คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 09 , 50 %
“กูกำลังจะเดินไปทางโซนวีไอพีเนี่ย มึงอย่าใจร้อนได้ไหม” ผมตอบมันแล้วกดวางหูโทรศัพท์ทันที ผมจูงมือจื่อเทาให้เดินข้างๆ แล้วพยายามกันไม่ให้จื่อเทาโดนตัวกับฝูงคนมากมายในเวลานี้ของสนามบินที่แสนจะพลุ่งพล่าน.. ผมกลัวความแตก OTL
ผมจับจื่อเทาใส่กางเกงยีนส์ขายาวแล้วก็ฮู้ดตัวโคร่ง แล้วเอาหมวกสีขาวสกรีนลายกราฟฟิคสวยๆใส่ให้จื่อเทาอีกชั้นหนึ่ง ป้องกันไม่ให้หูแพนด้าดำๆโผล่ออกมาให้ชาวบ่้านเค้าตกใจเล่น ส่วนหางแพนด้ากลมๆถูกซ่อนไว้ในกางเกงปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็น.. ละมั้ง
“อะ.. แอ๊ว!” จื่อเทาร้องขึ้นมาเมื่อมีผู้ชายต่างชาติเดินมาชนจื่อเทาอย่างจังโดยที่ผมไม่ทันระวัง ผู้ชายคนนั้นหันมาพูดขอโทษเร็วๆแล้วเดินจากไป
“จื่อเทาเป็นไรไหมครับ?”
“ไม่ๆๆ แต่เค้าชนตูดจื่อเทา มันเจ็บ งื้อออ” จื่อเทาตอบซื่อๆ ไอ้ผมล่ะก็ถ้าไม่ติดว่าอยู่ที่สนามบินจะเรียกไอ้คนนั้นมาตบกระบาลให้แยก เดินยังไงไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าผิวจื่อเทาของผมเป็นรอยช้ำนะ! ผมจะพ่นไฟ กร๊าซซซซซซซซ
“ไม่เจ็บมากใช่ไหม อีกนิดเดียวก็ใกล้ถึงแล้ว” ผมถาม แล้วดึงจื่อเทาให้มาอยู่ใกล้ผมกว่าเดิม
“ครับๆ จื่อเทาทนได้ ฮี่ๆๆ” จื่อเทาตอบ แล้วก็เงยหน้ามายิ้มให้ผม ผมเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าจื่อเทาตัวเล็กกว่าผมมากๆ เวลาเงยหน้าเพื่อที่จะสบตากับผมแบบนี้ เวลายิ้มเห็นฟันขาวๆแบบนี้.. มันโครตจะน่ารัก...... โอ้ยยย ช่วยผมด้วย
ในขณะที่ผมกำลังเดินตัวลอยในสนามบินเพราะฟินกับหน้าตาอันน่ารักของจื่อเทาอยู่นั้น ก็มีผู้ชายชุดดำที่ผมจำได้ว่าเป็นหนึ่งในลูกน้องของจงอินเดินมาทางพวกเราแล้วก็ช่วยผมถือสัมภาระ และนำผมกับจื่อเทาไปที่เครื่องบินส่วนตัว อ้าาา ขอบคุณมากนะครับบบ
“ไอ้คริส น้องเทา ทางนี้ครับทางนี้”
ทันที่ที่ผมขึ้นมาในเครื่องบิน ชานยอลและจงอินก็กวักมือเรียกผมและจื่อเทาของผมอย่างสนิทสนมทันที ฮึ่มมม ผมพยายามไม่สนใจพาจื่อเทาเดินเข้าไปนั่งในโซฟาตรงกันข้ามกับจงอินและชานยอล จื่อเทายังคงกลัวเพื่อนของผมทั้งสองคนและไม่กล้าสบตาเหมือนเมื่อคืนเปี๊ยป
ดีมากจื่อเทา ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกมัน น่ากลัวลูก จำไว้ว่าผู้ชายทุกคนคือสัตว์
(ไม่นับผมนะ ไม่นับจื่อเทาด้วย นับแค่ไอ้พวกหน้าหื่นเท่านั้นแหละ!)
“น้องเทาครับ พี่ทั้งสองคนไม่ใช่คนไม่ดีหรอก ไม่ต้องกลัวหรอกครับ” ชานยอลพูดเสียงนุ่ม แล้วยิ้มโชว์ฟันในแบบฉบับของมัน จื่อเทาเงยหน้าไปมองตาโตๆของชานยอลนิดๆ แต่ก็ยังเกาะแขนผมแน่นอยู่ดี
“พี่ชานยอลครับ ส่วนนี้จงอิน เป็นเพื่อนไอ้เจ้าคริสของเรามาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ ไว้ใจได้ พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก” ชานยอลพูดอีกครั้ง ใช้น้ำเสียงอบอุ่นแบบที่มันถนัด (ถนัดเวลาจะไปป้อสาวๆน่ะเซ่!)
จื่อเทามองไปที่ชานยอลและจงอินช้าๆ พอเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้มีท่าทางน่ากลัวอะไร ปากเล็กๆก็เผยยิ้มหวาน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะฮะ ..” จื่อเทาพูด และนั่นทำให้ชานยอลกับจงอินยิ้มกว้างแล้วหันไปแทคมือกัน เพราะเมื่อคืนแทบทั้งคืน พวกเค้านั่งเครียดและกลัวว่าจื่อเทาจะไม่ยอมพูดกับเค้าทั้งคู่ และเค้าก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพื่อนของเค้าสนิทกับใคร พวกเค้าก็อยากสนิทไปด้วย~
“จื่อเทาอ่าาาา....” จงอินพูดขึ้นมาได้เห็นรอยยิ้มของจื่อเทาชัดๆ
“ฮะ..”
“คาวาอี้เดสก๊า Tw T)!!” พวกมันสองคนประสานเสียงกัน เล่นเอาเส้นเลือดที่ขมับผมเต้นตุบๆ!!
“ไอ้เพื่อนบ้า!! คนนี้ห้าม!” ผมหันไปโวยวายใส่พวกมัน แทบจะอุ้มจื่อเทามากอดแต่ติดตรงที่นั่งมันมีพนักพิง เลยได้แต่วาดแขนโอบจื่อเทาเอาไว้เท่านั้น
“คิกๆๆๆ” เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากปากของจื่อเทาทำให้ทั้งชานยอลและจงอินยิ่งเพ้อในความน่ารักของน้อง อ้ากกกก หวงเว้ยยย
MY CUTEST PANDA!
“คริส ตกลงน้องเค้าเป็นอะไรกันแน่?” จงอินถามเสียงเครียดทันทีที่จื่อเทาผลอยหลับไปที่ไหล่ของผม ผมถอนหายใจออกมาก่อนที่จะโบกมือให้แอร์ฮอสเตสทั้งสองคนออกไปจากห้อง
“กูก็ไม่รู้.. อยากที่กูเล่าให้มึงฟังเมื่อคืน ที่กูหลงป่าไป ที่พวกมึงบอกว่ากูหายไปแค่ไม่กี่นาที จริงๆกูไปอยู่ในนั้นสามวัน กูไม่ได้เพ้อ.. นี่กูซีเรียสจริงๆ เชื่อกูเถอะ”
“กูไม่ได้ไม่เชื่อมึง.. หลักฐานก็เห็นอยู่แล้วที่จื่อเทา.. กูแค่.. ไม่รู้ดิ มันเหลือเชื่อ” ชานยอลพูดขึ้นมา ผมพยักหน้ารับเพราะถ้าเป็นผมผมก็คงไม่เชื่อง่ายๆ มันดูแปลกประหลาด ถ้าเป็นภาษาอังกฤษคงใช้คำว่า It is unbelievable!
“จื่อเทาช่วยชีวิตกูไว้ ไม่มีจื่อเทากูอาจจะตายไปแล้ว กูทิ้งน้องเค้าไว้ในป่าคนเดียวไม่ได้จริงๆ ช่วยกูหน่อยเหอะ” ผมพูดโดยเน้นไปทางจงอินเป็นพิเศษ เพราะผมต้องการให้จงอินสร้างประวัติจื่อเทาขึ้นมา ต้องการทั้งบัตรประชาชน พาสสปอร์ต และประวัติทางการศึกษา ต้องการทำให้จื่อเทาเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆในโลกปกติ
“ไม่ต้องมามองหน้าทำตาอ่อยกูแบบนั้นคริส มันเรื่องง่ายๆกับอีของแค่นี้ แต่จื่อเทามีทั้งหูทั้งหาง จะอยู่ในสังคมได้หรอ ไหนจะเรื่องที่พูดตะกุกตะกักแล้วจะยังไม่ค่อยรู้เรื่องทางโลกอีก” จงอินพูด
“เดี๋ยวกูจะค่อยๆสอนน้องเค้าเอง เดี๋ยวกูทำเอง”
“กูว่าแล้วว่ามึงต้องพูดแบบนี้ แล้วมึงไม่มีงานไม่มีการทำหรอ ไหนจะแม่มึงอีก มึงเล่าให้แม่มึงฟังยังเรื่องจื่อเทาอะ” ชานยอลพูด และนั่นทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมยังไม่ได้เล่าเรื่องจื่อเทาให้แม่ผมฟังเลย
“เดี๋ยวกูจะค่อยๆพูดกับท่านเอง แค่พวกมึงสองคนโอเคกับจื่อเทาและจะคอยช่วยกู แค่นั้นก็พอแล้ว”
ผมพูดเสียงเครียด และมองหน้าพวกมันทั้งสองคน ชานยอลกับจงอินยิ้มน้อยๆแล้วตบบ่าผม
“โอ้ย ถ้าเรื่องกูสองคนไม่ต้องคิดมาก จื่อเทาน่ารัก พวกกูก็เอ็นดู มึงเป็นเพื่อนกู มึงจะทำอะไรกูก็ไม่ว่าหรอก เพื่อนรักใครกูก็รักด้วย”
“ขอบใจมากเว้ย”
“แต่อย่าลืมเล่าเรื่องจื่อเทาให้คยองซูฟังด้วยล่ะ รายนั้นได้ข่าวว่าจะกลับเกาหลีอาทิตย์หน้า”
MY CUTEST PANDA!
ผมปลุกจื่อเทาเมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินอินชอน จื่อเทางัวเงียเล็กน้อยแต่เมื่อผมบอกว่าถึงเกาหลีแล้วคนตัวเล็กก็ทำท่าทางตื่นเต้น รีบเดินออกจากเครื่องนำหน้าผม แจกยิ้มหวานในกับแอร์ฮอสเตสจนพี่ๆแอร์อมยิ้มไปกับความน่ารักของจื่อเทา ผมรีบเดินตามจื่อเทาออกไปเพราะกลัวจะคลาดกัน แล้วตะโกนบอกให้จงอินกับชานยอลรีบๆหน่อย
“รีบๆสิพวกเมิงงงงงงงง”
“เดินตัวปลิวเลยนะอิตุ๊ด กระเป๋ามึงเนี้ยไม่เอาไปหรือไง!” จงอินตวาดขึ้นมา ทำเอาผมร้องอุ๊ยเบาๆแล้วรีบจูงมือจื่อเทาให้เดินไปเอากระเป๋าในมือจงอินด้วยกัน ว่าแต่.. เมื่อไรมันจะเลิกเรียกผมว่าตุ๊ดว่าเติ๊ดซักที ผมรักสวยรักงามชอบดูแลตัวเองไม่ได้หมายความว่าผมตุ๊ดนะครับ!
“กูไม่ได้เป็นตุ๊ด”
“กูรู้ว่ามึงไม่ได้เป็นตุ๊ด แต่มึงมันติ๋ม” จงอินย้อนแล้วยักคิ้วใส่ผม
“เดี๋ยวกูกรี้ดใส่หน้าเลอ”
ผมตอบมันกลับแล้วเดินหิ้วกระเป๋าออกไปยืนรอมันที่ทางเชื่อมระหว่างเครื่ิองบินไปที่สนามบิน
เอ่อ มันเรียกว่ายังไงอะ งวงช้างช่ะม่ะ นั่นแหละ
“จื่อเทาง่วงไหม เพลียหรือเปล่า” ผมหันไปถามจื่อเทา
“ไม่ง่วงครับ จื่อเทากระปรี้กระเป่ามากๆเล้ยยย อากาศดีสุดๆ” จื่อเทาพูดแล้วบิดไปบิดมาโชว์ ผมอมยิ้มแล้วขยับหมวกที่จื่อเทาใส่อยู่ให้เข้าที่เพื่อบังหูแพนด้าไว้
“งื้อออ จื่อเทาไม่อยากใส่หมวก มันไม่ร้อนเลยอะพี่ฟ่าน” ว่าแล้วก็ทำปากจู๋ใส่ผมทำเอาผมสตั้นในความบ๊องแบ๊วไปสามวิ ก่อนที่จะรีบตั้งสติแล้วนึกถึงซีรีย์วัยรุ่นที่เคยดู
ใครรักพี่ฟ่านให้ทำปากจู๋
น้องเทาปากจู๋ = น้องเทารักพี่ฟ่าน
กรี้ดดดดดดด
“ไม่ได้ครับ เราต้องไม่เห็นคนอื่นเห็นหูแพนด้าเรานะเข้าใจไหม” ผมพูดเสียงค่อย มองซ้ายมองขวาว่ามีคนอยู่หรือเปล่า
“งื้อออ ทำไมอะ มีหูแพนด้าไม่น่ารักหรอ” จื่อเทาช้อนสายตามองผม
โอ้ยยยยยยย น่ารักที่สุดเลยครับบบบ ฮืออออ พี่กลัวคนเห็นหูเราแล้วจะแตกตื่นแล้วมาแย่งเราไปจางพี่นะสิครับ ไม่มีความหมายอื่นใดเลอ!
“หืมม ใช่ที่ไหน น่ารักจะตาย แต่คนอื่นเห็นเค้าจะตกใจสิครับ” ผมอธิบาย
“ตกใจทำไมฮะ คนอื่นไม่มีหูเหมือนจื่อเทาหรอ”
“ก็ไม่มีน่ะสิครับ พี่ก็ไม่มีเห็นไหม จงอินกับชานยอลเพื่อนพี่ก็ไม่มี”
“งื้อ…”
“….”
“งั้นจื่อเทาก็ไม่เหมือนคนอื่นน่ะสิ จื่อเทาเป็นตัวประหลาดหรอ..” จื่อเทาเอ่ยเสียงอ่อย แล้วก้มหน้าทำเอาผมใจหายใจคว่ำ รีบคุกเข่าลงตรงหน้าน้อง แล้วจับหน้าเล็กๆให้มาสบตาผม
“จื่อเทาไม่ใช่ตัวประหลาด จื่อเทาไม่ใช่แบบนั้น จื่อเทาคือจื่อเทา จื่อเทาคือคนที่พี่ฟ่านรัก”
“….”
“จื่อเทาคือคนที่พระเจ้าส่งมาให้พี่อี้ฟ่านนะครับ เข้าใจพี่ไหม” ผมพูดเสียงเข้มอย่างจริงๆจัง และยิ้มให้จื่อเทากว้างอย่างจริงใจ จื่อเทาที่หน้าเสียเริ่มมีรอยยิ้ม
“อื้อ!”
“ไม่อื้อสิ ไหนร้องแอ๊ววววให้พี่อี้ฟ่านฟังหน่อย พี่ฟ่านเหนื่อยจังเลย อยากได้กำลังใจ”
“แอ๊ววววววววววว” จื่อเทาร้องพลางหัวเราะคิกคักๆ ตาหวานๆนั้นสบตาของผม ทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมยิ้มให้จื่อเทาก่อนที่จะพาจื่อเทามานั่งรอจงอินกับชานยอลที่เลาจ์ของทางสนามบิน จงอินส่งข้อความมาหาผมว่าต้องเคลียร์กับเลขามันเรื่องเอกสารของจื่อเทาและเรื่องเครื่องบินที่บินมาอย่างไม่ถูกต้องนัก แต่มันบอกว่าไม่ต้องห่วง everything is OK แต่ต้องหว่านเงินไปหน่อยเท่านั้น
“แค่พี่ฟ่านได้ยินเสียงแอ๊วๆของจื่อเทาพี่ฟ่านก็หายเหนื่อยแล้วหรอครับ” จื่อเทาถามผมทันทีที่เรานั่งลงบนโซฟาตัวนุ่มที่ทางสนามบินจัดไว้ให้ คำถามที่จื่อเทาถาม เล่นเอาผมยิ้มไม่หยุดเลยล่ะครับ คริคริ
“ใช่ครับ พลังพี่ฟ่านนะ จาก 0 พอได้ยินแบบนั้น ก็พุ่งมาเป็น 100 เลยแหละ” ผมพูดตอบอย่างยิ้มแย้มโชว์เหงือกและฟันอันสวยงาม จื่อเทาได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าครุ่นคิด
“แต่เอาจริงๆนะจื่อเทา พี่ฟ่านน่ะ แค่เห็นหน้าจื่อเทาพี่ฟ่านก็หายเหนื่อยแล้วววววว จื่อเทาคือดีที่หนึ่ง คือดีที่ซู้ดดดดดดดดสำหรับพี่” ผมวาดมือไปมาประกอบคำพูด ยังกับคนบ้า แต่ถ้าทำแล้วจื่อเทาชอบ จื่อเทายิ้ม ผมก็ยินดีครับ!
“อืมมม แล้วถ้า...” จื่อเทาทำปากยู่และพูดขึ้นมา ปากยู่อีกและ ปากยู่ก็น่ารักนะครับ แต่จื่อเทายิ้มน่ารักกว่าเยอะเลยยย
“หืม?”
“ถ้าแบบนี้...” จื่อเทาพูดยังไม่ทันจบประโยค เจ้าตัวก็หันหน้าแล้วก็ยืดตัวมาจุ๊บที่ปากของผมเร็วๆหนึ่งทีดังด๊วบๆเบาๆ พอเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วเจ้าแพนด้าน้อยก็ยังมานั่งมองผมเอียงคอหกสิบองศาทำหน้าแบ๊วใส่อี้ฟ่านคนนี้ที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้่วเรียบร้อยเพราะจุ๊บแบบเด็กๆที่ไร้การล่วงเกินแค่โครตหวานนั่น
“ถ้าร้องแอ๊วพี่ฟ่านพลังเต็มร้อย แล้วถ้าจุ๊บๆพี่ฟ่านจะได้พลังเท่าไรหรอฮะ?”
ยัง..
ยังมีหน้ามาถาม...
เจ้าแพนด้าขี้ยั่วเอ๊ย!!
“ถ้าจื่อเทาจุ๊บๆพี่ฟ่านล่ะก็ จาก 0 พี่ฟ่านคงพลังงานพุ่งปรี้ดสุดปรอท จากศพในวอร์คกิ้งเดด กลายเป็นกัปตันอเมริกาเลยล่ะครับ” ผมพูดโดยไม่สนใจจื่อเทาที่ทำหน้างงกับมุขที่ผมเล่น เพราะเจ้าตัวคงไม่เข้าใจว่า walking dead และกัปตันอเมริกาคืออะไร ไม่เป็นไร ไว้กลับไปที่คอนโดพี่จะเปิดให้ดูทั้งวันทั้งคืนเลยล่ะครับ
อ้อ ว่าแต่ผมบอกทุกๆคนไปหรือยัง เอาเป็นว่าถ้าบอกแล้วว่าจะบอกอีกแล้วกันนะครับ ปากของจื่อเทาน่ะ ทั้งนิ่มทั้งหวานยังกับเยลลี่เลยล่ะครับ ผมล่ะฟิน~ ว่าแล้วก็...
“จื่อเทาอ่าา ขอพี่ฟ่านจุ๊บอีกรอบสิครับ ตอนนี้พลังงานพี่ฟ่านเป็น 0 อีกแล้วอ๊ะ!”
ขอจุ๊บอีกรอบนะ
ฮร้ิง
LOADING 50 %
เจอกันหลังสอบแกทแพทรอบ 2 ค่ะ ฮิ
#น้องแอ๊ว @mokzVIP
ความคิดเห็น