คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 04
อยู่ ดีๆจื่อเถาก็ดิ้นออกมาจากอ้อมกอดของผม แล้ววิ่งดุ้กๆดิ้กๆไปข้างหน้าอย่างเร็วจนผมกลัวว่าแผลที่แขนขวาของจื่อเถาจะ เจ็บ ผมรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามไปตะโกนบอกว่าให้ช้าหน่อย จื่อเถาหันมามองผมก่อนจะร้องแอ๊วๆสองสามครั้งแล้วจึงผ่อนฝีเท้าลงกลายมาเป็น เดินดุ้กดิ้กๆเคียงค้างกับผมไป
ผมสงสัยนิดหน่อยว่าจื่อเถาจะพาผมไปไหน
แต่จะไปไหนก็ได้ทั้งนั้น.. ผมเชื่อใจจื่อเถานะ
ถ้าไม่ได้จื่อเถาป่านนี้ผมคงตายไปแล้วล่ะ
ขอบคุณมากนะจื่อเถา
ขอบคุณมากจริงๆ
จื่อเถาพาผมเดินมาได้อีกซักพักก็มาหยุดตรงหน้าต้นไม้ใหญ่ที่มีใบสีเขียวชะอุ่มแผ่กิ่งก้านใหญ่โต… โฮ้ นี่มันใหญ่มากๆเลยนะ เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยล่ะ แล้วจื่อเถาพาผมมาทำไมที่นี้อะ..
อย่าบอกนะว่าจะให้ผมปีนต้นไม้แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ?
อย่าบอกนะว่าจะให้ผมปีนต้นไม้แล้วตั้งรกรากอยู่บนนั้น?
ไม่นะ..
ผะ.. ผมน่ะ..
“จื่อเถาอ่า.. พี่ปีนต้นไม้ไม่เป็นนะครับ T v T”
ผมก้มหน้าลงไปบอกกับจื่อเถาที่ยืนตัวกลมอยู่ข้างๆ จื่อเถาเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะร้องแอ๊วๆใส่
“แอ๊ววววววว ?”
“…..ใหญ่ขนาดนี้ พี่เคยแต่ปีนต้นมะม่วงข้างบ้านแถมตกลงมาหัวแตกด้วย นี่ยังเป็นแผลเป็นอยู่เลย”
ผม บ่นยาวๆก่อนที่จะก้มลงไปแล้วชี้ให้จื่อเถาดูแผลเป็นเล็กๆหน้าผาก จำได้ คราวนั้นไอ้ไคกับไอ้ชานยอลชวนไปปีนต้น(ขโมย)มะม่วงของคุณป้าโหดขี้งกข้าง บ้าน แล้วท้าให้ผมปีนไปเก็บมะม่วงอกร่องสีเหลืองกรอบน่าอร่อยที่อยู่บนยอด…
ครับ.. ก็นั่นแหละ
ไอ้ผมก็ยุขึ้น
มัน เป็นหนึ่งในความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดของผมเลยล่ะครับ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ แค่คิดก็เจ็บแล้วอะ แล้วผมก็แอดมิดเข้าโรงพยาบาลอยู่หลายวัน แล้วหลังจากนั้นไม่รู้ทำไมไอ้ไคกับไอ้ชานยอลก็ไม่มาชวนผมไปปีนต้นไม้หรือ เล่นอะไรห่ามๆอีกเลยละครับ แฮ่ๆ
“แอ๊วววววววววววว?”
จื่อเถาร้องแอ๊วๆพร้อมๆกับทำหน้าแบบที่เต็มไปด้วยเครื่องหมาย Questions Mark ตัว โตๆ คงงงๆสินะพี่ผมทั้งหล่อมาดแมนและแฮนซั่มขนาดนี้ทำไมปีนต้นไม้ไม่เป็น ก็บอกแล้วไงครับผมอิมพอร์ตจากแวนคูเวอร์ เป็นคุณหนูแห่งตระกูลอู๋นะครับ อะไรห่ามๆแบบนี้ผมทำไม่เป็นหรอก
“พี่ปีนต้นไม้ไม่เป็นครับจื่อเถา”
ผม นั่งชันเข่าแล้วพูดกับจื่อเถาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น กลัวว่าจื่อเถาจะไม่เข้าใจเลยชี้ไปที่ต้นไม้แล้วเอามือมาไขว้กันเป็นรูปตัว เอ็กซ์แล้วส่ายหน้ารัวๆ
“โนๆๆ ปีนต้นไม้โนๆ”
จื่อเถาเข้าใจผมไหมเนี่ย
“แอ๊วววว!!!”
จื่อ เถาร้องเสียงดังก่อนที่จะสะบัดตูด ทำหน้ามุ่ยๆแล้วเดินอุ้ยอ้ายไปต้นโคนต้นไม้ โดยที่ไม่ลืมที่จะงับขากางเกงของผมแล้วบังคับให้เดินไปด้วยกัน เมื่อเดินไปถึงโคนต้นไม้ จื่อเถาเปลี่ยนท่าเป็นยืนสองขาเพื่อเพิ่มความสูง แล้วกระโดดดึ๋งๆๆๆ
ฮ่าๆๆๆ โครตน่ารักเลยหล่ะครับ
แต่ดูแล้วจะลำบาก ตัวก็สั้น แถมพุงกลมๆนั่นคงหนัก.. ว่าแต่จื่อเถาจะกระโดดดึ๋งๆทำไมล่ะครับ แผลก็ยังไม่หายดี เดี๋ยวก็เจ็บอีกหรอก
อ่า.. คราวนี้ถึงตาพระเอกอย่างผมต้องออกโรง
“จื่อเถาครับ.. มีอะไรให้ช่วยไหม”
ผม เดินเข้าไปใกล้จื่อเถาก่อนที่จะถามด้วยเสียงนุ่ม ยิ้มกว้างให้จื่อเถา จื่อเถากันมามองผมก่อนจะร้องแอ๊วๆแปลความได้ว่าน่าจะมาตั้งนานแล้วนะ ก่อนที่จะเปลี่ยนมายืนด้วยสี่ขา แล้วแขนสั้นๆชี้ไปที่เถาวัลย์เส้นใหญ่ ที่มีเปลือกแตกเป็นร่องลึก พันอยู่รอบต้นไม้
เดี๋ยวนะ.. เถาวัลย์นี่มันคุ้นๆ.. ผมจำได้ว่าเคยเห็นมันตอนดูสารคดี MAN VS WILD
นี่มันเครือเขาน้ำนี่นา!
มันเป็นชื่อไม้เถาชนิด Tetrastigma lanceolarium Planch. ในวงศ์ Vitaceae ขึ้น ในป่าดิบ ลําต้นตอนบนแบนเป็นร่อง ตอนล่างค่อนข้างกลม อุ้มนํ้า นํ้าในลําต้นกินได้ ผมจำได้ตอนเรียนไบโอโลจี้สมัยยังเรียนอยู่ในไฮสคูล ผมไม่อยากจะอวดว่าผมได้เกรด A ด้วยแหละ
แต่นั่นไม่สำคัญอีกแล้ว.. ที่สำคัญที่สุกตอนนี้สำหรับผมก็คือ..
น้ำในลำต้นกินได้
น้ำในลำต้นกินได้
น้ำในลำต้นกินได้
น้ำในลำต้นกินได้
น้ำในลำต้นกินได้
กินได้
กินได้!!
…แค่คิดความรู้สึกกระหายน้ำก็ตีเข้ามาดังเอื้อกๆจนเผลอกลืนน้ำหลายเหนียวๆและแนบลิ้นมาเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง
แถม เป็นน้ำสะอาดที่ไม่ต้องต้มอีกต่างหาก อาจจะมีกลิ่นเหม็นเขียวนิดๆแต่ไม่เป็นไรอู๋อี้ฟ่านทนได้ ไอ้เครือเขาน้ำเนี่ย ผมกันไปมองจื่อเถาที่กำลังมองผมตาปริบๆเช่นกัน ผมก้มลงไปฟัดจื่อเถาสองสามทีแล้วผละออก ก่อนที่จะอุ้มจื่อเถาไว้แล้วยกจื่อเถาให้สูงสุดมือ จื่อเถาหันมามองผมแบบงงๆแล้วสะบัดตัวเล็กน้อยพอเป็นพิธี
“แอ๊วววววววววววว”
“จื่อเถาครับ… ไอ้เครือเขาน้ำเนี่ย มันต้องตัดให้ยิ่งสูงยิ่งดี แล้วทีสำคัญพี่ไม่มีมีด..”
“…”
“เดี๋ยวพี่อุ้มจื่อเถาแล้วจื่อเถาช่วยกางกรงเล็บแล้วตัดเครือเขาน้ำมาให้พี่ทีนะครับ.. พี่หิวน้ำจะแย่อยู่แล้ว”
“แอ๊วว!”
“นะครับบบบบบบบบบบ”
จื่อ เถาร้องแอ๊วๆแล้วหันหน้าไปตรงเครือเขาน้ำที่ขึ้นพันอยู่เต็มต้นไม้ไปหมด แล้วยกอุ้งเท้ากลมๆของตัวเองขึ้น ก่อนที่จะกางกรงเล็บอุ้งตีนหมีที่คมกริบก่อนที่จะเริ่มตัดเครือเขาน้ำมาให้ ผมกิน
“จื่อเถาครับ! พี่รักจื่อเถาที่สุด เคยบอกหรือยังครับ!!!”
ผมตะโกนบอกรักจื่อเถา จื่อเถากระดิกหูเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่ารับรู้ แล้วตั้งหน้าตั้งตาตัดเครือเขาน้ำมาให้ผมดูดน้ำสะอาดกินอย่างไม่หยุดหย่อน ตัดเก็บไปเผื่อกินเวลาอื่นด้วย ผมเอามือคว้านๆไปที่กระเป๋าเดินทางแล้วหยิบกระป๋องน้ำเปล่าๆออกมาแล้วรองน้ำ ที่หยดมาจากเครือเขาน้ำที่จื่อเถาตัดมาให้ผมแล้ว อุ้มจื่อเถาที่คอยเอากรงเล็บค่อยๆตัดเครือเขาน้ำด้วยมือข้างเดียว
เห็นผมอย่างนี้น่ะ ผมน่ะแข็งแรงนะจะบอกให้
อุ้มแพนด้าตัวกลมบ๊อกอย่างจื่อเถาได้ด้วยแขนเข้างเดียวได้เชียวนะ
เท่ป้ะละ
ผมก้มลงมองเสบียงในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของผม.. น้ำจากเครือเขาน้ำรวมกับกล้วยและผลไม้พวกนั้นน่าจะทำให้ผมใช้ชีวิตรอดไปได้ อีกหลายชั่วยาม
เป็นเพราะจื่อเถา
จื่อเถาคนเดียวเลย
จื่อเถาของผมน่ะ! น่ารักที่สุดในโลกกกกกเลยล่ะ!!
“แอ๊ววววววว?”
จื่อเถาดิ้นๆๆๆแล้วร้องแอ๊วเสียงเบาๆก่อนที่จะก้มหน้ามาถามผมแปลความได้ว่าพอยัง ผมพยักหน้ารัวๆแล้วชูนิ้วโป้งให้จื่อเถา
“พอแล้วครับ! เยี่ยมมาก จื่อเถาของพี่เก่งมากกกกก”
“แอ๊ว!”
จื่อ เถาร้องแล้วสะบัดตัวอย่างแรงเป็นสัญญาณที่ทำให้ผมรู้ได้เลยว่าต้องปล่อยเจ้า ตัวลงแล้ว ผมจึงค่อยๆวางจื่อเถาไว้บนพื้นเบาๆเอามือวางไปแปะบนหัวของจื่อเถา โยกไปมา
“จื่อเถาเก่งที่สุดเลยรู้ไหม?”
“แอ๊ว!”
มันแปลความหมายได้ว่า’แน่นอน’หล่ะครับ
.
.
.
หลังจากที่ผมกับจื่อเถาเก็บน้ำและเสบียงเรียบร้อยแล้ว จื่อเถาก็พาผมมาที่วิมานไผ่ ก่อนที่เจ้าตัวก็คลานดุ้กดิ้กๆไปนอนที่เตียงที่มีใบไผ่หลายๆชั้นมาซ้อนกัน นอนหงายเอาพุงกลมๆเงยขึ้นรับแสงแดดอ่อนๆของอาทิตย์ตอนเย็น ตากลมแป๋วเริ่มปรือ
ง่วงละสิไอ้เจ้าแพนด้าอ้วน
ผมเอากระเป๋าที่แสนจะหนักด้วยอุปกรณ์ปีนเขาน้ำและพวกผลไม้วางไว้แล้วเอาใบไผ่แห้งๆแถวนั้นมาวางปิดๆ กันพวกแมลงจะเข้ามาแทะรวมถึงสัตว์ต่างๆด้วย ใบไผ่พวกนี้น่าจะป้องกันได้.. ละมั้ง..
แต่ใบไผ่มันทั้งบางทั้งอ่อนแอนะ ._. ถ้ามีตัวอะไรมาแทะกล้วยผมกินทำไงอ่ะ
…แหม่ มันก็ดีกว่าวางไว้เฉยๆน่า
แล้วถ้ามันมีตัวอะไรมาแทะกินถ้ามดขึ้นอะ พรุ่งนี้จะต้องหาทางกลับบ้านนะ
…แหม่ ในป่ามีมดที่ไหน
แล้วถ้าเกิดมีขึ้นมาหล่ะ เค้าไม่เดินกลับไปเอากล้วยแล้วนะทั้งไกลทั้งร้อน
…แหม่….
ไม่เอาๆๆๆ ไม่วางไว้ตรงนี้
ผมตัดสินใจหิ้วทั้งกระเป๋าน้ำและกล้วยไปวางข้างๆเตียงใบไผ่ที่ตอนนี้จื่อเถาน่าจะหลับไปแล้ว เพราะตาพริ้มๆนั้นปิดสนิท แต่ริมฝีปากบางๆที่ชอบร้องแอ๊วๆอยู่ตลอดเวลาของจื่อเถากลับยกยิ้ม
ผมอมยิ้มนิดๆกับภาพที่เห็น
.. ฝันดีนะตัวเล็ก
แต่ พอผมเห็นจื่อเถาพอนอนหงายผึ่งพุงแบบเซอร์ราวไร้เซ็นเซอร์ชัดๆแบบไร้เสียง แอ๊วๆและกรงเล็บคมๆจื่อเถาแบบนี้ตอนนี้นี่มันน่าก้มลงไปฟัดจริงๆ
อืมมม …
นะ
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าจื่อเถาเป็นตัวผู้
อยู่ด้วยกันมาตั้งสองวันเอาแต่ร้องแอ๊วๆ ด้วยเสียงใสๆจนลืมคิดไปเลยว่าเพศอะไร
จื่อเถาเป็นปู้จายยยยยยยยยยยยยย
ผมหัวเราะเบาๆกับความคิดประหลาดๆเกี่ยวกับเพศของจื่อเถา ก่อนที่จะวางกระเป๋าและกล้วยไว้ข้างๆตัว เอามือไปลูบหัวจื่อเถาเบาๆ ก่อนที่จะเลื่อนไปเกาคาง จื่อเถาทำให้ผมนึกถึงแมวที่บ้านที่เคยเลี้ยงตอนเด็กๆ ฮ่าๆๆ น่ารักจริงน้า
ผมนั่งเกาคางจื่อเถาอยู่เรื่อยๆเพราะไม่รู้สึกง่วงนอน จื่อเถาร้องอื้อๆก่อนที่จะเอนหัวมาที่มือของผม ขยับปากไปมาเป็นเสียงแจ๊บๆอย่างกับเด็กเล็กๆ ผมส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างเอ็นดู อยากจะเอามือไปบีบจมูกกลมๆเปียกๆของจื่อเถาแต่กลัวเจ้าตัวจะตื่นแล้วเอาอุ้งตีนหมีของจริงมาตะปบหน้าผม
ฮา..ขนาดตอนนอนยังน่ารักเลยนะเจ้าแพนด้าตัวนี้นี่
งื้ออออออ นอนผึ่งพุงแบบนี้มันยั่วกันชัดๆๆๆๆๆ
ไม่ไหวแล้วนะ
จะฟัดๆๆๆๆจะฟัดดดด
ฟัดฟัดฟัดจะฟัดแล้วนะ
ผมสะบัดหัวไปมาเพื่อระงับอารมณ์ดิบโรคจิตลึกๆที่บ้าแพนด้าและสิ่งที่มีขนปุกปุยนุ่มนิ่มทุกชนิด เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยฟัดนะอู๋อี้ฟ่าน ใจเย็นๆ นายฟัดตอนนี้จะรบกวนการนอนของจื่อเถานะ ซึ่งมันเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย ไม่เอาๆ จื่อเถาเหนื่อยกับนายมาทั้งวันต้องให้จื่อเถาได้นอน
ต้องให้จื่อเถาได้นอน
นะ
นะ
นะ
ผมนั่งกระฟัดกระเฟียดบิดไปมาอยู่คนเดียวเพราะรู้สึกกระปรี้ประเป่าและไม่รู้สึกง่วงเลย และมันคงทำให้จื่อเถาคงรำคาน ขยับไปมาแล้วพลิกตัวหันหน้ามาหาผม ส่งเสียงอื้อๆแอ๊วๆเสียงดัง
“แอ๊วววววววววว แจ๊บบบๆๆ”
O_O
ละเมอหรอ.. หรือกำลังจะตื่นเพราะรำคานผม
ไม่ได้ตั้งใจนะ
ตื่นป้ะเนี่ย
“แจ๊บบบๆๆ”
ผมเอานิ้วจิ้มๆไปที่พุงจื่อเถาสองสามทีแต่เจ้าตัวก็ไม่ลืมตา แสดงว่ายังไม่ตื่นแหละ
แต่จื่อเถาครับ
ฮืออออออออออออออออ
หันหน้ามาทำหน้าโมเอร้ใส่พี่แล้วพี่จะอดใจไหมครับ
บอกได้เลยว่าไม่ไหวครับ
*ฟัด*
“จื่อเถาอ่างื้ออออออออออออ”
ผมทนไม่ได้พุ่งไปนอนข้างจื่อเถา ก่อนจะเอาจะอุ้มจื่อเถาให้มานอนหนุนแขนผมพลิกให้จื่อเถาเอาหน้ามาซบที่อกอุ่นๆแบนๆของผม กลิ่นหอมอ่อนๆและความนุ่มนิ่มของจื่อเถาทำให้ผมเคลิ้ม
หอมมมมมสุด
นิ่มมมมมมสุด
พ่าย
พี่พ่ายยยยยยยยยยยย
แต่พอได้กอดตัวนิ่มๆของจื่อเถา นอนอยู่บนเตียงใบไผ่นุ่มๆ กลิ่นหอมประหลาดๆ รวมถึงอากาศเย็นสบายๆ ความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน มันทำให้ผมเริ่มง่วงแล้วล่ะ
แต่นะ
ขอนิดนึง
ผมเอามือไปเอื้อมไปกอดจื่อเถาลูบต่ำลงๆไปหลังนิ่มๆที่เต็มไปด้วยเนื้อนุ่มๆขนหอมๆของจื่อเถา ก่อนที่จะเลยไปที่หางกลมๆเล็กๆที่ยังไม่เคยได้สัมผัส ได้แต่เพียงมองจากในสวนสัตว์ ได้แต่เพียงคิดและจิ้นเอาเองในจิตนาการ โง้ยงื้อออออออออออออ เพิ่งเคยจับหางแพนด้าเป็นครั้งแรก มันแบบ มันแบบๆๆๆ ความรู้สึกคือแบบ นุ่มนิ่มหอมหยุ่นๆเด้งๆดึ๋งๆน่าดึงสุด โอ้ยบรรยายไม่ออก ฮือออออ นี่โรคจิตสุดๆๆๆๆๆ
อยากดึงสุดๆ
ดึงแล้วนะ
จึกๆๆๆๆ
*ดึงรัวๆ*
โอ้ะ
ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออ
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเอร้สุดดดดดดดด
ทำไมนิ่มขนาดนี้ทำไมนุ่มขนาดนี้ทำไมหยุ่นๆขนาดนี้
ทำไมหางแพนด้ามันเด้งดึ่งๆราวกับเยลลี่เจลลาตินชั้นดีขนาดนี้ฮือออออออออ
เกิดมาไม่เคยดึงหางแพนด้ามาก่อนเลย
อร่าห์
ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกตอนนี้ได้ถูกงื้อออออออออ
ต้องลองมาดึงเองนะ!!
*ดึงรัวๆ*
ผมโรคจิต
ผมกลายเป็นคนโรคจิตไปแล้ว TT__TT
หยุดไม่ได้
หยุดดึงไม่ได้
*พรากกกกกกกก*
ไม่ได้ต้องหยุด TT__TT เดี๋ยวจื่อเถาตื่นมาเอาเล็บมาตะปบ
หยุดๆๆๆ หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดสิไอ้มือบ้า
*ตีมือตัวเองรัวๆ*
นิ่มจัง
กลมๆนิ่มๆขนนุ่มๆสีขาวดำงึ้ดดดดดดดดดดดดดดดดด
หางแพนด้าไม่มีขายอยากได้ต้องดึง!!
“อะ.. แอ๊ว...อื้อ .. ”
ผมดึงหางจื่อเถาแรงไปหรอ พรืออออพรือออ ไม่นะ ผมดึงเบาๆเองนะดึงไม่กี่ทีเองด้วย
อย่าตื่นนะ อย่าตื่นนะ อย่าตื่นนะ
ฮืออออออออออออออออออ อย่าตื่นนะเถาเถา
นี่ผมรบกวนการนอนของจื่อเถาที่เหนื่อยกับคนบ้าๆทำไรไม่เป็นอย่างผมมาทั้งวันใช่ไหม
ผมมันเลวใช่หรือเปล่า ไม่นะ ผมว่าผมเป็นคนดี ผมเป็นคนดีออก ผมยังหล่ออีกด้วย
“อื้อ .. แอ๊ว ...”
เสียง ใสๆของจื่อเถาดังขึ้นอีกครั้ง ผมหันไปค่อยๆหันไปมอง จื่อเถายังคงนอนหลับตาผึ่งพุงอยู่ แต่กลับส่ายหัวกลมๆไปมาอย่างรู้สึกไม่สบายตัว แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง โดยที่ยังส่งเสียงร้องแอ๊วๆอื้อๆไม่หยุด
จื่อเถาฝันร้ายหรอ TTT__TTT เพราะผมไปดึงหางจื่อเถาหรอ
หรือว่าเขาห้ามดึงหางแพนด้า ทำไมจื่อเถาร้องยังงั้น ฮือออออ
เพราะผมหรือเปล่า ผมทำอะไรผิดอะ
ผมไม่รู้นี่นาว่าดึงหางแล้วจื่อเถาจะไม่สบายตัวขนาดนี้
ขอโทษนะ
ขอโทษอีกแล้ว
ฮืออ แต่จื่อเถาครับ
ถึงจะหันหน้าหนีพี่แต่ทำไมตูดไม่หนีตามไปด้วยหล่ะครับ
มันยังดุ๊กดิ้กๆล่อพี่อยู่เลยครับเถาจื่ออออออออ
T_______________________________________________T
ผมว่าผมไม่ไหวแล้วครับ
ไม่ไหวแล้วครับ
ไม่ไหวจริงๆ..
ขอโทษนะเถาเถา
จะว่าพี่โรคจิตก็ได้
.
.
.
แต่ขอเหอะ
ถ้าทำให้เจ็บพี่ขอโทษ
ถ้ามันเจ็บพี่ขอโทษจริงๆนะ
.
.
.
แต่นะ...
พี่ขอดึงหางเบาๆอีกทีจิ
นะ
*ดึงหาง*
ไม่ไหวและ
อารมณ์โรคจิตบ้าตุ๊กตาและสัตว์มีขนตัวนุ่มนิ่มพุ่งขึ้นปรี้ดยังกะกราฟพาราโบล่าที่มีจุดยอดเป็นอนันต์
ผม ก้มลงไปจุ้บหน้าผากของจื่อเถากับหูกลมๆครั้งละหลายๆทีเร็วๆแล้วดึงหางเบาๆ อีกหนึ่งครั้งก่อนที่จะรีบวิ่งออกมาสงบสติอารมณ์ของอีกฝากหนึ่งของป่าไผ่ ถ้ายังนอนอยู่ข้างๆจื่อเถาผมอดใจไม่ไหวแน่เลยครับ
งื้อออ ผมต้องทน
ต้องให้จื่อเถาได้นอน
ต้องให้จื่อเถาพักผ่อน
อู๋อี้ฟ่านต้องทนครับ!!
ผม วิ่งมาอีกฟากของป่าไผ่ ก่อนที่จะหามุมสงบๆเงียบๆที่สามารถข่มตาหลับได้ ก่อนที่จะไปเจอกองใบไผ่หลายๆกอง ผมยิ้มเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปหยิบพวกใบไผ่พวกนั้นมาซ้อนๆและตบๆให้มันแน่น มองดูว่าไม่มีแมลงอะไรจะมาชอนไชหรือมากัดผมก่อนที่จะก้มตัวลงนอน เอาแขนอีกข้างขึ้นมาหนุนหัว
อากาศดีจังเลย หายใจได้เต็มปอดดีจัง
ผมชอบอากาศแบบนี้จัง
ผมไม่ได้หายใจเต็มอกแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ
ผมไม่ได้รู้สึกสบายใจแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ
มีความสุขจัง
อยู่ที่นี้ผมมีความสุขจัง
เหมือนเป็นการพักผ่อนที่สุดแสนจะสบายที่สุดที่เคยได้สัมผัสมา
ได้เจอกับจื่อเถา
เหมือนฝันเลย
อย่างกับฝันไปแน่ะ
แต่มันไม่ใช่ฝันแหละ
การที่ผมหลงป่า
การที่ผมได้มาเจอกับจื่อเถา
มันคือความจริง ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่ความฝันจริงๆ
ผม ลองหยิกตัวเองหลายทีแล้วไม่ตื่น แถมยังเจ็บอีกต่างหาก แสดงว่ามันเป็นความจริงเป็นความจริงแบบจริงๆเลยแหละ... แผลถลอกที่ขาก็เป็นของจริง พอลองยกแขนขึ้นมาดู รอยดำกร้านและรอยไหม้เพราะแสงแดดก็เป็นเรื่องจริง... ฮือออ ผิวขาวราวน้ำนมข้าวที่ผมถนุถนอมมาตั้งนาน
ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ
คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายทว่าซับซ้อนอย่างผม
คุณหนูที่เกิดมาโดยมีพร้อมทุกอย่างทำอะไรไม่เป็นซักอย่างแบบผม
ชิวิตที่มีแต่เรียน.. เรียนเรียนเรียนให้มันได้ที่หนึ่ง
ชีวิตที่มีแต่งาน... ทำงานทำงานทำงานให้ได้ผลกำไรเป็นที่หนึ่ง
ชีวิตที่มีแต่การคาดหวัง..
การคาดหวังจากพ่อแม่ และคนทั้งตระกูล
ชีวิตที่ถูกตรีกรอบและถูกขีดเส้นตั้งแต่วินาทีแรกที่คลอดออกมา
... หรือไม่
ชีวิตของผมก็ถูกตรีกรอบตั้งแต่นาทีแรกตั้งแต่พ่อกับแม่ผมแต่งงานกัน
ผมไม่ได้ไม่ชอบอะไรนะกับการเป็นแบบนั้น ไม่ได้รังเกียจหรืออะไรเลย
แต่บางที.. แค่บางที..
ผมอยากทำตามใจตัวเอง
อยากมีอิสระ
ฮะๆๆ แล้วนี่ผมมาพร่ำเพ้ออะไรเนี่ย ดวงดาวที่สว่างเต็มท้องฟ้าต้องเป็นสิ่งที่ล่อลวงผมแน่ๆเลย
ผมยิ้มเบาๆกับตัวเอง มองขึ้นไปทีท้องฟ้า
ก่อนที่ความคิดต่างๆจะไหลออกมา
คืนนี้เป็นคืนที่สองแล้วที่ผมหลงป่า
พรุ่งนี้ต้องหาทางกลับบ้านอย่างจริงๆจังๆซักที
การที่ผมหายมาสองวันสองคืนมันไม่ใช่เรื่องตลกแล้วล่ะ
พ่อกับแม่คงเป็นห่วงผมแล้ว ผมลูกชายคนเดียวนะ
เก้าอี้รองประธานบริหารคงกำลังว่างเปล่า
ลูกชายคนเดียวของประธานบริษัทหายตัวไปคงเป็นข่าวครึกโครม
คงกำลังวุ่นวาย ทุกๆคนคงกำลังวุ่นวายกันน่าดู...
แล้วนี่ผมมาดราม่าอะไรทำไมเนี่ย....
บอกแล้วไงว่าสงสัยเป็นเพราะดวงดาว...
ได้เวลาที่ผมควรนอนแล้วล่ะ
เริ่มจะง่วง หนังตาเริ่มจะหนักแล้ว...
ฝันดีนะจื่อเถา
ฝันดีนะแพนด้าของผม
แพนด้าของผม
จื่อเถาของผม
.
.
.
.
“อ๊ะ... แอ๊ว ..... อื้อ .. .. . .”
แสงจันทร์ที่สาดส่องมาที่ร่างกลมนุ่มนิ่มของจื่อเถาที่กำลังบิดพล่าน เหงื่อกาฬไหลออกมาจนขนสีขาวดำแลดูเปียกชุ่ม..
“อ๊ะ!!”
ร้อง เสียงดังอีกครั้งก่อนที่ร่างอ้วนกลมปุกปุยจะหายไป กลับกลายเป็นร่างของเด็กหนุ่มตัวบางผิวสีขาวจัดราวกับไม่เคยโดนแสงแดดมาก่อน ผมสีดำเข้ารูปกับใบหน้าอ่อนเยาว์... ดวงตาเรียวหลับกันแน่นแต่ยังพอเห็นเค้าวงขอบตาสีคล้ำ แพขนตายาวหนาสีดำโดดเด่น จมูกโด่งดูรั้น ริมฝีปากสีแดงจัดหยักลึกเม้มแน่น... เค้าโครงใบหน้าของเด็กหนุ่มที่สวยจัด...
แพนด้าสีขาวดำตัวอ้วนหายไปแล้ว
กลับกลายเป็นร่างขาวเปล่าเปลือยขดเข้าหากันเพราะความหนาว...
ร่างกายที่แลดูเปราะบางของฮวางจื่อเถา...
“อะ... แอ๊ววว ..”
.
.
.
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก
สะบัด หัวสองสามที มองไปหาจื่อเถา แต่เพราะมันมืดมาก แม้แต่แสงของจันทร์ก็แทบไม่มีบวกกับผมวิ่งหนีมานอนห่างกับจื่อเถาพอสมควรทำ ให้ผมมองไม่เห็นจื่อเถาเลย...
ให้ตายสิ
นอนหลับไม่สนิทเอาซะเลย
เรื่องต่างๆมันตีเข้ามาในหัวทั้งหมด
เรื่องของจื่อเถาด้วย
ถ้า มีคนมาตามหาผมเจอถึงทีนี่ ต้องเป็นคนของกรมป่าไม้หรือไม่ก็พวกตำรวจใช่ไหม.. แล้วผมจะเอาจื่อเถากลับบ้านไปได้อย่างไรล่ะ.. จื่อเถาตัวเล็กพอที่จะเอายัดใส่ไปในกระเป๋าเป้เดินทางของผมได้.. แต่ผมกลัวพวกป่าไม้นั่นจะจับได้ และแยกผมกับจื่อเถาออกจากกัน... ไม่เอานะ ไม่เอานะ.. อย่างนั้นไม่เอาเด็ดขาดนะ.. จะแยกจื่อเถาไปจากผม ให้ผมเห็นจื่อเถาผ่านกรงหรือผ่านตู้กระจกผมไม่เอาด้วยหรอก
ไม่ว่าจะใช้เงินเท่าไรผมก็ยอม
จื่อเถาต้องมาอยู่กับผม
แต่ช่างมันเถอะ...
ปล่อยให้มันเป็นรื่องของวันพรุ่งนี้..
นอนดีกว่าเนอะ
.
.
.
อ้ะ
ผมสัญญากับ ‘เค้า’ คนนั้นเอาไว้ว่าเครื่องลงเมื่อไรจะโทรหา ‘เค้า’ ทันที
แต่เพราะพวกไอ้ไคกับชานยอลลากผมมาที่ชิงเต่าทันทีเลยไม่ได้โทร
จนถึงตอนนี้มีแต่เรื่องวุ่นๆเลยลืมไปเลย... จะเป็นห่วงผมหรือเปล่านะ
ขอโทษนะ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่นะ เดี๋ยวพี่จะกลับไป กำลังจะกลับไปแล้ว
อย่าคิดมาก
อย่ากังวลเลยนะ
‘คยองซู’ อ่าา ... รอพี่หน่อยนะพี่กำลังจะกลับไป
คยองซู...
ที่รัก
100%
-ชอบก็เม้น ไม่เม้นไม่บอกจะรู้ได้อย่างไรว่าชอบ T v T /สาดถังน้ำตาใส่
-กดเฟบกดโหวตกดวิจาร์ณเป็นกำลังใจได้นะเออ
-น้องแอ๊วของเราน่ารักป้ะละ
-มีคำผิดบอกได้น้า เราจะมาแก้ค่ะ
-ติดต่อไรท์เตอร์ได้ที่ @mokzVIP
-เวิ่นในทวิตติดแท็ค #น้องแอ๊ว นะจ้ะ จุ้บๆ เล่นกันหน่อย ฮ่าๆๆ
ความคิดเห็น