ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] VAMPIRE AND WEREWOLF season 2 (HunHan)

    ลำดับตอนที่ #4 : VAW Season 2:: CHAPTER 3

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 57


    chapter 3

     

                    ตอนนี้ผมกับเพื่อนใหม่สองคนคือคริสและมินซอกกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าตึกคณะครับ พวกเราเรียนเสร็จนานแล้วล่ะครับ กลุ่มของพวกเราค่อนข้างจะเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนอื่นอยู่สักหน่อย ผมไม่ใช่คนโง่ถึงขนาดไม่รู้ตัวนะครับว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเขาก็แอบเหลียวหลังมองกลุ่มของผม อันนี้ผมก็เข้าใจเพราะว่าสองคนที่นั่งข้างผมก็มีเสน่ห์ไม่น้อย

     

                    เพื่อนตัวเล็กของผม คิมมินซอก ดูเหมือนจะเป็นคนขี้อายเล็กน้อย เพราะเวลาที่เขารู้ว่ามีคนจ้องอยู่ก็จะรีบก้มหน้าหลบตาทันที แล้วหน้างี้ก็แดงอย่างเห็นได้ชัด ขนาดตัวลู่ฮานเองยังมองว่าความใสซื่อตรงนี้มันน่ารักเลย แต่ก็แอบเป็นห่วงแหะคนใสซื่อแบบนี้.. กลัวจะโดนพวกคนใจร้ายมาจีบเนี่ยสิ

     

                    ส่วนเพื่อนใหม่อีกคนก็แตกต่างจากมินซอกลิบลับ คริสเป็นคนนิ่งๆ ซึ่งข้างในจริงๆก็..นิ่ง.. คือแทบจะไม่เปิดปากพูดอะไรเลย แต่ลู่ฮานก็ไม่ได้เกลียดคนแบบนี้หรอกนะ ถ้าคิดในอีกแง่คริสก็เป็นบุคคลที่เป็นผู้ฟังที่ดี เพราะถึงแม้จะไม่ได้พูดแสดงความคิดเห็นอะไรมาก แต่ก็ดูจะตั้งใจฟังที่เขาและมินศอกพูด นานๆทีก็มีพูดบ้างอะไรบ้าง แต่ก็เพราะไอ้นิสัยเย็นๆแบบนี้แหละ ผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาถึงกับมองจนเหลียวหลัง มีหลายครั้งที่เจ้าตัวรำคาญนั้นไปจ้องหน้าตอบบ้าง แต่ดูเหมือนผลจะต้องข้ามกับที่เขาตั้งใจ เพราะการที่คริสจ้องหน้าผู้หญิงพวกนั้นก็เพื่อให้พวกหล่อนรู้ตัวว่าควรเลิกจ้องเขาได้แล้ว แต่มันกลายเป็นว่าพวกหล่อนเขินคริสจนสะกิดให้คนอื่นนั้นมามองคริสบ้าง..

     

                    เอาเป็นว่าผู้หญิงนี้ก็แปลกครับ...

     

                   

                    "เอ่อ..เราขอตัวก่อนนะ" มินซอกพูดขึ้นหลังจากเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความของตัวเอง

     

                    "อ้าว นึกว่าจะรอกินข้าวพร้อมกันซะอีก" ผมถามอย่างสงสัย

     

                    "แหะๆ พอดีแม่เราให้คนมารับแล้วอ่ะ ขอโทษจริงๆนะ แล้วคราวหน้าจะไม่พลาดแน่" มินซอกยกมือเป็นเชิงขอโทษ

     

                    "โอเคๆ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็เจอกัน" ผมส่งยิ้มเล็กๆก่อนจะพยักหน้า

     

                    "เราไปก่อนนะ บายลู่ฮาน บายคริส" แล้วมินซอกก็วิ่งออกไปทันที

     

                    "..."

     

                    เอาแล้วไงครับ บรรยากาศระหว่างคริสกับผมชักจะมาคุจริงๆ ผมเองก็ชวนคุยกับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่เก่งด้วย แต่จะปล่อยให้เงียบแบบนี้มันก็ดูจะอึดอัดไปหน่อย เอาว่ะ! ลู่ฮานแค่ชวนคนอื่นคุยเล็กน้อยไม่ตายหรอกมั้ง

     

                    "เอ่อ.. แล้วนายไม่ไปไหนหรอ" ผมอยากจะตบปากตัวเองจังครับ ถามคนอื่นแบบนี้ใครๆก็ต้องคิดว่าผมไล่แน่ๆ งานเข้าสิลู่ฮาน..

     

                    "..แล้วนายกลับยังไง" คริสส่ายหน้าให้เป็นคำตอบผมแล้วเขาก็ถามกลับ เอาจริงๆนะครับแค่ส่ายหน้านี้เป็นคำตอบที่ไม่เคลีบร์มากเลย ส่ายหน้านี้แปลว่ายังไม่กลับใช่ไหม หรือว่าแปลว่า'ไม่ใช่เรื่องที่ควรเสือก' เอ๊ะ.. นี้เขาแปลความหมายในแง่ร้ายไปเปล่าวะ

     

                    "อ้อ.. เดี๋ยวน้องมารับ น้องฉันเรียนที่นี้เหมือนกันแต่คนล่ะคณะน่ะ" ผมยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อเล็กน้อย

     

                    "..หึ.. ไม่ต้องรอแล้วมั้ง" คริสพูดพร้อมหันไปข้างหลังผม

     

                    "สวัสดีครับ" น้องชายตัวดีที่ปล่อยให้ผมรอก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมดึงให้ผมลุกจากที่นั่งอย่างรวดเร็วจนผมเองก็งงๆ

     

                    "หวัดดี.." คริสพูดขึ้น

     

     

                    เอ่อ.. ใครก็ได้บอกผมทีว่าทำไมบรรยากาศมันมาคุแบบนี้..

     

     

                    "นั้นผมขอตัวพาพี่ชายผม..ไปทานข้าวก่อนนะครับ" จงอินพูดขึ้นพร้อมโอบเอวผมให้ชิดตัวเขาเข้าไปอีก

     

                    "อะ..เออ..คริสไปแล้วนะ แหะๆ" ผมพยายามบอกลาคริสอย่างมีมารยาทที่สุดเท่าที่ทำได้ คริสเองก็พยักหน้าตอบเล็กน้อย จงอินเห็นแบบนี้ก็รีบดึงตัวผมให้เดินออกมาเร็วๆกว่าเดิม

     

     

     

                    คริสมองสองพี่น้องออกไปก่อนจะแสยะยิ้มขึ้น เขาเดินไปใต้ต้นไม้แล้วแกล้งเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนคนกำลังคุยกับใครอยู่

     

                    "นายเห็นหมอนั้นแล้วใช่ไหมเทา..." คริสพูด

     

                    "..." แน่นอนว่าไม่มีเสียงตอบโต้อะไรทั้งนั้น

     

                    "จับตาดูหมอนั้นให้ดี... มันเนี่ยแหละต้นตอ.." คริสพูดแค่นั้นก็เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋า สายลมพัดผ่านคริสเบาๆ คริสก็ตัดสินใจไปที่รถของตัวเอง เขามีเป้าหมายที่ต้องไปจัดการ เพราะยังไง... เรื่องนี้มันก็แค่เริ่มต้น..

     

     

     

     

     

     

     

                    "จงอิน!! ขับให้ช้าลงหน่อย!!" ลู่ฮานที่ตอนนี้จิกเล็บลงที่เบาะที่ตัวเองนั่งโวยวายเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ก็เพราะน้องชายตัวดีของเขาเนี่ยสิ พอเขาปิดประตูรถได้ปุ๊ปก็เหยียบคันเร่งทันที โดยที่ไม่รอให้เขาคาดเข็มขัดนิรภัยได้สำเร็จ

     

                    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

     

                    เฮือก! บทจะเบรคก็เบรค.. นี้ดีนะที่เขายันคอนโซนหน้ารถไว้ได้ทัน ไม่งั้นหน้าหล่อๆของเขาต้องกระแทกแน่ๆ

     

     

                    "พี่ไปอยู่กับไอ้หมอนั้นทำไม" จงอินไม่รอให้ผมตั้งสติได้ก็ยิงคำถามใส่ผมทันที

     

                    "นายหมายถึงใคร? คริส?" ผมที่สติยังไม่เข้าที่ทีก็ถามกลับไป

     

                    "ก็ใช่สิ พี่คิดว่าผมจะถามใคร" จงอินหันมาทำตาดุใส่ผม

     

                    "ก็หมอนั้นเรียนวิชานั้นเหมือนฉันนิ เราคบเป็นเพื่อนกันก็ไม่เสียหายสักหน่อย" ผมตอบกลับ

     

                    "ไม่ได้!" จงอินหันมาตะคอกใส่ผม หมอนี้ต้อนดุน่ากลัวชะมัด นี้ผมเป็นพี่มันจริงๆหรือเปล่านะ หรือว่าโกหกกันแน่เนี่ย..

     

                    "แล้วนายจะมาตะคอกใส่ฉันทำไมเล่า เอ๊ะ! เดี๋ยวก็ร้องไห้ให้ดูหรอก!!!!!" ผมตะคอกกลับก่อนจะเบะปากสะบัดหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ

     

                    "ผมขอโทษ.. ผมไม่อยากให้พี่สนิทกับไอ้คริส.." จงอินเอามือมาวางไว้บนไหล่ผม เขาออกแรงรั้งให้ผมหันไปคุยกับเขาดีๆ

     

     

                    เหอะ! งอน.. ไม่หันหรอกโว้ย

     

     

                    "นายโมโหอะไรของนาย ฉันไม่รู้หรอกนะนายกับคริสมีปัญหาอะไรกัน แต่จำไว้.. ฉัน-ไม่-เกี่ยว" ผมพูดเน้นย้ำทีละคำเพื่อความชัดเจน

     

                    "ขอโทษ.. ก็ผมเป็นห่วงพี่.. " มันเข้ามากอดผม

     

                   

                    ผมเองก็ยกมือกอดมันตอบครับ ไม่ได้อยากหายงอนนะ แต่น้องชายง้อแบบนี้คนเป็นพี่ก็ใจอ่อนครับ ผมชินแล้วล่ะครับ มีน้องชายกับเขาสักคนนึงก็ชอบทำหน้าโหดเก๊กหล่อไปวันๆ แต่ใครจะรู้ว่ามันทั้งขี้อ้อนทั้งขี้หวงขนาดไหน มุมน่ารักๆของมันถ้าไม่สนิทนี้ก็ไม่ได้เห็นนะครับ..

     

                    "เออๆ ฉันรู้แล้ว.. แต่ฉันก็โตพอจะดูแลตัวเองได้นะ ยังไงฉันก็เป็นพี่นาย"ผมผลักมันออก ก่อนจะยืดอกโชว์ความแมนกับเขาบ้าง

     

                    "นี้โตแล้วหรอ.." มันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูด จงอินมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมองตั้งแต่เท้าผมขึ้นไปถึงหัว.. นี้มันโคตรจะดูถูกไปนะ...

     

                    "ไอ้จงอิน!!" ผมแยกเขี้ยวใส่มัน จงอินเอาแต่หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไป

     

                    "แล้วนี้กินยาหรือยัง"

     

                    "ยัง!" ผมยังหงุดหงิดกับคำดูถูกที่มันพูดเลยพูดห้วนๆตอบกลับ

     

                    "กินดิ ไม่กินเดี๋ยวก็อาการกำเริบหรอก" จงอินพูดพร้อมมองไปที่กระเป๋าของผม เพราะกระเป๋าของผมมียาที่ต้องทานอยู่

     

                    "รู้แล้วๆ" ผมพูดพร้อมกับค้นหายาในกระเป๋า ใช้เวลาหาไม่นานผมก็เจอ ผมโยนยาหนึ่งเม็ดเข้าปากไป ก่อนจะหยิบขวดน้ำเล็กๆที่จงอินให้ผมพกติดไว้ในกระเป๋าขึ้นมาดื่ม ผมดื่มน้ำจดหมดขวดก็ปิดขวดพร้อมเก็บมันไว้ในกระเป๋าตามเดิม

     

                    "ดี..งั้นไปไหนต่อหรือเปล่า" จงอินหันมาถามผม ตอนนี้สีหน้าหมอนี้ดูดีขึ้นแล้ว

     

                    "ไม่เอา อยากกลับบ้านไปนอน ง่วงชะมัด" ผมพูดเสร็จก็ปรับเบาะให้เอนลงไปจดสุด

     

                    "นอนไปก่อนถึงแล้วจะปลุก" นั้นเป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่ผมจะเข้าสู่ห่วงนิทราจริงๆ...

     

     

     

     

     

     

     

                    "จงอินจะไปเลยหรอ" ผมถามเพื่อนใหม่

     

                    ตอนนี้ผม กับ คยองซู และจงอินเดินออกมาจากห้องเรียน อาจารย์เพิ่งจะปล่อยตัวออกมา ถือว่าค่อนข้างเลตเล็กน้อยเพราะเวลานี้มันถือว่าเป็นเวลาทานอาหารกลางวันแล้ว ท้องของแบคฮยอนเริ่มแสบขึ้นมาเล็กๆ แต่เขาก็บ่นอะไรไม่ได้เพราะยังไงก็ต้องรอคุณชายปาร์คมารับเขาอยู่ดี

     

                    "อือ โทษทีนะ ต้องไปกับพี่อ่ะ" จงอินยิ้มเป็นเชิงขอโทษให้ผม ผมแอบคิดมาไปเองหรือเปล่านะที่จงอินไม่ค่อยสบตากับคยองซูเท่าไหร่เลย

     

                    "ไปเป็นไร แล้วเจอกันใหม่นะ" แบคฮยอนโบกมือน้อยๆเป็นการบอกลา จงอินเองก็แค่พยักหน้าก่อนจะรีบหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

     

                    "เหอะ" คยองซูส่ายหัวก่อนจะรีบดึงผมให้ไปหาที่นั่ง

     

                    "นายกับจงอินดูไม่ถูกกันเลยนะ เขาบอกว่านายเกลียดเขา จริงหรือเปล่า?" แบคฮยอนรีบรัวคำถามใส่คยองซูทันที

     

                    "ก็ไม่เชิง.. เรียกว่าไม่ถูกกันดีกว่า.." คยองซูยักไหล่ก่อนจะทำท่าไม่สนใจ

     

                    "ได้ไง รู้จักกันมาก่อนหรอ" แบคฮยอนยังไม่ลดละความพยายาม เขายังคงซักไซร้คยองซูต่อ

     

                    "ก็เปล่า... นายเลิกสนใจเรื่องฉันกับหมอนั้นเถอะ นู้น.. คนของนายมาแหละ" คยองซูด้วยสีหน้าเซ็งๆ

     

                    "ชานยอล~" แบคฮยอนรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มร่างโปร่งที่ยืนอ้าแขนรอแบคฮยอนอยู่..

     

     

                    หวานกันซะไม่มี... คยองซูพะอืดพะอม..

     

     

     

                    "เบาๆหน่อยแบคฮยอน นายผอมกว่าพะยูนนิดเดียวเองนะ" ชานยอลพูดขึ้นอย่างตลก แต่เขาก็ยอมรับน้ำหนักตัวของแบคฮยอนอยู่ดี

     

                    "ชานยอล!!" แบคฮยอนเรียกชื่อคนที่เขาโถมตัวเข้าไปเสียงดัง จนจากที่เป็นจุดสนใจอยู่แล้วก็เป็นจุดสนใจมากขึ้นกว่าเดิม

     

                    "แบคฮยอนฉันไปแล้วนะ" คยองซูพูดขึ้นกับแบคฮยอน เขาก้มหัวเป็นการทักทายชานยอลเล็กน้อย

     

                    "รีบไปไหนอ่ะคยองซู ไปกินข้าวกับเราก่อนดิ" 'เรา'ในที่นี้คงไม่ได้หมายถึงแบคฮยอนคงเดียว..คยองซูรู้ดี เพราะงั้นคยองซูจะไม่ไปเป็นก้างคู่รักเด็ดขาด.. แค่ยืนอยู่ตรงนี้ก็พะอืดพะอมแย่ล่ะ

     

                    "นั้นสิ ไปด้วยกันก็ได้นะ ผมก็อยากรู้จักเพื่อนของแบคฮยอนด้วย" ชานยอลพูดพร้อมเอามือโอบไหล่แบคฮยอน

     

     

                    คยองซูเห็นนะว่าแบคฮยอนอยู่กับหมอนี้ทีไร... โคตรเปลืองตัวอ่ะ

     

     

                    "ไว้คราวหน้าล่ะกัน" คยองซูยิ้มแห้งๆให้คู่รักตรงหน้า

     

                    "อ่า..ก็ได้ งั้นไว้เจอกันนะคยองซู!" แบคฮยอนโบกมือแบบนางงาม(?)ลาคยองซู คยองซูก็เดินเข้ามาใกล้คู่รักเล็กน้อย จังหวะที่กำลังสวนกับคู่รักเขาก็พูดบางสิ่งกับชานยอล

     

                    "อ้อ...ปาร์คชานยอล.. ดูแลแบคฮยอนให้ดีล่ะ" แล้วคยองซูก็เดินจากคู่รักมาทันที

     

                    "อะไรของเขานะ" ไม่ใช่เสียงของชานยอลแต่เป็นแบคฮยอนที่สงสัย

     

     

                    ชานยอลขมวดคิ้วทันที สีหน้าของเขาไม่ดีนัก เพราะไม่เพียงประโยคที่คยองซูกล่าวต่อเขา แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือสีหน้าของคยองซู ถ้าชานยอลไม่ได้ตาฝาด.. สีหน้าของคยองซูค่อนข้างจะจริงจังเมื่อพูดประโยคนั้น นั้นทำให้ชานยอลอดวิตกไม่ได้

     

                    เพื่อนของแบคฮยอนหมายความว่ะอะไรนะ..

     

     

                    "ชานยอล~ แบคฮยอนหิวข้าวแล้ว ไปกินข้าวกัน ข้าว! ข้าว! ข้าว!" แบคฮยอนตะโกนใส่หูชานยอล

     

                    "คร้าบบบบบ ~ เดี๋ยววันนี้ชานยอลพาไปกินอาหารญี่ปุ่นบนห้างโอเคไหมครับ" แต่ถึงแม้จะวิตกยังไง แต่เขาก็เลือกที่จะเก็บความเครียดไว้คนเดียวดีกว่า

     

                   

                    เขาอาจจะคิดมากไปเอง..

     

     

                    "เย้ๆๆๆๆ ไปห้าง~" แบคฮยอนดีใจเหมือนเด็กๆ ชานยอลที่เห็นว่าแบคฮยอนกำลังเผลอเลยแอบกดปลายจมูกลงไปฝังกับแก้มนุ่มๆของแบคฮยอน

     

                    "เอาอีกแล้วนะชานยอล!!" แบคฮยอนทำเสียงดุก่อนจะยกมือบิดแขนผมเล็กน้อย แต่หน้าเนี่ยแดงแปร๋ดเลย..

     

                    "นิดเดียวเอง" ผมพูดแขนเล็กน้อยก่อนจะยิ้มทะเล้นให้แบคฮยอน

     

                    "ไม่นิดแหละ!" แบคฮยอนแลบลิ้นใส่ผมก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถซึ่งจอดอยู่ไม่ไหลหนัก...

     

     

     

                    ก็ไม่มีอะไรน่าคิดเท่ากับการหาวิธีลวนลาม..เอ้ย!.. อยู่ใกล้ๆแบคฮยอนอีกแล้วนิครับ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    เซฮุนกำลังเดินควงกุญแจพร้อมฮัมเพลง เดินเข้าบ้านด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยความสุข เขาเพิ่งจะออกมาจากร้านทำผมได้ไม่นาน ถึงแม้ว่าร้านทำผมจะเป็นสถานที่ที่วุ่นวายและเสียงดัง เพราะพี่ๆช่างทำผมทั้งหญิงแท้และหญิงเทียมที่เอาแต่แทะโลมเขา.. เซฮุนก็ไม่ถือสามากนัก เขากำลังอารมณ์ดี เพราะทรงผมที่เขาไปตัดมันออกมาดูดีไม่น้อย

     

                    เอาจริงๆนะ.. ยังไงเขาก็คิดว่าเขาทำทรงไหนก็ดูดี

     

                    เรื่องนี้ต้องโทษพ่อและแม่เขาที่ทำให้เขาหน้าตาดีมากเกินไป ไม่ว่าทำทรงผมทรงไหนก็ดูดีไปหมด ไม่ว่าทำสีอะไรก็ดูเข้าไปหมด นี้ขนาดเขาเปลี่ยนทรงผมบ่อยๆยังรู้สึกเบื่อความหล่อของตัวเองที่มีเยอะเกินไปเลย...

     

     

                    นี้เขาไม่อยากทำเยอะเพราะกลัวคนอื่นจะฮือฮา หรือไม่ก็จะมีแมวมองมาติดต่อเขา ขี้เกียจปฏิเสธครับ บอกตรงๆรำคาญ... คราวนี้เลยแค่ไปไถข้างเอาออกหน่อยๆ แล้วก็ไปย้อมสีผมเล็กน้อย แต่ไม่ได้เปลี่ยนนะครับ ทำสีเดิมแต่ว่าไปย้อมกลบผมดำที่งอกใหม่แค่นั้นเอง..

     

                    ..แต่แค่นี้ก็หล่อแล้วครับ..

     

     

                    "ไอ้เซฮุน.." แต่กำลังก้าวบันไดขึ้นห้องตัวเองก็ต้องชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก

     

                    "คะ..ครับ" เซฮุนหันไปฉีกยิ้มให้กับผู้ที่เรียกเขาทันที..

     

                    "ฉันได้ยินมาว่า..แกโดดเรียน.." น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นทำเอาเซฮุนขนลุกเกรียวไปหมด..

     

                    "โถ่แม่... "

     

     

     

                    ดูเหมือนชะตาของเซฮุนจะขาดแล้วล่ะ...










    ----------------------------------------------------------
    ในความรู้สึกของเราแบบ... ตอนนี้โคตรปวงอ่ะ..
    เหตุเพราะเขียนตอนหลากหลายอารมณ์ แรกๆจะโดนกวนโดยหลานพยายามเคร่งเครียด กลางๆเครียดจริงๆเพราะกำลังอิน(?) เกือบจบงงๆเพราะเพื่อนส่งเรื่องผี่มาให้อ่าน.. ตอนจบฮาครัช.. มัวอ่านทวิตอยู่...
    อารมณ์หลากหลายเลย..

    คืออย่าเพิ่งงงนะคะ คือพี่คริสไม่ได้บ้านะ ที่พี่แกไม่ได้คุยคนเดียวนะ แต่คือเทานางลึกลับไงนางหยิ่งไม่ตอบพี่คริส(?)





    ปล.คู่ไหนหน้าจับตามองสุด.... 1.ฮุนฮาน 2.ชานแบค 3.xxx (เติมเอาเอง) ส่งได้ที่ 081xx... ส่งวันนี้มีสิทธิ์อ่านตอนหน้าก่อนใคร ด่วน!ของมีจำนวนจำกัด...


    (ล้อเล่นนะครับ เราไม่ได้แต่งล่วงหน้านะ เราแต่งสดเพราะงั้นไม่มีได้อ่านก่อนแน่ๆ)


     

    ฝากแท็ก #ฟิคแวมไพร์หมาป่า ไว้ด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×