ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OTAKUZONE ANTHOLOGY

    ลำดับตอนที่ #6 : [tay]剣 katana

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 55


     ณ ศาลเจ้า

    “ต่ายไม่เคยคิดจะไปไหนบ้างเลยรึไง  วันๆอยู่แต่ในศาลเจ้าไม่เบื่อบ้างหรอ”เสียงเจือยแจ้วของเด็กสาวตาสีฟ้าสดใส  พูดขึ้นมาพลางมองหน้าพูดถูกกล่าวถึงอย่างเบื่อหน่าย

    “ศาลเจ้าก็เหมือนบ้านของฉันแหละ  คนจะอยู่บ้านมันผิดนักรึไง   เฟย์”ก่อนที่เจ้าของเสียงจะไม่สนใจและนั่งกินขนมในชามต่อ

    “คนปกติมันก็ต้องออกไปเที่ยวอะไรบ้างสิ  ไม่ใช่นั่งหมกตัวอยู่แต่ในบ้านอย่างเธอนะ”

    “ก็ชั้นขี้เกียจนี่นา จะออกไปเที่ยวอะไรนักหนา  เมืองมันก็มีอยู่แบบนี้เดิมๆแหละน่า”

    “งั้นไปเที่ยวเป็นเพื่อนฉัน หน่อยสิ นะๆ”ก่อนจะทำสายตาออดอ้อนไปให้เด็กสาวข้างๆ

    “จะมายุ่งอะไรกับฉันนักหนา  ก็ไปชวนคนอื่นไปสิ”

    “แต่ตั้งแต่ฉันเป็นเพื่อนมาเนี่ย  ถ้าไม่ใช่มีคนพาออกไปหรือไปโรงเรียน ต่ายก็แทบจะไม่ไปไหนเลยไม่ใช่หรอ”

    “มันก็จริง...”

    “งั้นไปเที่ยวเทศกาลดอกไม้ไฟแถวๆกับฉันหน่อยสิ ตอนนี้น่าจะเริ่มแล้วล่ะ”

    “แล้วทำไมฉันต้องไปกับ..”ไม่ทันขาดคำ ก็มีเสียงแทรกจากคนข้างๆขึ้นมาก่อน             

    “ถ้าต่ายไม่ไป  ฉันจะไปประกาศทั้งเมืองเลยว่าต่ายเป็นแฟนฉัน”

    “เฮ้ย  จะบ้าหรอฉันเป็นหญิงนะ”เด็กสาวพูดอย่างตกใจสุดชีวิตเพราะไม่คิดว่าเพื่อนสาวของเธอที่ปกติถึงจะขี้เล่นแต่รอบนี้เหมือนจะเล่นแรงกันไปหน่อย(?)

    “งั้นก็ไปเถอะ  Let ‘go!” ก่อนจะจับข้อมือเพื่อนของเธอแล้ว”ลาก”ออกจากศาลเจ้ามุ่งหน้าสู่เทศกาลดอกไม้ไฟ

    ……………………………………………………………….

    ณ งานเทศกาลดอกไม้ไฟ

    “ต่าย ซื้อทาโกยากิให้หน่อยสิ”

    “ไม่เอาล่ะ  ขี้เกียจเดิน  เปลืองตังด้วย  ไปซื้อเองเถอะ”

    “แย่จังนะ มีแฟนขี้เหนียวแบบนี้” ลุงร้านทาโกยากิพูดพลางยื่นกล่องทาโกยากิที่พึ่งทำเสร็จใหม่ๆมาให้เด็กสาวตาสีฟ้า

    “เฮ้ย!!! ลุง!!! ฉันเป็นผู้หญิงนะเฮ้ย!! อย่ามามั่วนะ!!!” คนที่ถูกพาดพิงว่าเป็นแฟนตะโกนขึ้นชี้หน้าด่าลุงแก่ๆ

    แต่เอาเข้าจริงๆ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเธอเป็นผู้ชายกันทั้งนั้นแหละ ทั้งทรงผมสั้นที่ดูยังไงๆก็ทรงผู้ชายชัดๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ใส่ยูกาตะลายสวยเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วๆไป แต่ใส่ยูกาตะสีพื้นกับฮากามะ(ของผู้ชาย)แทน

    “ต่าย ต่าย ดูนั่นสิ” เด็กสาวตาสีฟ้าชี้ไปที่ท้องฟ้าซึ่งตอนนี้มีดอกไม้ไฟจุดอยู่ “สวยจังเลยนะ”

    “อืม.....” แต่คนที่ถูกเรียกกลับตอบอะไรไม่ค่อยได้เพราะในปากมีแต่ทาโกยากิ

    “สวยจังเลยนะ...... ไว้ปีหน้า เรามากันใหม่นะ” เด็กสาวตาสีฟ้าหันไปพูดกับเด็กสาวอีกคน “ตอนนี้ เราไปเล่นเกมกันอีกดีกว่า~~~~~~~~~~

    “เดี๋ยวสิ!!!! ทาโกยากิยังไม่หมดเลยนะ.........”

    ………………………………………………………………

    “วันนี้สนุกดีเหมือนกันนะเนี่ยเดี๋ยวเราแยกกันตรงนี้เลยล่ะกันนะ”

    “เอาเหอะ  รีบๆกลับบ้านไปได้แล้วเดี๋ยวก็ได้โดนพ่อแม่ว่าหรอก”เธอพูดพลางโบกมือหันหลังให้เพื่อนของเธอก่อนจะข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเดินกลับบ้านแต่เหมือนเพื่อนของเธอจะสังเกตเห็นอะไรบ้างอย่างที่ไม่ควรเห็นทำให้โดนกระชากแขนไว้

    “ต่าย  ระวัง!”ทันทีที่สิ้นเสียงเธอก็หันไปมองเห็นเพื่อนของเธอถูกกลุ่มคนประมาณ3-4คนจับแขนไว้และหนึ่งในนั้นก็กำลังหยิบไม้เบสบอลมาฟาดหัวเธอแต่เพราะคำเตือนจึงสามารถหลบได้อย่างหวุดหวิด  พลางหยิบท่อนเหล็กบริเวณนั้นขึ้นมาทำท่าตั้งป้องกันไว้

    “...จะทำอะไรน่ะ...”เป็นสิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้  แต่คำตอบก็น่าจะเพราะสิ่งที่เพื่อนเธอเห็นนั้นแหละ  แต่สิ่งที่เพื่อนเธอเห็นคืออะไรเนี่ยสิที่ไม่รู้

    “เรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องบอกด้วยล่ะ”คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มพูดขึ้นมา  แต่มันก็จริงเป็นฉันก็คงไม่อยากตอบนักหรอก  ถามไปงั้นแหละ...

    “ฉันแค่อยากให้เธอตามเรามา  จะยอมตามมาโดยดีไหม?”เสียงจากหนึ่งในกลุ่มคนพูดขึ้นมา  ถึงจะไม่รู้เรื่องอะไรก็เถอะแต่ฉันคงไม่ตามไปให้โง่หรอก

    “เรื่องนี้เราว่าเราไม่ตอบ  เจ้าก็น่าจะรู้ดีนะ”ก่อนจะเริ่มใช้น้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้นพร้อมทั้งเริ่มจับแท่นเหล็ก2มือและตั้งท่าโจมตี

    “ไม่ยอมสินะ...งั้นก็ต้องใช้กำลังปิดปากสินะ   ทุกคนจัดการเลย”สิ้นเสียงของชายคนนั้น กลุ่มคนอีก2-3คนก็วิ่งเข้ามาแล้วเริ่มใช้อาวุธที่ติดตัวมารุมซ้อมเธอทันที แต่เพราะเธอเคยฝึกศิลปะป้องกันตัวมาบ้างเลยพอจะหลบได้แต่เพราะอีกฝ่ายคนเยอะกว่าเลยมีแผลตามตัวเยอะพอควรก่อนจะเริ่มกลายเป็นโดนรุมกระทืบจนสภาพปางตาย  ทำให้เพื่อนของเธอที่โดนจับแขนอยู่ทนไม่ไหว

    “เจ้าพวกบ้า  ง่ำ!”ก่อนจะกัดแขนของคนที่จับเธออย่างแรงจนเลือดไหล แล้วหยิบมีดที่ถือบนมือของคนที่เธอกัด  แล้ววิ่งไปช่วยเพื่อนของเธอในวงล้อมทันที

    “แค่โดนคนจับแขนทำไมถึงจัดการช้าจริง แคกๆ”ถึงจะพูดแบบสบายๆแต่สภาพคนพูดตอนนี้กระดูกน่าจะหักไปหลายท่อนจนแค่จะยืนนิ่งๆยังทำได้ยาก

    “กว่าจะรวบรวมความกล้าวิ่งมาช่วยมันยากนะยะ”แล้วก็เริ่มลงมือแทงจนล้มไปทีละคนสองคนจนคนที่ยืนฝาดท่อนเหล็กอยู่ถึงกับอึ้งที่ปกติเพื่อนสาวของเธอที่ไม่ค่อยเก่งกีฬาแต่กลับใช้มีดได้เก่งขนาดนี้

    “เก่งใช่ย่อยเลยนะ”แต่ในขนาดที่ชมเพื่อนอยู่ก็มีอีกคนที่เหลืออยู่ใช้ไม้เบสบอลฟาดจนถึงกับลงไปนอนกับพื้น

    “ไปตายซะเถอะ!   ปัง!”เสียงลั่นไกจากปืนของชายที่ดูหวาดกลัว  ที่กะจะยิงใส่คนที่นอนแต่กลับไปโดนกลางหลังของเด็กอีกคนแทน

    “เฮ้ย!  แกจะบ้าหรอยิงทำไม”เสียงจากหนึ่งในกลุ่มคนพูดอย่างตื่นตระหนก

    “ก็ฉันกลัวมันจะฆ่าเราก่อนนี้หว่า รีบแบกคนที่เหลือหนีเถอะ”

    “แล้วอีกคนที่นอนอยู่จะเอายังไงว่ะ”

    “อาการขนาดนี้เดี๋ยวก็ตายแหละไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก  เรารีบหนีดีกว่า”เสียงรถเริ่มดังขึ้นแล้วขับหนีออกไปจากซอยในถนนแห่งนึงแล้วไปที่ไหนสักแห่ง

                 แต่ว่าจริงๆคนที่นอนอยู่ยังไม่ตายจึงได้ยินเสียงของกลุ่มคนเหล่านั้นทุกอย่างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้  ตอนนี้จึงได้แต่นอนจมกองเลือดของตัวเองและเลือดของเพื่อนสาวข้างๆที่โดนยิงกลางหลังไป  ก่อนจะเริ่มพยายามฝืนลืมตาถึงจะเบลอเพราะมีเลือดไหลผ่านจากแผลที่หัวแต่ก็พอมองเห็นเพื่อนของเธอที่นอนนิ่งสนิท พอเห็นดังนั้นจึงได้แต่โทษตัวเอง

    ทำไมเราถึงอ่อนแออย่างนี้

    แค่เพื่อนคนเดียวยังปกป้องไว้ไม่ได้....  เพราะเราอ่อนแอสินะ

    ก็สมควรแล้วล่ะที่ต้องเป็นแบบนี้

    ต้องเสียเพื่อนไป ต้องตายไปทั้งๆอย่างนี้

    .

    .

    .

    เจ้ายังไม่ตายซะหน่อย

    ใคร!? เจ้าคนพวกนั้นอีกหรอ

    เราคือพระเจ้าของเจ้า  จงบอกความปรารถนาของเจ้ามา เด็กน้อย

    เรา....

    .

    .

     

    อยากแข็งแกร่งขึ้น  อยากจะฆ่าพวกมัน!

                     ก่อนจะสลบไปเพราะเสียเลือดมากตอนนี้เธอมีสภาพเหมือนกับศพที่พึ่งตาย ในซอยเล็กๆที่เริ่มมืดลงเพราะตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้วในขณะที่พวกกลุ่มคนที่พึ่งทำร้ายพวกเธอกำลังจะโดนอะไรบางอย่างโดยไม่รู้ตัว....

    ……………………………………………………………….

    .

    .

    .

    “ฟื้นแล้วหรอจ้ะ นอนไปตั้ง2วันเต็มๆเลยนะ  อย่าพึ่งขยับตัวดีกว่า กระดูกหักไปหลายท่อนเลยล่ะ”เสียงจากนางพยาบาลคนนึงที่อยู่ข้างๆเด็กสาวพูดขึ้นมา  พร้อมกับพยายามห้ามการกระทำของคนตรงหน้าที่กำลังจะลุกยืน

    “...เพื่อนหนูเป็นยังไงบ้างค่ะ”ถึงจะงงที่ยังรอดมาได้แต่ก็ยังห่วงเพื่อนของเธอที่สุดอยู่ดี

    “อ้อ  รายนั้นเสียชีวิตตอนส่งโรงพยาบาลจ้ะ”คำตอบของนางพยาบาลทำให้ถึงกับน้ำตาคลอเลยทีเดียว

    “แล้วก็ตรงที่เธอนอนอยู่มีของแปลกๆด้วยนะฉันวางไว้ที่ข้างๆเตียงเธอแล้วล่ะ”เด็กสาวมองไปที่โต๊ะข้างเตียงแต่กลับเห็นดาบคาตาคะนะเล่มนึงใส่ปลอกวางไว้

    นี้มันมาจากไหนเนี่ย!?!

    เธอมองไปข้างๆเห็นรีโมตทีวีจึงเปิดทีวีแก้เหงาดูแต่กลับเป็นช่องข่าวที่น่าตกใจ

    “เกิดเหตุรถกระบะคว่ำที่xxx  ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าเห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับรถความเร็วสูงเหมือนหนีอะไรบ้างอย่างจนเบรกตอนเลี้ยวโค้งไม่ทันมีผู้เสียชีวิต4คนคาดว่าเป็นเพราะสายเบรกขาด”เมื่อเด็กสาวเห็นข่าวในทีวีก็ทำให้นึกอะไรขึ้นมาได้

    แสดงว่าตอนนั้นก็ไม่ใช่หูแว่วสินะ

    “จริงสิ ก่อนตายเด็กคนนั้นฝากบอกอะไรบ้างอย่างเธอด้วย”

    “ฝากบอกอะไรหรอค่ะ?”

    “ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมานะ  ฝากใช้ชีวิตในส่วนของฉันด้วยนะ”

    “.....”ตอนนี้นางพยาบาลได้แต่มองคนไข้บนเตียงที่ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงอย่างอึ้งๆ

    “งั้นฉันไปก่อนนะ  มีอะไรก็กดกริ๊งที่ปลายเตียงเอานะ”

    “ค่ะ”แล้วนางพยาบาลก็ปิดประตูลง  ก่อนจะเอื้อมมือไปกดรีโมตปิดทีวีแล้วเอนตัวลงกับเตียง  หลับตาแล้วพูดอะไรบ้างอย่างเบาๆ

    “ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ  เฟย์”

     

     

    ............................................................................................................................................................................

    ทำไมมันดราม่า+ยูริจัง= =?//ขนาดปรับแก้+แต่งเองเพิ่มแล้วนะเนี่ย
    *อยากได้ธีมเลือดสาดอะ -*-

    Creme Brulee
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×