ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ] Painted Boy ฉันจะร้าย..ถ้านายไม่รัก

    ลำดับตอนที่ #6 : คนน่าสมเพชกับที่ปรึกษา

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 53


             

     

                บรรดาเด็กนักเรียนพากันเดินว่อนทั่วทั้งโรงเรียนจนโถงทางเดินแทบจะไม่มีที่ให้เดิน เสียงเพลงและเสียงคุยกัน
    ของเหล่านักเรียนทำให้ผมยิ่งรู้สึกเวียนหัวเข้าไปใหญ่ ริวโนะสุเกะรีบลากผมให้ออกมานอกตึกที่แสนวุ่นวาย
    เราสองคนเดินมาหลบอยู่ที่สวนหลังโรงเรียนที่เงียบสงบเพื่อหาที่ๆ เหมาะแก่การทานมื้อกลางวันอันแสนอร่อย

     

                    วันนี้มีงานนิทรรศการโรงเรียนครั้งใหญ่ในรอบปี นักเรียนทุกคนต้องทำกิจกรรมตามซุ้มต่างๆ
    และคิดคอนเซปต์ของแต่ละซุ้ม เมื่ออาทิตย์ก่อนผมกับริวโนะสุเกะเลือกที่จะทำงานเบื้องหลังโดยการออกแบบและทาสี
    ซุ้มขายน้ำผลไม้ประจำห้อง ด้วยความสามารถทางศิลปะของริวโนะสุเกะกับความรั่วในการทาสีของผม ทำให้ซุ้มออกมาดูดีทีเดียว
    เพราะอย่างงี้ผมกับริวโนะสุเกะจึงไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าซุ้มของห้อง เราสองคนก็เลยว่างตลอดวันจึงมาหาที่ๆ เงียบสงบเพื่อหลบหลีกความวุ่นวายและส่วนตัวผมเองก็กำลังหาที่หนีใจตัวเองเช่นกัน

     

                    แน่นอนว่างานโรงเรียนที่ใหญ่ขนาดนี้ ย่อมมีสเตจย่อมๆ ให้กับดาราศิลปินหลายแขนงมารวมตัวกันเป็นประจำทุกปี
    แล้วมีหรือที่จั๊มพ์จะไม่ได้รับเชิญมาร่วมสเตจในครั้งนี้ ปีก่อนๆ ผมก็เคยมาขึ้นไลฟ์ที่นี่แทบจะทุกปีแต่ก็ไม่เคยคิดหรอกว่าจะได้ย้ายมาเรียนที่นี่แล้วก็มานั่งหลบหนีความเป็นจริงที่ผมรับไม่ได้แบบนี้

     

                    ตั้งแต่เช้าแล้วที่ผมเห็นเหล่าจั๊มพ์กำลังเตรียมตัวกันอย่างตื่นเต้นสนุกสนานอยู่ที่ห้องพักที่จัดไว้ให้
    ซึ่งดันมาติดกับห้องเรียนของผม ผมเองกะว่าจะเข้าไปทักไดกิแต่ว่าชิเนนมาขวางไว้ ผมเลยรีบลากริวโนะสุเกะออกมา
    ให้ออกห่างจากบริเวณนั้น ผมรู้สึกเจ็บที่ได้มองเข้าไปท่ามกลางกลุ่มจั๊มพ์ซึ่งนั่นเป็นที่ๆ ผมเคยอยู่
    และการที่ไม่ได้มีผมอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ทำให้จั๊มพ์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง กลับดีขึ้นๆ ดีมากกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยซ้ำ

     

                    ยามะจัง....นายคงเจ็บสินะ จู่ๆ ริวโนะสุเกะที่กำลังคีบไส้กรอกทอดอันเล็กเข้าปากก็เปรยขึ้น
    ผมที่นั่งพิงต้นหลิวอยู่บนพื้นหญ้าหันไปมองเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างประหลาดใจ

                   

                    หืม? เป็นชั้น...ชั้นก็ทำอะไรไม่ถูกหรอก แต่ไม่เป็นไรนะ ชั้นจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง
    เสียงของริวโนะสุเกะพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง ผมยิ้มรับความหวังดีนั้นอย่างอบอุ่นใจ

     

                    ขอบใจนะ ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหนีพวกนั้นมาทำไม แต่ถ้าเลือกที่จะเผชิญหน้า...ชั้นนี่แหละที่จะเจ็บเสียเอง
    ผมตอบกลับไปโดยที่ไม่ทันรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป รู้แต่ว่านั่นเป็นความรู้สึกของผมจริงๆ ที่ได้เผยออกไป

     

                    นายนี่น้า....จะคิดถึงเรื่องเก่าๆ แบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน
    เสียงของบุคคลที่สามทำให้ผมกับริวโนะสุเกะหันขวับไปมองเจ้าตัว ที่ยืนหลบมุมอยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไรนัก

     

                    ซานาดะ ยูมะ...แอบฟังคนอื่นมันเสียมารยาทนะ ริวโนะสุเกะโวยลั่น คนถูกโวยได้แต่ยิ้มก่อนจะเดินมาร่วมวงด้วย

     

                    ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าในจั๊มพ์มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เรื่องของนายเป็นประเด็นมากเลยนะสำหรับเด็กจอห์นนี่
    ชั้นไม่เห็นด้วยถ้านายจะมานั่งเจ็บช้ำทั้งๆ ที่เรื่องมันผ่านมานมนานแล้ว
    ยูมะเปรย

     

                    ชะ...ชั้น... ผมอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก มันก็ถูกอย่างที่ยูมะว่า ผมไม่ควรเก็บเรื่องพวกนี้มาคิดอีก
    แต่ไม่ว่าผมพยายามเท่าไร เรื่องนี้ก็ไม่เคยเลือนหายไปได้เลย

     

                    พวกนั้นไม่เห็นหัวนายแล้วนะเรียวสุเกะ เวลาชั้นถามถึงนาย..พวกนั้นก็ไม่ตอบชั้นเลย
    ชั้นว่านายพอเถอะ...มันน่าสมเพช
    นี่หยุดเถอะยูมะ อย่ามาพูดตอกย้ำให้ยามะจังรู้สึกแย่หน่อยได้มั้ย?
    ริวโนะสุเกะขัด ผมที่นั่งน้ำตาคลอต้องเป็นชะงักเมื่อเห็นทั้งสองคนเริ่มจ้องหน้ากันเขม็ง

     

                    โอเคๆ ชั้นเข้าใจว่าพวกนายเป็นห่วงชั้น ชั้นจะพยายามลืมนะ
    ผมยิ้มออกไปเพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียดมากขึ้น ยูมะจึงเดินจากไปอย่างนิ่งเฉย ริวโนะสุเกะเองก็ก้มหน้าก้มตากินต่อ

     

                    ตลอดการทานเบนโตะของผม ริวโนะสุเกะพยายามชวนผมคุยเรื่องตลกๆ เพื่อหวังให้ผมหายคิดมากไปมากกว่านี้
    ผมนึกขอบคุณริวโนะสุเกะที่คอยอยู่เคียงข้างผม และก็ขอบคุณยูมะด้วยที่ทำให้ผมคิดได้ ผมตั้งใจไว้แล้วล่ะ..
    ว่าผมจะลืมเรื่องราวร้ายๆ นั่นให้ได้!!

     

                    เอ่อ...ยามะจัง? เสียงๆ หนึ่งขัดจังหวะการกินของผม ผมหันไปมองอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
    ที่เนื้อทอดสอดไส้ชีสที่กำลังจะเข้าปากผมเป็นอันต้องชะงักไป ทำไมนะ..มีแต่คนขัดเรื่อยเลยแฮะ

     

                    นากายามะคุง...มีอะไรหรอ? ผมละตะเกียบอย่างเสียดายก่อนจะหันมาหาเจ้าตัวที่ยืนทำหน้าหงอยๆ ผิดปกติ
    ราวกับมีเรื่องอะไรในใจ สีหน้าของเขาตอนนี้เหมือนกับสีหน้าของเขาในเรื่องแวมไพร์บอย ตอนที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตายไม่มีผิด

     

                    คือว่าชั้นมีเรื่องจะปรึกษานายแน่ะ ยูมะเอ่ย ริวโนะสุเกะจึงเอ่ยชวนยูมะให้นั่งลงก่อนที่จะเริ่มเป็นที่ปรึกษาให้กับยูมะ
    สิ่งที่ยูมะมาปรึกษาผมก็คือเรื่องของยูริไม่ผิดแน่ผมเดิมพนันด้วยเนื้อทอดชิ้นนี้ของผมเลย ทำไมน่ะหรอ?
    ก็เพราะว่ายูมะชอบชิเนนน่ะสิ!

     

                    เมื่อวันวาเลนไทน์ปีก่อนผมจำได้ว่าผมช็อกสุดขีดที่ถูกยูมะสารภาพรักและให้ช่อดอกไม้
    นั่นทำให้วันนั้นทั้งวันยูโตะไม่ค่อยคุยกับผมจนผมต้องไปตามง้อ หลังจากวันนั้นยูมะเองพยายามเข้ามาตีสนิทใกล้ชิดกับผม
    แต่ก็ต้องพ่ายแพ้กลับไปทุกครั้งเพราะมีสายตาจิกโหดโคตรเหี้ยมไร้พ่ายของยูโตะคอยจับจ้องทุกคนที่เข้าใกล้ผมโดยเฉพาะยูมะ
    เลยทำให้เจ้าตัวรู้ว่าผมกับยูโตะคบกัน ยูมะจึงถอยห่างออกไปถึงแม้ว่าทางค่ายจะจับให้ผม ยูมะและชิเนนเข้ามารวมเป็นยูนิตเดียวกัน
    ซึ่งสร้างความขุ่นเคืองให้กับยูโตะมากก็เถอะ ยูมะเองก็พยายามวางตัวเป็นแค่เพื่อนจนในที่สุดเขาก็เลิกชอบผม
    แต่ดันไปชอบคนปากร้ายอย่างยูริเข้า อดีตเพื่อนอย่างผมจึงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้ยูมะไปโดยปริยาย
    ซึ่งยูริเองก็รู้ตัวว่ายูมะชอบตัวเองแต่ก็หยิ่ง เล่นตัวไม่เข้าเรื่อง คงรู้ว่าผมเป็นที่ปรึกษาให้ละมั้งถึงได้ตีตัวปฏิเสธยูมะซะขนาดนั้น

     

                    หลังที่การปรึกษาปัญาหาหัวใจจบลง ยูมะเองก็มีสีหน้าที่แจ่มใสขึ้นมากทำให้ผมรู้สึกดีไปไม่น้อยกว่าเจ้าตัวเลย
    ริวโนะสุเกะเองก็ยินดีที่เห็นผมกับยูมะยิ้มได้อย่างร่าเริงแต่ผมยิ้มออกได้ไม่นานนักเมื่อเหลือบไปเห็นเนื้อทอดสอดไส้ชีสของผม
    เต็มไปด้วยมดสีดำเกาะกันขยุกขยุย

     

                    อ้ากกกกกกกกกกกก..........เนื้อทอดของช้านนนน เสียงผมโวยวายดังไปลั่นทุ่ง
    ริวโนะสุเกะกับนากายามะหน้าเหวอไปชั่วขณะ ยูมะถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อนิ้วเรียวของผมชี้ไปที่หน้าของเขา

     

                    เพราะนาย..ยูมะ เอาเนื้อทอดของชั้นคืนม๊า~”
    ผมกระชากคอเสื้อพลางเขย่าร่างโปร่งนั่นจนสั่นเป็นเจ้าเข้ายิ่งกว่าแผ่นดินไหวแปดริกเตอร์

     

                    อะไรของนายห๊ะ? ยาม้าจัง... เสียงทุ้มหล่อๆ ของคนถูกเขย่าร่างดังขึ้น
    ทำเอาผมแทบจะร้องกร๊าซเป็นก็อดซิลล่าในอุลตร้าแมนแม็กซ์

     

                    ชั้นชื่อยามะจัง!! ไม่ใช่ยาม้าจัง ไอ้บ้ายูมะ!! เสียงว้ากอันเป็นมลภาวะทางเสียงของผม
    ทำให้ยูมะและริวโนะสุเกะหัวเราะคิกคักราวกับกำลังดูหนังตลกยังไงยังงั้น

     

                    ก็แรงนายเยอะยังกับกินยาม้าเข้าไปทั้งลังแน่ะ หนุ่มน้อยผู้รับบทแวมไพร์ผู้อ่อนแอแย้งขึ้นมาอย่างกวนๆ
    โดยไม่สนใจชุดยูนิฟอร์มของตัวเองว่าจะถูกผมขยำจนยับเยินขนาดไหน

     

                    กร๊าซซซซซซซซซซซซ.... ผมเริ่มกลายร่างเป็นก็อดซิลล่าขึ้นมาจริงๆ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายก็ดันรู้ตัว
    รีบวิ่งชิ่งหนีหายไปในมุมตึกเสียแล้ว ทิ้งให้หนุ่มน้อยก็อดซิลล่า(?) อย่างผมอยู่กับนักสืบน้อยจากคิวคลาสเพียงลำพัง

     

                    ชั้นว่านายเอาไปทิ้งเถอะยามะจัง มากินกับชั้นก็ได้ ริวโนะสุเกะปลอบใจผมพลางตบไหล่เบาๆ
    ทำเอาหนุ่มน้อยที่แสนร้อนแรงไปด้วยอารมณ์โกรธอย่างผมต้องชะงักไป

     

                    แต่ว่าริวโนะ....มันเป็นอภิมหาสุดยอดสุโค่ยของกินที่ชั้นโปรดปรานเลยนะ T^T”
    ผมถือเบนโตะขึ้นมาพลางจ้องสายตาอ้อนวอนคุณมดทั้งหลายที่เกาะกินอยู่บนเนื้อทอดอย่างเอร็ดอร่อย
    ได้โปรด...นั่นเนื้อทอดของผมน้า
    ~

                    เถอะนะ ยามะจัง^__^ คิดซะว่าเลี้ยงข้าวคุณมดมื้อนึงละกัน

     

    คำปลอบจากเพื่อนรักของผมไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย ยามาดะคนนี้จึงกล้ำกลืนฝืนใจถือเบนโตะออกมา
    จากที่ตรงนั้นแล้วหาที่ทิ้ง

                    ผมเดินมาจนถึงห้องน้ำหลังโรงเรียนซึ่งเป็นอาคารเล็กๆ แยกออกมาจากตัวตึกอีกทีหนึ่ง
    ข้างๆ ห้องน้ำนั่นมีถังขยะวางเรียงเป็นตับราวกับกำลังรอให้ผมเข้าไปเลือกทิ้งให้ถูกถัง ทิ้งไม่ถูกโดนจับ โดนปรับคุมประพฤติ
    (เหมือนสโลแกนเมาแล้วขับยังไงไม่รุ้แฮะ
    - คนแต่ง) แต่ทว่าหูของผมก็แว่วได้ยินเสียงๆ หนึ่งดังมาจากห้องน้ำ

     

                    อื้มมม~ ชิเนน...


                    ยูโตะ...

     

                    เสียงหัวใจผมเต้นตึกตักอย่างระทึกด้วยความตื่นเต้น ในสมองผมคิดไปต่างๆ นานาถึงเจ้าของเสียงสองคน
    ที่กำลังทำซัมติงกันอยู่ในห้องน้ำ ถึงแม้ผมจะไม่อยากเห็นภาพแต่เท้ามันก็ก้าวไปเสียแล้ว

    ...........................

    ค้างชิมิล่ะ???
    ฮ่าๆ ขอโทษที่ให้รอนานจ้ะ จริงๆ อยากอัพให้ยาวกว่านี้เพราะตอนไคลแม็กซ์อยู่ในตอนถัดไปนี่เอง
    ก็เอาเท่านี้ไปก่อนละกันนะ ข้าพเจ้ายังไม่ได้อัพฟิคเกาหลีอย่างที่ได้สั่งเสียไปเลย
    โฮกกกก......ชีช้ำ
    ตอนที่แต่งตอนนี้รู้สึกเครียดมาก กดดันมากจากชีวิตและผู้คนรอบข้าง เลยกะว่าจะแต่งฉากบีบจิตที่เจ็บปวดสุดๆ
    กลับกลายเป็นว่าได้ฉากตลกโปกฮาของยามะกับยูมะซะยังงั้น -*- อนาถจิตจริงๆ
    เดี๋ยววันที่ 28 นี้จะอัพฟิค(อาจจะเป็นตอนพิเศษ)เพื่อฉลองวันเกิดให้ตัวเองนะคะ
    ปีนี้ข้าพเจ้าอายุสิบแปดแล้ว แท่นแท๊นนน~ แปะๆๆๆ<<เสียงปรบมือ
    รอติดตามตอนต่อไป....
    ... N eL’
    L

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×