คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : บทที่ 10 กลายร่าง (100%) รีไรท์
(ต่อ)
“พี่กลอยเป็นคนดี” อัยรินบอกอย่างสัตย์จริง ตั้งแต่ได้รับรู้ความยากลำบากของพี่สาวคนนั้น ชีวิตในวันวานของเธอกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปทันที เมื่อสมัยเด็กเธอทุกข์มาก หากก็ไม่ยาวนานจนเกือบเป็นทั้งชีวิตเช่นกลอยใจ
นมแม้นถอนหายใจตาม มองสาวน้อยที่กำลังเติบใหญ่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “คุณกลอยเป็นคนดีมากค่ะ แต่บางครั้งความดีก็เอาชนะทิฐิในใจของคนบางคนไม่ได้ นมเข้าใจคุณกลอย แต่นมก็เข้าใจคุณหนูของนมเหมือนกันค่ะ”
คุณหญิงวารีกับกลอยใจเติบโตมาต่างกันเกินไป และมาวินกับกลอยใจยืนอยู่ในจุดยืนที่แตกต่างกันเกินไปเช่นกัน
อัยรินไม่ได้โต้แย้ง เพียงพยักหน้าเข้าใจ แล้วก้มหน้าลงนวดขา นวดเท้าให้หญิงสูงวัยเงียบ ๆ หากในใจกำลังครุ่นคิดถึงผลที่จะตามมา
ตอนนี้มาวินพ่ายแพ้ให้วาคิน ความบาดหมางที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจของทั้งคู่จะระเบิดออกมาหรือไม่ เป็นเรื่องน่าหวาดหวั่น และความเป็นไปได้ครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว
อัยรินไม่ได้สนิทสนมกับพี่ชายนอกไส้ทั้งสองคนจนถึงขั้นปรึกษาหารือกันได้ทุกอย่าง แม้จะสนิทกับวาคินพอสมควร แต่ก็คาดเดาความคิดของพี่ชายคนนี้ไม่ได้ ทว่ากับมาวิน หล่อนมั่นใจ ผู้ชายคนนั้นเพียงมองตาก็รับรู้ไปถึงข้างในว่าแตกร้าวเพียงใด กลัวเพียงว่าเมื่อพบเจอกับความพ่ายแพ้แสนสาหัสครั้งนี้ รอยร้าวข้างในจะปริแตก สุดท้ายเมื่อหมดสิ้นทุกอย่าง คนคนหนึ่งอาจกลายร่างเป็นจอมมาร…
หญิงสาวกลัวเหลือเกินว่าวันข้างหน้าสงครามที่ไม่มีใครอยากให้เกิดจะปะทุขึ้นในเลิศวรานนท์จนแตกหักกันทั้งสองฝ่าย!
อัยรินอาจไม่รู้ ความหวาดกลัวของเธอเป็นจริง!
“งั้นพี่ขอไปนั่งด้วยได้ไหมครับ พอดีพี่เองก็นัดเพื่อนไว้ มันยังไม่มากันเลย”
มาวินไม่ได้นัดใครไว้ ไม่มีเพื่อนฝูงอะไรทั้งนั้น เขาแอบส่งคนติดตามจนรู้มาว่าวันนี้กลอยใจออกมาข้างนอกเพียงลำพัง จึงสบโอกาส คิดอยากมาพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ที่คาราคาซังอยู่ ทว่าสีหน้า และแววตาของกลอยใจเหมือนเข็มเล่มเล็ก ๆ ทิ่มตำลงมาที่กลางอกของเขาพร้อมกันสักพันเล่ม
ว่างเปล่า ห่างเหิน และเย็นชา
มาวินไม่ได้รอคำตอบอย่างที่เอ่ยถาม ชายหนุ่มเลือกจะฉวยข้อมือบางเอาไว้ จับจูงพาร่างบอบบางเดินตามไปโดยไม่สนใจท่าทีต่อต้านของเจ้าตัว กระทั่งกลอยใจขัดขืน เขาก็ยังคงเมินเฉย จูงมือเดินตรงไปยังร้านอาหารร้านโปรดของเธอกับเพื่อนอย่างแม่นยำตามที่รับข้อมูลมา
กลอยใจขมวดคิ้ว มองแผ่นหลังกว้างอย่างไม่ชอบใจนัก การกระทำของมาวินไม่ใช่เรื่องดี หากเทียบสถานะของเธอกับเขา แม้ทางกฎหมายวาคินอยู่ในสถานะน้าชาย แต่ความจริงเขาคือน้องชายร่วมมารดา และเธอผู้เป็นภรรยาของน้องชายร่วมมารดา จึงมีสถานะเป็นน้องสะใภ้ของเขาอย่างเป็นทางการ
“เอ่อ คุณวิน”
มาวินหยุดเดิน หันกลับมาจ้องมองคนร้องเรียกด้วยรอยยิ้มประดับดวงหน้าเช่นวันวาน ริมฝีปากหนาสีเข้มระบายยิ้มบาง ๆ พร้อมเอื้อมมือหนามาแตะปอยผมที่ระใบหน้าของเธอแผ่วเบา
“มันไม่ช้าไปใช่ไหม”
แม้จะรู้ดีว่ามันสายเกินไปมาก แต่ในส่วนลึกของหัวใจเขาก็ยังคงภาวนาให้ทุกอย่างไม่ช้าเกินไป
แม้กลอยใจจะแต่งงานกับวาคิน มีสถานะทางกฎหมายอย่างเป็นทางการ หรือต่อให้เมื่อคืนเธอเข้าหอไปแล้ว เขาก็ไม่ถือ ที่ผ่านมาเขาเอาแต่กลัว หวาดหวั่นในเรื่องต่าง ๆ จนไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่ชัดเจน กระทั่งวาคินเข้าพิธีวิวาห์กับกลอยใจ ทั้ง ๆ ที่สามารถปฏิเสธได้ ส่งผลให้ความรู้สึกข้างในปริร้าวใกล้แตกหัก
“ช้าอะไรเหรอคะ” รอยยิ้มซื่อพร้อมคำถามที่ถามกลับมาเป็นคำบอกปัดที่ชัดเจน หากมาวินก็เลือกจะมองผ่านมันไป เขายิ้มตอบ แววตาแน่วแน่ทอดมองมาอย่างที่ไม่เคยเป็น
“คบกับพี่นะ!”
ตอนพูดประโยคนี้ออกไป แววตาของมาวินยังมั่นคง ทว่าเมื่อเอ่ยจบ สีหน้าซีดเผือดกับดวงตาหวานโศกที่เบิกมองมาอย่างตื่นตกใจทำให้หัวใจของมาวินหนาวเหน็บขึ้นมา
มันไม่ได้เป็นเช่นที่เขาคิด ปฏิกิริยาตอบกลับมาของกลอยใจแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!
“คุณวินพูดอะไรคะ!”
เส้นใยบาง ๆ ที่มีให้เขามาตลอดมันหนาขึ้นช่วงหนึ่ง ก่อนจะบางลงหลังจากคืนเข้าหอผ่านไป
เธอมีสามีแล้ว และสามีของเธอชื่อวาคิน!
“กลอยมีสามีแล้วนะคะ”
มาวินขบกราม บีบมือที่รวบข้อมือเล็กแน่น ก่อนเค้นเสียงตอบ
“พี่ไม่สนใจ ยังไงอีกหกเดือนกลอยก็ต้องหย่ากับมัน”
เรื่องเงื่อนไขในการหย่าระหว่างวาคินกับกลอยใจเป็นเรื่องที่สืบได้ไม่ยากนัก ทว่าระยะเวลายาวนานถึงหกเดือนไม่ใช่ช่วงสั้น ๆ เลย หากกลอยใจใช้ชีวิตร่วมกับน้องชายของเขา ย่อมมีโอกาสที่จะหวั่นไหวให้กับนิสัยใจคอของอีกฝ่ายไม่มากก็น้อย
แม้ภายนอกจะเย็นชา ทว่าข้างในนั้นอ่อนโยนแค่ไหนเขารู้ดี!
กลอยใจสูดลมหายใจเข้าลึก ค่อย ๆ ปลดข้อมือที่ถูกบีบแน่นออก ช้อนตาเงยหน้าขึ้นมอง ‘อดีต’ คนเคยรู้สึกดีด้วยแววตาอ่านยาก
“กลอยเป็นภรรยาของคุณวา เป็นน้องสะใภ้ของคุณวินนะคะ”
หัวใจของมาวินราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบเค้นจนกระทั่งก้อนเนื้อข้างซ้ายที่เต้นตุบนั้นแหลกคามือ แววตาที่กลอยใจมองมามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เฮือกสุดท้ายของลมหายใจก็ยังดิ้นรน
“ก็แค่น้องสะใภ้ปลอม ๆ กลอยกับวาเป็นแค่ตัวแทนแต่งงานแทนพี่กับวินนี่ ไม่ใช่คู่รักเสียหน่อย แล้วทำไมกลอยจะต้องสนใจคนอื่น หรือความจริงกลอยเปลี่ยนใจจากพี่ไปหาวาแล้วกันแน่!”
แต่… สำหรับกลอยใจมันกลับเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดสะบั้นลง!
ต่อให้เธอไม่มีความรู้สึกใด ๆ ให้วาคิน
เธอก็ไม่เลวพอจะสวมเขาให้ผู้ชายที่สวมแหวนแต่งงานวงแรกในชีวิตลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอหรอก!
“ต่อให้กลอยไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณวา แต่กลอยก็มีศีลธรรมมากพอจะไม่สวมเขาให้สามี ทั้ง ๆ ที่เพิ่งพ้นคืนเข้าหอมาได้ไม่กี่ชั่วโมงหรอกนะคะ กลอยเป็นภรรยาของคุณวา
ไม่ว่าหกเดือนข้างหน้ากลอยจะต้องหย่าขาดจากเขาหรือไม่ แต่วันนี้ เวลานี้ และที่นี่กลอยยังเป็นนางกลอยใจ เลิศวรานนท์ ได้ยินไหมคะกลอยใช้นาง ไม่ใช่นางสาวอีกแล้ว!”
มือเรียวที่ค่อย ๆ บิดออก กระชากจากไปทันทีพร้อมร่างบอบบางหันหลังจากไปโดยไม่หันกลับมามอง แววตาเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนจากไปบอกชัดว่าเธอหมดใจให้เขาแล้วจริง ๆ
มาวินเม้มปาก ขบกรามพร้อมกำมือแน่น ยามมองตามแผ่นหลังที่ไกลออกไปจากระยะสายตา
ความเจ็บปวดตรงอกข้างซ้ายแผ่ลามไปทั่วทั้งกายจนชา กระดิกแทบไม่ไหว ทรงกายแทบไม่อยู่ อยากจะทรุดฮวบลงไปแล้วปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาดัง ๆ พร้อมถามทุกคนว่า…
เขาต้องทำอย่างไร เขาทำอะไรผิดไปหรือ บอกเขาที!
อัยรินคาดไม่ถึงว่าความหวาดหวั่นที่มีอยู่ในส่วนลึกจะเริ่มแสดงผลออกมาทีละนิด ผ่าน… มาวิน
อยู่ ๆ วันนี้พี่ชายนอกไส้ของเธอก็เดินเข้ามาในบ้าน หลังจากหายหน้าไปนานเป็นเดือน หลังงานแต่งงานล่ม และวาคินกับกลอยใจเข้าพิธีแต่งงานแทน
สภาพของคนหยิ่งยโสที่เคยจดจำได้ในสมองเปลี่ยนเป็นซากศพอย่างชัดเจน ทว่านี่ยังไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เพราะจุดเปลี่ยนผันของมาวินก็คือ…
“คุณวินเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเลิศวรานนท์แล้วค่ะ” นมแม้นบอกเสียงราบเรียบ แววตาติดความกังวลจนอัยรินยังต้องทวงถาม
“ไม่ดีเหรอคะ ก็เมื่อก่อนใคร ๆ ก็อยากให้คุณวินเปลี่ยนมาใช้เลิศวรานนท์”
นมแม้นถอนหายใจแรง ๆ มือที่ปัดกวาดผ้าห่มบนเตียงชะงัก หันมองคนตัวเล็กแล้วปั้นยิ้มลำบากใจ
“จะว่าดีมันก็ดีค่ะ แต่ในเรื่องดีมีเรื่องไม่ดีมากกว่า คุณวินเปลี่ยนมาใช้เลิศวรานนท์ก็เพื่อเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทแทนคุณวา”
อ้อ! ที่แท้ก็ขี้แพ้ชวนตี
“หมายความว่าคุณวาก็ต้องลงจากตำแหน่งเหรอคะ ไม่ใช่ว่ามีหุ้นของแอลเอ็นกรุปอยู่ในมือหรือคะ”
นมแม้นส่ายหน้า ไม่ค่อยรู้เรื่องบริษัทนัก แต่เรื่องหุ้นนั้นอยู่ในพินัยกรรมด้วยจึงพอเข้าใจ
“หุ้นของคุณวา คุณวินซื้อคืนไปแล้วค่ะ นมไม่แน่ใจว่าคุณหญิงขอซื้อให้หรือว่าเธอขอซื้อเอง”
อัยรินเบ้ปาก ตกตะกอนความจริงในใจได้ทันที
คนอย่างมาวินน่ะหรือจะ ‘ขอ’ ซื้อคืน ไปขู่เอาคืนมาแล้วใช้เงินฟาดหัวเสียมากกว่า หากหญิงสาวก็เพียงยิ้มตอบนมแม้น แล้วจัดแจงช่วยหญิงชราเลิกผ้าห่มเข้านอนพร้อมกันเช่นทุกวัน ปัดความคิดฟุ้งซ่านเรื่องคนคนนั้นทิ้งเสียจะได้ไม่ฝันร้ายถึงจอมมาร!
แน่นอนว่า… ความคิดของอัยรินเป็นจริงทุกประการ พี่ชายนอกไส้ของเธอ ‘กลายร่าง’ เป็นจอมเผด็จการที่เอาแต่ใจ เอนไหวไปตามอารมณ์ ที่สำคัญเขายังเล่นนอกกติกาจนแทบมองหน้าใครไม่ติด
“โครงการนี้มีอะไรไม่ดีหรือ” น้ำเสียงยามเอ่ยถาม แววตายามมองมามันแตกต่างไปจากเดิมจนวาคินต้องย่นคิ้ว
“พี่ก็รู้ที่นี่มันติดป่าสงวน ไกลจากตัวเมือง แม้จะใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ก็เสี่ยงโดนหน่วยงานรัฐเพ่งเล็ง”
ตอนที่มาวินเสนอโปรเจกต์นี้ขึ้นมา ไม่มีใครสักคนในที่ประชุมเห็นด้วย หากอีกฝ่ายก็ดื้อรั้นต้องการจะลงทุนสร้างคอนโดใกล้ชิดธรรมชาติ กลางป่ากลางเขาที่ใกล้เขตป่าสงวนเหลือเกิน เขาแย้งไปหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม แถมยังยกยิ้มมุมปาก ตอบกลับมาง่าย ๆ
“เพ่งเล็งก็ยัดเงินไปสิ”
วาคินถอนหายใจ วางเอกสารในมือลงแล้วเอ่ย “นี่เอกสารขอตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ เรากำลังจะถูกฟ้องนะครับ”
มาวินกลับไหวไหล่ มองตอบมาด้วยรอยยิ้มชนิดหนึ่งที่วาคินเห็นแล้วต้องสูดลมหายใจเข้าปอดแรง ๆ
“พี่วิน”
มาวินเพียงขยับกาย แต่ไม่ได้มีทีท่าร้อนใจเช่นน้องชาย อีกฝ่ายทำเหมือนกับว่าเรื่องที่บริษัทถูกฟ้องเป็นเรื่องล้อเล่น ขำขันกับมันโดยไม่สนใจผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น
“โครงการนี้พี่ให้วาจัดการ ถ้าวาคิดว่ายังไงก็ล้ม วาจะทำทำไมตั้งแต่แรก”
วาคินหมดสิ้นคำพูด ก็ไม่ใช่เพราะคำขอร้องของพี่ชายหรอกหรือที่สั่งกึ่งขู่ให้เขาเริ่มโครงการ แต่พอสุดท้ายโครงการกำลังจะล้มก็ทิ้งเรือแล้วว่ายน้ำขึ้นฝั่งไปง่าย ๆ แบบนี้
ชายหนุ่มขบกราม มือที่ถือเอกสารกำแน่น ก่อนเค้นเสียงเอ่ย
“ผมบอกแล้วใช่ไหม อย่าเล่นอะไรนอกกติกา”
มาวินเพียงยิ้มกว้างขึ้น ส่งเสียงหัวเราะในลำคอแล้วเอ่ยตอบ
“ฉันไม่ได้เล่น ฉันเอาจริง!”
**** มาอัปแล้ววววววววว
ฝากหนูอัยย์กับมาวินด้วยนะคะ
เนื้อหาที่ลงยังไม่มีการปรับแก้ ตรวจคำผิด
อาจมีบางส่วนผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ทุกๆ เรื่องเลยนะคะ
รัก... เอริณ
ความคิดเห็น