ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : :: Audition เฉพาะกิจ * นางเอกซองมิน ::
ภายใต้แสงสีวูบวาบในฮอลล์ขนาดใหญ่ ผู้คนมากมายพากันเบียดเสียดยัดเยียดตัวเองไปด้านหน้าพร้อมๆกับส่งเสียงกรี๊ดแข่งกับเสียงที่ดังก้องออกมาจากลำโพงเซอร์ราวด์รอบทิศ ทุกคนต่างเชิดหน้าแหงนมองขึ้นไปบนเวทีอย่างตื่นเต้น เว้นเสียแต่.. เด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังเอามือสองข้างปิดหูตัวเองพร้อมๆกับหลับตาแน่นหลบแสงไฟสว่างจ้าที่สาดเข้ากระทบเปลือกตาเป็นระยะๆ ราวกับกำลังสกัดกั้นอารมณ์ที่พร้อมจะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ
"โมเม.. โมเม!!" เสียงหวานใสคุ้นหูดังฝ่าเสียงกรี๊ดและเสียงเพลงที่ดังก้องฮอลล์ขึ้นมา เรียกให้เด็กสาวที่หลับหูหลับตาอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมามอง
"เป็นอะไรรึเปล่า.. ไหวมั้ย!?" เสียงใสๆของเพื่อนสาวที่พยายามป้องปากคุยกับเด็กสาวเอ่ยถามเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง
"อ่า ไม่เป็นไร.. เรายังพอโอเค" โมเมฝืนตอบออกไป ทั้งที่เด็กสาวกำลังรู้สึกอยากจะหายตัวออกไปจากตรงนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด.. นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอึนฮาเพื่อนรัก คงไม่มีทางได้เห็น โซโมเม มายืนอยู่ท่ามกลางเหล่าแฟนคลับอย่างที่เป็นอยู่นี่แน่ๆ
แสงไฟสีขาวสาดคลุมทั่วบริเวณฮอลล์ พร้อมๆกับเสียงเพลงอลังการที่ใช้ในฉากโอเพ่นนิ่งของคอนเสิร์ตค่อยๆกลืนหายไป เปลี่ยนเป็นเสียงเพลงแนวป๊อบแดนซ์ดังกระหึ่มขึ้นมาแทนที่ เสียงกรี๊ดที่ดังอยู่แล้วทวีคูณมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แรงเบียดเสียดยัดเยียดเหมือนร่างของคนทั้งหมดจะหลอมเข้าด้วยกันได้ทำเอาร่างของเด็กสาวเซถลาไปข้างหน้าอย่างตั้งท่าไม่ติด
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ซองมิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน"
เสียงกรีดร้องอาณุภาพร้ายแรงเพียงพอที่จะทำลายระบบประสาทถูกกรอกใส่หูของโมเมในระยะประชิดที่ห่างเพียงแค่หลังกกหู โมเมปิดเปลือกตาลงประกบกันแน่นเมื่อเสียงที่ว่านั้นดังแทรกทะลุขึ้นไปแล่นจี๊ดถึงสมองจนสติชาวาบไปชั่วครู่ ก่อนที่เด็กสาวจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างมึนๆงงๆแล้วหันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียงกรี๊ดนั้น
แต่สิ่งที่โมเมหันไปพบ.. คือเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธอคนหนึ่งที่อยู่ในชุดกระโปรงปักระบายลูกไม้สีขาวตามแบบฉบับนีโอโลลิต้า และที่โดดเด่นสะดุดตา คือหูกระต่ายยาวยืดที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนหัว
'..ประสาทใหญ่แล้ว ยัยนี่สับสนรึไงว่าตัวเองมาคอนเสิร์ตหรือมางานคอสเพลย์กันแน่ จะแต่งให้มันรุ่มร่ามรุงรังไปทำไม ใครเค้าจะมาสนใจมองกัน คิดว่าไอ้พวกที่ยืนเต้นแด๊กๆกันอยู่บนเวทีนั่นมันจะมองลงมาเห็นรึไง ยัยติ๊งต๊องเอ๊ย..'
โมเมคิดกับตัวเองในใจ และตั้งท่าจะอ้าปากต่อว่ายัยโลลิต้าบันนี่นั่นซักหน่อย แต่แล้วเด็กสาวก็ต้องอ้าปากค้างเติ่ง เมื่อสมองถูกความรู้สึกจี๊ดแล่นปรี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสัมผัสของรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งบดลงมากับหลังเท้าแบบเต็มแรง โมเมก้มตัวลงต่ำเพราะความเจ็บจนน้ำตาเล็ด เด็กสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเงยหน้าไล่น้ำใสๆที่กลิ้งเอ่ออยู่กับขอบตาให้ไหลออกไปให้พ้น ก่อนจะมองไปที่ร่างผู้เป็นเจ้าของรองเท้าแก้วส้มแหลมเบื้องหน้า
แล้วโมเมก็ต้องช็อค! เมื่อร่างที่อยู่เบื้องหน้าเธอนั้นคือซินเดอเรลล่าเต็มตัวของแท้ อาจเป็นเพราะโมเมไม่ทันได้สังเกตแต่แรกหรือเพราะยัยซินเฉพาะกิจนี่เพิ่งเบียดเสียดขึ้นมายืนตรงจุดนี้ได้ก็ไม่แน่ใจ แต่ที่โมเมกำลังเห็นอยู่ตรงหน้านั้น คือชุดประโปรงพองพลิ้วผ้าใยแก้วสีฟ้าสดใส และเทียร่าเล็กๆที่ถูกวางไว้อย่างเข้ากันบนเรือนผมที่เกล้าไว้เป็นมวยสวยงาม
'..ซินเดอเรลล่าเนี่ยนะ บ้า บ้าแล้ว มันคอนเซ็ปต์บ้าบออะไรกันเนี่ย ใส่ชุดซินเดอเรลล่ามาดูคอนเสิร์ตเนี่ยนะ ชั้นจำได้ว่าอึนฮาชวนชั้นมาดูคอนเสิร์ตไม่ใช่รึไง แต่นี่ทำไมมันกลายเป็นปาร์ตี้คอสเพลย์ไปได้ ให้ตายเหอะ งี่เง่า งี่เง่าที่สุด!..'
โมเมคิดอย่างเกรี้ยวกราดในใจ และชั่งใจรอให้ยัยซินตรงหน้านี่ยกรองเท้าแก้วของเจ้าหล่อนออกจากเท้าตัวเองไปซักที แต่เมื่อความเจ็บยังคงเด่นชัดอยู่ในมโนสำนึก และความเจ็บแล่นจี๊ดขึ้นมาจนถึงขีดสุด สติของโมเมก็หลุดลอยไปพร้อมๆกัน และนั่นทำให้เด็กสาวออกแรงผลักร่างตรงหน้านั่นไปแรงๆเสียทีหนึ่ง แล้วยกเท้าออกมาจากใต้ส้นรองเท้าแก้ว ก่อนจะกระแทกร่างนั้นออกไปให้พ้นตัว โดยที่ไม่สนใจอีกแล้วว่ายัยซินเดอเรลล่านั่นจะเซถลาล้มลงไปหน้าทิ่มกับพื้นหรืออะไรยังไง โมเมหอบหายใจฟึดฟัดอยู่ภายใต้ความอึดอัด แล้วตะโกนฝ่าคลื่นแฟนคลับไปหาอึนฮาที่ยังคงสนใจการแสดงบนเวทีรัวๆเร็วๆ
"เราไปก่อนนะอึนฮา!! เสร็จแล้วค่อยโทรบอกเราแล้วกัน เราจะออกไปข้างนอกแล้ว!!"
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา..!!"
โมเมปล่อยเสียงร้องออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อแข้งขาพากันทรุดลงกับพื้นหลังจากผ่านการวิ่งมาในระยะทางที่ไกลเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ร่างบางหอบหายใจเหนื่อยอ่อน ที่วิ่ง ก็เพราะรู้แค่ว่าต้องวิ่ง สองขาถูกสัญชาติญาณภายในสั่งให้ออกวิ่งทันทีที่ก้าวพ้นประตูทางออกมาได้ ความกดดัน ความอึดอัด ที่เหมือนจะทำให้ร่างแหลกสลายอยู่ในฮอลล์นั้นค่อยๆถูกแรงลมที่พัดมาปะทะใบหน้าชะออกไปตลอดระยะทางที่วิ่งมา
เสียงกรี๊ดโหยหวนน่าหนวกหู แรงเบียดเสียดน่าอึดอัด รวมไปทั้งอะไรต่อมิอะไรที่งี่เง่าข้างในนั่น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ โซโมเม เกลียดเป็นที่สุด ทุกสิ่งที่อยู่ข้างใน.. ซึ่งเหมารวมไปถึงกลุ่มบอยแบนด์ที่ยืนร้องๆเต้นๆกันอยู่บนเวทีนั่นด้วย แต่น่าแปลก.. ที่โมเมกลับเป็นเพื่อนสนิทของอึนฮา เด็กสาวที่ตรงข้ามกับเธอทุกอย่าง รวมไปทั้งความชอบของอึนฮาที่โปรดปรานการดูคอนเสิร์ตของศิลปินบอยแบนด์กลุ่มนี้ที่เธอรักมากที่สุด ซึ่งนั้นคือสาเหตุที่ทำให้โมเมต้องทนตามมาด้วย เพราะคำขอร้องของอึนฮา และความเป็นห่วงเพื่อนที่ยังอ่อนต่อโลกอย่างอึนฮานั่นเอง
โมเมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืน แล้วเงยหน้าขึ้นสูดหายใจเข้าลึกๆหลายครั้ง เพื่อรับเอาอากาศบริสุทธิ์และไอเย็นของเวลากลางคืนให้ดูดซับเข้าสู่ปอด ก่อนจะเดินวนไปวนมาอย่างอึดอัด.. ถ้านี่เป็นที่บ้าน โมเมคงได้อาละวาดใส่อะไรซักอย่างจนบ้านพังไปแล้ว
ไม่ใช่เพราะเด็กสาวเป็นคนโมโหร้ายเกรี้ยวกราดอะไร.. ที่จริงแล้วโมเมแทบไม่เคยแสดงอาการโกรธให้ใครเห็นเลยซักครั้ง สิ่งที่คนอื่นจะเห็น ก็คงจะมีแต่สีหน้าเรียบเฉยของเด็กสาวเท่านั้น หรืออย่างดีที่สุดก็แค่รอยยิ้มบางๆ ส่วนถึงแม้แต่ในเวลาโกรธ.. โมเมก็ยังคงเก็บอาการไว้ด้วยท่าทางสงบนิ่งเสมอ.. ทั้งที่เบื้องหลังนั้น นั่นทำให้เด็กสาวเก็บกักอะไรเอาไว้มากมาย และนั่นทำให้กลายเป็นว่า โมเม มักจะใช้การระบายออกทางอารมณ์ที่รุนแรงกว่าคนปกติคนอื่นๆ
แต่เพราะที่นี่มันไม่ใช่ที่บ้าน โมเมจึงเดินเหมือนหนูติดจั่นอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะสายตาจะเหลือบไปเห็นต้นไม้ต้นหนึ่ง โมเมหยุดนิ่งมองมันด้วยสายตาที่เหมือนจะลุกโชติช่วงไปด้วยอารมณืที่อัดแน่น เด็กสาวควักคัตเตอร์เหล็กสีเงินที่พกไว้ตลอดเวลาให้กระเป๋ากางเกงยีนส์สามส่วนขาเดปขึ้นมา แล้วดันใบคัตเตอร์ขึ้นอย่างเร็วๆ ก่อนที่จะ.. ก้าวเข้าไปกระหน่ำฟันใบไม้และกิ่งไม้เล็กๆนั่นให้หลุดออกจากต้น
"ไอ้พวกงี่เง่า ปัญญาอ่อน งี่เง่ามันทั้งคนแสดง คนดูนั่นแหละ!! เกลียดที่สุด ไอ้ท่าทางพวกนั้น ชั้นไม่เชื่อหรอกว่าพวกแกจะเป็นเจ้าชาย เป็นไอดอลแสนดี ทั้งหมดนั่นก็แค่การเสแสร้ง การแสดง รอยยิ้มจอมปลอม หน้ากากลวงโลก ทั้งหมดนั่นก็ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น ยัยบ้าพวกนั้นนั่นก็อีก กรี๊ดกันเข้าไป โง่เง่าเชื่อกันเข้าไป รักพวกมันเข้าไป ตัวเองจะเป็นจะตายยังไงก็ช่างมันใช่มั้ย เบียดกันเข้าไปได้ ไม่รู้สึกรึไงว่าในนั้นมันแทบไม่มีอ็อกซิเจนจะให้หายใจเข้าไปอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีคนตายขึ้นมา.. เฮอะ ไม่อยากจะนึกเลย จะทุ่มเทไปเพื่ออะไรกัน ปัญญาอ่อน ประสาท บ้า ไม่มีเหตุผล มีแต่พวกสติแตกทั้งนั้น งี่เง่าที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!"
โมเมพรั่งพรูความอัดอั้นออกมาเป็นเสียงพูดพร้อมๆกับกระหน่ำฟันลงไปซ้ำๆไม่ยั้งมือ ก่อนจะปาคัตเตอร์ทิ้งอย่างแรงแล้วหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่น แต่ก่อนที่โมเมจะทันได้ทำอะไรต่อไป เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
"เฮ้ กลับมานี่ก่อน กลับมานี่เด้ะ กลับมาก่อนนนนนนน ชั้นต้องเอาแกขึ้นไปแสดงด้วยนะไอ้ตัวเล็ก กลับม๊าาาาาาาาาาาาาาาาา~"
โมเมรีบหันหลังขวับไปทางต้นเสียงทันที ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งก้มๆเงยๆตามอะไรบางอย่างที่คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต เด้กหนุ่มสวมชุดสูทสีขาวประยุกต์ให้ดูน่ารักคิกขุ สวมหมวกผ้าสีครามไว้บนหัว โมเมยืนนิ่งอยู่อย่างงงๆ ก่อนที่จะรู้สึกว่าอะไรนุ่มๆสัมผัสคลอเคลียอยู่ที่ปลายเท้า
และเมื่อโมเมก้มลงไปมอง เธอก็พบว่ามันคือ.. กระต่าย!!!!
โมเมรีบยกเท้าออกเจ้าเจ้าสิ่งมีชีวิตขนปุกปุยสีขาวแล้วสไลด์เท้าออกห่างด้วยท่าทางรังเกียจสุดชีวิตทันที เด็กหนุ่มคนนั้นรีบวิ่งมาคว้ากระต่ายน้อยอย่างรวมเร็ว และเขาก็ทำมันสำเร็จเมื่อเจ้ากระต่ายเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มเป็นที่เรียบร้อย โมเมยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น เด็กหนุ่มลูบหัวกระต่ายน้อยสีขาวอย่างปลอบขวัญ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มให้โมเมด้วยรอยยิ้มหวาน จริงใจ
'..ไอ้หมอนี่ ใครเนี่ย? แต่งตัวเวอร์แบบนี้ เป็นพวกในฮอลล์แน่ๆ ออกมาทำไมเนี่ย ไม่ต้องขึ้นเวทีรึไง แล้วจะมายิ้มให้ชั้นทำบ้าอะไร ไอ้กระต่ายบ้านั่นอีก เอาไปไกลๆชั้นเลยไป ออกไปให้พ้น ทั้งคนทั้งกระต่ายนั่นแหละ ไปไหนก็ไปเลยไป ป๊ายยยยยยยยยยยยยยยย..'
โมเมคิดในใจ แต่ใบหน้าที่แสดงออกของเด็กสาวก็ยังคงเรียบเฉย มีเพียงแววตาที่ดูจะรังเกียจสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดตรงหน้านี่เหลือเกิน เด็กหนุ่มยังคงส่งรอยยิ้มให้เด็กสาว ก่อนจะก้มหัวให้ทีหนึ่ง
"ขอบคุณมากนะครับ ถ้าไม่มีคุณ มันคงไม่หยุดแบบนี้ ผมวิ่งตามมันมาตั้งแต่ในฮอลล์ เหนื่อยแทบแย่กว่าจะจับมันได้ แหะๆ" ซองมินพูดด้วยรอยยิ้ม แต่โมเมก็ยังคงนิ่งอึ้ง
"เอ่อ.. คุณ.. เป็นอะไรรึเปล่าครับ? ผมเห็นตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว ดูคุณจะเครียดๆ.." ซองมินเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ เมื่อเด็กสาวตรงหน้านั้นดูท่าทางจะไม่อยากเป็นมิตรกับเค้าซักเท่าไหร่
"คุณครับ..?" ซองมินตั้งท่าจะเอื้อมมือไปแตะแขนโมเมที่ยังคงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือปฏิกิริยาตอบโต้ต่อเพศบุรุษของโมเมโดยการปัดมือนั้นออกทันที โมเมถอยหลังออกไปห่างเด็กหนุ่ม 1 ก้าว ก่อนที่ดูเหมือนสติของเด็กสาวจะกลับมาได้แล้ว โมเมกะพริบตาถี่ๆไล่ความงงนิดหนึ่ง
"ชั้น.. ไม่เป็นไร" โมเมพูดแค่นั้นแล้วตั้งท่าจะเดินหนีไป
"เดี๋ยวสิครับ เอ่อ.. คุณชื่ออะไรเหรอ?" เด็กหนุ่มเอ่ยถาม นั่นทำให้โมเมชะงักฝีเท้าไปนิดหนึ่งก่อนจะหันหน้ากลับมา
"....คุณไม่จำเป็นต้องรู้ ขอโทษนะคะ" โมเมพูดแค่นั้นแล้วรีบๆสาวเท้าจากไป แต่ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังไม่วายตะโกนไล่หลังตามมาจนได้
"นี่!! ผมชื่อ ลีซองมิน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ไว้แล้วเราคงพบกันอีกน๊าาาาาา"
'..บ้าเอ๊ย!! งี่เง่า!! ใครเค้ายอยากจะรู้จักนายกัน ชั้นไม่ได้อยากจะรู้ชื่อเสียงเรียงนามนายซักหน่อย สยองชะมัด ผู้ชายใส่สูทกับกระต่ายขนปุยสีขาว ว่าแต่.. ลีวองมิน เหรอ? ชื่อคุ้นๆแฮะ ช่างมันเถอะ ช่างมัน.. ชั้นจะถือว่าวันนี้เป็นวันซวยที่ต้องมาเจอฝันร้ายแบบนี้ก็แล้วกันนะ แค่ฝัน โซโมเม ลืมมันไปเหอะ อี๊!!..'
โมเมคิดกับตัวเองแล้วทำท่าขนลุก ก่อนจะก้าวแบบรีบๆไปรออึนฮาที่หน้าสถานที่จัดงานอย่างที่เธอควรจะไป..
"โมเม.. โมเม!!" เสียงหวานใสคุ้นหูดังฝ่าเสียงกรี๊ดและเสียงเพลงที่ดังก้องฮอลล์ขึ้นมา เรียกให้เด็กสาวที่หลับหูหลับตาอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมามอง
"เป็นอะไรรึเปล่า.. ไหวมั้ย!?" เสียงใสๆของเพื่อนสาวที่พยายามป้องปากคุยกับเด็กสาวเอ่ยถามเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง
"อ่า ไม่เป็นไร.. เรายังพอโอเค" โมเมฝืนตอบออกไป ทั้งที่เด็กสาวกำลังรู้สึกอยากจะหายตัวออกไปจากตรงนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด.. นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอึนฮาเพื่อนรัก คงไม่มีทางได้เห็น โซโมเม มายืนอยู่ท่ามกลางเหล่าแฟนคลับอย่างที่เป็นอยู่นี่แน่ๆ
แสงไฟสีขาวสาดคลุมทั่วบริเวณฮอลล์ พร้อมๆกับเสียงเพลงอลังการที่ใช้ในฉากโอเพ่นนิ่งของคอนเสิร์ตค่อยๆกลืนหายไป เปลี่ยนเป็นเสียงเพลงแนวป๊อบแดนซ์ดังกระหึ่มขึ้นมาแทนที่ เสียงกรี๊ดที่ดังอยู่แล้วทวีคูณมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แรงเบียดเสียดยัดเยียดเหมือนร่างของคนทั้งหมดจะหลอมเข้าด้วยกันได้ทำเอาร่างของเด็กสาวเซถลาไปข้างหน้าอย่างตั้งท่าไม่ติด
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ซองมิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน"
เสียงกรีดร้องอาณุภาพร้ายแรงเพียงพอที่จะทำลายระบบประสาทถูกกรอกใส่หูของโมเมในระยะประชิดที่ห่างเพียงแค่หลังกกหู โมเมปิดเปลือกตาลงประกบกันแน่นเมื่อเสียงที่ว่านั้นดังแทรกทะลุขึ้นไปแล่นจี๊ดถึงสมองจนสติชาวาบไปชั่วครู่ ก่อนที่เด็กสาวจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างมึนๆงงๆแล้วหันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียงกรี๊ดนั้น
แต่สิ่งที่โมเมหันไปพบ.. คือเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธอคนหนึ่งที่อยู่ในชุดกระโปรงปักระบายลูกไม้สีขาวตามแบบฉบับนีโอโลลิต้า และที่โดดเด่นสะดุดตา คือหูกระต่ายยาวยืดที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนหัว
'..ประสาทใหญ่แล้ว ยัยนี่สับสนรึไงว่าตัวเองมาคอนเสิร์ตหรือมางานคอสเพลย์กันแน่ จะแต่งให้มันรุ่มร่ามรุงรังไปทำไม ใครเค้าจะมาสนใจมองกัน คิดว่าไอ้พวกที่ยืนเต้นแด๊กๆกันอยู่บนเวทีนั่นมันจะมองลงมาเห็นรึไง ยัยติ๊งต๊องเอ๊ย..'
โมเมคิดกับตัวเองในใจ และตั้งท่าจะอ้าปากต่อว่ายัยโลลิต้าบันนี่นั่นซักหน่อย แต่แล้วเด็กสาวก็ต้องอ้าปากค้างเติ่ง เมื่อสมองถูกความรู้สึกจี๊ดแล่นปรี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสัมผัสของรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งบดลงมากับหลังเท้าแบบเต็มแรง โมเมก้มตัวลงต่ำเพราะความเจ็บจนน้ำตาเล็ด เด็กสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเงยหน้าไล่น้ำใสๆที่กลิ้งเอ่ออยู่กับขอบตาให้ไหลออกไปให้พ้น ก่อนจะมองไปที่ร่างผู้เป็นเจ้าของรองเท้าแก้วส้มแหลมเบื้องหน้า
แล้วโมเมก็ต้องช็อค! เมื่อร่างที่อยู่เบื้องหน้าเธอนั้นคือซินเดอเรลล่าเต็มตัวของแท้ อาจเป็นเพราะโมเมไม่ทันได้สังเกตแต่แรกหรือเพราะยัยซินเฉพาะกิจนี่เพิ่งเบียดเสียดขึ้นมายืนตรงจุดนี้ได้ก็ไม่แน่ใจ แต่ที่โมเมกำลังเห็นอยู่ตรงหน้านั้น คือชุดประโปรงพองพลิ้วผ้าใยแก้วสีฟ้าสดใส และเทียร่าเล็กๆที่ถูกวางไว้อย่างเข้ากันบนเรือนผมที่เกล้าไว้เป็นมวยสวยงาม
'..ซินเดอเรลล่าเนี่ยนะ บ้า บ้าแล้ว มันคอนเซ็ปต์บ้าบออะไรกันเนี่ย ใส่ชุดซินเดอเรลล่ามาดูคอนเสิร์ตเนี่ยนะ ชั้นจำได้ว่าอึนฮาชวนชั้นมาดูคอนเสิร์ตไม่ใช่รึไง แต่นี่ทำไมมันกลายเป็นปาร์ตี้คอสเพลย์ไปได้ ให้ตายเหอะ งี่เง่า งี่เง่าที่สุด!..'
โมเมคิดอย่างเกรี้ยวกราดในใจ และชั่งใจรอให้ยัยซินตรงหน้านี่ยกรองเท้าแก้วของเจ้าหล่อนออกจากเท้าตัวเองไปซักที แต่เมื่อความเจ็บยังคงเด่นชัดอยู่ในมโนสำนึก และความเจ็บแล่นจี๊ดขึ้นมาจนถึงขีดสุด สติของโมเมก็หลุดลอยไปพร้อมๆกัน และนั่นทำให้เด็กสาวออกแรงผลักร่างตรงหน้านั่นไปแรงๆเสียทีหนึ่ง แล้วยกเท้าออกมาจากใต้ส้นรองเท้าแก้ว ก่อนจะกระแทกร่างนั้นออกไปให้พ้นตัว โดยที่ไม่สนใจอีกแล้วว่ายัยซินเดอเรลล่านั่นจะเซถลาล้มลงไปหน้าทิ่มกับพื้นหรืออะไรยังไง โมเมหอบหายใจฟึดฟัดอยู่ภายใต้ความอึดอัด แล้วตะโกนฝ่าคลื่นแฟนคลับไปหาอึนฮาที่ยังคงสนใจการแสดงบนเวทีรัวๆเร็วๆ
"เราไปก่อนนะอึนฮา!! เสร็จแล้วค่อยโทรบอกเราแล้วกัน เราจะออกไปข้างนอกแล้ว!!"
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา..!!"
โมเมปล่อยเสียงร้องออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อแข้งขาพากันทรุดลงกับพื้นหลังจากผ่านการวิ่งมาในระยะทางที่ไกลเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ร่างบางหอบหายใจเหนื่อยอ่อน ที่วิ่ง ก็เพราะรู้แค่ว่าต้องวิ่ง สองขาถูกสัญชาติญาณภายในสั่งให้ออกวิ่งทันทีที่ก้าวพ้นประตูทางออกมาได้ ความกดดัน ความอึดอัด ที่เหมือนจะทำให้ร่างแหลกสลายอยู่ในฮอลล์นั้นค่อยๆถูกแรงลมที่พัดมาปะทะใบหน้าชะออกไปตลอดระยะทางที่วิ่งมา
เสียงกรี๊ดโหยหวนน่าหนวกหู แรงเบียดเสียดน่าอึดอัด รวมไปทั้งอะไรต่อมิอะไรที่งี่เง่าข้างในนั่น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ โซโมเม เกลียดเป็นที่สุด ทุกสิ่งที่อยู่ข้างใน.. ซึ่งเหมารวมไปถึงกลุ่มบอยแบนด์ที่ยืนร้องๆเต้นๆกันอยู่บนเวทีนั่นด้วย แต่น่าแปลก.. ที่โมเมกลับเป็นเพื่อนสนิทของอึนฮา เด็กสาวที่ตรงข้ามกับเธอทุกอย่าง รวมไปทั้งความชอบของอึนฮาที่โปรดปรานการดูคอนเสิร์ตของศิลปินบอยแบนด์กลุ่มนี้ที่เธอรักมากที่สุด ซึ่งนั้นคือสาเหตุที่ทำให้โมเมต้องทนตามมาด้วย เพราะคำขอร้องของอึนฮา และความเป็นห่วงเพื่อนที่ยังอ่อนต่อโลกอย่างอึนฮานั่นเอง
โมเมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืน แล้วเงยหน้าขึ้นสูดหายใจเข้าลึกๆหลายครั้ง เพื่อรับเอาอากาศบริสุทธิ์และไอเย็นของเวลากลางคืนให้ดูดซับเข้าสู่ปอด ก่อนจะเดินวนไปวนมาอย่างอึดอัด.. ถ้านี่เป็นที่บ้าน โมเมคงได้อาละวาดใส่อะไรซักอย่างจนบ้านพังไปแล้ว
ไม่ใช่เพราะเด็กสาวเป็นคนโมโหร้ายเกรี้ยวกราดอะไร.. ที่จริงแล้วโมเมแทบไม่เคยแสดงอาการโกรธให้ใครเห็นเลยซักครั้ง สิ่งที่คนอื่นจะเห็น ก็คงจะมีแต่สีหน้าเรียบเฉยของเด็กสาวเท่านั้น หรืออย่างดีที่สุดก็แค่รอยยิ้มบางๆ ส่วนถึงแม้แต่ในเวลาโกรธ.. โมเมก็ยังคงเก็บอาการไว้ด้วยท่าทางสงบนิ่งเสมอ.. ทั้งที่เบื้องหลังนั้น นั่นทำให้เด็กสาวเก็บกักอะไรเอาไว้มากมาย และนั่นทำให้กลายเป็นว่า โมเม มักจะใช้การระบายออกทางอารมณ์ที่รุนแรงกว่าคนปกติคนอื่นๆ
แต่เพราะที่นี่มันไม่ใช่ที่บ้าน โมเมจึงเดินเหมือนหนูติดจั่นอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะสายตาจะเหลือบไปเห็นต้นไม้ต้นหนึ่ง โมเมหยุดนิ่งมองมันด้วยสายตาที่เหมือนจะลุกโชติช่วงไปด้วยอารมณืที่อัดแน่น เด็กสาวควักคัตเตอร์เหล็กสีเงินที่พกไว้ตลอดเวลาให้กระเป๋ากางเกงยีนส์สามส่วนขาเดปขึ้นมา แล้วดันใบคัตเตอร์ขึ้นอย่างเร็วๆ ก่อนที่จะ.. ก้าวเข้าไปกระหน่ำฟันใบไม้และกิ่งไม้เล็กๆนั่นให้หลุดออกจากต้น
"ไอ้พวกงี่เง่า ปัญญาอ่อน งี่เง่ามันทั้งคนแสดง คนดูนั่นแหละ!! เกลียดที่สุด ไอ้ท่าทางพวกนั้น ชั้นไม่เชื่อหรอกว่าพวกแกจะเป็นเจ้าชาย เป็นไอดอลแสนดี ทั้งหมดนั่นก็แค่การเสแสร้ง การแสดง รอยยิ้มจอมปลอม หน้ากากลวงโลก ทั้งหมดนั่นก็ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น ยัยบ้าพวกนั้นนั่นก็อีก กรี๊ดกันเข้าไป โง่เง่าเชื่อกันเข้าไป รักพวกมันเข้าไป ตัวเองจะเป็นจะตายยังไงก็ช่างมันใช่มั้ย เบียดกันเข้าไปได้ ไม่รู้สึกรึไงว่าในนั้นมันแทบไม่มีอ็อกซิเจนจะให้หายใจเข้าไปอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีคนตายขึ้นมา.. เฮอะ ไม่อยากจะนึกเลย จะทุ่มเทไปเพื่ออะไรกัน ปัญญาอ่อน ประสาท บ้า ไม่มีเหตุผล มีแต่พวกสติแตกทั้งนั้น งี่เง่าที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!"
โมเมพรั่งพรูความอัดอั้นออกมาเป็นเสียงพูดพร้อมๆกับกระหน่ำฟันลงไปซ้ำๆไม่ยั้งมือ ก่อนจะปาคัตเตอร์ทิ้งอย่างแรงแล้วหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่น แต่ก่อนที่โมเมจะทันได้ทำอะไรต่อไป เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
"เฮ้ กลับมานี่ก่อน กลับมานี่เด้ะ กลับมาก่อนนนนนนน ชั้นต้องเอาแกขึ้นไปแสดงด้วยนะไอ้ตัวเล็ก กลับม๊าาาาาาาาาาาาาาาาา~"
โมเมรีบหันหลังขวับไปทางต้นเสียงทันที ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งก้มๆเงยๆตามอะไรบางอย่างที่คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต เด้กหนุ่มสวมชุดสูทสีขาวประยุกต์ให้ดูน่ารักคิกขุ สวมหมวกผ้าสีครามไว้บนหัว โมเมยืนนิ่งอยู่อย่างงงๆ ก่อนที่จะรู้สึกว่าอะไรนุ่มๆสัมผัสคลอเคลียอยู่ที่ปลายเท้า
และเมื่อโมเมก้มลงไปมอง เธอก็พบว่ามันคือ.. กระต่าย!!!!
โมเมรีบยกเท้าออกเจ้าเจ้าสิ่งมีชีวิตขนปุกปุยสีขาวแล้วสไลด์เท้าออกห่างด้วยท่าทางรังเกียจสุดชีวิตทันที เด็กหนุ่มคนนั้นรีบวิ่งมาคว้ากระต่ายน้อยอย่างรวมเร็ว และเขาก็ทำมันสำเร็จเมื่อเจ้ากระต่ายเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มเป็นที่เรียบร้อย โมเมยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น เด็กหนุ่มลูบหัวกระต่ายน้อยสีขาวอย่างปลอบขวัญ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มให้โมเมด้วยรอยยิ้มหวาน จริงใจ
'..ไอ้หมอนี่ ใครเนี่ย? แต่งตัวเวอร์แบบนี้ เป็นพวกในฮอลล์แน่ๆ ออกมาทำไมเนี่ย ไม่ต้องขึ้นเวทีรึไง แล้วจะมายิ้มให้ชั้นทำบ้าอะไร ไอ้กระต่ายบ้านั่นอีก เอาไปไกลๆชั้นเลยไป ออกไปให้พ้น ทั้งคนทั้งกระต่ายนั่นแหละ ไปไหนก็ไปเลยไป ป๊ายยยยยยยยยยยยยยยย..'
โมเมคิดในใจ แต่ใบหน้าที่แสดงออกของเด็กสาวก็ยังคงเรียบเฉย มีเพียงแววตาที่ดูจะรังเกียจสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดตรงหน้านี่เหลือเกิน เด็กหนุ่มยังคงส่งรอยยิ้มให้เด็กสาว ก่อนจะก้มหัวให้ทีหนึ่ง
"ขอบคุณมากนะครับ ถ้าไม่มีคุณ มันคงไม่หยุดแบบนี้ ผมวิ่งตามมันมาตั้งแต่ในฮอลล์ เหนื่อยแทบแย่กว่าจะจับมันได้ แหะๆ" ซองมินพูดด้วยรอยยิ้ม แต่โมเมก็ยังคงนิ่งอึ้ง
"เอ่อ.. คุณ.. เป็นอะไรรึเปล่าครับ? ผมเห็นตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว ดูคุณจะเครียดๆ.." ซองมินเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ เมื่อเด็กสาวตรงหน้านั้นดูท่าทางจะไม่อยากเป็นมิตรกับเค้าซักเท่าไหร่
"คุณครับ..?" ซองมินตั้งท่าจะเอื้อมมือไปแตะแขนโมเมที่ยังคงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือปฏิกิริยาตอบโต้ต่อเพศบุรุษของโมเมโดยการปัดมือนั้นออกทันที โมเมถอยหลังออกไปห่างเด็กหนุ่ม 1 ก้าว ก่อนที่ดูเหมือนสติของเด็กสาวจะกลับมาได้แล้ว โมเมกะพริบตาถี่ๆไล่ความงงนิดหนึ่ง
"ชั้น.. ไม่เป็นไร" โมเมพูดแค่นั้นแล้วตั้งท่าจะเดินหนีไป
"เดี๋ยวสิครับ เอ่อ.. คุณชื่ออะไรเหรอ?" เด็กหนุ่มเอ่ยถาม นั่นทำให้โมเมชะงักฝีเท้าไปนิดหนึ่งก่อนจะหันหน้ากลับมา
"....คุณไม่จำเป็นต้องรู้ ขอโทษนะคะ" โมเมพูดแค่นั้นแล้วรีบๆสาวเท้าจากไป แต่ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังไม่วายตะโกนไล่หลังตามมาจนได้
"นี่!! ผมชื่อ ลีซองมิน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ไว้แล้วเราคงพบกันอีกน๊าาาาาา"
'..บ้าเอ๊ย!! งี่เง่า!! ใครเค้ายอยากจะรู้จักนายกัน ชั้นไม่ได้อยากจะรู้ชื่อเสียงเรียงนามนายซักหน่อย สยองชะมัด ผู้ชายใส่สูทกับกระต่ายขนปุยสีขาว ว่าแต่.. ลีวองมิน เหรอ? ชื่อคุ้นๆแฮะ ช่างมันเถอะ ช่างมัน.. ชั้นจะถือว่าวันนี้เป็นวันซวยที่ต้องมาเจอฝันร้ายแบบนี้ก็แล้วกันนะ แค่ฝัน โซโมเม ลืมมันไปเหอะ อี๊!!..'
โมเมคิดกับตัวเองแล้วทำท่าขนลุก ก่อนจะก้าวแบบรีบๆไปรออึนฮาที่หน้าสถานที่จัดงานอย่างที่เธอควรจะไป..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น