NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จันทร์ไร้เงา

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 6 ของขวัญ (50%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 952
      7
      23 ธ.ค. 66


    บทที่ 6 ของขวัญ

     

    ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับเสี่ย

    ใบหน้าทะเล้นร้ายของสพลมีความกังวลปรากฏอย่างชัดเจนจนคนเป็นเจ้านายต้องเหลือบตามองอย่างขัดเคือง นิ้วชี้เรียวยาวที่เคาะโต๊ะเป็นจังหวะช้าๆ ในขณะที่มืออีกข้างถือ บางสิ่งเอาไว้ ทว่าสายตากลับตกอยู่บน อีกสิ่ง ซึ่งวางอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างครุ่นคิด

    หลังจากออกคำสั่งไปเมื่อวาน วันนี้ทุกคนในร้านก็ต่างรับรู้ สถานะ ของศศิลดาอย่างเป็นทางการ ดังนั้นงานวันเกิดครบสิบแปดปีของเด็กสาวย่อมยิ่งใหญ่ตามสถานะที่เปลี่ยนไป

    ทว่าอัคราไม่ได้ตั้งใจจะไปร่วงงานวันเกิดของเด็กสาว เพราะเขามีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ

    ชายหนุ่มวาง ของ ในมือที่ถือๆ คลำๆ มาพักใหญ่แล้วเปิดลิ้นชักข้างโต๊ะทำงานออก หยิบสมุดเช็กเงินสดออก จรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไปแล้วตามด้วยจำนวนเงินสองใบ ก่อนส่งให้สพลหนึ่งใบ แล้วหันไปออกคำสั่งกับธีธัชพร้อมยื่นอีกใบส่งให้

    ทำยังไงก็ได้ให้สองสาวนั่นรับเงินของฉัน

    สพลรับเช็กเงินสดมาถือเอาไว้ มองตัวเลขเจ็ดหลักที่ปรากฏบนนั้นแล้วถอนหายใจ

    เจ้านายคล้ายว่าจะลงทุนไม่น้อย

    หากเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากสิ่งใด เก็บของในมือใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทแล้วค้อมกายล่าถอยออกไป ทิ้งธีธัชที่ยืนหน้าซีดปากสั่นไว้เพียงลำพัง

    บอดี้การ์ดหนุ่มผู้ถูกทิ้งไว้คนเดียว กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เงยหน้าขึ้นมองเจ้านายแล้วส่งเสียงตะกุกตะกักถามอย่างขลาดกลัว

    สะ เสี่ย มะ หมายถึงลูกปลาด้วยเหรอครับ กล่าวพร้อมยื่นมือสั่นเทาออกไปรับเช็กเงินสดมาถือเอาไว้ มือสองข้างประสานกันข้างหน้า ก้มหัวฟังคำด่าอย่างจำยอม

    หึ อัคราส่งเสียงในลำคอ ทั้งเย้ยหยัน ทั้งขุ่นเคืองใจ มึงทำอะไรคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้หรือ

    ทั้งๆ ที่รู้ แต่อัคราก็ยังหลับตาข้างหนึ่ง ลืมตาข้างหนึ่งอยู่ตลอด กระทั่งมันเลยเถิดเกินกว่าที่คิด จึงอดปรามลูกน้องตัวเองไม่ได้ อย่างไรปณิดาก็เป็นผู้หญิง

    ขอบเขตของความอดทนคนเรามีขีดจำกัด ผู้หญิงเขามีแม่มีพ่อ จะทำอะไร ที่ไหน ให้คิดถึงตรงนี้บ้าง ไม่ใช่พออยากก็จับกดไม่เลือกเวลา เลือกสถานที่ แบบนั้นมันไม่เรียกว่าคน

    ส่วนจะเรียกว่าอะไรเขาไม่อยากพูดให้กระดากปาก และคิดว่าธีธัชน่าจะเข้าใจความหมายของเขาดี

    ไม่มีผู้หญิงที่ไหนชอบให้ตัวเองเป็นแหล่งระบายความใคร่นักหรอก แม้เขาจะรู้ว่าพื้นเพนิสัยใจคอของธีธัชไม่ใช่คนมักมาก หากมันค่อนข้างเป็นคนโง่ไม่ต่างจากวัวสักเท่าไหร่ เรื่องกำลังเก่งไม่กลัวใคร แต่เรื่องหัวใจคล้ายจะเป็นควายในปลักโคลน แต่อัคราไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ที่ทำได้มากสุดก็คือชี้แนะ และตักเตือน ส่วนมันจะเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เขาก็จนปัญญา

    ไป ไสหัวไปได้แล้ว มึงจะไปตายที่ไหนก็ไป เห็นหน้าแล้วกูหงุดหงิด ออกไป!”

    ไม่รู้เพราะอะไร แต่เห็นหน้าธีธัชทีไร เหมือนเขาส่องกระจกในอนาคต!

    ธีธัชกลืนน้ำลายอึกสุดท้าย ล่าถอยออกไปโดยไม่รอให้เจ้านายไล่อีกเป็นคำรบสอง

    คล้อยหลังลูกน้องคนสนิทจากไปพักใหญ่ มือข้างที่เคาะนิ้วชี้กลับโต๊ะจึงหยิบ ของ ที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาเปิดดู เพ่งพิศของตรงหน้าด้วยแววตาอ่านยาก หลากหลายความรู้สึกที่ขังคลออยู่ในแววตาคมดุคู่เดิม

    เขา ลังเล

    ไม่แน่ใจในการกระทำของตัวเองนัก การดึงศศิลดามาเป็นเงาของประดับเกศไม่ใช่สิ่งที่ดี ทว่าเขาก็ไม่ใช่คนดีนัก ช่วงเวลาที่หัวใจกำลังต้องการใครสักคนปลอบประโลม ใบหน้าของศศิลดาก็มักทอวาบเข้ามาในหัวเสมอ

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหล่อน เหมือน ประดับเกศ หรือเพราะหล่อน เป็น เช่นที่เป็นกันแน่

    ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองต้องการสิ่งใด เขาจึงตัดสินใจได้ในสุด ของในมือถูกวางลงบนของอีกสิ่งที่อัคราตั้งใจจะมอบมันคู่กันให้กับศศิลดา สมองที่หมุนวนไปมากับใบหน้าของศศิลดาถูกดึงกลับมา เขาถอนหายใจแรงๆ ทิ้งความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดในใจ ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จัดเสื้อสูทเรียบร้อยจึงเดินออกจากห้องทำงาน มุ่งสู่โรงพยาบาลที่พี่สาวของประดับเกศนอนพักรักษาตัวอยู่ทันที

     

    มีความสุขมากๆ นะคะน้องมูน

    ข้าวเหนียวมูนของป้าสิบแปดเต็มแล้ว ขอให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามานะลูก

    แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะมูน แฮปปี้ๆ นะคะน้องสาว

    ทุกๆ คำอวยพรที่ได้รับกับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากทุกคนล้วนเป็นมิตรภาพที่ศศิลดาไม่คาดฝันมาก่อน เด็กสาวน้ำตาคลอ พนมมือรับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ในร้าน และขอบคุณคำอวยพรจากพี่ๆ ในร้านอย่างนอบน้อม

    ปณิดายืนเยื้องไปไม่ไกล มองเด็กสาวไร้เดียงสาที่เพิ่งสิบแปดปีเต็มวันนี้แล้วเม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกอย่างไรก่อนหลัง ทั้งอึดอัด ทั้งเวทนา ที่สำคัญแค้นเคืองผู้ชายพวกนั้นจนแทบกระอัก

    ศศิลดาเป็นเด็กดี เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่มองโลกในมุมสวยงามกลับต้องเป็นเป้านิ่งให้หมาล่าเนื้อซึ่งจ้องจะงาบตัวหล่อนอยู่เช้าค่ำ ปณิดาหลับตาลง ปิดกั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาด้วยความสังเวชใจ

    สุดท้ายเธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงกำลังพอจะปกป้องเด็กสาวจากเงื้อมือของอัครา

    ปณิดาทำได้เพียงภาวนาให้เด็กสาวใสซื่อคนหนึ่งไม่ต้องแหลกคามือผู้ชายคนนั้นก็พอ

    คิดอะไรอยู่ ใบหน้าที่ก้มลงครุ่นคิดเงยขึ้นมอง เห็นร่างสูงใหญ่ของธีธัชขยับมายืนเคียงข้างพร้อมยื่นแก้วเครื่องดื่มในมือส่งให้ น้ำอัดลม

    บอดี้การ์ดหนุ่มปั้นยิ้มอย่างยากลำบาก ด้วยใบหน้าติดขรึมมาตั้งแต่จำความได้ เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้แววตาของตนดูหยามเหยียดเหมือนเคย ตั้งแต่ถูกเจ้านาย ตักเตือน ธีธัชก็คล้ายจะเข้าใจอะไรมากขึ้น เขาพยายามที่จะปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นกว่านี้ ทว่า... สำหรับปณิดาแล้วมันอาจสายเกินไป

    หญิงสาวเพียงรับเครื่องดื่มในมืออีกฝ่ายมาถือเอาไว้ สายตายังมองไปยังร่างของศศิลดาที่กำลังหัวเราะสนุกสนานท่ามกลางคนในร้าน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าหลายคนเข้าหาเพราะรับรู้สถานะใหม่ของตน บ้างทำตามคำสั่งของอัครา บ้างหวังผลพลอยได้จากความสนิทสนมกับ ผู้หญิงของนาย

    ปณิดาถอนหายใจ หลับตาลง ทั้งเวทนาน้อง และเวทนาตนเอง สุดท้าย เหยื่อ ของหมาล่าเนื้อก็ไม่มีวันรอดพ้นเงื้อมือของสัตว์ร้าย เธอกับศศิลดาก็ไม่ต่างกันนัก

    สักวันเมื่อพวกเขาหมดความเสน่หาก็ต้องถูกเขี่ยทิ้ง เช่นผู้หญิงที่ผ่านมา

     

    มูน

    ศศิลดาหันกลับมาหาคนต้นเสียง เห็นใบหน้าทะเล้นร้ายของสพลแย้มยิ้มอยู่ไม่ไกลก็เดินเข้าไปหา พนมมือไหว้ย่ออย่างงดงามพร้อมเอ่ย

    ขอบคุณสำหรับเค้กก้อนใหญ่นะคะพี่พล

    สพลยิ้มรับ ล้วงหยิบกระดาษแผ่นน้อยในกระเป๋าเสื้อสูทออกมาส่งให้ศศิลดาโดยไม่พูดอะไร

    สาวน้อยรับกระดาษในมือของบอดี้การ์ดหนุ่มมาถือเอาไว้ มองชายตรงหน้าสลับกับกระดาษในมือตนไปมา กระทั่งละสายตามาอ่านเนื้อความในกระดาษอย่างละเอียด ดวงตากลมโตจึงค่อยๆ เบิกกว้าง ก่อนแทบถลนหลุดจากเบ้ายามอ่านทวนจนจบสองครั้ง

    นะ เนี่ย เด็กสาวละล่ำละลักถาม เงยหน้ามองสพลที่ยืนมองด้วยรอยยิ้ม สีหน้าตื่นตระหนกจนคนมองอ่อนใจ

    ของขวัญวันเกิดจากเสี่ย

    พอได้ยินว่า เสี่ย คนที่แตกตื่นตกใจอยู่แล้วแทบหัวใจวาย สะ เสี่ยเหรอคะ!”

    สพลยิ้มรับ พยักหน้าตอบสองสามทีพร้อมเอื้อมมือไปแตะไหล่บางแล้วเอ่ย

    เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาเถอะนะ

    ทุกคนในร้านรับรู้ดีว่าศศิลดาเก็บออมเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้เพื่ออะไร ดังนั้นเขาจึงนำจุดนี้มาเป็นสิ่งโน้มน้าวใจ หากความจริงสพลรู้ดีว่าเงินหนึ่งล้านบาทในมือของศศิลดาเป็นสิ่งที่เด็กสาวควรต้องได้ หากครอบครัวของลุงกับป้าไม่ ขโมย เงินพวกนั้นไปจากเธอ เด็กสาวตรงหน้าคงมีอนาคตที่สดใส ไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับ หมาล่าเนื้อ เช่นนี้หรอก

    สพลรู้ว่าเมื่อวันหนึ่งศศิลดาไม่เหลือทางรอด เงินจำนวนนี้จะต่อชีวิตของเด็กสาวได้ ดังนั้น 

    เก็บเอาไว้เถอะ วันหนึ่งข้างหน้ามันอาจจำเป็นมากกว่าที่เราคิด

    เขาไม่อาจพูดมากไปกว่าคำห่วงใยเหล่านี้ได้ เพราะบางสิ่งก็ยากเย็นเกินกว่าเขาจะต่อต้านหรือขัดขืน สพลยอมรับว่า เอ็นดู ในตัวของศศิลดามาก ทว่า ก็ไม่อาจมากไปกว่าบุญคุณเท่าชีวิตของอัคราอย่างแน่นอน

    เขามีหน้าที่ มีบุญคุณที่ต้องทดแทน บางอย่างก็เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความช่วยเหลือของเขาจริงๆ หรือต่อให้ยื่นมือเข้าไปแส่ได้สพลก็ยังลังเลใจที่จะทำ

    แน่นอนว่าเขาเวทนาศศิลดา แต่ความเวทนานั้นไม่มากพอเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาเคารพรัก และเทิดทูนเช่นอัครา

    เชื่อพี่ เงินนี่มีค่ากว่าที่เราคิด

    เพราะเงินจะเสกสรรหลายอย่างในชีวิตให้เรา และมันยังสามารถแผ้วถางทางเดินที่เต็มไปด้วยขวางหนามให้สะอาดสะอ้านมากขึ้นด้วย แม้ไม่สะดวกสบาย แต่ก็ไม่ลำบากตรากตรำนัก

    มือใหญ่ขยับมาแตะที่หลังมือนุ่มแล้วตบเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม ก่อนจากไป

    ศศิลดายังมึนงง ก้มมองกระดาษแผ่นน้อยในมืออีกพักใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น เห็นร่างบอบบางของปณิดาเดินเข้ามาหา คลี่ยิ้มอ่อนโยนพลางเอ่ย

    เก็บไว้เถอะ มือเรียวเอื้อมมือกุมมือน้อยเอาไว้ บีบกระชับเบาๆ เป็นทั้งกำลังใจ และความเห็นใจ

    ทว่าศศิลดายังจมอยู่กับ ของขวัญ ที่ได้รับจนไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของพี่สาวร่วมห้อง และไม่รู้เลยว่าแววตาของคนรอบข้างแปรเปลี่ยนไปเช่นไรบ้าง เพียงเพราะ ของขวัญ ชิ้นเล็กๆ เบาบางในมือของเธอ

    สถานะอันคลุมเครือที่ยังมีหลายคนเคลือบแคลงได้กระจ่างชัดแล้ว

    ศศิลดาเป็นผู้หญิงของอัครา!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×