คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : PHASE I (Midgard) : บทที่ 2 เติบโตเเละพลังที่ตื่นขึ้น (52%)
PHASE I (Midgard) : บทที่ 2 เติบโตและพลังที่ตื่นขึ้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นี่ก็ผ่านมาถึงหนึ่งปีแล้วครับที่ผมเกิดมาบนโลกแห่งนี้ ครอบครัวของผมตอนนี้ก็มีความสุขดีครับติดแค่ตรงไม่ค่อยจะมีเงินเท่าไหร่ เอาเป็นว่าจนนั่นล่ะ
ตลอดเวลาที่ผมเจริญเติบโตมาผมแทบไม่ได้ออกนอกบ้านเลยครับ วันๆไม่นั่งๆนอนๆก็คุยเล่นอะไรเรื่อยเปื่อยกับสัตว์ต่างๆที่หลงเข้ามาภายในบริเวณบ้าน เอ้า! งงล่ะสิครับ ผมเองก็งงว่าผมคุยกับสัตว์รู้เรื่องได้อย่างไร ต้องท้าวความไปถึงตอนที่ผมเพิ่งเกิดใหม่ๆนู่นล่ะครับที่ผมเผลอตัวคุยกับนกเจ็ดสี ตั้งแต่นั้นมาผมก็มักจะคุยเล่นกับสัตว์ชนิดต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าผมมีสัตว์เป็นเพื่อนเลยล่ะ
ไม่ว่าจะเป็นคุณหนูสีขาว คุณแมลงเปลือกไม้(คล้ายๆแมลงสาป) คุณสัตว์ตระกูลจิ้งจกตุ๊กแกก็เคยคุยแต่คนที่นี่เค้าไม่ได้เรียกอย่างที่เราเรียกกันหรอกครับ ไอ้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเค้าเรียกตัวอะไร แค่มันคล้ายตุ๊กแกที่ผมรู้จักแค่นั้นแต่ลักษณะภายนอกค่อนข้างต่าง เอาเป็นว่ามีอีกเยอะตอนนี้กลับเข้าเรื่องดีกว่าครับ
“แอนดรูว์ วันนี้จะไปโบสถ์กับแม่หรือเปล่าจ๊ะ” ผมไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นเชิงตกลงแทน ตอนนี้ผมแค่หนึ่งขวบเองนะ ถ้าให้ผมพูดได้คุณแม่ดิลด์ของผมคงจะช็อคตายพอดี
“เก่งมากจ้า ตัวแค่นี้ก็ฟังพ่อกับแม่รู้เรื่องแล้ว เมื่อไหร่ลูกจะพูดได้น้า พ่อกราฟคงต้องดีใจมากแน่ๆ” แม่ดิลด์พูดด้วยรอยยิ้มยามนึกถึงคุณพ่อตัวแสบแต่สุดที่จะขยันและสู้ชีวิต มือทั้งสองก็จับของต่างๆที่จะเอาไปฝากบาทหลวงกับเด็กกำพร้ายัดลงตะกร้า
เอาความจริงป่ะครับคุณแม่ ผมอ่ะพูดได้ตั้งนานแล้วแค่ไม่ยอมพูดเฉยๆกลัวคุณแม่ตกใจ ก็แค่คิดล่ะนะครับความจริงก็เพียงส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้แค่นั้นเอง
“พ่อเพิ่งได้สมุนไพรจากป่าสีชาดมา เห็นทางโบสถ์ต้องการพอดีลูกช่วยไปหยิบมาให้แม่หน่อยได้ไหมจ๊ะ” แม่ผมพูดพร้อมส่งรอยยิ้มปริศนามาให้ ไอ้ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรจึงเดินไปหยิบมาให้แต่โดยดี ผมค่อนข้างจะภูมิใจกับคุณแม่ที่ใจบุญแบบนี้นะครับทั้งๆที่ตัวเองก็ต้องปากกัดตีนถีบไม่ต่างกับพวกเขาเหล่านั้น แต่ยังมีใจช่วยเหลือน่าปลื้มจริงๆ
‘อืม...อยู่ไหนนะจำได้ว่าพ่อเอามาเก็บไว้แถวนี้’ ผมเดินมาหาแถวบริเวณห้องครัว ไม่ใช่สิบริเวณที่ทำอาหารมากกว่า เพราะบ้านผมเป็นกระท่อมหลังเล็กๆมีห้องนอนแยกต่างหาก ห้องครัวกับห้องนั่งเล่นอยู่รวมกัน
‘อ๊ะ! เจอละ’ เมื่อเจอเป้าหมายผมจึงไปลากเก้าอี้ที่วางอยู่แถวนั้นมา เพราะบริเวณที่เก็บสมุนไพรอยู่สูงเลยหัวผมไปอีก
ครืดดดด...เสียงลากเก้าอี้ครับไม่ต้องตกใจ เมื่อวางเก้าอี้ได้แล้วผมจึงปีนขึ้นเก้าอี้อย่างทุลักทุเล ผมปาดเหงื่อที่หน้าผากเล็กน้อย ด้วยขนาดตัวที่เล็กเท่ากับเด็กหนึ่งขวบจึงทำให้การขึ้นเก้าอี้ค่อนข้างลำบาก เอื้อมอีกนิดหน่อยก็ถึงตำแหน่งสมุนไพรแล้วครับ
“ได้ซะที” ผมพึมพำเบาๆ พลางมองสมุนไพรในมือที่มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดแต่เป็นสีแดงสด
แปะๆๆ
เสียงปรบมือที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้ผมต้องหันไปดู ก็เห็นเป็นแม่ดิลด์ผู้บังเกิดเกล้าปรบมือส่งมาให้พร้อมรอยยิ้มที่ทำเอาผมรู้สึกเสียวสันหลังนิดๆ
“เก่งมากลูกแอนดรูว์ แม่ไม่คิดว่าลูกจะจำเห็ดเพลิงผลาญที่พ่อเอามาได้” แม่ดิลด์พูดพร้อมกับส่งยิ้มปริศนามาให้ ดวงหน้าหวานยิ้มเสียจนตาแทบปิด
‘หระ...หรือว่าแม่ดิลด์จะจับได้ว่าเราไม่ใช่คนของโลกนี้’ ผมได้แต่คิดอย่างตระหนก มีความเป็นไปได้สูงมากเพราะต่อให้อัจฉริยะขนาดไหนเด็กแค่หนึ่งขวบไม่น่าจะจำรายละเอียดอะไรได้ขนาดนี้ อีกทั้งยังรู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีอีกด้วย(เรื่องที่เอาเก้าอี้มาแก้ต่างเรื่องความสูง)
แต่คำพูดที่หลุดจากปากมารดาที่เคารพทำเอาผมต้องรีบเบรกความคิดทันที...
“แม่ว่าแอนดรูว์ต้องเป็นอัจฉริยะแน่เลย เดี๋ยวแม่รอเล่าให้พ่อกราฟฟังดีกว่า” แม่ผมตบมือเบาๆเป็นเชิงคิดออกก่อนจะก้มลงมาอุ้มผมที่มีเห็ดเพลิงผลาญอยู่ในมือ
“ป่ะ ส่วนเราก็ไปโบสถ์กัน เดี๋ยวหลวงพ่อคาลกับพี่ที่โบสถ์จะรอ” แม่ดิลด์เดินอุ้มผมไปหยิบตะกร้าที่จัดไว้ก่อนจะพากันเดินออกจากบ้านตรงไปยังโบสถ์
โบสถ์เมเจียนายน์ ประจำเมือง อาร์ค (Arch)
“หลวงพ่อคาลอยู่หรือเปล่าค่ะ” ร่างอรชรของหญิงสาวในชุดชาวบ้านที่ปะชุนไปทั่วแต่ด้วยรูปร่างน่าตาสวยหยาดเยิ้มราวกับคนชนชั้นสูง ทำให้ภาพที่เห็นดูขัดกันอย่างประหลาด มือข้างขวาอุ้มเด็กชายวัยขวบปีซึ่งมีผมสีดำเช่นเดียวกับผู้เป็นแม่ หน้าตาจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู ส่วนมือซ้ายถือตะกร้ามีผ้าคลุมทับอีกทีกำลังก้าวเข้ามาเหยียบในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
“อยู่ๆลูก มาหาพ่อมีอะไรหรือเปล่า” เสียงค่อนช้างชราดังออกมาจากแท่นที่ใช้สวดบูชาต่อศาสดา ร่างอรชรจึงเดินผ่านที่นั่งที่จัดไว้เป็นแถวสองแถวไปยังจุดต้นเสียงนั้น แสงภายในโบสถ์ค่อนข้างสลัวเพราะมีเพียงแสงส่องผ่านกระจกสีที่ตกแต่งเป็นรูปเทพองค์หนึ่งเท่านั้น
“อ้าว ดิลด์เองเหรอลูกมาๆ ไม่ได้มาตั้งอาทิตย์กว่าแล้วเป็นอย่างไรบ้าง” ชายที่เดินพ้นเงามือมาใส่ชุดคลุมสีขาว คอปกสีทอง ตรงกลางอกเสื้อคลุมปักเป็นรูปปีกนางฟ้าสี่ปีกโดยปีกล่างจะเล็กกว่าปีกบนกึ่งหนึ่ง ตรงกลางปีกทั้งสองเป็นรูปคฑามีอัญมณีหกเหลี่ยมตรงปลาย
“ก็ดีค่ะ แล้งหลวงพ่อเป็นอย่างไรบ้าง เห็นหลวงพ่อต้องการเห็ดเพลิงผลาญพอดีว่ากราฟได้มาจากป่าสีชาดพอดี เห็นว่ายังไม่จำเป็นจึงเอามาให้เผื่อหลวงพ่อต้องการด่วน”
“อืม... ขอบใจเจ้ามากลูกดิลด์ พอดีมีเด็กโดนพิษของต้นหิมะสีชาดจากป่านั่น แล้วเห็ดเพลิงผลาญเป็นส่วนประกอบในยาแก้พิษด้วย พวกพ่อเลยตามหากันให้วุ่นเลย ได้เจ้าเอามาเช่นนี้ขอบคุณมาก เทพีเมเจียนายน์คุ้มครอง” บาทหลวงชรารับเห็ดสีแดงสดมาจากมือบางของดิลด์ก่อนจะกล่าวขอบคุณพร้อมอวยพร
“เทพีเมเจียนายน์คุ้มครองเช่นกันค่ะ” พูดจบก็ถอนสายบัวอย่างสง่างาม ท่วงท่าชำนิชำนาญอย่างกับพวกชนชั้นสูงจริงๆ
“เอาล่ะ ดิลด์ตอนนี้ลูกพอจะว่างไหม พ่อมีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อย” บาทหลวงชราถามขึ้นหลังจากดิลด์ถอนสายบัวเสร็จ
“ว่างค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ดิลด์ถามด้วยความสงสัยเพราะอยู่ๆเสียงของบาทหลวงที่ตนนับถือก็จริงจังขึ้นมา
บาทหลวงไม่ตอบแต่หันไปหาเด็กเล็กในอ้อมกอดของดิลด์แทน เมื่อเด็กน้อยในอ้อมแขนของมารดารู้ว่ามีคนมองจึงเงยหน้าสบตาคนที่จ้องมอง ดวงตาสีดำรัตติกาลเรืองแสงสีน้ำเงินไพริณแว๊บหนึ่ง ก่อนจะกลับกลายเป็นสีเดิม บาทหลวงชราที่ผ่านโลกมานานชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะปัดเรื่องที่ติดใจทิ้งไป แล้วเอ่ยถามแม่ของเด็กเล็กคนนั้น
“นี่คงเป็นแอนดรูว์สินะ ลูกของลูกกับลูกกราฟ ฉลาดเฉลียวไม่เลว” ดิลด์พยักหน้าเบาๆ
“ที่หลังโบสถ์มีเพื่อนๆเต็มเลย หนูแอนดรูว์สนใจไปเล่นกับพี่ๆไหมครับ” เสียงแหบแห้งแต่ทว่าอ่อนโยนพูดถามเด็กน้อยทั้งๆที่รู้ว่าเด็กในวัยนี้พูดตอบไม่ได้ ดิลด์ที่สังเกตุอยู่จึงคิดได้ว่าเรื่องนี้เด็กอาจไม่ควรรับรู้จึงหันไปพูดกับแอนดรูว์แทน
“ลูกไปเล่นกับพี่ๆก่อนนะ แม่ขอคุยธุระกับหลวงพ่อคาลแป็บนึง” เด็กน้อยพยักหน้าก่อนก่อนจะตะกุยลงจากแขนมารดา วิ่งดุ๊กดิ๊กหายไปทางหลังโบสถ์
“เป็นเด็กที่ฉลาดไม่เลว อายุแค่นี้ก็ฟังรู้เรื่องแล้ว...” ชายชราทอดมองไปยังเบื้องหลังเล็กๆที่วิ่งผ่านเพราะคิดติดใจในสีตาที่ตนเห็น
‘ไม่ใช่หรอกมั้ง...’ บาทหลวงชราคิดในใจ
“ ดิลด์เดี๋ยวลูกไปรอพ่อที่ห้องรับประทานอาหาร กินข้าวกับพ่อสักมื้อนะ” ดวงหน้าหวานพยักหน้าก่อนจะเดินนวยนาดไปยังห้องอาหารที่เป็นจุดหมาย ส่วนชายชราก็ปลีกตัวไปเอาเอกสารบางอย่างที่ห้องทำงานของตน
52%
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาต่อให้เเล้วครับ อิอิ ขอให้สนุกช่วงนี้จะเรื่อยๆก่อนนะครับ
ความคิดเห็น