ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #98 : Chapter 60-1 Somebody

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 536
      8
      13 เม.ย. 57

    Chapter 60 Somebody

     

    วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม เวทศักราช 212

    9.13 น.

     

    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

     

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

     

    เสียงนกหวีดเป่าดังๆแต่สั้นๆเป็นระยะๆ

    พวกเรากำลังวิ่งออกกำลังกายกันกลางแดนยามสายของหน้าหนาวแต่ไม่หนาว

    แล้วดันโคตรจะแสบผิว

    หลายๆคนก็ถึงกับต้องใส่ชุดปกปิด ผิวเพื่อกันแดดกันเลยหละนะ

    เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกใช้เวทย์จริงๆครั้งแรก

    ...

    เออ หมายถึง

    การใช้เวทย์จริงๆ สำหรับหลายๆคนเลยหละ

    ก็พวกเรา มันพวกสายวิทย์มาตลอด

    จะมาใช้เวทย์จริง ก็ต้องตื่นเต้นกันอยู่ละ

    พวกเราต้องวิ่งกันทั้งหมด หกรอบ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย

    บอกตรงๆ คนที่แนวคิดบอกว่า ร่างกายแข็งแรง เวทย์ก็จะแข็งแรงไปด้วยนี่ .... ไม่ค่อยเห็นด้วย

    ตรูเห็นเด็กร่างกายอ่อนแอ เก่งๆ ก็มีถมถืดไป .....

    แต่อย่างว่า นั่นมันพวกคนเก่งๆนี่หว่า

    พวกเราที่มันอยู่ในขั้นวิกฤต และเตรียมถูกผลิตไปในสายการผลิตแรงงานมันอีกเรื่องเลย

     

    ทุกๆคนที่เป็นสายปกติ .... ยกเว้นสายอัญเชิญ จะได้เรียนกันตรงนี้

    ส่วนเมื่อวิ่งเสร็จ ผม ที่เป็นสายอัญเชิญและคนอื่นๆ จะได้แยกไปอีกจุด

     

    คนที่วิ่งนำหน้าพวกเราอยู่ คืออาจารย์ ชาย ที่รูปร่างไม่เหมือนนักกีฬาเท่าไหร่

    ด้วยรูปร่างเตี้ยและผอมแห้งสุดๆอีก แถมยังใส่แว่นอีก

    บอกตรงๆว่า ใครจะไปเชื่อ ว่าท่านตอนหนุ่มๆ เคยเป็นแชมป์กีฬาเวทย์ในประเทศ

    เพื่อไปแข่งขันระดับทวีป มาแล้ว

    แถมยังได้ถึงอันดับ 5 อีก

    ถ้าได้อันดับ 4 ประเทศเราคงได้ไปลุ้นต่อบนเวทีโลกแล้วหละนะ

     

    เอาเถอะ ..... ตอนนี้ผมไม่อยากจะไปลงแข่งขัน กีฬาเวทย์แล้วหละนะ

    ถึงอยากจะลองสักครั้ง แต่มันจะมีใครเชื่อหละ .... เห้อ

     

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

     

    พอพูดถึงกีฬาเวทย์ คุณๆหลายคน คงคิดว่า มันเป็นอะไรที่ตลกๆ

    แต่เอาเข้าจริงๆ มันดันโหดร้ายสุดๆ ...... น่ากลัวสุดๆเลยหละ

    ความเจ็บจริง หากพลาดแล้วตายจริง ก็จะแย่อีก

    ระดับความรับผิดชอบ ในการตายจะน้อยลง ในระดับโลก

    ผมหมายถึง ทุกๆคน ที่ผ่านระดับประเทศไป ตบกับระดับทวีปนี่....

    ยังมีกฎในเรื่องความปลอดภัย และห้ามฆ่าชัดเจนนะ

    แต่ระดับโลก ดันไม่มี แค่บอกว่า ระมัดระวังการฆ่าผู้อื่น จะทำให้แต้มโดนตัดลง

    นั่นหละปัญหา ..... ถ้ามีใครสามารถฆ่าคนอื่นได้อย่างง่ายดาย

    แต้มมันก็จะลดลง จริง ..... แต่ถ้ายืนหยัดบนเวทีได้เป็นคนสุดท้ายตลอดมันก็เรื่องหมูๆ

    แถมยังแข่งแบบแพ้คัดออกอีก .... เข้าใจดีเลยหละ ถ้าจะให้เอามายด์ มะม่วง หรือสโรชาเข้าไปร่วม

    ได้มีฮากันบ้างหละนะ ... ไม่ได้ชมว่าตนเองเก่งหรอกนะ

    แต่ผมคิดว่า ยัยพวกนั้น ในร่างปีศาจ ...... น่าจะโหดมากพอจะสู้ได้ทุกๆคน

     

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

     

    อะ ลืมเรื่องนึงไปเลยแฮะ ..... เวลาใช้ร่างปีศาจของยัยพวกนั้น ร่างกายเราเองก็จะได้รับภาระ

    จนอาจจะตายได้นี่หว่า

    นั่นสิ ..... พอมาคิดข้อจำกัดที่บ้าบอขนาดนี้

    มันก็ต้อง เก็บตัวจริงไว้รอบสุดท้าย ..... กว่าผมจะผ่านไปถึงรอบนั้นได้

    เห้อ .... จะเอาชีวิตรอดไปถึงได้เหรอฟระ! ตรูมันเก่งที่สุดจากการคำนวณแน่เหรอ

    ไม่ๆๆ ... ไม่สิ เจ้าองค์กรนี้ มันเดาและคำนวณด้วยเทคโนโลยีแปลกๆนี่ ....

    แถมจากเหตุการณ์ที่ผ่านๆไปมา ก็บอกได้แล้ว

    ว่าถ้าตัวๆ กันจริงๆ

    หมายเลขของยัยพวกนั้น ก็เป็นจุดบ่งชี้ว่า ใครเก่ง ใครอ่อนได้ชัดๆเลย

     

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

     

    ผมที่วิ่งรั้งท้ายกลุ่มผู้ชายนั้น หันไปมองกลุ่มผู้หญิง

    ที่วิ่งรอบกรอบสนามวงใน โดยมีอาจารย์ธิดาเป็นคนนำวิ่งแทน ....

    จะว่าไป ไม่ว่ายุคสมัยไหน ... ชายกับหญิงไม่ได้ทัดเทียมกันหรือไงนะ

    ไปอยู่ในร่างผู้หญิงก็ได้เข้าใจ ว่ามันก็เท่ากัน ... ในหลายๆเรื่อง

    จำเป็นด้วยหรือไงนะ ที่จะต้องแบ่งให้ผู้หญิง ฝึกน้อยกว่า

    พอฝึกน้อยกว่า แข็งแกร่งน้อยกว่า ก็หาว่าผู้หญิงอ่อนแอกว่า

    จริงๆแล้วไม่ใช่เลยสักนิด .... เชื่อสิ.... ยัยพวกนั้นแต่ละคนก็ค่อนข้างจะน่ากลัว

    อ่า .... ไม่สิ เราก็คิดไร้สาระไป

     

    แบ่งเพศอย่างน้อยๆ เวลาอาจารย์ผู้หญิงสอน จะได้จับเนื้อต้องตัวกันได้ง่ายกว่า

    ใช่.... ถ้าคิดแบบนี้หละก็ ไม่เห็นจะต้องซีเรียสเลย

    เพราะการจับเนื้อต้องตัวที่ผ่านมา ก็เล่นเอาผมกล้ำกลืนไปเลย

    อยากรู้จริงๆ ว่าจะมีผู้หญิงที่ต้องเป็นเหยื่อให้ผู้หญิงด้วยกันแกล้งกี่คนบนโลกใบนี้

     

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

    ปิ๊ดๆ - นึง ส่อง -

     

    - ตึ่ง~~~ ตึง~~~~~ตึ๊ง~~~~~~~~~~ -

    - ประกาศ นายพยายาม ... นายพยายาม กรุณามาพบญาติ ที่ห้องรับรอง เดี๋ยวนี้ด้วย -

     

    หา ... มาพบอะไรนะ ... ฟังไม่ชัด

    แต่ชื่อตรูแน่ๆ

     

    "เอ้า พยายาม แยกตัวได้ ทางนั้นเรียก"

    อาจารย์ชายหยุดเป่านกหวีดแล้วหันมาเอ่ยบอกผมโดยไม่หยุดวิ่ง

     

    "คร้าบ!!! แฮ่ก .... แฮ่ก..."

    ผมตอบรับแล้วหยุดวิ่งไป

    โอเค ยอมรับแหละ ว่าเริ่มเหนื่อยหอบ

    คนอื่นๆ ก็หอบๆเหมือนกันนั่นแหละ

     

    "อาจารย์ธิดาคะ หนูขอไปกับพยายามค่ะ!"

    สโรชาขอไปกับผมทันที

     

    เหอ ... ไหงต้องขอตามมาหละนั่น

    แต่เล่นไม่หอบเลยแฮะ ... แข็งแกร่งจริงๆ

     

    "ไม่ได้! เป็นญาติเขาหรือไง วิ่งต่อ อย่าหาเรื่องอู้ สโรชา!"

    อาจารย์ธิดาเอ่ยดุสโรชาแล้ววิ่งต่อไป

     

    ฮะๆ ... ทำไมต้องว่าสโรชาเรื่องญาติด้วยหละ

     

    - ตึ่ง~~~ ตึง~~~~~ตึ๊ง~~~~~~~~~~ -

    - ประกาศอีกครั้ง นายพยายาม ... นายพยายาม กรุณามาพบญาติ ที่ห้องรับรอง เดี๋ยวนี้ด้วย -

     

    หา ? ญาติ?

    ตรูมีญาติ ตั้งกะมะไหร่วะ ....

    แม่ก็ไม่มีญาติ พ่อก็เป็นลูกคนเดียว ปู่ย่าตายายตรูก็ไม่มี

    ยังไม่เคยเห็นลุง น้า อา เลย

    ญาติ ฝ่ายไหนฟระ ....

     

    อะ ไม่สิ .... สมาชิกฮู๊ดดำ ....

    ไม่ ไม่ ไม่ ..... บ้าหรอฟระ

    ก็เข้าร่วมไปแล้ว จะมาอีกได้ยังไงกัน

    ไม่น่าจะใช่

     

    แต่.... จะมายังไงก็ช่างเหอะ .... ยังไงก็ไม่น่าใช่ฝั่งตรงข้ามหรอก

    มั้ง...

     

    ผมเดินแยกตัวออกมา มองเพื่อนๆ ทุกๆคนที่เพิ่งเริ่มวิ่งขึ้นรอบที่ 3

    แรงของทุกๆคนเริ่มหมดกันเลยหละ แล้วยังต้องวิ่งอีก 3 รอบ

     

    ถ้าเป็นเด็กๆคงบ่น ไม่เห็นเท่เลย!! มองไม่เห็นเลยว่าเป็นเวทย์ตรงไหน

    น่าจะฝึกเวทย์ แล้วร่ายกันไปเลยสิ ... ไอ้คาถาอย่าง เอ็กเพรซโซ่ คาปูชิโน่ อะไรเนี่ย

    ฮาๆ ... โลกความเป็นจริง มันโหดร้ายกว่าที่น้องๆคิดไว้เยอะ

    เวทมนตร์ไม่ได้เท่! เพราะมันคือ เวทยาศาสตร์

     

    อ่าพอละๆ ไม่คิดละกัน

     

    ผมเดินย้ายตัวออกมา

    ถึงแม้ว่าจะหอบหรือเหนื่อยเหงื่อออกเยอะ

    แต่ผมไม่คิดที่จะไปล้างเหงื่อหรอกนะ .... ซับด้วยผ้านิดๆพอละ

     

    ผมเดินกลับเข้าไปในอาคารเรียน ฝั่งหนึ่ง แล้วเดินตรงผ่านห้องเรียนยิบย่อย

    เพื่อไปถึงห้องรับรอง

     

    แล้วผมก็เปิดประตูเข้าไป

     

    ภายใน เป็นห้องที่จัดเก้าอี้โซฟาแบบยาวสำหรับ 2 บุคคล

    4 ตัว ล้อมรอบโต๊ะไว้

    และมีบริเวณโดยรอบที่มีเกียรติประวัติของเวทยาลัย แปะติดเต็มไปหมด

    สรุปง่ายๆว่า นี่มันห้องสร้างภาพชัดๆ

     

    โอเค จากมุมประตูที่ผมเข้ามา ผมสามารถมองเห็น ... หลังและใบหน้าด้านขวาเธอได้ชัดเจน

    เสื้อและกางเกง จากกีฬาวิทย์ประเภทหนึ่ง ที่เรียกกันว่า ฟุตบอล

     

    โอเคๆ ... เดี๋ยวๆ สะบัดหน้าแล้วมองชัดๆอีกครั้ง ผมอาจจะมองไม่ชัดเจนพอ

     

    บุคคลที่นั่งนิ่งๆ หลับตารอคอยผมอยู่คือ หญิงสาว ผิวสีขาวอมน้ำผึ้ง

    หน้าตาจัดได้ว่าสวยเลยหละ

    อายุก็ ... อ่า ... น่าจะ 20 ถึง 25 ได้

    ไว้ผมสีดำยาวประติ่งหูไปถึงต้นคอ แต่ มีเปียข้างหนึ่งที่ไว้ยาว จนเกือบถึงศอก

     

    โอเค อันนั้นไม่แปลกใจ

    แต่!!!

    ไอ้ ลูกฟุตบอล .... นั่นมันอะไร

    วางไว้บนโต๊ะ ..... แบบนั้นทำไม

    แล้วไอ้ชุดที่ใช้มาพบญาตินี่ คือ ชุดกีฬาวิทย์ ที่เรียกว่าฟุตบอล เหรอฟระ

    เสื้อฟุตบอลสีแดง กางเกงฟุตบอลสีดำ ด้านหลังเขียนหมายเลข 7 เอาไว้

     

    แล้วไอ้ ถุงผ้าที่มี กระติกสานด้วยไม้ไผ่นั่นมันอะไรฟระ

    กระติกข้าวเหนียวเรอะ!!! เห้ยๆๆ

     

    ยะ ยัยนี่ ประหลาดอีกแล้ว

    ไม่ๆๆ .... ตรูไม่มีญาติแบบนี้แน่

    รับรองได้เลย

    ด้วยเกียรติแห่งตัวผมเอง

    ผมสาบานได้ ...

    แต่จะทำไงได้วะ

    มีแต่

    ต้องทักออกไปเท่านั้นสินะ

     

    "สวัสดีครับ ... ......"

    ผมเอ่ยออกไปด้วยเสียงไม่มั่นใจนัก

    ดวงตาเหล่มองเธอที่ยังคงนั่งนิ่ง

     

    "เอ่อ ... สวัสดีครับ"

    ผมเอ่ยอีกรอบ

     

    "อะ!"

    โอเค ... เธอรู้สึกตัวแล้ว

     

    หญิงสาว ค่อยๆ หันหน้ามามองผม ด้วยรอยยิ้มหวานๆ

     

    "สวัสดีครับ ..... มาหาผมเหรอครับ"

    ผมถามกลับไปอีกรอบด้วยท่าทางเครียดหนัก

     

    "แม่นแล้ว ...."

    เธอเอ่ยตอบออกมา

     

    หา!!

    แม่น ... อะไรแม่น?

    ตรูยังไม่ได้ทำอะไรเลย ยังไม่ได้โจมตีหรือยิงอะไร

    แล้วมันจะแม่นได้ไงฟระ!

    ยัยนี่เล่นเกมมาเยอะเลยเพ้อเหรอ

    ไม่ใช่ๆๆๆ ... ไอ้แม่นแล้ว นี่อะไรฟระ

     

    ".... เอ่อ ..... สวัสดีครับ....."

    ผมเอ่ยออกไปอีกครั้ง ด้วยใบหน้าเครียด

     

    เธอยิ้มหวาน น่ารัก

    ค่อยๆดันตัวลุกขึ้น พนมมือถอนสายบัวไหว้ผม

    แล้วเอ่ยคำพูดที่ผมไม่เข้าใจ

    ว่า

     

    "ซำบายดี คะ"

     

    หา ? ซัมบอดี้ ... ? Somebody เหรอ??? แล้วทำไม ต้องมี คะ....

    ไม่ .. ไม่เข้าใจ ...

    ไม่เข้าใจโว้ยยยยยยยยยยยยย!!!

     

    End Chapter 60-1 ซำบายดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×