คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 7 หมาล่าเนื้อ (100%)
“ไปทะเลกันไหมลูกปลา”
ปณิดาเงยหน้าจากงานในมือแล้วมองคนที่เดินมายืนกระสับกระส่ายข้างหลัง พร้อมเอ่ยปากชวนเธอไปเที่ยวอย่างนึกสงสัย หญิงสาววางแฟ้มเอกสารตรวจสอบสต็อกสินค้าในมือ แล้วหันมามองคนถามตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนขมวดคิ้วถามกลับ
“ต้องการอะไร”
คำถามที่ถามกลับมาของคนตรงหน้าส่งผลให้รอยยิ้มปั้นยากของธีธัชหุบฉับทันที บอดี้การ์ดหนุ่มมาดขรึมขบกราม คว้าต้นแขนเรียว แล้วกระชากร่างบอบบางเข้าหาตัวอย่างแรง
“ลูกปลา!”
ปณิดาเม้มริมฝีปาก ช้อนตามองร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก หัวใจเต้นช้าจนแทบจะหยุดเต้น นานแล้วที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเส้นขนาน
“ต้องการอะไรก็บอกมา”
ถ้าเขามาหา ไม่ต้องทำตามคำสั่งของอัคราก็ต้องการ… ร่างกายของเธอ
ธีธัชบีบต้นแขนเรียวในมือแน่นขึ้น คำรามในลำคอยามมองเห็นแววตาว่างเปล่าของคนตรงหน้า เขาเกลียดแววตาไร้ความรู้สึกที่ปณิดามองมา แต่ที่เกลียดมากกว่าคือน้ำเสียงไร้เยื่อใยของเธอ!
ร่างสูงใหญ่ขยับกายเข้าประชิด รวบร่างอ้อนแอ้นเข้าหาตัว ก่อนประกบริมฝีปากหนาสีเข้มลงไปบนริมฝีปากอิ่มสีหวาน บดเบียดรุนแรงพร้อมอารมณ์ที่โหมไหม้ จากจูบลงโทษจึงกลายเป็นจูบเร่าร้อนจนแทบเผาไหม้หัวใจของคนสองคน
ปณิดาไม่ขัดขืน ยืนนิ่งในอ้อมแขนของผู้ชายตรงหน้า ยินยอมให้เขาฉกฉวยทุกอย่างบนร่างกายโดยไม่ปริปากอีกต่อไป
เรือนรางอ้อนแอ้นกับกลิ่นหอมจรุงบนเรือนกายของปณิดาเป็นเชื้อไฟอย่างดี รู้ตัวอีกทีธีธัชก็ไม่อาจควบคุมตนเองได้แล้ว เขาผลักร่างของปณิดาไปที่ประตู วางมือระหว่างแผ่นหลังบอบบางกับบานประตูหนาหนักเพื่อป้องกันการกระแทกที่รุนแรง ก่อนล่วงเข้าไปในเสื้อโปโล้สีน้ำเงินเข้มอันเป็นเสื้อพนักงานของร้าน ปลดตะขอหลังบราเซียลูกไม้บนบนกายบอบบาง วนเวียนลูบไล้ผิวเนื้อเนียนนุ่มทั้งหน้าหลังอย่างชำนาญ ในขณะที่ริมฝีปากไม่ละไปไหน เขาตะโบมจูบอย่างกระหิวกระหาย ไม่สนใจชุดสูทบนกายของตนเอง เพียงปลดกางเกงยีนสีอ่อนของปณิดาลง หมุนร่างบอบบางให้หันหลังมาหา แล้วแหวกแพนดี้ตัวน้อยสีขาวออกหาเส้นทางที่ต้องการ
ปณิดาสูดลมหายใจหอบใหญ่ มือสองข้างเท้าประตูเอาไว้ แอ่นสะโพกตามมือหนาที่จับวางท่วงท่าที่พอดี ก่อนที่บางสิ่งจะแตะสัมผัสจุดอ่อนไหว วนเวียนตรงช่องทางรักคับแคบ ก่อนสอดแทรกเข้ามาทีเดียวจนสุด
หญิงสาวหลับตาลง มือที่วางทาบบนประตูกำแน่น เม้มริมฝีปากเข้ากันอย่างสกัดกั้นเสียงน่าอับอาย
“ลูกปลา อืม” เสียงพร่าแหบของธีธัชประสานกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อคลอด้วยเสียงสะอื้นในอกของปณิดา
หญิงสาวราวกับจะขาดใจ จำไม่ได้แล้วว่าครั้งแรกที่มีความสัมพันธ์กันนั้น… มันรู้สึกเช่นไร
ดีหรือไม่ มีความสุขแค่ไหน เพราะตลอดเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมา ธีธัชเสพสมกายเธอราวกับเป็นที่ระบายความใคร่มากกว่าจะเป็นความชอบพอจากหัวใจ เขาเข้ามายามมีอารมณ์ และจากไปยามเสร็จสมทุกสิ่งอย่าง
เธอเคยคาดหวังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ทว่า… ทุดอย่างกลับย่ำแย่ลงไปทุกที
เขาไม่เคยเลือกเวลา ไม่เคยเลือกสถานที่ เมื่อต้องการต่อให้ที่นั่นจะเป็นห้องน้ำของร้าน หรือห้องสโตร์ที่มีกล้องวงจรเช่นวันนี้ก็ไม่แตกต่างกัน เขาทำ… โดยไม่เคยถามความสมัครใจของเธอ
ปณิดาหลับตาลง ปล่อยน้ำตาให้รินไหลเป็นหยดสุดท้าย ร่างกายที่ไหวเอนตามแรงกระแทกจากทางด้านหลังค่อยสะท้านเบาๆ ความสาดเสียวตามธรรมชาติของมนุษย์เมื่อถูกปลุกเร่าจากร่างกายมากขึ้นทุกครั้งขณะ เท้าสองข้างยกสูง เขย่งขึ้นเพื่อแอ่นสะโพกรองรับการสอดแทรกของความแข็งแกร่งจากทางด้านหลัง
แม้หัวใจจะปวดร้าว ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าร่างกายของเธอกลับทำตรงกัน ไม่ใช่เพียงตอบรับ กลับโหยหาความแข็งแกร่งจากทางด้านหลังจนต้องเด้งสะโพกรับการกระแทกกระทั้นพร้อมกัน
สุดท้ายเมื่อร่างกายต้องการ เสียงอ่อนหวานก็หลุดออกมาจากริมฝีปากที่เม้มแน่น เมื่อนิ้วเรียวยาวค่อยๆ ลูบไล้เรือนกาย ก่อนหยุดเขี่ยไล้ตรงจุดอ่อนไหวที่กำลังเชื่อมประสาน
“อื้อ” เขาใช้นิ้วชี้ไล้วนตรงเกสรดอกไม้งาม เร่งเร้าจังหวะแตะสัมผัสตามแรงกระแทกกระทั้นจากกายตน
เขาเก่ง… ปณิดาไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เขาทำได้ ธีธัชรู้ดีว่าต้องจับตรงไหน ตรงลูบไล้เช่นไรเธอจึงจะมีความสุข
เขาบำเรอ ปรนเปรอให้รู้จักรสรักหวานซ่าน แต่เร่าร้อนจนเธอไม่อาจหยุดเสียงครางหวานของตนเอง
สุดท้ายก็เขย่งกาย เด้งสะโพกรับการจู่โจมเข้าหา ไม่นานหลังจากร่างกายสอดประสาน
ปณิดาก็พบว่า… ร่างกายของเธอตอบรับทุกอย่างของเขา และยินยอมให้เขาฝากฝังตัวตนเข้าหาอย่างน่าไม่อาย
ไม่รู้ว่ามีเพียงร่างกายหรือไม่ที่ตอบรับเขา บางที… หัวใจดวงนี้ก็คงไม่แตกต่างกัน
“ไปทะเลเหรอคะ!” สีหน้าตื่นเต้นดีใจของศศิลดาส่งผลให้คนชวนสาวน้อยไปทะเลฝืนยิ้มจืดเจื่อนพร้อมพยักหน้าเอ่ย
“ใช่ พี่ตั้งใจจะชวนลูกปลาไปทะเล แต่ไม่รู้จะชวนยังไง มูนช่วยไปชวนลูกปลาให้พี่หน่อยนะ”
ธีธัชยอมรับว่าตนเองหน้าไม่อาย เพราะเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อโน้มน้าวปณิดาแล้ว ทั้งดีทั้งร้าย แต่หญิงสาวก็เอาแต่หมางเมิน บางครั้งถึงขั้นเย็นชาจนเขาเข้าหน้าไม่ติด เมื่อจนปัญหากับปณิดาจึงต้องบากหน้ามาชวนศศิลดาโดยตรง
บอดี้การ์ดหนุ่มไม่แน่ใจกับผลลัพธ์ ทว่าเขาไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะเจ้านายเริ่มใช้สายตาแทบจะฆ่าคนตายออกคำสั่งเขาอยู่ทุกวี่วัน
“อะ เอ่อ ลูกปลาสนิทกับมูน ถ้ามูนเป็นคนชวน พี่ว่า เออ พี่คิดว่าลูกปลาคงไม่ปฏิเสธ”
ความจริงเข้ารู้ดีว่าทุกอย่างที่ออกจากปากของศศิลดา ปณิดายากจะปฏิเสธ
ศศิลดาคลี่ยิ้ม พยักหน้าแรงๆ หลายครั้ง ก่อนเหลือบตามองชายร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างล้อเลียน
“พี่ธัชอยากไปเที่ยวกับพี่ลูกปลาเหรอคะ”
ปณิดากับธีธัชมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ทุกคนในร้านเป็นที่รับรู้กันอยู่ในใจ ดังนั้นเมื่อเห็นบอดี้การ์ดหมาดขรึมออกปากอยากพาพี่สาวร่วมห้องของเธอไปเที่ยวกระชับความสัมพันธ์ ศศิลดาจึงไม่คิดปฏิเสธ อีกทั้งเธอเองก็อยากไปเที่ยวทะเลสักครั้งในชีวิตเหมือนกัน
ธีธัชกลืนน้ำลายลงคอ อึกอักเล็กน้อยจึงพยักหน้าตอบ “อะ อืม”
ได้ยินคำตอบของคนตรงหน้า ศศิลดาก็อดยิ้มกว้างกว่าเดิมไม่ได้ เด็กสาวไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่นัก ได้ยินคนในร้านพูดกันไปหลากหลาย แต่ในเรื่องราวมากมายนั้น ศศิลดามองออกว่าปณิดามีความรู้สึก ‘บางอย่าง’ กับคนตรงหน้าอย่างแน่นอน ที่สำคัญคนตรงหน้าของเธอเองก็คล้ายจะมีความรู้สึกนั้นเช่นกัน
เธอชอบปณิดา พี่สาวร่วมห้องคนสวยแสนดีที่คอยดูแลห่วงใย ดังนั้นอะไรที่ช่วยให้ชีวิตรักของพี่สาวดีขึ้นเธอยินดีทำ
“ได้ค่ะ หนูจะชวนพี่ลูกปลาไปทะเลกัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้เป็นไงคะ สามวันสองคืนกำลังดี”
ธีธัชยิ้มเจื่อน พยักหน้ารับเบาๆ “ดะ ได้ อยากไปที่ไหนก็บอกพี่นะ”
ศศิลดาแย้มยิ้มเต็มดวงหน้า มองส่งร่างสูงใหญ่ที่เดินกระวนกระวายจากไปด้วยความขบขัน ในสมองไร้เดียงสาเพียงมองเห็นความเขินอายของชายหนุ่ม ไม่ได้สำเหนียกถึงที่อยู่ในแววตาของคู่สนทนาสักนิดจึงไม่คิดระแวดระวังในคำขอของอีกฝ่าย กระทั่งไม่นึกแคลงใจในการตัดสินใจของปณิดา
“พี่ลูกปลาคะ”
ปณิดากางผ้าเช็ดตัวที่เพิ่งเช็ดผมเสร็จบนราวตากผ้า เดินกลับมานั่งเคียงข้างคนตัวเล็กบนเตียง คลี่ยิ้ม มองใบหน้ารูปไข่ที่กำลังแย้มยิ้มแล้วอดยกมือขึ้นลูบเส้นผมสีดำขลับของคนตรงหน้าไม่ได้ กระทั่งน้ำเสียงยังเอื้อเอ็นดูมากขึ้นไปด้วย ศศิลดาในเวลายิ้มงดงาม และไร้เดียงสาจนคนมองตาพร่าได้เลย
“ว่าไง”
ใบหน้ารูปหัวใจที่กำลังมองมาอย่างรักใคร่ ทำให้การตัดสินใจของเด็กสาวชัดเจน
“ไปเที่ยวทะเลกันไหมคะ” มือเรียวงามที่กำลังลูบไล้เรือนผมสีดำขลับชะงัก ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มแข็งค้าง ก่อนก้มหน้ามองคนตัวเล็กกว่าที่กำลังช้อนตากลมโตขึ้นมาอย่างคาดหวัง
ปณิดาไม่ตอบ ด้วยคาดคิดได้ว่านี่คงเป็นแผนการสำรองของธีธัช เมื่อขอความร่วมมือจากเธอไม่ได้จึงหันไปเอ่ยปากกับศศิลดาโดยตรง เพราะเป้าหมายของการไปทะเลในครั้งนี้… คือศศิลดา
“มูน” แม้จะรู้ว่านี่คือแผนการของธีธัช หากก็ยังไม่อาจขยับปากพูดสิ่งใดได้ รู้ดีว่าคนที่สั่งการทุกอย่างจริงๆ ย่อมเป็นอัครา ชายผู้ต้องการศศิลดา
ปณิดาค่อยๆ คลายยิ้ม เบือนหน้าไปอีกทาง “อยากไปเหรอ”
ศศิลดาไม่ต้องคิดด้วยซ้ำก็โพล่งตอบทันที “อยากไปค่ะ ตั้งแต่เกิดมาหนูยังไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย”
อย่าว่าแต่เที่ยวเลย กระทั่งไปต่างจังหวัด เธอยังไม่เคยไป
“พี่ลูกปลาไปด้วยกันนะคะ ไปสามวันสองคืนกำลังดีเลย” คนที่กำลังตื่นเต้นกับการไปทะเลครั้งแรกครุ่นคิดถึงสถานที่ต่างๆ มากมายที่หาข้อมูลมาตลอดทั้งวันจนไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปของพี่สาวร่วมห้อง แม้กระทั่งแววตาที่มองมาก็ยังต่างออกไป
“ไปสีชังดีไหมคะ!”
เกาะสีชัง อยู่ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นทะเลอ่าวไทยที่สวยงาม เด็กสาวคาดหวัง ฟังแต่เสียงหัวใจที่ตื่นเต้นจนไม่คิดสิ่งใดให้ลึกกว่าการไปเที่ยวสักนิด
ทว่า… ปณิดาที่โตกว่า และอยู่ในแวดวังสีเทามานานกว่า ย่อมเข้าใจถึงสิ่งที่แฝงอยู่ในการไปเที่ยวครั้งนี้
“มูน” ใบหน้าที่ฝืนยิ้มบางๆ ขยับเอ่ย น้ำเสียงแผ่วลงจนแทบไม่ได้ “อยากไปจริงๆ ใช่ไหม”
ศศิลดาย่อมแย้มยิ้มเต็มดวงหน้าพร้อมขานตอบเสียงฉะฉาน “อยากมากค่ะ!”
“อืม” หญิงสาวดึงมือที่ลูบไล้ศีรษะทุยมาวางไว้บนหลังมือนุ่ม ฝืนคลี่ยิ้มให้กว้างขึ้น
เธอรู้… ปณิดารู้ดีว่าหลังจากกลับมาทุกอย่างอาจไม่เหมือนเดิม ที่นั่นอัคราจะกลายร่าง ใช้สารพัดวิธีเพื่อล่อหลอกศศลิดา และทำให้เด็กสาวเป็นลูกไก่ในกำมือ เพราะชายคนนั้นคือ… หมาล่าเนื้อที่ดุร้าย และเจ้าเล่ห์เพียงใด
เธออยากช่วยศศิลดาให้รอดเงื้อมือของอัครา แต่ก็รู้ดีว่าตนเองไม่มีเรี่ยวแรงมากพอ บางครั้งก็ทำได้เพียงตักเตือน ทว่าบางที… ข้างในหัวใจลึกๆ ของเธอรู้ดีว่าหากแผนการนี้ไม่สำเร็จคนที่จะต้องเดือดร้อนมากกว่าใครย่อมเป็นธีธัช
เธอ… รักธีธัชมากกว่าศศิลดาหรือไม่นั้น ปณิดาไม่มีคำตอบหรือบางทีคำตอบอาจเป็นสิ่งที่เธอหวาดกลัว
“ได้ งั้นเราไปเที่ยวเกาะสีชังกัน”
ความคิดเห็น