ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (( + Seo Momei Little Dollfie.s Box + ))

    ลำดับตอนที่ #6 : :: Audition * Magician Lover ::

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 52


    ภายในห้องนอนหญิงของนักศึกษาเวทย์กลุ่มหนึ่ง เด็กสาวในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าลินินขลิบลูกไม้สีอ่อน 3-4 คนกำลังส่งเสียงดังอยู่บนเตียงกันอย่างสนุกสนาน กับการใช้พลังเวทย์ที่ศึกษามาเพื่อทำให้หมอนลอยไปปะทะกันอย่างแรงและพุ่งใส่ฝั่งตรงข้าม หรือที่มนุษย์ทั่วๆไปเรียกกันว่า ปาหมอน..

    "นี่!! เงียบๆกันหน่อยได้มั้ย ชั้นจะอ่านหนังสือ พรุ่งนี้มีเทสนะ" เด็กสาวในชุดนอนขลิบลูกไม้สีครีมที่นั่งก้มหน้าก้มตาเพ่งตัวอักษรละตินในตำราเล่มหนา
    เงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้วโวยใส่รูมเมทสาวร่วมห้องคนอื่นๆอย่างอดไม่ไหว "แกจะอ่านไปถึงไหนโมเม ขนาดสมองพวกชั้นยังไม่ได้ครึ่งนึงของแก พวกชั้นยังไม่ซิเรียสเลยนะ" เด็กสาวในชุดนอนสีตองอ่อนหันมาพูดก่อนจะร้องวี๊ดเมื่อหมอนอีกใบถูกเสกให้พุ่งมาใส่หน้า


    "ชั้นต้องรักษาทุกเสี้ยวคะแนนของชั้น!! ชั้นไม่ได้มีเงินแบบพวกแกนี่ จะยังไงก็อยู่ได้ แต่ถ้าเกรดชั้นตกไปแล้วชั้นโดนไทร์ออกจะทำยังไง!!" โมเมพูดกระแทกเสียงแม้ว่าจะไม่มีใครสนใจนัก เมื่อเห็นดังนั้น เด็กสาวจึงปิดหนังสือเล่มหนามหึมาลง แล้วก้าวฉับๆออกไปจากห้องทันที

    "เอาแล้วไง โรควิตกจริตก่อนสอบยัยโมเมกลับมาอีกแล้ว" เด็กสาวในชุดสีชมพูพูดแล้วส่ายหัวเบาๆ "จียอน ไม่ไปดูมันหน่อยเหรอ?" เด็กสาวในชุดสีตองอ่อนหันไปถามเด็กสาวผมยาวที่นั่งกอดหมอนอยู่ "ไม่อะ ช่างมันเหอะ ปล่อยๆมันบ้าไปซักวันแล้วกัน" เด็กสาวตอบแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเสกหมอนปาใส่หน้าเพื่อนแล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเล่นกันต่อไป โดยไม่สนใจเพื่อนอีกคนที่เดินออกไปแล้วนั่นเลย


    โมเมที่เดินออกมาจ้ำฝีเท้าเร็วๆอย่างไม่รู้ตัวเพราะความโมโห ผ่านห้องมากมายที่เรียงรายอยู่ระหว่างทางเดิน ก่อนจะมาถึงห้องโถงใหญ่ และห้องสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุด เด็กสาวก้าวฉับๆเข้าไปทันที

    ห้องหนังสือที่เงียบสงบในยามวิกาล ตู้หนังสือขัดเป็นมันวับและแกะสลักด้วยลวดลายแบบโรมันเรียงกันอยู่รอบห้องนับ 10 ตู้ บรรจุไปด้วยหนังสือเล่มหนาที่รูปเล่มถูกจัดทำขึ้นอย่างประณีตอัดกันอยู่อย่างแน่นขนั
    ด กลางห้องเป็นโต๊ะยาวและมีเก้าอี้หนังบุผ้ากำมะหยี่ตั้งไว้รอบๆ โมเมเข้าไปเลือกหยิบหนังสือเกี่ยวกับ การใช้เวทย์โดยพลังจิต ที่จะเทสในวันรุ่งขึ้นออกมาเล่ม 2 เล่ม แล้วนั่งลงบนเก้ากี้ตัวหนึ่งที่ตั้งไว้รอบๆโต๊ะยาว

    ฝ่ามือเรียวเปิดหนังสือออกอ่านอย่างสบายใจ สำหรับใครคนอื่นๆ การอ่านหนังสือสอบอาจจะไม่น่าอภิรมย์นัก แต่สำหรับ โซ โมเมคนนี้ มันคือความสุขอย่างที่สุดเลยทีเดียว ที่ได้บริโภคความรู้เป็นอาหารเสริมเช่นนี้ แล้วสายตาของเด็กสาวก็ไปหยุดอยู่ที่ การหัดใช้พลังเวทย์เพื่อทำให้สิ่งของมีชีวิต เด็กสาวไล่สายตาอ่านอย่างตั้งใจ

    "ให้รวบรวมสมาธิทั้งหมด แล้วนึกถึงการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ความลื่นไหลของสิ่งมีชีวิต ผสานเข้ากับสิ่งของนั้นๆ..." เด็กสาวพึมพำข้อความในหน้าหนังสือกับตัวเองแล้วพยักหน้าเบาๆอย่างขบคิด ก่อนจะยืดตัวขึ้นตรงแล้วกวาดสายตาหาสิ่งของที่จะนำมาใช้ในการทดลองเวทย์ แล้วก็พบกับรูปปั้นระเบื้องเคลือบของนักเต้นระบำฟลามิงโก เด็กสาวยิ้มอย่างนึกสนุก ก่อนจะเริ่มเพ่งมองไปแล้วทำตามที่หนังสือบอก

    โมเมพยายามอยู่ร่วม 5 นาที แต่ก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น จนเด็กสาวยอมแพ้อย่างหมดอารมณ์ในที่สุด โมเมเมินสายตาไปทางอื่นแล้วกะพริบตาถี่ๆก่อนจะปิดหนังสือดังฉับแล้วหันไปมองที่รูปปั้นนั้นอีกครั้งอย่างไม่สบอารณ์ แต่แล้วเพียงปราดเดียวที่เด็กสาวตวัดสายตาไป รูปปั้นนั้นก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆทันที

    เพล้ง!!

    "เฮ้ย!!" เด็กสาวอุทานอย่างตกใจแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งไปดูเศษกระเบื้องที่แตกกระจายตกอยู่เต็มพื้นไม้ปาร์เก้ขัดมันนั่น "ตายแล้ว อ๊ายๆๆๆ รูปปั้นกระเบื้องนี่ ราคาเท่าไหร่เนี่ย ตาย โมเม ตายแน่ๆ นี่เธอทำอะไรลงไปเนี่ย อ๊าย ใครก็ได้ช่วยด้วย" เด็กสาวพูดแล้วนั่งทับสั้นหน้าเสียอย่างหมดแรงอยู่ตรงนั้น

    "นั่นใครน่ะ" เสียงของเด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้ามาทำเอาโมเมที่นั่งหันหลังให้ประตูอยู่หันขวับกลั
    บไปมองอย่างประหม่า "อ้าว นึกว่าใคร.. โซ โมเมคนเก่งนี่เอง มาทำอะไรที่นี่ล่ะ?" โมเมรีบหันกลับแล้วก้มหน้าหลับตาปี๋ทันที เมื่อเด็กหนุ่มร่างสูงเดินตรงมายังจุดที่ตนนั่งอยู่ และนั่งยองๆลงตรงข้าม

    "นี่เธอทำอะไรของเธอน่ะ" ชางมินทำตาโตถามเมื่อเห็นสภาพเศษกระเบื้องที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนดูไม่ออกว่ามันเคยเป็นอะไรมาก่อน "อ๊า.. ชั้น.. ชั้นไม่ได้ตั้งใจอ้ะ" โมเมพูดเสียงสูงแล้วทำหน้าเสีย ทั้งรู้สึกผิด ทั้งกลัว ทั้งอาย ที่นักศึกษาคะแนนท็อปอย่างตนมาทำเรื่องพลาดงี่เง่าๆซะได้ แถมคนที่มาเจอก็คือ ชิมชางมิน องค์ชายรัชทายาทผู้สูงส่งและฉลาดเป็นกรดจนเป็นที่เชิดหน้าชูตาของโรงเรียนซะด้วย

    "แล้วเธอตั้งใจจะทำอะไรของเธอน่ะฮะ" ชางมินเงยหน้าจากเศษกระเบื้องขึ้นมามองหน้าโมเม ที่เขาเองก็เพิ่งสังเกตว่าเด็กสาวกำลังอยู่ในชุดนอนบางเบาที่มองแล้วทำเอาวางตัวไม่ถูก เด็กหนุ่มถามแล้วทำเป็นเสตามองอย่างอื่นอย่างไม่สนใจ "ก็.. แค่อยากลอง.. ทำให้มัน.. เอ่อ.. มีชีวิตน่ะ" โมเมตอบไปแล้วก็อายปากตัวเองเต็มทน.. ทำอะไรไม่คิดก่อนน๊า ถูกหัวเราะเยาะแน่ๆ เด็กสาวคิดในใจแล้วก้มหน้าหลบสายตาเด็กหนุ่ม

    "เสกของให้มีชีวิตเนี่ยนะ!?.. เธอจะบ้าเหรอ เวทย์ชั้นสูงขนาดนั้น งี่เง่าจริงๆ" ชางมินพูดแล้วยิ้มเหยียดๆที่มุมปาก ก่อนจะยืดตัวลุกขึ้นยืน แต่นั่นก็ทำให้โมเมลุกขึ้นตามมาด้วย "อ้าว ไหงพูดงี้ล่ะ แล้วนายล่ะ เก่งนักรึไงฮะ ทำเป็นพูดดี หึ" เพราะความสูงที่แตกต่าง ทำให้โมเมเชิดหน้าขึ้นตอบกลับอย่างท้าทาย "แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ?" ชางมินที่ยืนกอดอกอยู่ตวัดสายตาขึ้นมาอย่างตั้งคำถาม

    "แล้วนายคิดว่าตัวเองทำได้รึไง?" โมเมถามออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก "นี่ เธอนี่ไม่รู้จักการพูดจาอย่างสุภาพกับองค์ชายรัชทายาทเลยรึไงเนี่ยฮะ แต่ไอ้เวทย์ชั้นสูงขนาดนั้นน่ะ ชั้นก็ยังทำไม่ได้หรอก.." ชางมินตอบ เด็กสาวกลับหันมามองแล้วเบะปากอย่างหยามๆ "เชอะ แล้วนายก็ทำไม่ได้เหมือนๆกันน่ะแหละ" โมเมพูดแล้วทำท่าเมินไปทางอื่น แต่เด็กหนุ่มกลับยิ้มน้อยๆที่มุมปาก

    "หึ ไม่เหมือนหรอก เพราะชั้นน่ะ.. ทำแบบนี้ได้" ชางมินพูดแล้วก้าวถอยหลังไปนิดหนึ่ง ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นมาเหนือเศษกระเบื้องที่แตกกระจายอยู่บนพื้น ก่อนจะสะบัดปลายนิ้วนิดหนึ่งอย่างชำนาญ แลัวทันใดนั้นเศษกระเบื้องทั้งหมดก็รวมตัวกันกลายเป็นรูปปั้นนักเต้นระบำฟลามิงโก้เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ชางมินก้าวเข้าไปก้มลงยกมันขึ้นไปตั้งบนโต๊ะที่มันเคยอยู่ จากนั้นก็หันมามองเด็กสาวที่ยืนอ้าปากค้างด้วยรอยยิ้มเล็กๆอย่างผู้มีชัยที่มุมปาก

    "เรื่องแค่นี้.. สบายๆ มันง่ายนิดเดียวเองนะ โซโมเมคนเก่ง เธอทำไม่ได้หรอกเหรอ?" ชางมินถามเยาะๆก่อนจะตั้งท่าเดินผ่านเด็กสาวไป "ค่ะ!! ดิชั้นทำไม่ได้แบบคุณหรอกค่ะคุณรัชทายาทอันดับ 1 ผู้สูงส่ง!!" โมเมหุบปากที่อ้าค้างอยู่นั่นแล้วสะบัดหน้าไปขมวดคิ้วพูดประชด ก่อนจะลุกขึ้นหยิบหนังสือที่ตนถือมาแล้วกระแทกร่างองค์ชายผู้สูงศักดิ์ที่ยืนขวางทาง
    อยู่อย่างแรงแล้วตั้งท่าจะจ้ำหนี

    "เดี๋ยวววว..." ชางมินพูดแล้วหันหลังไปกระชากแขนโมเมกลับมา ส่งผลให้ร่างบางๆของเด็กสาวปลิวตามแรงฉุดเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน แต่นั่นก็ทำให้ร่างบางตกใจ...

    ...จนเผลอรัวท่องคาถาออกมาส่งๆ

    "ซินเวียร์ เลอเวียน่า!!"

    โมเมหลับหูหลับตาท่องคาถาออกมาอย่างคุมสติไม่ได้เมื่อต้องเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนขององค์ชายรัชทายาทอย่างไม่รู้ตัว.. เด็กสาวหลับตาแน่นอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะสะดุ้งเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งกระทำลงไป ถึงแม้จะไม่ค่อยอยากจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองกระทำนัก แต่โมเมก็จำต้องค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง

    "อ๊าย!! เอ่อ.." โมเมอุทานตาเหลือกเมื่อลืมตาขึ้นมาพบองค์ชายรัชทายาทชางมิน แต่ผิดแผกไปจากเดิมตรงที่มีหญ้านุ่มๆสีเขียวสดปรากฎอยู่บนศีรษะแทนเส้นผม เด็กสาวทำหน้าเหยเกก่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดออกฝ่ามือที่ล็อคแขนตัวเองไว้

    "เอ่อ.. ขอโทษด้วยนะเพคะ แต่หม่อมชั้นต้องไปแล้ว ไว้องค์ชายทรงใช้ปณิภาณของพระองค์เองในการปรุงยารักษาตัวเองเถิดนะเพคะ พรุ่งนี้หม่อมชั้นมีเทส ขอตัวเพคะ!!" โมเมรัวพูดรวดเดียวจบแล้วสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนนั้น ถอนสายบัวงามๆซะทีหนึ่งแล้วหันหลังวิ่งหายลับไปทันที ทิ้งชางมินให้ยืนงงอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันไปพบสภาพตัวเองในกระจก

    "ยัยโซโมเมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม"

    ...อร๊ายยยยยยยยยยยยย ให้ตายเหอะ!! พระเจ้า ทำไมท่านประทานมันสมองอันฉลาดมาให้ลูกแล้ว แต่ต้องประทานความเปิ่นขนาดนี้มาให้ลูกด้วย แล้วนี่ลูกควรจะสงสาร รู้สึกผิด หรือสะใจดีนะ พ่อรัชทายาทอันดับ 1 ผู้สูงส่ง!!...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×