ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เธอคนใหม่
“อืมๆ งั้นก้อเริ่มจาก อ้อ ใช่!ทรงผมซิน่ะ”พอเฮมีเห็นผมที่ดูฟูและหยุ่งเหยิงจนไม่เป็นทรงของหญิงสาวจึงคิดว่าน่าจะจัดการกับมันเป็นอันดับแรก
30นาทีผ่านไปพร้อมกับทรงผมใหม่ที่เพิ่ง เสร็จหญิงสาวมองดูตนเองในกระจกอย่างไม่เชื่อสายตาพร้อมกับอุทานในใจว่า “ว้าว!นี่ฉันเหรอเนี่ย”แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะคิดเสร็จก็โดนเฮมีจับมาแต่งหน้าต่อ
และแล้วการแต่งหน้าที่ยาวนานก้อผ่านพ้นไปหญิงสาวรูสึกรำคาญที่ใบหน้าของตนมากอาจจะเพราะว่าเธอไม่เคยแต่งหน้ามาก่อนก็เป็นได้
“ว้าว~คุณน้องนี่สวยไม่เบาเลยน่ะเนี่ย โฮะๆๆก้อแน่ะล่ะเพราะมันเป็นฝีมีพี่นี่เนอะ”เฮมีชมหญิงสาวก่อนที่จะชมตัวเองตาม(ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยน่ะย่ะ)
“เอ ว่าแต่พี่ยังไม่รู้จักชื่อน้องเลยนี่นา(เพิ่งรู้สึกตัว) ชื่อไรเหรอจ้ะ”
“ค..คือว่าจำไม่ได้อ่ะค่ะ”ฉันส่ายหน้าดิ๊กๆ
“อ้าวงั้นก้อแย่ดิ แล้วงี้พ่ะเรียกน้องได้ไงอ่ะ  งั้นเอางี้พี่ตั้งชื่อให้ใหม่เลยดีกว่า อิๆ เอาชื่อว่า....อืมๆๆ.....อ้อ!ชื่อฮายอนดีม่ะ  เรียกสั้นๆว่า ฮาย เจ๋งเป้ง  ต่อไปนี้พี่จะเรียกเธอว่าฮายน่ะ อิๆ”เฮมีหัวเราะคิกคักเพราะตื่นเต้นกับชื่อใหม่ที่เธอตั้งให้
“เอาล่ะฮายทีนี้เธอรอพี่แป๊ปน่ะเดี๋ยวพี่จะไปเอาชุดใหม่มาให้เปลี่ยน เพราะพี่ว่าเธอคงไม่คิดที่จะใส่ชุดของโรงพยาบาลไปไหนมาไหนทั้งวันอยู่แล้ว ใช่ม่ะ”
“ อืมก้อจิงแฮะ”ฮายอนเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าทั้งวันตนได้ใส่ชุดของโรงพยาบาลเดินไปไหนมาไหน\"ไม่น่าละเห็นคนเค้ามองกันใหญ่เลย\"
สักพักนึงเฮมีก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับชุดรัดรูปสีชมพูอ่อนๆที่ดูน่ารักเหมาะกับรูปร่างอันบอบบางฮายได้เป็นอย่างดีมีส่วนเว้าโค้งลงมาเล็กน้อยทำให้โชว์คออันขาวนวลน่าสัมผัสและเห็นเนินอกสักเล็กน้อยส่วนตรงของกระโปรงที่สั้นถึงเข่าจะเป็นจีบระบายที่เหมือนผ้าแบบพลิ้วๆ
“เอ่อ โทดทีน่ะพี่มัวแต่เสียเวลาเลือกชุดให้เทอน่ะเพราะมันไม่ค่อยจะมีไซส์ขนาดของฮายเลยง่ะ”เฮมีบ่นอย่างไม่ได้จริงจังนัก
“อ่ะ นี่ชุดเอาไปเปลี่ยนในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังร้านล่ะกัน”เฮมียื่นชุดให้กับฮายอน
ระหว่างที่เฮมีกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่หญิงสาวก็ค่อยๆก้าวเดินออกมาและหยุดอยู่ตรงหน้าเฮมีทำให้เฮมีรู้สึกตัวและหันมามองฮายอน
“เฮ้ย!เธอเป็นใครเนี่ย เข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน”ระหว่างที่เฮมีกำลังตะลึงกับความงามของฮายอนก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นจึงทำให้เฮมีและฮายอนตกใจและหันไปมองตามที่มาของเสียงนั้น
“ว้าว~”ชายหนุ่มตกใจกับรูปโฉมใหม่ของฮายอนจนถึงกับเผลอร้องว้าวออกมาทำให้ฮายอนรู้สึกเขินจนอายหน้าแดง แต่พอชายหนุ่มเห็นฮายอนหน้าแดงจึงรู้สึกตัว
“อ..เอ่อ ก้องั้นๆแหละ พอดูได้อ่ะน่ะ พวกไม่สวยก็งี้แหละแต่งยังไงก็ดูไม่สวยขึ้นหรอก”ชายหนุ่มรีบพูดกระแหนะกระแหนฮายเพื่อแก้เขิน
“อ้าว ไอ้น้องชายทำไมพูดงี้ฟ่ะ ต้องมีฟ้าดแข้งกันหน่อยแล้ว”เฮมีเดินเข้าไปล็อกคอน้องชายพร้อมกับพูดอย่างไม่พอใจที่น้องชายตนไปว่าฮายอนว่าไม่สวยเพราะมันก้อเป็นการดูถูกฝีมือของเทอด้วยเช่นกัน
“โห พี่เหอะน่าเอาเป็นว่าพี่น่ะทำดีที่สุดแล้วล่ะกันแต่ยัยนี่ดันไม่สวยเอง”ชายหนุ่มพูดพลางเหล่ตามองฮาย
“ชิ เออๆก้อฉันมันไม่สวยนิ  แหมยังกะนายหล่อมากนักนี่....แต่.....นายนั่นก้อหล่อจิงๆน่ะแหละ เหอๆ(อ้าว ตกลงมันเอาไงกันแน่ฟ่ะเนี่ย)” ฮายบ่นอุบในใจ
“เออ ใช่นี่ๆไอ้น้องชายแกรู้รึยังว่าน้องเค้าชื่ออาราย หึๆๆทำหน้ายังงี้ยังไม่รู้สิน่ะ”เฮมีทำท่ายักคิ้วอย่างกวนๆ
“เหอะ นายนั่นน่ะแค่ถามชื่อก็ยังไม่มีเลย พอเจอหน้ากันปุ๊ปก็เล่นลากขึ้นรถเฉยเลยแถมจะแนะนำตัวหน่อยก้อไม่ทำเป็นทำตัวลึกลับ เชอะ” ฮายอนบ่นกับตนเอง
“เอางี้ งั้นฉันจะบอกให้เป็นบุญก้อได้น่ะไอ้น้องชาย น้องเค้าน่ะชื่อว่า ฮายอน เรียกสั้นๆว่าฮายก้อได้ ฮ่าๆๆเป็นไงล่ะนี่ฉันเป็นคนตั้งให้เลยน่ะเนี่ย” เฮมีพูดอย่างภูมิใจในชื่อที่ตนตั้งให้
“ฮาย เหรอ ง่ะชื่อยังกะซอสมะเขือเทศแน่ะ  ก๊ากๆๆ”คงไม่ต้องบอกน่ะว่าคัยเป็นคนพูดประโยคนี้ (มีอยู่คนเดียวแหละ)
“จ๊อกๆๆๆ” อยู่ดีๆท้องของฮายก้อส่งเสียงร้องขึ้นมาเพราะเนื่องจากเทอไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว
“โห นี่ยัยมะเขือเทศนี่เทอไม่ได้กินข้าวมากี่ชาติเนี่ยท้องเธอร้องโคตรจะดังเลย เฮ้อ ไปๆเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปกินข้าวล่ะกัน”ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างเอื่อมระอา
“อ่าวจะไปแล้วเหรอ ฮูจิ...อุ๊บ”ยังไม่ทันที่เฮมีจะพูดจบก็โดนชายหนุ่มลากเข้าไปหลังร้าน ฮายได้ยินสองคนนั้นคุยกันแต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าคุยกันเรื่องอาไรและสักพักนึงทั้งคู่ก็เดินออกมาพร้อมกับทำหน้าเจื่อนๆ
“มีเรื่องอาไรรึป่าวค่ะ”ฮายอนถามอย่างสงสัย แต่ที่เธอสงสัยมากกว่าก็คงเป็นตอนที่เฮมีกำลังจะพูดอาไรซักอย่างแต่โดนชายหนุ่มเอามือปิดปากไว้ก่อนจึงไม่ทันได้ยิน
“อ้อ ป่าวๆไปกันเหอะ ผมไปน่ะฮะพี่”พอชายหนุ่มบอกลาพี่สาวของตนเสร็จก็ลากฮายไปขึ้นรถทันที(อีกแล้ว)พร้อมกับออกรถไป
“เฮ้อ~ ไอ้น้องคนนี้นี่มันจิงๆเลย มาทีไรหาเรื่องมาให้พี่สาวทีร่แสนดีอย่างฉันทุกทีเลย แต่ก้อเอาเหอะไอ้เราก้อเจอมานหาเรื่องมาให้เราจนชินแล้วนิ”ผู้เป็นพี่สาวรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการกระทำของน้องชายจนถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับลุ้นว่าต่อไปเจ้าน้องชายตัวดีของเทอนั้นจะจัดการกับปัญหาที่ก่อขึ้นในครั้งนี้ได้หรือไม่
“ฉันว่าน่ะงานเนี่ยมันต้องเป็นโชคชะตาที่ทำให้ทั้งคู่บังอิญมาเจอกันแหงเลย  อี๋~ แต่ฉันว่ามันชักจะเหมือนในหนังน้ำเน่าเข้าไปทุกทีแล้วน่ะเนี่ย  โอ๊ย!ไม่เอาแล้วเลิกคิดถึงเรื่องนี้ดีกว่ายิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม เฮ้อ~งานนี้น้องฉันจะไปรอดมั้ยเนี่ย”เฮมีได้แต่กลุ้มอยู่คนเดียวโดยหารู้ไม่ว่าเรื่องราวในอนาคตนั้นอาจจะทำให้เธอยิ่งกลุ้มกว่าตอนนี้เสียอีก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น