คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : 真紅 100%
ความหนาวเหน็บที่ปกติทำให้ผมต้องค่อยๆ ลืมตาขึ้น ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเวียนหัวจวนจะคลื่นไส้มากแค่ไหนก็ตาม
จมูกของผมเกิดอาการแสบคันพร้อมที่จะจามได้ทุกเมื่อ แต่ทว่าผมยังคงเวียนหัวอยู่จึงพยายามกลั้นจามเอาไว้
ไม่งั้นผมคงได้สลบเหมือดอีกรอบหลังจากจามครั้งนี้เป็นแน่
กระจกใสที่เริ่มขุ่นมัวเนื่องจากมีไอน้ำเกาะกลุ่มกันอยู่บนกระจกคือสิ่งแรกที่ผมเห็น
อีกด้านของกระจกบานนี้มีเพียงความมืดมิดเท่านั้นที่ดวงตาของผมสามารถสัมผัสได้
รอบๆ กายผมเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงแน่นขนัด ตัวผมเองนั้นก็อยู่ในชุดยูกาตะสีแดงเข้มประดับดิ้นสีทองอันงดงาม
สติสัมปชัญญะที่พร่าเลือดเริ่มกลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้งเมื่อผมพบว่าร่างกายของผมถูกพันธนาการด้วยเถาวัลย์เส้นเล็กๆ
ที่เหนียวแน่นแข็งแรงซึ่งตราตรึงร่างของผมให้ติดแหง็กอยู่กับแท่นสีขาวๆ ภายในที่แห่งนี้
ผมเริ่มตระหนักชัดเจนได้อีกครั้งว่าตอนนี้ผมอยู่ในตู้แช่ดอกไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากแล้วก็มีดอกกุหลาบสีแดงจำนวนมากถูกแช่อยู่ในนี้ราวกับว่ามันถูกเอามาไว้ในตู้แห่งนี้เพื่อประดับประดาร่างของผมเสียมากกว่า
ปั้กก!!!
ผมเอาหัวกระแทกเข้ากับกระจกบานนั้นเต็มแรง หลังจากที่พยายามออกแรงแกะเถาวัลย์ที่รัดข้อมือออกแต่ก็ไม่เป็นผล
มันเป็นสิ่งที่แรกที่ผมคิดว่าควรจะทำเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากสถานการณ์แปลกๆ แบบนี้ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่
ผมกัดฟันแน่นเพราะความเจ็บปวด แต่ทว่าตอนนี้ผมรู้สึกกลัวจับใจ
ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน? คนที่ทำแบบนี้นั้นเป็นใคร? แต่ที่แน่ๆ ผมต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้
ปั้กกก!!! ปั้กกกก!!! ปั้กกก!!!
โลหิตสีแดงที่กำลังไหลรินเปรอะเปื้อนกระจกใสนั่นทีละน้อยหลังจากที่ผมพยายามจะเอาหัวกระแทกกระจกบานนี้ออก
เนื่องจากตู้แช่ดอกไม้มักจะมีบานประตูเป็นกระจกใจ หากผมออกแรงผลักมันให้เปิดออกได้
ผมก็คงจะมีทางหนีทีไล่ที่ดีกว่านี้
หยาดน้ำตาค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มพร้อมๆ กับหยาดเลือดที่ยังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
อุณหภูมิภายในตู้แช่นี่ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ แถมภายในตู้นี้ยังเต็มไปด้วยดอกไม้ ทำให้เกสรดอกไม้ฟุ้งกระจายไปทั่วตู้
จมูกของผมแดงกล่ำเพราะเจอะกับเหล่าละอองเกสรดอกไม้ ราวกับว่าเกสรเหล่านี้กำลังรุมกลั้นแกล้งผมจนหายใจไม่ออก
ใบหน้าซีดเซียวจากอุณหภูมิเย็นจัดกลับแดงขึ้นเรื่อยๆ เพราะขาดอากาศหายใจ
ไม่รู้ว่าสวรรค์หรือนรกส่งคนมาช่วยผมกันแน่ มีใครบางคนเอาผ้ามาเช็ดไอน้ำที่เกาะกระจกของตู้แช่ที่ผมอยู่นี่ออก
ทำให้ผมมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ชัดขึ้น
ภาพของหญิงสาวเจ้าของร้านที่กำลังมองมาที่ผมพลางยิ้มอย่างอ่อนหวานราวกับกำลังจ้องมองตุ๊กตาแสนสวยตัวโปรด
ผมพยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือผ่านดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตาของผม
หญิงสาวจึงเปิดประตูกระจกบานนั้นออกแล้วเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่ที่กระจกนั้นออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูจากกระเป๋าเสื้อของตัวเองแล้วยื่นมาซับเลือดที่หน้าผากของผมอย่างเบามือ
"อยู่นิ่งๆ นะ...ขืนปล่อยให้เลือดไหลแบบนี้ ยามะจังก็หมดสวยแย่เลย" เสียงหวานๆ แต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวของหล่อนดังขึ้น
"....." ผมทำได้แค่จ้องหน้าเธอไปเพราะผมพูดอะไรไม่ออกพลางพยายามกลั้นหายใจสุดชีวิต
เกสรดอกไม้พวกนี้กำลังจะทำให้ผมตายภายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว!!
"โถ...คงจะแพ้เกสรดอกไม้สินะ ไม่เป็นไรนะ อีกสักพักก็จะหายทรมานแล้วละ" หล่อนเอามือเนียนนุ่มของเจ้าหล่อน
มาลูบไล้ใบหน้าของผมอย่างรักใคร่
ผมในตอนนี้ที่น้ำตาไหลพรากเพราะแพ้เกสรดอกไม้พยายามฝืนกลั้นจามแล้วหันมาพูดกับเธอ
"เธอ...จะทำอะไร........."
หญิงสาวส่งยิ้มเย็นยะเยือกมาให้ผมแทนคำตอบ ผมจึงพยายามสอดส่ายสายตามองออกไปด้านนอก
เผื่อว่าผมจะพอรู้ได้ว่าตอนนี้ตัวผมอยู่ที่ไหน? แล้วผมจะหนีไปได้ยังไง?
แต่สิ่งที่ผมเห็นนั้นทำให้ผมเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้ดี แม้ว่าเจ้าหล่อนจะไม่ได้เปิดไฟภายในห้องนี้
แต่แสงไฟจากตู้แช่ดอกไม้ก็ส่องแสงเลือนรางพอที่จะมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายนอก
โปสเตอร์รูปภาพของผมถูกแปะไว้ที่ผนังราวกับเป็นวอลเปเปอร์ ภาพทุกภาพนั้นล้วนเป็นภาพที่ถูกแอบถ่าย
บางภาพที่ถูกใส่กรอบแขวนนั้นเป็นภาพช็อปที่ถูกเผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการ
นั่นทำให้ควาามทรงจำสมัยเด็กของผมผุดขึ้นมา ผมจำได้ว่าตอนสมัยที่ผมยังเป็นเด็กจอห์นนี่ใหม่ๆ
เวลาที่ยูโตะต้องการซื้อดอกไม้แสดงความยินดีกับรุ่นพี่ในค่าย มันมักจะมาซื้อดอกไม้จากร้านนี้
และผมก็มักจะมากับมันเสมอ และทุกครั้งที่มาผมก็จะโดนสายตาโลมเลียกับพฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าของร้าน
จนพักหลังๆ ยูโตะไม่พาผมมาที่ร้านนี้อีกเลย
“เธอ..คือ..........”
“ขอบคุณที่ยังจำชั้นได้นะยามะจัง” หล่อนยิ้มหลังจากพูดขัดคอผม
“ต่อไปนี้ยามะจังจะเป็นของชั้นคนเดียวเท่านั้น...ชั้นจะรักษาร่างที่เต็มไปด้วยความงดงามนี้ไว้ในตู้อย่างดีเลยล่ะ”
“บ้าน่า....” ผมร้องขัดทันทีที่ฟังจบ แต่หญิงสาวกลับไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด หล่อนยิ้มก่อนจะปิดตู้แช่นั่น
พร้อมล็อกตู้อย่างแน่นหนา ผมพยายามดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดออกไปได้ แต่ยิ่งขยับร่างกายมากเท่าไร
ก็ยิ่งหายใจไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งมีชุดยูกาตะที่แสนเกะกะด้วยแล้ว มันรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังตกนรกทั้งเป็นยังไงยังงั้น
หญิงสาวจ้องมองคนหน้าสวยที่อยู่อีกด้านของประตูกระจก ใบหน้าขาวเนียน ริมฝีปากชมพูระเรื่อ
เข้ากันได้ดีกับชุดยูกาตะสีแดงที่หล่อนเป็นคนตัดเย็บเองกับมือ แม้ว่าอีกฝ่ายจะร่ำไห้อย่างทรมานจากพิษเกสรดอกไม้มากเพียงใด
ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกผิดใดๆ ทั้งสิ้น แถมหญิงสาวยังยิ้มชอบใจเมื่อเห็นหยาดน้ำตาอาบลงบนใบหน้าสวยๆ ที่อยู่ตรงหน้า
ในที่สุด...ยามะจังก็เป็นของชั้น!!
ผลั่วะ!! ประตูห้องนั้นถูกเปิดออกอย่างรุนแรงและรวดเร็วเสียจนหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของสถานที่หันขวับไปมองอย่างตกใจ ร่างของชายหนุ่มสี่คนยืนกระหืดกระหอบหลังจากเปิดประตูบานนี้เข้ามาได้ ภายในห้องนั้นเงียบกริบมีเพียงเสียงหอบหายใจของสี่หนุ่มผู้มาใหม่เท่านั้น ในขณะที่เจ้าของร้านดอกไม้แต่ยืนหน้าเหวอ
“ยามาดะ!!” ริวทาโร่ร้องสุดเสียงหลังจากที่เห็นร่างของคนที่เขารักอยู่ในตู้แช่ดอกไม้เล็กๆ ตรงหน้า แถมสีหน้าอาการของอีกฝ่ายดูราวกับคนกำลังจะสิ้นสติในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้
“พวกนายอย่ามาเอายามะจังของชั้นไปนะ!!” หญิงสาวตวาดลั่นพลางยืนขวางทั้งสี่คนไว้ แววตาตื่นตระหนกกับท่าทีหาญกล้าทั้งๆ ที่หวาดกลัวจนตัวสั่นนั้น ทำให้ยูโตะเลือกที่ผลักร่างของคนตรงหน้าให้กับยูมะและเคย์โตะที่คอยรอรับไว้ก่อนจะล็อกตัวเจ้าหล่อนไว้จนดิ้นไม่หลุด
“ปล่อยชั้นนะ!! ยังไงซะยามะจังเป็นของชั้นคนเดียว พวกนายห้ามแตะต้องนะ” เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อยูโตะและริวทาโร่เดินตรงไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้แช่ดอกไม้นั่น สายตาคมของทั้งสองจับจ้องบุคคลที่อยู่ภายใน นัยน์ตากลมที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาจ้องมองมายังพวกเขาทั้งสองเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ ริวทาโร่กับยูโตะยืนอึ้งในสิ่งที่พวกเขาเห็นอยู่ตรงหน้า
ร่างของยามาดะในชุดสีแดงสดโดยมีดอกกุหลาบสีแดงประดับข้างกายนั้น ช่างดูสวยสง่าน่าทะนุถนอมโดยเฉพาะหน้าขาวอมชมพูระเรื่อนั่นทำให้คนมองแทบจะใจหายที่ได้เห็นใบหน้าของคนที่คุ้นเคยนั้นดูงดงามกว่าที่เคยเป็นถึงแม้ว่าแววตาและสีหน้าของอีกฝ่ายนั้นจะดูทรมานเศร้าโศกสักเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้ความสวยลดน้อยลงไปได้เลย
นากายูมะที่ยืนห่างออกไปโยนกุญแจดอกหนึ่งที่หญิงสาวกำเอาไว้แน่นโยนให้กับนากาจิม่าอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนรักที่ไม่สู้ดีนัก ยูโตะรีบไขกุญแจปลดล็อกตู้แช่ดอกไม้นั่นก่อนจะเปิดประตูออก หนุ่มน้อยโมริโมโตะตรงเข้าไปแกะเส้นเถาวัลย์ที่รัดตรึงร่างกายของเรียวสุเกะออกอย่างว่องไว ในขณะที่ร่างสูงโปร่งของยูโตะคอยประคองรับร่างของผู้เคราะห์ร้าย
ร่างของยามาดะร่วงหล่นเข้าสู่อ้อมกอดของยูโตะที่คอยประคองอยู่ ร่างสูงช้อนร่างของอีกคนออกมาจากตู้แช่ดอกไม้ก่อนจะวางร่างในอ้อมอกลงกับพื้น ริวทาโร่รีบเข้ามาประคองร่างที่กำลังจะหมดลมหายใจก่อนจะดึงเข้ามากอดหลวมๆ
“ยามาดะ...นายต้องไม่เป็นไรนะ” ริวทาโร่กอดปลอบคนในอ้อมกอดที่ยังคงน้ำตาไหลพราก ใบหน้าแดงกล่ำเพราะขาดอากาศ มือข้างหนึ่งจับแขนเขาไว้แน่นส่วนอีกข้างกำเสื้อของยูโตะเอาไว้แน่นยิ่งกว่า
“ยูโตะ...ขอโทษนะ...”
คำพูดที่เอ่ยอย่างแผ่วเบาแต่กลับได้ยินกันอย่างทั่วถึง สร้างความแปลกใจให้กับคนฟังเป็นอย่างมาก คงจะมีเพียงยูโตะคนเดียวที่รับรู้ถึงความหมายของประโยคนั้น แต่ทว่าตอนนี้เจ้าของประโยคกลับสิ้นสติไปภายใต้อ้อมแขนของริวทาโร่เสียแล้ว
“เคย์โตะ เรียกรถพยาบาลที!!” ยูโตะตะโกน เคย์โตะรีบคว้ามือถือของตนออกมากดเบอร์โทรฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
“คะ..คะ...คือว่า...มะ..มีคนเจ็บ....ทะ...ที่....” ทันทีที่ได้ยินเสียงของเคย์โตะที่กำลังพูดอย่างลนลานใส่โทรศัพท์ ยูโตะก็รีบวิ่งไปตบหัวคุณชายเม่นทีหนึ่งก่อนจะคว้าโทรศัพท์มาพูดด้วยตัวเอง เพราะเขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าปกติเคย์โตะมักจะพูดไม่ค่อยชัดอยู่แล้ว แต่ว่ามันตกใจแล้วละก็..จะพูดติดอ่างเสียจนฟังไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว
เรียวสุเกะค่อยๆ ฝืนลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าหนูริวที่เอาแต่ร้องไห้เพราะเป็นห่วงเขาจนไม่เห็นว่าเขานั้นฟื้นแล้ว ก่อนจะเหลือบไปเห็นอีกคนที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดโดยมีเคย์โตะที่ดิ้นพราดๆ พลางกุมหัวอยู่ข้างๆ กัน
สีหน้าเคร่งเครียด...ท่าทีสุขุม...แววตาที่มุ่งมั่น...ทำทีเป็นใจเย็น ถึงแม้ในใจจะร้อนรุ่มแค่ไหนก็ตาม...
นี่สินะถึงจะเป็นนากาจิม่า ยูโตะ
ร่างอวบนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดตาโดยมีร่างของโมริโมโตะนั่งอยู่เคียงข้าง น้ำตาของหนุ่มน้อยเริ่มเหือดแห้งไปบ้างแล้วหลังจากที่เสียไปตั้งแต่ตอนที่ยามาดะหมดสติไปที่ร้านดอกไม้จนถึงตอนนี้ยามาดะก็ยังไม่มีท่าทีที่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
หญิงสาวเจ้าของร้านดอกไม้นั่นถูกตำรวจจับกุมไปแล้ว ตอนนี้คุณจอห์นและผู้จัดการกำลังเดินทางไปสถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีอย่างเงียบๆ เพราะไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่ไปมากกว่านี้ เหล่าจั๊มพ์เองก็เพิ่งเดินทางมาเยี่ยมเมื่อครู่นี้ ตอนนี้ก็กลับบ้านไปบ้างบางส่วน บ้างก็จะออกไปพักข้างนอกแล้วถามเรื่องที่เกิดขึ้นจากยูโตะและเคย์โตะ ส่วนยูมะต้องไปเป็นพยานเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดกับทางตำรวจ ตอนนี้เหลือแค่ริวทาโร่และเรียวสุเกะที่อยู่ภายในห้องฉุกเฉินแห่งนี้
เสียงหายใจที่ดังฟืดฟาดทำให้โมริโมโตะเข้าใจดีว่าเจ้าตัวนั้นหายใจลำบากเพียงไร ถึงจะใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นมาเลย ความรู้สึกเจ็บปวดเริ่มบังเกิดในจิตใจของหนุ่มน้อย เขารู้สึกเจ็บปวดมากที่เห็นคนที่เขารักเจ็บและตัวเขาเองไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยแม้แต่น้อย
ภาพของยามาดะในงานแถลงข่าววันนี้กับตอนที่ถูกผู้หญิงโรคจิตนั่นจับแช่ไว้ในตู้แช่ดอกไม้ มันทำให้หัวใจเขาเต้นรัวกว่าทุกทีที่เคยราวกับจะหลุดออกมาจากอกให้ได้ แน่นอนว่ายามาดะดูสวยงดงามมากเสียจนทำให้เขาหวั่นไหว แต่ทว่าท่าทีที่ยูโตะมีให้ยามาดะคราวนี้ มันทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลกอย่างไร้สาเหตุ
จากยูโตะที่แต่เดิมมักจะทำตัวเย็นชาใส่ยามาดะ ตีตัวออกห่าง ไม่พูดไม่จา แต่ทว่าตอนนี้ ยูโตะกลับพูดคุยหยอกล้อรวมทั้งมีท่าทีเป็นห่วงยามาดะเหมือนกับเพื่อนทั่วๆ ไป ยามาดะเองก็ยังคงเฉยๆ อาจเป็นเพราะยังไม่ชินกับพฤติกรรมของยูโตะ แต่เขากลัวเหลือเกินว่าสองคนนี้จะกลับไปรีเทิร์นกันอีก เพราะท่าทางของยามาดะก็ยังคงมีใจให้ยูโตะอยู่ไม่น้อย ส่วนยูโตะเองเขาก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้สึกอย่างไร
ริมฝีปากอุ่นๆ จุมพิตลงบนหน้าผากเนียนของคนที่ยังสลบไสลไม่ได้สติอยู่ นิ้วเรียวลูบไล้หน้าผากนั่นก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสกับแก้มเนียน ดวงตากลมค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ ราวกับว่าอยากจะให้เขารู้ว่าเจ้าตัวนั้นยังมีสติสัมปชัญญะพอที่จะรับรู้ในสิ่งที่เขาทำลงไป ดวงตากลมสบตากับสายตาของหนุ่มน้อยก่อนจะหลับพริ้มลงด้วยความอ่อนล้า แต่ริวทาโร่ก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นเพราะเขามั่นใจแล้วว่ายามาดะจะได้ยินสิ่งที่เขาพูดอย่างแน่นอนโดยไม่ได้สนใจว่ามีใครบางคนกำลังแอบมองเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ชั้นอยากจะดูแลนายมากกว่านี้นะ...ยามาดะ ได้โปรด...คบกับชั้นเถอะ!!”
.............................................................................
มาต่อแล้วจ้า
ริวๆ ขอยามะคบแล้ว (แกมาขออะไรตอนที่มันป่วยอยุ่เนี่ยริว?)
แต่ยามะจะตอบว่าไงก็รอตอนหน้าโลดดด
มีใครสงสัยเรื่องโตะรินมั้ย?? ว่าทำไมโตะบางทีก็ดูเย็นชา แต่บางทีก็คอยเป็นห่วงเป็นใยยามะเสมอ
ถ้าสงสัยละก็.......รออ่านต่อไป (แล้วจะบอกไมฟะ?)
ท่าทางเรื่องนี้จะจบไม่ทันปลายเดือนหน้า
แต่ก็ไม่อยากเร่งให้มันจบอ่ะ
บางคนจะคิดว่ายืดไปหรือเปล่า เพราะตอนนึงมีแค่ไม่กี่เหตุการณ์เอง
เน้นบรรยายเยอะไปมั้ย? แต่ว่าก็ชอบเน้นบรรยายให้คนอ่านเข้าใจตัวละครมากขึ้น
ยืดไปหน่อยอย่าว่ากันเน้อ
ว่าแต่มาโหวตกันดีกว่า
ว่าคู่รองของเรื่องนี้ อยากได้คู่ไหน
๑.ริวชี่ ๒.ทาคาชี่ ๓.โอาคาริว ๔.ริวกับชี่ไม่ได้คู่ใครเลย ฮ่าๆๆ
โหวตมาๆ เผื่อรับไว้พิจารณานะจ้ะ
ความคิดเห็น