คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Once upon a time...[ฟิคคั่นเวลาจ้า]
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ภายในปราสาทที่สุดแสนจะอลังการอันเป็นที่พำนักของพระราชาที่แสนจะเงียบขรึมกับราชินีผู้ที่แฝงไปด้วยความฮาแห่งนครจอห์นนี่จูเนียร์
... N eL’ L
“บัวลอยยยย.......เจ้าเพื่อนยากกกก ทำไมจากข้าเร็วเกินไป... เคยรู้บ้างไหมมีคนคิดถึง..บัวล๊อยยยยยยย!!!!” เสียงแหลมที่ฟังไม่ได้ของเจ้าหญิงผู้เลอโฉมองค์กลางทำเอาพระราชายาบุ พระราชินีฮิคารุ เจ้าชายเคย์ เจ้าหญิงไดกิและเจ้าชายองค์เล็กอย่างริวทาโร่ต้องเอามือปิดหูตามๆ กัน
“ฮ่วย ลูกหญิงยามะ...เมื่อไรจะเลิกร้องเพลงบัวลอยซะทีคะ ชาติที่แล้วเกิดเป็นบัวลอยหรือคะลูกหญิง?” เสียงแหลมๆ จริตๆ ของราชินีฮิคารุที่กำลังถือพัดประดับขนหงส์ทองคำพัดอยู่อย่างสง่าผ่าเผยดังขึ้น
“นั่นสินะ ทำไมลูกหญิงของเราถึงพิศวาสเพลงนี้นักหนา...หรือว่าคุณแอบมีชู้กับพี่แอ๊ด คาราวานจนมีลูกออกมาเป็นบัวลอยแบบนี้ห๊ะ?” พระราชายาบุหันไปถามคนรักด้วยน้ำเสียงและแววตากดดันจนราชินีที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งเมื่อครู่ต้องหุบปากแดงๆ ของตนไว้ (รู้ทันได้ไงวะเนี่ย ฮิคารุ)
“ยามะจัง เลิกแหกปากสักทีน่า!! ไม่งั้นชั้นจะหนีไปฮันนีมูนกับเจ้าชายเคย์สุดหล่อของชั้นจริงๆ ด้วย” เจ้าหญิงองค์โตอย่างไดกิโวยบ้าง คนที่กำลังร้องเพลงอย่างไพเราะ(?)เป็นอันต้องหยุดร้องทันที
“อี๊....หมั่นไส้!! มีผัวแล้วลืมน้องนุ่งเนอะ ริวทาโร่” ร่างอวบเบ้ปากใส่ผู้เป็นพี่อย่างหมั่นไส้ก่อนจะหันไปคว้าแขนน้องชายคนเล็กมาร่วมด้วยช่วยกันหมั่นไส้พี่ใหม่ที่เพิ่งจะแต่งงานกับเจ้าชายต่างเมืองนามว่า เคย์ ที่สุดแสนจะดูฉลาดรอบรู้
“ก็เพราะแก เอ้ย ยามะจังเอาแต่แหกปากร้องบัวลอยด้วยเสียงหมูออกลูก(?)แบบนี้น่ะสิคะ ถึงได้ไม่มีผัวเหมือนคนอื่นเค้าน่ะ!!” ประโยคเด็ดจากไดกิทำเอาเจ้าหญิงยามะผู้เลอโฉมถึงกับจมอยู่ในวังวนแห่งความคิดที่แสนมืดมิด มีแต่ตัวอักษรสีขาวที่เขียนว่า ‘ไม่มีผัว’ ลอยละล่องอยู่รอบกาย
ร่างอวบทรุดลงกับพื้นท้องพระโรงโดยไม่ใส่ใจว่าชุดเจ้าหญิงแสนสวยที่ฟูฟ่องนั้นจะเปรอะเปื้อนฝุ่น หยาดน้ำใสๆ ไหลรินลงมาอาบแก้ม เจ้าชายน้อยริวทาโร่ถอยทันทีที่เห็นออร่าสีดำมืดแผ่ออกมาจากร่างของพี่สาว ยามะจังเงยหน้าทั้งน้ำตาขึ้นมาจ้องพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างอ้อนวอน
“โอเค เข้าใจละๆ” ราชายาบุเอ่ยก่อนจะหยิบสาสน์ที่เหน็บไว้ข้างเอวมาเขียนยิกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เท้าข้างหนึ่งเหยียบบัลลังก์ไว้ มือขวาชูสาสน์ในมือเฉียงสี่สิบห้าองศาก่อนจะทำหน้าภาคภูมิใจ
“ข้าพเจ้า...ราชายาบุขอประกาศว่า.....ยามะจังเป็นของดีแห่งเมืองจอห์นนี่ เอ้ย ไม่ใช่ละ -*- เราจะส่งสาสน์ให้กับเจ้าชาวทั่วทุกแว่นแคว้นเพื่อให้มาร่วมในงานเต้นรำเลือกคู่ของเจ้าหญิงยามะแห่งนครจอห์นนี่จูเนียร์ อุวะฮะฮ่า!!” ยาบุทำท่าเดียวกับท่านโชกุนในโฆษณาโออิชิอย่างภาคภูมิ ฮิคารุถึงกับลุกขึ้นปรบมืออย่างดีอกดีใจ
“ดีจังเลย...ลูกเราจะมีผัว เอ้ย จะมีสามีแล้ว คิกคิก” ราชินีสุดสวย(?)พูดพลางเอาพัดมาปิดหน้าปิดตาจนเห็นแต่ตาหยีๆ ส่วนองค์หญิงผู้ที่กำลังจะได้เลือกคู่ถึงกับหน้าบานแฉ่งยิ่งเสียกว่าจานดาวเทียมไทยคมเสียอีก ในขณะที่เจ้าชายองค์เล็กถึงกับทำหน้าเหยเกเมื่อนึกสภาพหน้าผู้โชคร้ายที่จะต้องทนฟังเพลงบัวลอยของเจ้าหญิงแสนสวยแต่รั่วจนอุดไม่อยู่อย่างพี่สาวของตน
“ริวทาโร่...ทำไมทำหน้ายังงั้นละคะลูก? หรือว่าอยากได้ผัว เอ้ย คู่เหมือนพี่ยามะด้วยจ้ะ?” ราชินีฮิคเอ่ยถาม องค์ชายริวรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“มะ...ไม่ดีกว่าฮะ ผมมีปัญญาหาเองได้” ทันทีที่พูดจบ องค์หญิงยามะแสนสวยก็หันขวับมาทำตาดุใส่ราวกับหมูตกมัน “นี่แกว่าชั้นไม่มีปัญญาหาเองงั้นเรอะ?”
“ปะ..เปล่าครับ ผมหมายถึง..ผมคงไม่มีคนมาให้เลือกคู่เยอะเท่ายามะจังแสนสวยคนนี้หรอกครับ ^____^” ริวๆ ฝืนใจพูดออกไปเพื่อรักษาชีวิตไว้..และก็ได้ผล พี่สาวแสนสวยของเขายิ้มหวานก่อนจะทำมือเป็นรูปหัวใจบนหัวแล้วหมุนติ้วๆ ไปทั่วท้องพระโรง
“อ๊ายยยยยยยย......จะมีผัวแล้ว!!” ว่าแล้วยามะจังก็หมุนตัวติ้วๆ ออกไปยังอุทยาน ทำเอาทุกคนในท้องพระโรงพากันโล่งอกที่ไม่ต้องทนฟังเพลงบัวลอยของเจ้าหญิงสุดสวยต่อ
ร่างอวบเดินเริงร่าอยู่ภายในอุทยานอันแสนงดงามที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดพร้อมผีเสื้ออีกนับพัน(เว่อร์ไปๆ) เจ้าหญิงยามะทิ้งตัวลงบนก้อนหินเรียบแผ่นใหญ่กลางอุทยานก่อนจะเหม่อมองท้องฟ้าสีครามสดใสอย่างสบายอกสบายใจ และเมื่อเจ้าหญิงรู้สึกสบายใจแล้วละก็....กิจวัตร(ที่ไม่)ประจำวันก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
“บัวล๊อยยยยยยย......เจ้าเพื่อนยากกกกกกก ทำไมจากข้าเร็วเกินไป!!! บัวลอยยยย....ไปอยู่ที่หนายยยยย” เสียงแหลมที่ดังขึ้นทำเอานกกาที่บินอยู่แถวนั้นพากันตรอมใจตกลงมาตายที่พื้นเป็นเบือ ดอกไม้ที่เคยชูช่อสดชื่นก็เหี่ยวตายไปภายในไม่กี่วินาที แต่ทว่าเจ้าหญิงผู้มาดมั่นองค์นี้ก็ยังคงขับขานเสียงก้องกังวาน(บาดหู)อย่างไม่สนใจ
อีกด้านหนึ่ง....
“ชั้นว่าแกเข้าป่ามาลึกไปแล้วมั้ง ยูโตะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น ชายสองคนที่กำลังขี่ม้าวนอยู่ในป่าลึกพากันมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง
“ไม่มีทางน่า ปกติชั้นก็มาทางนี้ประจำนี่นา” ร่างสูงโปร่งเอ่ยแย้งก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าเพื่อดูตำแหน่งดวงอาทิตย์ในเวลานั้นซึ่งเป็นสิ่งที่คนหลงป่าควรจะทำ
“บัวล๊อยยยยยยย......” คนที่มองฟ้าอยู่สะดุ้งเฮือกก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนรักที่เป็นถึงเจ้าชายจากแถบตะวันตกอย่างแปลกใจ
“เคย์โตะ...นายร้องเพลงหรอเมื่อกี้อ่ะ?” คนถูกถามทำตาหยีอย่างมึนๆ ก่อนจะส่ายหน้า
“บ้าสิ...คนหลงป่าพ่อแกสิจะมาร้องเพลงบัวลอยอ่ะ”
“บัวลอยยยย....ไปอยู่ที่หนายยยยย” เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาสองหนุ่มสะดุ้งตกใจก่อนจะหันมามองหน้ากัน
“เฮ้ย เอาไงวะ?” ยูโตะเอ่ยถาม
“เผ่นสิวะ เสียงสยองขนาดนี้ ผีนางไม้ชัดๆ!!” เจ้าชายเคย์โตะมองสหายรักที่เป็นถึงเจ้าชายอีกนครหนึ่งอย่างปรามๆ
“บางทีอาจจะมีบ้านคนอยู่แถวนี้ เราไปถามทางกันเถอะ” ว่าแล้วเจ้าชายยูโตะสุดหล่อก็ควบม้านำหน้าเพื่อนร่วมทางไปตามเสียงบัวลอย(?)ที่ได้ยิน จนมาเจอะกับอุทยานแสนสวยที่บัดนี้ต้นไม้เหี่ยวเฉา นกกาพากันนอนตาย มีเพียงสตรีนางหนึ่งที่กำลังร้องเพลงขับขานอย่างมีความสุขบนโขดหินนั่น
“อ้ะ...พวกท่านเป็นใครกัน?” เจ้าหญิงยามะถาม ทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดลั่นโลกในเมื่อจู่ๆ ก็มีผู้ชายหล่อๆ ขี่ม้ามาให้เลือกถึงสองคน แสดงว่าสาสน์ของท่านพ่อช่างไวยิ่งกว่าอีเมล์แอดเดรสซะอีก
“เราคือเจ้าชายยูโตะ ส่วนนี่คือเจ้าชายเคย์โตะ ไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหนหรือ?” ร่างสูงโปร่งถามทั้งๆ ที่มือยังสั่นริกๆ ก็ตั้งแต่ที่เขาเห็นใบหน้าหวานๆ ของคนสวยตรงหน้าก็ทำเอาใจละลายไปถึงตาตุ่มแล้ว
“ที่นี่คือนครจอห์นนี่จูเนียร์ ส่วนเราคือเจ้าหญิงยามะผู้เลอโฉมแห่งนครนี้” พูดจบ ร่างอวบก็ส่งสายตาวิ้งวับที่มีออร่าปิ๊งประกายให้อีกฝ่าย ในขณะที่เจ้าชายยูโตะกำลังทำหน้าเพ้อสุดขีดกับความสวยของเจ้าหญิง
“เพลงบัวลอยเมื่อครู่นั่น ไม่สามารถว่าใช่เสียงองค์หญิงหรือไม่?” เคย์โตะที่มองเพื่อนรักทำหน้าเพ้อกับเจ้าหญิงที่กำลังหยอดตาหวานใส่อย่างหมั่นไส้ก่อนจะถามออกไป
“แม่นแล้ว...หรือท่านพิศวาสในน้ำเสียงของเราหรือ องค์ชายเคย์โตะ” เจ้าหญิงยามะหันมาทำตาวิ้งวับให้เคย์โตะแทนจนเจ้าตัวต้องทำตาหยีใส่เพื่อกันออร่านั้นไว้
“ถ้าเช่นนั้นแล้ว ช่วยร้องเพลงนั้นให้ข้าฟังอีกรอบได้หรือไม่?” ยูโตะที่กำลังเจอความรักบังตาเอ่ยอ้อนวอนโดยไม่ได้ดูหน้าเคย์โตะที่กำลังอ้าปากค้าง (ความรักทำให้คนตาบอดจริงๆ วุ้ย เคย์โตะ)
“บัวล๊อยยยยยยย......เจ้าเพื่อนยากกกกกกก ทำไมจากข้าเร็วเกินไป!!! บัวลอยยยย....ไปอยู่ที่หนายยยยย”
เพียงแค่เจ้าหญิงยามะจังเปล่งเสียงร้องออกมาเท่านั้น ร่างสูงโปร่งของเจ้าชายยูโตะก็ร่วงลงจากหลังม้าลงไปกระแทกกับพื้นหญ้าดังแอ้ก คนสวยหน้าเหวอก่อนจะรีบเข้าไปประคองร่างของเจ้าชายสุดหล่อไว้โดยไม่ได้เห็นเจ้าชายอีกองค์กำลังแอบหัวเราะสะใจอยู่
“องค์ชายยูโตะ เป็นอะไรไป? ต้องผายปอดแล้วสิๆ” เสียงหวานๆ ของเจ้าหญิงเอ่ยอย่างลนลานก่อนรีบประกบริมฝีปากของยูโตะเพื่อช่วยชีวิต แต่กลับโดนอีกฝ่ายล่วงล้ำโดยการสอดแทรกลิ้นเข้าไปขโมยความหอมหวานในโพรงปากนุ่มนั่นแทน มือเล็กรีบดันอีกฝ่ายออกอย่างตกใจ
“อ้ะ ท่านแกล้งข้ารึนี่? ข้าเขินนะ บ้าๆๆๆ” เจ้าหญิงที่แสร้งทำท่าเขินทั้งที่ในใจอยากจะกระโดดโลดเต้นลุกขึ้นยืนก่อนจะกระหน่ำเท้าลงไปบนท้องของอีกฝ่ายเพื่อตอกย้ำความเขินไม่ต่ำกว่าสิบที เคย์โตะที่เฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ทำหน้าเสียวแทนเพื่อนรักอย่างช่วยอะไรไม่ได้
“อั่กก...เจ้าหญิง.....น้ำเสียงไพเราะนั่น ข้าอยากจะฟังมันทุกวันเสียจริง แต่งงานกับข้าเถิดองค์หญิง” เจ้าชายที่พยายามพยุงตัวเองหลังจากโดนเจ้าหญิงเขิน(กระทืบ)ใส่ไม่ยั้งยังคงปากหวาน ทำให้เจ้าหญิงยามะแห่งนครจอห์นนี่เขินได้อีกโดยไม่เข็ดเลยทีเดียว
“บ้า!!! ท่านยูโตะละก็...” มือนิ่มฟาดลงบนแก้มซ้ายของยูโตะอย่างจังเสียจนหน้าหันหัวเกือบหลุด ใบหน้าหวานนั้นแดงซ่าน แม้ความเจ็บปวดจากฝ่ามือนั่นจะยังค้างคาอยู่บนใบหน้า แต่เจ้าตัวก็ต้องหันมาฝืนยิ้มหล่อๆ ให้เจ้าหญิงคนสวยตรงหน้า
“ท่านพ่อของข้าดุมากเลยนะ ท่านยูโตะ” เจ้าหญิงยามะรีบเข้าไปซบอ้อมอกแกร่งทันทีที่มีโอกาสพลางทำทีสะอึกสะอื้นร้องห่มร้องไห้แบบที่เคยเห็นพี่ไดกิทำกับองค์ชายเคย์บ่อยๆ ซึ่งก็ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
“ไม่เป็นไรนะองค์หญิง ข้าไม่กลัวหรอก” เจ้าชายลูบเรือนผมนิ่มเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจโดยไม่เห็นใบหน้าที่ดีใจสุดขีดและรั่วสุดขีดของคนหน้าสวยคนนี้
ในที่สุด...ก็จะได้ผัวแล้วเว้ย!!!
...........................
ฟิคคั่นเวลาแก้เครียดมาแล้ว ฮ่าๆ
ฝึกแต่งแนวฮาเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี่ย
ชอบไม่ชอบบอกกันได้ คิคิ
เห็นว่าเครียด ดราม่ากัน เลยเอาฮามาให้หายเครียดดูบ้าง
แล้วจะมีมาคั่นเรื่อยๆ (เรื่องเดิมนี่ละ เพราะจั๊มพ์ยังออกไม่ครบเลย)
ไม่ใช่ว่าอู้นะ แต่่ว่าไม่อยากให้รอง่ะ
เจอกันตอนหน้าจ้า
ปล.ขอบคุณแรงบันดาลใจสำหรับเรื่องนี้ โซลจัง!!!
ความคิดเห็น