ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #55 : Chapter 37 เอาหละ.... ทุกๆคน ... มาเริ่ม.......กันเลยดีกว่า!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 656
      9
      3 เม.ย. 57

    Chapter 37 เอาหละ.... ทุกๆคน ... มาเริ่ม.......กันเลยดีกว่า!

     

    วันที่ 5 ธันวาคม เวทศักราช 212

     

    10.20 น.

     

    เพียงเวลาไม่ถึงชั่วโมงหลังจากงานเริ่ม

    ผมก็โดนสโรชาลากไปนั่นมานี่ ทั่วทั้งงาน จนเมื่อยไปหมด

    แถมไอ้ของจำนวนกว่า 5 ถึง 6 ถุงนี่อีก

    บ้าจริงๆเลยน้า ..... จะอยากได้อะไรกะอีแค่ของพวกนี้มากมาย

     

    "เห้อ .... ถึงจะมีสาวๆเยอะก็เหอะ แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยจริงๆ"

    ผมบ่นถอนหายใจอยู่คนเดียว ระหว่างที่สโรชากำลังเข้าไปแย่งซื้อไลท์โนเวล บริเวณของของลาน 1 ติดกับลาน 4

     

    "ขะ ขอเข้าไปซื้อด้วยค่ะ ... อึ้บ อื้บบบบ"

    สโรชานั้นกำลังเบียดตัวเข้าไปเรื่อยๆ

     

    จะว่าไป บางร้านที่เห็นก็มีแจกบัตรคิวกันบ้างหละนะ

    พอมาบูธนี้ ดันไม่มีแจกอะไรหรือต่อแถวเลย แปลกจริงๆ ให้ตายเหอะ

    ผมค่อยๆ ถอยออกมายืนกอดอกมองสโรชารอ

    เอาไว้จบงานแล้วไปเดินดูมหาเวทยาลัยละกัน

    หวังว่า.....คงจะไม่มีอีเว้นพิเศษอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ

     

    หืม ... วิวแถวนี้ก็ดีหละนะมีสาวๆคอสเพลย์เยอะแยะ ...

    อะ มีเด็กๆมากันเยอะแยะด้วยแฮะ

    คอสก็มี ซื้อของก็มี มากับพ่อแม่ก็ด้วย

    นึกว่าจะมีแต่พวกโอตาคุโตๆ

    เห้อ ก็นะ มันชื่องานการ์ตูนนี่... ช่วยไม่ได้หละ

     

    แล้วจู่ๆนั้น...

    ก็มีหญิงสาวหน้าตาสวยใส่วิกผมสีเงินยาวตรงในชุดนักรบยุคสมัยก่อนแถมติดปีกนางฟ้าเดินเข้ามาหาผม

    และกล่าว ในสิ่งที่ผมคาดถึง.... ด้วยรอยยิ้ม

    "สวัสดีค่ะ ขอคุยด้วยสักหน่อยได้ไหมคะ"

     

    สลัด!มายองเนส เปลี่ยนเรื่องคิดไม่ทันถึงไหน

    ถ้าเทียบให้เห็นภาพหละก็

    การชักโครกก็ยังไม่ทันที่น้ำจะชะล้างของในคอห่านให้ลงไปหมด

    เสี้ยววินาทีนั้นเอง

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายัยนี่เป็นใคร

    ผมเดาได้

    ไม่เคยรู้จักมาก่อน เข้ามาทักทายคนธรรมดาๆแบบเรา เป็นผู้หญิงหน้าตาดี

    ตรงตามตำราเป๊ะ

    "ไงคุณนักรบฮู๊ดดำ"

    ผมสวนกลับไปทันที

     

    หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ทำหน้างง ไปราวๆ 3 วินาที

    ก่อนจะหัวเราะ

    "คิก ..... ผิดเรื่องแล้วมั้งคะ นี่หน่ะ เป็น การคอสเพลย์ ที่มาจากเรื่อง ....."

     

    "อย่ามาเนียนสิ! เห้ย บอกไว้ก่อนเลยนะ ชั้นไม่ได้เชื่อผู้หญิงที่จู่ๆจะเข้ามาทักโดยไม่รู้จักง่ายๆหรอก ไอ้การคอสเพลย์ แล้วเนียนตีบทแตกเนี่ย มันใช้ได้ แค่ครั้งที่ หนึ่ง หรือสอง เท่านั้นแหละ .... แต่ของชั้น นี่มันรอบที่ ห้าแล้วนะ ไม่ต้องมาเนียนแล้วหละ....."

    ผมเอ่ยบอกกับหญิงสาวคนนั้นไป อย่างอ่อนแรง และอ่อนล้า

     

    "เอ๋ เนียนอะไรกันหน่ะ คุณนี่แปลกจัง พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจเลย .... ชั้นมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณจริงๆนะคะ...."

    หญิงสาวเอ่ยด้วยใบหน้ายังยิ้มๆ แต่งงมากขึ้น

    ยกมือขึ้นมาโบกปัดไปมา

    "ทำไมคุณมาบอกอะไรแบบนั้นหละคะ และนี่ก็เพิ่งครั้งแรกด้วยนะคะ ที่เราเจอกัน"

     

    "เห้อ .... ยอมรับเถอะ ชั้นเห็นคนของพวกเธอแอบมอง อยู่หลายคนเลยนะ .... เข้าใจใช่มั้ย ว่าชั้นรู้หน่ะ"

    ผมโกหกเนียนๆไป ถ้าพลาดขึ้นมาก็ไม่เป็นไร

    เพราะยังไงผลมันก็มีแค่ หัว กับ ก้อย

    ถ้าเธอไม่ใช่พวกฮู๊ดดำ ผมก็ไม่ได้จะไปกับเธออยู่แล้ว

    ส่วนถ้าเป็นฮู๊ดดำ ก็โอเคเลยหละนะ วิ่ง.... ไปเรียกสโรชา

     

    "........ก็ต้องมีคนมองเยอะแยะสิคะ ... ก็คุณหน้าตาดีซะขนาดนี้"

    เธอยังคงใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนเอ่ยชักแม่น้ำทั้งห้า

     

    ขอโทษเถอะเว้ย ตรูไม่ได้หน้าตาดีขนาดนั้น

    และก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะหลงคารมกับคำพูดแบบนี้ด้วย ขอบคุณ

     

    "อ้อ หรือไม่ก็นั่นไง ถ้าพูดถึงสายตาที่มองมา ทีมคอสเพลย์ของพวกเราหน่ะค่ะ"

    หญิงสาวเอ่ยแล้วชี้ไปทางด้านที่มีเพื่อนของเธอยืนกันอยู่แถวพื้นที่ว่างฝั่งคอสเพลย์ติดกับลานขายของฝั่งนี้

    เป็นเหล่ากลุ่มผู้หญิงที่คอสเพลย์มาจากอนิเมะเรื่องดัง หลายๆเรื่อง

    คิดว่าหลายๆเรื่องหละนะ

    ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันจะมาจากเรื่องไหนบ้าง แต่ที่แน่ๆร่วมสิบคนได้

    และมีแต่คนหน้าตาดีๆ จนผมรู้สึกว่า ... พวกหล่อนไม่น่าจะมาชวนผม

    เป็นไปไม่ได้

     

    พวกสาวๆในกลุ่มเมื่อเห็นสาวชุดนักรบเกราะติดปีกนางฟ้าชี้ไป

    และผมหันไปมอง

    พวกเธอก็ยิ้มแย้มโบกมือให้

     

    แม่มเอ้ย .....

    ภาพข้างหน้า ถ้าเป็นใครคงจะดีใจแน่

    หญิงสาวหน้าตาดีสุดๆ แต่งคอสเพลย์

    มาชวนคุณไปคุยกับกลุ่มสาวๆคนอื่นๆที่คอสเพลย์ด้วยกัน

    รอยยิ้มของพวกเธอแต่ละคนที่ส่งให้มานั้นหวานแหววสุดๆ

     

    บอกเลยนะ ..... ทำไมตรูมองไปแล้ว

    เหมือนกำลังมองปีศาจจากก้นนรก

    ที่ยืนยิ้มโบกมือนับสิบคน

    ให้ก้าวไปในขุมนรกเลยวะ

    แถมยายนี่ก็โคตรปากแข็งเลย

    ขอเหอะ ตรูจับไต๋หล่อนได้นานแล้วโว้ยยยย

    แถมรอบนี้ แม่มมากันเป็นสิบคนเลย

    เมิงบ้าไปแล้วเหรอวะ แสรด

    แล้วจะทำไงดีวะเนี่ย

    เห้ย สโรชา

     

    .......

    "นั่นเดโคจังนี่นา"

    "ใช่ๆ คนที่อยู่ในกลุ่มคอส"

    "อยากเข้าไปคุยกับ เดโคจังที่สุดเลยฟร่ะ"

    "ไปดิๆเห้ย"

    "แต่หมอนั่นมันเป็นใครฟระ คุยกับเดโคจังด้วย"

    .........

    แล้วเสียงของเหล่าโอตาคุ ข้างๆ ผมก็เริ่มเอ่ย

    เมื่อสังเกตว่า หญิงสาวทำท่าที สนใจผมสุดๆแค่คนเดียว

     

    "คือจริงๆ เราอยากจะได้คนลักษณะแบบคุณมาช่วยแสดงบนเวทีแค่นั้นเองค่ะ.... ไม่ได้เหรอคะ"

    เธอเอ่ยทำเสียงอ่อนหวานชักจูง

     

    เอาหละสิ ยัยนี่ มีหลักฐานขี้ปาก ด้วย

    แถมสิ่งที่ยัยนี่ชักชวน ก็ดันเป็นเรื่องที่น่าจะปกติของที่นี่ด้วย

    ไม่ได้ๆอย่างน้อยๆก็ต้องระวังตัว

    คือบอกตรงๆนะครับ

    ใครจะไปคิดว่า นักฆ่า หรือฆาตกร จะมาแต่งคอสเพลย์เล่นเป็นอาชีพจนดัง

    อย่างดีก็แค่แต่งมาฆ่า

    ดังนั้นหากมีคนรู้จัก ก็ต้องไม่ใช่นักฆ่าแน่ๆ

    แต่ใครคิดแบบนั้นหน่ะผิดแล้ว

    ขนาดยัยสโรชายังเป็น เซโร่ ชาร์ ได้เลย

    ไม่ต้องคิดหรอก ยัยเดโคจังอะไรเนี่ย

    แม่ม ....นักฆ่าแน่นอน

     

    "งั้นขอตัวไปเรียกเพื่อนก่อนแล้วกัน แล้วจะเดินไปหาที่กลุ่มตรงนั้นนะ"

    ผมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

     

    "... ก็ได้นะคะ ...."

    หญิงสาวที่โดนเรียกว่า เดโคจังนั้นยิ้มตอบรับ

    แล้วยืนรอผมที่วิ่งไปหาสโรชา

     

    "เห้ สโรชาเสร็จยังหน่ะ .... "

    ผมวิ่งเข้าไปในหมู่คนที่มีเยอะแยะไปหมด ก็เห็นสโรชาหิ้วของออกมาเยอะแยะพอดี

     

    ".... เสร็จแล้ว เฮ่ๆๆ ได้ดีวีดีที่น่าสนใจด้วยแหละนี่ไง ...."

    สโรชาที่หอบของมานั้นเผยแผ่นของให้ผมดู

    มันคือ ดราม่าซีดี ซึ่งเป็นเสียงต้นฉบับจาก ประเทศผู้ผลิตอนิเมะเรื่องนั้น

     

    ขอโทษนะสโรชา ถึงจะเข้าใจอารมณ์

    แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาปลื้มของที่เธอได้มาหรอกนะ

    "เมื่อกี้ ชั้นโดนนักคอสเพลย์ที่น่าจะดัง ชวนไปคุยทั้งๆที่ไม่รู้จัก เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นฮู๊ดดำ"

     

    สโรชาเมื่อได้ยินก็เก็บของลงถุงทันที

    แล้วทำหน้าจริงจังขึ้นมา

    "...... แย่จังยังซื้อของไม่ครบที่ต้องการเลย"

     

    "ไอ้หน้าจริงจังเพราะอดซื้อของหรอกเรอะ!"

    ผมโวยทันที เครียดกับคำพูดยัยนี่จริงๆ

     

    "ส่วนหนึ่งหน่ะ ... จริงๆ ก็กังวลด้วยว่าจะเจออะไรหรือรูปแบบไหนอีก"

    สโรชาตอบกลับมา

     

    เออ ค่อยเป็นการเป็นงานหน่อย

    "จะเดินไปคุยไหมหละ ... หรือปฏิเสธแล้วกลับกันเลยดี?"

    ผมถามสโรชาไป

     

    "อันนั้นอยู่ที่การตัดสินใจของพยายามนะ ....."

    สโรชาตอบผมกลับมา

     

    "โอเค .... งั้นไปคุย แล้วเขาจะให้ทำอะไรก็ปฏิเสธไปละกัน"

    ผมตอบสโรชา

     

    "อื้ม ... เอาตามนั้น"

     

    แล้วพวกเราก็หิ้วของไปยังจุดที่เหล่าสาวๆ ร่วมสิบคนยืนอยู่

     

    พวกเธอยืนคุยกันบ้าง เล่นกันอยู่บ้าง มีคนขอถ่ายรูปบ้าง

    ที่แน่ๆเลยคือ พอไปถึง พวกเธอทุกคนเล่นหันมามองที่ผม

    ส่งรอยยิ้ม ที่แสนจะอ่อนหวาน

    และเสียงหัวเราะคิกๆน่ารัก ....ไม่เป็นธรรมชาติสุดๆมาที่ผม

    ขอทีเหอะ แบบนี้ไม่ตลกแล้วหละ

    ใคร!! ใครบอกว่าการเห็นสาวๆนับสิบ หัวเราะและส่งยิ้มหวานด้วยใบหน้าใสซื่อแบบนั้น

    คือสิ่งที่ชายหนุ่มทุกๆคนเฝ้าใฝ่ฝันและต้องการ....

    ไม่ใช่ผมคนหนึ่งหละ ไม่ใช่แน่ๆ ขอร้อง หยุดคิดได้เลย

    เหงื่อผมเริ่มผุดออกมา ให้เห็น แม้ว่าอากาศจะไม่ได้ร้อนหนักมากอะไร

     

    "เอ๋ นั่นใช่ .... เซโร่ หรือป่าวหน่ะ"

    หญิงสาวที่สวมวิกผมสีส้ม แต่งคอสเพลย์เหมือนนักร้องเอ่ย

     

    "ใช่ๆเซโร่ ชาร์ แน่ๆเลย"

    สาวหัวชมพูชุดคล้ายกันอีกคนที่ยืนข้างๆเอ่ยบอก

     

    "ทำไมเลิกคอสเพลย์ไปหละ"

    หญิงสาวผู้สวมวิกสีเขียวเดินเข้ามาสอบถาม

     

    "พอดีว่า แฟนไม่อยากให้ทำงานหน่ะ"

    สโรชาตอบทันที แล้วเอาตัวแนบผม ทำหน้าเขินอาย

     

    เหยดเขร้!!!

    ใคร ใครแฟนเธอฟระ!!!!

    เนียน เห้ย เนียนไปแล้วเฟ้ย!!!!

    ผมเหลือบตาไปมอง แต่ไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร

     

    หญิงสาวที่โดนเรียกว่าเดโคจังผู้สวมวิกผมสีเงิน ก็เดินเข้ามาหา

    "เอ๋แล้วบอกเป็นเพื่อน ที่แท้ก็แฟนกันนี่เองนะคะ ถึงว่า ต้องไปพาเธอมาก่อน แสดงว่าคำพูดแปลกๆนั่น ติดมาจากการดูอนิเมะ แนว เด็กป่วย ม.สอง ไม่ก็เอ่อ...."

     

    "ไม่ๆ คำพูดพวกนั้นชั้นไม่ได้ติดมาจาก อนิเมะนะ ... พวกเธอมันขบวนการฮู๊ดดำทั้งก๊กเลยหละสิ"

    ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ปนเหนื่อยใจ

     

    หญิงสาวทุกคน ในกลุ่มนั้น ที่ยืนๆถ่ายรูปหรือคุยกับพวกโอตาคุชายอื่นๆก็หันมามองพวกผมทันที

     

    นั่นไง ... น่านไง ..... น่านนนนนไง

    เห็นมะ ... เห็นมั้ย กรูเดาไว้แล้ว!!!

     

    "เข้าเรื่องเหอะ ขอร้องหละ"

    ผมบอกพวกเธอไปตามตรง

     

    "คุณนี่หละก็....."

    เดโคจังนั้นกำลังจะเอ่ย

     

    หญิงสาวผู้สวมวิกผมสีฟ้า ในชุดนักเรียนมัธยมญี่ปุ่นเดินเข้ามาจับไหล่หญิงสาวที่โดนเรียกว่าเดโคจังแล้วมองมาที่ผม ก่อนจะเอ่ยเสียงไม่ดังนัก แต่ตั้งใจให้ทั้งผม สโรชาและเดโคจังได้ยิน

    "พอเถอะเดโค..... หมอนี่คงจะรู้ตัวแล้วหละ.... เขาจัดการคนเก่งๆมาเยอะแยะขนาดนั้น ... อย่าไปนับพวกเราที่อยู่ระดับนี้เลย"

     

    "เอางั้นเหรอ ... อาโออิ"

    หญิงสาวที่โดนเรียกว่าเดโคนั้น หันไปตอบสาวผมฟ้า และเรียกเธอว่า อาโออิ

     

    สโรชาเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็กำถุงกระดาษแน่นขึ้นสายตาจ้องมองไปที่พวกหญิงสาวข้างหน้า

     

    ฮี้ๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ โถ่ ไม่อยากจะขำในความคิดเลยสราด

    แม่ง ทำไมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ตรูไม่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเก็บไว้สักใบวะ

    ถูกแน่ๆเลยหวะ!

    พวกหล่อนทุกคนมันก็ตั้งใจจะมาฆ่าตรูหมดแหละเห้ย

    ตรูรู้ .... แถมรอบนี้มาเยอะสุดๆไปเลย ถ้านับร่วมๆหัวก็ .... 14 คน

    ถ้าเราตะโกนออกไปตอนนี้ ....

    เห้ยเดี๋ยว ....ตะโกนหน่ะได้...

    แต่เช็ดเขร้จริงๆเหอะ

    พวกแม่ม เป็นนักคอสเพลย์ดังๆแถมเป็นผู้หญิงทั้งนั้น

    คิดภาพดีๆดิวะ คนที่จะโดนรุมกระทืบ ไม่ใช่ยัยพวกนี้

    แต่เป็นตรูเองนี่หว่า

    แถมจะใช้บทสนทนาเป็นเครื่องยืนยันก็ไม่ได้ เพราะแม่ง นี่มันงานการ์ตูนนะสราด

    คำพูดบ้าๆบอๆ อย่างฮู๊ดดำ หรือขบวนการผู้ฝ่าฝืน

    เขาก็คิดว่ามาจากการ์ตูนหมด ใครจะไปเชื่อวะ

    แม่ม ไอ้จุดนี้นี่แหละ ที่เพิ่งนึกได้

    เผ่นดีไหมวะเนี่ย.... เดี๋ยวๆ ถ้าเผ่นยังไงก็ไม่ทันแน่

    ไอ้ข้าวของเยอะแยะแบบนี้ แบกไปก็ไม่ไหว

    สโรชาก็ไม่ยอมทิ้งแน่ ดูจากฝ่ามืออันมั่นคงที่กำถุงแน่นแล้วหละนะ

    ไม่ใช่แค่ระวังภัยอย่างเดียว แต่หล่อนระวังของๆหล่อนโดนขโมยด้วยสินะ

    ไอ้ใบหน้าที่จ้องเขม็งยังกับหมาหวงก้างเนี่ย ชัดเลย ...ชัดสุดๆ

    หล่อนคงจะคิด อย่ามาแย่งของเล่นของชั้นไปนะ!

    อะไรแบบนั้นหละสิ

     

    เอาเถอะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องคุยดีๆหละนะ

    ".....เออ .... ก็ยอมรับสักทีก็จบแล้ว ... มีธุระอะไรหละ"

     

    "ก็ถ้าพูดตรงๆหละก็ .... "

    เดโคเอ่ย แล้วหลับตายืนตรงเอามือมากุมไว้ที่อก

    ก่อนจะลืมตาขึ้นเปรยมือราวจะเรียกให้ผมเข้าไปสวมกอด

    แล้วกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัด

    "แด่ท่านผู้ที่ถูกฆ่าเลือกเอ๋ย ... จงยอมตายเพื่อข้าเสียเถิด!!!"

     

    แม่ง!!!

    ตะลึงดิวะ!!!

    ผงะไปหนึ่งก้าวครึ่งเลยแสรด!!

    ไม่ใช่ละ ตะโกนดังขนาดนี้

    หรือว่าจะเป็นบทบรรยายในการ์ตูนเรอะ

    แม่ม ไม่มีคนตกใจสักคน

    แถมยังยิ้มๆ มองมาให้เจ้าหล่อนอีก .... เช็ดครก

     

    "บทพูดของตัวละครเรื่องนี้ ... แต่ต้องการสื่อความหมายจริงๆสินะ"

    สโรชาตบมุขด้วยใบหน้าไม่พอนัก

     

    "จะมาฆ่ากันดื้อๆเงี้ยเหรอ บ้าไปแล้วใครจะไปยอมฟระ"

    ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจสุดๆ

     

    "ก็ตามนั้นแหละ .... อย่าคิดขัดขืนเลย .... พวกเรามีคนทั้งหมดภายในสถานที่นี้ เป็นตัวประกันด้วยนะ"

    สาวที่สวมวิกสีแดงสั้น หุ่นดี ในชุดนักเรียนแบบอาโออิเดินเข้ามาเอ่ยแทรก

     

    วะ วางระเบิดไว้หรือไงวะ.... ทำไมถึงสามารถใช้คนทั้งฮอลเป็นตัวประกันได้

    นี่มันไม่ใช่ ยอดนักสืบตัวเล็ก เดอะมูฟวี่ นะเว้ย

     

    "... จะมาไม้ไหนหละ ...."

    สโรชาเอ่ยแล้วย้ายถุงของทั้งหมดไปที่มือซ้ายก่อนจะเอื้อมขวามาจับแขนซ้ายของผมไว้

     

    "มาไม้ไหนงั้นเหรอ .... นิกะ"

    เดโคนั้นยิ้มแล้วหันไปมองหน้าสาวผู้สวมวิกสีแดง

     

    "ชั้นพูดเหรอ? .... เอาเถอะ เอางี้แล้วกัน พูดง่ายๆ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมีปัญหา ก็ให้ตามพวกเรามาดีๆ พวกเราจะให้โอกาสพวกเธอได้สู้แล้วกัน ดีไหมหละ"

    หญิงสาวใส่วิกผมสีแดงที่โดนเรียกว่า นิกะ เอ่ยเสนอให้

     

    แม่มเอ้ย ชัดเจนไปมั้ยเนี่ย

    แต่ดูจากรูปการแล้ว 14 ต่อ 1 จะไหวไหมวะเนี่ย

     

    "ว่าไงนะ ... สิบสี่ต่อหนึ่งเลยนะเห้ย ฮาไปหน่อยมั้ย"

    ผมเอ่ยตอบพวกเธอกลับไป

     

    "เหอ...."

    หญิงสาวสวมวิกสีน้ำตาล สวมแว่นตาแบบเด็กเรียนที่ยืนอยู่ด้านหลังคนอื่นทำเสียงไม่พอใจใส่ผม

     

    "คิกๆ... แล้วจะรับหรือไม่รับหละ.... ไม่รับก็ไม่ว่านะ... แต่รับรองว่าพวกเราทุกคนจัดการคนในนี้แน่ๆ เอาเป็นพวกเด็กๆก่อนเลยเป็นไง"

    เดโคหัวเราะเอ่ยออกมา

     

    ".... ก็ได้.... ชั้นจะรับเอง"

    สโรชาที่ได้ยินคำว่าจัดการเด็กๆ เธอก็รีบเสนอตนเองก่อนเลย

     

    "ไหวเหรอ .... สโรชา สิบสี่ต่อหนึ่งเลยนะ"

    ผมเอ่ยออกไปอย่างเป็นห่วง

    อ้าวเดี๋ยวๆ ... ชิบหายละ ... พูดผิดนี่หว่า

    มันต้อง 14 ต่อ 2 ดิ

    ยังงี้มันก็เป็นการประกาศว่าตรูจะไม่ร่วมสู้ด้วยนี่หว่า

     

    "ไหวสิพยายาม"

    สโรชาหันมาตอบผมยิ้มๆ

     

    "ว้าวๆ เขาว่า ต่อหนึ่งหละ"

    อาโออิหันไปบอกหญิงสาวที่เหลือ

    ที่เลิกรับคุยกับคนอื่นๆแล้วเดินมายืนรุมพวกผมกันหมด

     

    "แปลว่า จะไม่สู้เอง แต่แค่ให้เซโร่ ชาร์สู้ก็เกินพอสินะ"

    นิกะเอ่ยขึ้นมา

     

    "อย่างที่เขาว่านั้นแหละ ที่เขาบอก เซโร่ ชาร์ก็เป็นคนของทางเรา แต่โดนล้างสมองไปนี่"

    สาวผมสวมวิกเขียวเอ่ย

     

    "เป็นเรื่องจริง จริงๆด้วย ตอนแรกก็แทบจะไม่เชื่อนะเนี่ย"

    หญิงสาวสวมวิกสีทองอ่อน แล้วมัดผมเป็นจุกในชุดเกราะนักรับ ติดปีกพูดเสริม

     

    "ไม่ต้องต่อให้หรอก .... พวกเราต้องการทั้งคู่นั่นแหละ"

    สาวผมดำยาว มัดเปียออกมายาวทั้งสองข้างในชุดนักร้อง เอ่ยกอดอก

     

    "เออ... จะให้ตามไปที่ไหนหละ...."

    ผมตอบรับแบบไม่อยากจะฟังคำพูดที่โดนว่าไปมากกว่านี้

    สาบานได้เลยเว้ย ว่าตรูไม่ได้ล้างสมองยัยสโรชาเลย

    ยัยนี่มันเพี้ยนของมันเอง.... แต่ก็ต้องขอบคุณความเพี้ยนของเธอหละนะ

     

    "งั้นก็ตามมาเลย...."

    เดโคจังนั้นเอ่ยบอกแล้วเดินนำหน้า

     

    "งั้นก่อนอื่น ขอนอกเรื่องสักนิดได้มั้ย"

    สโรชาเอ่ยแทรกออกมา

     

    "....."

    ผมและพวกหญิงสาวทุกคนหันไปมองเธอ

    ยอดเลยสโรชา เธอมีแผนอะไรสินะ...

     

    "อะไรหละ..."

    หญิงสาวที่โดนเรียกว่าอาโออิเอ่ยถามเรา

     

    สโรชานั้นยกถุงกระดาษขึ้นมาแล้วตอบ

    "ขอเอาของทุกอย่าง ไปฝากที่รับฝากของก่อน.... กลัวมันจะพังหน่ะ"

     

    ชิบหาย!

    เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้

    หล่อนยังจะหวงของอีกเหรอวะ!!!

    พวกมันจะยอมได้ยังไง

     

    "ก็ได้...."

    พวกสาวๆตอบรับราวกับเข้าใจกันและกัน....

     

    แม่ม พวกเอ็งไหงเข้าใจกันได้ฟระ

    ไอ้เรื่องฝากขงฝากของเนี่ย

    บอกหน่อยเหอะ สติสัมปชัญญะของพวกหล่อนมันสามารถผสานกันได้

    ตอนเวลาแบบนี้สินะ

     

    ................

    และแล้ว หลังจากสโรชาเอาของไปฝาก

    โดยมีการตามติดของกลุ่ม 14 สาวตลอด

     

    พวกเราก็โดนพวกเธอ พาเดินไปเรื่อยๆ

    ผ่านตามตึกต่างๆ และมันก็เริ่มเงียบขึ้น

    คนน้อยลง ... และน้อยลง

    จนผมรู้สึกว่า ตอนนี้

    ไม่มีใครแล้ว

    พวกเราอยู่ในอาณาเขตแน่ๆ

    และไม่นาน พวกเธอก็พาเข้าไปถึง .... ชั้น 2 ภายในอาคารกีฬาวิทย์ในร่มทั่วไป

    ซึ่งเป็นตึกปูน สูง 22 ชั้นได้

    การออกแบบของที่นี่ คือ  ทุกๆ 5 ชั้นนับจากชั้น 2 ขึ้นไป จะมี สนามกีฬาให้ใช้งาน

    เมื่อเงยหน้ามองด้านบน ก็จะเป็นชั้นๆขึ้นไปเรื่อยๆ จนมีเพดานกั้นเมื่อครบทุกๆ 5 ชั้น

    มีห้องพักหรือพวกห้องเรียน ตามชั้นที่ไม่ใช่สนามกีฬา

    เป็นการออกแบบที่ดีเยี่ยมจริงๆ เพราะไม่ต้องทำที่นั่ง ให้เสียเงินเปล่า

    ใช้เชิงผนังป้องกันการตก ของแต่ละชั้นเป็นที่เกาะและส่องดูเอาเลย

     

    พวกเธอให้เราไปยืนอยู่ตรงกลางสนาม แล้วพวกเธอยืนโดยรอบ

    นั่นเป็นเงื่อนไข

    ก่อนจะเริ่มเตรียมพร้อมโดยการหยิบอาวุธออกมากัน

    แต่ไม่เปลี่ยนชุดเป็นฮู๊ดดำ

     

    โอเค สรุปง่ายๆว่าจะใช้สนามกีฬาวิทย์ในร่มสู้กันสินะ

     

    "พร้อมไหมนั่นสโรชา"

     

    "สบายๆ...."

    สโรชาเอ่ยแล้วค่อยๆหลับตา ก่อนจะมีดาบโผล่ออกมาที่มือขวาของเธอ

     

    "อืม... คงไม่โดนกับดังขังอะไรใช่มั้ย"

    ผมตอบรับเธอเช่นกัน

     

    "ระหว่างเดิน ที่ชั้นเช็คดู ไม่มีอาณาเขต ที่จะกั้นพวกเราไม่ให้หนีนะ"

    สโรชาบอกผม

     

    ไอ้ม่านสีเหลืองๆที่เคยโดนกันนั่นสินะ

    "โอเค"

    ผมพยักหน้ารับ

     

    เสียงเอ่ยดังขึ้น

    "เตรียมรับมือไว้เถอะ! แล้วก็อย่าโกรธกันเลย"

    หญิงสาวสวมวิกผมสีส้มสั้นใส่หมวกไบเล่สีขาวครอบ

    ใส่ชุดวันพีชกะลาสีหญิงสีขาว

    มือขวาถือปังตอยักษ์สลัก รหัส TH212D00713

    หน้าตาของเธอดูธรรมดาที่สุดจากคนอื่นๆ

    เดินออกมาแล้วเริ่มกางม่านสีขาวครอบพวกเราไว้กับตนเอง

    ถ้าดูจากรัศมีแล้ว น่าจะมีแค่ 3 เมตร

     

    พื้นที่เล็กแค่นี้เนี่ยนะ จะใช้สู้กัน

    แล้ว.... เห้ยๆๆ...

    มามุขใหม่เหรอฟระ

    ไม่มีอาณาเขตขังเตรียมไว้

    แต่เล่นกางอาณาเขตขังตนเองไว้เลย

    ยอมตายเรอะ

    ไม่เห็นจะตรงแนวความคิดที่พยายามจะมีชีวิตรอดต่อไปเลยนี่หว่า!!

     

    ผมมองรอบๆ หญิงสาว อีก 13 คนนั้นจ่อปืนหลากหลายชนิดรวมถึงธนู มาที่พวกเราสองคน

    เดี๋ยวนะ ... พวกหล่อนนี่ แตกต่างมาก

    เหมือนยังกับมาจากคนละทีมกันหมดเลยเว้ยเห้ย

    ปืนกลเวทย์ ช๊อตกันเวทย์ ปืนคาบศิลาเวทย์ ธนูเวทย์

     

    "ถ้ากำจัดพวกคุณได้หละก็นะ ชีวิตมันก็ต้องแลกบ้างหละ"

    หญิงสาววิกผมสีส้มเอ่ยตอบพวกเรา

     

    "เอาพวกรหัสเดนตายมาร่วมด้วย คนนึงเหรอเนี่ย แต่สิบสี่คนหน่ะ ชั้นเตรียมรับมือมาหมดแล้วหละไอ้มุขเก่าๆ ใช้กับชั้นรอบที่สองไม่ได้หรอกนะ"

    สโรชาเอ่ยขึ้นมา

    แล้วเริ่มเรียกผ้าคลุมของตนมาสวมไว้ที่ร่างทันที

    ก่อนที่เธอจะหลับตา มีเสียง วิ้ง วิ้ง วิ้ง

     

    รหัสเดนตาย .... คุ้นๆนะเหมือนเคยได้ยิน

     

    "! ไม่ใช่แค่นี้"

    สโรชานั้นลืมตาขึ้นมาตกใจแล้วเงยหน้ามองข้างบน

     

    หา ไม่ใช่แค่นี้ แล้วมองขึ้นข้างบน ....

    เดี๋ยวสิ

    ผมเงยหน้าขึ้นมองตาม

     

    ใช่แล้ว สายตาของผมก็ได้เห็น

    เหล่าหญิงสาวนักคอสเพลย์ที่แต่งตัวสวย

    หน้าตาทั้งเหมือนคนในประเทศเรา และเหมือนคนต่างประเทศ

    ร่วมกว่าร้อยชีวิต เริ่มเดินออกมาเอาร่างกายพิงผนังกั้นตก

    ข้องแต่ละชั้นตั้งแต่ชั้น 3 ถึงชั้น 6

    จ่ออาวุธระยะไกลทุกชนิดเท่าที่พวกเธอจะพก

    มาทางพวกเราทั้งหมด

     

    เอาแล้วไง

    ไอ้ที่จินตนาการว่า มี 14 คนนี่ก็ว่าหนักหนาสำหรับสโรชาอยู่แล้วนะ

    ไอ้กรณีแบบนี้เนี่ย

    มันกระเอาพวกเราทั้งสอง พรุนเป็นรังผึ้งเลยไม่ใช่หรือไงวะ

     

    "....แบบนี้ไม่ดีแน่พยายาม...."

    สโรชาเอ่ยกำดาบในมือแน่น เธอก็ไม่มั่นใจว่าจะสู้ยังไง

     

    เออเข้าใจแล้วหละ ที่บอกว่าคนในงานไม่ปลอดภัยแน่ๆ

    ไม่ใช่เพราะวางระเบิด

    แต่มันมีไอ้พวกตัวที่แฝงเข้ามานี่เยอะจนเชิงกั้นตกแน่นเอียด

    ราวกับพวกคนดู มาเชียร์กีฬาที่ชื่นชอบและ...ร่วมเล่นกีฬาไปด้วย

     

    จะ... จะทำยังไงดีวะ!!!

    แบบนี้ แย่เสียยิ่งกว่าตอนไปต่างจังหวัดอีก

    ต้องใช้ ... ต้องหาวิธี

    วิธีอะไรฟระ

    ก็ตรูมันกากที่สุดเลยไม่ใช่หรือไงกัน!!!

     

    หญิงสาวสวมวิกผมสีเงินแต่งชุดเกราะนักรบติดปีกที่ยืนภายนอกอาณาเขตวงกลมสีขาว

    ยิ้มแสยะออกมาไม่เหลือคราบนางฟ้าหรือคอสเพลเยอร์ที่น่ารักเลยสักนิด

    ก่อนยกแขนขึ้นสุดแล้วตะเบ็งเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามกีฬา

    "เอาหละ.... ทุกๆคน ... มาเริ่มสงครามกันเลยดีกว่า!"

     

    End Chapter 37 เอาหละ.... ทุกๆคน ... มาเริ่มสงครามกันเลยดีกว่า!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×