ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short Fic Hey! Say! Jump by Mo-Chan

    ลำดับตอนที่ #12 : [SF] เพื่อนสนิท (TakaChii)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 89
      0
      10 ก.พ. 56

     [SF]เพื่อนสนิท

    Pairing :: Takaki X Chinen

    Writer :: Mo-Chan

    Note:: คำหยาบหน่อยนะค่ะ 

    .

    .

    .

    .

    ยูยะมึงมีอะไรกัน ถึงเรียกกูมาบนเขาเนี่ย เหนื่อยชิบหายเลยร่างบางที่เดินตามร่างสูงผู้เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของตนมา พลางหอบแฮ่กๆ ด้วยอาการเหนื่อยของตน

     

    ยูริ มึงจำตรงนี้ได้ป่ะ

     

    จำได้สิ ไอ้ห่านี้ถามโง่ๆ ก็ที่ที่เรามาสาบานว่าจะเป็นเพี่อนกันไง ว่าแต่มึงเหอะ คึกอะไรถึงพากูมาที่นี่เนี่ย ทำปานจะลากูไปไหนงั้นแหละ = =”ร่างงบางทำท่าจิกกัดร่างสูงผู้เป็นเพื่อนสนิทของตนเล็กน้อย

     

    นี่ยูริ แล้วมึงจำได้ป่ะ ว่า วันปีใหม่ เราสองคนจะหนีความวุ่นวายมาที่นี่น่ะ

     

    จำได้สิครับ ทำปานกูความจำปลาทองงั้นแหละ...

     

    นี่ยูริกูถามตรงๆ ถ้ากูไม่ได้อยู่กับมึง มึงจะโกรธกูไหม...

     

    โกรธสิ มึงถามได้ กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีล่ะ มีวันไหนที่กูไม่ได้เห็นหน้ามึงบ้างไหมล่ะ ถ้ามึงไม่อยู่กูก็เหงาแย่สิจู่ๆ รางสังหรณ์ที่ไม่ดี ก็เริ่มเข้าโจมตีร่างบางเข้าอย่างจัง ความรู้สึกเหมือนจะต้องเสียอะไรสักอย่างไป ทำไมนะ ทำไม ความรู้สึกนั้นมันแย่จัง...

     

    ...ส่วนร่างสูงที่ได้ยินคำตอบของร่างบางก็ทำเอาว่าราวกับโดนลูกศรแทงที่หัวใจอย่างรุนแรงเพราะเขานั้นกลัวเหลือเกิน  ว่าการที่ทำให้ร่างบางนั้นเสียใจ เขาอาจจะ โดนร่างบางที่เขาแอบรักนั้นโกรธได้

     

    มึงเงียบทำไมยูยะ...เหมือนร่างบางนั้นจะทายออก จะว่าไป ร่างสูงก็เคยเปรยๆมาว่าเขาอาจจะต้อง ไปอยู่ต่างประเทศตามพ่อเขา

     

    มึงจะไปเมืองนอกใช่ไหม ยูยะ...

     

    ...

     

    มึงตอบกูสิ ยูยะ มึงตอบกูดิร่างบางที่ชักเชื่อความรู้สึกตัวเอง ชักจะโมโหเข้าให้ซะแล้ว นี่เจะต้องเสียเพื่อนที่รัก ไปแล้วงั้นหรอ...

     

    ขอโทษนะ ยูริ...สิ้นเสียงร่างบางก็ร้องไห้โฮ เสียงดัง ก่อนที่จะวิ่งหนีร่างสูงผู้เป็นเพื่อนสนิท ไป

    .

    .

    .

     

    ร่างบางที่รีบวิ่งเข้าบ้านของตนด้วยอารมณ์ที่รู้สึกเสียใจ ช็อกจนโกรธมากที่สุดแต่แล้วก็เจอผู้เป็นแม่ดักทางเข้าให้ซะก่อน

     

    เป็นอะไรลูก...

     

    ไม่มีอะไรฮ่ะแม่ ถ้าเขา... เอ่อ ยูยะมา ไม่ต้องบอกนะฮ่ะว่าผมอยู่ที่นี้ร่างบางปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนที่จะตอบคำถามของผู้เป็นแม่ไป

     

    งั้นหรอ... งั้นเข้าไป ก็ล็อกห้อง ด้วยล่ะผู้เป็นมารดา บอกลูกชายของตน ก่อนที่จะ พยายามเดิม ออกไปหน้าบ้าน เพื่อรอต้อนรับใครบางคน....

     

    เพียงไม่เกิน10นาที ร่างสูงผู้เป็นเพื่อนสนิท และคนที่ลูกชายตนแอบรัก ก็เดินทางมาถึงหน้าบ้านตน ผู้เป็นแม่ของร่างบางได้แต่ยืนยิ้ม ให้ร่างสูง ก่อนที่จะเอ่ยปากถาม

     

    ถามอะไรให้ลูกแม่โกรธล่ะ ฮึ? ”

     

    แม่รู้ด้วยหรอฮ่ะ..ร่างสูงหน้าซีดเล็กน้อย เพราะกลัวเหลือเกิน ว่าแม่ร่างบางนั้นจะพลอยโกรธตน ไปด้วย ร่างสูงจึงได้แต่ยืนอย่างสำนึกผิด

     

    ดูแค่นี้แม่ก็รู้แล้วแหละ ว่าไงฮึ พ่อหนุ่ม

     

    พอดีว่าผมต้องไปอยู่ฝรั่งเศสกับคุณพ่อผมน่ะฮ่ะ”               

     

    “’งั้นหรอ แม่พอจะรู้แล้วทำไมลูกแม่ถึงโกรธงั้นยูยะคุง กลับบ้านไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวแม่คุยกับให้นะ ว่าแต่จะไปวันไหนล่ะ

     

    มะรืนน่ะฮ่ะ ผมเอ่อ ขอความกรุณาด้วยนะฮ่ะ ช่วยบอกยูริด้วยนะฮ่ะร่างสูงก้มลงต่ำเพื่อเป็นการขอร้องกับ ผู้เป็นมารดาของ เพื่อนสนิทตน...

     

    สิ้นเสียงร่างสูงก็ก้มลงจนคุณนายของบ้าน อดที่จะหัวเราะชอบใจในความน่าเอ็นดูไม่ได้

     

    คิ คิก พอเถอะลูก เริ่มหนาวแล้ว กลับบ้านลูกเถอะ ^ ^”

     

    งั้นลาล่ะนะครับร่างสูงของทาคาคิ ยูนะ ก้มลงเพื่อเป็นการเคารพคนที่มีอายุมากกว่าตนอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินจากไปท่ามกลาง สายลมที่หนาวเหน็บ...

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    แม่เองลูก

     

    แม่หรอฮ่ะ...ร่างบางที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียงนอนของตน ลุกขึ้นมาก่อนที่จะเดินออกมารับผู้เป็นแม่

     

    ว่าแล้วเชียวต้องร้องไห้อยู่ เข้าไปข้างในห้องก่อนสิลูกหญิงชราผู้เป็นแม่ของร่างบาง ดันตัวลูกชายของตนเข้าห้องเบาๆ ก่อนที่จะนั่งบนเตียง เพื่อคุยกับลูกชายของตน...

     

    รักยูยะคุงสินะ เราน่ะผู้เป็นแม่เปิดประเด็นทีก็ทำเอา ผู้เป็นลูกชายแทบนั่งไม่อยู่สุข ก็ดูสิ เล่นเปิดประเด็นท่ะก็นะ...

     

    เอ่อ เอ่อ ผะ ผมไม่ผิดใช่ไหมฮ่ะ ”        

     

    ไม่ผิดหรอกจ้า คิดมาลูกแม่ก็ คิดมากไปได้ ชอบเพื่อนมันผิดตรงไหนกันล่ะฮึ ?  แต่ลูกก็ต้องเข้าใจหน่อยนะว่า...ผู้เป็นแม่ พูดปลอบประโลมผู้เป็นลูกชายของตนก่อนที่จะโผเข้ากอดลูกชายของตน...

     

    เข้าใจว่าอะไรหรอฮ่ะ ??

     

    ก็เข้าใจว่า การที่เรารักใครสักคนก็ต้องอยากเห็นเขาในทางที่ดีนะสิจ๊ะ  เพราะงั้นลูกก็ต้องยอมให้ยูยัง ไปนะ

     


    แต่.... แต่ถ้าเขาไปแล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะฮ่ะ แม่ ผม ผมไม่รู้ ผมแทบที่จะไม่มีเพื่อนสนิทเลย มีแต่ยูยังคนเดียว ที่คอยดูแล เอาใจใส่ผม

     

    ลูกก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้สิจ๊ะ จะได้ไม่ต้องให้แม่ และ ยูยังเป็นห่วง ระหว่างนั้นลูกก็ฝึกภาษาไปสอบชิงทุน ไปหายูยังไงเล่า ลูกแม่ก็ คิดมาไปเรื่อยจริงๆ = = ”

     

    เอ่อ ก็จริงนะฮ่ะ ผมนี่มันโง่จริงๆ  แฮะๆร่างบางเอามือไปเกาหัวตัวเองแก้เก้อ

     

    แล้วพรุ่งนี้ลูกจะได้ไปโรงเรียนเพื่อส่งลา ยูยะคุงไหมล่ะนั้นเล่นร้องไห้ขี้มูกโป่ง เดี๋ยวก็ไม่สบาย เอา ตามสไตล์ลูกเลยล่ะ

     

    แม่ก็ อย่าแช่งให้ผมไม่สบายสิ ฮ่ะร่างบางเบะปากเล็กน้อย ก่อนจะล้มตัวลงนอน ทำให้ผู้เป็นแม่นั้นอดที่จะหัวเราะร่างบางเสียมิได้

     

    คิคิ จ้าๆ ไม่สบายก็ได้ งั้นรีบนอนแล้วกัน แม่ไปนอนแล้วนะจ๊ะ โอยาสุมิ

     

     

     

    ฮ่ะๆ แม่ก็ฝันดีนะฮ่ะ โอยาสุมิ ร่างบางหันไปยิ้มให้กับแม่ของคนอีกครั้ง ก่อนที่จะพยายามข่มตานอน และไม่คิดถึงเรื่องๆนั้น...

    .

    .

    .

    .

    .

    หนักหัวชะมัดทำไมมันเป็นแบบนี้นะ... ใครเอาอะไรมาทับหัวผมว่ะ!!

     

    อื้อ.... กี่โมงแล้วนะ ข้อมือเรียวบางคว้านาฬิกาปลุกบนหัวนอนของตนก่อนที่จะหยิบขึ้นมาดูเวลา

     

    10โมงแล้วหรอ อื้อ ปวดหัวจัง... เสียงแหบๆปนงัวเงียบ่นขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะพิงหัวเพื่อที่ตะหลับต่อโดยลืมเรื่องบางอย่างไปโดยเสียสนิท...

     

    ….

     

    จิเน็น ยูริ.... จิเน็น ยูริอยู่ไหม ถ้าไม่มาครูจะเช็คขาดแล้วนะเสียงของอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกขานชื่อบรรดาเด็กนักเรียนในห้อง

     

    นี่ทาคาคิคุง เธอรู้รึเปล่า ว่าจิเน็นไปไหน??” จู่ๆ อาจารย์ที่ปรึกษานั้นก็โผง ขึ้นถามร่างสูงทำเอาร่างสูงที่กำลังนั่งเหม่อนั้น สะดุ้งตื่นจากภวังค์...

     

    นายไปไหนกันนะ โกรธฉันรึไง... ฉันขอโทษนะ

     

    เอ่อ อาจารย์ครับช่วยทวนคำถามหน่อยได้ไหมครับ??” ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะถามผู้เป้นอาจารย์ด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ ทำเอาอาจารย์นั้นอดที่จะอารมณ์ปรี๊ดไม่ได้

     

    นี่ ฉันพูดไม่ได้ฟังเลยรึไง!! วันเรียนวันสุดท้ายของนายแล้วยังจะทำให้ฉันอารมณ์เสียอีกสิ้นเสียงอาจารย์พูดเท่านั้นแหละ เสียงของเพื่อนๆในห้องก็ซุบซิบกันเรื่องเรียนวันสุดท้ายของร่างสูง

     

    เอ่อ อาจารย์ค่ะ เรื่องที่ว่า ทาคาคิคุงจะเรียนวันสุดท้ายทำให้เด็กสาวในห้อง ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของคนในห้องลุกขึ้นมาถามด้วยความเป็นห่วง

     

    ขอโทษนะไอมิจัง ขอโทษนะเพื่อนๆทุกคน พอดีว่าฉันน่ะ ต้องไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสวันพรุ่งนี้น่ะ วันนี้ก็เป็นเสมือนวันสุดท้ายที่ฉันจะได้เรียนกับเพื่อนๆทุกคนและเป็นวันสุดท้ายที่ได้อยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย... ร่างสูงมีสีหน้ารู้สึกไม่ดีเล็กน้อย อาจจะเพราะว่าเขานั้นเป็นที่รักของเพื่อนๆในห้องเสียด้วยล่ะมั้ง การที่ทำให้เพื่อนๆทุกคนใจหายนั้น มันก็ดูเหมือนจะเป็นความผิดของเขาล่ะนะ....

     

    แล้วอย่างนี้ใครจะมาเตะบอลกับพวกฉันล่ะ / แล้วอย่างนี้ใครจะพาไปกินอาหารอร่อยๆ แนะนำสถานที่ดีๆ มน้ำใจกับพวกเราล่ะ เสียงเพื่อนๆในห้องไม่ว่าจะหญิงหรือชายทุกคนต่างบนกันเซ็งแซ่

     

    ขอโทษจริงๆนะทุกๆคน วันนี้ถือว่าเป็นการไถ่โทษและอำลากันครั้งสุดท้าย ขอเชิญทุกคนไปกินเลี้ยงที่บ้านของผมด้วยนะครับร่างสูงก้มหัวลงเล็กน้อย เพื่อเป็นการขอโทษทุกคนก่อนที่จะนั่งลง ราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เช่นกันกับเพื่อนๆทุกคน ที่นั่งเงียบทำงานของตนต่อไป บางคนก็แอบน้ำตาซึมที่ร่างสูงนั้นจะต้อง จากทุกคนไปอย่างกะทันหัน

     

    ยูริเป็นไงนะ แกทำอะไรอยู่... ฉันห่วงแกนะโว้ย โทรมาบอกว่า เมล์มาบอกก็ได้ ไม่มีสักนิด.... แกเป็นไรกันนะ ถ้าเป็นเพราะฉัน  ฉันคงรู้สกผิดมากเลยนะ...

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

     

    เสียงที่นักเรียนทุกคนคิดว่าเป็นเสียงที่เปรียนดังสวรรค์มาโปรดก็ดังมาแล้ว เหล่าหนุ่มสาวทั้งหลายก็ทยอยออกจากห้องเรียนก่อนที่จะโบกมือลาร่างสูงที่นั่งเก็บของ ของตนอยู่....

     

    ไปก่อนนะทาคาคิคุง เดี๋ยวสองทุ่มเราจะไปหานะ ^___^”

     

    จ้า ร่างสูงหันไปตอบ ก่อนที่จะนั่งก้มหน้ามาโต๊ะเรียนของตนก่อนที่จะเหลือบไปมองโต๊ะของเพื่อนสนิทของตนที่แอบหลงรักมาตลอด....

     

    ไปไหนกันนะ...

     

    ก็ได้แต่คิดแล้วจะไปเห็นผลอะไร... ยังไม่ทันที่จะสิ้นความคิดดี ร่างสูงก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตนมา ก่อนที่จะพิมพ์ข้อความบางส่งไปให้ร่างบาง

     

    โกรธฉันหรอ ขอโทษนะ วันนี้เจอกันที่บ้านฉันสองทุ่มนะ มาเลี้ยงอำลากัน แต่ถ้าไม่อยากมาก็ไม่เป็นไรนะ....

     

    ร่างสูงก้มดูโทรศัพท์ตนก่อนที่จะปิดฝาพับแล้วเก็บข้าวของของตนออกไป

     

    วันสุดท้ายแล้วนะ อย่าโกรธกันเลยได้ไหม...

    ถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งหลายปีแล้วนะ

    ที่สำคัญ....

    ฉันก็รักนายด้วย...

     

    .

    .

    .

    .

    หาวววว นี่กี่ทุ่มแล้วนะ = 0 = ” เสียงหาวดังของร่างบางดังขึ้น ก่อนทีจะลุกขึ้นจากเตียง เพราะร้องไห้เมื่อคืนแท้ๆ ทำให้ตนถึงต้องไม่สบายตามเคย = =

     

    ว่าไปนอนแล้วมันก็หายปวดหัวเลยแฮะ -3-  อ๊ะ โทรไปหาไอ้ยูยังดีกว่า ~” ร่างบางยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงเพื่อนคนนี้ ถึงแม้ในใจยังคงที่จะยอมรับการจากตนไปก็เหอะ

     

    เอ๊ะ... เมล์เข้านี่หน่า

    โกรธฉันหรอ ขอโทษนะ วันนี้เจอกันที่บ้านฉันสองทุ่มนะ มาเลี้ยงอำลากัน แต่ถ้าไม่อยากมาก็ไม่เป็นไรนะ....

     

    โกรธแกหรอ...

    ยอมรับว่าโกรธแกนะ แต่พอฉันฟังแม่ อธิบายความโกรธมันก็หายไปหมดเลยล่ะ.... ฉันไม่อยากงี่เง่ารั้งนายไว้ให้นายเสียอนาคตหรอกนะ....

     

    มาเลี้งอำลาถ้าไม่อยากมากก็ไม่เป็นไร...

     

    ฉันไม่อยากมาหรอกนะ งานอำลาแก แต่ แต่เพราะฉันอดที่จะไม่เห็นหน้าแกไม่ได้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี...

     

    เจอกันสองทุ่มหรอ...

     

    ได้เล๊ย! เอ๊ะๆๆ เดี๋ยวนะนี่มันกี่ทุ่มแล้ว.... 4ทุ่ม  4ทุ่มแล้วหรอ!!!!!! O_____________O

    เวรแล้วตู เวรแล้ว อิชี่ อิบ้า นีมึงนอนกินบ้านกินเมือง จนไม่ทัน สองทุ่มเลยหรอ

    แม่ล่ะอยากจะกรี๊ดบ้านแตก ตะกี้กูซึ้งแท้ๆ ตอนนี้กูสติแตก คืออะไร ห๊า !

     

    ยังไม่ทันจะคิดอะไรร่างบางก็รีบคว้าเสื้อคุมกันหนาวของตนออกมาก่อนที่จะรีบคุม แล้ววิ่งลงบันไดมา...

     

    อ้าวจะไปไหนน่ะลูกผู้เป็นแม่ที่กำลังจะเตรียมตัวเข้านอนก็เห็นลูกชายของตนวิ่งลงมาอย่างเร่งรีบจะอดที่จะถามลูกของตนไม่ได้

     

    ไปหาไอ้ยูยังมันครับ ผมไปล่ะครับแม่ ไปล่ะนะครับ ร่างบางเมื่อพูดจบก็รีบวิ่งออกจากบ้านตนไปด้วยความรวดเร็ว ไปหาคน คนที่ตนรัก...

     

    .

    .

    .

    .

    .

    แฮ่ก แฮ่ก ไอ้บ้าเอ๊ย สะพานแม่งเสือกมาซ่อมตอนนี้ทำไม ถ้าไม่ทัน ตูบึ้มทิ้งแน่เมิง !! ”หลังจากที่ร่างบางวิ่งมาด้วยความรวดเร็วท่ามกลางความเหน็บหนาว

     

    ก็ดันต้องมาเจออุปสรรคที่ทำให้ตนอารมร์เสียจนได้ เมื่อสะพานทางเชื่อมที่ต่อไปทางบ้านของคนๆนั้นดันซ่อมเสียได้ มีอยู่สองทางคือลุยน้ำ กับรอ ให้มันซ่อมจนเสร็จ

     

    แน่นอนล่ะ คงต้องลุยน้ำอยู่แล้ว

     

    เพราะรักฉันทำได้อยู่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยย !!!”สิ้นเสียงเท่านั้นแหละ ร่างบางก็ถลกขากางเกงขึ้นมาก่อนที่จะรีบวิ่งฟ่าคลองน้ำที่ความสูงเท่าเกือบเข่าตนไปด้วยความรวดเร็ว

     

    ต่อให้จะเย็นแค่ไหน แต่เพื่อนาย เพื่อนายเท่านั้นนะ....

     

    แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยชะมัด ว่าแต่... ถึงแล้วสินะ ร่างบางยิ้มกับตัวเองเล็กน้อยก่อนที่จะปล่อยขากางเกงของตนที่ถลกมาให้ปล่อยชายตามเดิม ก่อนที่จะรีบวิ่งไปยังหน้าประตูบ้านของร่างสูงด้วยความใจร้อน

     

    ยูริ.... เสียงใคร นั้นเสียงของยูยะ ใช่ไหม ใช่ ใช่จริงๆด้วย นายยังรอฉันใช่ไหม

     

    มาทำไม นี่มันดึกดื่นแล้วนะ ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำไง... ร่างสูงติร่างบางเล็กน้อย ทำให้ร่างบางที่รีบมาอดที่จะรู้สึกน้อยใจไม่ได้

     

    ไอ้บ้ามึงหยุดพูดเลย กูรีบมาหามึง แล้วมึงยังจะว่ากูอีกหรอ ไอ้บ้า !! น้ำตาใสเริ่มที่จะไหลเอ่อมาน้อยใจ ตั้งใจฝ่าน้ำ ฝ่าหนาวมาตั้งนาน ก็มาเจอคำบ่นซะแล้ว นี่เรามันไม่ดีในสายตามันเลยหรอ...

     

    เป็นห่วงมึงต่างหาก... เป็นคำพูดสั้นๆที่ออกมาจากร่างสูง แม้มันจะสั่นขนาดไหน แต่เมื่อร่างบางได้ยินมันนั้น กลับหัวใจเต้นโครมคราม น้ำตาก็พลอยไหลไม่หยุด จากตอนแรก ที่ร้องด้วยความน้อยใจก็เหอะ แต่ตอนนี้มันเป็นความรู้สึกดีใจขึ้นมาแทนแล้วแหละ...

     

    อื้อ ไอ้บ้า ที่หลังมึงก็พูดให้เสร็จสิ ฮึก กู ก็เข้าใจผิดหมด ว่ามึง ชอบมองกูไม่ดีอยู่เรื่อย...

     

    กูบ่นมึงไปก็เพราะเป็นห่วงมึงทั้งนั้นแหละ ไม่รู้ต่อไป ถ้ากูไม่อยู่ใครจะคอยติมึง...

     

    อย่าพูดอย่างนั้นสิ ไอ้บ้ายูยัง !!  มึงต้องอยู่กับกูนะ กูจะพยายาม พยายามเรียนภาษาฝรั่งเศส ไปสอบชิงทุนไปหามึงให้ได้... ร่างบางจับข้อมือของร่างสูงมาก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นให้ร่างสูงนั้นเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของตนทำให้ร่างสูงที่ได้เห็นนั้นอดที่จะขำในท่าทางของร่างบางไม่ได้

     

    แล้วทำไม มึงต้องมา อยู่กับกูด้วยอ่ะ บอกหน่อยสิครับ คุณจิเน็น ยูริ ร่างสูงแกล้งทำเป็นก้มลงเอาหน้าไปใกล้ร่างบางเล็กน้อย ทำให้ร่างบางนั้นที่ตกใจในการกระทำที่กะทันหัน อดที่จะใจเต้น และ หน้าแดงไม่ได้...

     

    ก็ ก็เพราะ.... รัก ไง... พูดครั้งเดียวด้วย !! อย่ามาเรียกร้อง สิ้นเสียงร่างบางก็แสร้งทำเป็นหันหลังให้ร่างสูงทั้งๆที่ใจนั้น มันอยากจะปล่อยให้ร่างสูงนั้น จับตนจูบเสียด้วยซ้ำ >3<

     

    ดีใจจังนะ ทาคาคิ ยูยะ ก็รัก จิเน็น ยูรินะครับบบบบบบบบ ไม่ใช่แค่พูดเบาๆ แต่ร่างสูงนั้นก็ดันตะโกนเสียดังลั่น ทำเอาร่างบางนั้น แทบที่จะยืนติดดินแทบไม่อยู่

     

    ไอ้บ้า สี่ทุ่มแล้วมึงอย่าเสียงดังสิ...

     

    คิคิ แหม่ อายหรอ ไป พาไปส่งบ้าน ดึกแล้วจะได้นอนพรุ่งนี้ สามโมงเช้าเครื่องออก อย่าลืมไปส่งล่ะ

     

    อื้อ ไม่ลืมหรอกน้า... ร่างบางยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่ร่างสูงจะฉวยโอกาส จับมือร่างบาง เพื่อที่จะไปส่งยังบ้าน....

     

    END

     

    2ปีผ่านไป...

     

    เมืองอะไรว่ะเนี่ย ทำไม คน มัน มีแต่ตัวสูงๆทั้งนั้น บางคนก็มารยาทไม่ดีชะมัด ฮ่วย ต่างชาติแทนที่จะต้อนรับ นี่แม่งไรมันว่ะ สายตาขับไสไล่ส่งกูอยู่ได้

     

    อ๊ะ โอ๊ยย เจ็บนะไอ้บ้า เอาเฮ้ย อะไรล่ะเนี่ย อยู่ๆมีใครก็ไม่รู้ มาตบหัวผมเข้าให้ หัวตูมันใช่ของเล่นคุณเมิงหรอฮ่ะ   = =

     

    มัวแต่คิดอะไร เตี้ย  = =”

     

    ยูยะ มึงหรอกหรอ กูก็นึกว่าใครซะอีก เฮ้อ -//- ร่างบางหันไปทุบอกร่างสูงเล่นก่อนที่จะหัวเราะร่า

     

    แน่ะ ยังมีหน้ามาหัวเราะ ว่าแต่เก่งตังเลยนะ สอบชิงทุนตามฉันมาได้เนี่ย... ร่างสูงยิ้มก่อนที่ขยี้หัวร่างบางเล่นด้วยความนึกสนุก

     

    ไม่เหมือนจิเน็น ยูริ วันที่มาส่งฉันที่สนามบินซะเลย เด็กที่ร้องไห้งอแง แถมยังยื่น ทั้งโชยุ ทั้ง ไดอารี่ให้ฉันอีก 5555+ กาลเวลาเปลี่ยน ทำให้นายดูโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆนะ ร่างสูงยิ้มก่อนที่จะนึกถึงภาพตอนที่ร่างบางนั้นมาส่งตนมันทำให้ตนนั้น แทบไม่อยากจะไปเลยจริงๆ

     

    นี่ฉันอ่านไดอารี่แล้วนะ

     

    แล้วมันเป็นไงบ้างอ่ะ ร่างบางถามด้วยสายตาที่ใสซื่อด้วยความอยากรู้อยากเห็นของตนนั้นเอวง

     

    ก็รักแกมากขึ้นไงเล่า 5555+

     

    End Again
    Talk :: ดองข้ามปีได้ แต่งให้มันจบและปล่อยสักที 5555 

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×