ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คนแปลกหน้า
เช้าวันรุ่งขึ้น
ณ โรงพยาบาล
“หา!!อะไรน่ะ ออกไปแล้ว คุณปล่อยให้ไปได้ไงเนี่ย แล้วทางโรงพยาบาลไม่คิดที่จะรับผิดชอบเลยรึไงเนี่ย\"ชายคนหนึ่งส่งเสียงเอะอะโวยวาย อย่างไม่พอใจ
“เอ่อ..ขอโทษน่ะค่ะช่วยลดเสียงลงหน่อยได้ไหมค่ะ  แล้วก็ส่วนเรื่องของผู้หญิงคนนั้นทางโรงพยาบาลต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะเพราะเธอหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ดิฉันก็ยังไม่ทราบเลยค่ะ ต้องขอโทษจริงๆน่ะค่ะ”นางพยาบาลที่นั่งประจำอยู่เคาเตอร์กล่าวขอโทษอย่างสุภาพ
“โธ่เว้ย!!!\" ชายหนุ่มตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด
\"ช่างเหอะๆ ขอบคุณมากน่ะครับ”แต่ชายหนุ่มคิดว่าถึงจะหงุดหงิดใจไปก้อไม่ได้อะไรขึ้นมาสู้รีบออกไปหาเลยจะต้องเป็นความคิดที่ดีกว่าแน่นอนชายหนุ่มจึงรีบวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อที่จะตามหาหญิงสาว
“แฮ่กๆๆๆ นี่มันก็ไกลแล้วน่ะเนี่ย ยัยนั่นหายไปไหนกันแน่เนี่ย” แล้วทั้งวันชายหนุ่มก็ต้องวิ่งวุ่นเพราะตามหาหญิงสาว
...................................................................................................................................................................................
“สวัสดีครับ” เสียงหนึ่งดังแว่วมาจากข้างหลัง ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังนั่นเหม่ออยู่รู้สึกตัว
หญิงสาวหันไปโค้งหัวให้เล็กน้อยเป็นการทักทายกับชายหนุ่งซึ่งมีผมสีดำดูเป็นประกายเมื่อรับกับแสงแดดอ่อนๆ และใบหน้าที่ดูคมเข้มกำลังยิ้มกว้างมาทางหญิงสาว แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
“หึๆ คุณคงสงสัยสิน่ะว่าผมเป็นคัย แล้วรู้จักคุณได้ยังไง”
“หงึกๆๆ” หญิงสาวพยักหน้าตอบ
“โอเคงั้นเอาเป็นว่าถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ ...... คุณต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมซักมื้อก่อนล่ะกัน”
“อะไรกันน่ะ อีตานี่ มาแปลกๆแฮะ อยู่ดีๆก็เข้ามาทักเราและก็ชวนไปกินข้าวเฉยเลย แต่ก็ดีเหมือนกันกำลังหิวอยู่พอดีเลย”หญิงสาวคิดในใจแต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะให้คำตอบชายคนนั้นกลับดึงแขนหญิงสาวให้ไปขึ้นรถ
“ เฮ้ยเดี๋ยว!จะพาช้านน~ ปายไหนเนี่ย (คิดในใจ)\"
สักพักต่อมา
หญิงสาวนั่งมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกรถอย่างเบื่อหน่าย “เฮ้อ นี่เขาจะพาเราไปไหนกันแน่เนี่ย ร้านอาหารมันไม่น่าจะไกลขนาดนี้เลยนี่นา”ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดอยู่นั้นก้อมีเสียงแทรกดังเข้ามาในห้วงความคิดจึงทำให้ความคิดของเทอต้องหยุดลงแค่นั้น
“ถึงแล้วล่ะ”ชายหนุ่มพูดพลางเดินลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้หญิงสาว
“เฮ้ย!นี่มันอะไรกันเนี่ย  พาฉันมาที่นี่ทำไม”หญิงสาวทำไม้ทำมืออย่างโวยวาย
“เฮ้ๆ เดี๋ยวสิอย่าเพิ่งโวยวาย ฉันไม่ได้เอาเธอมาทำมิดีมิร้ายหรอกน่า”
“ว่าแต่ .จิงสิ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำไมเธอถึงไม่เห็นพูดอะไรเลยซักคำ เห็นแต่ทำไม้ทำมืออะไรก้อไม่รุ”
“......”
“หรือว่า....เทอเป็นใบ้งั้นเหรอ”ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“หงึกๆๆๆ” ก้อใช่น่ะเซ่  แค่นี้ยังดูไม่ออกอีก บัพ(ฟาโล่)จิงๆเลย
“เอ่อ..งั้นเทอก้อ...ขอโทษน่ะที่ถาม”
“ ไม่เป็นไร\"      ( # นักเขียน: คือต่อจากนี้ไปนางเองของเราจะใช้ภาษาใบ้เป็นการสื่อสารน่ะค่ะ)
“แล้วตกลงคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“ไม่บอกหรอก อิๆ เข้าไปเดี๋ยวก้อรู้เองล่ะน่า”ชายหนุ่มพูดอย่างมีเลศนัย
“ว้าว~ร้านน่ารักจังเลย”หญิงสาวเดินเข้าไปในร้านเสริมสวยที่ตกแต่งร้านอย่างน่ารักถึงมันจะไม่ใหญ่มากแต่ก้อไม่เล็กจนเกินไปส่วนข้างในร้านจะออกแนวหวานแหว๋วเพราะทาสีผนังด้วยสีชมพูและโซฟาเพื่อนั่งรอก็เป็นสีชมพูด้วยเช่นกัน แต่ถ้าจะให้พูดถึงลูกค้าที่มาใช้บริการล่ะก้อนับว่ามากพอสมควรบางวันถึงกับต้องนั่งรอต่อคิวกันก็มี
“ใช่ม่ะล่ะ ฉันก้อว่าแล้วว่าเธอต้องชอบมัน”ชายหนุ่มที่เดินตามหญิงสาวมาพูดขึ้น
“แล้วนายรู้จักที่นี่ได้ยังไงเหรอ”
“อ้อ ก้อเพราะว่า....”
“อ้าว ไอ้น้องตัวแสบมาได้ยังไงกันล่ะเนี่ย ลมอะไรหอบมาย่ะ”สาวสวยคนหนึ่งพูดขึ้น
“โหพี่ถ้าไม่ติดว่ามาเพราะมีเรื่องอยากจะให้พี่ช่วยล่ะก็จ้างให้ผมก็ไม่มาหรอก เชอะ”
“เออๆเรื่องของแกไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา เอ...แล้วน้องคนนั้นเป็นคัยกันล่ะ”
“อ๋อ ก้อนี่ไงเรื่องที่ผมมานี่ก้อเพราะยัยนี้ไง ผมจะให้พี่ช่วยซักเล็กน้อยน่ะ...... \"
\"เรื่องไรเรอะ\"
\"ก้อแค่....\"ชายหนุ่มพูดค้างไว้เพื่อเป็นนัยๆ
\"....ช่วยแปลงโฉมยัยขี้เหร่นี่ให้หน่อยดิ เอาให้เช้งเลยน่ะพี่”แล้วชายหนุ่มค่อยเปิดปากพูดหลังจากจากเงียบไปแป๊ปนึง
“เชอะ ฉันจะขี้เหร่แล้วมันหนักส่วนไหนของนายย่ะ”หญิงสาวคิดพร้อมกับข้อนให้ชายหนุ่ม
“เอ่อ..หวัดดีจ้ะ พี่เป็นพี่สาวของไอ้เด็กแสบนี่เองแหละ  พี่ชื่อว่ายูเฮมีน่ะจ้ะ จะเรียกว่าพี่เฮมีก้อได้จ้ะ”เฮมีส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างน่ารัก
“เอ่อ พี่ๆคือว่าเธอเป็นใบ้น่ะพูดไม่ได้”ชายหนุ่มหันไปกระซิบเฮมี
“จริงอ่ะ..เอ่อโทดทีน่ะจ้ะพี่ไม่รู้น่ะว่าเทอเป็น...”เฮมีหันไปขอโทดขอโพยหญิงสาวเป็นการใหญ่
“ไม่เป็นไรค่ะ”หญิงสาวส่ายหัวจนผมสบัดไปมาเล็กน้อย
“งั้นก้อเอาเป็นว่าผมฝากยัยนี่ด้วยล่ะกันเดี๋ยวอีก1ชั่วโมงผมจะมารับ อย่าลืมน่ะเจ๊เอาให้กลายเป็นคนใหม่ไปเลยน่ะ ไปล่ะ”
“เออน่า เชื่อมือพี่เหอะ ฉันน่ะระดับโปรเฟสชั่นนอลเชียวน่ะย่ะ อั้มก้ออั้มเหอะยังชิดซ้ายเลย โฮะๆๆๆๆ”เฮมีพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างตอแหลก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากร้านไป
“เอาล่ะ งั้นต่อไปก็คิวเธอเลยล่ะกัน เอ  ไหนดูซิ  อืมๆ”เฮมีสำรวจตัวและใบหน้าของหญิงสาวอย่างถี่ถ้วน
“ฉันว่าน่ะ ฉันคิดว่าฉันเจองานที่หนักพอควรเข้าให้แล้วล่ะ”หลังจากที่สำรวจหญิงสาวอยู่นานก้อพูดขึ้น
...................................................................................................................................................................................
ณ โรงพยาบาล
“หา!!อะไรน่ะ ออกไปแล้ว คุณปล่อยให้ไปได้ไงเนี่ย แล้วทางโรงพยาบาลไม่คิดที่จะรับผิดชอบเลยรึไงเนี่ย\"ชายคนหนึ่งส่งเสียงเอะอะโวยวาย อย่างไม่พอใจ
“เอ่อ..ขอโทษน่ะค่ะช่วยลดเสียงลงหน่อยได้ไหมค่ะ  แล้วก็ส่วนเรื่องของผู้หญิงคนนั้นทางโรงพยาบาลต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะเพราะเธอหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ดิฉันก็ยังไม่ทราบเลยค่ะ ต้องขอโทษจริงๆน่ะค่ะ”นางพยาบาลที่นั่งประจำอยู่เคาเตอร์กล่าวขอโทษอย่างสุภาพ
“โธ่เว้ย!!!\" ชายหนุ่มตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด
\"ช่างเหอะๆ ขอบคุณมากน่ะครับ”แต่ชายหนุ่มคิดว่าถึงจะหงุดหงิดใจไปก้อไม่ได้อะไรขึ้นมาสู้รีบออกไปหาเลยจะต้องเป็นความคิดที่ดีกว่าแน่นอนชายหนุ่มจึงรีบวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อที่จะตามหาหญิงสาว
“แฮ่กๆๆๆ นี่มันก็ไกลแล้วน่ะเนี่ย ยัยนั่นหายไปไหนกันแน่เนี่ย” แล้วทั้งวันชายหนุ่มก็ต้องวิ่งวุ่นเพราะตามหาหญิงสาว
...................................................................................................................................................................................
“สวัสดีครับ” เสียงหนึ่งดังแว่วมาจากข้างหลัง ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังนั่นเหม่ออยู่รู้สึกตัว
หญิงสาวหันไปโค้งหัวให้เล็กน้อยเป็นการทักทายกับชายหนุ่งซึ่งมีผมสีดำดูเป็นประกายเมื่อรับกับแสงแดดอ่อนๆ และใบหน้าที่ดูคมเข้มกำลังยิ้มกว้างมาทางหญิงสาว แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
“หึๆ คุณคงสงสัยสิน่ะว่าผมเป็นคัย แล้วรู้จักคุณได้ยังไง”
“หงึกๆๆ” หญิงสาวพยักหน้าตอบ
“โอเคงั้นเอาเป็นว่าถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ ...... คุณต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมซักมื้อก่อนล่ะกัน”
“อะไรกันน่ะ อีตานี่ มาแปลกๆแฮะ อยู่ดีๆก็เข้ามาทักเราและก็ชวนไปกินข้าวเฉยเลย แต่ก็ดีเหมือนกันกำลังหิวอยู่พอดีเลย”หญิงสาวคิดในใจแต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะให้คำตอบชายคนนั้นกลับดึงแขนหญิงสาวให้ไปขึ้นรถ
“ เฮ้ยเดี๋ยว!จะพาช้านน~ ปายไหนเนี่ย (คิดในใจ)\"
สักพักต่อมา
หญิงสาวนั่งมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกรถอย่างเบื่อหน่าย “เฮ้อ นี่เขาจะพาเราไปไหนกันแน่เนี่ย ร้านอาหารมันไม่น่าจะไกลขนาดนี้เลยนี่นา”ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดอยู่นั้นก้อมีเสียงแทรกดังเข้ามาในห้วงความคิดจึงทำให้ความคิดของเทอต้องหยุดลงแค่นั้น
“ถึงแล้วล่ะ”ชายหนุ่มพูดพลางเดินลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้หญิงสาว
“เฮ้ย!นี่มันอะไรกันเนี่ย  พาฉันมาที่นี่ทำไม”หญิงสาวทำไม้ทำมืออย่างโวยวาย
“เฮ้ๆ เดี๋ยวสิอย่าเพิ่งโวยวาย ฉันไม่ได้เอาเธอมาทำมิดีมิร้ายหรอกน่า”
“ว่าแต่ .จิงสิ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำไมเธอถึงไม่เห็นพูดอะไรเลยซักคำ เห็นแต่ทำไม้ทำมืออะไรก้อไม่รุ”
“......”
“หรือว่า....เทอเป็นใบ้งั้นเหรอ”ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“หงึกๆๆๆ” ก้อใช่น่ะเซ่  แค่นี้ยังดูไม่ออกอีก บัพ(ฟาโล่)จิงๆเลย
“เอ่อ..งั้นเทอก้อ...ขอโทษน่ะที่ถาม”
“ ไม่เป็นไร\"      ( # นักเขียน: คือต่อจากนี้ไปนางเองของเราจะใช้ภาษาใบ้เป็นการสื่อสารน่ะค่ะ)
“แล้วตกลงคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“ไม่บอกหรอก อิๆ เข้าไปเดี๋ยวก้อรู้เองล่ะน่า”ชายหนุ่มพูดอย่างมีเลศนัย
“ว้าว~ร้านน่ารักจังเลย”หญิงสาวเดินเข้าไปในร้านเสริมสวยที่ตกแต่งร้านอย่างน่ารักถึงมันจะไม่ใหญ่มากแต่ก้อไม่เล็กจนเกินไปส่วนข้างในร้านจะออกแนวหวานแหว๋วเพราะทาสีผนังด้วยสีชมพูและโซฟาเพื่อนั่งรอก็เป็นสีชมพูด้วยเช่นกัน แต่ถ้าจะให้พูดถึงลูกค้าที่มาใช้บริการล่ะก้อนับว่ามากพอสมควรบางวันถึงกับต้องนั่งรอต่อคิวกันก็มี
“ใช่ม่ะล่ะ ฉันก้อว่าแล้วว่าเธอต้องชอบมัน”ชายหนุ่มที่เดินตามหญิงสาวมาพูดขึ้น
“แล้วนายรู้จักที่นี่ได้ยังไงเหรอ”
“อ้อ ก้อเพราะว่า....”
“อ้าว ไอ้น้องตัวแสบมาได้ยังไงกันล่ะเนี่ย ลมอะไรหอบมาย่ะ”สาวสวยคนหนึ่งพูดขึ้น
“โหพี่ถ้าไม่ติดว่ามาเพราะมีเรื่องอยากจะให้พี่ช่วยล่ะก็จ้างให้ผมก็ไม่มาหรอก เชอะ”
“เออๆเรื่องของแกไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา เอ...แล้วน้องคนนั้นเป็นคัยกันล่ะ”
“อ๋อ ก้อนี่ไงเรื่องที่ผมมานี่ก้อเพราะยัยนี้ไง ผมจะให้พี่ช่วยซักเล็กน้อยน่ะ...... \"
\"เรื่องไรเรอะ\"
\"ก้อแค่....\"ชายหนุ่มพูดค้างไว้เพื่อเป็นนัยๆ
\"....ช่วยแปลงโฉมยัยขี้เหร่นี่ให้หน่อยดิ เอาให้เช้งเลยน่ะพี่”แล้วชายหนุ่มค่อยเปิดปากพูดหลังจากจากเงียบไปแป๊ปนึง
“เชอะ ฉันจะขี้เหร่แล้วมันหนักส่วนไหนของนายย่ะ”หญิงสาวคิดพร้อมกับข้อนให้ชายหนุ่ม
“เอ่อ..หวัดดีจ้ะ พี่เป็นพี่สาวของไอ้เด็กแสบนี่เองแหละ  พี่ชื่อว่ายูเฮมีน่ะจ้ะ จะเรียกว่าพี่เฮมีก้อได้จ้ะ”เฮมีส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างน่ารัก
“เอ่อ พี่ๆคือว่าเธอเป็นใบ้น่ะพูดไม่ได้”ชายหนุ่มหันไปกระซิบเฮมี
“จริงอ่ะ..เอ่อโทดทีน่ะจ้ะพี่ไม่รู้น่ะว่าเทอเป็น...”เฮมีหันไปขอโทดขอโพยหญิงสาวเป็นการใหญ่
“ไม่เป็นไรค่ะ”หญิงสาวส่ายหัวจนผมสบัดไปมาเล็กน้อย
“งั้นก้อเอาเป็นว่าผมฝากยัยนี่ด้วยล่ะกันเดี๋ยวอีก1ชั่วโมงผมจะมารับ อย่าลืมน่ะเจ๊เอาให้กลายเป็นคนใหม่ไปเลยน่ะ ไปล่ะ”
“เออน่า เชื่อมือพี่เหอะ ฉันน่ะระดับโปรเฟสชั่นนอลเชียวน่ะย่ะ อั้มก้ออั้มเหอะยังชิดซ้ายเลย โฮะๆๆๆๆ”เฮมีพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างตอแหลก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากร้านไป
“เอาล่ะ งั้นต่อไปก็คิวเธอเลยล่ะกัน เอ  ไหนดูซิ  อืมๆ”เฮมีสำรวจตัวและใบหน้าของหญิงสาวอย่างถี่ถ้วน
“ฉันว่าน่ะ ฉันคิดว่าฉันเจองานที่หนักพอควรเข้าให้แล้วล่ะ”หลังจากที่สำรวจหญิงสาวอยู่นานก้อพูดขึ้น
...................................................................................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น