คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [tay]剣 katana
“ต่ายไม่เคยคิดจะไปไหนบ้างเลยรึไง วันๆอยู่แต่ในศาลเจ้าไม่เบื่อบ้างหรอ”เสียงเจือยแจ้วของเด็กสาวตาสีฟ้าสดใส พูดขึ้นมาพลางมองหน้าพูดถูกกล่าวถึงอย่างเบื่อหน่าย
“ศาลเจ้าก็เหมือนบ้านของฉันแหละ คนจะอยู่บ้านมันผิดนักรึไง เฟย์”ก่อนที่เจ้าของเสียงจะไม่สนใจและนั่งกินขนมในชามต่อ
“คนปกติมันก็ต้องออกไปเที่ยวอะไรบ้างสิ ไม่ใช่นั่งหมกตัวอยู่แต่ในบ้านอย่างเธอนะ”
“ก็ชั้นขี้เกียจนี่นา จะออกไปเที่ยวอะไรนักหนา เมืองมันก็มีอยู่แบบนี้เดิมๆแหละน่า”
“งั้นไปเที่ยวเป็นเพื่อนฉัน หน่อยสิ นะๆ”ก่อนจะทำสายตาออดอ้อนไปให้เด็กสาวข้างๆ
“จะมายุ่งอะไรกับฉันนักหนา ก็ไปชวนคนอื่นไปสิ”
“แต่ตั้งแต่ฉันเป็นเพื่อนมาเนี่ย ถ้าไม่ใช่มีคนพาออกไปหรือไปโรงเรียน ต่ายก็แทบจะไม่ไปไหนเลยไม่ใช่หรอ”
“มันก็จริง...”
“งั้นไปเที่ยวเทศกาลดอกไม้ไฟแถวๆกับฉันหน่อยสิ ตอนนี้น่าจะเริ่มแล้วล่ะ”
“แล้วทำไมฉันต้องไปกับ..”ไม่ทันขาดคำ ก็มีเสียงแทรกจากคนข้างๆขึ้นมาก่อน
“ถ้าต่ายไม่ไป ฉันจะไปประกาศทั้งเมืองเลยว่าต่ายเป็นแฟนฉัน”
“เฮ้ย จะบ้าหรอฉันเป็นหญิงนะ”เด็กสาวพูดอย่างตกใจสุดชีวิตเพราะไม่คิดว่าเพื่อนสาวของเธอที่ปกติถึงจะขี้เล่นแต่รอบนี้เหมือนจะเล่นแรงกันไปหน่อย(?)
“งั้นก็ไปเถอะ Let ‘go!” ก่อนจะจับข้อมือเพื่อนของเธอแล้ว”ลาก”ออกจากศาลเจ้ามุ่งหน้าสู่เทศกาลดอกไม้ไฟ
.
ณ งานเทศกาลดอกไม้ไฟ
“ต่าย ซื้อทาโกยากิให้หน่อยสิ”
“ไม่เอาล่ะ ขี้เกียจเดิน เปลืองตังด้วย ไปซื้อเองเถอะ”
“แย่จังนะ มีแฟนขี้เหนียวแบบนี้” ลุงร้านทาโกยากิพูดพลางยื่นกล่องทาโกยากิที่พึ่งทำเสร็จใหม่ๆมาให้เด็กสาวตาสีฟ้า
“เฮ้ย!!! ลุง!!! ฉันเป็นผู้หญิงนะเฮ้ย!! อย่ามามั่วนะ!!!” คนที่ถูกพาดพิงว่าเป็นแฟนตะโกนขึ้นชี้หน้าด่าลุงแก่ๆ
แต่เอาเข้าจริงๆ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเธอเป็นผู้ชายกันทั้งนั้นแหละ ทั้งทรงผมสั้นที่ดูยังไงๆก็ทรงผู้ชายชัดๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ใส่ยูกาตะลายสวยเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วๆไป แต่ใส่ยูกาตะสีพื้นกับฮากามะ(ของผู้ชาย)แทน
“ต่าย ต่าย ดูนั่นสิ” เด็กสาวตาสีฟ้าชี้ไปที่ท้องฟ้าซึ่งตอนนี้มีดอกไม้ไฟจุดอยู่ “สวยจังเลยนะ”
“อืม.....” แต่คนที่ถูกเรียกกลับตอบอะไรไม่ค่อยได้เพราะในปากมีแต่ทาโกยากิ
“สวยจังเลยนะ...... ไว้ปีหน้า เรามากันใหม่นะ” เด็กสาวตาสีฟ้าหันไปพูดกับเด็กสาวอีกคน “ตอนนี้ เราไปเล่นเกมกันอีกดีกว่า~~~~~~~~~~”
“เดี๋ยวสิ!!!! ทาโกยากิยังไม่หมดเลยนะ.........”
“วันนี้สนุกดีเหมือนกันนะเนี่ย~ เดี๋ยวเราแยกกันตรงนี้เลยล่ะกันนะ”
“เอาเหอะ รีบๆกลับบ้านไปได้แล้วเดี๋ยวก็ได้โดนพ่อแม่ว่าหรอก”เธอพูดพลางโบกมือหันหลังให้เพื่อนของเธอก่อนจะข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเดินกลับบ้านแต่เหมือนเพื่อนของเธอจะสังเกตเห็นอะไรบ้างอย่างที่ไม่ควรเห็นทำให้โดนกระชากแขนไว้
“ต่าย ระวัง!”ทันทีที่สิ้นเสียงเธอก็หันไปมองเห็นเพื่อนของเธอถูกกลุ่มคนประมาณ3-4คนจับแขนไว้และหนึ่งในนั้นก็กำลังหยิบไม้เบสบอลมาฟาดหัวเธอแต่เพราะคำเตือนจึงสามารถหลบได้อย่างหวุดหวิด พลางหยิบท่อนเหล็กบริเวณนั้นขึ้นมาทำท่าตั้งป้องกันไว้
“...จะทำอะไรน่ะ...”เป็นสิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้ แต่คำตอบก็น่าจะเพราะสิ่งที่เพื่อนเธอเห็นนั้นแหละ แต่สิ่งที่เพื่อนเธอเห็นคืออะไรเนี่ยสิที่ไม่รู้
“เรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องบอกด้วยล่ะ”คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มพูดขึ้นมา แต่มันก็จริงเป็นฉันก็คงไม่อยากตอบนักหรอก ถามไปงั้นแหละ...
“ฉันแค่อยากให้เธอตามเรามา จะยอมตามมาโดยดีไหม?”เสียงจากหนึ่งในกลุ่มคนพูดขึ้นมา ถึงจะไม่รู้เรื่องอะไรก็เถอะแต่ฉันคงไม่ตามไปให้โง่หรอก
“เรื่องนี้เราว่าเราไม่ตอบ เจ้าก็น่าจะรู้ดีนะ”ก่อนจะเริ่มใช้น้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้นพร้อมทั้งเริ่มจับแท่นเหล็ก2มือและตั้งท่าโจมตี
“ไม่ยอมสินะ...งั้นก็ต้องใช้กำลังปิดปากสินะ ทุกคนจัดการเลย”สิ้นเสียงของชายคนนั้น กลุ่มคนอีก2-3คนก็วิ่งเข้ามาแล้วเริ่มใช้อาวุธที่ติดตัวมารุมซ้อมเธอทันที แต่เพราะเธอเคยฝึกศิลปะป้องกันตัวมาบ้างเลยพอจะหลบได้แต่เพราะอีกฝ่ายคนเยอะกว่าเลยมีแผลตามตัวเยอะพอควรก่อนจะเริ่มกลายเป็นโดนรุมกระทืบจนสภาพปางตาย ทำให้เพื่อนของเธอที่โดนจับแขนอยู่ทนไม่ไหว
“เจ้าพวกบ้า ง่ำ!”ก่อนจะกัดแขนของคนที่จับเธออย่างแรงจนเลือดไหล แล้วหยิบมีดที่ถือบนมือของคนที่เธอกัด แล้ววิ่งไปช่วยเพื่อนของเธอในวงล้อมทันที
“แค่โดนคนจับแขนทำไมถึงจัดการช้าจริง แคกๆ”ถึงจะพูดแบบสบายๆแต่สภาพคนพูดตอนนี้กระดูกน่าจะหักไปหลายท่อนจนแค่จะยืนนิ่งๆยังทำได้ยาก
“กว่าจะรวบรวมความกล้าวิ่งมาช่วยมันยากนะยะ”แล้วก็เริ่มลงมือแทงจนล้มไปทีละคนสองคนจนคนที่ยืนฝาดท่อนเหล็กอยู่ถึงกับอึ้งที่ปกติเพื่อนสาวของเธอที่ไม่ค่อยเก่งกีฬาแต่กลับใช้มีดได้เก่งขนาดนี้
“เก่งใช่ย่อยเลยนะ”แต่ในขนาดที่ชมเพื่อนอยู่ก็มีอีกคนที่เหลืออยู่ใช้ไม้เบสบอลฟาดจนถึงกับลงไปนอนกับพื้น
“ไปตายซะเถอะ! ปัง!”เสียงลั่นไกจากปืนของชายที่ดูหวาดกลัว ที่กะจะยิงใส่คนที่นอนแต่กลับไปโดนกลางหลังของเด็กอีกคนแทน
“เฮ้ย! แกจะบ้าหรอยิงทำไม”เสียงจากหนึ่งในกลุ่มคนพูดอย่างตื่นตระหนก
“ก็ฉันกลัวมันจะฆ่าเราก่อนนี้หว่า รีบแบกคนที่เหลือหนีเถอะ”
“แล้วอีกคนที่นอนอยู่จะเอายังไงว่ะ”
“อาการขนาดนี้เดี๋ยวก็ตายแหละไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก เรารีบหนีดีกว่า”เสียงรถเริ่มดังขึ้นแล้วขับหนีออกไปจากซอยในถนนแห่งนึงแล้วไปที่ไหนสักแห่ง
แต่ว่าจริงๆคนที่นอนอยู่ยังไม่ตายจึงได้ยินเสียงของกลุ่มคนเหล่านั้นทุกอย่างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้จึงได้แต่นอนจมกองเลือดของตัวเองและเลือดของเพื่อนสาวข้างๆที่โดนยิงกลางหลังไป ก่อนจะเริ่มพยายามฝืนลืมตาถึงจะเบลอเพราะมีเลือดไหลผ่านจากแผลที่หัวแต่ก็พอมองเห็นเพื่อนของเธอที่นอนนิ่งสนิท พอเห็นดังนั้นจึงได้แต่โทษตัวเอง
ทำไมเราถึงอ่อนแออย่างนี้
แค่เพื่อนคนเดียวยังปกป้องไว้ไม่ได้.... เพราะเราอ่อนแอสินะ
ก็สมควรแล้วล่ะที่ต้องเป็นแบบนี้
ต้องเสียเพื่อนไป ต้องตายไปทั้งๆอย่างนี้
.
.
.
เจ้ายังไม่ตายซะหน่อย
ใคร!? เจ้าคนพวกนั้นอีกหรอ
เราคือพระเจ้าของเจ้า จงบอกความปรารถนาของเจ้ามา เด็กน้อย
เรา....
.
.
อยากแข็งแกร่งขึ้น อยากจะฆ่าพวกมัน!
ก่อนจะสลบไปเพราะเสียเลือดมากตอนนี้เธอมีสภาพเหมือนกับศพที่พึ่งตาย ในซอยเล็กๆที่เริ่มมืดลงเพราะตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้วในขณะที่พวกกลุ่มคนที่พึ่งทำร้ายพวกเธอกำลังจะโดนอะไรบางอย่างโดยไม่รู้ตัว....
.
.
.
.
“ฟื้นแล้วหรอจ้ะ นอนไปตั้ง2วันเต็มๆเลยนะ อย่าพึ่งขยับตัวดีกว่า กระดูกหักไปหลายท่อนเลยล่ะ”เสียงจากนางพยาบาลคนนึงที่อยู่ข้างๆเด็กสาวพูดขึ้นมา พร้อมกับพยายามห้ามการกระทำของคนตรงหน้าที่กำลังจะลุกยืน
“...เพื่อนหนูเป็นยังไงบ้างค่ะ”ถึงจะงงที่ยังรอดมาได้แต่ก็ยังห่วงเพื่อนของเธอที่สุดอยู่ดี
“อ้อ รายนั้นเสียชีวิตตอนส่งโรงพยาบาลจ้ะ”คำตอบของนางพยาบาลทำให้ถึงกับน้ำตาคลอเลยทีเดียว
“แล้วก็ตรงที่เธอนอนอยู่มีของแปลกๆด้วยนะฉันวางไว้ที่ข้างๆเตียงเธอแล้วล่ะ”เด็กสาวมองไปที่โต๊ะข้างเตียงแต่กลับเห็นดาบคาตาคะนะเล่มนึงใส่ปลอกวางไว้
นี้มันมาจากไหนเนี่ย!?!
เธอมองไปข้างๆเห็นรีโมตทีวีจึงเปิดทีวีแก้เหงาดูแต่กลับเป็นช่องข่าวที่น่าตกใจ
“เกิดเหตุรถกระบะคว่ำที่xxx ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าเห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับรถความเร็วสูงเหมือนหนีอะไรบ้างอย่างจนเบรกตอนเลี้ยวโค้งไม่ทันมีผู้เสียชีวิต4คนคาดว่าเป็นเพราะสายเบรกขาด”เมื่อเด็กสาวเห็นข่าวในทีวีก็ทำให้นึกอะไรขึ้นมาได้
แสดงว่าตอนนั้นก็ไม่ใช่หูแว่วสินะ
“จริงสิ ก่อนตายเด็กคนนั้นฝากบอกอะไรบ้างอย่างเธอด้วย”
“ฝากบอกอะไรหรอค่ะ?”
“ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมานะ ฝากใช้ชีวิตในส่วนของฉันด้วยนะ”
“.....”ตอนนี้นางพยาบาลได้แต่มองคนไข้บนเตียงที่ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงอย่างอึ้งๆ
“งั้นฉันไปก่อนนะ มีอะไรก็กดกริ๊งที่ปลายเตียงเอานะ”
“ค่ะ”แล้วนางพยาบาลก็ปิดประตูลง ก่อนจะเอื้อมมือไปกดรีโมตปิดทีวีแล้วเอนตัวลงกับเตียง หลับตาแล้วพูดอะไรบ้างอย่างเบาๆ
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ เฟย์”
............................................................................................................................................................................
ทำไมมันดราม่า+ยูริจัง= =?//ขนาดปรับแก้+แต่งเองเพิ่มแล้วนะเนี่ย
*อยากได้ธีมเลือดสาดอะ -*-
ความคิดเห็น