ตอนที่ 23 : Chapter 11 (50%)
บทที่ 11 พายุที่เริ่มก่อตัว
“เชื่อมั่นในตัวพี่สักครั้งนะครับอามิ พี่จะไม่มีวันทำให้เราต้องร้องไห้อีก พี่สัญญา”
คำพูดของพี่เฟรนลี่ดังก้องอยู่ในห้วงความรู้สึกและหัวใจของฉันทุกเสี่ยววินาที ฉันไม่รู้เลยว่าเพราะดีใจ ตื่นเต้น หรืออะไรกันแน่แต่ทุกครั้งที่คิดถึงมันจะทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา
ใบหน้า แววตา น้ำเสียงที่เขาใช้ในขณะที่พูดมันทำให้หัวใจของฉันเต้นรัว ยิ่งคิดถึงหัวใจของฉันยิ่งทำงานหนัก อ๊าก เขากำลังร่ายมนตร์สะกดใส่ฉันอยู่ใช่ไหม กรี๊ด ฉันกำลังนอกใจไคโอป้าใช่ไหมเนี่ย ไม่นะฉันต้องรักเดียวใจเดียว
ความใฝ่ในอันสูงสุดขงฉันคือการไปดูคอนเสิร์ตของไคโอป้าที่เกาหลี และฉันจะไม่มีทางลืมมันเด็ดขาด!
แต่ทำไมตอนนี้ฉันคิดถึงแต่หน้าผู้ชายสวยคนนั้นกันล่ะ อ๊าก ออกไปได้แล้ว ออกไปจากหัว(ใจ)ของฉันเลยนะ
ฉันเดินถือข้าวของที่พี่เฟรนลี่ซื้อมาจนถึงหน้าบ้าน ไม่รู้ว่าดีใจที่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่หรือว่ามีความสุขที่ได้อยู่กับหมอนั่น อ๊าก ไม่ได้นะยัยอามิแกจะมาทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ มีความสุขที่ได้แอบหนีไปอยู่กับแฟนพี่ชายได้ยังไงกัน หยุดคิดนะ
ฉันสะบัดหัวแรงๆ เพื่อไล่ภาพความทรงจำที่มีแต่ใบหน้าสวยหวานของพี่สะใภ้ตัวเองให้มันหลุดออกไปจากหัว(ใจ)และความคิด บ้าชะมัด ตัวไม่อยู่ยังแอบส่งหน้ามาก่อกวนให้ฉันรู้สึกแปลกๆได้อีกหรอ อ๊าก อามิจะบ้าตาย ฉันจะบ้าตายจริงแล้วนะ T^T
“เห้อ”
ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆหลังจากเดินเข้ามาในตัวบ้านได้ ฉันมองเข้าไปในบ้านที่ไม่มีไฟเปิดอยู่ รถของพี่อาชิจอดอยู่ที่โรงจอดรถแต่รถของพ่อไม่อยู่แสดงว่าพ่อกับแม่ของฉันออกไปดินเนอร์อีกตามเคย ฉันเดินช้าๆเข้ามาในบ้านโดยไม่คิดอะไร ไม่สงสัยอะไรในความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นเลยสักนิด
ความเงียบและความมืดของบ้านทำให้ฉันเริ่มรู้สึกกลัว ฉันเดินเร็วๆไปที่สวิทซ์ไฟเพื่อทำลายความกลัวที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้น และเมทื่อไฟติดบ้านมีแสงสว่างฉันถึงได้โล่งใจ เห้อ ฉันถอนหายใจโล่งอกก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปยังชั้นสองและเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที
ฉันไม่ได้สนใจหรือสงสัยเรื่องรถของพี่อาชิที่ยังจอดอยู่ในโรงจอดรถเพราะฉันเข้าใจและคิดไปเองว่าพี่ชายคงจะอาศัยรถของพี่ทิวสนไปเรียนตามเคย ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้านอนทันที
กุกกัก
เสียงกุกกักที่ดังขึ้นมาจากหน้าห้องทำให้ฉันปรือตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง
ตีสาม! ฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านเมื่อได้รู้ว่าตัวเองตื่นขึ้นมากลางดึก
เสียงกุกกักเงียบไปแล้วและฉันก็ไม่ได้สนใจจะลงไปดูเพราะคิดว่าพี่อาชิคงจะกลับมาแล้วและนั่นคือความชะล่าใจและนิ่งนอนใจของฉัน ฉันนอนหลับสบายต่อโดยไม่หวนนึกถึงความผิดปกติที่กำลังก่อตัวขึ้นรอบๆกาย ความผิดปกติของพี่ชายตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฉันตื่นแต่เช้าและอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปมหาลัยตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างความรู้อิ่มอกใจไม่รู้ว่ามาจากไหน หัวใจของฉันรู้สึกมีเรี่ยวแรงและมันกำลังยิ้มอยู่ฉันรู้สึกแบบนั้น
“อามิ”
เสียงของแม่ดังมาจากหน้าประตูห้องและไม่นานแม่ก็เปิดประตูห้องเข้ามา ฉันหยิบเป้ขึ้นสะพายก่อนจะเดินตรงเจ้าไปกอดแม่ทันที
“คิดถึงแม่จัง”
“มาแปลก อามิวันนี้พ่อกับแม่ต้องไปบ้านคุณปู่คุณย่านะ หนูอยู่บ้านกับพี่อาชิดีๆ ละ”
ไปอีกแล้ว พ่อกับแม่หนีลูกไปฮันนีมูนอีกแล้วT^T
“แง ไปอีกแล้ว”
“ไม่ต้องมางอแงเลยครั้งนี้พ่อกับแม่ต้องไปธุระจริงๆ”แม่บอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวฉันเบาๆ ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจของฉันทัน
“เดี๋ยวนี้ลูกๆ ของแม่เป็นเด็กดีกันทุกคนแล้ว เมื่อเช้าอาชิก็ตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันเห็นขับรถไปเรียนเองด้วยนะ”
“หา!!?”
O_O ฉันตาโตก่อนจะกระพริบตาปริบๆเมื่อได้ประโยคที่แม่พูด พี่อาชิตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันแถมขับรถไปเรียนเอง นี่มันวันโลกเบี้ยวแน่ๆ ปกติพี่ชายของฉันตื่นโน้นบ่ายไม่ก็เย็นเลยแล้วเรื่องขับรถไปเรียนเองเนี่ยเป็นอะไรที่เหลือเชื่อพอๆกับนกมีสี่ขาเลยเถอะ กรี๊ด ต้องมีผีนิสัยดีตัวไหนมาสิงพี่ชายฉันแน่ๆ ไม่งั้นมันไม่กลายเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่และฉันแบบนี้แน่นอน
“เอาเถอะ รีบลงไปทานข้าวเช้าเถอะเดี๋ยววันนี้พ่อกับแม่จะไปส่งลูกสาวคนสวยเองนะคะ”
แม่กอดตอบฉันแรงๆก่อนจะผละออกจากฉันแล้วโอบไหล่พาฉันเดินลงมาข้างล่าง ครอบครัวของฉันเป็นแบบนี้เสมอกับพี่อาชิแม่ก็ทำแบบนี้แถมรายนั้นทั้งกอดทั้งหอมไม่แคร์สื่อ แถมขี้อ้อนชนิดที่แมวยังอาย เห็นสายโหดมหาโหดแบบนั้นเวลามันแบ๋วแม่ยังเขินอ่ะ
หลังจากทานอาหารเช้าร่วมกันกับพ่อและแม่ในรอบหลายเดือนเสร็จก่อนที่พ่อกับแม่จะไปบ้านปู่กับย่าก็เลยแวะมาส่งฉันที่มหาลัยก่อน แม่บอกลาหอม กอด ฉันจนพอใจก่อนจะย้ำคำสั่งสุดท้ายเรื่องเงินค่าขนมที่ฉันต้องไปเอาจากพี่ชายอีกรอบ
“มิมิแม่เอาเงินค่าขนมของอาทิตย์นี้และอาทิตย์หน้าใส่ในบัญชีของอาชิแล้วนะลูก ถ้าหนูจะเบิกหนูไปจัดการเบิกกับพี่อาชิเอานะ พ่อกับแม่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาวันไหนดูแลตัวเองดีๆ แล้วก็ดูแลพี่ชายเราดีๆด้วยนะ ที่สำคัญ…”แม่ยื่นหน้ามาเข้ามากระซิบข้างหูฉันเบาๆ
“อย่าลืมสืบข่าวเรื่อง แฟน ของอาชิมาด้วยนะลูก”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินแม่พูดเรื่อแฟนของพี่อาชิ T^T
แม่ค่ะถ้าแม่รู้เรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพี่อาชิและแฟน แฟนของพี่อาชิและหนู แม่จะทำหน้ายังไง แง T^T แม่ค่ะหนูขอโทษ โฮกกกก
“คะ ค่ะแม่ แหะๆ”
ฉันส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้แม่ก่อนจะรีบลงจากรถทันที รถของพ่อและแม่แล่นไกลออกไปจากสายตาของฉันเรื่อยๆ ใจหายทุกทีที่พ่อกับแม่แอบหนีเที่ยวแม้จะเป็นปกติที่พ่อกับแม่ชอบแอบไปสวีทกันแล้วทิ้งลูกที่น่ารักอย่างฉันไว้ที่บ้านกับไอพี่ชายหัวหยิกแต่ทุกครั้งที่ต้องมองรถของพ่อกับแม่แล่นไกลออกไปจากสายตาฉันก็…
แง คิดถึง T^T
“น้องอามิ!”
เสียงร้องเรียกจากด้านหลังพร้อมร่างเล็กของคนที่ฉันไม่คุ้นตากำลังวิ่งข้ามถนนตรงมาที่ฉัน ฉันมองผู้หญิงตัวเล็กที่สวมชุดนักศึกษาสั้นและรัดจนฉันหายใจไม่ออกแทน แม้ใบหน้าจะดูหวานแต่เพราะแต่งตัวออกแนวเซ็กซี่แบบนั้นเลยทำให้เธอดูเซ็กซี่ เอ๋ ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวานเธอไม่ได้แต่งแบบนี้นี่นา เมื่อวานเฮยังใส่พีทยาวเหมือนฉันอยู่เลย แถมเสื้อก็ไม่ได้รัดแน่นจนปริ้นขนาดนั้นด้วย
ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบการแต่งตัวแบบนี้หรืออะไรเพราะสไบนางเพื่อนสนิทของฉันมันก็แต่งแบบนี้แหละเพียงแต่ว่ารายนั้นไม่ได้ใส่กระโปรงสั้นแต่ใส่ยาวเหมือนฉันแต่ก็รัดพอๆกับผู้หญิงตรงหน้าฉันนั่นแหละ
“กำลังจะเข้าไปมหาลัยหรอ”เสียงเล็กเอ่ยถาม ฉันยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าน้อยๆแทนคำตอบ
“งั้นเราเข้าไปพร้อมกันเลยเนอะ”
ฉันกำลังจะอ้าปากร้องปฏิเสธแต่มือเรียวของเธอก็ดึงข้อมือของฉันแล้วออกแรงดึงจนฉันต้องเดินตามแรงของเธอไปโดยปริยาย ฉันมองมือเรียวเล็กที่กำลังจับอยู่บนข้อมือของฉันอย่างพินิจ
‘อย่าไปยุ่งกับมัน!’
คำพูดจริงจังของสไบไหลวนกลับมาให้ฉันคิดถึงอีกครั้ง ทำไมเพื่อนของฉันถึงแสดงออกว่าไม่ชอบเธอขนาดสั่งห้ามฉันยุ่งกับเธอนะ ทั้งๆที่เธอก็ดูไม่น่าจะร้ายหรือทำอะไรแบบที่สไบมันพูด เห้อ สไบแกจะโกรธฉันแค่ไหนนะที่รู้ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของแกเนี่ยT^T
ฉันเดินตามแรงลากของพี่ไอเดียมาจนเกือบถึงโรงอาหารใหญ่ของมหาลัย พี่ไอเดียปล่อยมือจากแขนของฉันเธอเดินเลยไปยังร้านขายน้ำฝั่งตรงข้าม ส่วนฉันยืนงงอยู่ที่เดิมเพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำหน้ายังไงต่อไปตอนนั้นเองที่ฉันเห็นมองเห็นใครบางคนจากในโรงอาหารเขาดินยิ้มและตรงมาหาฉันเรื่อยๆ ฉันหัวซ้ายหันขวาเพื่อมองหาคนรู้จักและคนเดียวที่ฉันรู้จักก็คือ…
ไม่มี!
หะ หายไปไหนแล้วอะ พี่ไอเดียหายไปจากจุดที่เธอเคยยืนคือหน้าร้านขายน้ำ ฉันหันซ้ายหันขวาอีกครั้งเพื่อมองหาแต่ก็ยังไม่เจอ!
“อามิครับ”
เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกจากระใกล้ทำให้ฉันต้องหันไปมอง พี่เฟรนลี่ยืนส่งยิ้มมาให้ฉันในระยะที่แทบจะเข้ามาสิงฉันได้แนถอบหลังออกห่างเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองหายใจได้สะดวกแต่นั่นทำให้คนตรงหน้าขมวดคิ้วก่อนจะเม้มปากทำแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ
“พะ พี่เฟรนลี่”
ฉันเอ่ยเสียงตะกุกตะกักเมื่อเจอสายตาคาดโทษของเขา นี่ฉันทำอะไรผิดแค่ถอยหนีแค่นี้ทำไมต้องจ้องตาเขียวด้วย T^T ฉันสั่งยิ้มแห้งๆแทนคำพูดก่อนจะมองซ้ายทีขวาที่อีกรอบเผื่อว่าพี่เขาจะเดินไปทางอื่นแล้วเดินกลับมา
“มองหาใคร…ครับ”
ฉันหันกลับมาแทบไม่ทันเมื่อเจอน้ำเสียงขุ่นเข้มของพี่เฟรนลี่ นี่โกรธ งอน หรืออะไรทำไมหน้าเป็นงั้น T^T
พี่เฟรนลี่หุบยิ้มที่เคยมีให้ฉันจากตอนแรกที่เดินเข้ามาหา เขาเดินเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะฉวยข้อมือของฉันแล้วออกแรงดึงไป คนตัวโตที่กำลังเดินนำหน้าฉันอยู่ไม่หันกลับมาพูดอะไรอีก เขาเดินไม่ช้าไม่เร็วตรงไปยังด้านหลังโรงอาหารที่เป็นสถานที่พักผ่อนของนักศึกษาที่นั่นมีศาลา ต้นไม้และสระน้ำเอาไว้ให้นักศึกษามานักพักผ่อนหลังคาบเรียน
“จะไปไหนค่ะ?”
ฉันถามพลางขืนตัวเล็กน้อยเมื่อไม่มีทีท่าว่าคนตรงหน้าจะชะลอฝีเท้าเลยสักนิด เขายังคงไม่ตอบแต่เพิ่มแรงดึงแล้วพาฉันเดินเลยผ่านสวนตรงนั้นไปและตรงไปเรื่อยๆ จนเกือบจะเลยเขตมหาลัยแล้วพ้นออกไปเป็นเขตหอพักนักศึกษาในกำกับของมหาลัย ฉันลอบถอนหายใจเมื่อถามไปก็ไม่ได้คำตอบเพราะคนเอาแต่ใจและร้ายเงียบตรงหน้าเนี่ย ถ้าอยากทำอะไรก็ทำอยากพูดอะไรก็พูดฉันควรชิน
เอ๊ะ!!? ทำไมต้องชิน
อ๊าก ฉันจะบ้าตาย คิดอะไรของฉันอยู่เนี่ย
ชินหรอพูดราวกับว่าต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนานงั้นแหละ -///-
กึก ผลัก!
อยู่ดีๆ คนตรงหน้าก็หยุดเดินส่วนฉันที่เดินตามไปด้วยคิดเรื่องเรื่อยเปื่อยไปด้วยก็ไม่ทันตั้งตัวแล้วชนเข้ากับแผ่นหลังของเขาเต็มแรง ไม่มีคำพูดแต่คนตรงหน้ายอมหันกลับมามองหน้าฉัน เขายกมือขึ้นจับมาที่ไหล่ของฉันทั้งสองข้างก่อนจะออกแรงดันตัวฉันเล็กน้อยจนฉันถอยหลังไปชนผนัง T^T จะทำอะไรอีกเนี่ย
“ทะ ที่นี่ที่ไหนค่ะ”
ฉันถามเสียงสั่นก่อนจะละสายตาไปมองรอบตัว ด้านข้างคือต้นไม้ ต้นไม้ และไกลไปอีกนิดคือหอพักชายในกำกับของมหาลัย หอพักชาย! นี่เขาพาฉันเดินพ้นออกมาจากเขตมหาลัยจริงๆ หรอ
ฉันหันไปมองรอบตัวเมื่อพบว่าตอนนี้เราอยู่ที่อาคารเรียนเก่าของโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย อาคารเรียนที่ถูกเลิกใช้งานเพราะเล็กเกินไปและไกลจากตัวโรงเรียน เรียกง่ายๆก็อาคารร้าง T^T
นี่เขาพาฉันมาอยู่ในที่ล่อแหลมลับตาคนสองต่อสองอีกแล้วหรอ
“เมื่อกี้ยังไม่ตอบคำถามของพี่เลยนะครับ”เขาพูดเสียงขุ่นก่อนจะจ้องฉันตาไม่กระพริบ
ถะ ถามอะไรเล่าใครจะไปจำได้ คนยิ่งสมองปลาทองอยู่ T^T
“ถะ ถาม”
จุ๊บ!
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรต่อคนตรงหน้าก็ฉวยโอกาสขโมยจุ๊บปากของฉันไปเร็วๆหนึ่งที!
“ทำโทษ”เขาบอกหน้านิ่ง แต่แววตาเริ่มกรุ่มกริ่มและลามก
อ๊าก ไอ้เกย์บ้าทำโทษอะไร ฉันไปทำอะไรนาย ฉันไปเผาเสาไฟบ้านนายหรือไงฟะ แง
“อะ อะไร”
“พี่ถามว่าเมื่อกี้เรามองหาใคร”
“อะ เอ่อ”
จุ๊บ!
อ๊าก ฉันถูกเขาขโมยจุ๊บปากเป็นครั้งที่สอง กรี๊ด ก็ฉันกำลังจะตอบแกอยู่นี่ไงเล่า แง รอนิดรอหน่อยมันจะตายหรือไงฟะ
“ตอบช้า”
ช้าบ้าช้าบออะไร ฉันยังอ้าปากไม่ทันจะสุดเอ่ยพูดยังไม่ทันถึงประโยคก็โดน เอ่อ โดน…
อ๊าก โดนรังแกอยู่เนี่ยT^T
“ไม่ตอบ?”
เขาพูดพร้อมเอียงหน้าเล็กน้อยแล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันช้าๆ คราวนี้ฉันว่าเขาคงไม่ได้คิดจะแค่จุ๊บแต่เขากำลังจะ จูบฉันจริงจัง อ๊าก อย่านะ อย่ามาทำอะไรลุ่มล่ามในที่แบบนี้นะ กรี๊ด ไคโอป้าช่วยเมียด้วย ฉันยกมือดันแผงอกของเขาทันทีเมื่อรู้สึกว่าคนตรงหน้าเริ่มรุกรานและลุ่มล่ามมากเกินไปแล้ว พี่เฟรนลี่ชะงักก่อนจะทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ยังยอมนิ่งแล้วมองหน้าฉันแทน
“ตะ ตอบแล้ว”
ฉันบอกเสียงสั่น ทำไมต้องสั่น แง กลัว ง่ายๆ เลย ฉันกลัวเขาจะทำอะไรๆ ร่างกายของฉันขึ้นมาแม้จะเคย เอ่อ อะไรแบบนั้นกันมาแล้วแต่คอนนั้นฉันไม่รู้สึกตัวแถมจำอะไรไม่ได้ด้วย ครั้งนี้ฉันต้องรู้ตัว เอ้ย หมายถึง ระวังตัว ยิ่งเห็นสีหน้าท่าทางเงียบๆและแววตามีเลศนัยของเขาฉันยิ่งไม่ไว้ใจ คนๆ นี้เวลาหื่นชอบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ให้ฉันตายใจแถมเวลาเขาหื่นเขาหื่นไม่เคยเลือกเวลา สถานที่ และสิ่งรอบข้าง!
“ใคร?”
“พะ พี่ไอเดีย”
คำตอบของฉันทำให้คิ้วเรียวสวยของเขาขมวดเข้าหากัน ดวงตาฉายแววตกใจออกมาแว๊บนึง ฉันก้มหน้าแล้วจึงเอยต่อเพื่อไขความสงสัยและช่วยให้ร่างกายตัวเองไม่ถูกหาเรื่องเอาเปรียบอีก
“เพื่อนเก่าของพี่อาชิ เห็นเธอว่ารู้จักหนู เมื่อเช้าเธอชวนหนูเข้ามาในมหาลัยพร้อมกัน หนูเลย…”
“อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น”
น้ำเสียงจริงจังที่ค่อนข้างไม่คุ้นชินทำให้ฉันเงยหน้ามองเขา พี่เฟรนลี่มองหน้าฉันนิ่งดวงตาที่เคยเรียบนิ่งมีแววกังวลอยู่ในนั้น ฉันเอียงคอทำหน้าสงสัยเมื่อปฏิกิริยาของทั้งสไบนางและพี่เฟรนลี่ทำให้ฉันไม่เข้าใจ
ทำไมทุกคนถึงห้ามไม่ใช้ฉันยุ่งกับพี่ไอเดีย แล้วทำไมทุกคนต้องทำท่ากังวลมากมายขนาดนั้นด้วยล่ะ
“ทะ ทำไม”
“อันตราย!”
ฉันนิ่งไปกับคำตอบของพี่เฟรนลี่ อันตราย! งั้นหรอ ทำไมล่ะ? ทำไมถึงอันตรายแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันล่ะ ฉันไม่เห็นเข้าใจเลย
“อามิครับ คนอื่นไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนเรานะ อย่าไว้ใจใครง่ายๆ เข้าใจไหมครับ”
เป๊ะ! ประโยคเดียวกับไอ้สไบเป๊ะเลย
“เข้าใจไหมครับคนดีของพี่”
ฉันเงยหน้าเมื่อได้ยินคำว่า ‘คนดีของพี่’ ที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มที่ทำให้หัวใจของฉันเต้นรัว
คะ คนดี ขะ ของพี่ งั้นหรอ?
กรี๊ด ฉันจะบ้าตายจริงๆแล้วนะ ใครก็ได้ช่วยทำให้ฉันตื่นที
ตอนนี้ฉันกำลังฝันใช่ไหม ฝันร้าย ฝันร้ายมาก หรือว่าฝันดี อ๊าก
แนะนำและสั่งสอนได้เลยนะคะ
รบกวนนักอ่านที่น่ารักทุกท่านที่แวะมาอ่านนิยายของนักเขียนมือใหม่ช่วยคอมเม้นเป็นกำลังให้ด้วยนะคะ

งานดราม่ากำลังจะมาค่ะ TT
งานต้มมาม่ากำลังมาค่ะ เตรียมตัวกินมาม่ากันเลยค่ะ TT
ไรท์จะมาอัพนิยายได้เฉพาะวันอาทิตย์นะคะ
แต่ถ้าไรท์ทำเรื่องขอใช้แอร์การ์ดในหอพักได้ ไรท์จะอัพนิยายทุกวันเลย
อย่าทิ้งกันไปไหนนะคะ
#อามิคุณติ่งผู้เหนือโลก
มาร่วมลุ้นและให้กำลังใจนางเอกไม่เต็มของไรท์ด้วยนะคะ อิอิ
=
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

174 ความคิดเห็น
-
#113 0memory0 (จากตอนที่ 23)วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 / 20:52นางเอกก็ดูเลวจิงๆนั่นแหละ==#1130
-
#112 กระต่ายน้อย!!" (จากตอนที่ 23)วันที่ 19 กรกฎาคม 2558 / 07:14รออยู่น๊าาาาา#1120