ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 มากินด้วยกันมั้ย .... อร่อยมากๆเลยนะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.25K
      25
      19 มี.ค. 57

    Chapter 6 มากินด้วยกันมั้ย .... อร่อยมากๆเลยนะ

     

    ซ่า~~~~~~~~~~~

    เสียงฝนพรำ ไม่หยุด แม้เม็ดฝนจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ซัดสาดลงมาอย่างไม่ลดละ

     

    แคร้งงงงง .....

    เสียงของมีคม ที่ลากผ่านพื้นคอนกรีตดังขึ้น แหวกเสียงฝน

    ดังมากจนมันกระทบกระเทือนไปถึงก้นบึ้งของหัวใจของผม

     

    ผู้สวมฮู้ดดำเบื้องหน้า ในมือซ้ายถือดาบแบบยุคสมัยเก่าตอนประเทศมีสงครามรบกับประเทศเพื่อนบ้าน

    ค่อยๆ ลากมันกระทบเสียดสี กับพื้นถนน เข้ามาใกล้ผมช้าๆทีละก้าว ทีละก้าว ....

     

    "มึงต้องการอะไรกันแน่ !!!"

    ผมตะโกนดังลั่นอีกครั้ง ถามคำถามไป ด้วยความรู้สึกกลัว สั่นเทาไปหมด

    ผมยังจำได้แม่น ดาบมันคมมาก แค่ฟันฉับเดียว จักรยานของผมก็ขาดเป็นสองท่อน

    "มึงจะมาเอาอะไรกับคนที่ไม่เหลืออะไรแล้วอย่างกูวะ!!! เหี้ยเอ้ยยยยย!!!"

    ผมโวยอีกระรอก ผ่าเสียงฝนที่ยังดัง ซ่า ไม่รู้จบ และเสียงฟ้าร้องดังครืนครืน เป็นระยะ

     

    ".........."

    มันไม่ตอบผม ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมอีกก้าว

    แคร้งงงง.....

    เสียงลากดาบที่ฟังดูแล้วปวดหัวใจจี๊ด ทุกครั้งที่ได้ยิน

     

    ผมไม่มีทางหนีอีกแล้ว รั้วหนามทั้งสองด้าน หน้าและหลัง

    ด้านหน้ามีดารา? ไม่สิ ต้องเรียกว่า ไอ้ฮู้ดดำ ถือดาบรอฆ่าผมอยู่เบื้องหน้า

    หมดทางหนีแล้ว จะยอมรับความตาย หรือจะสู้

    เรื่องมันแน่อยู่แล้ว ... ถ้ายอมรับความตายยังไงมันก็ตาย

    แต่ถ้า .... สู้หละก็

    ไม่ไหว ไม่รู้เวทย์อะไรเลย การศึกษามันทำไมห่วยยังงี้วะ

    หรือเพราะเราไม่ขวนขวายเองกันแน่วะ

    กว่าจะสอนให้นักเรียนเป็นทำไมต้องรอตั้งเทอมสองด้วยวะ

    ถ้าสอนตั้งแต่แรก มายด์ก็คง

     

    ซ่า~~~~~~

    แคร้งงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!

    ครืนนน ครืนนนน

    แคร้งงงง!!!!

     

    มันวิ่งเข้ามาหาผม .... ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น

    ดาบอันแสนคมกริบก็ถูกตวัดขึ้นจากพื้น ผ่าอากาศ แหวกสายฝน เข้ามาสู่ตัวของผม

     

    เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!

    ฟ้าผ่าดังลั่น สนั่นไปทั่วทั้งหัวใจ พร้อมกับจิตใจของผม

    มันอาจจะเป็นเสียงฟ้าผ่าครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ยิน

    ยังไงก็ขอรับฟังหน่อยแล้วกัน

    ..............................

    ....................

    .......

     

    "เรายัง?!!!!!!!!"

    ใช่ ผมยังไม่ตาย

    ภาพที่สว่างวาบจนแทบมองไม่เห็น เมื่อจางหายก็พบกับ ...

     

    "ไม่เป็นไรนะพยายาม"

    เสียงของหญิงสาวแสนหวานที่ผมคุ้นเคยเอ่ยกับผม ในชุดฮู้ดดำ

    มือข้างขวาของเธอ ถือดาบแบบเดียวกันกับ ....

     

    ใช่ ผู้สวมฮู้ดดำ มี 2 คน

    นี่มันอะไรกัน? ทำไม มันถึงมี 2 คน

    แล้ว มันยังไงกัน ชั้นชักไม่เข้าใจ แต่ ....

    รางกายมันไม่ขยับ ผมได้แต่ถอย หลังแล้วยืนมอง

    "นี่มัน อะไรกัน"

     

    ผมเอ่ยอย่างตกใจ ระหว่างที่มอง บุคคล 2 คนเบื้องหน้า ประดาบกัน

    เคร้ง!

    มันเกิดการตวัดขึ้น

    ฮู้ดดำ ผู้ต้องการฆ่าผมนั้น ถอยหลังกลับออกไป

    ท่าทางของมันตกใจไม่น้อย

    "ทำไม?"

    มันเป็นเสียงของหญิงสาว เช่นเดียวกันกับสโรชา

     

    "ทำไม? นั่นสินะ เธอกำลังตกใจอยู่หละสิ ว่าทำไม?"

    สโรชา ผู้ยืนหันหลังให้ผม เอ่ยสวนไปยังคนคลุมฮู้ดอีกคน

     

    แล้วพวกคุณมึงคุยอะไรกันครับ

    คนที่ต้องตกใจที่สุด คือ คุณกูครับ ไม่ใช่พวกคุณมึง

    แล้ว ... จะให้ผมแยกแยะยังไง อ่า ... ฮู้ดดำผู้เป็นศัตรู กับฮู้ดดำผู้เป็นมิตรยังงั้นหรือไง

     

    "แกไม่ใช่คนในเขตนี้นี่ .... มาทำอะไรในเขตนี้ แล้วมาขัดขวางทำไม!"

    ผู้เป็นศัตรูเอ่ยถามมายังฝั่งผม

    มันคงไม่ได้ถามผมแน่ๆหละ

     

    "ชั้นมานี่เพื่อจะกำจัด.... เสี้ยนหนาม ที่เป็นอุปสรรค ต่อเป้าหมายของชั้น ... ก็แค่นั้น"

    สโรชาเอ่ย แล้วสะบัดดาบยกขึ้น

    มันมีเลข 174 สลักไว้ที่ดาบ

     

    ผู้เป็นศัตรูกำหมัดขวาแน่นเอ่ย

    "หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่มีกฎข้อใด สั่งให้คนภายในสมาคมฆ่ากันเอง โดยไม่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหน่วย ถ้าเธอฝ่าฝืนหละก็ สารเว...."

     

    "สารเวทย์เจือปนแทรกซ้อน จะทำงานแล้วฆ่าชั้นทันทีงั้นสินะ เสียใจด้วยนะ ชั้นตายไปแล้วรอบนึง สารพวกนั้นมันก็หายไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องตายเพราะสารนั่นอีกแล้วหละ"

    ไม่ทันอีกฝั่งจะเอ่ยจบ สโรชาก็เอ่ยตัดคำพูดนั้น

     

    "หรือว่า แกคือ หนึ่งเจ็ดสี่"

     

    "ช่ายยยย"

    สโรชาตอบลากเสียงยาว

     

    ผมอยากจะตะโกนถามสวนออกไปจริงๆ

    ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่

    แต่ผมไม่กล้ายุ่งเลย ผมได้แต่ยืนนิ่ง มองคนที่มีพลังเหนือกว่าผม คุยกัน

    ผมทำได้แค่นั้น

     

    "ทำไมคนอย่างเธอ ถึงได้ทรยศได้ ทั้งๆที่น่าจะมีความจงรักภักดีที่สุดแท้ๆ"

    ฮู้ดดำผู้หันมาทางพวกผมนั้นเอ่ย แล้วค่อยๆยกดาบขึ้นมา

    "แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ชั้นไม่กลัวหรอกนะ ในเมื่ออยู่ในเขตแดนของชั้น เธอก็สู้ชั้นไม่ได้หรอก!"

    ศัตรูพูดจบแล้วตวัดดาบขึ้น อย่างเกรี้ยวกราด

    ทันใดนั้น สิ่งของบางอย่างก็พุ่งลงมาจากด้านบน

     

    มันคือ ....

    เหล็กก่อสร้างขนาดยักษ์

     

    "ระวัง"

    สโรชาเอ่ยแล้วดึงผมเข้าไปใต้แท่งเหล็กนั้น

     

    เห้ย .... จะ บ้าเหรอ ... ทำไมถึงดึง ตรูเข้าไปใต้เหล็ก

    แต่ไม่ทันแล้ว ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมมันอ่อนแอ..

    นี่ผมกำลังจะตายสภาพเดียวกับ มายด์เหรอ?

     

    เคว้ง!!

    ตึ้ง .... ตึ้ง

    ชั่วลมหายใจ

    เธอตวัดดาบฟันขึ้น ผ่าแท่งเหล็กนับตันกระจายตกลงออกสองข้างทาง

    ก่อนจะเริ่มหันไปมองผู้อยู่เบื้องหน้า

    "งั้นชั้นก็จะไม่เกรงใจหละนะ สามสองสองสี่"

    สโรชาปล่อยผมออกแล้วหายตัวไปทันที

    .... หายตัวได้ยังไงกัน พลังเวทย์แบบไหนกัน

     

    "อึก!...."

    ฮู้ดดำผู้ถูกเรียกว่า 3224 นั้นสะดุ้งเฮือกแล้วรีบตั้งรับ

     

    ควับ!

    ดาบนั้นโผล่มาจากด้านหลังของศัตรู

    แกร้ง!!

    เสียงของดาบประทะเข้าหากัน

     

    "ทำไมกัน!! หยุดนะ อ้ะ!!"

    ผู้เป็นศัตรูพยายามเอ่ยบอกให้สโรชาหยุด แต่มันก็ไม่เป็นผล

    ดาบจากฝั่งสโรชายังคงฟาดฟัน ถาโถม เข้าหา ราวกับห่าฝน ที่โรยรินอยู่ในเวลานี้

     

    "ผู้ฝ่าฝืนกฎแรงโน้มถ่วงและภาพลวงตา ระดับ 4 อย่างเธอ ก็คงมาได้แค่นี้นั่นแหละ"

    สโรชาเอ่ยระหว่างกระหน่ำฟันอย่างบ้าคลั่ง

     

    "หยุด!!...."

    ฝวับ!!! ในที่สุดหลังจากตั้งรับอยู่นาน

    ดาบของสโรชาก็ฟันตวัดเข้าไปที่ใบหน้าของศัตรู จนฮู้ดสะบัดเปิดออก

    "อ้ากกก!!! อ้าก!! ... ตะ ตาชั้น ...."

    หน้าของเธอโดนบาดไปครึ่งแถบ ทำให้ผมเริ่มมองเห็นใบหน้าของเธอ

    นั่นมัน .... ดวงใจ สาวหน้าหวานที่ดูไร้พิษสงภายในห้อง แต่ เธอกลับกลายมาเป็น.... คนที่พยายามฆ่าผม...

     

    "ดะ ดวงใจ? ทำไมกัน!"

    ผมที่ยืนนิ่งเงียบอยู่นาน ถึงกับต้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

     

    "แก!!! ชั้นจะฆ่าแก ที่ทำให้ชั้นเสียโฉม หนึ่งเจ็ดสี่!!!! ชั้นจะฆ่าแก!!!"

    เธอไม่ตอบผม นอกจากตะโกนกู่ร้องด้วยความแค้น ดวงตากลายเป็นสีแดงกร่ำ

    ก่อนจะระเบิดพลังแล้วยกแขนขึ้น เหล่าแท่งเหล็กต่างๆนับสิบๆชิ้น ก็เปล่งแสงแล้วพุ่งผ่าเข้าหาสโรชา

     

    "หึ...."

    สโรชานั้นยิ้มแสยะ หัวเราะ แล้วหลบแท่งเหล็กนับสิบด้วยการหายตัวอย่างรวดเร็ว

    ตึ้งๆๆๆ โครม ....

    กลุ่มแท่งเหล็กชนกระแทกกันเสียงดังหล่นลงมาระเนระนาด

     

    "แก!!! ชั้นจะ ชั้นจะ ฆ่าแก หนึ่งเจ็ดสี่ นังชั่ว!! นังทรยศ!!!"

    ดวงใจผู้เป็นนักฆ่าในฮู้ดดำตะโกนเสียงดัง

    ก่อนจะ เรียกพลังทั้งหมด เพื่อร่ายมนตร์อะไรบางอย่าง แท่งเหล็กเละเทะค่อยๆกลับมาลอยอีกครั้ง

    แต่ ....

     

    สโรชาได้หายตัวไปด้านหน้าของดวงใจ ที่เปิดช่องว่างระหว่างร่ายพลัง

    พลางพลิกดาบกำแบบมีดให้คมดาบออกมาจากท้ายอุ้งมือ ยกแขนเงื้อไปด้านหลัง

    "ชั้นคงปล่อยให้เธออัญเชิญไม่ได้หรอกนะ สามสองสองสี่ คิกๆๆ..."

    เธอเอ่ยด้วยเสียงหวานจับใจแต่ฟังดูแล้วน่าสยดสยอง พร้อมหัวเราะอย่างมีความสุข?

    เต็มไปด้วยรอยยิ้มแสยะที่มุมปาก

    เสียงของเธอนั้นผ่านสายฝนกังวานจนชวนขนลุก

    มันดังแม้จะอยู่ห่างจากผมไปไกล หรือแม้มีเสียงฝนคั่น

     

    เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะ

    ........

     

    "ไม่!....!"

    สวบบบบ!!!!!!!!

    ดวงใจที่ตอนนี้ต้องตกใจหน้าซีดเผือด เพราะเผลอเผยจุดอ่อนนั้น

    เอ่ยคำสุดท้ายออกมาได้ไม่หมด ก็โดนดาบอันคมกริบของอีกฝั่ง

    ปักเสียบเข้ากลางหน้าผาก ... ทะลุสมองไปข้างหลัง

     

    "หลับฝันดีนะ สามสองสองสี่"

    สโรชาเอ่ยแล้วดึงดาบออกจากหัวของดวงใจ ที่แน่นิ่งไปแล้ว

    เลือดจากศีรษะของดวงใจพุ่งกระเซ็น พรวดออกมา

    พร้อมกับเหล่าแท่งเหล็กนั้นค่อยๆร่วงตกลงมายังพื้น เสียงสนั่นหวั่นไหว

     

    ผมมองตาค้าง ด้วยความตกใจ อึ้ง ช็อก ทำอะไรไม่ถูก

    ความคิดในหัวตีกันไปหมด

    ผมควรจะกลัวเธอ หรือควรจะขอบคุณเธอดี

    คนที่มาช่วยผมคือฆาตกร ที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้

    แล้ว ฮู้ดดำคือ องค์กรอะไร

    แล้วหมายเลขพวกนั้นคืออะไร

    แล้วผู้ฝ่าฝืนแรงโน้มถ่วงและภาพลวงตาระดับ 4 คืออะไรกันแน่

    ร่างกายผมสั่นกลัวไปหมด

     

    "พยายาม เราออกจากที่นี่ก่อนเถอะ เขตแดนของผู้หญิงคนนี้กำลังจะหายไป"

    สโรชาที่เดินลากศพของดวงใจมานั้น เอ่ยกับผม

     

    "..... อืม"

    ผมจะตอบอะไร ถ้าไม่ใช่คำนี้

    ผมคิดอะไรไม่ออก เป็นคนอื่น จะเข้าใจผมไหม?

    ในสถานภาพอันทุเรศของตนเอง กับสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ต้องทำตามแบบนี้

    ......................................

    ..............................

    ..................

    ..........

    ผมโดนสโรชา พามายังห้องๆหนึ่ง พร้อมกับศพของดวงใจ

    ด้วยการเคลื่อนย้ายที่รวดเร็วเพียงพริบตาเดียว กับการหายตัว ไปเรื่อยๆ เพียง 10 ครั้ง

    ผมยังคงงุนงง กับสถานการณ์อยู่มากผมมองหน้าของเธอ ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัวและความสงสัย

     

    "นี่เป็นห้องของชั้นเอง ทำตัวตามสบายเถอะ พยายาม"

    เธอเอ่ยออกมา ก่อนจะเดินลากศพของดวงใจเข้าไปในห้องน้ำ

     

    "สโรชา นี่มันอะไรกัน"

    ผมเอ่ยคำพูดแรกทันที หลังจากอัดอั้นตันใจอยู่นาน

    นอกจากคำถามนี้ ผมก็คิดคำถามอื่นไม่ออก

     

    "เรื่องมันยาวหน่ะ เดี๋ยวจะเล่าจนพยายามเข้าใจทั้งหมดเอง ... แต่ตอนนี้ ขอเวลาชั้นสักพักได้มั้ย"

    สโรชาหันมามองหน้าผม ดวงตาเลื่อนลอยกึ่งยิ้มนิดๆ

    ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    ท่าทางเธอคงจะเหนื่อยมากหละมั้ง

    "อืม ...."

    ผมไม่กล้าขึ้นเสียง ใช้กำลัง หรือหนีจากเธอ

    เธอน่ากลัวกว่า ฮู้ดดำตัวแรก หรือดวงใจเสียอีก เธอสามารถหายตัวได้

    ถ้าผมหนี และเธอคิดจะตาม คงไม่ยากที่จะตามผมทัน

     

    แต่สิ่งที่ผมไม่รู้คือ พลังเหล่านี้ เป็นพลังแบบไหนกันแน่ มันไม่ใช่พลังที่นำเอาเวทย์มาพลิกแพลง

    มันดูแตกต่างออกไป....

     

    หลังจากที่ผมนั่งนิ่งไปได้สักพัก ยิ่งอยู่นิ่ง ก็ยิ่งเครียดมากขึ้น จนต้องพึมพำกับตัวเอง

    "ให้ตายเหอะ"

    ผมลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปส่องกระจกมองออกไปด้านนอกเพื่อชมวิว และมันทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่า

    ห้องนี้คือคอนโดระดับสามดาว ย่านกลางเมือง อยู่บริเวณห้างสรรพสินค้าอีกห้างหนึ่ง ที่สร้างเสร็จแล้ว ไกลจากโรงเรียนและบ้านผมมากโขอยู่เกือบ 5 ถึง 6 กิโล

    ที่ทำให้รู้ได้ทันที เพราะความสูงของคอนโดนี้ แทบจะสูงที่สุดในแถบนี้ก็ว่าได้

     

    "เห้อ"

    ผมเดินมองดูข้าวของต่างๆของเธอ แล้วถอนหายใจ

    ก่อนจะนึกได้

    ใช่สติผมเริ่มกลับมาแล้ว

    เธอเอาศพของดวงใจเข้าไปในห้องน้ำ

    แล้วเธอจะเข้าไปอาบน้ำกับศพเหรอ?

    ไม่ใช่แน่ๆ เธอกำลังกำจัดศพของดวงใจทิ้งแน่นอน

    ให้ตายเถอะ แต่ถ้าทำแบบนั้น มันเป็นปัญหาใหญ่เลยนะ เธอจะบ้าเหรอสโรชา!

    ถ้าหั่นศพลงชักโครก หละเป็นเรื่องใหญ่แน่

     

    "เดี๋ยวก่อน สโรชา เธอคิดจะทำอะไรกับ ศพของดวงใจ ....!!!"

    ผมไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปทางห้องน้ำ แล้วเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อคไว้ทันที

    มันทำให้ผมต้องตกตะลึงจนตาค้าง

    ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้า

    คือ หญิงสาวแสนสวยผู้เป็นดารา กำลังเปลื้องผ้าอาบน้ำ ชะล้างร่างกาย ฟองฟอดลอยละล่องไปทั่วทั้งห้องน้ำมีกลิ่นหอมโชย ไปทั่วทั้งห้องน้ำ

    ..........................................................................

    .............................................................

    ............................................

    ................................

    .......................

    ...............

    .........

    ....

    ..

    .

    มันคือสิ่งที่ ทุกคนคิดกันไปเอง

    ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้าในความเป็นจริงนั้น

    คือสโรชา ดาราสาวแสนสวยในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าเปื้อนเปรอะเลือดไปทั่วทั้งกาย ในมือของเธอกำลังกำอุ้งมือสดๆ ยัดเข้าปาก กัดขบกินเข้าไป พร้อมกระดูกเคี้ยวดัง กร้อบ กรุ้บ กรั้บ อย่างละเอียดแล้วกลืน พลางดูดนิ้วมือเปรอะเลือดทั้ง ห้านิ้วของเธอ

    "จุ้บ ... จุ้บ ..."

    ราวกับมันเป็นอาหารอันโอชะ

    ก่อนจะหันมากระชากหัวของดวงใจขาดออกมาจากร่าง อย่างง่ายดาย

    เธออ้าปากงับแล้วกัดเข้าไปเต็มๆปากเต็มๆคำ จากมุมซ้ายบนฝั่งหน้าผากที่โดนดาบบาด

    ฟันบนและฟันล่างของเธอ ผ่ากระทบกะโหลกของดวงใจผ่านเข้าไปถึงสมองและลูกตาเข้ามาอยู่ภายในปากได้สบายๆ

    เธอเคี้ยวเสียงดัง กรุบ กรุบ กรุบ ราวกับหมาที่กำลังแทะกระดูก

    เลือดนั้นพุ่งไหลกระเซ็นไปทั่วทั้งห้องน้ำ

    ก่อนจะรู้สึกตัวว่าผมจ้องมองอยู่

    .............

    เธอนั้นหันมาส่งยิ้มให้กับผมที่กำลังยืนอึ้งตาค้างตกใจกับภาพที่เห็น

    ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอันหวานหยดย้อย ไพเราะเสนาะหู

    ราวกับอสูรกายในคราบนางฟ้า ที่เชิญชวนให้เหล่ามนุษย์หลงโง่งมไปกับแสงสีที่มันสร้างขึ้น ว่า

     

    "มากินด้วยกันมั้ย ยิ่งตรงส่วนสมองนี่ อร่อยมากๆเลยนะ"

     

    End Chapter 6 มากินด้วยกันมั้ย ยิ่งตรงส่วนสมองนี่ อร่อยมากๆเลยนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×