คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ปั๊ก! ปั๊ก!
เป็นเสียงชกกระสอบทรายของหนุ่มวัย18ปี หน้าตาละอ่อนผมสีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกับนัยตาแม้ร่างกายจะดูไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อก็ตามแต่เสียชกแน่นทีเดียว นาม เมธาวิน บุตรนอก ชื่อเล่นวิน
หลังจากซ้อมชกกระสอบทรายไปได้ 15 นาที
"มึงจะซ้อมไรแต่เช้าวะห๊ะ"
พ่อของเขากล่าวขณะกำลังหยีตา ขณะเดินลงบันได
"โถ พ่อวันนี้เดี๋ยวผมไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ซ้อมตอนนี้จะให้ซ้อมตอนไหน"
เขาหยุดซ้อมแล้วหันมาตอบพ่อของเขาพร้อมถอดนวมและผ้าพันมือออก
"มึงก็ไม่ต้องซ้อมสิวะ พักบ้าง อะไรบ้าง มึงไม่ใช่นักมวยซะหน่อย"
พ่อของเขากล่าวอย่างอ่อนใจ พร้อมมองไปยังวินลูกชายคนเล็ก
"แหม ถึงผมจะไม่ใช่นักมวยแต่เป็นถึงคู่ซ้อมของระดับแชมป์เชียวนะ มันก็ต้องซ้อมทุกวันอะ"
เขาอ้างเหตุผลพี่ชายเขาคือ อัครัช บุตรนอก ผู้ที่เป็นพี่ของเขาและยังเป็นถึงแชมป์โลกขณะนี้ และบ้านของเขานั้นก็เป็นค่่ายมวยในสังกัดของพี่ซึ่งมีพ่อของเขา ทรงชัย บุตรนอก ที่มีดีกรีเป็นอดีตยอดมวยเป็นเจ้าของนั่นเอง
"เออๆ พี่มึงเขาก็ไปเก็บตัวต่างประเทศแทนที่มึงจะพักบ้าง เออก็ดี"
พ่อของเขาไม่รู้จะบ่นอะไรลูกชายจึงถามต่อ
"แล้ววันนี้มึงจะไปไหนวะ ตื่นมาซ้อมตั้งกะยังไม่สว่าง"
"ก็ไปห้างแถว zone13 ไปกับพวกไอ้กรมันนะ"
ชายหนุ่มกล่าว ซึ่งชัยผู้เป็นพ่อได้ยินก็บ่นเล็กน้อยว่า
"แค่ไปห้างไม่เห็นต้องตื่นเช้าเลยนี่หว่า"
"ก็มันนัดเจ็ดโมงครึ่งไม่รู้ไปทำไรตั้งกะห้างยังไม่เปิด"
เขาตอบเหมือนไม่ได้คิดอะไรมากมายทั้งๆที่ก็คิดเหมือนพ่อ
"มึงไม่รู้ ละไปรับปากมาได้ไงวะ"
ผู้เป็นพ่อกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
"ผมได้ค่าจ้างเป็นค่ากินที่ไปกะมันวันนี้ทั้งวัน ว่าง่ายๆฟรีตลอดงานอะ"
ชายหนุ่มกล่าวแล้ว พร้อมส่งยิ้มไปให้ผู้เป็นพ่อ ซึ่งชัยก็ส่ายหน้ารับไม่ได้กับเหตุผลของบุตรชาย
"เออนี่ก็หกโมงละไปอาบน้ำแต่งตัวได้ละมั้ง แล้วเดินทางดีๆหละอย่าไปหาเรื่องใครเขาละ"
ชัยจึงกล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วง
"ครับๆ ผมไม่เคยไปหาเรื่องใครสักหน่อย"
ลูกชายจึงกล่าวตอบกลับด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
"เออทำให้ได้อย่างที่พูดละกัน พ่อจะไปนอนต่ออีกหน่อยเมื่อคืนหนักไปหน่อย"
พูดเสร็จพ่อก็เดินโซเซขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปนอน
จากนั้นวินจึงอาบน้ำด้วยความรวดเร็วแล้วแต่งตัวง่ายๆ โดยใส่ชุดวอร์มสีเทาเข้มแล้วจึงออกจากบ้านเพื่อวิ่งไปห้างที่นัดไว้โดยถือเป็นการซ้อมเล็กๆน้อยๆ
หลังจากวิ่งมาได้หนึ่งชั่วโมงนิดๆก็มาถึงห้างที่เป็นเป้าหมายเขาจึงโทรไปหากร เพื่อนที่เป็นคนนัดเขาเอาไว้
"ไอ้กรข้าถึงละมึงอยู่ไหนวะ"วินกล่าวถามอย่างสนิทสนม
"ข้าอยู่ตรงลานน้ำพุใส่เสื้อเขียวสะท้อนแสงรับรองมึงมาเห็นแน่นอน"
กรตอบกลับเขาทันที่ที่ถามจบ แล้ววางสายไป
เขาจึงมุ่งหน้าไปลานน้ำพุเพื่อไปหากร แล้วก็เห็นกรอย่างชัดเจนอย่างที่มันว่า ในตอนแรกเขาคิดว่ามันใส่เสื้อสีเขียวอย่างเดียว ที่ไหนได้มันล่อเขียวทั้งตัวทั้ง เสื้อ กางเกง หมวกกระทั้งรองเท้า เว้นแต่ใส่เข็มขัดที่มีสีแดง
กรเป็นชายหนุ่มวัย 18 ปี รูปร่างบึกบึนกล้ามเป็นมัดๆ ผิวออกคล้ำแดดหน้าตาคมเข้มมีผมสีดำเช่นเดียวกับนัยตา
"แหมข้าก็คิดว่ามนุษย์ต่างดาวบุกโลก ล่อเขียวทั้งตัวเชียวนะมึง"
วินหยอกล้อกรขำๆ เมื่อกรได้ยินก็กล่าวตอบอย่างเต็มเสียงด้วยความมั่นใจว่า
"เออน่า กูมั่นใจเดี๋ยว ไอ้ม่อนกะไอ้หนุ่มมันจะถึงละรอแป๊ปเดี๋ยวแปดโมงครึ่งงานก็เปิดแล้ว"
เมื่อกรกล่าวจบวินสงสัยจึงถามกรว่า
"เออแล้วที่มึงมานี่มันงานไรวะถ่อกันมาแต่เช้า"
เขาถามด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ
"งานเกมอะ นี่มึงไม่รู้จิงดิมึงดูป้ายแถวนี้ดิ"
กรตอบง่ายๆพร้อมชี้ไปยังป้ายต่างๆที่มีมากมายบริเวณนั้น
แล้ววินก็มองเห็นป้ายที่โปรโมทเกม สรรพยุทธออนไลน์หรือ Weapon Diverse Online มากมายจึงรู้ว่าที่คนมันมากันเยอะแยะนี่เพื่องานเกมนี่เอง
ขณะที่เขากำลังมองป้ายโปรโมทเกมอยู่ ม่อน กับ หนุ่ม ก็มาพอดี
ม่อนและหนุ่มมีอายุ18ปีม่อนมีผมสีแดงนัยตาสีดำรูปร่างสมส่วน ส่วนหนุ่มนั่นมีผมสีดำตาตีใส่แว่นดูเหมือนเด็กเรียนรูปร่างผอมสูง
"ไงพวก รอนานป่าว"
ม่อนถามอย่างร่าเริง กรจึงตอบกลับไปว่า
"ไม่อะ พวกข้าก็เพิ่งมา"
เขาตอบพร้อมไปโอบคอม่อนไว้
"ไป ต่อแถวเข้างานกันเหอะคนเยอะมากอะไม่รู้จะได้เข้าไหมเนี้ย"
กรบอกกับทุกคนพร้อมเดินนำหน้าไปเพื่อต่อแถวเข้างาน
ระหว่างรอเปิดงานพวกกรก็เล่ารายละเอียดต่างๆของเกมให้วินฟังอย่างออกรสโดยที่เขาก็ไม่ได้สนใจมากมายนักจนเวลาผ่านไปจนถึงเวลาเปิดงานก็มีประกาศ
ตึง!ตึ่ง!ตึ้ง!ตึ๊ง!"ขณะนี้ได้เวลาเปิดงานเกม สรรพยุทธออนไลน์แล้วคะ"เสียงประกาศบริเวณหน้างานดังขึ้น
หลังจากเสียงประกาศจบผู้คนก็เดินเข้างานกันอย่างรวดเร็วจนแทบจะวิ่งเข้ากันเลยทีเดียว
ในงานนั้นแบ่งเป็นสามโซน โดยมีเวทีกลางงานที่ผู้คนให้ความสนใจ ด้านซ้ายของเวทีเป็นโซนรับของ ด้านขวาเป็นโซนโปรโมท ที่ขายเครื่องเล่นเกมและสมัครไอดีเกม
กรเดินเข้ามาแบบงงๆแต่เพราะคนมากจึงได้พลัดหลงจากกลุ่มเพื่อน จึงหาบริเวณพื้นที่ว่างยืน ซึ่งเป็นโซนขายเกมนั่นเอง
หลังจากเข้ามาได้ไม่นานก็มีพิธีกรสาวน่าตาน่ารัก แต่งตัวย้อนยุคแบบจอมยุทธขึ้นมาบนเวที เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาผู้คนบริเวณหน้าเวที
"ขอต้อนรับเข้าสู่งานฉลองผู้เล่นทะลุสิบล้านคนภายในหนึ่งเดือนของเกมสรรพยุทธออนไลน์คะ"
พิธีกรสาวทักทายด้วยน้ำเสียงร่าเริง แล้วกล่าวต่อว่า
"บางคนในที่นี้คงได้ไปสัมผัสกับเกมของเราแล้วใช่ไหมคะ ท่านคงได้ทราบแล้วว่าระบบของเรานั้นสมจริงขนาดไหน ทั้งการควบคุมร่างกายที่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนร่างกายของเราจริงๆหรือความรู้สึกต่างๆเช่นความเหนื่อย ตวามหิว ความง่วง หรือความเจ็บปวดโดยที่ความเจ็บปวดจะลดจากปกติเหลือ20%แต่ไม่มีระบบขับถ่ายนะคะทั้งยังเวลาเล่นในเกม 1 วันจะเท่ากับ 1 ชั่วโมงในโลกจริงด้วยคะ"
เมื่อเธอแนะนำเกมคร่าวๆจบ ก็มีชายหนุ่มที่มีรูปร่างและหน้าตาดีใส่ชุดแนวจอมยุทธเช่นเดียวกับหญิงสาวพิธีกรขึ้นมาบนเวทีต่อจากหญิงสาวแล้วกล่าวว่า
"ใช่ครับ เกมของเราแม้จะไม่มีระบบอาชีพเหมือนเกมอื่นๆแต่มีระบบทักษะที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้ลองทำในสิ่งที่เราชอบนะครับโดยจะแบ่งทักษะเป็น 3 ประเภทครับ คือ ทักษะดำรงชีพ ทักษะต่อสู้และที่กำลังจะเพิ่มเข้าไปคือทักษะพิเศษครับ"
เมื่อพิธีกรหนุ่มกล่าวจบก็เรียกเสียงฮือฮาของบรรดาผู้เล่นเก่าได้อย่างดี แล้วพิธีกรสาวจึงกล่าวต่อว่า
"ค่ะ โดยทักษะพิเศษนั้นจะเพิ่มความสามารถให้ผู้เล่นและเพิ่มแนวทางการเล่นใหม่ๆกับผู้เล่นแน่นอนคะ โดยจะแง้มว่าทักษะพิเศษนั้นมีพวก เวทมนต์ ปราน และ จิต ด้วยคะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆนั้นผู้เล่นต้องไปค้นหาเอาเองนะคะ"
เมื่อเธอกล่าวจบผู้ฟังต่างวิพากวิจารณ์ข้อมูลต่างๆที่ได้รับฟังมาจากหญิงสาว พิธีกรหนุ่มจึงกล่าวต่อว่า
"ครับ แล้วสำหรับผู้มาร่วมงานนั้นเราไม่ให้กลับบ้านมือเปล่าแน่นอนครับ สำหรับผู้เล่นเก่าสามารถรับของรางวัลต่างๆได้ที่บูธด้านซ้ายของท่านได้เลยครับ"
เมื่อได้ยินพิธีกรหนุ่มกล่าวผู้คนก็เฮโลไปทางบูธทางซ้ายทันที แต่พิธีกรหนุ่มยังกล่าวไม่จบจึงกล่าวต่อว่า
"และสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่สนใจก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ เรานำเครื่องเล่นมาจำหน่ายในราคาครึ่งเดียวเท่านั้นและมีของรางวัลเช่นเดียวกันครับ"
เมื่อชายหนุ่มกล่าวจบ พิธีกรสาวคู่หูก็กล่าวต่อ
"และในขณะนี้เชิญรับชมภาพตัวอย่างของเกมสรรพยุทธออนไลน์ค้าาา"
พิธีกรสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริงแม้คนจะไม่สนใจนักเพราะไปรับของรางวัลกัน ภาพตัวอย่างบนมอนิเตอร์ขนาดใหญ่หลังเวทีก็ได้ฉายภาพของเกมสรรพยุทธออนไลน์
เมื่อวินได้เห็นภาพของเกมก็อดเอ่ยปากชมไม่ได้ว่า
"เกมนี้เยี่ยมไปเลยนะเนี่ย การเคลื่อนไหวลื่นไหลมากเลย เกมสมัยนี้มันทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ"
เมื่อชายหนุ่มกล่าวจบ ก็มีเสียงลุงคนหนึ่งจากข้างหลังว่า
"สนใจไหมละหนุ่ม เข้ามาคุยกันก่อนได้นะ"
ลุงคนนั้นกล่าวพร้อมกวักมือเรียกวินไปนั้งที่ม้านั่นของผู้จัดงานด้านหลังบูธขายเครื่องเล่น
วินจึงเดินตามลุงไปนั่นที่ม้านั่งเพราะยังไงก็ต้องรอเพื่อนของเขาไปรับของรางวัล ลุงจึงถามเขาว่า
"เธอคิดว่าเกมนี้เป็นยังไงหละ"
ลุงถามเขาลอยๆแบบไม่คิดมาก วินจึงตอบกลับไปว่า
"อืม การเคลื่อนไหวดูลื่นไหลมากครับ ส่วนทักษะก็เปิดกว้างดีครับ ไม่จำกัดความสามารถของผู้เล่นดี เราสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เหมือนในโลกจริงไหมครับลุง"
วินตอบพร้อมถามลุงกลับ ลุงก็ตอบวินว่า
"เออสิ เกมนี้ไม่เหมือนเกมอื่นที่การเคลื่อนไหวขึ้นกับค่าสถานะเหมือนเกมอื่นนะโว้ย รับรองเล่นทีเหมือนเอาตัวจริงเข้าไปเล่นเอง"
ลุงตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม ชายหนุ่มได้ฟังจึงถามลุงต่อว่า
"ถ้าผมไปฝึกต่อสู้ในเกมแล้วออกมาโลกจริงผมจะทำได้เหมือนในเกมป่าวลุง"
วินถามกลับด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ลองฝึกแบบใหม่ แต่ลุงกลับตอบว่า
"ไม่รู้หวะ มันจะทำได้เลยก็คงไม่ได้นะเพราะไงร่างจริงกับร่างเกมก็คนละอย่างกันเปรียบเทียบกันลำบากหวะ ถ้าฝึกในเกมแบบไม่ใช้พลังพิเศษเลยก็น่าจะทำในโลกจริงได้บ้างละนะไม่ลองไม่รู้ แต่ถ้าจะใช้พลังพิเศษในโลกจริงคงไม่ได้หวะ"
ลุงตอบด้วยสีหน้าคิดหนักวินจึงตอบลุงไปว่า
"ลุงไม่ต้องคิดหนักหรอก เดี๋ยวผมไปลองดูก็รู้"
วินตอบง่ายๆเพราะคิดจะลองไปฝึกในเกมดู เมื่อลุงได้ยินจึงบอกว่า
"งั้นเอางี้เดี๋ยวข้าให้เครื่องเล่นเอ็งฟรีๆเลย ตามข้ามาเดี๋ยวพาไปซื้อแล้วสมัครไอดีกัน"
ลุงลุกขึ้นแล้วเดินนำวินไป วินจึงเดินตามแล้วถามลุงว่า
"ลุงเอาจริงดิ เครื่องเล่นไม่ใช่ถูกๆนะลุงจะซื้อให้ผมจริงดิ"
ชายหนุ่มถามเพราะเกรงใจลุง คนเพิ่งเคยเจอกันจะซื้อของให้แม้จะคุยถูกคอแต่ก็เกรงใจอยู่ดี เมื่อลุงได้ยินจึงยื่นนามบัตรมาให้พร้อมกล่าวว่า
"เอ็งดูนามบัตรละจะเข้าใจว่าแค่เครื่องเล่นข้ามีปัญญาให้ฟรีอยู่แล้ว"
วินฟังแล้วจิงดูนามบัตรแล้วก็ตกใจกล่าวเสียงดังว่า
"โห ลุงเป็นประธานนี่เองถึงว่า หน้าใหญ่ใจถึงจริงๆ"
ลุงได้ฟังก็หัวเราะๆ
"ฮ่าๆๆ ก็เออสิวะเรื่องแค่นี้จิ๊บๆ ตอบแทนเอ็งที่มองและวิจารณ์ในอีกมุมให้ข้าได้ฟังไง"
วินได้ยินก็หัวเราะแล้วตอบกลับว่า
"ฮ่าๆๆงั้นไม่เกรงใจนะลุง"
ลุงประธานจึงพาวันไปซื้อเครื่องเล่นลักษณะเหมือนที่คาดผมรวมร่างกับแว่นตาสีดำแล้วพาไปสมัครไอดีซึ่งแค่ยื่นบัตรแสดงตนประชากรให้พนักงานก็จัดแจงสมัครรไอดีและรับของรางวัลให้เสร็จสรรพโดยพนักงานอธิบายว่ารับของรางวัลในเกมได้ที่ตึกบริการผู้เล่นทุกที่ในเกมเมื่อได้เครื่องเล่นและไอดีแล้ววินจึงโทรไปหากร จึงรู้ว่ากรยังรับของรางวัลไม่ได้เลยเพราะคนเยอะมากได้ของแล้วจะโทรหาเขา ลุงได้ฟังจึงนั่งคุยกับวินต่อ ลุงคุยเรื่องระบบต่างๆของเกมเช่นระบบภารกิจ การล่ามอนสเตอร์ การใช้อาวุธต่างๆ และโปรโมท NPC ที่ใช้คนจริงๆแสดงเกือบทั้งหมด เว้นพวกภารกิจลับที่จะใช้ AI ระดับสูงเพื่อป้องกันความลับรั่วไหลคุยกับลุงได้สักครึ่งชั่วโมงจึงลาลุงประธานเพราะกรโทรมาหาแล้ว
"ลุงผมไปก่อนนะ ขอบคุณสำหรับของนะครับ"
กรกล่าวลา ลุงจึงตอบกลับว่า
"เออเล่นให้สนุกละ มีปัญหาก็โทรมาหาข้าได้ นั่นเบอร์ส่วนตัวข้าเอง"
ลุงกล่าวพร้อมยิ้มให้
วินเดินออกมาจากงานซึ่งกรนัดเจอกันที่น้ำพุที่เดิม
"ไงหายไปไหนมาวะ"
หนุ่มถามเขาอย่างห่วงๆ วินจึงตอบไปว่า
"ไปคุยกับขาใหญ่มา"
ทุกคนได้ฟังก็งง กรจึงถามกลับว่า
"ขาใหญ่ไหนมึง ละมึงซื้อเครื่องเล่นมาด้วยเหรอวะเห็นปกติไม่สนใจจะเล่นเกม"
กรถามด้วยน้ำเสียงยียวน วินได้ฟังก็ตอบกลับด้วยท่าทางกวนๆว่า
"จิ จิ จิ มึงไม่รู้ซะแล้ว เครื่องเล่นข้าได้มาฟรีจากขาใหญ่โว้ย"
ม่อนได้ฟังก็สงสัยว่าขาใหญ่นี่มันใคร จึงถามว่า
"ตกลงขาใหญ่นี่ใครวะ"
วินจึงตอบม่อนไปว่า
"ระดับข้าต้องไปคุยกับประธานบริษัทสิวะ"
วินได้ทีจึงคุยโวเสียยกใหญ่ ม่อนได้ยินก็พูดออกมาเสียงดัง
"แม่งสุดยอดหวะ แต่นี่ก็จะเที่ยงแล้วหิวข้าวหวะ"
ทุกคนได้ยินม่อนกล่าวก็พยักหน้า
"เออ งั้นไปหาไรกินกันเหอะ"
กรกล่าวจบก็เดินพาทุกคนไปร้านอาหารบุฟเฟ่ในห้าง
ในระหว่างกินข้าว ม่อนก็คุยเรื่องในเกมว่า
"เอ็งรู้ป่าวในเกมพวกข้าไม่ใช้ขี้ๆ นะเว้ย"
ม่อนข่มวินเพราะเห็นวินกำลังจะเล่นเกมเดียวกัน กรสำทับต่อทันทีว่า
"ใช่ๆข้าเป็นถึงหัวหน้ากิลครองเมืองห๊างห่างเชียวนะเว้ย"
หนุ่มได้ฟังจึงปรามเพื่อนเขาว่า
"ก็เมืองมันไม่ใหญ่จะมาเมืองก็ยากลำบาก เราจะครองเมืองที่ไม่มีใครสนใจได้บ้างก็ไม่แปลกอะไร"
วินได้ฟังจึงแหย่เพื่อนเขาว่า
"โถ เราก็คิดว่าเจ๋งที่แท้ก็ไม่เท่าไหร่"
กรได้ฟังก็ฉุนเฉียวตอบกลับไปว่า
"ถึงกิลข้าจะไม่ใหญ่โตแต่ข้าก็ไม่เคยประลองแพ้ใครนะเว้ย"
กรกล่าวเสียงดัง วินได้ยินก็แสยะยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า
"มีประลองกันเองด้วยเหรอน่าสนุกดีนิ ไปกลับกันข้าจะลองไปเล่นเกมสักหน่อย ว่ามันเจ๋งจริงอย่างที่พวกเอ็งว่ากันไหม"
เมื่อทุกคนได้ยินวินพูดก็มองหน้ากันแล้วคิดในใจเหมือนกันว่า
'ฉิบหายละ'
ความคิดเห็น