ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #99 : Chapter 60-2 ....... ...ก็แค่... .... ...ไม่ไว้ใจ....

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 574
      8
      13 เม.ย. 57

    Chapter 60-2 ....... ...ก็แค่... .... ...ไม่ไว้ใจ....

     

    "ซัมบอดี้? .... เหรอครับ"

    ผมเอ่ยสวนกลับกลืนน้ำลายอึกใหญ่

     

    ใช่ๆ .... ผมกำลังเผชิญ กับใครสักคน

    ที่อ้างว่าเป็นญาติผม

    แต่แค่ภาษาที่เจ้าหล่อนพูดมาเนี่ย .... ไม่ต้องคิดแล้ว

     

    "บ่เข่าใจ บ่ค่ะ ขุ่นพยายาม?"

    เธอเอ่ยแล้วเอียงคอมองหน้าผม

     

    บ่อ ? ...... เข่า?

    ที่เข่า ... มีบ่อ?

    แล้วใจนี่มันอะไร

    รวมๆแล้ว บ่อเข่าใจ .... คืออะไร

    แล้ว บ่อ ค่ะ .... นี่มันอะไร

    เอ่อ .. แล้วขุ่น นี่มัน อะไร ขุ่น ... พยายาม

    ชื่อเรา? .... โอเค แต่ .. ไม่เข้าใจ

     

    "...... ผมไม่เข้าใจครับ ... คุณพูดอะไร .... "

    ผมเอ่ยกลับไปด้วยใบหน้าซีเรียส

     

    "อ่อ จั่งสี่เอง สักบึ๊ดเด้อค่ะ ขุ่นขา"

    เธอพยักหน้าหงึกๆ

     

    ขอโทษครับ ... ฟังไม่ออกครับ

    อะไรคือ จั่งสี่ ..... จั่ง ที่มาจากจัง??? ภาษาในอนิเมะเหรอ

    ไม่ใช่ ... ไม่ใช่ แล้วอะไรคือ สักบึ๊ด !!! ไม่เข้าใจโว้ย

     

    เธอยิ้มหวานให้ผมที่ทำหน้างงสุดๆ

    ก่อนจะหันไปหยิบเอากระติกข้าวเหนียวออกมา

    เปิดฝาออก

     

    เหยด!!! ข้างในกระติกข้าวเหนียว มีแต่อุปกรณ์ทันสมัยเต็มไปหมด ดูเป็นวิทย์สุดๆ

    แล้วยังพกโทรศัพท์ในนั้นอีก

    เห้ย ... ปืน ... ในกระติก .... ปืนเวทย์ขนาดเล็กนั้นเขียนหมายเลข 777 เอาไว้

    โอเค ...

     

    อะ ... เธอหยิบไอ้เครื่องนั้นขึ้นมา ... ติดที่หู

    ใช่เลย .... หูฟัง และไมโครโฟน

    คนต่างชาติชัดๆ

    ญาติเหรอ .... ไม่ใช่แน่ๆ ขอบใจ....

    หล่อนเป็นใครที่ชั้นเดาได้ ... ใช่เลย .. ใช่แน่ๆ

     

    "... อะ อะแฮ่มๆ ... เข้าใจที่ดิชั้นพูดไหมคะ คุณพยายาม"

    เธอเอ่ยด้วยเสียงหวานน่ารักหยดย้อยชมดชม้อย

    บอกตรงๆว่าเสียงผู้หญิงคนนี้ ไพเราะที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินเลย ....

    แต่สาบานได้ .... ไม่เข้ากับชุดของเจ้าหล่อนเลยสักนิด

    ไอ้ชุดกีฬาวิทย์นั่นมันอะไร

     

    "ครับ ... เข้าใจแล้วครับ ..... คุณเป็นพวกองค์กรผู้ฝ่าฝืนหรือครับ"

    ผมถามสวนกลับไปทันที

     

    แปะ!

    เธอปรบมือ

     

    อะไรของยัยนี่เนี่ย .... อ่า ... คิดแล้วปวดหัว

     

    "รู้จริงๆด้วยสินะคะเนี่ย ค่ะ ใช่ค่ะ ชั้นเป็นสมาชิกองค์กร .... หมายเลข เจ็ดร้อยเจ็ดสิบเจ็ด ค่ะ"

    เธอเอ่ยก้มหัวให้ยิ้มๆ แล้วเปรยมือให้ผมมานั่ง

    "นั่งก่อนไหมคะ?"

     

    โอเค ... ไม่น่ามีปัญหา .....

    แต่ที่แน่ๆ เจ้าหล่อนหมายเลขเจ็ดร้อยเจ็ดสิบเจ็ดเหรอ

    ไม่สิ น่าจะทดสอบ ....

    "ครับ ขอรบกวนนั่งนะครับ .... ว่าแต่ .... จริงๆควรจะเรียกว่าเจ็ดเจ็ดเจ็ดสินะ ... เลขสวยมากๆเลยนะครับ"

     

    "ว้าว รู้จริงๆด้วย ค่ะใช่เลย! ดิชั้นเจ็ดเจ็ดเจ็ดค่ะ"

    หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

     

    ผมเดินมานั่งลง

    "แล้วเปิดหน้ามาคุยกันแบบนี้เลยจะดีเหรอครับ ... หมายถึงว่าไม่สวมอะไรปิดหน้าสักหน่อย น่าจะมาจากต่างชาติด้วย ..... จะดีต่อการทำงานเหรอครับ ... แถมยังคุยกันโจ่งแจ้งอีก"

     

    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ..... ดิชั้นแสดงความจริงใจไงคะ"

    หญิงสาวเอ่ยแล้ว สะบัดผมเล็กน้อยแล้วนั่งลงตามผม

     

    อ่อเหรอสรุปนี่คือแสดงความจริงใจสินะ....แล้วเรียกกันเป็นญาติเลย

    ...

    ไม่สิ พวกอาจารย์อาจจะฟังไม่ออก เลยเดาว่าเป็นญาติก็ได้

     

    "ขอโทษครับ ผมขอเสียมารยาทได้ไหมครับ"

    ผมเอ่ยถามกลับไปทันที

     

    "ค่ะ...."

    เธอเผยรอยยิ้มที่ดูเหมือนภาคภูมิใจออกมา

    ราวกับรู้ว่าผมจะถามอะไร

     

    โอเค ยังไงตรูก็จะถามเฟ้ย!

    "ทำไม ถึงใส่ชุดนั้นมาหละครับ ชุด... เอ่อ กีฬาเวทย์หน่ะ"

     

    "ว่าแล้วเชียวค่ะ เอาเข้าจริงๆนะคะ ดิชั้นไม่ชอบใส่เสื้อผ้าค่ะ .....ใส่แต่ฮู๊ดดำมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว"

    เธอตอบอย่างภาคภูมิใจทันที

     

    หา.... ไม่ชอบใส่เสื้อผ้า ..... ถ้าเธอพูดจริงนะ

    ผมรู้สึกเลยว่า สมาชิกองค์กรนี้ ไม่ปกติสักคน

    เสียดายจริงๆ ที่กลุ่มที่มารุมฆ่าผมแรกๆ ตายไปซะเยอะเพราะผม

    คิดว่า น่าจะสนิทกันได้ดีแท้ๆเลยนะ..... บ้าจริงๆเรา .... ดันเผลอคิดถึงพวกนั้นไปซะได้

     

    "พอดีตอนจะมาที่นี่ โดนบังคับให้เลือกชุดใส่มา ก็เห็นว่า มีชุดนี้ ที่มันเข้าคู่กับลูกฟุตบอลค่ะ! แถมมีเลขเจ็ดติดอีก แหม ยังงี้จะไม่เลือกได้ยังไงเนอะ ... ก็เลขเจ็ดมันคือความสวยงามนี่คะ"

    เธอเอ่ยทำหน้าระรื่นสดใส เป็นประกายปิ้งๆๆ

     

    โอเค .... เซ้นส์ด้านแต่งชุดของเธอ อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ถึงต่ำที่สุดเลย

    ไอ้ชุดที่มีเลข 7 ติด คือความสวยงามเนี่ย ....

    แล้วยังรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจนั่นอีก

     

    "โอเคครับ ขอบพระคุณมากๆครับ ที่อุตส่าบอก .... ว่าแต่คุณเจ็ดเจ็ดเจ็ดมีเรื่องอะไรกับผมเหรอครับ"

    นั่นแหละ ผมว่า ผมเข้าประเด็นดีกว่า

     

    "ค่ะ เราได้อ่านผลงานของคุณมาคร่าวๆแล้ว ... ที่สามารถฆ่าสมาชิกของเราที่มารุมพร้อมๆกัน หนึ่งร้อยห้าสิบคนได้ ... แถมยังล้างสมองหมายเลข หนึ่งเจ็ดสี่ให้กลายเป็นทาสของตนเองได้ โดยไม่โดนสารบังคับภายในร่างเล่นงานเสียอีก .... มันจึงเป็นจุดสนใจมากๆ .... และแน่นอนว่านั่นคือประเด็นค่ะ"

    เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มออกมาก่อนจะตวัดมือ หนึ่งครั้ง มีดก็ไม่รู้โผล่มาจากไหน

    แล้วเธอก็พุ่งมีดเข้าหาผมทันที

     

    เห้ย!!! ไม่ใช่แล้ว

     

    ฟึบ!!


    "อึก .... ... "

    ผมรีบยกฝ่ามือขึ้นกั้น มีดนั้นในระยะเผาขน ... มีดนั้นกดจนปลายที่จับติดเข้ากับฝ่ามือผม....

    เจ็บ....

    ไม่สิ ..... มันเจ็บแบบแปลกๆ

    ไม่น่าใช่ความเจ็บของมีดที่แทงเข้ามา

     

    777 ยิ้มหวานแล้วถอนมีดออก มันคือมีดปลอม

    ที่ปล่อยด้าบมีดนั้นไม่มีคมแถมยังหดเข้าไปได้เองเมื่อใช้แรงกดเพียงเล็กน้อย

    เธอควงมีดเก็บพร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

    "ทดสอบประสาทสัมผัสหน่ะค่ะ ... คิดว่าไวอยู่ แต่ไม่น่าจะรอดจากคนที่เก่งกว่าดิชั้นได้เลยนะคะเนี่ย .... แปลกจังเลย"

     

    ยัยบ้า!!! มาแบบนี้ ตั้งตัวไม่ทันว้อย

    ต่อให้ตั้งตัวทันก็ตายอยู่ดี

    ยัยผู้หญิงคนนี้ .... ขยับตัวโดยไม่แสดงท่าทีแปลกๆออกมาจนกระทั่งปล่อยอาวุธเลย

    สุดยอดแฮะ

     

    "ตกใจหมดเลยนะ .... ไม่คิดว่าจะมารูปแบบนี้นะเนี่ย .... เห้อ ... สรุปว่ายังไงหละ มาหาผมมีเรื่องอะไร ทดสอบแค่นั้นเหรอ?"

    ผมถามย้อนกลับไปพลางกลืนน้ำลาย

     

    "ค่ะขออภัยเมื่อสักครู่นะคะ ....สรุปนะคะ พอดีมีเรื่องอยากจะรบกวนมาจากประเทศของดิชั้นเล็กน้อยหน่ะค่ะ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และไม่สามารถบอก เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอชได้ด้วย .... พวกเราที่อ่านจากรายงานว่าคุณเป็นคนจิตใจดี น่าจะยินดีช่วยเหลือ .... ค่ะ"

     

    ขอโทษเถอะครับ ยินดีช่วยเหลือโดยไม่บอกรายละเอียด

    หล่อนจะบ้าเหรอครับ!!!

    ตลกเกินไปแล้ว แถมยังบอกยัย M10TH ไม่ได้อีก

    หล่อนเอาฮาใช่มั้ย!!! บอกมาเดี๋ยวนี้นะ

    "เอาฮาเรอะ .... ชั้นขึ้นตรงกับ เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอชนะ.... ยังไงก็ต้องบอกอยู่ดี ..... เล่นบากหน้ามาแบบนี้ ไม่ว่ายังไง ชั้นก็ต้องบอกยัยนั่น ... โทษด้วยลกันนะ ... ที่ทำให้ผิดหวัง ...."

    ผมเอ่ยกลับไป

     

    "..... ถ้าเกิดว่า ..... ประเทศของเรา ..... มีความลับบางอย่าง .... ที่เกี่ยวข้องกับคุณแม่ของคุณหละคะ ..... "

    เธอยิ้มแล้วเอ่ยออกมา

     

    ".... แม่? ...."

     

    "ใช่ค่ะ ... แม่ของคุณพยายามค่ะ ... ซึ่งเราเชื่อว่า จากส่วนทั้งหมดที่เราได้รับข้อมูลที่ทาง เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอชให้ไว้ ..... ผนวกกับ สิ่งที่เรามีอยู่ในตอนนี้ .... จะทำให้เรารู้ความลับบางอย่าง ที่อาจจะมีส่วนช่วยประเทศของคุณ ..... ที่เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอช ไม่รู้ ก็ได้"

    เธอเอ่ยต่อด้วยใบหน้านิ่งๆ

     

    ".... เฮ้ ไม่เอาน่า ... มีความลับแล้วไม่บอก เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอชให้ช่วยหละ ทั้งๆที่บอกว่าจะช่วยประเทศชั้นแท้ๆ"

    ผมเอ่ยสวนกลับไปทันที

    แน่หละ มันไม่สมเหตุสมผลที่สุด

    หล่อนกุมความลับ ทั้งๆที่เป็นองค์กรเดียวกัน

    แล้วยังไม่ยอมบอกกันและกัน

    แต่บอกว่าจะช่วยกัน

     

    ไร้สาระน่า....

     

    ".... เข้าใจใช่มั้ยคะ ... ว่านี่เราก็ทำเพื่อองค์กรของเราเอง ในประเทศเราด้วย .... เอาเป็นว่า ดิชั้นขอพูดด้วยความจริงใจค่ะ .... แต่หวังว่าคุณ ..... จะไม่หักหลังเรา .... "

    เธอเอ่ยแล้วกลืนน้ำลายก้มหัวให้ก่อนจะเอ่ย

    "ดิชั้นขอสาบานว่าเรื่องที่พูดตั้งแต่ต้น จนถึงตอนนี้และที่จะพูดต่อไปเป็นจริง ... หากไม่จริง ดิชั้นขอให้สารในร่างกาย ฆ่าตัวชั้นตายได้เลยค่ะ .... มันเป็นเรื่องสำคัญขององค์กร ... แต่เฉพาะของประเทศชั้นค่ะ"

     

    "อะ อืม ... เอาเถอะ ... พูดเถอะครับ"

    โอเค ท่าทางของยัยนี่ ดูน่ากลัวแปลกๆ

    แต่กลับไม่ได้ดูเลวร้าย

    ความคิดของยัยนี่น่าจะมีเหตุผลที่ตื้นกว่าที่คิด

     

    ".....องค์กรของฝั่งเรา ถ้าจะพูดให้ถูกหมายถึง องค์กรภายในประเทศเรา ที่นำโดยท่าน เอ็มสี่แอลเอโอ .... ได้งบประมาณน้อยกว่าของฝั่ง เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอช ถึงสิบเท่า .... เพราะนอกจากดิชั้น ที่มีหมายเลขต่ำกว่าหมื่นเพียงคนเดียวแล้ว ยังมีกำลังการผลิตหมายเลขต่อปีได้ต่ำมาก .... ทางเราต้องการงบประมาณที่มากขึ้นค่ะ .... พอฝั่งเราได้รับ ... ข้อมูลและหลักฐานบางอย่าง ที่จะชี้ชัดไปยัง สิ่งที่เกิดเหตุการณ์ห่าฝนแล้ว .... พวกเราต้องการให้ ผลงานนี้เป็นของเราเพียงฝั่งเดียวเพื่อให้งบประมาณของประเทศเรามากขึ้นค่ะ .... ไม่งั้นพวกเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน ..... ถ้าหากเป็นผลงานร่วมไป .... ฝั่งพวกเราก็คงยังตกต่ำแบบนี้ต่อไปแน่นอนค่ะ ..... ได้โปรดเถอะนะคะ .... รบกวนช่วยพวกเรา ..... เพื่อองค์กรในฝั่งประเทศเรา .... ได้โปรด เห็นใจด้วยค่ะ ... แค่สองเรื่องเท่านั้น .... ไม่บอกเรื่องนี้ให้กับฝั่งเอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอชรู้ .... และ .... ยอมให้พวกเราตรวจสอบบางสิ่งเกี่ยวกับคุณ ..... รบกวนด้วยค่ะ!!!"

    เธอเอ่ยอธิบายยาวเหยียด

     

    แต่ .... ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เข้าใจ

    สิ่งที่เธอพูดมานั้นมาจากความจริงใจ ... ผมรู้สึกได้

    แต่มันไม่ใช่เรื่องนั้น .... ผมจะต้องหักหลัง M10TH

    เพื่อช่วย 777 และ หัวหน้าของเธอที่โดนเรียกว่า M4LAO

    โดยการยอมเป็นตัวทดลองให้ฝั่งนั้น .... ไม่สิถึงจะเรียกว่าตรวจสอบก็เถอะ

    แต่ ... ไอ้ที่สนใจที่สุด คือ แม่ ... แม่ของเรา

     

    "ทางเราไม่มีอะไรจะขู่หรือบังคับ ..... ได้แต่ต้องเสี่ยงและเชื่อใจคุณเท่านั้น ... เพราะถึงเราจะมีข้อมูล และหลักฐานบางอย่างจากแม่ของคุณ แต่ถ้าไม่ได้ตรวจสอบอะไรเกี่ยวกับความสามารถและพลังของคุณด้วย ... ก็ไม่อาจจะ .... ใช้ได้ ... และถ้าบอก เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอช ที่มีนิสัยเหมือนเด็กๆไปหละก็ ... เราไม่คิดว่าเธอจะยอมให้พวกเรา ใช้งานคุณได้ .... ยังไง ก็ขอรบกวน ตอบเราด้วยนะคะ ... นี่นามบัตรค่ะ ...."

    เธอเอ่ยก้มหัวแล้วยื่นสิ่งของให้

    มันเป็นนามบัตร ที่เหมือนซองจดหมาย และมีกระดาษบางอย่างอยู่ด้านใน

     

    โอเค ... ผมเข้าใจสถานการณ์หละ

    พวกเธอมีแค่ 2 ทางเลือก

    1.บอก M10TH เลย ว่ามีหลักฐานโยงไปหาห่าฝนได้ แล้วขอตัวผม .... เพื่อจะได้ผลงานร่วมกันแต่ของบได้น้อย

    หรือ 2.เลือกมาขอผมก่อน .... แล้วลุ้น ว่าผมจะไปบอก M10TH หรือไม่ .... เพราะถ้าอย่างแรก ก็ไม่ต่างอะไรกับบอกตรงๆ .... ทำให้พวกเธอไม่เสียผลประโยชน์มาก ... แต่ไมได้ประโยชน์เท่าที่ควร ส่วนถ้าเป็นอย่างหลัง ....

     

    "... ผมขอคิดดูก่อนแล้วกัน .... แล้วก็ ... ถ้าขอแค่นี้ ... ผมไม่คิดว่า ผมจะยอมรับ ถ้าขอเพื่อประโยชน์เข้าประเทศคุณอย่างเดียวหรอกนะ"

     

    "ค่ะ .... รายละเอียดจะอยู่ภายในนามบัตรรวมถึงวิธีการติดต่อ และแสดงหลักฐานของฝั่งเรา ....... รบกวนขอร้องตอบ ภายในวันที่ ยี่สิบห้าธันวานี้ด้วยนะคะ .... เพราะมันเป็นประโยชน์ต่อตัวของเรา และของประเทศที่เอ็มหนึ่งศูนย์ทีเอช ดูแลอยู่เองด้วย ... ขอบคุณค่ะ"

    เธอเอ่ยบอกผม

    แล้วลุกขึ้น เดินจากไป

    ปล่อยให้ผมงง ..... ดูใบหน้าเธอเหมือนจะเกรงผมนิดๆ

    แต่ก็เหมือนมีบางอย่างแอบแฝง

     

    ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่สามารถคิดได้ง่ายๆ

    พูดง่ายแต่ทำยาก ..... แต่ก็นะ

     

    .....

    รายละเอียดงั้นเหรอ

    ตรงนั้นค่อยคิดดีกว่า

    แต่เรื่องของแม่เรานี่สิ ... อะไรกัน

    ทั้งๆที่ ... ไม่คิดว่าจะมีอะไรแล้วนะ ... อะไรกัน!

    ไม่เข้าใจเลยแฮะ... แย่ที่สุด

     

    .........................................................

    ....................................................................................

     

    17.20 น.

     

    ผมโทรศัพท์ไปหา M10TH

    และคุยเรื่องสารทุกข์สุขดิบไปเรื่อยเปื่อยตามปกติ เหมือนเมื่อวานนี้

    ไล่ไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่ง .... ย้ายมาเรื่องห่าฝน

    เธอก็ตอบว่า มันแย่มากที่ยังไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกเลย

    แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้

    ก่อนที่เธอจะถามเรื่องความเป็นอยู่ของผมกับสามสาว...

     

    จนกระทั่ง .... พอจะวกเข้าเรื่องนั้น....

    ถามอ้อมๆไปก่อนแล้วกัน

    "... นี่ .... เธอหน่ะ... ชั้นขอถามอะไรหน่อยได้ไหม"

    ผมเอ่ยขึ้นระหว่างจ้องมอง มายด์มะม่วง และสโรชา ที่กำลังเตรียมตัวกันอย่างดี

    เพื่อจะออกไปทานอาหารกันข้างนอก...

    ข้อเสนอของยัย มายด์เลยหละนะ .... เอาเถอะ เธอทำอาหารให้กินตลอด

    ไปกินข้างนอกบ้างก็ดี

     

    "ว่าไงเหรอพยายาม ...."

    เด็กสาวถามกลับมา

     

    ".... ถ้าเกิดชั้นมีเรื่องสำคัญ .... ที่เกี่ยวกับเธอ หรือผลประโยชน์ของเธอ .... แต่ถ้าบอกเธอไป จะเสียผลประโยชน์คนอื่นแทน .... แล้วชั้นเลือกไม่บอกเธอ ... เธอจะโกรธไหม.... "

    ผมถาม

     

    "..........."

    M10TH นิ่งไปสักพัก

     

    ทั้งสามสาวที่ใส่ชุดกันเสร็จแล้วก็สนใจฟังเหมือนกัน

    แม้ผมจะยังไม่ได้เล่ารายละเอียดให้สามสาวฟังก็เถอะ

    พวกเธอจ้องมองฟังเสียงในโทรสัพท์

     

    พอเห็นว่านานเกินไป ผมก็เรียกเธอ

    "... เห้...."

     

    "โกรธสิ ..... นายเป็นคนของชั้น ชั้นก็ต้องโกรธสิที่ไม่ยอมบอกชั้น"

    M10TH เอ่ยตอบ

     

    ว่าแล้วหละนะ .... ยังไงก็ต้องโกรธ

     

    "... แต่ .... "

    เด็กสาวเอ่ยขึ้นก่อนที่ผมจะคิดไปมากกว่านี้

     

    "หืม?"

     

    "คนทุกคนมีเหตุผลของตนเอง.... ดังนั้นชั้นจะไม่โทษนายหรอก .... ที่ไม่บอกชั้น .... มันไม่ใช่ความผิดของนาย .... ที่จะไม่บอกชั้นไม่ใช่หรือไง ..... เพราะมันมีผลประโยชน์และเสียผลประโยชน์กันและกันด้วย ชั้นเข้าใจ จิตใจและความรู้สึกของนาย ... ชั้นบังคับให้ลูกน้องของชั้น ทำตามที่ชั้นสั่งมามาก .... และชั้นไม่อยากจะทำแบบนั้นกับนายหรอกนะพยายาม......"

    เธอเอ่ยบอกด้วยเสียงนิ่งเรียบ

     

    "เอ่อ ... อืม .... จริง"

    ผมนั้นเข้าใจ สิ่งที่เธอบอกและจะสื่อ

    แต่ไม่เข้าใจน้ำเสียงของเธอ กับคำพูดที่เธอว่าโกรธ ทั้งๆที่เข้าใจ

    "..... แล้วทำไมต้องโกรธหละ....ถ้าเธอคิดได้แบบนั้นหละก็ ...."

     

    "นั่นสินะ .... ชั้นก็แค่โกรธ .... ที่นายไม่ไว้ใจชั้นละมั้ง"

     

    .....

    เธอตอบออกมาแบบนั้น

     

    คำพูดนั้น .... มันทำให้ผมรู้สึกว่า

    ผมกับเธอ มีอะไรพิเศษบางอย่างต่อกัน

    แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

     

    ก่อนที่ เธอจะวางหูไป

     

    ...............

    รู้สึกเหมือนเป็นคนผิดเลยแฮะ

    ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็เป็นคนผิด

    .... แย่ที่สุดจริงๆ

     

     

    End Chapter 60-2 นั่นสินะ .... ชั้นก็แค่โกรธ .... ที่นายไม่ไว้ใจชั้นละมั้ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×