ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :: Audition เฉพาะกิจ * นางเอกด๊อง ::
1.Nickname / User name :: Momei / momaiiz
2. ชื่อที่จะใช้ออดิชั่น :: Seo Momei (โซโมเม)
3. รูปร่างหน้าตา :: เด็กสาวร่างเพรียวผิวขาวสว่าง ผมยาวตรงสลวยเป็นมันเงาสีดำสนิท ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ขนตายาวงอนยิ่งเสริมให้ดวงตามีเสน่ห์ดึงดูดน่ามองอย่างหาคำตอบไม่ได้ จมูกโด่งรั้นเล็กๆและริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ สายตาสั้น 350 ปกติสวมคอนแท็คเลนส์ แต่ถ้าอยู่บ้านเฉยๆจะสวมแว่นกรอบเหลี่ยมทรงเฉี่ยวสีดำ
4. จะออดิชั่นเป็น? :: Donghae’s girl เปิดออ :: เป็นคนส่วนน้อยในโรงเรียนที่ไม่ละลายไปกับรอยยิ้มพิฆาตของดงแฮ แล้วเพราะด้วยการปฏิบัติตัวกับดงแฮปกติธรรมดาจึงทำให้เขารู้สึกไว้ใจเธอมากกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่น (ไม่นับแฮจินและคิบอม เกิร์ลที่อยู่กลุ่มเดียวกัน) ความสามารถของเธอคือคอมพิวเตอร์ กราฟฟิค นิสัยขี้เล่นและชอบแซวดงแฮเกี่ยวกับรอยยิ้มพิฆาตของเขาบ่อยๆ
5. ความสามารถพิเศษ (เพิ่มเติมจากที่นิกให้ไว้) :: ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะแหกกฏธรรมชาติที่คนเราทุกคนย่อมต้องรักสนุกและรู้จักหากิจกรรมรีแล็กซ์ที่ตัวเองรักทำไปได้ และไม่มีใครจะสามารถนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ตลอดปีตลอดชาติ สำหรับโมเม.. กิจกรรมโปรดที่เธอทำในยามว่างคือการเต้น ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษของเธอ ใครจะรู้ว่าภายใต้กรอบแว่นโฉบเฉี่ยวอันนั้นและท่าทางที่วันๆเอาแต่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ โมเมกลับมีอีกด้านซ่อนอยู่ เด็กสาวมักจะใช้เวลาช่วงเย็นๆไปกับการฝึกสเต็ปทั้ง ป๊อบ ร็อค ฮิพฮอพ เฮาส์ แจ๊ส โซล และละติน ของเธอจนชำนาญ.. แต่ถึงจะเก่งแค่ไหน เธอก็ไม่เคยนำมันออกมาวาดลวดลายให้ใครเห็นซักที สำหรับเธอมันเป็นเพียงแค่กิจกรรมยามว่างเท่านั้น แต่ถ้าใครคนอื่นมาเห็นล่ะ? มันจะเป็นยังไงกันนะ?
6. บทออดิชั่น ::
นาฬิกาข้อมือแนวสปอร์ตบนข้อมือเรียวเล็กของเด็กสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ในห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนส่งเสียงเตือนชั่วโมงบอกเวลา 17.00 น. เด็กสาวเหลือบมองอย่างร้อนใจแล้วสะบัดหน้าให้เส้นผมที่ลงมาปรกใบหน้าออกไปให้พ้นระยะสายตาแล้วตั้งหน้าตั้งตาเพ่งไลน์กราฟฟิคในโปรแกรมต่ออย่างรีบเร่ง
"อีกนิดเดียว.. โซโมเม อีกนิ๊ดดดดดดดเดียว.." เด็กสาวบ่นพึมพำๆกับตัวเองอย่างลุ้นๆแล้วเม้มปากอย่างใช้สมาธิ แดร็กเอาเลเยอร์ส่วนสุดท้ายเข้าไปผสานกัน เด็กสาวยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะกดเซฟผลงานชิ้นนั้นลงแฮนดี้ไดรฟ์ของเธอและก้อบปี้ไฟล์ใส่ฟล็อบปี้ดิสเพื่อเตรียมส่งให้กับอาจารย์ประจำวิชา
เด็กสาวชัทดาวน์คอมพิวเตอร์และหยิบเสื้อสูทตัวนอกของโรงเรียนขึ้นมาพาดบ่าอย่างทะมัดทะแม่งก่อนจะหยิบเป้ขึ้นมาสะพาย หยิบแฮนดี้ไดรฟ์และฟล็อบปี้ดิสออกมายิ้มๆอย่างภาคภูมิใจ แต่แล้วใบหน้าหวานก็มุ่ยลงเมื่อนึกถึงหน้าพาร์ทเนอร์ของเธอในโปรเจ็คนี้ที่ไม่เคยโผล่หัวหล่อๆมาช่วยเลยซักครั้ง
'แง่งงงงงงง.. แบบนี้มันหวังเกาะกันกินคะแนนอย่างเดียวนิหว่า แต่ก็เอาเห๊อะ.. ทำไงได้ล่ะ'
เด็กสาวขมวดคิ้วอย่างโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในใจก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงๆแล้วเดินออกจากห้องมา แต่เมื่อเด็กสาวเลื่อนบานประตูกระจกทึบออกก็ต้องพบกับร่างสูงของคนที่ตัวเองเพิ่งนึกด่าในใจไปเมื่อครู่ โมเมเบิกตากว้างงงๆอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
"ไหงทำหน้างั้นล่ะ เห็นชั้นนี่มันแปลกมากเลยเหรอ?" เด็กหนุ่มพูดยิ้มๆด้วยรอยยิ้มพิฆาตตามสไตล์ของเค้าที่ทำเอาสาวๆพากันคลั่งมานักต่อนัก แต่เด็กสาวตรงหน้ากลับเบ้ปากเซ็งๆ
'โคดแปลกเลยมากกว่า ไม่ใช่แค่แปลกหรอก - -' เด็กสาวนึกในใจ
"เปล่าหรอก แค่ตกใจ.. ตกใจมากกกกกกกกกกกก ที่เห็นพ่อเทพบุตรอย่างนายมีเวลาว่างจากหน้าที่แจกจ่ายรอยยิ้มให้มนุษยชาติมายืนป้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่นี่ได้น่ะ" โมเมตอบออกไปเชิงล้อๆและอดจิกกัดเด็กหนุ่มไม่ได้
"ง่า อะไรกัน ..นี่ชั้นนึกว่าเธอจะไม่เห็นชั้นเป็นแบบนั้นซะอีกนะ"
"เหยยยย.. ไม่เอาน่า อย่าพูดงั้นสิ ยังไงชั้นก็ไม่คิดจะพิสวาสรอยยิ้มนายขึ้นมาหรอก ว่าแต่มีอะไรรึเปล่า? ถ้าจะมาตามจิกงานที่ให้ชั้นทำแทนส่วนของนายด้วยล่ะก็ เสร็จแล้ว" เด็กสาวชูฟล็อบปี้ดิสขึ้นมา "..และชั้นก็กำลังจะเอามันไปส่งแล้วด้วย ไม่ต้องห่วง"
"ฮ่าๆๆ แล้วทำไมเธอต้องทำหน้าตาซิเรียสแบบนั้นด้วยเล่า เครียดมากๆระวังซิลิบลัมกับไฮโพทาลามัสในสมองมันทำงานกันสับสนหมดนะ" เด็กหนุ่มพูดกับเพื่อนสาวล้อๆ.. นี่แหละเสน่ห์อีกอย่างของเค้า น่ารักและมองโลกในแง่ดีจนใครๆก็พากันหลง
"ค่าๆ รับทราบค่ะ.. ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ เป็นปลื้มมากค่ะที่คุณอีดงแฮคนดังเจ้าของรอยยิ้มเทพบุตรและนิสัยดีโอบอ้อมอารีเป็นห่วงคนอื่นดุจเทวดาอุตส่าห์มาเทคแคร์ดิชั้น ดิชั้นนี่รู้สึกเป็นเกียรติม๊ากมากค่ะ ฮ่ะๆๆ" โมเมแกล้งลากเสียงอย่างหมั่นไส้แล้วก็ขำเอง เดินหัวเราะผ่านหน้าเด็กหนุ่มไปห้องพักครูประจำภาควิชาที่อยู่ข้างๆและเปิดประตูเข้าไปเอาฟล็อบปี้ดิสที่เขียนชื่อเธอและพาร์ทหน้าวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกมา
'โซโมเม & อีดงแฮ'
"นี่.. จะรีบเดินไปไหน เธอโกรธชั้นเหรอ? งอนอะไรชั้นรึเปล่าเนี่ย? ชั้นขอโทษจริงๆที่ไม่ได้ช่วยงาน พอดีชั้นก็มีงานอีกชิ้นที่ต้องทำเดี่ยวเหมือนกัน แต่พอดีว่าชั้นถนัดงานนั้นมากกว่าแล้วก็ไม่เก่งพวกกราฟฟิคด้วย ชั้นเลย.."
"..ขอให้เธอช่วยทำแทนชั้นทั้งหมดหน่อย" เด็กสาวพูดต่อให้ด้วยท่าทางเบื่อโลกอย่างประชดประชัน เพราะเด็กหนุ่มเฝ้าเพียรพูดประโยคนี้กรอกหูเพื่อขอร้องเธอตั้งแต่จับฉลากได้ทำโปรเจ็คคู่กันวันแรกๆ
"อ่า.. ก็ใช่ เธอก็รู้นี่นา.. แล้ว.. ทำไมยังทำเหมือนโกรธชั้นอยู่ล่ะ?" ดงแฮถามด้วยสีหน้าไม่สบายใจขณะเดินตามเด็กสาวออกมาจนถึงนอกโรงเรียน
"หน้าชั้นมันเป็นงี้อยู่แล้ว ชั้นไม่ได้โกรธนายหรอก ถ้าชั้นโกรธนายจริง ป่านนี้นายได้โดนน้องคัตเตอร์ในกระเป๋าชั้นปาดหน้าไปซักแผลสองแผลแล้ว.. เวลาโกรธหรือเกลียดใคร ชั้นทนอะไรไม่ได้นานหรอกนะ ฮ่ะๆ" เด็กสาวพูดอย่างไม่จริงจังอะไรพร้อมกับหัวเราะเบาๆในท้ายประโยค แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ
"ฮ่าๆๆ เหรอ? โหดแฮะ" เด็กหนุ่มพูดสั้นๆแล้วอมยิ้ม แอบชำเลืองมองเด็กสาวที่เดินสนอกสนใจทัศนียภาพรอบข้างมากกว่าตัวเอง.. ซึ่งเด็กสาวน้อยคนนักที่จะกล้าเมินอีดงแฮขณะที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่โชว์ความหล่อน่ารักกระชากใจได้แบบนี้ โมเมหันมามองหน้าเค้านิดหนึ่ง
"โหดแล้วกลัวมั้ยล่ะเนี่ยฮะ?" โมเมถามแล้วเอียงตัวเอาหัวไหล่กระแทกข้างลำตัวชายหนุ่มเบาๆอย่างขี้เล่น แต่ทำเอาเด็กหนุ่มอดมองเธอยิ้มๆไม่ได้ ดงแฮได้แต่อมยิ้มและไม่พูดอะไร.. แล้วจะให้ตอบยังไง ในเมื่อตอนนี้ชั้นกำลังรู้สึกว่าเธอน่าเข้าใกล้มากจนไม่อยากกลัวอะไรทั้งนั้นไปแล้ว
"รู้ว่าชั้นโหดก็ดี จะได้อยู่ห่างๆชั้นไว้ ชิ.. ว่าแต่นายจะเดินตามชั้นมาทำไม? นี่ชั้นกำลังจะกลับบ้านนะ กลับบ้านกลับช่องนายไปได้แล้วไป" เด็กสาวพูดต่อปัดๆเมื่อไม่เห็นเด็กหนุ่มคิดจะตอบอะไร ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาอีกทีซึ่งบอกเวลา 17.27 น.
"ก็.. เดี๋ยวเดินไปส่งบ้าน ถือว่าชดใช้ที่ไม่มีเวลามาสนใจโปรเจ็คที่ทำกับเธอเลย ซักนิดๆหน่อยๆก็ยังดี" พูดยิ้มๆ.. แต่เด็กหนุ่มก็รู้ตัวดีว่าคำตอบที่ตัวเองพูดไปไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่ทำให้ตัวเองเดินก้าวตามเด็กสาวคนนี้มาต้อยๆได้ แต่ด้วยเพราะเหตุผลอะไรซักอย่าง.. ที่ตัวเค้าเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม
"อือ ง่ายดีแฮะ.. แต่ก็เอาเหอะ บอกแล้วว่าชั้นไม่ได้ซิเรียสอะไร เข้าท่าดีเหมือนกัน มีหนุ่มจ้าวเสน่ห์ประจำโรงเรียนเดินไปส่งถึงบ้าน.." เด็กสาวพูดแล้วหันไปยิ้มมุมปากให้เด็กหนุ่ม ซึ่งก็เรียกรอยยิ้มจากเด็กหนุ่มข้างๆให้ยิ้มตามเธอไปได้อย่างไม่รู้ตัว
ดงแฮ.. เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่มีสาวๆพากันหลงใหลในรอยยิ้มเทพบุตรของเค้าอย่างที่เด็กสาวพูดจริงๆ แต่เด็กสาวที่ว่านั่นโดยคิดเฉลี่ย 99.99% ไม่มี โซโมเม รวมอยู่ในนั้น เธอเป็นเด็กสาวที่ไม่ค่อยจะสนใจอะไรนักนอกจากคอมพิวเตอร์และอะไรบางอย่างที่เธอรัก.. ถือเป็นโชคดีของดงแฮไปที่เค้าจับฉลากได้มาเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำโปรเจ็คนี้ เพราะนอกจากเธอจะเก่งและเชี่ยวชาญด้านกราฟฟิคดีไซน์สุดๆแล้ว เธอยังไม่ใช่พวกที่ชอบนั่งตาหวานเยิ้มมองเค้าตาละห้อยแบบที่เค้ากลัวแสนกลัวซะด้วย..
และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น.. โมเมมีอะไรอีกหลายอย่างที่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเธอน่าค้นหามากเลยทีเดียว
เด็กหนุ่มและเด็กสาวเดินไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันมากนักเพราะโมเมที่เอาแต่สนใจวิวริมฝั่งถนนมากกว่า และเพราะดงแฮที่เอาแต่แอบชำเลืองใบหน้าหวานนั้นอยู่เงียบๆ จนกระทั่งถึงบ้านสไตล์อเมริกันสีเทาสไตล์การ์เดนโฮมหลังนึงกลางๆซอย.. เด็กสาวก็หยุดเดิน
"นี่บ้านเธอเหรอ?" เด็กหนุ่มหยุดเดินแล้วเลิ่กคิ้วถาม
"อ่าฮะ ถึงบ้านชั้นแล้ว" เด็กสาวหันมาพูด
"งั้นก็.. อ่า.. บายนะ" เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทางเก้ๆกังๆยิ้มๆ
"โอเค บ๊ายบาย แล้วเจอกัน" เด็กสาวพูดแค่นั้นแล้วยิ้มตาปิดยกมือขึ้นบ๊ายบายให้เด็กหนุ่มนิดหนึ่งแล้วหันหลังผลักประตูที่อยู่ระหว่างรั้วเข้าบ้านไป ดงแฮยืนอยู่ตรงนั้นแล้วก้มลงยิ้มกับตัวเอง นึกถึงรอยยิ้มของเด็กสาวที่เพิ่งเดินเข้ารั้วบ้านไป..
"ดงแฮ.. นายคิดอะไรอยู่น่ะ ฮะๆ" เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองยิ้มๆแล้วเดินทอดน่องออกห่างจากตัวบ้านมา
โมเมเปิดประตูเข้ามาในบ้านที่ไม่มีใครอยู่เพราะพ่อของเธอเสียไปแล้วและแม่ที่ยังไม่กลับจากทำงานแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้วโยนกระเป๋าเป้ลงไปส่งๆบนเก้าอี้เขียนหนังสือแล้วเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า หยิบชุดชุดหนึ่งขึ้นมาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนอย่างเคยชิน
โมเมเดินออกมาจากห้องน้ำและสะบัดปลายผมยาวทีหนึ่งก่อนจะคว้ายางรัดผมบนโต๊ะคอมใกล้ๆขึ้นมาแล้วมัดเป็นมวยแน่นๆแต่สบายๆง่ายๆแล้วเปิดประตูก้าวออกมาจากห้องส่วนตัว โมเมเดินผ่านห้องรับแขกไปห้องกระจกโล่งๆข้างๆกันแล้วใช้ปลายนิ้วไล่หาแผ่นซีดีที่เรียงอยู่มากมายในกล่องเร็วๆ
"..Shakira" เด็กสาวมองแผ่นซีดีที่หยิบขึ้นมาแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะหมุนตัวกลับไปยัดแผ่นซีดีเข้าไปในเครื่องเล่นแล้วเปิดลำโพงลั่นให้สะใจตัวเอง.. ให้สมกับที่เครียดมาทั้งวัน
เสียงเพลงสไตล์ละตินมันส์ๆดังขึ้นมา เด็กสาวเอี้ยวตัวลงกับพื้นจนเป็นรูปตัวยูกลับหัวแล้วเด้งตัวกลับขึ้นมาแล้วเริ่มวาดสเต็ปเท้ากับพื้น พร้อมๆกับยักเอวสไตล์สาวละตินอย่างออกรส
..เป็นเวลาเดียวกับที่จู่ๆดงแฮเกิดมีอะไรมาดลใจให้เค้าเดินกลับมาที่ประตูบ้านสไตล์อเมริกันสีน้ำเงินหลังนี้อีกครั้งอย่างหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองไม่ได้ และเสียงเพลง hips don't lie ที่ดังลั่นอยู่นั้นก็ทำให้ดงแฮอดสงสัยไม่ได้.. เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในบริเวณบ้านแล้วเดินไปหาต้นเสียงที่มาจากห้องกระจกเงียบๆ
I never really knew that she could dance like this
She makes a man wants to speak Spanish
Como se llama, bonita, mi casa, su casa
Shakira, Shakira
Oh baby when you talk like that
You make a woman go mad
So be wise and keep on
Reading the signs of my body
And I won't deny
You know my hips don't lie
And I'm starting to feel it's right
All the attraction, the tension
Don't you see baby, this is perfection
เด็กหนุ่มมองผ่านกระจกใสเข้าไป.. เด็กสาวท่าทางไม่สนใจใครนอกจากหน้าจอมอนิเตอร์ที่เดินมาข้างๆเค้าเมื่อครู่ ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อผ้ายืดครึ่งตัวเปิดเอวสีเทากับกางเกงวอร์มผ้าร่มสีดำ เอวบางๆแต่แข็งแรงอย่างเห็นได้ชัดเพราะสังเกตได้จากท่าเต้นสไตล์ละตินที่เด็กสาวยักเอวอย่างเร่าร้อนเมามันส์กับเสียงเพลง และการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ราวกับว่าทุกท่าเต้นและการเคลื่อนไหวนั้นมีชีวิตและสื่อออกมาเป็นความรู้สึกเป็นอีกภาษาได้ทำเอาเด็กหนึ่งยืนตาค้างอย่างอึ้งๆ เด็กสาวเอื้อมมือแกะยางรัดผมที่รวบผมยาวสลวยของเธออยู่ออกและสะบัดแรงๆตามจังหวะเพลงก่อนจะเต้นต่อราวๆกับเสียงเพลงและร่างกายของเธอรวมกันเป็นหนึ่งและมีแต่เธอกับเสียงเพลงเท่านั้นบนโลกใบนี้
Oh boy, I can see your body moving
Half animal, half man
I don't, don't really know what I'm doing
But you seem to have a plan
My will and self restraint
Have come to fail now, fail now
See, I am doing what I can, but I can't so you know
That's a bit too hard to explain
Baila en la calle de noche
Baila en la calle de dํa
Baila en la calle de noche
Baila en la calle de dํa
เด็กหนุ่มยืนค้างอยู่อย่างนั้นราวกับถูกการเคลื่อนไหวนั้นสะกดให้ต้องมนต์จนกระทั่งเสียงเพลงสไตล์ละตินเร่าร้อนจบลง โมเมหยิบยาวรัดผมขึ้นมารวบผมแล้วเดินเข้าไปกดเปลี่ยนเพลง แต่เสียงเพลงที่หยุดลงก็เรียกสติของดงแฮที่หลุดลอยไปสู่อีกภวังค์กลับมาด้วย เด็กหนุ่มหันหลังก้าวฉับๆออกมาเงียบๆ ความคิดตอนแรกที่กะว่าจะมาขอก็อบปี้ไฟล์โปรเจ็คไปดูที่บ้านหายไปหมดสิ้น เด็กหนุ่มเดินออกมานอกรั้วประตูบ้านแล้วหายใจเข้าลึกๆก่อนจะถอนหายใจกับตัวเองออกเร็วๆ
"ฮู่ว.. นั่น.. ยัยโซโมเมคนเมื่อกี๊จริงเหรอ.." ดงแฮพูดกับตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มๆ ภาพของเด็กสาวเมื่อครู่ทั้งในเวลาที่ดูปกติธรรมดาซะเหลือเกิน และในเวลาที่มาพร้อมกับท่าทางร้อนแรงตอนที่ขยับร่างกายไปตามจังหวะเพลงตีกันเต็มหัวไปหมดจนเด็กหนุ่มต้องสะบัดหัวไล่ออกไป โดยที่ไม่รู้ตัว.. ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวของดงแฮ
'..เห็นทีชั้นคงต้องสนใจเธอให้มากกว่านี้แล้วล่ะ โซโมเม'
1 week later
บนถนนยามค่ำคืนที่ไม่รู้จักหลับใหลของนักท่องราตรี เด็กสาวในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีเทากับกางเกงยีนส์ยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้าผับที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นทั้งนักเรียน ม.ปลาย และเด็กมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่ง โมเมจำต้องออกมาที่นี่ เพราะพาร์ทเนอร์งี่เง่าของเธอส่งเมสเสจมาบอกว่าเค้าต้องการจะเอาใบคะแนนพร้อมคอมเมนท์จากอาจารย์มาให้เธอที่นี่ ตอนนี้.. ซึ่งโมเมก็ได้แต่ถามตัวเองอย่างไม่เข้าใจว่า ทำไม?
'..ทำไมต้องที่นี่ตอนนี้วะ.. งี่เง่าเอ๊ย'
เด็กสาวยืนหมุนไปหมุนมามองหาเด็กหนุ่มที่นัดตัวเองไว้ ไม่นานนักร่างสูงของดงแฮก็เดินตรงมาจากถนนอีกฝั่ง
"ไง รอนานมั้ย? นี่ชั้นไม่เลทนะ เธอมาก่อนเวลา.." ดงแฮพูดขึ้นทันทีที่มาถึง
"เออย่ะ ชั้นรู้แล้วว่าชั้นมาก่อนเวลา เพราะชั้นไม่อยากกลับดึก ที่บ้านไม่มีใครอยู่ เลยอยากกลับไปเร็วๆ มาแล้วก็ดี เอาใบคะแนนมา ชั้นจะได้กลับ" โมเมพูดสั้นๆอย่างรวบรัด เด็กสาวเองก็อดหงุดหงิดไม่ได้ที่ต้องมายืนรออย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้.. โดยเฉพาะในที่แบบนี้ ที่เธอไม่เคยมา
"อ่า.. ไม่มีใครอยู่สิดี จะได้ไม่มีใครเป็นห่วงถ้าเธอหายตัวไป อย่าเพิ่งรีบกลับเลย ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว เข้าไปข้างในกันหน่อยดีกว่า" ดงแฮพูดแล้วคว้าแขนเด็กสาวขึ้นมาแล้วลากร่างบางๆนั้นเข้าไปข้างในทันที โมเมได้แต่ร้องโวยวายอย่างงงๆ ในขณะที่ดงแฮไม่มีทีท่าว่าสนใจเลย
บรรยากาศภายในที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนและเสียงดนตรีเซอร์ราวด์รอบทิศกลบเสียงโมเมที่โวยวายให้ดองเฮปล่อยแขนเธอออกสนิท แต่โมเมก็ยังคงทั้งดิ้นทั้งสะบัดแขนออกไม่หยุด ..ดงแฮลากแขนเด็กสาวเข้ามาด้านในจนถึงจุดที่มีผู้คนแน่นขนัดเบียดกันไปหมด โมเมเบ้หน้าอย่างนึกรำคาญก่อนจะสะบัดแขนออกเต็มแรง
"อะไรของนาย! ประสาทกลับเหรอ! ลากชั้นมานี่ทำไม!" โมเมตะโกนสุดเสียงเพื่อสู้กับเสียงดนตรีที่ดังสะเทือนแก้วหูทันทีที่ท่อนแขนเรียวของเธอหลุดออกจากฝ่ามือของดงแฮได้
"พามากระชากจิตวิญญาณของเธอออกมาไง!" ดงแฮตอบกลับด้วยท่าทีมุ่งมั่นและยิ้มกว้างกับบรรยากาศคึกคัก โมเมยืนอึ้งๆอย่างไม่เข้าใจ
"หมายความว่าไง? จิตวิญญาณบ้าบออะไร แล้วทำไมต้องที่นี่? นายบอกชั้นว่านายจะเอาใบคะแนนมาให้ชั้นแค่นั้นไม่ใช่เหรอไง มันอยู่ไหน เอามานี่!" โมเมที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นโต้กลับ แต่ชายหนุ่มกับอมยิ้มที่มุมปากอย่างไม่สนใจ
"ชั้นเชื่อว่าเธอรู้อยู่กับตัวเธอเองดี.. โซโมเม" ดงแฮพูดแค่นั้นแล้วเดินหันหลังไปที่โซนดีเจแล้วพูดกับดีเจด้วยท่าทางยิ้มๆ โมเมยืนขมวดคิ้วกอดอกอย่างไม่พอใจอยู่ที่เดิม
"ชั้นต้องการคำอธิบายที่เคลียร์กว่านี้!" โมเมกระชากเสียงพูด แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาก็แค่รอยยิ้มของดงแฮเท่านั้น
"..เรื่องใบคะแนนนั่นน่ะ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรก็ได้"
"อีดงแฮ! ชั้นยังไม่อยากมีเรื่องหรือเป็นศัตรูกับนายนะ! ถ้านายไม่พูดและไม่มีใบคะแนนให้ชั้น ชั้นก็จะกลับ!" โมเมพูดแล้วตั้งท่าจะหันหลังเดินกลับออกไปที่ประตู แต่ข้อมือขาวกลับถูกฝ่ามือเรียวของเด็กหนุ่มคว้าไว้ซะก่อน นั่นยิ่งทำให้โมเมกำลังจะระงับอารมณ์ขั้นสุดท้ายที่กักไว้ไม่อยู่.. โมเมผู้ไม่เคยสนใจในความน่ารักของดงแฮ และพร้อมจะเป็นศัตรูกับเค้าได้เสมอหากเค้ายังคงกระทำเช่นนี้ต่อ
โมเมสะบัดหน้ากลับมาหาดงแฮอย่างโมโห แต่ก่อนที่เด็กสาวจะทันได้พูดอะไรโต้กลับการกระทำของเด็กหนุ่มไป ดงแฮก็ดึงเสื้อโค้ทตัวนอกของโมเมออกจนเหลือแค่เสื้อสายเดี่ยวแนบเนื้อสีขาว แล้วยื้อเสื้อโค้ทสีเทานั่นมาไว้ในมือ โมเมเบิกตากว้างกับการกระทำนั้นอย่างช็อคๆเพราะคาดไม่ถึง
พอดีกับที่เสียงเพลงสไตล์เรกเก้ฮิพฮอพจบลง และกลายเป็นเพลงละตินคุ้นหูของศิลปินสาวชื่อดังขึ้นมาแทนที่ ดงแฮไม่รอให้โมเมพูดอะไร เด็กหนุ่มควาแขนเด็กสาวยื้อมากลางวงที่มีนักเต้นเท้าไฟกำลังโชว์สเต็ปวาดลวดลายกันอยู่ก่อนจะรั้งตัวเด็กสาวเข้ามาใกล้แล้วก้มลงกระซิบข้างหู..
"ชั้นรู้ว่าเธอทำได้.. เต้นให้ทุกคนดูแบบที่ชั้นเห็นวันนั้นทีนะ"
ดงแฮปล่อยมือเด็กสาวและเหวี่ยงร่างบางเข้าไปกลางวงทันที เด็กสาวรั้งเท้าตัวเองด้วยสเต็ปแบบละตินไม่ไห้ตัวเองเซไม่เป็นท่าเข้ามากลางวงแล้วหยุดยืนอย่างอึ้งๆตัวเองก่อนจะสบตาผู้คนรอบๆที่ส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามันส์และสีหน้าสนุกสุดเหวี่ยง โมเมกลั้นหายใจหายใจเข้าลึกๆ..
'..เข้าใจทำนี่ ถึงขั้นนี้แล้ว ชั้นคงเดินก้มหน้างุดๆออกไปไม่ได้แล้วนี่นะ'
แล้ววิญญาณของสาวละตินก็วิ่งเข้ามาในร่างของโมเมอีกครั้ง เหมือนๆกับวันนั้น และเผลอๆอาจมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว.. เพราะเสียงเพลงที่ราวกับดังก้องอยู่ในหัว.. และผู้คนรอบๆกาย.. เด็กสาวสะบัด ยัก โยก หมุนอย่างได้อารมณ์ด้วยการเคลื่อนไหวที่มีเสน่ห์ราวกับสาวผิวสีจนโดดเด่นอยู่คนเดียวกลางวง เสียงเชียร์รอบๆตัวดังขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเสียงเพลงจบลง โมเมหอบหายใจเหนื่อยๆแล้วหันไปมองรอบๆตัวก่อนจะยิ้มออกมาที่มุมปาก แล้วเดินออกมา
ดงแฮยืนกอดอกยิ้มๆรอเธออยู่แล้ว..
"เจ๋งซะยิ่งกว่าเมื่อวันก่อนอีกนะ" เด็กหนุ่มพูดขึ้นเมื่อเด็กสาวทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
"อะเหรอ?.. แต่วันนั้นนายกลับไปแล้วไม่ใช่รึไง? แล้วนาย..?"
"พอดีว่าจะขอก็อบไฟล์งานมาจากเธอ แต่พอดีไปเจออะไรที่ช็อคๆซะก่อน ฮ่าๆ"
"จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ?" เลิ่กคิ้วถามกวนๆ
"ก็ไม่เชิง.. แต่พอเห็นแล้วมันก็ละสายตาไปไม่ได้แค่นั้น" ดงแฮพูดอย่างไม่ทันคิด.. แล้วก็ต้องนั่งนิ่งทันทีเมื่อรู้ตัวว่าหลุดปากพูดอะไรออกไป ในขณะที่โมเมเองก็นั่งนิ่งราวกับลืมวิธีหายใจ แล้วความเงียบก็เข้าคั่นกลางระหว่างคนสองคน ทั้งที่เสียงเพลงดังสนั่นก็ยังถูกเล่นอยู่
"เอ่อ.. งั้น แค่นี้สินะที่นายอุตส่าห์เรียกชั้นออกมาวันนี้ ถ้างั้นก็เอาใบคะแนนมาได้แล้ว ชั้นจะกลับบ้าน" ในที่สุดโมเมที่เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาซะก่อนด้วยประโยคเรียบๆที่ฟังดูตื้อๆตันๆ เพราะถ้าปล่อยให้นิ่งกันมากไปกว่านี้.. ความรู้สึกบางอย่างอาจพากันแทรกเข้ามาหาไม่ใครก็ใครก็ได้.. เด็กสาวรีบลุกขึ้นยืนแล้วคว้าเสื้อโค้ทสีเทาของเธอที่วางอยู่ข้างๆตัวดงแฮขึ้นมาสวม
"อื้อ แค่นี้แหละ.. แต่ว่า ชั้นก็อยากจะให้เธอเข้าใจอย่างนึงนะ.. ที่ชั้นทำแบบนี้ ก็เพราะว่าอยากให้เธอได้แสดงถึงอะไรอีกอย่างที่มันแฝงอยู่ในตัวเธอออกมาซักที เพราะเธอทำมันได้ดี.. ดีมากซะด้วย ชั้นเชื่อมั่นในตัวเธอนะ.. เชื่อว่าถ้าเธอกล้าจะแสดงมันออกมา เธอจะทำมันออกมาได้ยอดเยี่ยมที่สุดยิ่งกว่าทุกๆคนด้วยซ้ำ พิสูจน์ตัวเองให้ได้เร็วๆล่ะ ชั้นจะรอดู.. อย่าให้คนอื่นเค้าเห็นว่าเธอเป็นแค่ยัยแว่นที่เอาแต่สนใจคอมพิวเตอร์เลย แบบนั้นมันจืดชืดไปหน่อย ระวังจะหาแฟนไม่ได้เอานะ.." ดงแฮพยายามเปลี่ยนรูปประโยคของตัวเองให้กลายเป็นความรู้สึกของเพื่อนที่อยากให้กำลังใจเพื่อนแบบขำๆ เพื่อกลบเกลื่อนประโยคที่เพิ่งพูดไปเมื่อก่อนหน้านี้แล้วอมยิ้มมุมปากให้เด็กสาว ก่อนจะหยิบใบคะแนนที่ใส่มาในแฟ้มออกมาจากเป้แล้วยื่นให้ โมเมรับมาแล้วก้มหน้าลงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดตอบกลับไป
"ขอบคุณมาก.. งั้นชั้นควรจะภูมิใจสินะ ที่อีดงแฮอุตส่าห์มาเป็นห่วงเป็นใยชีวิตส่วนตัวซะขนาดนี้.. ไว้ไงก็.. ไว้เจอกันที่โรงเรียนแล้วกัน บาย" โมเมพูดแค่นั้นแล้วรีบก้าวฉับๆเอียงตัวหลบดงแฮและผู้คนภายในผับออกไป ทิ้งดงแฮไว้ให้ยืมยิ้มกับตัวเองบางๆอีกครั้ง..
เด็กหนุ่มก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจเบาๆ.. ดงแฮเองก็ยังไม่รู้ตัวและไม่แน่ใจเหมือนกันกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดออกไป ครุ่นคิดวนซ้ำไปซ้ำมา..ทำไมถึงละสายไปไม่ได้? แล้ว.. ที่พูดไปเมื่อกี๊ เพียวเพราะแค่อยากจะให้กำลังใจเด็กสาวเหมือนๆกับที่ชอบให้กับคนอื่น หรือเพราะ.. ต้องการจะกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเองกันแน่นะ?
'ก็ไม่เชิง.. แต่พอเห็นแล้วมันก็ละสายตาไปไม่ได้แค่นั้น'
'ชั้นเชื่อมั่นในตัวเธอนะ..'
'พิสูจน์ตัวเองให้ได้เร็วๆล่ะ ชั้นจะรอดู..'
'ระวังจะหาแฟนไม่ได้นะ..'
จู่ๆคำพูดเหล่านี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้งขณะที่โมเมกำลังยืนรอรถประจำทางกลับบ้าน.. ท่ามกลางผู้คนมากมาย เด็กหนุ่มกำลังสร้างความรู้สึกแปลกใหม่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจของเธอทีละน้อย โดยที่ทั้งคู่เอง.. ก็อาจยังไม่มีใครได้ทันรู้ตัว
'ให้ตายเถอะ แล้วนายจะมาสนใจอะไรชั้นเล่า นี่มันเรื่องส่วนตัวแท้ๆ.. เหอะ พ่อรอยยิ้มเทพบุตร นายอีดงแฮ นายคิดอะไรอยู่.. นายคิดอะไรของนายอยู่กันนะ.. ชั้นอยากรู้จริงๆ..'
7. บทสำรองถ้าไม่ได้เล่นบทหลัก :: ไม่ขอรับบทไหนเลยค่ะ เลือกแค่บทนี้บทเดียวเท่านั้น..
อ่า.. จะบอกว่าเพิ่งเคยออฟิคซูจูครั้งแรกเลยค่ะ ไม่เคยออมาก่อนเลย อ่านๆบทออของตัวเองดูแล้วก็รู้สึกจะยาวกว่าของชาวบ้านชาวเมืองปกติพอสมควร 55 มาออฟิคเรื่องนี้เพราะเพื่อนแนะนำมาค่ะ ว่าน่าสนุก แล้วพอมาอ่านบทแล้วก็เกิดชอบขึ้นมาด้วย อยากเล่น ก็เลยลองออซะเลย ปกติจะออแต่ฟิคดงบังค่ะ หุๆๆ ตื่นเต้นมากกับการออครั้งนี้เพราะไม่คุ้นกับบอร์ดนี้ ไม่รู้ว่าทำออกมาได้ดีมั้ย? แล้วจะถูกใจคนแต่งรึเปล่า? เพราะอ่านๆดูของตัวเองแล้ว มันดูจะแหวกเกินไปจนอาจแหวกมาจากที่คนแต่งตั้งไว้ด้วยซ้ำ พยายามสร้างอิมเมจให้ตัวละครตัวนี้ให้มีคาแร็คเตอริสติคที่โดดเด่นออกมาเต็มที่ จนอาจจะไม่ค่อยตรงกับที่วางเมเท่าที่ควร แต่ยังไงก็ช่วยพิจารณาด้วยเน๊ คืออยากให้ตัวละครสีสีสันแล้วก็อีกมุมในตัวเองน่ะค่ะ แหะๆ ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เชื่อว่าฟิคเรื่องนี้ต้องออกมาสนุกแน่ๆ แล้วจะรอผลอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ขอบคุณล่วงหน้ามากๆค่า ^^
2. ชื่อที่จะใช้ออดิชั่น :: Seo Momei (โซโมเม)
3. รูปร่างหน้าตา :: เด็กสาวร่างเพรียวผิวขาวสว่าง ผมยาวตรงสลวยเป็นมันเงาสีดำสนิท ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ขนตายาวงอนยิ่งเสริมให้ดวงตามีเสน่ห์ดึงดูดน่ามองอย่างหาคำตอบไม่ได้ จมูกโด่งรั้นเล็กๆและริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ สายตาสั้น 350 ปกติสวมคอนแท็คเลนส์ แต่ถ้าอยู่บ้านเฉยๆจะสวมแว่นกรอบเหลี่ยมทรงเฉี่ยวสีดำ
4. จะออดิชั่นเป็น? :: Donghae’s girl เปิดออ :: เป็นคนส่วนน้อยในโรงเรียนที่ไม่ละลายไปกับรอยยิ้มพิฆาตของดงแฮ แล้วเพราะด้วยการปฏิบัติตัวกับดงแฮปกติธรรมดาจึงทำให้เขารู้สึกไว้ใจเธอมากกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่น (ไม่นับแฮจินและคิบอม เกิร์ลที่อยู่กลุ่มเดียวกัน) ความสามารถของเธอคือคอมพิวเตอร์ กราฟฟิค นิสัยขี้เล่นและชอบแซวดงแฮเกี่ยวกับรอยยิ้มพิฆาตของเขาบ่อยๆ
5. ความสามารถพิเศษ (เพิ่มเติมจากที่นิกให้ไว้) :: ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะแหกกฏธรรมชาติที่คนเราทุกคนย่อมต้องรักสนุกและรู้จักหากิจกรรมรีแล็กซ์ที่ตัวเองรักทำไปได้ และไม่มีใครจะสามารถนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ตลอดปีตลอดชาติ สำหรับโมเม.. กิจกรรมโปรดที่เธอทำในยามว่างคือการเต้น ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษของเธอ ใครจะรู้ว่าภายใต้กรอบแว่นโฉบเฉี่ยวอันนั้นและท่าทางที่วันๆเอาแต่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ โมเมกลับมีอีกด้านซ่อนอยู่ เด็กสาวมักจะใช้เวลาช่วงเย็นๆไปกับการฝึกสเต็ปทั้ง ป๊อบ ร็อค ฮิพฮอพ เฮาส์ แจ๊ส โซล และละติน ของเธอจนชำนาญ.. แต่ถึงจะเก่งแค่ไหน เธอก็ไม่เคยนำมันออกมาวาดลวดลายให้ใครเห็นซักที สำหรับเธอมันเป็นเพียงแค่กิจกรรมยามว่างเท่านั้น แต่ถ้าใครคนอื่นมาเห็นล่ะ? มันจะเป็นยังไงกันนะ?
6. บทออดิชั่น ::
นาฬิกาข้อมือแนวสปอร์ตบนข้อมือเรียวเล็กของเด็กสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ในห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนส่งเสียงเตือนชั่วโมงบอกเวลา 17.00 น. เด็กสาวเหลือบมองอย่างร้อนใจแล้วสะบัดหน้าให้เส้นผมที่ลงมาปรกใบหน้าออกไปให้พ้นระยะสายตาแล้วตั้งหน้าตั้งตาเพ่งไลน์กราฟฟิคในโปรแกรมต่ออย่างรีบเร่ง
"อีกนิดเดียว.. โซโมเม อีกนิ๊ดดดดดดดเดียว.." เด็กสาวบ่นพึมพำๆกับตัวเองอย่างลุ้นๆแล้วเม้มปากอย่างใช้สมาธิ แดร็กเอาเลเยอร์ส่วนสุดท้ายเข้าไปผสานกัน เด็กสาวยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะกดเซฟผลงานชิ้นนั้นลงแฮนดี้ไดรฟ์ของเธอและก้อบปี้ไฟล์ใส่ฟล็อบปี้ดิสเพื่อเตรียมส่งให้กับอาจารย์ประจำวิชา
เด็กสาวชัทดาวน์คอมพิวเตอร์และหยิบเสื้อสูทตัวนอกของโรงเรียนขึ้นมาพาดบ่าอย่างทะมัดทะแม่งก่อนจะหยิบเป้ขึ้นมาสะพาย หยิบแฮนดี้ไดรฟ์และฟล็อบปี้ดิสออกมายิ้มๆอย่างภาคภูมิใจ แต่แล้วใบหน้าหวานก็มุ่ยลงเมื่อนึกถึงหน้าพาร์ทเนอร์ของเธอในโปรเจ็คนี้ที่ไม่เคยโผล่หัวหล่อๆมาช่วยเลยซักครั้ง
'แง่งงงงงงง.. แบบนี้มันหวังเกาะกันกินคะแนนอย่างเดียวนิหว่า แต่ก็เอาเห๊อะ.. ทำไงได้ล่ะ'
เด็กสาวขมวดคิ้วอย่างโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในใจก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงๆแล้วเดินออกจากห้องมา แต่เมื่อเด็กสาวเลื่อนบานประตูกระจกทึบออกก็ต้องพบกับร่างสูงของคนที่ตัวเองเพิ่งนึกด่าในใจไปเมื่อครู่ โมเมเบิกตากว้างงงๆอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
"ไหงทำหน้างั้นล่ะ เห็นชั้นนี่มันแปลกมากเลยเหรอ?" เด็กหนุ่มพูดยิ้มๆด้วยรอยยิ้มพิฆาตตามสไตล์ของเค้าที่ทำเอาสาวๆพากันคลั่งมานักต่อนัก แต่เด็กสาวตรงหน้ากลับเบ้ปากเซ็งๆ
'โคดแปลกเลยมากกว่า ไม่ใช่แค่แปลกหรอก - -' เด็กสาวนึกในใจ
"เปล่าหรอก แค่ตกใจ.. ตกใจมากกกกกกกกกกกก ที่เห็นพ่อเทพบุตรอย่างนายมีเวลาว่างจากหน้าที่แจกจ่ายรอยยิ้มให้มนุษยชาติมายืนป้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่นี่ได้น่ะ" โมเมตอบออกไปเชิงล้อๆและอดจิกกัดเด็กหนุ่มไม่ได้
"ง่า อะไรกัน ..นี่ชั้นนึกว่าเธอจะไม่เห็นชั้นเป็นแบบนั้นซะอีกนะ"
"เหยยยย.. ไม่เอาน่า อย่าพูดงั้นสิ ยังไงชั้นก็ไม่คิดจะพิสวาสรอยยิ้มนายขึ้นมาหรอก ว่าแต่มีอะไรรึเปล่า? ถ้าจะมาตามจิกงานที่ให้ชั้นทำแทนส่วนของนายด้วยล่ะก็ เสร็จแล้ว" เด็กสาวชูฟล็อบปี้ดิสขึ้นมา "..และชั้นก็กำลังจะเอามันไปส่งแล้วด้วย ไม่ต้องห่วง"
"ฮ่าๆๆ แล้วทำไมเธอต้องทำหน้าตาซิเรียสแบบนั้นด้วยเล่า เครียดมากๆระวังซิลิบลัมกับไฮโพทาลามัสในสมองมันทำงานกันสับสนหมดนะ" เด็กหนุ่มพูดกับเพื่อนสาวล้อๆ.. นี่แหละเสน่ห์อีกอย่างของเค้า น่ารักและมองโลกในแง่ดีจนใครๆก็พากันหลง
"ค่าๆ รับทราบค่ะ.. ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ เป็นปลื้มมากค่ะที่คุณอีดงแฮคนดังเจ้าของรอยยิ้มเทพบุตรและนิสัยดีโอบอ้อมอารีเป็นห่วงคนอื่นดุจเทวดาอุตส่าห์มาเทคแคร์ดิชั้น ดิชั้นนี่รู้สึกเป็นเกียรติม๊ากมากค่ะ ฮ่ะๆๆ" โมเมแกล้งลากเสียงอย่างหมั่นไส้แล้วก็ขำเอง เดินหัวเราะผ่านหน้าเด็กหนุ่มไปห้องพักครูประจำภาควิชาที่อยู่ข้างๆและเปิดประตูเข้าไปเอาฟล็อบปี้ดิสที่เขียนชื่อเธอและพาร์ทหน้าวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกมา
'โซโมเม & อีดงแฮ'
"นี่.. จะรีบเดินไปไหน เธอโกรธชั้นเหรอ? งอนอะไรชั้นรึเปล่าเนี่ย? ชั้นขอโทษจริงๆที่ไม่ได้ช่วยงาน พอดีชั้นก็มีงานอีกชิ้นที่ต้องทำเดี่ยวเหมือนกัน แต่พอดีว่าชั้นถนัดงานนั้นมากกว่าแล้วก็ไม่เก่งพวกกราฟฟิคด้วย ชั้นเลย.."
"..ขอให้เธอช่วยทำแทนชั้นทั้งหมดหน่อย" เด็กสาวพูดต่อให้ด้วยท่าทางเบื่อโลกอย่างประชดประชัน เพราะเด็กหนุ่มเฝ้าเพียรพูดประโยคนี้กรอกหูเพื่อขอร้องเธอตั้งแต่จับฉลากได้ทำโปรเจ็คคู่กันวันแรกๆ
"อ่า.. ก็ใช่ เธอก็รู้นี่นา.. แล้ว.. ทำไมยังทำเหมือนโกรธชั้นอยู่ล่ะ?" ดงแฮถามด้วยสีหน้าไม่สบายใจขณะเดินตามเด็กสาวออกมาจนถึงนอกโรงเรียน
"หน้าชั้นมันเป็นงี้อยู่แล้ว ชั้นไม่ได้โกรธนายหรอก ถ้าชั้นโกรธนายจริง ป่านนี้นายได้โดนน้องคัตเตอร์ในกระเป๋าชั้นปาดหน้าไปซักแผลสองแผลแล้ว.. เวลาโกรธหรือเกลียดใคร ชั้นทนอะไรไม่ได้นานหรอกนะ ฮ่ะๆ" เด็กสาวพูดอย่างไม่จริงจังอะไรพร้อมกับหัวเราะเบาๆในท้ายประโยค แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ
"ฮ่าๆๆ เหรอ? โหดแฮะ" เด็กหนุ่มพูดสั้นๆแล้วอมยิ้ม แอบชำเลืองมองเด็กสาวที่เดินสนอกสนใจทัศนียภาพรอบข้างมากกว่าตัวเอง.. ซึ่งเด็กสาวน้อยคนนักที่จะกล้าเมินอีดงแฮขณะที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่โชว์ความหล่อน่ารักกระชากใจได้แบบนี้ โมเมหันมามองหน้าเค้านิดหนึ่ง
"โหดแล้วกลัวมั้ยล่ะเนี่ยฮะ?" โมเมถามแล้วเอียงตัวเอาหัวไหล่กระแทกข้างลำตัวชายหนุ่มเบาๆอย่างขี้เล่น แต่ทำเอาเด็กหนุ่มอดมองเธอยิ้มๆไม่ได้ ดงแฮได้แต่อมยิ้มและไม่พูดอะไร.. แล้วจะให้ตอบยังไง ในเมื่อตอนนี้ชั้นกำลังรู้สึกว่าเธอน่าเข้าใกล้มากจนไม่อยากกลัวอะไรทั้งนั้นไปแล้ว
"รู้ว่าชั้นโหดก็ดี จะได้อยู่ห่างๆชั้นไว้ ชิ.. ว่าแต่นายจะเดินตามชั้นมาทำไม? นี่ชั้นกำลังจะกลับบ้านนะ กลับบ้านกลับช่องนายไปได้แล้วไป" เด็กสาวพูดต่อปัดๆเมื่อไม่เห็นเด็กหนุ่มคิดจะตอบอะไร ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาอีกทีซึ่งบอกเวลา 17.27 น.
"ก็.. เดี๋ยวเดินไปส่งบ้าน ถือว่าชดใช้ที่ไม่มีเวลามาสนใจโปรเจ็คที่ทำกับเธอเลย ซักนิดๆหน่อยๆก็ยังดี" พูดยิ้มๆ.. แต่เด็กหนุ่มก็รู้ตัวดีว่าคำตอบที่ตัวเองพูดไปไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่ทำให้ตัวเองเดินก้าวตามเด็กสาวคนนี้มาต้อยๆได้ แต่ด้วยเพราะเหตุผลอะไรซักอย่าง.. ที่ตัวเค้าเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม
"อือ ง่ายดีแฮะ.. แต่ก็เอาเหอะ บอกแล้วว่าชั้นไม่ได้ซิเรียสอะไร เข้าท่าดีเหมือนกัน มีหนุ่มจ้าวเสน่ห์ประจำโรงเรียนเดินไปส่งถึงบ้าน.." เด็กสาวพูดแล้วหันไปยิ้มมุมปากให้เด็กหนุ่ม ซึ่งก็เรียกรอยยิ้มจากเด็กหนุ่มข้างๆให้ยิ้มตามเธอไปได้อย่างไม่รู้ตัว
ดงแฮ.. เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่มีสาวๆพากันหลงใหลในรอยยิ้มเทพบุตรของเค้าอย่างที่เด็กสาวพูดจริงๆ แต่เด็กสาวที่ว่านั่นโดยคิดเฉลี่ย 99.99% ไม่มี โซโมเม รวมอยู่ในนั้น เธอเป็นเด็กสาวที่ไม่ค่อยจะสนใจอะไรนักนอกจากคอมพิวเตอร์และอะไรบางอย่างที่เธอรัก.. ถือเป็นโชคดีของดงแฮไปที่เค้าจับฉลากได้มาเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำโปรเจ็คนี้ เพราะนอกจากเธอจะเก่งและเชี่ยวชาญด้านกราฟฟิคดีไซน์สุดๆแล้ว เธอยังไม่ใช่พวกที่ชอบนั่งตาหวานเยิ้มมองเค้าตาละห้อยแบบที่เค้ากลัวแสนกลัวซะด้วย..
และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น.. โมเมมีอะไรอีกหลายอย่างที่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเธอน่าค้นหามากเลยทีเดียว
เด็กหนุ่มและเด็กสาวเดินไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันมากนักเพราะโมเมที่เอาแต่สนใจวิวริมฝั่งถนนมากกว่า และเพราะดงแฮที่เอาแต่แอบชำเลืองใบหน้าหวานนั้นอยู่เงียบๆ จนกระทั่งถึงบ้านสไตล์อเมริกันสีเทาสไตล์การ์เดนโฮมหลังนึงกลางๆซอย.. เด็กสาวก็หยุดเดิน
"นี่บ้านเธอเหรอ?" เด็กหนุ่มหยุดเดินแล้วเลิ่กคิ้วถาม
"อ่าฮะ ถึงบ้านชั้นแล้ว" เด็กสาวหันมาพูด
"งั้นก็.. อ่า.. บายนะ" เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทางเก้ๆกังๆยิ้มๆ
"โอเค บ๊ายบาย แล้วเจอกัน" เด็กสาวพูดแค่นั้นแล้วยิ้มตาปิดยกมือขึ้นบ๊ายบายให้เด็กหนุ่มนิดหนึ่งแล้วหันหลังผลักประตูที่อยู่ระหว่างรั้วเข้าบ้านไป ดงแฮยืนอยู่ตรงนั้นแล้วก้มลงยิ้มกับตัวเอง นึกถึงรอยยิ้มของเด็กสาวที่เพิ่งเดินเข้ารั้วบ้านไป..
"ดงแฮ.. นายคิดอะไรอยู่น่ะ ฮะๆ" เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองยิ้มๆแล้วเดินทอดน่องออกห่างจากตัวบ้านมา
โมเมเปิดประตูเข้ามาในบ้านที่ไม่มีใครอยู่เพราะพ่อของเธอเสียไปแล้วและแม่ที่ยังไม่กลับจากทำงานแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้วโยนกระเป๋าเป้ลงไปส่งๆบนเก้าอี้เขียนหนังสือแล้วเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า หยิบชุดชุดหนึ่งขึ้นมาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนอย่างเคยชิน
โมเมเดินออกมาจากห้องน้ำและสะบัดปลายผมยาวทีหนึ่งก่อนจะคว้ายางรัดผมบนโต๊ะคอมใกล้ๆขึ้นมาแล้วมัดเป็นมวยแน่นๆแต่สบายๆง่ายๆแล้วเปิดประตูก้าวออกมาจากห้องส่วนตัว โมเมเดินผ่านห้องรับแขกไปห้องกระจกโล่งๆข้างๆกันแล้วใช้ปลายนิ้วไล่หาแผ่นซีดีที่เรียงอยู่มากมายในกล่องเร็วๆ
"..Shakira" เด็กสาวมองแผ่นซีดีที่หยิบขึ้นมาแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะหมุนตัวกลับไปยัดแผ่นซีดีเข้าไปในเครื่องเล่นแล้วเปิดลำโพงลั่นให้สะใจตัวเอง.. ให้สมกับที่เครียดมาทั้งวัน
เสียงเพลงสไตล์ละตินมันส์ๆดังขึ้นมา เด็กสาวเอี้ยวตัวลงกับพื้นจนเป็นรูปตัวยูกลับหัวแล้วเด้งตัวกลับขึ้นมาแล้วเริ่มวาดสเต็ปเท้ากับพื้น พร้อมๆกับยักเอวสไตล์สาวละตินอย่างออกรส
..เป็นเวลาเดียวกับที่จู่ๆดงแฮเกิดมีอะไรมาดลใจให้เค้าเดินกลับมาที่ประตูบ้านสไตล์อเมริกันสีน้ำเงินหลังนี้อีกครั้งอย่างหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองไม่ได้ และเสียงเพลง hips don't lie ที่ดังลั่นอยู่นั้นก็ทำให้ดงแฮอดสงสัยไม่ได้.. เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในบริเวณบ้านแล้วเดินไปหาต้นเสียงที่มาจากห้องกระจกเงียบๆ
I never really knew that she could dance like this
She makes a man wants to speak Spanish
Como se llama, bonita, mi casa, su casa
Shakira, Shakira
Oh baby when you talk like that
You make a woman go mad
So be wise and keep on
Reading the signs of my body
And I won't deny
You know my hips don't lie
And I'm starting to feel it's right
All the attraction, the tension
Don't you see baby, this is perfection
เด็กหนุ่มมองผ่านกระจกใสเข้าไป.. เด็กสาวท่าทางไม่สนใจใครนอกจากหน้าจอมอนิเตอร์ที่เดินมาข้างๆเค้าเมื่อครู่ ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อผ้ายืดครึ่งตัวเปิดเอวสีเทากับกางเกงวอร์มผ้าร่มสีดำ เอวบางๆแต่แข็งแรงอย่างเห็นได้ชัดเพราะสังเกตได้จากท่าเต้นสไตล์ละตินที่เด็กสาวยักเอวอย่างเร่าร้อนเมามันส์กับเสียงเพลง และการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ราวกับว่าทุกท่าเต้นและการเคลื่อนไหวนั้นมีชีวิตและสื่อออกมาเป็นความรู้สึกเป็นอีกภาษาได้ทำเอาเด็กหนึ่งยืนตาค้างอย่างอึ้งๆ เด็กสาวเอื้อมมือแกะยางรัดผมที่รวบผมยาวสลวยของเธออยู่ออกและสะบัดแรงๆตามจังหวะเพลงก่อนจะเต้นต่อราวๆกับเสียงเพลงและร่างกายของเธอรวมกันเป็นหนึ่งและมีแต่เธอกับเสียงเพลงเท่านั้นบนโลกใบนี้
Oh boy, I can see your body moving
Half animal, half man
I don't, don't really know what I'm doing
But you seem to have a plan
My will and self restraint
Have come to fail now, fail now
See, I am doing what I can, but I can't so you know
That's a bit too hard to explain
Baila en la calle de noche
Baila en la calle de dํa
Baila en la calle de noche
Baila en la calle de dํa
เด็กหนุ่มยืนค้างอยู่อย่างนั้นราวกับถูกการเคลื่อนไหวนั้นสะกดให้ต้องมนต์จนกระทั่งเสียงเพลงสไตล์ละตินเร่าร้อนจบลง โมเมหยิบยาวรัดผมขึ้นมารวบผมแล้วเดินเข้าไปกดเปลี่ยนเพลง แต่เสียงเพลงที่หยุดลงก็เรียกสติของดงแฮที่หลุดลอยไปสู่อีกภวังค์กลับมาด้วย เด็กหนุ่มหันหลังก้าวฉับๆออกมาเงียบๆ ความคิดตอนแรกที่กะว่าจะมาขอก็อบปี้ไฟล์โปรเจ็คไปดูที่บ้านหายไปหมดสิ้น เด็กหนุ่มเดินออกมานอกรั้วประตูบ้านแล้วหายใจเข้าลึกๆก่อนจะถอนหายใจกับตัวเองออกเร็วๆ
"ฮู่ว.. นั่น.. ยัยโซโมเมคนเมื่อกี๊จริงเหรอ.." ดงแฮพูดกับตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มๆ ภาพของเด็กสาวเมื่อครู่ทั้งในเวลาที่ดูปกติธรรมดาซะเหลือเกิน และในเวลาที่มาพร้อมกับท่าทางร้อนแรงตอนที่ขยับร่างกายไปตามจังหวะเพลงตีกันเต็มหัวไปหมดจนเด็กหนุ่มต้องสะบัดหัวไล่ออกไป โดยที่ไม่รู้ตัว.. ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวของดงแฮ
'..เห็นทีชั้นคงต้องสนใจเธอให้มากกว่านี้แล้วล่ะ โซโมเม'
1 week later
บนถนนยามค่ำคืนที่ไม่รู้จักหลับใหลของนักท่องราตรี เด็กสาวในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีเทากับกางเกงยีนส์ยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้าผับที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นทั้งนักเรียน ม.ปลาย และเด็กมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่ง โมเมจำต้องออกมาที่นี่ เพราะพาร์ทเนอร์งี่เง่าของเธอส่งเมสเสจมาบอกว่าเค้าต้องการจะเอาใบคะแนนพร้อมคอมเมนท์จากอาจารย์มาให้เธอที่นี่ ตอนนี้.. ซึ่งโมเมก็ได้แต่ถามตัวเองอย่างไม่เข้าใจว่า ทำไม?
'..ทำไมต้องที่นี่ตอนนี้วะ.. งี่เง่าเอ๊ย'
เด็กสาวยืนหมุนไปหมุนมามองหาเด็กหนุ่มที่นัดตัวเองไว้ ไม่นานนักร่างสูงของดงแฮก็เดินตรงมาจากถนนอีกฝั่ง
"ไง รอนานมั้ย? นี่ชั้นไม่เลทนะ เธอมาก่อนเวลา.." ดงแฮพูดขึ้นทันทีที่มาถึง
"เออย่ะ ชั้นรู้แล้วว่าชั้นมาก่อนเวลา เพราะชั้นไม่อยากกลับดึก ที่บ้านไม่มีใครอยู่ เลยอยากกลับไปเร็วๆ มาแล้วก็ดี เอาใบคะแนนมา ชั้นจะได้กลับ" โมเมพูดสั้นๆอย่างรวบรัด เด็กสาวเองก็อดหงุดหงิดไม่ได้ที่ต้องมายืนรออย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้.. โดยเฉพาะในที่แบบนี้ ที่เธอไม่เคยมา
"อ่า.. ไม่มีใครอยู่สิดี จะได้ไม่มีใครเป็นห่วงถ้าเธอหายตัวไป อย่าเพิ่งรีบกลับเลย ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว เข้าไปข้างในกันหน่อยดีกว่า" ดงแฮพูดแล้วคว้าแขนเด็กสาวขึ้นมาแล้วลากร่างบางๆนั้นเข้าไปข้างในทันที โมเมได้แต่ร้องโวยวายอย่างงงๆ ในขณะที่ดงแฮไม่มีทีท่าว่าสนใจเลย
บรรยากาศภายในที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนและเสียงดนตรีเซอร์ราวด์รอบทิศกลบเสียงโมเมที่โวยวายให้ดองเฮปล่อยแขนเธอออกสนิท แต่โมเมก็ยังคงทั้งดิ้นทั้งสะบัดแขนออกไม่หยุด ..ดงแฮลากแขนเด็กสาวเข้ามาด้านในจนถึงจุดที่มีผู้คนแน่นขนัดเบียดกันไปหมด โมเมเบ้หน้าอย่างนึกรำคาญก่อนจะสะบัดแขนออกเต็มแรง
"อะไรของนาย! ประสาทกลับเหรอ! ลากชั้นมานี่ทำไม!" โมเมตะโกนสุดเสียงเพื่อสู้กับเสียงดนตรีที่ดังสะเทือนแก้วหูทันทีที่ท่อนแขนเรียวของเธอหลุดออกจากฝ่ามือของดงแฮได้
"พามากระชากจิตวิญญาณของเธอออกมาไง!" ดงแฮตอบกลับด้วยท่าทีมุ่งมั่นและยิ้มกว้างกับบรรยากาศคึกคัก โมเมยืนอึ้งๆอย่างไม่เข้าใจ
"หมายความว่าไง? จิตวิญญาณบ้าบออะไร แล้วทำไมต้องที่นี่? นายบอกชั้นว่านายจะเอาใบคะแนนมาให้ชั้นแค่นั้นไม่ใช่เหรอไง มันอยู่ไหน เอามานี่!" โมเมที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นโต้กลับ แต่ชายหนุ่มกับอมยิ้มที่มุมปากอย่างไม่สนใจ
"ชั้นเชื่อว่าเธอรู้อยู่กับตัวเธอเองดี.. โซโมเม" ดงแฮพูดแค่นั้นแล้วเดินหันหลังไปที่โซนดีเจแล้วพูดกับดีเจด้วยท่าทางยิ้มๆ โมเมยืนขมวดคิ้วกอดอกอย่างไม่พอใจอยู่ที่เดิม
"ชั้นต้องการคำอธิบายที่เคลียร์กว่านี้!" โมเมกระชากเสียงพูด แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาก็แค่รอยยิ้มของดงแฮเท่านั้น
"..เรื่องใบคะแนนนั่นน่ะ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรก็ได้"
"อีดงแฮ! ชั้นยังไม่อยากมีเรื่องหรือเป็นศัตรูกับนายนะ! ถ้านายไม่พูดและไม่มีใบคะแนนให้ชั้น ชั้นก็จะกลับ!" โมเมพูดแล้วตั้งท่าจะหันหลังเดินกลับออกไปที่ประตู แต่ข้อมือขาวกลับถูกฝ่ามือเรียวของเด็กหนุ่มคว้าไว้ซะก่อน นั่นยิ่งทำให้โมเมกำลังจะระงับอารมณ์ขั้นสุดท้ายที่กักไว้ไม่อยู่.. โมเมผู้ไม่เคยสนใจในความน่ารักของดงแฮ และพร้อมจะเป็นศัตรูกับเค้าได้เสมอหากเค้ายังคงกระทำเช่นนี้ต่อ
โมเมสะบัดหน้ากลับมาหาดงแฮอย่างโมโห แต่ก่อนที่เด็กสาวจะทันได้พูดอะไรโต้กลับการกระทำของเด็กหนุ่มไป ดงแฮก็ดึงเสื้อโค้ทตัวนอกของโมเมออกจนเหลือแค่เสื้อสายเดี่ยวแนบเนื้อสีขาว แล้วยื้อเสื้อโค้ทสีเทานั่นมาไว้ในมือ โมเมเบิกตากว้างกับการกระทำนั้นอย่างช็อคๆเพราะคาดไม่ถึง
พอดีกับที่เสียงเพลงสไตล์เรกเก้ฮิพฮอพจบลง และกลายเป็นเพลงละตินคุ้นหูของศิลปินสาวชื่อดังขึ้นมาแทนที่ ดงแฮไม่รอให้โมเมพูดอะไร เด็กหนุ่มควาแขนเด็กสาวยื้อมากลางวงที่มีนักเต้นเท้าไฟกำลังโชว์สเต็ปวาดลวดลายกันอยู่ก่อนจะรั้งตัวเด็กสาวเข้ามาใกล้แล้วก้มลงกระซิบข้างหู..
"ชั้นรู้ว่าเธอทำได้.. เต้นให้ทุกคนดูแบบที่ชั้นเห็นวันนั้นทีนะ"
ดงแฮปล่อยมือเด็กสาวและเหวี่ยงร่างบางเข้าไปกลางวงทันที เด็กสาวรั้งเท้าตัวเองด้วยสเต็ปแบบละตินไม่ไห้ตัวเองเซไม่เป็นท่าเข้ามากลางวงแล้วหยุดยืนอย่างอึ้งๆตัวเองก่อนจะสบตาผู้คนรอบๆที่ส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามันส์และสีหน้าสนุกสุดเหวี่ยง โมเมกลั้นหายใจหายใจเข้าลึกๆ..
'..เข้าใจทำนี่ ถึงขั้นนี้แล้ว ชั้นคงเดินก้มหน้างุดๆออกไปไม่ได้แล้วนี่นะ'
แล้ววิญญาณของสาวละตินก็วิ่งเข้ามาในร่างของโมเมอีกครั้ง เหมือนๆกับวันนั้น และเผลอๆอาจมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว.. เพราะเสียงเพลงที่ราวกับดังก้องอยู่ในหัว.. และผู้คนรอบๆกาย.. เด็กสาวสะบัด ยัก โยก หมุนอย่างได้อารมณ์ด้วยการเคลื่อนไหวที่มีเสน่ห์ราวกับสาวผิวสีจนโดดเด่นอยู่คนเดียวกลางวง เสียงเชียร์รอบๆตัวดังขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเสียงเพลงจบลง โมเมหอบหายใจเหนื่อยๆแล้วหันไปมองรอบๆตัวก่อนจะยิ้มออกมาที่มุมปาก แล้วเดินออกมา
ดงแฮยืนกอดอกยิ้มๆรอเธออยู่แล้ว..
"เจ๋งซะยิ่งกว่าเมื่อวันก่อนอีกนะ" เด็กหนุ่มพูดขึ้นเมื่อเด็กสาวทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
"อะเหรอ?.. แต่วันนั้นนายกลับไปแล้วไม่ใช่รึไง? แล้วนาย..?"
"พอดีว่าจะขอก็อบไฟล์งานมาจากเธอ แต่พอดีไปเจออะไรที่ช็อคๆซะก่อน ฮ่าๆ"
"จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ?" เลิ่กคิ้วถามกวนๆ
"ก็ไม่เชิง.. แต่พอเห็นแล้วมันก็ละสายตาไปไม่ได้แค่นั้น" ดงแฮพูดอย่างไม่ทันคิด.. แล้วก็ต้องนั่งนิ่งทันทีเมื่อรู้ตัวว่าหลุดปากพูดอะไรออกไป ในขณะที่โมเมเองก็นั่งนิ่งราวกับลืมวิธีหายใจ แล้วความเงียบก็เข้าคั่นกลางระหว่างคนสองคน ทั้งที่เสียงเพลงดังสนั่นก็ยังถูกเล่นอยู่
"เอ่อ.. งั้น แค่นี้สินะที่นายอุตส่าห์เรียกชั้นออกมาวันนี้ ถ้างั้นก็เอาใบคะแนนมาได้แล้ว ชั้นจะกลับบ้าน" ในที่สุดโมเมที่เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาซะก่อนด้วยประโยคเรียบๆที่ฟังดูตื้อๆตันๆ เพราะถ้าปล่อยให้นิ่งกันมากไปกว่านี้.. ความรู้สึกบางอย่างอาจพากันแทรกเข้ามาหาไม่ใครก็ใครก็ได้.. เด็กสาวรีบลุกขึ้นยืนแล้วคว้าเสื้อโค้ทสีเทาของเธอที่วางอยู่ข้างๆตัวดงแฮขึ้นมาสวม
"อื้อ แค่นี้แหละ.. แต่ว่า ชั้นก็อยากจะให้เธอเข้าใจอย่างนึงนะ.. ที่ชั้นทำแบบนี้ ก็เพราะว่าอยากให้เธอได้แสดงถึงอะไรอีกอย่างที่มันแฝงอยู่ในตัวเธอออกมาซักที เพราะเธอทำมันได้ดี.. ดีมากซะด้วย ชั้นเชื่อมั่นในตัวเธอนะ.. เชื่อว่าถ้าเธอกล้าจะแสดงมันออกมา เธอจะทำมันออกมาได้ยอดเยี่ยมที่สุดยิ่งกว่าทุกๆคนด้วยซ้ำ พิสูจน์ตัวเองให้ได้เร็วๆล่ะ ชั้นจะรอดู.. อย่าให้คนอื่นเค้าเห็นว่าเธอเป็นแค่ยัยแว่นที่เอาแต่สนใจคอมพิวเตอร์เลย แบบนั้นมันจืดชืดไปหน่อย ระวังจะหาแฟนไม่ได้เอานะ.." ดงแฮพยายามเปลี่ยนรูปประโยคของตัวเองให้กลายเป็นความรู้สึกของเพื่อนที่อยากให้กำลังใจเพื่อนแบบขำๆ เพื่อกลบเกลื่อนประโยคที่เพิ่งพูดไปเมื่อก่อนหน้านี้แล้วอมยิ้มมุมปากให้เด็กสาว ก่อนจะหยิบใบคะแนนที่ใส่มาในแฟ้มออกมาจากเป้แล้วยื่นให้ โมเมรับมาแล้วก้มหน้าลงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดตอบกลับไป
"ขอบคุณมาก.. งั้นชั้นควรจะภูมิใจสินะ ที่อีดงแฮอุตส่าห์มาเป็นห่วงเป็นใยชีวิตส่วนตัวซะขนาดนี้.. ไว้ไงก็.. ไว้เจอกันที่โรงเรียนแล้วกัน บาย" โมเมพูดแค่นั้นแล้วรีบก้าวฉับๆเอียงตัวหลบดงแฮและผู้คนภายในผับออกไป ทิ้งดงแฮไว้ให้ยืมยิ้มกับตัวเองบางๆอีกครั้ง..
เด็กหนุ่มก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจเบาๆ.. ดงแฮเองก็ยังไม่รู้ตัวและไม่แน่ใจเหมือนกันกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดออกไป ครุ่นคิดวนซ้ำไปซ้ำมา..ทำไมถึงละสายไปไม่ได้? แล้ว.. ที่พูดไปเมื่อกี๊ เพียวเพราะแค่อยากจะให้กำลังใจเด็กสาวเหมือนๆกับที่ชอบให้กับคนอื่น หรือเพราะ.. ต้องการจะกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเองกันแน่นะ?
'ก็ไม่เชิง.. แต่พอเห็นแล้วมันก็ละสายตาไปไม่ได้แค่นั้น'
'ชั้นเชื่อมั่นในตัวเธอนะ..'
'พิสูจน์ตัวเองให้ได้เร็วๆล่ะ ชั้นจะรอดู..'
'ระวังจะหาแฟนไม่ได้นะ..'
จู่ๆคำพูดเหล่านี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้งขณะที่โมเมกำลังยืนรอรถประจำทางกลับบ้าน.. ท่ามกลางผู้คนมากมาย เด็กหนุ่มกำลังสร้างความรู้สึกแปลกใหม่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจของเธอทีละน้อย โดยที่ทั้งคู่เอง.. ก็อาจยังไม่มีใครได้ทันรู้ตัว
'ให้ตายเถอะ แล้วนายจะมาสนใจอะไรชั้นเล่า นี่มันเรื่องส่วนตัวแท้ๆ.. เหอะ พ่อรอยยิ้มเทพบุตร นายอีดงแฮ นายคิดอะไรอยู่.. นายคิดอะไรของนายอยู่กันนะ.. ชั้นอยากรู้จริงๆ..'
7. บทสำรองถ้าไม่ได้เล่นบทหลัก :: ไม่ขอรับบทไหนเลยค่ะ เลือกแค่บทนี้บทเดียวเท่านั้น..
อ่า.. จะบอกว่าเพิ่งเคยออฟิคซูจูครั้งแรกเลยค่ะ ไม่เคยออมาก่อนเลย อ่านๆบทออของตัวเองดูแล้วก็รู้สึกจะยาวกว่าของชาวบ้านชาวเมืองปกติพอสมควร 55 มาออฟิคเรื่องนี้เพราะเพื่อนแนะนำมาค่ะ ว่าน่าสนุก แล้วพอมาอ่านบทแล้วก็เกิดชอบขึ้นมาด้วย อยากเล่น ก็เลยลองออซะเลย ปกติจะออแต่ฟิคดงบังค่ะ หุๆๆ ตื่นเต้นมากกับการออครั้งนี้เพราะไม่คุ้นกับบอร์ดนี้ ไม่รู้ว่าทำออกมาได้ดีมั้ย? แล้วจะถูกใจคนแต่งรึเปล่า? เพราะอ่านๆดูของตัวเองแล้ว มันดูจะแหวกเกินไปจนอาจแหวกมาจากที่คนแต่งตั้งไว้ด้วยซ้ำ พยายามสร้างอิมเมจให้ตัวละครตัวนี้ให้มีคาแร็คเตอริสติคที่โดดเด่นออกมาเต็มที่ จนอาจจะไม่ค่อยตรงกับที่วางเมเท่าที่ควร แต่ยังไงก็ช่วยพิจารณาด้วยเน๊ คืออยากให้ตัวละครสีสีสันแล้วก็อีกมุมในตัวเองน่ะค่ะ แหะๆ ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เชื่อว่าฟิคเรื่องนี้ต้องออกมาสนุกแน่ๆ แล้วจะรอผลอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ขอบคุณล่วงหน้ามากๆค่า ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น