ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โชคชะตาและลิขิตของสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #3 : คนแปลกหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 48


    เช้าวันรุ่งขึ้น



    ณ โรงพยาบาล



    “หา!!อะไรน่ะ ออกไปแล้ว คุณปล่อยให้ไปได้ไงเนี่ย แล้วทางโรงพยาบาลไม่คิดที่จะรับผิดชอบเลยรึไงเนี่ย\"ชายคนหนึ่งส่งเสียงเอะอะโวยวาย อย่างไม่พอใจ



    “เอ่อ..ขอโทษน่ะค่ะช่วยลดเสียงลงหน่อยได้ไหมค่ะ  แล้วก็ส่วนเรื่องของผู้หญิงคนนั้นทางโรงพยาบาลต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะเพราะเธอหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ดิฉันก็ยังไม่ทราบเลยค่ะ ต้องขอโทษจริงๆน่ะค่ะ”นางพยาบาลที่นั่งประจำอยู่เคาเตอร์กล่าวขอโทษอย่างสุภาพ



    “โธ่เว้ย!!!\" ชายหนุ่มตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด



    \"ช่างเหอะๆ ขอบคุณมากน่ะครับ”แต่ชายหนุ่มคิดว่าถึงจะหงุดหงิดใจไปก้อไม่ได้อะไรขึ้นมาสู้รีบออกไปหาเลยจะต้องเป็นความคิดที่ดีกว่าแน่นอนชายหนุ่มจึงรีบวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อที่จะตามหาหญิงสาว



    “แฮ่กๆๆๆ นี่มันก็ไกลแล้วน่ะเนี่ย ยัยนั่นหายไปไหนกันแน่เนี่ย” แล้วทั้งวันชายหนุ่มก็ต้องวิ่งวุ่นเพราะตามหาหญิงสาว



    ...................................................................................................................................................................................



    “สวัสดีครับ” เสียงหนึ่งดังแว่วมาจากข้างหลัง ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังนั่นเหม่ออยู่รู้สึกตัว



    หญิงสาวหันไปโค้งหัวให้เล็กน้อยเป็นการทักทายกับชายหนุ่งซึ่งมีผมสีดำดูเป็นประกายเมื่อรับกับแสงแดดอ่อนๆ และใบหน้าที่ดูคมเข้มกำลังยิ้มกว้างมาทางหญิงสาว แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก



    “หึๆ คุณคงสงสัยสิน่ะว่าผมเป็นคัย แล้วรู้จักคุณได้ยังไง”



    “หงึกๆๆ” หญิงสาวพยักหน้าตอบ



    “โอเคงั้นเอาเป็นว่าถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ ...... คุณต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมซักมื้อก่อนล่ะกัน”



    “อะไรกันน่ะ อีตานี่ มาแปลกๆแฮะ อยู่ดีๆก็เข้ามาทักเราและก็ชวนไปกินข้าวเฉยเลย แต่ก็ดีเหมือนกันกำลังหิวอยู่พอดีเลย”หญิงสาวคิดในใจแต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะให้คำตอบชายคนนั้นกลับดึงแขนหญิงสาวให้ไปขึ้นรถ



    “ เฮ้ยเดี๋ยว!จะพาช้านน~ ปายไหนเนี่ย (คิดในใจ)\"



    สักพักต่อมา



    หญิงสาวนั่งมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกรถอย่างเบื่อหน่าย “เฮ้อ นี่เขาจะพาเราไปไหนกันแน่เนี่ย ร้านอาหารมันไม่น่าจะไกลขนาดนี้เลยนี่นา”ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดอยู่นั้นก้อมีเสียงแทรกดังเข้ามาในห้วงความคิดจึงทำให้ความคิดของเทอต้องหยุดลงแค่นั้น



    “ถึงแล้วล่ะ”ชายหนุ่มพูดพลางเดินลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้หญิงสาว



    “เฮ้ย!นี่มันอะไรกันเนี่ย  พาฉันมาที่นี่ทำไม”หญิงสาวทำไม้ทำมืออย่างโวยวาย



    “เฮ้ๆ เดี๋ยวสิอย่าเพิ่งโวยวาย ฉันไม่ได้เอาเธอมาทำมิดีมิร้ายหรอกน่า”



    “ว่าแต่….จิงสิ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำไมเธอถึงไม่เห็นพูดอะไรเลยซักคำ เห็นแต่ทำไม้ทำมืออะไรก้อไม่รุ”



    “......”



    “หรือว่า....เทอเป็นใบ้งั้นเหรอ”ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อ



    “หงึกๆๆๆ” ก้อใช่น่ะเซ่  แค่นี้ยังดูไม่ออกอีก บัพ(ฟาโล่)จิงๆเลย



    “เอ่อ..งั้นเทอก้อ...ขอโทษน่ะที่ถาม”



    “ ไม่เป็นไร\"      ( # นักเขียน: คือต่อจากนี้ไปนางเองของเราจะใช้ภาษาใบ้เป็นการสื่อสารน่ะค่ะ)



    “แล้วตกลงคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”



    “ไม่บอกหรอก อิๆ เข้าไปเดี๋ยวก้อรู้เองล่ะน่า”ชายหนุ่มพูดอย่างมีเลศนัย



    “ว้าว~ร้านน่ารักจังเลย”หญิงสาวเดินเข้าไปในร้านเสริมสวยที่ตกแต่งร้านอย่างน่ารักถึงมันจะไม่ใหญ่มากแต่ก้อไม่เล็กจนเกินไปส่วนข้างในร้านจะออกแนวหวานแหว๋วเพราะทาสีผนังด้วยสีชมพูและโซฟาเพื่อนั่งรอก็เป็นสีชมพูด้วยเช่นกัน แต่ถ้าจะให้พูดถึงลูกค้าที่มาใช้บริการล่ะก้อนับว่ามากพอสมควรบางวันถึงกับต้องนั่งรอต่อคิวกันก็มี



    “ใช่ม่ะล่ะ ฉันก้อว่าแล้วว่าเธอต้องชอบมัน”ชายหนุ่มที่เดินตามหญิงสาวมาพูดขึ้น



    “แล้วนายรู้จักที่นี่ได้ยังไงเหรอ”



    “อ้อ ก้อเพราะว่า....”



    “อ้าว ไอ้น้องตัวแสบมาได้ยังไงกันล่ะเนี่ย ลมอะไรหอบมาย่ะ”สาวสวยคนหนึ่งพูดขึ้น



    “โหพี่ถ้าไม่ติดว่ามาเพราะมีเรื่องอยากจะให้พี่ช่วยล่ะก็จ้างให้ผมก็ไม่มาหรอก เชอะ”



    “เออๆเรื่องของแกไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา เอ...แล้วน้องคนนั้นเป็นคัยกันล่ะ”



    “อ๋อ ก้อนี่ไงเรื่องที่ผมมานี่ก้อเพราะยัยนี้ไง ผมจะให้พี่ช่วยซักเล็กน้อยน่ะ...... \"



    \"เรื่องไรเรอะ\"



    \"ก้อแค่....\"ชายหนุ่มพูดค้างไว้เพื่อเป็นนัยๆ



    \"....ช่วยแปลงโฉมยัยขี้เหร่นี่ให้หน่อยดิ เอาให้เช้งเลยน่ะพี่”แล้วชายหนุ่มค่อยเปิดปากพูดหลังจากจากเงียบไปแป๊ปนึง



    “เชอะ ฉันจะขี้เหร่แล้วมันหนักส่วนไหนของนายย่ะ”หญิงสาวคิดพร้อมกับข้อนให้ชายหนุ่ม



    “เอ่อ..หวัดดีจ้ะ พี่เป็นพี่สาวของไอ้เด็กแสบนี่เองแหละ  พี่ชื่อว่ายูเฮมีน่ะจ้ะ จะเรียกว่าพี่เฮมีก้อได้จ้ะ”เฮมีส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างน่ารัก



    “เอ่อ พี่ๆคือว่าเธอเป็นใบ้น่ะพูดไม่ได้”ชายหนุ่มหันไปกระซิบเฮมี



    “จริงอ่ะ..เอ่อโทดทีน่ะจ้ะพี่ไม่รู้น่ะว่าเทอเป็น...”เฮมีหันไปขอโทดขอโพยหญิงสาวเป็นการใหญ่



    “ไม่เป็นไรค่ะ”หญิงสาวส่ายหัวจนผมสบัดไปมาเล็กน้อย



    “งั้นก้อเอาเป็นว่าผมฝากยัยนี่ด้วยล่ะกันเดี๋ยวอีก1ชั่วโมงผมจะมารับ อย่าลืมน่ะเจ๊เอาให้กลายเป็นคนใหม่ไปเลยน่ะ ไปล่ะ”



    “เออน่า เชื่อมือพี่เหอะ ฉันน่ะระดับโปรเฟสชั่นนอลเชียวน่ะย่ะ อั้มก้ออั้มเหอะยังชิดซ้ายเลย โฮะๆๆๆๆ”เฮมีพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างตอแหลก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากร้านไป



    “เอาล่ะ งั้นต่อไปก็คิวเธอเลยล่ะกัน เอ  ไหนดูซิ  อืมๆ”เฮมีสำรวจตัวและใบหน้าของหญิงสาวอย่างถี่ถ้วน



    “ฉันว่าน่ะ ฉันคิดว่าฉันเจองานที่หนักพอควรเข้าให้แล้วล่ะ”หลังจากที่สำรวจหญิงสาวอยู่นานก้อพูดขึ้น





    ...................................................................................................................................................................................





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×