คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เพื่อนร่วมห้อง
Chapter01-เพื่อนร่วมห้อง
ตอนนี้ปาเข้าไปตี3กว่าแล้ว ข้างนอกยังคงดูมืดสนิท ผิดกับแสงไฟสลัวที่เล็ดลอดออกมาทางหน้าต่างบานเล็กของตึกอพาร์ทเม้นท์ชั้นหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องตึกนั้นเป็นแค่เด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นเกมส์เพลย์สเตชั่นที่เพิ่งซื้อมาใหม่อย่างเมามันส์ ภายใต้ใบหน้าอันราบเรียบของเขา นิ้วเรียวกดปุ่มเครื่องบังคับอย่างชำนาญจนขณะที่ใครมาเห็นเข้าก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขั้นเทพ สติทั้งหมดได้เพ่งจดจ่อไปยังตัวละครเอกบนจอที่กำลังสู้กับจอมวายร้าย จนไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ เป็นอย่างนี้ไปได้สักพักจนกระทั่งมีตัวอักษรสีแดงใหญ่ปรากฏขึ้นเต็มหน้าจอ
KO
!!
“!!! เอ้ยยย อย่างเพิ่งง~!!” คนร่างบางร้องครางอย่างเสียดาย เสร็จกัน.. สถิตติกู หายวับไปกับตา
ว่าแล้วก็ทึ้งหัวตัวเองเบาๆ ก่อนจะมาสังเกตเห็นโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่กำลังสั่นร้องให้คนตรงหน้าช่วยรับสายเร็วๆเสียที เมื่อมือบางคว้าหยิบขึ้นมาดู นัยน์ตาเบิกโพลง สะดุ้งตกใจใหญ่ พลางคิดว่าเขาได้เผลอทำเรื่องที่ผิดพลาดอันใหญ่หลวงไปแล้วในชีวิต
P’ Ton 19 missed call
ฉิบหายแล้วไงกู
เห็นอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่ลอบกลืนน้ำลายลงคอ แล้วรีบกดรับสายแต่โดยไว
[ไอ้คชา! นิ้วฉันเกือบเป็นตะคริวได้แล้วมั้งน่ะถ้าแกปล่อยให้ฉันโทรอีกนาที แม่ง โทรหาแกเป็นร้อยเป็นพันรอบเสือกไม่รับซักสาย ถ้าเกิดตายไปเป็นผีโทรศัพท์ฉันจะมาหลอกแกเป็นคนแรกคอยดู ,damn!!!]
นั่นไง มีหลุดด่าเป็นภาษาปะกิดด้วยว่ะ ใช่ว่าเขาไม่รู้นะแต่เพราะรู้ก่อนอยู่แล้วว่าไอ้คุณพี่ตัวดีจะต้องด่าเขาก่อนสิ่งอื่นใด ก็ได้แต่ถือโทรศัพท์ไว้ห่างๆหูเตรียมพร้อมให้ถูกด่า
พี่ต้นถือเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่คชาสนิทและรักมาก ไอ้การที่โดนด่าทุกวันน่ะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเขาไปแล้ว ที่สนิทกันก็เนื่องด้วยพวกคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายบังเอิญสนิทกันอยู่ก่อนหน้านั้น เลยได้เห็นหน้ารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ หลายเดือนมานี้เขาได้ย้ายมาอยู่อพาร์ทเม้นท์ที่พี่ต้นรับช่วงดูแลต่อแทนคุณแม่ควบคู่ไปกับการเรียนปริญญาโท คชาจึงได้ห้องเช่าที่ถูกแสนถูกอย่างโชคดีไป
กลับเข้าเรื่องเหอะ ตอนนี้เขากำลังคิดหาวิธีง้อคนตรงหน้าให้ได้อยู่เนี่ย!
“พี่ต้นนน ชาขอโทษ ชาผิดไปแล้วคร้าบ อย่าได้โกรธน้องชายสุดหล่ออย่างผมเลยนะ..นะ” เสียงหวานออดอ้อนคนปลายสายอย่างน่ารักน่าหมั่นไส้ ชนิดที่ถ้ามีใครมาได้ยินคงต้องใจละลายไปตามๆกัน
เออทำอย่างนั่นแหละคชา ทำเสียงกระแดะเข้าไว้ดีที่สุด!
[ไม่ต้องเลยไม่ต้อง ชอบใช้ลูกอ้อนประจำนะแกน่ะ ขอทีเห้อะ ฟังแล้วมันหลอนว่ะ] ปากก็พูดอย่างงั้น แต่เชื่อเหอะหายโกรธแล้ว 100% เชื่อคชาดิ
[แกยังจำเรื่องที่พี่เคยพูดให้ได้มั้ย เรื่องเกี่ยวกับคนขอย้ายเข้าใหม่น่ะ แต่แกก็รู้ว่ามีคนมาเช่าตึกพี่เยอะแค่ไหน พี่เลยหาห้องให้ไม่ได้ซักห้อง เต็มเอี๊ยดหมดเลยว่ะ เลยจะขอแชร์ห้องแกไปก่อนเป็นตัวเลือกสุดท้าย ได้ป่ะวะชา]
ถามเขาแล้วเขาจะรู้มั้ย!? เล่นคิดเองเออเองหมดเลยนี่หว่าไอ้พี่ต้น จู่ๆจะให้ใครก็ไม่รู้มาอยู่ด้วยกันกับเขาเนี่ยนะ เวรกรรม!! คชาประมวลผลทั้งหมดในสมองคิดตลบแล้วตลบอีก ไอ้นิสัยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของพี่ต้นมันรักษาไม่หายจริงๆสิน่า
“ใครวะพี่??”
[ลูกพี่ลูกน้องพี่เอง รุ่นเดียวกับคชาเลย มันดื้อร้องจะอยู่แต่อพาร์ทเม้นท์พี่เท่านั้นเพราะมันขี้เกียจไปเดินหาที่อื่น พี่เองก็ขี้เกียจเถียงกับมันแล้ว] ปลายสายถอนหายใจเฮือกใหญ่
โห คุณลูกพี่ลูกน้องพี่ต้นครับ มึงโคตรแน่เลยครับที่กล้าหือกับพี่ต้น กูขอคารวะมึง3จอกเลยว่ะ
เหมือนร่างบางจะคิดทวนตัดสินใจอย่างดีแล้วจึงพูดตอบกลับไป
“ก็ได้พี่ๆ เอาสิ ถ้าเป็นญาติพี่ผมก็ไม่เกี่ยงหรอก คนกันเอง ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน” เป็นไงล่ะ เห็นหล่อๆอย่างนี้ ผมก็ใจบุญพ่อพระนะคร้าบ
“งั้นผมขอไปเคลียร์ห้องก่อนนะจะได้ย้ายของได้เลย แค่นี้นะ”
[เฮ้ย คชา อย่าเพิ่งว้างง! พี่จะบอกว่าแกไม่ต้องไปทำหรอก]
“อ่าว แล้วญาติพี่มันจะไปนอนไหน”
[ป่าวๆ ไม่ได้หมายความอย่างนั้น พี่หมายถึง..] พี่ต้นหยุดพูดแค่นั้นแล้วนิ่งไป
เฮ้ยไม่เอา อย่าเงียบ อย่าเงียบแบบนี้สิ อย่าเงียบแบบนี้สิเฮ้ย คชาไม่ช้อบบ
รู้สึกได้เลยถึงลางสังหรณ์แบบลางร้ายสุดๆเต็มสตรีม เมื่อจะอ้าปากเอ่ยถามขึ้นคำหนึ่ง
“ทำไม..”
ปึ่ง!!!
เสียงดังลั่นจากประตูทางเข้าห้องดังสนั่นเหมือนกับจะมีโจรมาทุบบ้าน คชาได้แต่ยืนอ้าปากเหวอ เล่นเอาเขาตกใจผงะหลังกันเลยทีเดียว
ปึ่ง!
เสียงเดิมดังขึ้นอีกเป็นรอบที่สอง เพียงแต่เบากว่าครั้งแรก
“พี่เต๋าๆ ใช่ห้องนี้แน่เหรอวะพี่” จู่ๆมีเสียงเด็กวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่งก็ดังออกมาจากนอกห้อง
“ยุ่งน่ะ ไอ้เฟรม ถ้ามึงไม่ช่วยกูพังประตูก็หุบปากยืนถือของไปก่อนป่ะ” เสียงบุรุษคนที่ 2 โพลงขึ้นมาติดๆกัน สักพักหนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันตามมาทีหลัง
ขอโทษนะครับพวกเอ็ง คือไม่ได้โกรธเคืองจะฆ่าจะแกงกันหรอกนะ แต่คือประตูห้องกูจะพังอยู่รอมร่อแล้งไงเมิง ยิ่งเก่าๆอยู่ด้วยอ่ะ
มีคำถามมากมายเป็นสิบเป็นร้อยที่ผุดขึ้นในหัวของเขา ว่าแล้วก็นึกถึงคนต้นเหตุที่ยังรออยู่ปลายสาย คชาพูดกรอกโทรศัพท์แทบจะทันทีที่ยังเห็นว่าคุณพี่ตัวดียังไม่ได้วางสายไปก่อน คงได้ยินเสียงพังประตูเมื่อกี้ชัวร์ ฟันธง
“พี่ต้น!! ผมไม่เห็นจะรู้เลยว่าจะมากันเร็วขนาดนี้!”
[ก็ กำลังจะบอกนี่ไง]
“ช้าไปป๊ะ!?”
[แหม แต่แกรับปากพี่แล้วนะเว่ยอย่าลืม]
“ผมไม่รู้ว่ามันจะพ่วงอีกคนหนึ่งมาด้วยนี่หว่า!”
[อันนี้พี่ก็ไม่รู้ว่ะ]
“พี่ต้น!!!”
[โหยย คชา พี่ก็ปวดหัวกับมันอยู่เนี่ย บังเอิญมันเป็นคนชอบทำอะไรตามใจตัวเองสุดๆว่ะ แต่นิสัยมันดีนะชา ถ้าไม่ติดว่ามันหน้าหม้อ ชอบโดดเรียน กินเหล้า ไปผับไปบาร์ เที่ยวกลางคืน..]
เวรรร นั่นยังไม่เรียกเลวบริสุทธิ์อีกเหรอวะ คชาได้แต่เอามือกุมขมับยืนเครียด
“แต่ไอ้สัสนั่นมันจะทำประตูห้องผมพังอยู่แล้วนะ!” ร่างบางโวยใหญ่เมื่อเห็นประตูหน้าห้องใกล้จะพังลงทุกที
[ฉันสาบานเลย อ่ะ!! ถ้ามีห้องว่างเมื่อไหร่ ฉันจะให้มันย้ายห้องทันที พี่ขอร้องล่ะวะ]
พี่แค่ขอร้อง.. แต่ผมอ่ะจะร้องไห้อยู่แล้วเนี่ย!!
“ผม..”
[อ่าวเจมส์ มาได้ไงวะเนี่ย แค่นี้ก่อนนะชา เจมส์มาว่ะ]
ติ๊ด
ไม่ทันจะได้พูดสักคำ ไอ้คุณพี่ต้นมันดันชิ่งวางสายซะก่อน
ไม่เนี้ยนนน พี่ต้น ไม่เนียนนนนนน!!!!!!! ไอ้เจมส์มันไปเข้าค่ายคุณธรรมที่หัวหินอยู่โว่ยยย
เอาไงดีวะตู ซวยซ้ำซวยซ้อนจริง วันนี้มันวันเหี้ยอะไรวะเนี่ย คชาล่ะกลุ้ม ร่างบางโยนโทรศัพท์มือถือที่ตอนนี้เขาได้เกลียดมันไปเรียบร้อยลงบนเตียง แล้วก้าวไวฉับๆเดินไปเปิดประตูให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญก่อนที่ประตูห้องจะพังเข้าจริง
แกร๊ก..
พรวดดด
“เฮ้ยยยยยยยยยย!!!!!!!!!”
“ว้ากกกกกกก!!!!!”
“ไอ้พี่ต๋าวววววววว!!!!!!!!!!!”
สามเสียงร้องประสานกันดังลั่น เมื่อร่างถึกที่กำลังจะพุ่งตรงเข้าใส่ประตูอีกรอบ แล้วจู่ๆประตูมันดันเสือกเปิดเองซะนี่
โคร่ม!!
“เชี่ย!!”
ร่างสูงทะลึ่งพรวดล้มตึ่งทับร่างเล็กพอดี คชารู้สึกจุกอกใกล้จะตายคาที่อยู่ร่อมร่อ
นี่มันคนหรือควายวะที่ทับเขาอยู่น่ะ!!???!! แม่งหนักชิบหาย
ร่างเล็กตะเกียดตะกายออกแรงผลักคนที่อยู่ด้านบนอย่างสุดชีวิต ขณะที่ร่างสูงค่อยๆเอามือยันพื้นแล้วลุกขึ้นยืน ทำหน้านิ่วเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“เฮ้ยพี่ เป็นไรมากป่าววะ?! ผมขอโทษแทนพี่ผมด้วยจริงๆนะเมื่อกี้!! อโหสิกรรมกันไป แต่พี่ยังอยู่ดีมีชีวิตครบ 32 ใช่ป่ะครับ??” เสียงสำเนียงอีสานแปล่งๆพร่ำขอโทษเขาอย่างรวดเร็ว
ร่างสูงที่เพิ่งลุกขึ้นยืนกำลังปัดฝุ่นเสื้อผ้าตัวเองอย่างลวกๆ ส่วนอีกคนก็ยืนมือเอื้อมไปดึงตัวคชาช่วยลุกขึ้นยืน คชารู้สึกเจ็บที่ท้องน้อยแปล๊บๆ สายตาเหลือบมองไปยังแขกผู้มาใหม่ทั้งสองที่ตอนนี้กำลังจ้องเขาไม่วางสายตา
จ้องแบบนั้นเดี๋ยวก็ได้ท้องกันหรอก.. กูคนนะไม่ใช่ปลากัด
“พี่...คชาใช่ป่ะ พี่ชื่อคชาใช่มะ” คนที่เพิ่งช่วยเขามาแหม่บๆเอ่ยปากถามขึ้นพร้อมกับเอียงคอสงสัย คชาพยักหน้ารับหงึกๆ
“เฮ่ย พี่เต๋าแม่งเดาห้องถูก! เจ๋งว่ะ ผมเฟรมนะพี่ ส่วนคนนี้พี่เต๋า..เอ้อ คงรู้ไปแล้วเนอะ” ไอ้เฟรมกระโดดโลดเต้นดีใจยกใหญ่ ส่วนคนที่ชื่อเต๋าที่ตอนนี้ยังมีอาการมึนๆอยู่ ค่อยๆหันมามองหน้าเขาแล้วลากสายตาสำรวจร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ชื่อคชา?” ร่างสูงถามคำถามเดิมอีกรอบ
มึงตาบอดใช่มั้ย กูเพิ่งพยักหน้าหยกๆอยู่เนี่ย
“ใช่ เราคชา...”
“ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”
“ห๊ะ?” คชาเงยหน้าจ้องเต๋าแทบจะทันที เมื้อกี้มันถามว่าอะไรนะ
“เอ่อคือ..แยกไม่ออก..หรือประสาทตาเสียหรอครับ” คชาเน้นคำลงท้ายอย่างช้าๆชัดๆ เมื่อกี้เขาไม่ได้กวนส้นใครนะ แต่จะมีกี่คนกันบนโลกที่แยกผู้หญิงหรือผู้ชายไม่ออก ถึงเขาจะมีพวกผู้ชายมาจีบบ่อยๆก็เถอะ แต่นี่ก็เกินไป เหมือนคำตอบผมจะถูกใจไอ้เฟรมเข้าใหญ่ มันหัวเราะกร๊ากซะดังลั่น
ร่างสูงกรอกสายตาไปมา แล้วโน้มตัวลงมาจ้องหน้าคชาแบบใกล้ๆ เขารู้สึกสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนแผ่วๆของอีกฝ่าย นัยน์ตากลมโตสีดำของเขาจ้องตอบ
แม่ง..มันกินอะไรเข้าไปวะ โคตรหล่อเลยมึง ......แต่ขาวชิบหาย
“งั้นขอโทษด้วยละกัน อยากรู้ให้มันแน่ๆว่ะ เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ไม่ค่อยดีนัก” เต๋าตอบอย่างไม่ถือสาอะไรพลางอมยิ้มขำแล้วถือวิสาสะกอดคอคชาเป็นการขอโทษอย่างอารมณ์ดีเมื่อมั่นใจอีกฝากเป็นผู้ชายแมนแท้100เปอร์เซนต์ ถึงจะปากจัดไปหน่อยก็เถอะ
“พี่เต๋าแม่งเคยมีแฟนเป็นกระเทย” เฟรมพูดขึ้นดังอย่างลอยๆ เขาแทบหัวเราะหลุดโลก เมื่อได้ยินในสิ่งที่ไอ้เฟรมพูด
“เฮ้ย จริงดิ!” คชาหันมาถามเจ้าตัวที่หุบยิ้มทันที หน้ายังนี้เนี่ยนะถูกกระเทยหลอกให้เป็นแฟน ใครมันจะซื่อบื้ออะไรขนาดน้านน โอย เขาอยากขำตาย
“ไอ้เฟรม!!” ร่างสูงตวาดคนรุ่นน้องพร้อมชูนิ้วกลางด่าให้เต็มประดา
บรรยากาศเริ่มครึกครื้นขึ้น เมื่อมีการโต้วาทีกันระหว่างเต๋ากับเฟรม คชาที่ยืนดูขำหัวเราะร่าไปปล่อยให้พวกมันทะเลาะกัดกันเอาเอง ด้วยเหตุนี้ทั้งสามจึงเริ่มตีซี้สนิทกันอย่างสนุกสนาน
“ไอ้เฟรมมันเคยนอนกอดตุ๊กตาหมี”
“พี่เต๋าเคยแย่งเด็ก5ขวบกินไอติม”
“เฟรม มึงเคยจีบเด็กรุ่นพี่แล้วถูกรุมทิ้ง”
“พี่เต๋าเคยเตะบอลเข้าโกลตัวเองอ่ะ โคตรทุเรศ”
“มึงกรี๊ดทุกทีแหละที่เห็นแมลงสาป”
“ผมรู้ว่าพี่ชอบใส่กางเกงในกลับด้านแล้วกัน”
“ไม่เคยโว่ยย”
“เอาหลักฐานป่ะล่ะ”
“$@#%#$$$^$$^#@@#!!!!!!”
ตอนนี้สามเกลอที่เพิ่งสนิทไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้กำลังช่วยกันแบกของเข้าห้องอยู่ คชากำลังจัดเคลียร์พื้นที่สำหรับผู้มาใหม่ทั้งสอง
“ห้องโคตรใหญ่เลยว่ะคชา” เต๋าร้องตอนเดินยกกล่องของเข้ามาในห้องเช่าของเพื่อนใหม่
แหงสิ ก็ห้องที่เขาอยู่น่ะเป็นห้องดีที่สุดของพี่ต้นเลยนี่หว่า
“พี่คชาๆ ตู้นี่เอาไว้ไหนอ่ะ” เฟรมถามอย่างกระตือรือร้นตามแบบฉบับนิสัย คชามองไปรอบๆก่อนจะชี้นิ้วไปที่มุมห้อง เจ้าเด็กไฮเปอร์รีบวิ่งแจ้นไปตามที่เขาบอกทันที คชาอดหัวเราะกับท่าทางของคนตรงหน้าไม่ได้จริงๆ ต้องยอมรับว่าตอนนี้เขาเริ่มเอ็นดูไอ้เฟรมเข้าซะแล้วสิ
พรืดดด..
เสียงหัวเราะมาจากคนด้านหลังเขา จึงหันหลังไปดูแล้วเลิกคิ้วเชิงถาม พอเจ้าตัวเห็นดังนั้นก็หยุดหัวเราะแล้วหันไปมองทางด้านอื่น ผิวปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แปลกคนว่ะ.. เป็นสิ่งแรกที่คชาคิดเกี่ยวกับคนร่างสูง แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรอีกต่อจากนั้น
กว่าจะยกกันเสร็จก็เกือบรุ่งเช้า ความง่วงมันเริ่มครอบคลุมพวกเขาแล้วหลังจากขนของกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เปลือกตาบางเริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆจนแทบขยับไม่ได้ ปากก็พลางหาวหวอดๆ
อะไรนะ เรื่องเตียงนอนน่ะหรอ เขาได้นอนเตียงแสนนุ่มของเขาเหมือนเดิมแหละ ส่วนเจ้าสองคนนั้นมันนอนฟูกอันใหญ่ที่แบกมา ด้วยกัน ดันติดกับเตียงของเขาเลย
แต่ก็ว่าไปจริงๆเหอะ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้มีคนมานอนข้างๆเป็นเพื่อนเขาแบบนี้ ตั้งแต่คชาจำความได้พ่อแม่ก็ขึ้นเครื่องบินไปทำงานที่ต่างประเทศแล้ว ปล่อยให้เขาอยู่กับพี่เลี้ยงกันแค่สองคนตั้งแต่ยังเด็กๆ เดือนสองเดือนถึงจะได้เจอกันสักหนหนึ่ง
เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาเกิดขึ้นไปอย่างรวดเร็วซะจนน่าตกใจ มันเริ่มต้นแค่เขาเล่นเกมส์แล้วจู่ๆพี่ต้นก็โทรมาหาก็แค่นั้น แล้วมันกลายเป็นอีท่านี้ได้ไงวะ ตัวเขาเองทั้งๆที่ควรจะลำบากใจแล้วแท้ๆกลับกลายเป็นมีความดีใจมากกว่าเอาซะดื้อๆ แต่ก็รู้ตัวตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ยินเสียงพังประตูว่าตอนนั้นชีวิตของเขาได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่เขาก็ยังเต็มใจที่จะเปิดรับชีวิตใหม่ที่กำลังจะโถมเข้ามา บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่เท่าไหร่ที่ได้มาเจอเจ้าสองคนนี้
รึเปล่า?????
-------------------------->[WRITER TALK]< --------------------------
ตอนแรกก็แต่งจบจนได้ แถมยังเกรียนได้อีก แต่งดราม่าไม่เป็นเลยจริงๆขอยอมรับ ฮาาา
พิมพ์จนปวดมือ คิดว่าตอนต่อไปคงไม่ยาวขนาดนี้แล้วนะ 55+ นับถือไรเตอร์ท่านอื่นมากก
ฟิคเรื่องแรกที่เราแต่งเองแหละ วั้ย /จะเขินทำไม--* ชม วิจารณ์ ติเตียนได้นะคะ ว่าแต่งโอเครึยัง หรือะไรก็ว่าไป
ตอนแรกไม่รู้จริงๆว่าต้องแต่งอะไรทำยังไงบ้าง
แบนเนอร์ก็ยังไม่มี วั้ย กุเชยมาก..;w; แต่ด้วยความฟินจัดของ สวนด. ฟิคเรื่องนี้เลยปรากฎออกมาให้โลกได้เห็นกัน (เว่อร์)
ชอบก็ช่วยเม้นท์นะคะ จุ๊บๆ อยากอ่านค่ะ มันเป็นอะไรที่เป็นกำลังใจในการแต่งอย่างเยอะอ่ะ 5555+
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านมาเม้นท์ด้วยนะคะ รักทุกคนๆจริง แอร้ยย ////
ความคิดเห็น