ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] VAMPIRE AND WEREWOLF (HunHan,ChanBaek and EXO)

    ลำดับตอนที่ #2 : VAMPIRE AND WEREWOLF :: CHAPTER 1

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 56


    Chapter1

     

                "ขอบใจนายมากนะเลย์ ถ้านายไม่อาสามาส่งฉันสองคนมีหวังคุณแม่สุดที่รักคงได้สั่งให้เรามาเองแน่ๆ"

     

                "ไม่เป็นไรชานยอล เลย์เต็มใจ"

     

                "นี้ เมื่อไหร่พวกนายจะเลิกหวานกันซะที ทำอย่างกับสามีภรรยาที่เพิ่งแต่ง เกรงอกเกรงใจไปได้"

     

     

     

                ..แน่นอนเสียงกวนประสาทแบบนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก โอ เซฮุน น้องชายสุดที่รักของปาร์คชานยอล

     

     

     

                "ไอ้เซฮุน เอ็งไม่เสือกซักเรื่องจะเป็นไรไหม" ชานยอลหันไปที่บอกหลังของรถพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ เอือมกับความปากหมาของน้องชายตัวเอง ถึงจะอยู่บ้านเดียวกันมาตลอดทั้งชีวิตเขาก็ยังทำใจยอมรับข้อเสียนี้ไม่ได้อยู่ดี

     

                "ฮ่าๆๆ น้องชายนายตลกดีนะ" เสียงหัวเราะที่มาจากตำแหน่งคนขับแสดงถึงอาการไม่โกรธแต่อย่างไร ซึ่งคนอย่างชานยอลรู้ดีว่าทำไมเลย์ถึงไม่โกรธ..

     

                "เลย์ ที่นายขำเพราะนายไม่เข้าใจที่น้องชายฉันบอกใช่ไหม" ชานยอลหันไปพูดกับเลย์อย่างรู้ทัน

     

                "ฮ่าๆๆ รู้ด้วยหรอ"เลย์หัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะเอามือเกาหัวเป็นเชิงเขินอาย

     

     

                เมื่อจบประโยคของเลย์ก็ไม่มีใครพูดอะไร ต่างคนต่างอยู่ในห้วงความคิดของตน ชานยอลก็เอาแต่คิดทำใจถือซะว่ามาเที่ยวพักร้อนกับน้องชายสุดที่รักในช่วงผิดเทอม เลย์เองก็เอาแต่ขับชมนกชมไม้ สนใจรอบๆข้างทาง

    ส่วนอีกคนนึงที่นั่งอยู่บนเบาะหลังนั้นได้อยู่ในห้วงความคิดของตนเองมากไปหน่อย เซฮุนเอ่อ... หลับไปแล้ว.. สงสัยว่าห้วงมันจะซับซ้อนจนเซฮุนหลุดออกมาไม่ได้แหะ

     

     

                "โอ้ยยยยยย นอนไม่หลับโว้ย ทำไมรถมันเขย่าขนาดนี้เนี่ยเลย์ นายพาฉันมาที่ไหนเนี่ย กะให้เป็นโคอาล่ามาร์คเขย่า5พันครั้งรึไง" อยู่ดีๆคนข้างหลังก็ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมบ่นกระปอดกระแปด ทำเอาคนที่นั่งเบาะหน้าอดจะรำคาญตามไปไม่ได้

     

                "ฉันเห็นนายหลับมาตลอดทางนะ ไม่เห็นว่าจะนอนไม่หลับตรงไหน"ชานยอลเอ่ยอย่าหงุดหงิด ก่อนจะก้มลงมองแผนที่ต่อ

     

                "ก็มาบ้านย่านายไง บ้านย่านายมันอยู่ในป่านิ ทางมันเลยไม่ย่อมดี"เลย์พูดพร้อมทำสีหน้าลำบาก ไม่ใช่ว่าทางขับรถมันแย่หรอกนะ เพียงแต่ว่าเขาพยายามนึคำศัพท์เกาหลีที่จะสื่อต่างหาก

     

     

                เลย์หรืออี้ชิ้ง หนุ่มคนจีน เขาเป็นเพื่อนของปาร์คชานยอล เขสย้ายมาที่เกาหลีเมื่อปีที่แล้ว แล้วเข้าเรียนที่มหาลัยที่เดียวกับชานยอล ด้วยความที่เป็นใจดีและเข้ากับคนง่ายจึงมีเพื่อนอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยทักษะภาษาทั่ยังไม่

    ดีนักทำให้บางครั้งก็เป็นคนเข้าใจอะไรยาก ซึ่งถึงแม้ชานยอลจะเอือมกับเพื่อนคนนี้แต่ก็ยอมรับกน้าที่เป็นล่ามอย่างช่วยไม่ได้

     

                "เฮ้ย บ้านย่ามันกันดารขนาดนั้นเลยหรอ เฮ้ย หันรถกลับ ฉันอยู่ไม่ได้หรอกนะถ้าไม่มีทีวี เน็ต เกมส์ หนังโป๊ นี้มันปัจจัย4ของฉันนะ" คนจากเบาะหลังเริ่มโวยวายอีกครั้ง

     

     

                ให้ตายสิโอเซฮุน นายน่าจะสร้างภาพหน่อยนะ..

     

     

     

                "อย่าประสาทน่า นายก็รู้ว่าถ้าเราไม่ถึงบ้านย่าแม่จะทำไงกับชีวิตพวกเรา"ปาร์คชานยอลพูดอย่างอารมณ์เสีย เขาไม่ใช่คนความอดทนต่ำ แต่ก็ไม่ใช่คนความอดทนสูงด้วยเหมือนกัน ยิ่งต้องมาเจอกับน้องชายตัวเองตลอด

    หลายชั่วโมงติดแล้วเขายิ่งความอดทนต่ำลงไปอีก

     

                "แต่.."

     

                "ถึงแล้ว" ในขณะที่เซฮุนจะมีโอกาสโวยวาย เลย์ก็ชิงพูดขึ้นมา พร้อมทำหน้าตาตื่นปนดีใจ

     

     

     

     

     

     

     

                ปัง!

               

     

                เสียงปิดประตูรถดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่สองพี่น้องและเลย์ช่วยกันเอาสัมภาระลงจากรถจนหมดแล้ว

     

                "ไหนอ่ะบ้าน มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้ คงไม่ใช่ว่าหลงทางหรือย่าอยู่บนต้นไม้นะ" เซฮุนบ่น

     

                "นั้นสิ ไม่เห็นมีบ้านเลย แต่ไม่น่าจะหลงนะเพราะฉันกับเลย์ก็ช่วยกันดูทางตลอด"ชานยอลพูดพร้อมก้มลงดูแผนที่2ฉบับ ฉบับแรกคือฉบับนำเส้นทางการขับรถ ส่วนอีกฉบับคือฉบับที่แม่เขาวาดให้

     

                "แน่ใจนะว่าช่วยกันดูไม่ใช่มัวจีบกันอีกนะ" เซฮุนพูดอย่างไม่สบอารมณ์

     

                "ไอ้นี่.. อยากกินเท้าหรือไง" คนเป็นพี่เองก็เริ่มอารมณ์ไม่ดีตามก็พูดอย่างเอาเรื่อง

     

                "เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ใช่บ้านหลังนั้นหรือเปล่า" เลย์พูดขัดไม่ให้สองพี่น้องนั้นทะเลาะกัน ก่อนจะยกมือขึ้นชี้ไปยังทางนึง

     

     

                เซฮุนและชานยอลมองขึ้นตามนิ้วขี้ของเลย์ พวกเขาไล่สายตาขึ้นไปยังเนินเขาลูกนึง และพวกเขาก็พบบ้านหลังนึงตั้งอยู่บนเนินเขา พวกเขาเองก็ไม่แน่ใจอยู่ว่าจะเรียกบ้านหลังนี้ว่าเป็นบ้านแนวไหนนี้ ที่แน่ๆไม่ใช่บ้านทรง

    เกาหลีแน่ๆ เพราะว่ามันเป็นบ้านทรงสูงที่ก่อตัวจากอิฐแดงที่ไม่ได้ทาสีเลย บ้านเป็นทรงกระบอกสูงประมาณสองชั้นถ้ามองจากด้านนอก มีบันไดขึ้นชั้นสองอยู่ข้างนอกและมีทางเดินรอบชั้นสอง ที่สำคัญคือบรรยากาศวังเวงที่เหมือน

    ไม่ได้ส่งออกมาจากในป่า แต่เหมือนเกิดจากบ้านหลังนี้แล้วป่าโดนผลกระทบไปด้วย

     

               

                "นี้มันบ้านผีสิงชัดๆ.." เซฮุนพูดขึ้นหลังจากที่จ้องบ้นหลังนั้น

     

                "เอ่อ.. พวกนายจะอยู่ได้จริงๆหรอ" เลย์ถามพวกผม

     

                "ไม่ต้องห่วง อยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ นายรีบกลับเถอะเดี๋ยวมันจะดึก ขับกลับคนเดียวตอนกลางคืนมันอันตราย" ชานยอลพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง หางตาหันไปเห็นเซฮุนที่กำลังยืนล้อเลียนเขากับเลย์อยู่

     

                "อือ เดี๋ยวใกล้ๆเปิดเทอมจะมารับนะ" เลย์พูดขึ้นก่อนจะโบกมือลาแล้วขึ้นรถไป

     

                "เอาล่ะ ไอ้น้องชาย หยุดล้อเลียนฉันแล้วขนของไปบ้านหลังนั้นกันเถอะ" ผมพูดขึ้นอย่างปลงๆก่อนจะยกกระเป๋าของตัวเองเดินขึ้นไปตามเนินเขา

     

     

     

                ก็อก ก็อก ก็อก!

     

                "มีคนอยู่ไหมครับ" ชานยอลพูดหลังจากวางของของตนไว้ที่หน้าประตู แล้วยกมือเคาะประตู

     

                "..." ไม่มีเสียงตอบรับใดๆมาจากบ้านหลังนี้

     

                "มีคนอยู่ไหมครับ!!!" น้ำเสียงเริ่มดังขึ้นจนเกลานเป็นการตะโกน

     

                "จะเป็นไปได้ไหมที่บ้านหลังนี้อาจจะไม่มีใครอยู่ ไม่ใช่บ้านย่าไง เราอาจจะหลงไง กลับบ้านกันก่อนเถอะ ไว้ค่อยบอกแม่ว่าเราหลง" เซฮุนเอ่ยขึ้นหลังจากมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายแท้ๆของตนยืนตะโกนโวยวายอยู่หน้าบ้าน

    หลังนี้อยู่ซักพัก ..เหมือนคนบ้าไม่มีผิด

     

                "อย่ามางี่เง่าเซฮุน แกก็รู้ว่าเรากลับไม่ได้ เลย์ก็กลับไปแล้ว สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี.. นายจะกลับอย่างไง หรือจะเดิน?"คนพี่หันมาถามหน้ากวน ก่อนจะลองใช้มือบิดลูกบิดประตูดู

     

                "ก็มันไม่อยากอยู่นิ หรือนายอยากอยู่? เดี๋ยวนะ สัญญาณโทรศัพท์ไม่มี?"โอ เซฮุนพูนขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะควักโทรศัพท์มือถือสีขาวของตนขึ้นจากกระเป๋ากางเกง กดปลดล็อคอย่างรวดเร็วด้วยความเคยชิน และสังเกตุ

    สัญลักษณ์ข้างบนหน้าจอโทรศัพท์ มันแสดงถึงสัญญาณคลื่นโทรศัพท์ที่ไม่มี

     

     

                ชานยอลไม่ได้สนใจน้องชายตัวเองมากนัก เมื่อเขาลองบิดลูกบิดประตูเขาก็พบว่ามันไม่ได้ล็อค เขาจึงค่อยๆยกกระเป๋าขึ้นในมือแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านอย่างเงียบๆ เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าทำไมต้องทำให้เงียบ ทำเหมือนเขากลัวใครหรืออะไร..ในบ้านหลังนี้จะรู้ว่าเขา'แอบ'เข้ามาในบ้านหลังนี้

     

                "ขอโทษนะครับ มีคนอยู่ไหมครับ"ชานยอลพูดขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ

     

                "อย่างน้อยข้างในก็ไม่ได้หน้ากลัวเหมือนข้างนอก" เซฮุนที่เห็นชานยอลเดินเข้ามาก็เดินตามอย่างสนอกสนใจ สายตากวาดสำรวจบ้านหลังนี้อย่างรวดเร็ว

     

                "ตกลงบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านของย่าจริงไหมเนี่ย" ชานยอลพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

     

                "ก็น่าจะใช่นะ ดูสิ" เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะหันหน้าไปทางโต๊ะที่อยู่ติดผนังใจกลางห้องโถง บนโต๊ะปรากฏกรอบรูปตั้งโต๊ะอยู่ ในกรอบรูปแสดงภาพถ่ายครอบครัวของพวกเขาเอง แต่ดูเหมือนจะเป็นภาพที่เก่าแล้ว เพราะเป็น

    ภาพสมัยที่ชานยอลยังไม่ถึงอนุบาลเลย ยังถูกพ่อของเขาอุ้มอยู่ ส่วนคุณแม่ของเขาก็ยืนยิ้มให้กับกล้อง มือข้างนึงก็ยกขึ้นรูปท้องที่นู้นออกมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพนี้ได้ถูกถ่ายตั้งแต่เซฮุนนั้นยังไม่คลอดเลย

     

                "ไปข้างบนกันดีกว่า" ชานยอลพูดก่อนจะเดินไปขึ้นบันไดของบ้าน

     

     

                ชั้นสองของบ้านนั้นถูกแบ่งเป็นสองส่วนของเห็นได้ชัด พื้นถูกปูด้วยไม้ที่น่าจะมีอายุมากแล้ว ทุกก้าวย่างจะได้ยินเสียงเอี๊ยดอาดตามประสาบ้านไม้ ชานยอลกับเซฮุนเองที่ไม่ชินกับเสียงของพื้นไม้นี้ก็ถึงกับหวาดเชียวว่าไม้

    มันจะหักไหม พวกเขาต้องค่อยๆก้าวทีละก้าวอย่างเบาที่สุดเท้าที่จะเทียบได้

     

                "ฉันว่า.. ทางซ้ายนะ" ชานยอลที่เป็นคนเดินนำหันมาพูดกับเซฮุน

     

                "ทำไมคิดงั้น"เซฮุนเองที่เดินก้มหน้ามองพื้นอยู่นั้นก็เงยหน้ามาถามคนเป็นพี่

     

                "ดูป้ายทางขวาดิ" ชานยอลพยักไปทางขวาเพื่อให้เซฮุนมองตามเขาไป

     

     

     

                'พื้นที่ส่วนบุคคล เข้าของบ้านเท่านั้นเข้าได้'

     

     

                "ทำไมย่าต้องติดป้ายแบบนี้ไว้ล่ะ" เซฮุนถามอย่างสงสัย

     

     

                ก็มันจริงไหมล่ะ เท่าที่เขารู้มาย่าอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้ ทำไมกลางป่ากลางเขาแบบนี้ต้องติดปลายห้ามให้คนนอกเข้าล่ะ ทำเหมือนจะมีคนอื่นเข้ามา แต่ใครจะมา? ย่าคงไม่ใช่อารมณ์ดีรอสโนไวท์มาพักกลางป่าแบบนี้หรอก แล้วทำไม..

     

                "อย่างไงก็เถอะ ไปทางนี้กัน"ชานยอลพูดขึ้น ก่อนจะเดินเลี้ยวซ้ายผ่านป้ายสีซีดที่เขียนว่า

     

     

                'ยินดีต้อนรับ'

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                "มันมีแค่ห้องนี้ห้องเดียวที่ไม่ล็อค" ชานยอลพูดขึ้นหลังจากเดินสำรวบริเวณชั้นสองด้านซ้ายหมดแล้ว

     

                "หมายความว่าไง ต้องนอนด้วยกัน?" เซฮุนพูดอย่างไม่เข้าใจ

     

                "ก็คงอย่างนั้นแหละ ไม่มีทางเลือก"

     

     

                ชานยอลพูดขึ้นก่อนจะหมุดลูกบิดประตูเปิดเข้าไป เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป เขาก็พบว่าขนาดห้องนั้นใหญ่กว่าที่เขาคิดเอาไว้พอสมควร ในห้องมีเตียงเดี่ยวขนาดพอเหมาะอยู่สองเตียงตั้งตรงข้ามกัน มีตู้เสื้อผ้าอยู่สองตู้

    ขนาดเล็กอยู่ แล้วมีโต๊ะวางโคมไฟของแต่ล่ะเตียง มีประตูสำหรับออกไประเบียงด้านนอก และมีหน้าต่างอยู่ถึงสองบ้าน ทำให้ห้องนี้ดูสดชื่นกว่าส่วนอื่นของบ้าน

     

                "ก็ไม่เลว"เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะเดินแซงหน้าชานยอลไป แล้วนอนลงที่เตียงฝั่งนึงของห้อง ทิ้งข้าวของไว้ที่พื้นข้างเตียง

     

               

                ชานยอลไม่ได้พูดอะไร เมื่อเขาเห็นน้องชายของตัวเองชิงเลือกเตียงไปก่อนแล้ว เขาเลยเดินไปที่อีกเตียงนึง เปิดกระเป๋าจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ทีละชิ้นจนหมดกระเป๋า เมื่อเขาหันไปหาน้องชายของตัวเอง ก็พบว่า... มันหลับไปแล้ว.. อุตส่าคิดว่าจะชวนลงไปหาอะไรกินข้างล่างสักหน่อย หลับเป็นตายเลย

     

     

                ชานยอลส่ายหน้าให้กับน้องตัวเอง ก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่าง เดินสำรวจอยู่ซักครู่ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องครัว พื้นที่ชั้นล่างนั้นไม่มีอะไรมาก ก็มีห้องโถงใหญ่ๆที่เอาไว้นั่งเล่น มีชั้นหนังสือใหญ่ๆตั้งอยู่ แต่ที่สังเกตก็คือบ้าน

    หลังนี้ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซักเครื่อง ไม่มีแม้กระทั่งทีวีให้เขาดู ซึ่งเขาก็ทำใจตั้งแต่ทราบว่าที่นี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แล้ว เขาคิดไว้แล้วว่ามันจะต้อง... บ้านนอกจริงๆ!

     

     

                เมื่อเข้าไปในห้องครัว สิ่งแรกที่คิดในหัวของชานยอลก็คือ มันดูเล็กกว่าที่เข้าคิดไว้มากเมื่อเทียบกับห้องโถง ยังดีที่ห้องครัวของบ้านหลังนี้ยังมีตู้เย็น ซึ่งเขาคิดว่ามันเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุดในบ้านหลังนี้แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะดูเก่าและโบราณมากแค่ไหนก็ตาม

     

     

                ชานยอลลองเปิดตู้เย็นเพื่อดูว่ามีอะไรพอได้บ้าง แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังเมื่อผิดว่าในตู้เย็นมีแต่น้ำเปล่าที่แช่เย็นไว้ ชานยอลหยิบน้ำเปล่าออกมานึงขวด เดินออกไปที่ห้องโถง ก่อนจะทิ้งตัวลงกับโซฟาตัวยาวของบ้านอย่าง

    หมดแรง

     

                "โอ้ย!" เมื่อเขานั่งลงกับโซฟาก็ได้ยินเสียงร้องดังขั้น ชานยอลจึงรีบเด้งตัวยืนขึ้นทันที ก่อนจะหันไปดูที่โซฟาอย่างตกใจ

     

                ผ้าห่มสีเขียวขี้หมาที่เหมือนจะคลุมบางสิ่งเอาไว้กำลังร่วงไปบนพื้นโดนฝีมือคนที่นอนบนโซฟาเจ้าของมันเอง คนที่นอนบนโซฟาเงยขึ้นมามองหน้าชานยอลอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะทำหน้าตกใจขึ้นมา

     

                "เอ่อ... ขอโทษครับ"ชานยอลที่กำลังมึนๆก็เอ่ยขึ้น เมื่อกี้เขาคงนอนทับคนๆนี้สินะ มิน่าถึงได้ยินเสียงคนร้อง แต่คนๆนี้เป็นใครล่ะ ไม่มีทางที่จะเป็นย่าได้แน่นอน

     

     

                ชานยอลพิจารณาคนตรงหน้าเขาเล็กน้อย เขาเป็นคนรูปร่างเล็กหรือที่เรียกว่าเตี้ยนั้นแหละครับ ดูจากการที่เหยียดขานอนตรงๆแล้วยังไม่พ้นโซฟา ส่วนสูงคงสูงประมาณไหล่ผม เป็นคนผิวขาว ริมฝีปากเล็ก จมูกได้รูป ดวง

    ตาเข้ากับโค้งหน้า.. เอิ่ม.. นี้ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จักผู้หญิงมาเยอะอย่างปาร์คชานยอล เขาคงคิดว่าคนตรงหน้าเขาเป็นผู้หญิงไปแล้ว

     

                "นาย... ชานยอล?"คนตรงหน้ามองผมอย่างช็อคๆ ก่อนจะเรียกชื่อผมออกมา

     

                "เอ่อ.. เราเคยเจอกันหรอครับ?" ผมยกมือเกาหัวอย่างงงๆ ผมแน่ใจนะครับว่าตั้งแต่ผมจำความได้ ผมไม่เคยเจอเด็กผู้ชายที่หน้าหวานเหมือนเด็กผู้หญิงแบบคนตรงหน้าผมมาก่อน แล้วผมจะเคยเจอเขาได้อย่างไร

     

                "นาย.. นายจริงๆด้วย" แล้วคนตรงหน้าก็กระโดดโถมตัวเข้ามากอดผม ผมเองที่ไม่ได้เตรียมตัวก็ถึงกับหงายหลังล้มลงตามแรงที่อีกคนกระโดดกอด

     

     

     

     

                ตึกตัก.. ตึกตัก...

     

     

     

                หืม? ปาร์คชานยอล.. นายใจเต้นงั้นหรอ.. คนอย่างนายที่โดดผู้หญิงกอดจนจะตายด้านเนี่ยนะ

     

     

     

     

     

                ....ทำไมมาใจเต้นให้กับเด็กผู้ชายตรงหน้าได้ล่ะ


    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ทิ้งหายไปนานเลยเนาะ โฮะๆๆๆ T T... เก๋าขอโตด.. ว่าแต่จะมีคนโกรธไหมอ่ะ?? 555555

    เรื่องเก่ายังเคลียร์สเปเชียลไม่เสร็จมาต่อตอนที่1เรื่อง อิอิ > <! เอาล่ะไม่มีไรเวิ่นเลย

    ขอความร่วมมืออย่างเดียว อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ  เย้~~~~~~~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×