คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 06
CHAPTER 06
"ไอ้คริส!!"
เสียงพวกมันคนใดคนนึงซักคนตะโกนก่อนที่จะรีบวิ่งมาหาผมที่นอนสลบสะเหลี้ยเสียแขนอยู่บนพื้นดินแหยะๆของป่า
"ฮือออออออ ไอ้หอยยยย ทำไมมาตามหาเราช้า"
ผมร้องบอก เมื่อตอนที่ชานยอลกำลังพยุงทำให้ลุกขึ้นยืน เอามือปัดๆไปที่ตัวของผม จับผมหมุนไปหมุนมา ตาโปนๆหูกางๆแผ่ขยายออกเต็มที่เมื่อเห็นสภาพของผม
"แล้วนี่จะร้องให้ทำไมครับ?"
ไอ้จงอินที่ยืนหน้าง่วงมองผมโดยไม่คิดที่จะมาดูดำดูดีผมถามขึ้นมาหลังจากที่หาววอดๆไปแล้วสองสามครั้ง
มันไม่ได้สนใจผมซักนิดเลยอะ มันป้ะเป็นคนที่หลอกให้ผมมาเดินป่าแล้วมันป้ะที่เป็นต้นเหตุให้ผมหลงอะ
มันป้ะๆๆมันเลยไอ้จงอินไอ้ดำนี่เลยแสรส
แล้วนี่มีการมาเมินข้าหรอเอ็งต้องมากราบกรานขอโทษบอกว่าคิดถึงข้าสิข้าหายไปสามวันเลยนะไอ้ดำ!
"กูนึกว่าพวกมึงจะทิ้งกู นึกว่ากูจะตาย T^T "
"…. "
"มึงรู้ไหม ในป่ามันแม่งน่ากลัวมากกกกๆๆๆเลยนะเว้ย ฮืออ ตอนกลางวันก็ร้อนตอนกลางคืนก็หนาว"
"… "
"มึงดูดิกูเพิ่งลงเครื่องจากแวนคูเวอร์ กันแดด SPF 60 กูก็ไม่ได้ทา มาโดนแดดแรงๆของชิงเต่าผิวกูเสียเลยมึงดูๆๆๆ"
เอายืนแขนยาวๆที่อดีตเคยขาวแล้วจิ้มๆที่ตรงรอยไหม้แดดที่เป็นสีคล้ำเกรียมดูน่ากลัวแต่ก็สู้สีผิวของไอ้จงอินให้พวกมันดู
… พวกมันมองมาที่แขนผมอย่างเหยียดๆแบบไม่ได้สนใจก่อนที่จะกลอกตาไปมา
"ไปเว้ยไอ้คริส! กลับบ้านเหอะ "
ไอ้จงอินพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินสะบัดตูดหันหลังก้าวฉับๆไปตามทาง ไอ้ชานยอลหันมาผมเล็กน้อยก่อนที่จะกวักมือเรียกสองสามที "เร็วๆดิสัส" บอกกับผมอย่างนั้นแล้วเดินสะบัดตูดไปกับไอ้จงอินอีกคน
"กลับๆๆๆดิ คิดถึงน้ำอุ่นๆที่บ้านมั่กกกกๆๆๆๆ T vvv T"
ผมพูด ก่อนที่จะรีบวิ่งตามพวกมันไป... ผมมองไปรอบๆป่า
รู้สึกดีใจนิดๆที่ตัวเองจะมีชีวิตรอดกลับบ้านไปแบบครบสามสิบสอง
พวกมันเดินฉับๆกันไปสองคนแบบไม่คิดจะรอผมที่เหนื่อยล้าและเจ็บขาซักนิด
ผมเสียใจนิดๆ.. ไม่ดิ เสียใจมากๆเลย ทำไมพวกมันไม่ดูแล ไม่แคร์ผมเลยล่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะ
ผมตัดสินใจหยุดเดิน ทำปากงุ้มๆ พวกมันคงรู้สึกว่าไม่มีคนเดินตามพวกมันไปเลยหันกลับมามอง
ชานยอลกวักมือหยอยๆเรียกผม แต่ไอ้จงอินกับกรอกตาไปมาอย่าเบื่อๆ ทำปากขมุบขมิบอ่านได้ว่า 'เป็นเ-ี้ยอะไรของมึง'
ไอ้สัส กูเกลียดมึง
กูงอนมึงแล้วไอ้ดำๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไอ้มืดๆๆๆๆ ไอ้หน้าหม้อ ไอ้เตี้ยด้วยๆๆๆๆ
เตี้ยสัสๆตัวเท่าไหล่กูน่ะมึงน่ะๆๆๆๆๆ
"มึงอะ พวกมึงดูไม่ดีใจที่เจอกูเลยอะ"
ผมพูดทันที่ที่ชานยอลวิ่งกลับมาดูผม และทันทีที่ไอ้จงอินที่ค่อยๆกระดืบตัวมันมาอย่างเบื่อๆ
"หื้อ ? " ชานยอลเลิกคิ้วนิดๆ หูกางขึ้นสองระดับ
"ทำไมดูไม่ดีใจที่เจอกูเลยอะ
ผมถามขึ้นอีกครั้ง... แปลกใจนิดๆที่ผมหายไปตั้งสามวันสองคืนเลยนะ เกิน 24 ชั่วโมงแล้วด้วย
ทำไมไม่มีตำรวจทหารเจ้าหน้าที่พยาบาลเจ้าหน้าที่ประจำกรมป่าไม้มาออกตามหาผมเลยล่ะ
ทำไมมีแต่ไอ้เพื่อนเวรสองคนนี้มาตะโกนโหวกเหวกหาผมที่หายไปแค่สองคน ทำไมกัน
ทำไม
นี่ผมมันไม่สำคัญขนาดนี้เลยหรือไง!
ผมคริสอู๋นะ อู๋อี้ฟ่านนักเรียนนอกอิมพอร์ตจากแวนคูเวอร์นะ!!!
ชิ!
"ทำไมไม่มีใครมาตามหากูเลยอะ ตำรงตำรวจไม่มีเลยอ่อ"
ผมถามพวกมัน ก่อนที่จะยืดตัวมองไปรอบๆเผื่อจะมีคนอื่นๆมาตามหาผม
เผื่อจะมีสถานีโทรทัศน์มาทำข่าวการหายไปของ CEO บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ
เห็นผมอย่างนี้บอกแล้วไงผมเก่งนะ ผมรวยด้วย ผมเป็นเซเรเบตี้ที่หล่อเหลามากกกๆเลยล่ะ
"ตำรวจอะไร มึงเพ้ออะไรไอ้คริส"
"อ้าวก็กูหายไปนะ มึงไม่เรียกใครมาตามหากูเลยหรอ?"
"… "
"กูหายไปสามวันสองคืนนะอย่าทำเหมือนกูหายไปสามนาทีแบบนี้ดิหอย!"
ผมขมวดคิ้วนิดๆแล้วถามออกไปเสียงดัง พวกมันได้ยินอย่างนั้นก็มองหน้ากันอย่างงงๆ
ก่อนที่ไอ้จงอินจะเดินมาหาผมแล้วเอามือของมันมาอังที่หน้าผากของผม เอานิ้วจิ้มๆไปมาที่แขน
ก่อนที่มืออีกข้างจะตบผั้วมาที่หัวของผมอย่างแรงโดยที่ไม่ได้สงสารคนหลงป่าอย่างผมเลยซักนิด
ผั้ว!
"มึงตบกูไมเนี่ย!!!"
"มึงตื่นเลยครับ มึงอย่าเพ้อ หายไปสามวันสองคืนหอยไร มึงหายไปยังไม่ถึงสามสิบนาทีดีเลยครับแสรส"
"… หาา .. "
"อย่าเพ้อครับขอร้อง อย่าเพ้อ... "
"… "
"ตื่นครับมึง ตื่น "
ผมกำลังกระพริบตาปริบๆเพื่อประมวลผล....
บ้าไปแล้วน่ะ
ผมไม่ได้หายไปสามสิบนาทีอย่างที่พวกมันว่าแน่ๆ... ผมนอนไปตั้งสองคืนเต็มๆ เดินป่าเล่นตั้งนาน ไหนจะไปอาบน้ำ แหวกว่ายไปในลำธารและน้ำตาที่ใสแจ๋วทำตัวประหนึ่งเงือกน้อยเมอร์เมดนั่นตั้งนาน... ไม่มีทาง
ไม่มีทางที่จะหายไปสามสิบนาทีแน่ๆ
ไม่มีทางแน่นอน...
ผีหลอกผมแน่ๆ
ปวดหัว....
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย
"มึงฟังกูนะ... กูหลงไปในป่าบ้านั้นสามวัน สามวันสองคืนเต็มๆ"
ผมพูดเสียงเข้ม จ้องไปที่ตาของจงอินและชานยอลอย่างจริงๆจัง... ครั้งนี้พูดจริง คริสอู๋พูดจริง
"สามสิบนาทียังไม่ถึงเลยครับอย่าเพ้อครับอย่าเพ้อ"
"กูหายไปสามวันจริงๆนะ!!!" ผมหันควับไปเถียงชานยอล
"… "
"จริงๆนะ!! มึงดูสภาพกูสิ เหมือนคนที่หลงไปสามสิบนาทีหรอ มึงดูดิวะมึงดู"
"… "
"มึงดูสิ มึงดูกูสิ ดูสิ.. "
.
.
.
"ไอ้คริสอย่าร้องดิ"
"กูไม่ได้ร้องแต่กูหายไปสามวันจริงๆนะ มึงดูสิ ฮืออออออ ทำไมพวกมึงไม่สนใจกูอย่างนี้ มึงดูรอยแผลที่ตัวกูสิ มึงดูรอยไหม้ที่ผิวกูสิ มึงดูความโทรมของหน้าและขอบตากูสิ...."
ผั้ว!
ไอ้จงอินมันตบหัวผมอีกแล้ว!!!
"แง!!!"
"อย่าเพ้อครับอย่าเพ้อ รอยแผลรอยไหม้อะไรครับตื่นครับตื่น.... "
มันพูดแล้วก้มลงนั่งยองๆตรงขาของผม เอามือปัดๆไปที่ตรงที่ผมคิดว่าเป็นรอยแผล.. แต่จริงๆแล้วมันแค่เปื้อนดิน
จงอินเอามือปัดๆสามที่ครั้งรอยเหล่านั้นก็หายไปจนหมด เหลือเพิ่งขาขาวๆของผมที่ไม่มีรอยอะไรซักนิด.... รวมถึงรอยไหม้ที่บริเวณแขนและใบหน้า... พอลองเอามือลูบๆมันก็จางหายไป... มันแค่เปื้อนเศษดินเท่านั้น
"อย่าร้องสิวะ มึงแค่หลับแล้วฝันไปน่าคริส"
ไอ้จงอินพูดออกมาก่อนที่จะยื่นมือหยาบๆมาปาดๆน้ำตาให้ผม ตบปุๆที่หัวผมสองสามทีอย่างปลอบๆ
ผมสะอื้นอีกสองสามครั้งก่อนที่จะกลั้นน้ำตาแล้วพยายามหยุดร้อง ผมอึดอัดนี่น่า... ร้องให้ระบายนิดหน่อยไม่เห็นแปลก
ไม่ได้ฝันนะ
ไม่ได้ฝันจริงๆนะ
ความรู้สึกแบบนี้ ผมไม่ได้ฝันนะ
ไม่ได้ฝันซักหน่อย..
"กลับกันเหอะคริส กลับบ้าน"
ผมเงยหน้าไปมองไอ้ไค กระพริบตาใส่มันสองสามทีแล้วส่ายหน้า พวกมันถอนหายใจพร้อมๆก่อนที่จะเดินมากอดคอผม
แล้วลากผมให้เดินไปตามทางเพื่อหลงจากเขา... ทางที่จะกลับบ้าน... ผมขืนตัวเล็กน้อยเพราะยังไม่อยากกลับ...
ยังไม่อยากกลับในตอนนี้..
มันเหมือนลืม
ลืมอะไรบางอย่างที่สำคัญ สำคัญมากๆ...
"เฮ้ยพวกเอ็งอย่าเพิ่ง กูลืมกระเป๋า!!"
"กระเป๋าใส่ของที่กูให้มึงแบกมาใบใหญ่ๆอะนะ"
"เออกูก็หาอยู่ มันหายไปตอนที่กู--- "
"หื้อ.. ตอนที่มึงอะไร?"
อะไร… ตอนที่ผมอะไร
อะไร
ปวดหัวจัง...
พยายามจะนึก.. แต่นึกไม่ออก..
อะไรกัน
"อะไรซักอย่างจำไม่ได้ -_-"
ผมพูดตอบแล้วไปทำหน้ามึนใส่ชานยอล แล้วมองตามจงอินที่ผลุบหายไปในพุ่มไม้
ก่อนที่จะโผล่มาอีกครั้งพร้อมๆกับกระเป๋าเดินทางใบเขื่อง... กระเป๋าของผม!!
"กระเป๋าเอ็งใช่ป้ะ? "
มันถามพร้อมกับทำหน้าง่วงๆใส่ผมเหมือนเคย
"กระเป๋าเค้าเองตัวเองงงง ไปเจอมาได้ไง"
"ก็มันอยู่ตรงนี้ กูมองเลยเห็น"
ครับ…
"ทำไมกระเป๋ามันหนักๆวะ.. "
ไอ้จงอินบ่นเล็กๆก่อนที่จะสะพายกระเป๋านั้นไว้บ่นบ่า ผมร้องบอกว่าเดี๋ยวผมถือให้เอง เกรงใจ แต่จงอินกลับเมินผมแล้วบอกว่าผมยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่เดินๆไปตัวเปล่าๆเหอะ
"ได้ฤกษ์กลับกันยังครับพวกคุณทั้งหลาย?"
ชานยอลพูดขึ้นพร้อมกับลากผมลงจากเขา ไอ้จงอินหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนที่จะเดินตามผมกับชานยอลลงมา
เดินลงมาได้ซักพักก็ถึงรถคันหรูของจงอินที่มารอรับอยู่ มันเหวี่ยงกระเป๋าใบเขื่องของผมไว้ที่หลังรถก่อนที่ตัวมันจะเปิดประตูรถฝั่งคนขับและเตรียมสตาร์ทรถ ผมขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง เกาะที่กระจกแล้วเอาหน้าแนบ มองไปในป่าใหญ่เหมือนเด็กเล็กๆ
ลาก่อนนะ
ทันทีที่ชานยอลจัดการนู่นนี่นั่นเสร็จมันก็รีบเปิดประตูแล้วไปนั่งข้างๆไอ้ชานยอล หูกางๆเริ่มลู่เข้าเพราะความเย็นจากแอร์ในรถยนต์ที่เย็นเฉียบ
"Let's Go กลับกันเต๊อะทู้กคนนนนน"
ไอ้ชานยอลพูดก่อนที่จะยกแขนสองข้างขึ้นอย่างร่าเริง ผมอยากจะหัวเราะกับท่าทางบ้าๆของมัน แต่เพราะความรู้สึกแปลกๆหน่วงๆกับความปวดหัวเล็กๆทำให้ผมไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ผมต้องลืมอะไรซักอย่าง
มันต้องมีอะไรซักอย่างผิดพลาดแน่ๆ
ผมขาดเข็มขัดนีรภัยแล้วเอาหัวพิงไปกับกระจกรถ เอาสร้อยข้อมือหยินหยางสีขาวดำในมือขึ้นมาดู
และแล้วชื่อแปลกๆที่ผมรู้สึกเหมือนจะคุ้นเคยก็แล่นเข้ามา
… จื่อเถา....
สิ่งที่ผ่านมาตลอดสามวันสองคืนที่ผมรู้สึก
.
.
.
ผมอาจจะเหนื่อยหรือเครียดเลยสร้างเรื่องแปลกๆมาในจิตใจ
.
.
.
มันเป็นแค่ฝันจริงๆนั่นแหละ?
XXXX %
08/08/13
ทันที่ที่เดินทางมาถึงตัวเมืองปักกิ่ง รถยนต์สุดหรูของจงอินก็มุ่งหน้าไปยังคอนโดนที่ของพวกเรา พวกมันแวะไปส่งผม ก่อนที่จะขอไปทำธุระนู่นนี่นั่นกันสองคน ผมไม่ปฏิเสธ เพราะตอนนี้ผมเหนื่อยมากๆ รู้สึกปวดหัวไปหมด แต่จงอินกับชานยอลก็อุตส่าห์แบกกระเป๋ามาให้ผม ดูแลผมยังกะผมเป็นอัมพาต
งื้อออออ รักกกๆๆๆแงงงงง T v T
"โอ้ย กระเป๋ามึงนี่อะไรหนักชิบหาย!"
จงอินพูดขึ้นมาเมื่อเดินเข้ามาในห้อง แล้ววางกระเป๋าของผมไว้ข้างๆเตียง
"ก็มึงเอาอะไรใส่ไว้ล่ะ มึงเอามาให้กูเองไม่ใช่เรอะ!"
ผมเถึยงออกไป เพราะกระเป๋าใบนี้ไอ้จงอินกับชานยอลโยนมาให้ผมสะพายตอนปีนเขา ผมจำได้!
"เออกูไม่เถียง แต่ตอนนั้นมันไม่ได้หนักขนาดนี้นี่หว่า มึงเอาห่าอะไรมาเพิ่มใช่ไหม"
ไอ้จงอินพูด ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าและทำท่าจะล้วงดู แต่เพราะเสียงโทรศัพท์ของตัวมันเองที่ดังขึ้น ทำให้มันต้องรีบกุลีกุจรไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียง ก่อนที่จะรีบออกไปจากคอนโดของผมพร้อมๆกับลากชานยอลไปด้วยพึมพัมๆว่า 'อิแบคมาแล้วๆ' อะไรซักอย่าง
ช่างเถอะ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม
อิแบคๆที่ว่านี่คงหมายถึง'บยอน แบคฮยอน'น้องชายตัวแสบของไอ้ดำจงอินนั่นนะแหละ
บรื้ออออ แค่คิดถึงชื่อก็ปวดหู ~____~
อย่าไปคิดเรื่องของคนอื่นให้ปวดสมองเลย ลำพังตัวผมเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอด ผมโบกมือบ้ายบายไล่หลังชานยอลกับจงอินไปก่อนที่จะหยิบผ้าขนหนูเตรียมตัวไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย หวังว่าอาบน้ำเย็นๆ ได้แช่น้ำอุ่นๆจะทำให้ผมหายมึนหัวนะ มันเหมือนมีอะไรมากดหัวผมไว้แหน่ะ ไว้ถ้ายังไม่หายคงต้องไปหาหมอแล้วล่ะ
ผมถอดเสื้อเหม็นเหงื่อออกจนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่าแล้วค่อยๆก้าวลงไปแช่ในน้ำอุ่น
อ่า…
สบายจริงๆ
.
.
.
"อะ แอ๊วววววววว "
เสียงร้องของจื่อเถาดังแผ่วๆออกมาจากกระเป๋าใบเขื่องที่วางอยู่ข้างเตียง ก่อนที่กระเป๋าใบนั้นจะค่อยๆล้มลง ร่างอ้วนกลมสีขาวดำจึงสามารถคลานดุ๊กดิ้นออกมาจากกระเป๋าเดินทางได้ จื่อเถาสะบัดขนไปมาสองสามครั้งเพื่อไล่ความเมื่อยขบ ก่อนที่ดวงตากลมใสจะมองไปทั่วห้องพัก แอร์เย็นๆที่ตกกระทบทำให้ขนสีขาวดำลุกซู่ขึ้นมา
"แอ๊วววววววววววว"
เมื่ออยู่ในบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย มันทำให้จื่อเถาอดรู้สึกกลัวไม่ได้ ร้องแอ๊วๆสองสามครั้ง หวังว่าคนที่ตัวเองตามมาจะขานรับ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความว่างเปล่าเท่านั้น จื่อเถาคลานดุ๊กดิ้กไปทั่วห้อง ให้จมูกกลมๆดมกลิ่นตัวที่แสนคุ้นเคย...
กลิ่นของพี่ชาย...
'พี่ชายของจื่อเถา'
ซู่….
เสียงแปลกๆที่ดังมาจากทิศเดียวกับกับกลิ่นของพี่ชาย ทำให้จื่อเถาคลานอย่างเร็วเท่าที่ขาสีดำสั้นจะเอื้ออำนวย ใช้ตัวกลมๆและหน้านิ่มๆดันประตูบานเลื่อนให้เปิดออก มองไปรอบๆห้อง ก่อนที่จะเจอคนที่ตัวเองตามหา นอนหลับตาอยู่ในอ่างน้ำวน หลับตาพริ้ม มีไอพอดเสียบไว้ที่ใบหู
"แอ๊วววววววววววววว!"
.. ไอ้เราก็เรียกหาแทบตายนะ
ชิ!
จื่อเถาค่อยๆก้าวไปยังอ่างน้ำวน ขาสั้นๆและแขนป้อมๆพยายามที่จะปีนป่ายเพื่อขึ้นไปยืนที่ของอ่างน้ำอย่างทุลักทุเล มองใบหน้าที่แสนจะผ่อนคลายของคนในอ่างน้ำ สะบัดขนอีกสองสามครั้งเพื่อทำใจ
"แอ๊วววววววววววววว"
… ก่อนที่จะกระโดดลงไปในอ่างน้ำวนที่ตำแหน่งตรงกับใบหน้าของ'พี่ชายของจื่อเถา'ทันที
.
.
.
โอ้ยยยยยย น้ำอุ่นนี่มันสบายสุดๆจริงๆ ยิ่งเปิดปรับโหมดให้เป็นน้ำวนคอยนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อนี่มันสวรรค์ชัดๆ! ไหนจะกลิ่นหอมๆนี่อีก ผมชอบกลิ่นของจัสมีนจัง ผมเอาหูฟังมาเสียบเข้าที่ใบหู เปิดเพลงคลอเบาๆแล้วหลับตา ซึบซับความสบายอย่างเต็มอีก ความปวดๆและหน่วงๆที่ศรีษะเริ่มลดลงนิดหน่อย
อ่าาาาา สบายจัง
สบายสุดๆ
นี่ผมพูดคำว่าสบายมากี่ครั้งแล้วเนี่ย... ช่างเถอะก็มันสบายจริงๆนี่นา
ขออยู่เงียบๆอย่างนี้ซักครู่ใหญ่ๆเถอะ
อย่าให้มีอะไรมารบกวนเล้ยยยยย
"แอ๊ววววววววววววววววว"
หืออออออ ?
"แอ๊ววววววววววววววววววว!!!"
ตุ๊บ!
พลั้ก!
ผมได้ยินเสียงแอ๊วๆแปลกๆดังขึ้นมาข้างๆหู ยังไม่ทันที่จะได้ลืมตาดู ก็มีวัตถุอ้วนสีดำขาวประหลาดพุ่งเข้ามาที่หน้าผมอย่างแรง จนผมตั้งรับแทบไม่ทัน ได้แต่เอามือปิดหน้าไว้เท่านั้น
อะไรวะเนี่ย!!
"แอ๊ววววววววววววววววว"
เจ้าวัตถุสีดำประหลาดนั้นส่งเสียงร้อง ผมอยากจะลืมตาขึ้นไปดู แต่เพราะมันเกาะหมับอยู่ที่หน้าของผมทำให้ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมได้ได้ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้างน้ำแคบๆ เริ่มจะหายใจไม่ออก
ผมหายใจเข้าลึกๆและพยายามตั้งสติ ค่อยยันตัวมาพิงกับอ่างอาบน้ำทั้งๆที่วัตถุประหลาดนุ่มนิ่มที่ร้องแอ๊วๆยังเกาะอยู่ที่หน้าอยู่ทีหัวของผมอยู่ แล้วค่อยๆเอามือใหญ่ๆจับหมับไปที่ลำตัวของวัตถุสีดำขาว พยายามที่จะ'แงะ'ให้ออกจากหัวของผม ออกแรงดึงอย่างไม่เบานัก
"แอ๊ว!"
วัตถุประหลาดร้องแอ๊วๆแล้วยอมปล่อยหัวของผมให้เป็นอิสระ ค่อยๆคลานไต่ลงไปตามหน้าอก แล้วหยุดอยู่บริเวณพุงของผม ตีน้ำไปมา ผมค่อยๆลืมตามอง
และทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมามอง...
ภาพที่ปรากฏก็ทำให้ผมอยากจะหัวใจวาย
…. พยายามท่องนะโมตะสะอยู่ในใจ
บอกผมที่ว่านี้แค่ฝันไป
"แพนด้า!!!"
แพนด้ามาอยู่ในห้องน้ำของผมได้ยังไงครับ!!!!!!
ผมร้องเห้ยดังก่อนที่จะหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูก ถึงแพนด้านี่มันจะน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆก็จริงแต่มันมาอยู่ในห้องน้ำของผมได้ยังไงครับ!!! แพนด้านะครับไม่ใช่ชิวาว่า! ไม่ได้หากันง่ายๆ ไม่มีซื้อไม่มีขาย
"แอ๊วววววววว"
อยู่ดีๆแพนด้าตัวนั้นก็มองหน้าผมแล้วร้องแอ๊วๆพลางเอียงคอ.. คิดว่าตัวเองโมเอร้หรอ คิดว่าตัวเองน่ารักหรอ? เออ โครตๆ
เอ็งน่ารักโครตๆแต่เอ็งมาอยู่ในห้องน้ำข้าได้ยังไง แล้วตอนแรกเอ็งอยู่ที่พุงข้าแล้วทำไมตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าตักข้าได้ มันใกล้จุดยุทศาสตร์ มันสยิวโว้ยยยยยย
' อะ… อปป้า '
หื้ออออ ?
เสียงอะไรน่ะ....
ผมหันไปมองรอบห้องอย่างระแวง ความคิดด้านลบเกี่ยวกับผีสางผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ แต่มันก็ไม่น่าใช่นี้ โรงแรมห้องนี้เค้าซื้อไว้ตั้งหลายปี มาพักตั้งหลายหนไม่เคยเจอะเคยเจอ.... ไม่น่าใช่
'จะ.. จำจื่อ.. ถะเถา?'
เสียงที่ว่ายังดังไม่หยุด ผมที่เริ่มจะประมวลผลนู่นนี่นั่นได้เริ่มหันมามองแพนด้าที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่หน้าตัก
หรือจะเป็นเสียงของแพนด้านี่?
ตาสบตา ก่อนที่ความรู้สึกปวดหัวอย่างหนักที่ตอนแรกเริ่มจะบรรเทามันจะกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับหนักหน่วงมากกว่าเดิม เหมือนมีอะไรมาถ่วงไว้ไม่มีผิด
"แอ๊ววววววววววววว"
อยู่ดีๆแพนด้าตัวอ้วนกลมตรงหน้าก็ค่อยๆปีนออกมาจากหน้าตัก ค่อยเลื่อนมาที่หน้าอก ผมได้แต่นอนมองอยู่อย่างนั้นเพราะไม่รู้ว่าแพนด้าตรงหน้าจะทำอะไรต่อไป มือข้างนึงก็นวดที่ขมับเพื่อบรรเทาอาการปวดหัว คิดไม่ออกว่าตอนนี้ควรจะทำอะไรดีระหว่างกรีดร้องให้แม่บ้านมาช่วยเอาแพนด้านี้ออกไปจากตัวเค้าเอาไปส่งสวนสัตว์ , ลุกจากอ่างอาบน้ำเองเงียบๆ เอาแพนด้าตัวนี้ไว้ขังกรงแล้วดูเล่น...
หรือจะจับฟัดให้หายอยากดี....
จับฟัดให้หายอยากดีกว่าเนอะ ฮิ!
ผมค่อยๆหันมามาหาแพนด้าตัวอ้วน กำลังจะเอื้อมมือไปกอด
แต่เจ้าแพนด้ากลับเบี่ยงตัวหนี แล้วพุ่งตัวอย่างแรงมาจุ๊บหน้าผม! ไม่สิ....
เมื่อกี้มันโดนปากผมเลยล่ะ!!
เจ้าแพนด้ากำลังลวนลามผม!! ไม่นะ ผมลูกมีพ่อมีแม่นะ อยู่ดีๆมาจุ๊บยังงี้ได้ไง ตัวเองเป็นแพนด้านะ มีสิทธิอะไรมาเลียหน้าเค้าาาาอะ อู๋อี้ฟ่านอิมพอร์ตจากแวนคูเวอร์ไม่ยอม หน้าเปียกน้ำลายไปหมดแล้ว!
แพนด้าตัวนั้นเอาหน้ามาถูๆหน้าผมอยู่อย่างนั้นซักพักหนึ่ง ก่อนที่จะกลิ้งดุ๊กดิ้กกลับไปที่ตักเหมือนเดิม ก่อนที่จะเอียงคอ ทำตาโดบ๊องแบ๊ว แล้วเสียงๆหนึ่งจะดังเข้ามาในโสตประสาทของผม... ดังเข้ามาในสมองของผมโดยตรง ไม่ใช่ได้ยินผ่านหู
'จำนะ.. จะจำยัง? '
เสียงของแพนด้าตัวอ้วนจริงๆด้วย
ผีหลอกแน่ๆ . . .
… จำได้หรือยัง?
จำอะไรได้หรือยัง คืออะไร ผมไม่เข้าใจ
"แอ๊วววววววววววววววว "
แพนด้าตัวนั้นร้องเสียงดังอีกแล้ว... เสียงร้องแบบนี้... เคยได้ยิน
เคยได้ยินจริงๆ...
' เถา… เถาเถาไง.... '
"…. "
' จื่อเถาที่อปป้าตะ... ไง .. '
จื่อเถา... งั้นเหรอ...
ผมค่อยๆหลับตา อุ้มเจ้าแพนด้าไว้แนบอก
ความรู้สึกแบบนี้ กลิ่นแบบนี้
ผมก้มหน้าลงไปจุ๊บแก้มนุ่มๆของแพนด้าตัวอ้วน
ก่อนที่จะสูดกลิ่นหอมๆไว้เต็มปอด
ไม่ผิดแน่....
เคยได้สัมผัสมาแล้วจริงๆ
เคยได้รู้สึกมาแล้วจริงๆ
จื่อเถา...
ทันใดนั้นมันก็เหมือนความทรงจำที่หายไปค่อยๆไหลเข้ามาในหัวของผมอย่างช้าๆ
ภาพต่างๆในช่วงเวลาที่ขาดหายไปตอนที่ผมหลงป่าค่อยๆเติมมาจนเต็ม
"จื่อเถา!!!!"
.
.
.
"แอ๊ววววววววววววววว "
ใ
70%
ผมรีบอุ้มจื่อเถาแล้วจับให้นั่งหันหลังไปอีกทาง ก่อนที่ตัวผมเองจะลุกขึ้นจากน้ำแล้วรีบหยิบผ้าขนหนูผืนหนามาพันแค่ช่วงล่างไว้ สะบัดหัวสองสามทีเพื่อเรียกสติ แล้วอุ้มจื่อเถาเตงๆไปนั่งลงบนเตียง แล้วจ้องไปที่ตาดำใสๆของแพนด้าตัวอ้วน
แพนด้าที่มีชื่ออันไพเราะเพราะพริ้งว่า 'จื่อเถา'
ชื่ออันไพเราะที่ผมเป็นคนตั้งให้เอง
ผมจำได้แล้วนะ จำได้หมดทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ไม่ได้ฝันไปจริงๆ
"แอ๊ววววว "
ผมจำได้หมดทุกๆเหตุการณ์ รวมถึงเรื่องที่ว่าถ้าดึงหางไอ้เจ้าแพนด้าอ้วนจะกลายร่างเป็นหนุ่มน้อยตัวบาง
ผมมองไปที่จื่อเถาที่กำลังกลิ้งร่างกลมๆป้อมๆไปทั่วเตียงจนเปียกไปหมด แล้วยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
ผมไม่ได้หื่นนะครับ
…. แต่ถ้าป้าแม่บ้านเปิดมาแล้วเห็นแพนด้าสัตว์หายากในห้องนอนผมมันก็ไม่ดีใช่ไหมละ?
ผมไม่ได้คิดไม่ดีนะครับ
…. นี่หวังดีกับจื่อเถาล้วนๆ
แฮ่ๆ
"แอ๋วววววว ?"
จื่อเถาร้องแอ๊วๆอีกครั้งแล้วมองหน้าผม เจ้าตัวคงสงสัยเพราะอยู่ดีๆผมก็ปีนมานั่งบนเตียงแล้วจ้องไปที่หน้าของจื่อเถานิ่งๆ ตอนแรกคิดว่าจะไปใส่กางเกงดีหรือเปล่าเพราะตอนนี้ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวโทงๆผืนเดียวลมมันเย็นเหลือเกิน แต่คิดอีกทีไม่ดีกว่าแบบนี้แหละแกรนด์โอเพ่นดี
"จื่อเถาาาอ่าาา ไม่พูดกับพี่แบบตอนในห้องน้ำแล้วหรอ?"
ผมถามขึ้นเพราะจำได้ว่าจื่อเถาสามารถสื่อสารกับผมได้นี่นา ในห้องน้ำ ถึงจะตะกุกตะกักไปหน่อยก็เถอะ
' กะ.. ก็ได้ นะ'
"อืมมมมมมม แต่คิดอีกทีพูดในร่างแพนด้ามันไม่ดี จื่อเถากลายเป็นคนดีกว่าครับ "
'ฮะะ .. ? '
ปุอิ้ง ๆ
ไม่รอให้เสียเวลา ผมรีบกระโจนไปดึงหางกลมๆของจื่อเถาเบาๆแต่มันคง จื่อเถาร้องแอ๊วๆเสียงดังเหมือนเดิมแล้วดิ้นไปมา ก่อนที่ร่างกลมป้อมของแพนด้าจะกลายเป็นเด็กผู้ชายตัวบางผมดำนอนเปลือย.... นอนเปลือยอยู่บนเตียงของผม...
บนศีรษะเล็กนอกจากจะถูกปกคลุมไปด้วยผมสีดำนุ่ม มันยังมีหูแพนด้าสีดำประดับอยู่ทั้งสองข้าง บริเวณเหนือบั้นท้ายก็มีหางกลมๆป้อมๆนิ่มๆน่าดึงของแพนด้าติดอยู่ เมื่อดูโดยรวมกับผิวขาวอมชมพู จื่อเถาตอนนี้ยังกะภาพวาด เหมือนตุ๊กตากำลังแต่งคอสเพลย์ยังไงยังงั้น
น่าปล้ำ น่าฟัด น่ากอดสุดๆ
คาวาอี้กว่าร่างแพนด้าอีกอะ (O///w///O)
" ฮะ แฮ่ก ๆ … "
จื่อเถากำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง มือเล็กพยายามจะคว้าผ้าห่มผืนหนามาปกปิดร่างกายของตัวเอง ผิวขาวเริ่มขึ้นสีชมพูเป็นริ้วๆซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอายหรืออากาศหนาว และนั่นทำให้ผมตั้งสติได้จากเสียงหอบแฮ่กๆของจื่อเถาที่ออกมาจากปากบางเล็กสีชมพูที่โครตจะยั่ว โครตจะแอ๊วววว โครตจะกระตุ้น ฮือออออออออ
ผมหันรีหันขวางก่อนที่จะเจอผ้าเช็ดตัวสีขาววางอยู่บนเตียง รีบหยิบแล้วพันเป็นกระโจมอกรอบตัวของจื่อเถา ไม่กล้าเสี่ยงพันเฉพาะท่อนล่าง เพราะถ้าท่อนล่างมิดชิดแต่ท่อนบนที่ประกอบไปด้วยไล่เล็กๆกับยอดอกสีชมพูสั่นระริกของจื่อเถา... มันก็ไม่น่าจะมีประโยชน์เท่าไร หลังจากผมพันผ้าเช็ดตัวให้จื่อเถาแล้ว ผมก็เอาจื่อเถาไปม้วนๆกับผ้าห่มเพื่อความมิดชิดอีกรอบ แฮ่ๆ เสร็จสมบูรณ์ เท่านี้จื่อเถาก็ปลอดภัย (จากผม) แล้ว
…ว่าแต่นะ หนาวจังวุ้ย ทำไมมันหนาวจัง
"จื่อเถาครับ ทำไมตอนกลายร่างจื่อเถาตอนดิ้นแถมหอบแฮ่กๆด้วยหล่ะ มันเหนื่อย มันเจ็บหรอครับ?"
ผมถามเพราะเวลาจื่อเถากลายร่างมักจะดิ้นไปดิ้นมาแถมร้องเสียงดัง พอกลายร่างเสร็จก็หอบแฮ่กๆ มันทำให้ผมสงสัยว่าตอนกลายร่างแต่ละครั้งมันเจ็บหรือเปล่า เพราะถ้าเจ็บจะได้ไม่ทำอีก ให้อยู่ในร่างคนต่อไปตลอดจนลูกจนหลาย ฮิ <3
"มะ.. ไม่"
จื่อเถาหันหน้าหนีผมก่อนที่จะหน้าแดงแจ๋ สงสัยเขินในความหล่อ
อยากจะบอกว่าเสียงของจื่อเถามันเล็กมากกกๆๆๆ มันแอ๊วๆมันยั่วๆ มันคาวาอี้ T V T)/
"ทำเฉยๆ.. . "
"ทำเฉยๆ?" ผมถามทวน.. ทำเฉยๆงั้นรึ?
"อะ.. อื้อ ไม่เจ็บเลยฮะ.. "
"งั้นจื่อเถาก็กลายร่างไปๆมาๆได้ตลอดเลยนะสิ ดีจัง งั้นพี่ดึงบ่อยๆก็ได้น่ะสิ!" ผมตาวาว
"มะ.. มันก็ไม่เชิง..."
'กลายร่างกลับไปกลับมาบ่อยๆก็ไม่ดีหรอกฮะ'
"หือออ เมื่อกี้จื่อเถาพูดอะไรหรือเปล่าครับ?"
ผมถาม เพราะเหมือนได้ยินเสียงอะไรอยู่ข้างหูแต่ได้ยินไม่ถนัด
ยิ่งจื่อเถาพูดโดยไม่หันหน้ามามองผม เอาหน้าซุกไปกับผ้าห่มผืนหนา
ร้ิวแดงๆพาดเต็มหน้าเรื่อยมาจนถึงใบหูเล็ก... หืมมม เป็นอะไรเจ้าตัวเล็ก
"จื่อเถาอ่าาา เวลาพูดทำไมไม่หันมามองหน้าพี่ละครับ?"
"งืออออ"
จื่อเถายังคงไม่มองหน้าผม เอาหน้าซุกไปกับผ้าห่มเหมือนเด็กๆส่ายหัวไปมา
"จื่อเถาาาอ่าาา … "
"… "
"พี่เสียใจนะ … ไม่มองหน้ากันแบบนี้"
ผมพูดเสียงอ่อยๆ ใช้ท่าไม้ตายในการอ้อนจื่อเถา
"จื่อเถาเอ้อ"
จื่อเถาที่รักของผมยังคงเอาหน้าซุกไปกับผ้าห่มแล้วส่ายหน้าแรงๆ
"งื้อออออ ไม่ นะ มะ.. ไม่มองหรอก"
จือเถาพูดอู้อี้ๆกับผ้าห่ม ผมได้ยินไม่ค่อยชัดจึงต้องเขยิบตัวไปใกล้ๆ นั่นทำให้จื่อเถามองหน้าผมแล้วทำตาโต
ก่อนที่จะเอามือดันหน้าของผมให้ออกห่างจากเจ้าตัว แล้วพูดเสียงสั่นๆ
"อะ.. อปป้า"
"… "
"อปป้าโป๊! ไม่มีเสื้อผ้า... ยะ.. อย่ามาใกล้จื่อเถานะ"
ฮะ… เฮ้ย …
ผมค่อยๆก้มมองตัวเอง แล้วค่อยๆยิ้มแหะๆให้จื่อเถา
"คนทะลึ่ง!!"
ไอ้เราก็ว่าทำไมเย็นๆ...
OTZ
100%
#น้องแอ๊วไม่ใสนะครับ 5555555555555555555555
เวิ่นในทวิตอย่าลืม #น้องแอ๊ว นะครับบบบบบ
@mokzVIP#
ฝากครับ~ ช็อคฟิคคริสเทาแบบโรคจิตๆหน่อย ลองอ่านกันดูน้า คลิ้กๆ
-ในนี้มีใครอ่านชานแบคบ้างงง >___< เรามีเรื่องสนุกๆมาแนะนำแหละ ไม่ใช่ฟิคเรานะ เรามาโปรโมตให้
ไรท์เตอร์เฉยๆ เปิดจองแล้ววววว ไปจับจองกันได้จ้า http://writer.dek-d.com/chamachu/story/view.php?id=976448
ความคิดเห็น