ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ] Painted Boy ฉันจะร้าย..ถ้านายไม่รัก

    ลำดับตอนที่ #9 : พ่ายแพ้

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 53


    ... N eL’ L

                    ร่างเล็กที่ขึ้นขี่หลังร่างสูงโปร่งของผู้เป็นรุ่นพี่อย่างหงอยๆ แก้มเนียนนุ่มซุกตรงปลายผมสีน้ำตาลสลวย
    ของชายหนุ่มผิวเข้ม ดวงตาเรียวเหลือบมองข้าวของของตนที่อยู่ในถุงพลาสติกสีใสในมือของทาคากิ รุ่นพี่เบสท์
    ที่กำลังให้เขาขี่หลังอยู่ในตอนนี้

     

                    ริมฝีปากสวยถูกขบกัดแน่นด้วยฝีมือของเจ้าตัวเพื่อระบายอารมณ์โกรธเคืองที่มี ภาพของของที่รัก
    ที่โดนกาวผสมน้ำมันฝีมือของตัวเองจนฉ่ำเยิ้มยิ่งทำ ให้ ชิเนน ยูริรู้สึกราวกับโดนอีกฝ่ายย้อนกลับด้วยฝีมือของตนเอง
    จริงๆ เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งยามาดะแรงถึงขนาดนั้นแต่เห็นริวทาโร่สนใจแต่หมอนั่นแล้ว ทำให้เขารู้สึกเดือดดาล
    จนอดไม่ได้ วันนี้ที่เขาสังเกตได้..พฤติกรรมของยามาดะ แววตา รอยยิ้มและน้ำเสียงตอนที่มันมาอ่านไดอารี่
    แล้วยิ้มเยาะใส่เขามันฉายแววเจ้าเล่ห์และอยากเอาชนะ ผิดวิสัยของยามาดะที่เรียบร้อยและอ่อนแอ...แปลกจริงๆ

     

                    ทีนี้นายบอกชั้นได้หรือยังว่าทำไมนายถึงเท้าเปล่าแบบนี้? รองเท้านายไปไหนซะล่ะ? ทาคากิเอ่ยถาม
    ถึงสาเหตุที่เจ้าตัวเล็กข้างหลังใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาเขาเมื่อสิบห้านาทีก่อนเพื่อขอให้เขาเอารองเท้ามาให้
    แต่ว่าเท้าเขากับเท้าชิเนนค่อนข้างจะแตกต่างกันเรื่องขนาด รวมทั้งตอนนั้นเขาอยู่นอกบ้านเลยไม่อาจหยิบรองเท้า
    ของน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมาให้ได้ พอมาถึงชิเนนก็เอาแต่น้ำตาซึมไม่พูดไม่จาเขาจึงต้องแบกเจ้าตัวขึ้นหลัง
    แล้วพาไปที่ค่ายด้วยกัน

     

                    ชั้น....ก็แค่เผลอทำกระเป๋ากับรองเท้าตกไปในถังน้ำมันหลังสตูดิโอน่ะ ก็เลยไม่มีรองเท้าใส่
    นี่เป็นเหตุผลที่งี่เง่าที่สุดในชีวิตที่คนอย่างยูริ ชิเนนจะสรรหามาอ้างได้ หยาดน้ำใสๆ ไหลลงมาอาบแก้ม
    เขารู้สึกสมเพชตัวเองที่พ่ายแพ้ยามาดะ เรียวสุเกะอย่างยับเยินจนถึงกับต้องเดินเท้าเปล่าบากหน้าไปโทรขอความช่วยเหลือ
    จากคนในจั๊มพ์แบบนี้

     

                    อ่านะ แย่จังเลย ถ้างั้นแวะที่ร้านรองเท้าตรงมุมถนนหน้านี่ละกันนะ เดี๋ยวชั้นซื้อรองเท้าให้
    ยูยะเปรยโดยไม่รู้สึกว่าคนข้างหลังกำลังร้องไห้ เจ้าตัวสาวเท้าไปยังที่หมายที่ว่านั่นอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่เข้าไป
    ในร้านรองเท้าผ้าใบแบรนด์เนมร้านหนึ่ง ก่อนที่ร่างสูงจะจัดแจงหารองเท้าที่เหมาะสมและดูดีให้กับชิเนน
    แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินไปที่อาคารที่ทำการของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่จอห์นนี่จูเนียร์

     

                    โย่ววว...นายสองคน มีของกินติดมาหรือเปล่า? เสียงทักทายที่แสนสดใสจากยาโอโตเมะ ฮิคารุ
    โจ๊กเกอร์ประจำจั๊มพ์ดังขึ้นทันทีที่ยูยะเปิดประตูห้องซ้อม ภายในห้องซ้อมอันกว้างขวางมีรุ่นพี่เบสท์อยู่กันเกือบครบ
    ขาดแค่ไดกิที่ยังมาไม่ถึง ส่วนเหล่าเซเว่นก็มีแค่เคย์โตะ ยูโตะเท่านั้น

     

                    จะบ้าเรอะ? มาซ้อมนะ ไม่ได้มากินโต๊ะจีนอย่างนายน่ะฮิคารุ ทาคากิตอบกลับก่อนจะเดินเอากระเป๋า
    ไปวางไว้ที่มุมห้อง ชิเนนเองก็เช่นกัน สีหน้าที่เรียบเฉยของคนตัวเล็กทำเอาทุกคนในห้องแอบมองอย่างสงสัย

     

                    เฮ้ย ยูยี่คุง...ทำไมชิเนนดูหน้านิ่งๆ จัง? ปกติเวลาซ้อมทีไรออกจะเริงร่านี่ ฮิคารุกระซิบกับสมาชิกสุดเท่ห์
    แห่งเฮเซย์เบสท์อย่างสงสัย

                   

                    ชั้นชื่อยูยะเฟ้ย!! ไอ้บ้า!! ก็เห็นว่าชิเนนคุงเขาทำกระเป๋ากับรองเท้าหล่นในถังน้ำมันที่สตูดิโอน่ะ
    กระเป๋าสตางค์ มือถือ ซีดีอาราชิที่เพิ่งซื้อโดนน้ำมันท่วมเลย แถมไม่มีรองเท้าใส่เลยโทรให้ชั้นไปรับที่สตูฯด้วย

     

                   

     

                    ร่างเล็กนั่งลงที่เก้าอี้มุมห้อง สายตากวาดมองไปทั่วห้อง ความสงสัยแปลกใจผุดขึ้นมาในหัวสมองของชิเนน
    มากมาย ทำไมจู่ๆ ยามาดะ เรียวสุเกะถึงได้มีท่าทีที่แปลกไป? จู่ๆ ทำไมหมอนั่นถึงได้จงใจเอาคืนเขาได้ราวกับ
    อยากเอาชนะแบบนี้? มันเป็นเพราะอะไรกันแน่นะ?

     

                    อะไรกันน่ะยูโตะ เอาใหม่อีกทีสิ เสียงเคย์โตะโวยวายเป็นภาษาญี่ปุ่นในแบบที่ไม่ค่อยชัดนัก
    เจ้าตัวกำลังอ้อนวอนให้ร่างสูงสอนเต้นแท็ปใหม่อีกรอบ หลังจากที่เขาคิดว่าการเต้นแท็ปแบบยูโตะช่างเท่ห์บาดใจ
    พอๆ กับการโซโล่กีต้าร์ตัวโปรดเลยทีเดียว

     

                    แบบนี้ไงเล่าคุณเม่นตาถั่ว นี่ๆๆ แบบเนี้ยไง ว่าแล้วยูโตะก็ออกเสต็ปให้คุณชายโอคาโมโตะได้ชม
    และทำตาม แต่ด้วยความที่มันเร็วจนเกินไป ทำให้อีกฝ่ายเต้นตามไม่ทัน

     

                    ดวงตาเรียวเหลือบมองแผ่นหลังของยูโตะที่ยืนอยู่หน้ากระจกและกำลังสอนท่าให้เคย์โตะอย่างเพลิดเพลิน
    ฉับพลันสมองของยูริ ชิเนนก็นึกอะไรบางอย่างออก เมื่อวานนี้เขาทะเลาะกับริวทาโร่อย่างเอาเป็นเอาตายในห้องน้ำ
    ในขณะที่ยูโตะวิ่งตามยามาดะไป เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้น แต่ที่รู้ๆ ก็คือยูโตะมีอาการเหม่อลอยเล็กน้อย
    หลังจากนั้น ส่วนยามาดะก็กลายเป็นคนที่ร้ายกาจขนาดที่รับมือกับเขาได้อาจจะเกี่ยวข้องกันกับยูโตะ
    แสดงว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นสักอย่างแน่ๆ


     

                    ยูโตะ...ขอชั้นคุยด้วยหน่อยสิ เสียงแหลมเล็กที่โพล่งขึ้นมาทำให้ทุกคนภายในห้องถึงกับเงียบ
    ละหันมามองที่ต้นเสียง โดยเฉพาะคนที่ถูกเรียกที่ทำหน้าเหวอก่อนจะโดนร่างเล็กฉุดกระชากข้อมือให้หลบมาที่มุมห้อง

     

                    มีอะไรหรอชิเนน? ร่างสูงโปร่งเอ่ยถาม ชิเนนได้แต่กวาดสายตาเหี้ยมๆ มองไปยังฮิคารุ
    ที่กำลังจะย่องเข้ามาแอบฟัง มองยาบุ อิโนะและยูยะที่ยืดคอมองเขาทั้งคู่อย่างสนอกสนใจ มองเคย์โตะ
    ที่เอียงหูฟังอย่างเสียมารยาท

     

                    ชั้นจะคุยธุระสำคัญกับยูโตะ.....แค่สองคน สิ้นเสียงเล็ก ทุกคนก็รีบแยกย้ายกันทำกิจวัตรของตนต่อ
    โดยไม่กล้ามายุ่งวุ่นวายเพราะดูจากท่าทางเมื่อครู่ก็รู้ได้ว่าชิเนน ยูริคงอารมณ์ไม่ดีเท่าไรนัก

     

                    ว่าไงมีอะไร? ยูโตะถามอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเพื่อนคนนี้ ใบหน้าสวยฉายแววกังวล
    และเคร่งเครียดเสียจนตัวเขารู้สึกไม่ดีตามไปด้วย

     

                    เมื่อวานนี้นายคุยอะไรกับยามาดะ? บอกชั้นได้มั้ย? ทำไมหน้านายกับยามาดะถึงได้มีรอยแดง
    เป็นรูปมือเหมือนกันล่ะ?
    ยูริกระซิบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่จริงจังจนยูโตะไม่กล้าพอที่จะไม่ตอบ

     

                    ชั้นกับยามาดะก็ทะเลาะกันเหมือนนายกับริวทาโร่นั่นแหละ ไม่มีอะไรหรอก ร่างสูงตอบพลางหลบสายตาลงต่ำ
    เขาไม่อยากจะพูดถึงมันต่อหน้าชิเนนเท่าไรนัก เพราะเมื่อวานเขาเป็นต้นเหตุให้ริวทาโร่กับชิเนนต้องทะเลาะกัน
    เขานี่แหละที่เป็นฝ่ายผิดเต็มประตู

     

                    คือเรื่องเมื่อวาน....ชั้นขอโทษนะ...คือชั้น.... ยูโตะกลืนน้ำลายไม่ลง พูดอะไรไม่ถูกทั้งๆ ที่อยากจะขอโทษอีกฝ่าย
    แต่ว่าสิ่งที่เขาไปมันเป็นเรื่องร้ายแรงเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ หากเมื่อวานนี้เขาไม่โมโหที่บังเอิญไปเห็นยามะจัง
    คุยกับยูมะอย่างสนิทสนมละก็..เขาคงไม่เผลอพลั้งจูบชิเนนไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบแบบนั้นแน่ และอีกอย่างเขาเอง
    ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกโมโหและหงุดหงิดทุกทีที่เห็นสองคนนั้นอยู่ใกล้กัน อาจจะเป็นเพราะความเคยชิน
    และความหวาดระแวงที่เขาเคยมี ที่เขาเคยกลัวว่ายูมะจะมาแย่งยามาดะไปจากเขาในตลอดเวลาที่เคยคบกับยามาดะ

     

                    ช่างเถอะ...ถึงไม่มีเหตุการณ์เมื่อวานชั้นกับริวทาโร่ก็ไม่ได้สนิทกันมากขึ้นหรอก
    แต่ว่าชั้นกำลังสงสัยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับยามาดะ...
    สีหน้าครุ่นคิดของคนตัวเล็กทำให้ยูโตะเริ่มสงสัย
    ชิเนนจึงตัดสินใจเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ฟัง แต่เขาเล่าเพียงแค่เหตุการณ์ที่ยามาดะแกล้งเขาคืนเท่านั้น
    หากขืนบอกยูโตะว่าเขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน มีหวังยูโตะโกรธเขาตายแน่ๆ

     

                    ที่ข้าวของๆ ชั้นเป็นแบบนี้และที่ชั้นไม่มีรองเท้าใส่จนต้องโทรหารุ่นพี่ยูยะน่ะ ก็เพราะยามาดะนั่นแหละ
    หมอนั่นเอาของๆ ชั้นไปราดด้วยกาวกับน้ำมันเครื่องแถมหมอนั่นยังเผารองเท้าชั้นด้วย...ยูโตะ ฮึก...
    หมอนั่นคงจะโกรธเรื่องที่ชั้นไปชอบริวทาโร่แน่ๆ เลย
    ยูริเล่าก่อนจะร้องไห้ซบอกยูโตะ มือแกร่งลูบหัวร่างเล็กเบาๆ

     

                    ชั้นว่านายเข้าใจผิดแล้วล่ะชิเนน นี่มันแรงมากเลยนะ!! ยามาดะเองก็ไม่ใช่คนแบบนั้น....
    มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้ นายเห็นหมอนั่นตอนทำหรอ? ชั้นว่านายอย่าไปว่ายามาดะเลยน่า....
    ถ้าหมอนั่นทำจริงก็ไม่ใช่คนแล้ว
    ยูโตะปลอบท่ามกลางสายตาสงสัยของคนในห้อง

     

                    ถึงชั้นจะไม่เห็นตอนหมอนั่นทำ แต่ชั้นก็มั่นใจว่าเป็นมัน...แถมยามาดะเองยังยอมรับกับชั้นหน้าตาเฉย
    ว่าเป็นคนทำเลยนะ
    ชิเนนอ้อนวอนยูโตะทั้งน้ำตา

     

                    เอาเถอะนะ ตอนนี้ทำใจให้สบายเดี๋ยวเราต้องซ้อมหนักกันแล้วนะ พอเถอะๆ ร่างสูงพยายามปลอบ
    ให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ คนหน้าสวยเห็นว่ายูโตะยังไม่เชื่อในคำพูดของตนจึงยอมหยุดร้องไห้โดยดี
    ถึงแม้ว่าในใจจะขุ่นเคืองแค่ไหนก็ตาม

     

                    ครืดดด....ยูมะกับริวทาโร่เปิดประตูเข้ามาในห้องพลางทักทายคนในห้องอย่างร่าเริง
    ดวงตากลมของริวทาโร่เหลือบยูริกับยูโตะที่ยืนกอดกันอยู่มุมห้องอย่างขุ่นเคือง ตามมาด้วยไดกิ
    ที่บังเอิญเจอกันที่หน้าตึกก็เลยเดินมาด้วยกัน

     

                    เฮ้ๆ พวกนายน่ะ มาช้านะ มีของกินมาเป็นส่วยค่ามาสายหรือเปล่า? น้ำเสียงกวนๆ และคำถามเดิมๆ
    ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากฮิคารุ ทั้งสามคนที่เพิ่งมาใหม่มองหน้ากันอย่างมึนๆ ก่อนจะพร้อมใจเขวี้ยงกระเป๋าใส่รุ่นพี่
    อย่างหมั่นไส้ ทำให้เกิดการจราจลย่อมๆ ภายในห้อง

     

                    เลิกร้องไห้ได้แล้ว ริวทาโร่มาแล้วนะ หมอนั่นจ้องชั้นอย่างกับจะกินชั้นแล้ว ยูโตะกระซิบ
    เพราะชักจะเกรงๆ สายตาของน้องเล็ก เขาเองก็ไม่รู้ว่าที่หมอนั่นมองเขาเพราะว่าเขากำลังกอดชิเนนอยู่
    หรือเพราะมองเพราะโกรธที่รู้ว่าเขาเป็นคนตบหน้ายามาดะเมื่อวานนี้

     

                    ร่างเล็กผละอ้อมกอดออกมาด้วยสีหน้าร่าเริงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเอาร่างสูงงงกับการเปลี่ยนอารมณ์
    ราวนักแสดงมืออาชีพของชิเนน แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมากเกินไปกว่านี้จึงสร้างบรรยากาศร่าเริงให้กับทุกๆ คน
    โดยการไปหลั่นล้าบ้าบออยู่กับฮิคารุ

     

                    ริวทาโร่ยิ้มหน่อยสิ หน้าบึ้งเชียวนะ หัวหน้าวงอย่างยาบุ โคตะใช้สองมือยืดแก้มน้องเล็กเต็มแรง
    เพื่อให้อีกฝ่ายเลิกตีหน้าขรึมใส่คนอื่นๆ ซึ่งนั่นก็ได้ผล คนถูกยืดแก้มดิ้นพราดๆ พลางตีมือหัวหน้าวงเต็มแรง

     

                    ทุกคนดูสิ ริวทาโร่ยิ้มแล้ว!!” ยาบุตะโกนโดยที่ยังไม่ยอมปล่อยมือออก หนุ่มน้อยโมริโมโตะน้ำตาเล็ด
    พลางดิ้นสุดชีวิต ทุกคนได้แต่หัวเราะลั่น ทันทีที่ยาบุปล่อยมือ หนุ่มน้อยก็จัดการขึ้นเข่ากับหัวหน้าวงอย่างไม่เกรงใจทันที

     

                    เอาเถอะ ในเมื่อทุกคนร่าเริงแล้วก็ซ้อมกันได้ โอ้สสส!!!!” ยาบุตะโกนรวมพล
    หลังจากที่โดนเข่าริวทาโร่จนจุกเกือบพูดไม่ออก ทุกคนจึงเตรียมพร้อมที่จะซ้อมอย่างเต็มที่
    ทำให้บรรยากาศการซ้อมในวันนี้เป็นไปอย่างบ้าระห่ำ ทั้งชิเนน ริวทาโร่ เคย์โตะที่ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน
    ถึงซ้อมได้เมามันกว่าทุกที

     

                    ดวงตากลมของริวทาโร่เหลือบมองชิเนนแทบจะตลอดเวลาในขณะที่คนถูกจ้องมองเอาแต่หลบสายตาอีกฝ่าย
    ตลอดเวลา เจ้าริวไม่รู้เลยว่าสายตาที่ตนจ้องมองชิเนนนั้น ทำให้ชิเนนรู้สึกใจเต้นมากขนาดไหน แต่ความคิดของริว
    ไม่ได้คิดเฉกเช่นเดียวกับชิเนน เขากำลังสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นฝีมือของยูริ ชิเนนคนนี้
    อย่างที่เขาคาดการณ์ไว้หรือไม่...

     

    ..................................................

    ขอโทษที่ให้รอค่ะ
    เผอิญช่วงนี้ยุ่งมากๆ เลย เวลานอนก็ไม่ค่อยจะพอ
    ตอนนี้พยายามหาเวลาแต่งเรื่องนี้ให้จบก่อนไปเรียนต่อ
    ลืมบอก....ไรท์เตอร์จะไปเรียนต่อที่แคนาดาในช่วงสิงหากันยานี้
    เลยไม่อยากให้ฟิคนี้ติดค้างเอาไว้ เลยจะพยายามอัพบ่อยๆ ให้จบ
    หรือถ้าไม่จบ ก็จะพยายามให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
    เพราะอยู่ที่โน่นคงจะอัพได้ไม่บ่อยเท่าไร เวลาแต่งก็น้อยลง
    เลยบอกไว้ล่วงหน้าก่อนเลย
    เข้าเรื่องฟิคหน่อยนึง อะแฮ่มๆ
    ตอนนี้แต่งเองก็แอบเคืองยูริอ่ะ ที่เล่าเรื่องวีรกรรมของยามะฝ่ายเดียว
    ไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นคนเริ่มก่อน ดีที่โตะรินยังไม่เชื่อ แต่โตะรินก็แอบหึงยามะ
    ขนาดหน้ามืดไปจูบกะยูริ กรี๊ดกร๊าดดด (ได้ข่าวว่าแต่งเอง จะกรี๊ดไมฟะ???)
    นั่นแหละๆ สปอยตอนหน้าเล็กน้อย
    ..................................

    รูปนี้คือนายใช่มั้ย? ริวโนะสุเกะจิ้มรูปๆ หนึ่งที่ตีพิมพ์อยู่บนหน้ากระดาษนั้น มันเป็นรูปของผม
    ที่กำลังจูบยูโตะเมื่อสองวันก่อน ดูจากภาพแล้วเหมือนว่าถ่ายจากบนอาคารเรียนแสดงว่าคนถ่าย
    ต้องเป็นนักเรียนโรงเรียนนี้ไม่ผิดแน่ แต่รูปมันดูราวกับว่าใช้มุมกล้องเอาเลยดูเหมือนจูบกัน
    ถึงแม้ว่าวันนั้นผมกับยูโตะจะจูบจริงก็เถอะนะ แต่ทว่าข้างล่างรูปนั่นก็ยังมีรูปที่ถ่ายจากด้านข้าง
    เห็นใบหน้าของผมกับยูโตะชัดเจน


    พวกนาย....ทำไมถึงได้มีรูปพวกนี้ออกมาได้ห๊ะ? รู้มั้ยว่ามันเสื่อมเสียแค่ไหน?

    เรื่องที่นายสองคนคบกันน่ะ คิดว่าชั้นไม่รู้หรอกหรอ?


    ตายแน่ๆ ยามาดะเอ้ย ทั้งพ่อแม่ ผู้จัดการ เจ้าของค่ายชำแหละแกแน่ๆ ยามะจัง!!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×