คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : (รีไรท์)EX-Friend?! :: Chapter 1 'จุดเริ่มต้น'
chapter 1
"ไคอา.. ???"
"ฉันว่าแล้วว่าต้องเป็นนาย" ไคพูดจบก็คลี่ยิ้มแล้วถลาเข้ามากอดผมแน่น
เฮ้... กอดแบบนี้มันไม่ดีนะ
ไค หรือ คิมจงอิน ผู้ชายตัวดำ เอ้ยยย ผิวสีคล้ำ เป็นเพื่อนสมัยม.ปลายที่เรียนด้วยกัน พูดตรงๆเราก็ไม่ค่อยมีอะไรที่เหมือนกันหรอกครับ เราทะเลาะกันบ่อยจะตาย แต่ด้วยความที่ทะเลาะกันบ่อยเนี่ยแหละครับพวกเราถึงสนิทกัน ทะเลาะกันจนรู้ว่าอีกฝ่ายชอบอะไรไม่ชอบอะไร ว่าแต่... ทำไมถึงเป็นเพื่อนกันนะ? ทำไม??? ทำไมเราถึงเป็นเพื่อนกันได้นะ...
โอ้ย... ทำไมการปฐมนิเทศนักเรียนม.ปลายปี1มันถึงได้หน้าเบื่อแบบนี้นะ..
ผมเองก็รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าการปฐมนิเทศนักเรียนเนี่ย..จะต้องเจอกับอะไร อย่างแรกเลยก็คงเป็นเกียรติประวัติโรงเรียนสมัยทาซานยังไม่มีเถาวัลย์(?) ยิ่งโรงเรียนไหนดังๆหน่อยประวัติได้โล่โน้นรางวัลนี้ก็เยอะตาม ไหนจะเข้ามาบ่นโอดประวัติโรงเรียนแล้ว ครูบาอาจารย์ก็เข้ามาเน้นเรื่องกฏโรงเรียนอยู่ได้ น่าเบื่อจริงๆ.. นี้เพิ่งผ่านไป10นาที ผมยังรับรู้ได้เลยว่ามันหน้าเบื่อ ให้ตายสิ แล้วนี้ในกำหนดการบอก3ชั่วโมง คยองซูคนนี้ขอลาตายดีกว่า อ๊ะ! นึกออกแล้ว ถ้ามันน่าเบื่อมากนักก็หาอะไรมาทำแก้เซ็งดีกว่า...
คิดได้อย่างนั้นผมกว่าคว้าเอามือถือลูกรักขึ้นมา หมายจะเล่นข้าวมเวลา
'นี้ อย่าดีกว่า' อยู่ดีๆก็มีมือปริศนามาดึงข้อมือผมไม่ให้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาได้
ความคิดผมตอนนั้น....
ใครว่ะ!!!!!
ผมหันไปมองเจ้าของมือดำๆที่บังอาจมาขว้างทางรัก(?)ของผมกับโทรศัพท์ก่อนจะพบ... ผู้ชาย...
เออ.. ผมไม่ได้บ้าผู้ชาย ผมจะสื่อว่าไอ้บ้านี้เป็นใคร คิดว่าหล่อ.. เอ่อ... คิดว่าดูดี..นิดนึง แล้วจะมายุ่งกับชีวิตคนอื่นหรือไง ใครจะเล่นโทรศัพท์มันเกี่ยวอะไรกับนายหรือไง? ประสาท! ทำตัวอย่างกับผมจะหยิบยาบ้ามาเสพ โอ้ยยย หงุดหงิดจากพิธีบ้าบอแล้วต้องเจอคนขี้เสือกด้วยหรือไง
หงุดหงิดๆๆๆๆๆ
ผมมองหน้าของเจ้าของมือนั้น ก่อนจะแสยะยิ้มแล้วสะบัดมือนั้นออกก่อนที่จะหันไปสไลด์โทรศัพท์แสนรักต่อ ก็ให้มันรู้ไปสิว่าคยองซูคนนี้จะกลัว
'นี้! ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเล่น เดี๋ยวอาจารย์ก็ว่าหรอก' ผู้ชายคนนั้นยังเอามือมากุมมือผม..เอ่อ..หมายถึงในมือผมมีโทรศัพท์ด้วยอ่ะนะ แล้วก็พูดปรามผมพร้อมทำหน้าดำ.. มันไม่ได้ทำนี้หว่า..นี้มันดำธรรมชาตินิ
หึ! คิดว่าคยองซูจะกลัว? ถ้ากลัวไม่เอาขึ้นมาเล่นหรอกโว้ยยยยยยย
ผมสะบัดมืออกอีกครั้งแต่ครั้งนี้เหมือนจะไม่ง่ายอย่างครั้งที่แล้ว ผู้ชายคนนี้ทำหน้าคิ้วขมวดส่งมาให้ผมพร้อมยื้อมือผมเอาไว้ ผมเลยใช้สายตาที่แปลได้ว่า 'เอ็ง ยุ่ง ไร ด้วย?' ดูเหมือนหมอนั้นจะเข้าใจหน้าผมที่จะสื่ออกมา แต่กลับไม่ปล่อยมือ แถมยังส่งสายตาประมาณว่า 'เชื่อ ฉัน เชื่อ ฉัน'
อะไรของมัน...
ผมกับไอ้บ้าสติแตกนี้ยื้อโทรศัพท์กันได้สักพักก่อนจะเกิดสิ่งที่เรียกว่าเลวร้ายที่สุดในตอนนี้...
ดีโอฮยอง~~~~~~ รับโทรศัพท์ด่วนนนนน~~~ รับด่วนนนนนนน~~~~~ น้องชายสุดหล่อโทรหา~~~~
เสียงเรียงเข้าของโทรศัพท์ที่ตอนนี้กำลังโชว์เบอร์ของน้องชายสุดที่รักดังขึ้น.. และแล้วผมก็รู้ชะตากรรมของผม...
ผมหันไปมองรอบๆตัวที่ตอนนี้กำลังจ้องมองที่ผมและไอ้บ้าข้างๆนี้ ทั้งหอประชุม.. แม้กระทั่งผอ.ที่กำลังส่งยิ้มบางๆให้ผม เนื่องจาก..ท่านก็ลืมว่าจะพูดอะไร... แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือทุกคนที่กำลังมองพวกผม นักเรียนทุกคนก็หัวเราะบ้าง ส่งสายตาประมาณว่า 'เสียใจด้วยนะ'มาให้ผม แต่ก็มีอีกมากที่แสดงความไม่พอใจ รวมไปถึง...
"นักเรียน... ครูขอเชิญพวกเธอ2คนออกมาบนเวทีหน่อย"
ใช่แล้วครับ..นี่คือเสียงหนึ่งในอาจารย์คนนึงของโรงเรียนนี้ ซึ่งผมดูจากการที่หล่อนใส่กระโปรงยาวถึงเข่า ถือหนังสือ3เล่มพร้อมสอดไม้เรียวเล็กๆไว้ สวมแว่นหนาๆใหญ่และเก่าๆที่มีสายคล้องคอด้วยแล้ว คงเดาได้ไม่อยากเลยว่า... อาจารย์คนนี้คืออาจารย์1ในแบล็คลิสต์ที่นักเรียนไม่ควรไปแหยม...
แต่ไม่ทันแล้วครับ...
ผมกับไอ้บ้านั้นมองหน้าก่อนก่อนจะเดินคอตกไปตามทางที่มีจุดหมายปลายทางเป็นนรก... ครับ.. เวทีนั้นแหละ
'เอาล่ะ นั่นคุกเข่าแล้วกำมือขึ้นชูเหนือหัว' ครับ... มันเป็นหนึ่งในการลงโทษที่เด็กนักเรียนเกลียด เพราะว่านอกจากมันจะไม่จบภายในเวลาอันสั้นแล้ว... มันยังเมื่อยสุดๆเลยด้วย ผมยอมโดนตี(ทีเดียว)ยังดีกว่าการต้องมาทนเมื่อยแบบนี้เลย
'เพราะนายคนเดียว' ผมหันไปว่าเจ้าคนข้างๆที่ตอนนี้กำลังทำหน้าตายมองไปทางอื่น
'??' หมอนั้นหันมาทำหน้างงๆมาให้ผม
'ถ้านายไม่มาวุ่นวายกับฉัน ฉันคงเอาเวลานั้นไปปิดเสียงมือถือไปแล้ว คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้หรอก' ผมหันไปพูด ผมกับเบะปากอย่างมาดแมนและแฮนซั่ม
'นายจะบ้าหรือไง มารยาทการเข้าห้องประชุมน่ะต้องปิดมือถือก่อนเข้าสิไม่ใช่พอจะเล่นแล้วปิด โถ่เว้ย ฉันต้องมาโดนลงโทษก็เพราะนายนั้นแหละ' ผู้ชายตรงหน้าโวยวายขึ้นสวนผมกลับ โถ่.. ไม่แมนนี้หว่า แน่จริงอย่าเถียงกลับดิ
'ก็..ก็ถ้านายไม่มาวุ่นวายกับฉัน ฉันก็ปิดไปแล้ว'ผมเถียงกลับ เรื่องไรคนอย่างคยองซูจะต้องยอมรับผิด เหอะ!
'นี้ใครมันจะไปรู้ว่าจะมีคนตั้งเสียงเรียกเข้าอุบาทว์ๆแบบนั้นด้วย แถมตั้งซะดังอีก' ประโยคหลังเหมือนจะพึมพำกับตัวเองแต่ไม่วายที่คนหูดีอย่างคยองซูจะได้ยิน ความจริงคยองซูก็เห็นด้วยกับมันนะ คงไม่มีใครตั้งเสียงเรียนเข้าได้น่าเกลียดเท่าน้องชายเขาอีกแล้ว ไม่น่าปล่อยให้น้องชายวัยประถมเอามือถือไปเล่นเลย...
'นายว่าไงห๊ะ!' เอาสิ มาทำให้คนอย่างคยองซูเดือดแล้วคิดว่าคนอย่างคยองซูจะยอมแพ้ง่ายๆหรือไง ถึงหน้าตาน่ารักที่จิตใจแข็งแกร่งนะเออ
'ก็พูดตามความจริง' ไอ้หมอนี้ยักไหล่ก็จะเบือนหน้าไปมองทางอื่น
'เพราะนายนั้นแหละ ถามจริงทำไมต้องมาห้ามฉันเล่นตั้งแต่แรก เสือกซะไม่มี!' ตอนแรกผมก็อารมณ์เย็นๆนะครับพอหมอนี้ทำหน้าตายก่อนจะว่าเสียงเรียกเข้าผมอุบาทว์.. เอ่อ.. ถึงผมว่ามันจะอุบาทว์จริงๆก็เถอะ แต่มันอยู่ที่ศักดิ์ศรีครับ ใครมาว่าของๆเราอุบาทก็เหมือนว่าเรา!!!
'นายว่าใครเสือกห๊ะ? คนอุตส่าหวังดี ป้าอาจารย์คนนั้นมองนายอยู่ ก็อุตส่าจะห้ามไว้ เหอะ ทำคุณบูชาโทษ.. นี้แหละนะ ให้ข้าวหมาหมามันยังรู้คุณเลย แต่นี้.. เหอะ' หมอนี้ทำหน้าเหนื่อใจ
'นาย...!!!! นายว่าฉันแย่กว่าหมาหรอ เหอะ! ไหนทำบุญล่ะ? สุดท้ายก็โดนทำโทษโดยป้าอาจารย์คนนั้นอยู่ดีแหละว่ะ ให้ปลากระป๋องหมาไม่แกะกระป๋องให้ หมาก็ไม่รู้คุณโว้ยยยยยยย' ผมตะโกนใส่หน้าหมอนั้นไป
เอ่อ..และแล้วคยองซูก็ยอมรับแล้วสินะว่าเป็นหมา...
'นักเรียนคะ... ป้าอาจารย์นี้ใครหรอคะ?' ผมได้ยินเสียงเย็นๆส่งมาให้จากทางด้านหลัง... พร้อมกับเสียงหัวเราะของนักเรียนในหอประชุมอีกครั้ง พร้อมสายตาของผอ.ที่ส่งมาว่า 'เธอก็คิดสินะว่าอาจารย์คนนั้นเป็นป้า อ่า..มีคนคิดเหมือนฉัน'
และแล้ว... หายนะก็ตามมาหาคยองซูคนนี้อีกครั้ง...
"นี้ๆ ได้ยินไหมดีโอๆๆ" ไคเขย่าตัวผม
"ฮะ? นายว่าอะไรนะ? แหะๆ ไม่ได้ฟัง" ผมกับไคที่ตอนนี้นั่งอยู่บนที่เก้าอี้กลางห้างเดิม พร้อมสนทนาอย่างออกรส.. เอ่อ..หมายถึงไคพูดอย่างเดียว ส่วนผมก็ผมเหม่ออย่างเดียวนะครับ
"ให้ตายสิ ฉันก็แค่บอกว่า... นายนี้เตี้ยเหมือนเดิมเลยนะ.. ฮ่าๆๆๆ" พูดจบมันก็ใส่เกียร์หมาวิ่งไปเลยครับ จริงๆก็แค่เดินเร็วๆมากกว่านะครับ
"เดี๋ยวสิ! ไค นายอย่าวิ่ง แน่จริงกลับมา นายตายแน่!!!! ย๊ากกกกกกก!!! " แล้วผมก็วิ่งตามเขาไป ผมต้องวิ่งไม่งั้นตามไอ้บ้านนี้ไม่ทันแน่...
ขาผมเปล่าสั้น.. ผมแค่เป็นพวกวิ่งไม่เร็วเท่านั้น อย่าเข้าใจผิดสิครับ!
การพบกันครั้งนี้ทำให้ผมคิดถึงเรื่องของเราจริงๆ...
----------------------------------------------------------------------------------------
พูดถึงตอนนี้ก็หาสาระไม่ได้เลยแหะ เหมือนจะเล่าแค่เรื่องการที่สองคนนี้เจอกันครั้งแรก
เอาเถอะฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อตที่แน่นอน จบยังไงคนเขียนก็ไม่รู้ (อ้าว)
ขอให้สนุกนะคะ ปย๊ง~~
ความคิดเห็น