาไล่สายตาต่ำลงไปเรื่อยๆ ก็พบกับกางเกงหนังรัดรูปสีดำ ที่เน้นทรวดทรงให้เห็นกระทั่งสะโพกผายกลมมน และเรียวขาสวยยาว และบู๊ตหนังสีดำเป็นมัน
กวาดสายตาย้อนกลับขึ้นไปก็เห็นเป็นเสื้อที่ใส่คลุมเสื้อยืดดำเอาไว้นั้นเป็นเจ็กเก็ตหนังเข้ารูปสั้นสีดำเช่นกัน ใบหน้าหวานหยาดเยิ้มนั้นส่งยิ้มหวานเชิญชวนมาให้อย่างท้าทาย เขามองอย่างตกตะลึง สัมผัสได้กับความต้องการที่ร้อนแรงในดวงตาคู่นั้น เธอสาวเท้าเข้ามายังเตียงที่เขาถูกมัดอยู่ และนั่งลงบนที่นอนข้างๆตัวของเขา แล้วกวาดตามองเขาทั้งตัวเหมือนจะประเมินสินค้าอะไรสักอย่าง เขารู้สึกขนลุกซู่ขึ้นทั้งตัว พร้อมกับอาการเกร็งจนแทบหายใจไม่ออก
เธอยื่นมือเรียวยาวมาแตะที่ริมฝีปากของเขาแผ่วเบาและลูบไล้ไปมาอย่างยั่วเย้า ให้ตายสิ นี่ถ้าเขาไม่โดนถูกจับมัดไว้และมือเขามีอิสระละก็ เขาจะกระชากร่างนั้นเข้ามากอดและบดจูบที่ปากบางนั่นให้หนำใจไปเลย ไม่ได้ให้เธอมาทำท่าท้าทายผู้ชายอย่างเขาได้ขนาดนี้หรอกนะ เสียยี่ห้อหนุ่มเพลย์บอยหน้าหยกหมด
บ้าเอ๊ย.... ร่างกายของเขามันตอบสนองสัมผัสอันแผ่วเบาและน้อยนิดนั่นจนตึงไปหมด ขนลุกเป็นตุ่มตอไปทั้งตัว หัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะกระโดดออกมาข้างนอก ให้ตายเถอะแค่เธอสัมผัสเขาแค่นี้ก็สามารถเร้าอารมณ์ให้ลุกโชนจนปวดส่วนใจกลางลำตัวซึ่งบัดนี้มันยังขยายใหญ่ไม่ยอมเลิก ได้แต่ดิ้นรนฮึดฮัดเพื่อให้มือหลุดจากเชือกที่มัดไว้ ไอ้การที่ให้เขาต้องนอนให้ผู้หญิงเล้าโลมอยู่อย่างนี้ มันเหมือนเขาจะลงแดงตายให้ได้ แต่ไอ้เชือกเส้นนี้รู้สึกว่าคนผูกจะมีเจตนาไม่ให้ใครก็ตามสามารถแก้มันออกมาได้ จึงได้แต่ถอนใจ และเลิกดิ้นเพราะไม่มีทีท่าว่ามันจะหลุด
“อย่าพยายามดิ้นรนเสียให้เหนื่อยเลย คุณเต....ยังไงคุณก็ไม่มีทางที่จะหลุดรอดจากเงื้อมมือฉันไปได้หรอกนะ...หุหุหุ”
เตวิชญ์หรือคุณใหญ่ที่คนในบ้านเรียก ไม่ได้เอ่ยปากตอบโต้สักนิด เขาจ้องมองหญิงสาวไม่วางตาปากเม้มแน่นเพราะต้องสะกดกลั้นอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นริ้วๆ จนสะท้านไปทั้งร่าง เธอจะมาไม้ไหนกันแน่ อย่าให้เขาหลุดไปได้นะตะวันฉาย
สภาพของเขาไม่ได้ทำให้ผู้หญิงคนนี้รู้สึกสงสารแต่อย่างใด แต่กลับพบแค่แววตาที่สะใจในสภาพกึ่งเปลือยที่ไม่มีเสื้อผ้า จะมีก็แต่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่ปกปิดส่วนนั้นไว้ ซึ่งจากการดิ้นรนไปมาเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะหลุดออกมาเมื่อไร แล้วไอ้เจ้านั่นของเขามันก็ไม่ได้นอนสงบนิ่งอย่างที่ควรเพราะโดนลวนลามทั้งจากสายตาและสัมผัสที่ปั่นป่วนจิตใจนั่น เขาทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่นอนดิ้นฮึดฮัดอยู่ต่อหน้าผู้หญิง ถ้ารู้ไปถึงไหนก็คงอายไปถึงนั่นทีเดียว
ตะวันฉายมองกวาดทั่วตัวเขาอีกครั้งพร้อมทั้งมือน้อยๆนั้นกรีดไล้อย่างแผ่วเบาตั้งแต่หน้าอกที่มีขนอ่อนนุ่มลงไปจนเรียวและสอบลงไปในร่มผ้า
เตวิชญ์กัดฟันต่อสู้กับความต้องการที่ผุดขึ้นมาเป็นระลอกอีกครั้ง เข้าใจสภาพของผู้ชายที่ถูกข่มขืน ณ ตอนนี้เลยว่าเป็นอย่างไร...... ใครก็ได้ช่วยทีเถอะ .....เขายังไม่อยากถูกข่มขืน
“ชอบนักไม่ใช่เหรอ คุณเต.....หุหุ” เสียงถามเยาะๆมาจากริมฝีปากสวยนั่น มันทำให้เขาอยากกระโดดเข้าไปปล้ำนักเชียว ยายมาเฟียแม่มดนี่จะทรมานเขาไปถึงไหนกัน
“เสียใจด้วยนะคะคุณเตขา..... ที่คุณจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเจ้าน้องชายของคุณอีกต่อไป”
พูดจบตะวันฉายก็กระชากผ้าเช็ดตัวที่ติดร่างกายเขาอยู่เพียงชิ้นเดียวนั้นออก ทำให้เจ้าตัวที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าเมื่อกี้ผงาดขึ้นมาทันที
ตะวันฉายคว้ามีดเป็นเงาวับขึ้นมา เธอถือมันมาตั้งแต่เมื่อไรเขาไม่ทันได้เห็น แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังเงื้อมีดอันนั้นขึ้นสูงแล้วฟันฉับลงมา
“ตะวันฉาย! อย่า! อ๊ากกก!”
เตวิชญ์ผุดลุกขึ้นนั่งเหงื่อโทรมทั่วตัว เนื้อตัวสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด รีบเอื้อมมือไปตรวจสอบสภาพของน้องชาย ก็ปรากฏว่ายังอยู่ที่เดิม ยังไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน เขาถอนใจอย่างโล่งอก รู้สึกดีใจอย่างที่สุดที่มันยังอยู่กับเขา
ยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ แล้วมองไปรอบๆตัวอีกที มันก็ห้องนอนที่เขาเคยนอนมาตั้งแต่เล็กนั่นแหละ มองดูมือของตัวเองและหัวเตียง ไม่ได้มีร่องรอยของการถูกมัด หรือมีเชือกหลงเหลือให้เห็น
เขาถอนใจอย่างโล่งอก
“เฮ้ออ คงฝันไป”
“ยายตะวันฉาย เธอตามราวีฉันแม้กระทั่งในความฝันเชียวเร๊อะ?”
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
“ไงเฮีย วันนี้นายพรานไม่ออกล่าเหยื่อเหรอฮะ”
เสียงน้องชายคนเดียวดังขึ้นเขาจึงเงยหน้าขึ้นจากถ้วยกาแฟ
“เอ๊ะ! สงสัยจัง ทำไมหน้าตาเฮียถึงได้ซีดเซียวอย่างนี้นะ อ๋ออ....หรือว่า..เมื่อคืนนอนดึก...ไม่ซิ...น่าจะไม่ได้นอนมากกว่า ถึงได้อิดโรยสะบักสบอมขนาดนี้”
เสียงของเทวินทร์น้องชายสุดแสบยังกระเซ้าอยู่ไม่เลิก คงคิดว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนเพราะกิจกรรมอันโปรดปรานของเขาละมัง หารู้ไม่ว่าที่ไม่ได้นอนนั่นเพราะนอนไม่หลับหลังจากที่สะดุ้งตื่นจากฝันที่น่าสยดสยองนั้นต่างหาก ตะวันฉาย....เขาไม่อยากจะได้ยินแม้กระทั่งชื่อของเธอ ผู้หญิงอะไรไม่มีเสน่ห์ แถมยังร้ายกาจอีกต่างหาก ราวีเขาแม้กระทั่งตัวเป็นๆยังไม่พอ นี่ยังตามไปทำร้ายเขากระทั่งในความฝันอีก เมื่อไรจะเลิกมาวุ่นวายกับชีวิตเขาเสียทีนะ
เขาผุดลุกขึ้นยืนทั้งๆที่ อาหารเช้ายังไม่ตกถึงท้องสักนิด
“ไปดีกว่า....เบื่อขี้หน้าแก ไอ้วินทร์”
“อ้าว...เฮีย..ไหงมาพาลกับน้องชายสุดที่รักได้ละเนี่ย อารมณ์ค้างจากเมื่อคืนรึไง ถึงได้อารมณ์เสียแต่เช้า”
เตวิชญ์ยกมือขึ้นขยี้ทรงผมที่เซ็ตอย่างดีของน้องชาย ทำให้เขารีบปัดมือพี่ชายออกโดยไว แล้วจับแตะโน่นแต่งนี่ใหม่ พร้อมกับเสียงโวยวายขึ้น มันทำให้อารมณ์เขาค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย ที่สามารถแกล้งคนอื่นเล็กๆน้อยๆ ได้ ถึงแม้จะเป็นน้องชายของเขาก็ตาม
“ป่าป๊า หม่าม๊า ดูเฮียสิ แกล้งน้องอยู่ได้” หันมาฟ้องผู้เป็นพ่อและแม่ที่นั่งบนโต๊ะอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“เล่นกันเป็นเด็กๆ ไปได้” เสียงหม่าม๊าดังขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอา แต่ก็แฝงไว้ด้วยแววตาแห่งความรักที่ล้นเปี่ยม
“ป๊าฮะ....คิดว่าแผนของป๊าจะสำเร็จเหรอ” ลับหลังพี่ชายที่เดินออกไปแล้ว หลังจากนั้นสักครู่ก็ได้ยินเสียงรถดังขึ้น
“มันก็ต้องดูกันไปก่อน สำเร็จก็ดี ไม่สำเร็จก็ไม่เห็นเป็นไรนี่”
“ไม่รู้คิดกันได้อย่างไร นี่ถ้าเฮียรู้นะ รับรองว่าบ้านแตก เฮียเขาชอบอิสระจะตาย ยิ่งตอนนี้นะยิ่งเนื้อหอม เพราะได้รับการโหวตให้เป็นเพลย์บอยสุดฮอตอับดับหนึ่ง แล้วดูยายตะวันฉายนั่นซิ...หึหึ โหดยิ่งกว่าอะไร หาความนุ่มนวลอ่อนหวานไม่พบ โอ๊ย....ผมไม่อยากจะคิดว่ามันจะเป็นไปได้สักกี่เปอร์เซ็นต์กัน ระหว่างมาเฟียสาวกับหนุ่มเพลย์บอย ป๊ากับม๊าฝันมากไปรึเปล่า”
เทวินทร์ที่เพิ่งรู้เรื่องครอบครัวของเขากับครอบครัวตะวันฉายอยากจะดองกัน เพราะป๊าเขาเป็นเพื่อนซี้กับป๊าของตะวันฉาย ครอบครัวนั้นมีลูกสาวอยู่เพียงคนเดียว แต่ครอบครัวเขามีลูกชายสองคน นี่ดีนะว่าเขาเป็นน้อง ไม่อย่างนั้นละก็... คงถูกหมายหัวให้ไปเป็นเขยเจ้าพ่อตะวันตกเสียแล้ว ...เฮียเตก็เลยซวยไป....โชคดีแล้วกันนะ..พี่ชาย
“ไม่ต้องพูดมากอาเล็ก แล้วอย่าปากโป้งล่ะ ไม่อย่างนั้นละก็ อั๊วจะเปลี่ยนเป็นลื้อเสียเลย”
“เฮ้ยยย....ไม่ได้นะป๊า..ผมเป็นน้องนะ ให้เฮียน่ะถูกต้องแล้ว รับรองว่าจะปิดปากให้สนิทไปเลย แล้วมีอะไรให้ช่วยละก็...บอกได้...ชายเล็กพร้อมช่วยเต็มที่อยู่แล้ว เพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง ฮ่าฮ่า”
“งั้นวันนี้เข้าบริษัทไปช่วยอาเจ็กหน่อย งานอีเยอะ” เทวินทร์สะดุ้ง เขาพร้อมที่จะช่วยเรื่องเฮียเตต่างหาก แต่เรื่องงาน...แหะแหะ...ยังไม่พร้อมเหมือนเฮีย
“โอ๊ยตาย! ผมเกือบลืมครับป๊า ม๊า ขอตัวก่อน พอดีมีนัดที่สนามแข่ง จะไปดูรถกัน ไปก่อนนะครับ” แล้วก็ลุกขึ้นไปหอมแก้มม๊าเสียหนึ่งฟอด
“ดูซิ ดูความกะล่อนของมัน มีลูกชายกับเขาอยู่ตั้งสองคน ไม่เอาเรื่องเอาราวเลยสักคน สู้หนูตะวันฉายไม่ได้ เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่ไม่ได้ทำให้พ่อแม่ต้องผิดหวังเลย” เสียงป๊าบ่นพึมพำตามหลังมา
“งั้นเราก็ต้องรีบหาวิธีให้หนูตะวันกับตาใหญ่ของเราได้ลงเอยกันไวไว เพราะหนูตะวันต้องสามารถจัดการให้ตาใหญ่หันกลับมาทำหน้าที่ในตำแหน่งที่ต้องทำเสียที แต่ถ้ายังไงเราลองให้เวลาตามที่สองพี่น้องเขาขอว่าขอพักผ่อนสักหนึ่งปีดูก่อนก็ได้นี่เฮีย”
“เรื่องพักน่ะ ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ เพราะคิดว่าอย่างไรเสียตาใหญ่กับตาเล็กก็ต้องรักษาคำพูดอยู่แล้ว....แต่ที่สำคัญ..เรื่องของหนูตะวันกับตาใหญ่นิซิน่าเป็นห่วง ตาเล็กพูดถูกว่ายังมองไม่เห็นทางที่จะเป็นไปได้เลย”
“ใจเย็นๆสิเฮีย พลาดจากตาใหญ่ก็ยังมีตาเล็กนี่นา จริงไม๊”
ทั้งสองสามีภรรยามองตากันแล้วก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“เอออ...จริงด้วย ให้มันรู้ไปว่ารุ่งโรจน์ธนกิจรุ่งเรืองจะเอาหนูตะวันมาเป็นสะใภ้ไม่ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ถ้าเทวินทร์ได้ยินก็คงจะสะดุ้งกับความคิดของทั้งสองเพราะคิดว่าตัวเองยังไง๊ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไรท์เตอร์ขออนุญาตแก้ไขบางแห่งที่ลงไปแล้วสักเล็กน้อยนะคะ แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องจ๊า
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจค๊า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น