ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] VAMPIRE AND WEREWOLF (HunHan,ChanBaek and EXO)

    ลำดับตอนที่ #15 : VAMPIRE AND WAREWOLF :: CHAPTER 14 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.68K
      3
      17 ธ.ค. 56

    chapter 14

     

                "..."

     

     

                "..."

     

     

                "...ไปหรือยังอ่ะ..."

     

                "ชู่ว... "

     

                "...."

     

                "...."

     

                "ยังไม่ไปอีกหรอ..."

     

                "ยัง..."

     

                "..."

     

                "ยังไม่อยากให้ลุก..."

     

                "ชานยอล!!!!"

     

                แบคฮยอนโวยวายทันที ก่อนจะรีบดันตัวเองออกห่างจากชานยอล แต่แบคฮยอนก็ยังแพ้ความเร็วของชานยอล เพราะชานยอลรวบเอวของเขาไว้ในอ้อมกอดเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขาอยู่ในสถานะนอนกอดกันอยู่บนเตียง... ใช้อยู่บนเตียง!!

     

                อันตรายจริงๆ!!

     

     

                ถามว่าทำไมสองคนนี้ถึงมานอนอยู่บนเตียง คงจะต้องย้อนไปตั้งแต่ตอนที่สองคนทานข้าวเสร็จ ชานยอลก็รีบขึ้นมาพักผ่อนตามที่คุณยายต้องการ แต่กำลังเคลิ้มๆหางตาเขาก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กที่แอบมองเขาจากประตูที่แง้มไว้ เขาเลยกวักมือเรียกให้อีกคนเข้ามาข้างในห้อง ตอนแรกคนตัวเล็กก็ส่ายหัวไม่ยอมเข้ามา จนเขาต้องเดินเข้าไปดึงมาจึงยอมเดินตามเข้ามาในห้องเขาอย่างง่ายดาย

               

                ทั้งสองนั่งคุยนอนคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ชานยอลก็มีคำถามเรื่องเกี่ยวกับแบคฮยอน แบคฮยอนเองก็มีคำมากมายเกี่ยวกับเมืองหลวงบ้านเกิดของชานยอล ดูเหมือนเรื่องอะไรสำหรับแบคฮยอนก็ดูแปลกใหม่ไปหมด ดูจะตื่นเต้นกับเรื่องง่าย จนมีหลายครั้งที่ชานยอลต้องเหนื่อยใจเพราะแบคฮยอนนั้นขี้สงสัยเกินไป แต่หน้าตาจะเซ็งแค่ไหน แต่เขาก็ต้องแปลกใจตัวเองที่เต็มใจตอบคำถามของแบคฮยอนทุกคำถาม พูดคุยกันไปมาก็เผลอหลุดปากว่าเดี๋ยวจะพากลับบ้านด้วย ชานยอลเองก็นึกตามที่ตนพูด

     

                ถ้าเอาแบคฮยอนกลับคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ....

     

               

                คุยกันนานเลย แล้วแบคฮยอนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าของห้องอีกคนเดินขึ้นบันไดมา แบคฮยอนลุกขึ้นก่อนจะเตรียมบอกลาชานยอล แต่ชานยอลกลับรั้งร่างของเขาให้ล้มนอนลงในอ้อมกอดของเขา ก่อนจะหลับตาแล้วกระซิบอย่างพูว่า

     

                'ชู่ว... หลับตาซะ เดี๋ยวมันก็ไม่กวนเราหรอก'

     

                จริงๆแบคฮยอนไม่อยากไล่เซฮุนหรอกนะ จริงๆนะ...

     

     

     

                แบคฮยอนไม่ได้เคลิ้มจริงๆนะ.....

     

     

     

                นั้นแหละก็คือสาเหตุที่เห็นสองคนนี้นอนกอดกันเมื่อกี้

     

     

                "ง่วงจัง นอนกันเถอะ"ชานยอลพูดพร้อมขยับตัวเล็กน้อยพอให้ตนเข้าท่าที่สบายที่สุดในการนอน แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยอ้อมแขนที่กอดคนตัวเล็กไว้อยู่ดี

     

                "นอนก็ปล่อยสิ ฉันจะไปนอนแล้ว เดี๋ยวเซฮุนไม่มีที่นอน" แบคฮยอนดันตัวออก

     

                "เดี๋ยวมันก็หาที่นอนเองแหละ หรือไม่มันก็นอนบนหลังคานั้นแหละ ถ้าตกลงมา พรุ่งนี้เช้าค่อยไปเก็บศพมัน"ชานยอลขมวดคิ้วพูด

     

                "ดูพูดเข้า" แบคฮยอนฟาดมือตีลงอกหว้างของชานยอลหนึ่งที "ทำเป็นไม่ห่วงกัน จริงๆก็รักกันไม่ใช่หรือไงพี่น้องคู่นี้" แบคฮยอนส่งค้อนงามๆให้ชานยอลหนึ่งที

     

                "พูดอะไร ไม่รู้เรื่อง" ชานยอลส่ายหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

     

                "มีพี่น้องนี้ก็ดีจังนะ.." แบคฮยอนพึมพำกับตัวเอง

     

                "นายไม่มีหรอ... ฉันหมายถึงญาติคนอื่นๆด้วย" ชานยอลพูด พร้อมนึกภาพประกอบ หมาป่าเนี่ยเขาเกิดกันอย่างไงเนี่ย โดนสาปหรือสืบทอดทางสายเลือด ถ้าสายเลือดมันก็น่าจะมีญาติพี่น้องนะ

     

                "..."แบคฮยอนส่ายหน้าแล้วค่อยๆพูดต่อว่า "ฉันไม่รู้ ฉันตื่นขึ้นในวันที่หนาวเหน็บในป่าแห่งนี้ ฉันตื่นมาโดยไม่มีความทรงจำอะไร มีเพียงแค่ชื่อของตัวเองเท่านั้นที่จำได้ ตอนตื่นมาฉันก็อยู่ในบ้านหลังนี้ เห็นคุณย่าส่งยิ้มมาให้ฉัน แล้วก็พูดว่าต่อไปท่านจะอยู่กับฉันเอง ฉันไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ฉันก็ร้องไห้ออกมาเยอะมาก... ไม่รู้ทำไมต้องร้องไห้"

     

                "หมายความว่านาย... ความทรงจำหายไป?" ชานยอลพยายามนึกตาม

     

                "อาจจะอ่ะนะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก เพียงแต่ว่าฉันเศร้ามากที่ตื่นมาเจอคุณย่า ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร"

     

                "เพราะความทรงจำงั้นหรอ" ชานยอลถามย้ำอีกครั้ง

     

                "ไม่รู้... ฉันไม่รู้" แบคฮยอนส่ายหัวไปมา ปากก็พร่ำบอกว่าไม่รู้ซ้ำไปซ้ำมา...

     

                "โอเคๆ ไม่รู้ก็ไม่รู้ครับ นอนกันเถอะ"

     

                "อือ.." ไม่รู้ว่าเพราะมัวเหม่อหรืออะไร แต่แบคฮยอนก็ยอมหลับตาเพื่อที่จะได้หลับตามที่อีกคนบอกอย่างง่ายดาย

     

     

                แต่เอ๊ะ!... ไอ้มือที่ล้วงเข้ามาในเสื้อของเขามันไม่ปกตินะ...

     

     

     

                "ชานยอล!!!!!!"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เซฮุนเหลือบไปมองคนข้างตัว ตอนนี้คนข้างๆเขาหยุดร้องไห้ไปได้ซักพักแล้ว แต่ก็ยังเหลือร่องรอบของน้ำตาไว้ ดูได้จากตาที่ทั้งแดงทั้งบวม จมูกเองก็แดงเช่นกัน ถ้าเป็นปกติเขาก็คงล้อคนข้างๆตัวไปแล้วว่าขี้เหร่ แต่ตอนนี้เขาเองก็เพิ่งเห็นคนข้างตัวเขาระบายความเศร้าออกมา เลยไม่กล้าที่จะล้อเล่นแรงๆเท่าไหร่

     

                "เอ่อ..นายไม่นอนหรอ ดึกแล้วนะ" เซฮุนพยายามหาเรื่องทำลายความเงียบ

     

                "ฉันไม่เคยหลับ อย่างมากก็นอน... แต่ไม่เคยหลับ" ลู่ฮานพูดขณะที่ตายังคงจ้องอยู่ที่ดวงดาวเต็มท้องฟ้า

     

     

                อ้อ... คงจะเหมือนแวมไพร์ที่เห็นในหนังใช่ไหมที่ไม่หลับไม่นอน..

     

                "แล้วนี้นายนอนในโลงหรือเปล่า" เซฮุนถามอย่างสงสัย

     

                "ตลก.. เรื่องนอนในโลงนั้นอ่ะมันนานมาแล้ว ที่มีพวกนิยายพวกที่เขียนว่าพวกเรานอนในโลงในเวลากลางวันนั้นอ่ะเป็นพวกที่เขียนอิงมาจากพวกแวมไพร์รุ่นแรกๆ แวมไพร์ยุคแรกๆน่ะ มักจะโดนฝังทั้งเป็นก่อนที่ตัวเองจะฟื้นขึ้นมาเป็นแวมไพร์ด้วยซ้ำ ที่นายเห็นหรือได้ยินว่านอนในโลงนั้นก็เป็นเพราะแวมไพร์ยุคแรกๆไม่รู้ว่าจะต้องไปอยู่ที่ไหนยามที่เขาต้องหลบแสงแดดต่างหาก ในเมื่อฟื้นตัวมาจากหลุมฝังศพสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มีก็คือโลงที่ใช้ฝังศพนั้นแหละ ที่นี้เข้าใจแล้วใช่ไหม" ลู่ฮานกล่าวนิ่งๆ

     

                "ก็..พอจะเข้าใจแล้ว" โกหกจ้า... เขายังมึนๆอยู่เลย

     

                "ก็ดีแล้ว.."

     

                "..." เซฮุนเงียบ

     

                "..." ลู่ฮานเงียบ

     

                "เอ่อ... นายบอกว่าแวมไพร์รุ่นแรกๆ?? ฟื้นชีพ ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อะไรคือรุ่นแรกๆ อะไรคือฟื้นชีพ" เซฮุนส่งคำถามอีกครั้ง

     

                "นายนี้มันบื้อจริงๆ นายคิดว่าแวมไพร์จะไม่มีที่มาที่ไปงั้นหรอ สมัยก่อนแวมไพร์น่ะเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับพวกนายนั้นแหละ ไม่สิ.. เป็นเหมือนพวกนาย เป็นพวกพ่อมดแม่มดอะไรแบบนี้เนี่ยแหละ" ลู่ฮานเริ่มเล่า

     

                "อ้อ....." นี้ตัวเขาก็เป็นพ่อมดหรอ แต่ก็เอ๊ะ... ก็ย่าแท้ๆเขาก็เป็นแม่มด... แล้วเขาก็ต้องมีสายเลือดของแม่มดสินะ แบบนี้เขาก็เป็นพ่อมด...

     

     

                สุดยอด...

     

                "แต่ไม่แน่นะ นายออกจากซื่อบื้อขนาดนี้ สายเลือดนายคงไม่ช่วยอะไร" ลู่ฮานพูดต่อโดยยังคงไม่สนใจจะหันมามองหน้าเซฮุน

     

                "เหอะ..." ถ้าไม่เห็นว่าเศร้านะ ไม่ปล่อยให้มานอนด่าแบบนี้หรอก

     

                "จะฟังต่อไหม"

     

                "ฟังครับ..." สุดท้ายก็ต้องยอมอยู่ดีวะ..

     

                "นั้นแหละ เป็นบอกที่มีเวทย์มนต์อะไรแบบนั้น แล้วต้นกำเนิดแวมไร์ก็เกิดขึ้น โดยคนที่มีเวทย์มนต์ มี2กรณีคือพวกที่ใช้เวทย์มนต์เกินตัว เกิดจากการใช้เวทย์มนต์ขั้นสูงพวกชุบชีวิตอะไรแบบนี้ หรือว่าการใช้มนต์ดำมากเกินไป ยกตัวอย่างก็คงเป็นเวทย์คำสาป แต่ไม่ว่ากรณีไหนถ้านายใช้เกินตัว มนต์นั้นจะย้อนมาทำร้ายนาย สุดท้ายมันจะสาปนายให้เป็นแวมไพร์ นี้แหละตนกำเนิดแวมไพร์จริงๆ"

     

                "แล้วนาย?..."

     

                "เปล่า... ฉันไม่ใช่แวมไพร์รุ่นแรก ฉันเป็นเพียงรุ่นกลางเท่านั้นแหละ แต่ฉันเป็นพวกเลือดกึ่งบริสุทธิ์"

     

                "หืม?" นั้นไง... ศัพท์ใหม่ เลือดกึ่งบริสุทธิ์?

     

                "เฮ้อ... เลือดกึ่งบริสุทธิ์คือเลือดไม่แท้ไง แม่ฉันท่านเป็นสายเลือดบริสุทธิ์สีขาว แต่พ่อของฉันท่านเป็นเลือดกึ่งบริสุทธิ์สีขาว ฉันเลยเป็นพวกกึ่งๆไง" ลู่ฮานถอนหายใจ

     

     

                ทำไมเขาต้องมานอนอธิบายให้ไอ้เด็กยี้เหมือนคุณครูวิชาประวัติศาสตร์ด้วยนะ

     

                "สีขาว?"

     

                "สีขาวคือพวกที่ใช้เวทย์ขั้นสูงเกินไปไง ส่วนสีดำคือพวกที่ใช้มนต์ดำมากเกินไป"

     

                "แล้วแบบนี้จะมีสีเทาไหม" เซฮุนขมวดคิ้ว นี้เขาไม่ได้ถามอย่างจิดจลกนะ เขาสงสัยจริงๆ

     

                "ก็มีนะ... แต่ไม่มากเท่าไหร่ ในชีวิตฉันก็เคยเห็นอยู่คนเดียว..." ลู่ฮานขมวดคิ้วก่อนจะนึกใบหน้าของใครบางคนที่เขาไม่ได้เห็นมานานแล้ว

     

     

     

                กี่ปีแล้วนะ?

     

     

     

     

                50ปีได้ไหม...

     

     

     

     

                ไม่สิอาจจะเกือบๆร้อยปีแล้วล่ะมั้ง....

     

     

     

                "ใครหรอ... ญาตินายหรอ..." แวมไพร์เนี่ย... ญาติเยอะหรือเปล่านะ

     

     

                "จริงๆมันก็ใช่อ่ะนะ..."

     

                "...."

     

     

                "ญาติเพียงคนเดียวของฉัน...."

     

                "...."

     

     

                "น้องชายของฉันเอง..."

     

                "...."

     

     

     

     

     

     

     

     

                กลางดึกคืนนั้นขณะที่ผมกำลังหลับเพราะเพลียจากการต่อสู้ไม่ให้ชานยอลลวนลามผมได้อยู่นั้น อยู่ดีๆผมก็สัมผัส'บางอย่าง'ได้อย่างชัดเจน ผมรีบลืมตาขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ

     

                "หืม... มีอะไรหรอแบคฮยอน..." ชานยอลที่ตกใจสะดุ้งมาเพราะผมก็ขยี้ตาถามผม

     

                "แย่แล้ว..." ผมไม่ตอบคำถามแต่พึมพำกับตัวเอง

     

     

                ปึง!

     

                ลู่ฮานเปิดประตูระเบียงเข้ามาในห้อง ก่อนจะลากเซฮุนให้วิ่งตามลงมาด้วย มองหน้าแบคฮยอนเล็กน้อยแล้วพยักหน้าให้กัน ลู่ฮานเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาก่อน

     

                "ฝากนายด้วยนะ"

     

                "อืม.. รีบกลับมาล่ะ" แบคฮยอนพยักหน้ารับคำ

     

                สองพี่น้องมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ นี้อีกสองคนเขาพูดอะไร นี้มันเรื่องอะไร แล้วทำไมคุยกันรู้เรื่อง มองตาก็รู้ใจงั้นหรอ? นี้ทั้งชานยอลและเซฮุนก็อยากจะหึงนะ แต่อยากรู้มากกว่า

     

                "หมายความว่าไงลู่ฮาน อยู่ดีๆนายก็ลากฉันลงมาตอนนายยังเล่าเรื่องนั้นไม่เสร็จเลย" เซฮุนขมวดคิ้ว ก็หลังจากลู่ฮานกำลังจะเล่าเรื่องน้องชายตัวเอง อยู่ดีๆก็มีลมวูบใหญ่พัดมา เซฮุนที่ใส่เสื้อแขนยาวเองก็ถึงกับหนาวไปพักนึงเลยทีเดียว แต่ที่งงกว่านั้นก็คือลู่ฮานที่อยู่ดีๆก็ทำหน้าช็อคเมื่อโดนลมนั้นพัดเอาเข้าที่หน้า ก่อนจะเหมือนตั้งสติได้แล้วรีบลากเขาลงมาเลย

     

                "ให้แบคฮยอนเล่า ตอนนี้ไม่มีเวลา จำไว้นายทั้งสองคนห้ามอยู่ห่างคุณย่ากับแบคฮยอนเด็ดขาด ทางที่ดีอยู่กับทั้งคนตลอดเวลา"ลู่ฮานพูดก่อนจะหมุนตัวเตรียมจะออกจากห้องนี้ไปอีกครั้ง

     

                "อะไรวะ.... ทำไมมีเรื่องอะไรไม่เล่ากันให้ดี เสียเวลานิดหน่อยจะเป็นอะไร..." เซฮุนบ่นก่อนจะทิ้งตัวลงที่เตียงตัวเอง ฝั่งตรงข้ามเตียงที่ชานยอลและแบคฮยอนนอนอยู่

     

                "ตกลงมันมีอะไร ทำไมอยู่ดีๆนายก็ตื่น แล้วลู่ฮานก็ลากเซฮุนมา แถมพวกนายยังทำหน้าเครียดกันอีก"ชานยอลเหลือบมองน้องชายของตัวเองเล็กน้อย แต่มองไปก็ไร้ประโยชน์ล่ะนะ ดูจากสีหน้าท่าทางไม่พอใจขนาดนั้น หมอนี้คงไม่รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น

     

                "เขามาแล้ว..." แบคฮยอนตอบด้วยสายตาเลื่อนลอย..

     

                "ใคร?" ไม่ใช่เสียงชานยอล แต่เป็นเสียงเซฮุนที่ลุกขึ้นมานั่งถามแบคฮยอน

     

                "คริส... มาแล้ว"

     

                "คริส? เขาคือใคร?.." ชานยอลทวนชื่อที่ร่างบางเอ่ยขึ้น...

     

                "เซฮุน.....           นายเคยได้ยินลู่ฮานเล่าเรื่องน้องชายเขาไหม.... นั้นแหละเขา..." แบคฮยอนหันไปจ้องเซฮุนช้าๆ

     

                "โถ่... ก็แค่น้องชายกลับมาหาคงจะเป็นแวมไพร์แบบลู่ฮานใจไหมล่ะ เรื่องนี้ฉันไม่ตกใจหรอกนะ" เซฮุนพูดพร้อมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทิ้งตัวนอนอีกครั้ง

     

                "นั้นสิ... มันมีอะไรมากกว่านั้นหรอ" ชานยอลตอนแรกก็เห็นด้วยกับคิดของเซฮุน เขาเองก็ทำใจเกี่ยวกับเรื่องจะมีแวมไพร์โผล่มา หรือมนุษย์หมาป่า หรือตัวประหลาดอื่นแล้วล่ะ แต่พอเห็นสีหน้าที่วิตกกังวลของแบคฮยอน เขาก็รู้ทันทีว่าแบคฮยอนไม่ได้เครียดเรื่องนี้

     

                "พวกนายลืมไปแล้วหรือไง..."

     

                "ลืม? ลืมอะไร" เซฮุนถามแบคฮยอน...

     

                "ถึงลู่ฮานจะไม่ค่อย แต่นายคิดว่าแวมไพร์ปกติเขากินอะไรกัน..."แบคฮยอนพูดขึ้น

     

                "!!!" มาถึงตอนนี้สองพี่น้องถึงกับตกใจ

     

     

     

                ใช่! พวกเขาลืมได้ไงว่าแวมไพร์กินเลือดมนุษย์!

     

     

     

     

     

     

                แล้วพวกเขาเองก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ด้วย....

     

     

     

     

     

     

                "ที่สำคัญคริสเกลียดมนุษย์ทุกคน...."

     

                "...."

     

     

                "ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโอ...."

     

     

                ตระกูลโอ? ตระกูลแม่ของพวกเขา???

     

     

     

     

                นี้แม่ของเขาเกี่ยวอะไรด้วย....

     

     

     

     

                "และจะเกลียดมากโดยเฉพาะมนุษย์ที่มายุ่งเกี่ยวกับลู่ฮาน...." แบคฮยอนพูด...

     

                "!!!" เล่ามาถึงตอนนี้หน้าของเซฮุนก็ซีดขึ้นมาทันที....

     

     

     

     

     

     

                เขาโดนเต็มๆทุกข้อหา 1เขาเกี่ยวข้องกับตระกูลโอเต็มๆ แน่นอนตระกูลโอสายใหญ่ล่าสุดก็คือเขา ดังนั้นแม่ของเขาเลยให้ใช้นามสกุลโอที่เป็นของแม่ แม่ของเขาให้เหตุผลทางธุรกิจ..... เขาไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันกำลังเป็นปัญหาสำหรับเขา...

     

                และสอง... เขากำลังยุ่งกับลู่ฮานเต็มๆ....

     

     

     

     

     

     

                เขาอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา... โดนเกลียดตั้งแต่ไม่เจอหน้า... คนที่เกลียดเขายังไม่ใช่คน... เป็นแวมไพร์อีก....

     

     

     

     

     

     

                แถมยังเป็นน้องชายของลู่ฮานอีก….




     

    ------------------------------------------------------------------------
     

    ฮึบ! หายไปนานเลยนะทุกคน!(ใครกันแน่ที่หายไป) ได้โน็ตบุ๊คคืนแล้ว ดีใจกับเค้าหน่อยสิตัว ฮิฮิ

    อย่าบ่นเค้านะที่มีแค่50%ก่อน ก็แบบ.... คนเราก็มีตันกันบ้างอะไรบ้าง อย่าว่าอะไรคนสวย(อ้วก)เลยนะ

    ปล.แต่งไปแต่งมาเซฮุนมันเอ๋อตามคนแต่งไปแหละ ฉันสัมผัสได้




    มาเติมให้เต็มแล้ว เย้เย้ มีตัวละครโผล่มาแล้ว ตัวนี้เป็นตัวเด่นนะ.... เป็นพวกใช้งานตัวละครคุ้ม(?) คิคิ

    คิดว่าคริสจะกลับมาเพราะอะไร.... ??

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×