ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #38 : Chapter 26 สโรชา ....เธอหน่ะ....เป็นคนที่มีจิตใจ..........ที่สุดเลย.......

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 797
      10
      29 มี.ค. 57

    Chapter 26 สโรชา ....เธอหน่ะ....เป็นคนที่มีจิตใจ..........ที่สุดเลย.......

     

    วันที่ 26 พฤศจิกายน เวทศักราช 212

     

    ช่วงเวลา 14.20

     

    แกรก...

     

    "ได้ของเพียบเลย แค่นี้พรุ่งนี้เราก็ได้เอาไปแจกเด็กๆแล้ว"

    สโรชาเอ่ยด้วยความรู้สึกยินดีสนุกสนาน เดินสบายอารมณ์

    ในมือเธอหิ้วข้าวของมากมาย

     

     

    "อ่าๆ .... เดินทั้งวันเลย!!!"

    ผมโวยวายออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยแปลกๆ

     

    "ไม่เอาน่าพยายาม ... นี่ๆ มาช่วยกันจัดของดีกว่า มามา"

     

    "ไม่เอาหละๆ .... เธอจัดไปคนเดียวแล้วกัน ชั้นขอไปอาบน้ำนอนพักก่อนหละ ไว้ถ้ายังจัดไม่เสร็จ หกโมงเย็นจะมาช่วย"

    ผมโบกมือไปมาทันที

     

    "พยายาม!!! มาช่วยกันก่อน จัดเสร็จแล้วเดี๋ยวชั้นจะเข้าไปช่วยอาบนะ!!!!"

    สโรชาเอ่ยเสนอการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม

     

    "ไม่โว้ย ... อย่างเธอหน่ะ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามีแต่เรื่องลามก"

     

    "ไม่หรอก แฮ่กๆ ... พยายาม เชื่อสิ แฮ่ก แฮ่ก"

    สโรชาเอ่ยหื่นหอบออก

     

    "..... น้ำลายยืดหมดแล้วสโรชา .... ชั้นขออาบก่อนหละ"

    ผมถอนหายใจ แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำ

     

    "จ้าๆ"

    สโรชาตอบรับแล้วหันไปจัดของขวัญต่อ

     

    ผมก้าวเดินอย่างเหนื่อยหน่ายจนเข้ามาในห้องนอนก็มาหยุดมองที่ตู้เสื้อผ้า

     

    จะว่าไปแล้ว ...เจ้าเกราะเหล็กดำนั่นมันหายไปไหนกันนะ

    นั่นแหละ ..... ถึงสโรชาจะบอกว่ามันหายไปเลยก็เถอะ

    แต่จู่ๆ จะโผล่มาดื้อๆ แล้วก็หายไปแบบดื้อๆ ด้วยมันไม่ค่อยจะฮาเท่าไหร่เลยนะ

     

    ผมถอดชุด โยนลงตะกร้าซัก หยิบผ้าเช็ดตัวเดินไปเข้าห้องน้ำ

    เปิดน้ำชำระล้างร่างกาย พลางคิดถึงเหตุการณ์ในวันนี้

     

    เรื่องที่ผมคิดมากที่สุดเลย คือ เดบิตการ์ด

    เราได้มาถึง 93 ใบ น่าตกใจที่ผู้หญิงคนนั้นจะทำบัตรไว้เยอะมาก

    และแต่ละบัตรก็มีเงินเท่าๆกัน แต่ละบัตร เขียนตัวอักษรย่อแปลกๆไว้

    เช่น บผงนก บรทนลก หรือ บบบนง เป็นต้น

    ยกเว้นมีอยู่ 2 ใบ ใบแรกเขียนว่าเทพของขวัญ ใบนี้มีเงินเยอะกว่าใบอื่นๆ

    และอีกใบที่ไม่มีตัวอักษรอะไรเขียนไว้เลย ในบัตรนั้นมีเงินน้อยกว่าเพื่อน

    ถ้านับรวมๆแล้ว ก็ได้ เกือบๆ 11 ล้าน

    เอาไปซื้อคอนโดดีๆอยู่ได้เลยนะ ไม่ต้องไปอยู่ในหอซอมซ่อแบบนั้นก็ได้

     

    พอเห็นเงินเยอะขนาดนั้น บอกได้ว่าผมตาโตเลย

    ถึงจะบอกว่า เงินประกันที่พ่อแม่ทำไว้ให้เยอะกว่านั้นก็เถอะ

    แต่ก็ต้องเก็บพวกมันไว้ กินแต่ดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ

    ผมก็คนโลภธรรมดา ใจผมอยากเอาไปฝากกินดอกจริงๆ

    เพราะซื้อของขวัญให้เด็กๆ ยังหมดไม่ถึง 3 หมื่นเลย

    แต่ยังไงก็รอตัดสินใจอีกทีตอนไปที่นั่นดีกว่า .....

    จะปล้นเงินที่ผู้หญิงคนนั้นเก็บไว้แจกเด็กๆก็ใช่เรื่อง

     

    ระหว่างคิดเรื่อยเปื่อย ไปเรื่อยๆ ผมก็อาบน้ำเสร็จโดยไม่รู้ตัว

    ผมใส่เสื้อผ้าแล้วตัดสินใจลงไปช่วยสโรชาเตรียมของให้เด็กๆ

    ซึ่งของที่เราเลือกซื้อให้ ก็เป็นตุ๊กตาหุ่นยนต์แมวสีฟ้าขนาดเล็กที่เก็บดินสอได้ 120 ตัว

    เธอดีใจมากเลยที่ผมลงมาช่วย

    โดยเธอให้ผมเอาตุ๊กตาพวกนั้น ยัดใส่ซองกระดาษ เพื่อความสวยงาม

    ก่อนที่ผมจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ... และก็น่าจะสำคัญด้วย

     

    "นี่ถามจริงๆ .... นี่เป็นครั้งแรกใช่ไหม ที่เธอได้ไปแจกของเด็กๆหน่ะ"

    ผมเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างนึกได้

     

    "ใช่ๆ ครั้งแรกเลย ทำไมเหรอ?"

    สโรชาที่กำลังยิ้มมีความสุขเอ่ยตอบก่อนถามสวนคืน

     

    "ก็นะ ... เธอไม่เห็นเหรอ ว่ามันมีหลายสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเลย ทั้งบ้านร่มไทร บ้านไผ่งาม บ้านบัวบาน บ้านเติมเต็ม คือ... เราจะไปที่ไหนก่อน แล้วเราไม่โทรไปนัดเขาก่อนเหรอ ว่าเราจะไปหน่ะ"

    ผมเอ่ยด้วยสีหน้าที่จริงจัง

     

    "จริงด้วย!!! คิดไม่ถึงเลย... แย่หละสิ ต้องรีบโทรแล้ว!!"

    เธอเอ่ยอย่างตกใจ แล้วรีบ เดินไปหยิบมือถือของผม... มากดโทร โดยเปิดเป็นลำโพงไว้ จะได้ห่อของไป คุยไปได้

     

    กรึก ...

    "สวัสดีค่ะ ... บ้านร่มไทรค่ะ"

    เสียงตอบรับเป็นคุณยายแก่ๆ รับ

     

    "สวัสดีค่ะ ... คือพรุ่งนี้เราอยากจะเข้าไปแจกของเด็กๆสักหน่อยค่ะ .... พอจะว่างไหมคะ"

    สโรชาเอ่ยทันที

     

    "ค่ะ... พวกเราว่างค่ะ จะมาแจกของเด็กๆสินะคะ .... "

     

    ".....เด็กๆมีกี่คนเหรอคะ ...... "

     

    "เด็กๆของเรา มี หกสิบเก้าคนค่ะ"

     

    "คือ มันเป็นแค่ของชิ้นเล็กๆ จะไม่น่าเกลียดใช่มั้ยคะ"

    สโรชาเอ่ยถามต่อทันที

    มือของเธอก็ยังคงใส่ของเข้าไปในซอง

     

    "ไม่เป็นไรคะ เด็กๆแกได้อะไรก็ดีใจหมดแหละค่ะ"

    เสียงของหญิงแก่เอ่ยด้วยความรู้สึกยินดี

     

    "ขอโทษนะครับ ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ"

    ผมนั้นพูดแทรกทันที

     

    "..... ได้จ้ะได้"

    เสียงหญิงแก่ในโทรศัทพ์นิ่งไปแปปหนึ่ง น่าจะงงที่เสียงดันเป็นผู้ชายหละมั้ง

     

    "..... คือ รู้จักคนที่ชื่อแฟนต้ามั้ยครับ"

     

    "จ้า ... รู้จักดีเลย หนูแฟนต้านี่ เป็นคนดีมากๆเลยนะ แกรับเป็นคนอุปการะแบบช่วยค่าใช้จ่ายเด็กเยอะมากๆเลย เด็กคนไหนที่ยังไม่มีคนอุปการะ แกจะรับจนกว่าจะมีเลยหละจ้ะ ..... เด็กที่นี่ยี่สิบกว่าคนที่ไม่มีคนอุปการะ ก็เป็นเด็กในอุปการะแบบช่วยค่าใช้จ่ายของหนูแฟนต้าหมดเลย"

    เสียงของหญิงแก่เอ่ยตอบ อย่างชื่นบาน

     

    คำพูดนั้นแหละ ที่ทำให้ผมคิดว่า งานของพวกเรางอกแล้วไง

    เราทำอะไรลงไปกันแน่นะ.....

    ตกลงที่เราป้องกันตัวเองเป็นเรื่องที่ถูกแล้วสินะ

    บ้าชิบผงเลยเว้ยยยย ยุ่งยากจริงๆ

     

    "เหรอครับ"

    ผมไม่รู้จะตอบอะไร

     

    "อ้อ .... แล้วหนูแฟนต้าเนี่ย เธอก็เอาของมาแจกทุกๆปี ให้กับเด็กๆทุกๆคนด้วยนะจ้ะ แกเป็นคนดีมากๆคนนึงเลยหละ ... "

     

    "เอ่อ ... แล้วพอรู้พวกแบบ รหัสย่ออย่าง บอรอทอนอลอกอ หรือ บอบอบอนองอ มั้ยครับ"

    ผมถามต่อทันที

     

    "อ๋อ บอรอทอนอลอกอ นี่จำได้จ้ะ เป็นอักษรย่อในเวลาอุปการะของหนูแฟนต้าเขา .....ย่อมาจาก บ้านร่มไทร น้องลูกแก้วจ้ะ"

    หญิงชราตอบ

     

    อ่อ.... ผมเข้าใจหละ

    ไอ้บัตรหลายๆใบนั่น ก็คือ เงิน ที่เอาไว้สำรองจ่ายให้เด็กๆพวกนั้นสินะ....

    บ้าจริงๆเลยเว้ย .... ทำไมหล่อนต้องทำอะไรให้ยุ่งยากด้วยฟระ

     

    "ว่าแต่ ถามทำไมเหรอจ้ะ พวกหนูเป็นคนรู้จักของหนูแฟนต้าเหรอ ....."

    หญิงชราถามกลับมา

     

    นั่นแหละคำถามที่ไม่อยากให้ถาม

    สโรชานั้นหันหน้ามองผมแล้วส่ายหัว เหมือนไม่อยากให้ตอบในตอนนี้

    "เอ่อ ... คือ ... ค่อนข้างพูดยากหน่ะครับ ..... ไว้ผมจะไปพูดคุยอีกที ที่นั่น ในวันพรุ่งนี้นะครับ"

    ผมตอบเธอไป

     

    "จ้า.... ขอบคุณมากๆนะจ้ะ ... ว่าแต่ จะมาในชื่อของคุณอะไรคะ จะได้บอกเด็กๆไว้ แล้วจะมากี่โมงจ้ะ"

     

    "ไปในชื่อ...."

    ผมพูดไม่ออก ว่าจะไปในชื่อแฟนต้า ถ้าพรุ่งนี้ต้องไปบอกที่นั่นว่าเกิดอะไรขึ้น

     

    "ไปในชื่อของพยายามค่ะ ไม่ใช่คำกิริยานะคะ ....น่าจะถึง ราวๆ เก้าโมงเช้าค่ะ"

    สโรชาชิงตอบแทน

     

    "..จ้า พยายามนะจ้ะ..."

    เธอเอ่ยทวน

     

    "ค่ะ .... แค่นี้นะคะ"

    สโรชาเอ่ยแล้ววาง ก่อนจะหันมาหาผม น้ำตาคลอนิดๆ

    "ซึ้งอ่ะ!.... ชั้นไม่น่าออกจากไอดอลเลย น่าจะเก็บเงินไว้บริจาคเด็กๆมั่ง"

     

    "พอเหอะน่า .... มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ไม่ใช่หรือไง"

    ผมเอ่ยย้อนกลับ

     

    "อื้ม ...."

    สโรชาพยักหน้าตอบรับ

     

    แล้วต่อจากนั้น พวกเราก็โทรไปนัดสถานที่อื่นๆด้วย

    สรุปโดยรวมไว้ว่า บ้านร่มไทรและบ้านไผ่งามไปวันที่ 27

    ส่วนบ้านบัวบาน และบ้านเติมเต็ม ไปในวันที่ 28

    จริงๆ อยากจะไปวันเดียวให้หมด แต่ตุ๊กตาไม่พอหละนะ ... ต้องไปซื้อเพิ่มหลังจากไปบ้านไผ่งามแล้วด้วย

     

    ------------------------

    ------------

    วันที่ 27 พฤศจิกายน เวทศักราช 212

     

    ในที่สุด วันต่อมา พวกเราก็ไปแจกของกัน

    ทั้งสองสถานเลี้ยงเด็ก ซึ่งอยู่ไกลมากๆ จากในตัวเมืองที่ผมอาศัยอยู่

    เด็กๆดูมีความสุขมากที่ได้รับมัน

    แม้จะเป็นของที่น้อยนิดและ ดูไม่มีค่าสำหรับใครหลายๆคนก็ตาม

    เจ้า ตุ๊กตากึ่งกล่องดินสอ ที่ราคาแค่ 200 เนี่ย มันทำให้คนมีความสุขได้ขนาดนี้เลยเหรอ

    ใบหน้าของเด็กแต่ละคน ที่ผมได้มองเห็นนั้นมันทำให้เหงื่อซึมออกจากตาผมแฮะ

    ......

    และเราก็ต้อง .... ไปบอกความจริงอันโหดร้ายกับคนดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

    ว่า แฟนต้านั้น..... ไม่สามารถมาให้ของขวัญเด็กๆได้อีกแล้ว ..... และเราจะรับช่วงต่ออุปการะเด็กของแฟนต้าต่อในวงเงินเพียงเท่านี้เอง และคงจะไม่ได้อุปการะ เด็กใหม่เพิ่ม

    ตอนแรก พวกเขาก็ไม่เชื่อและตกใจ พร้อมทั้งโทรศัพท์เข้าเบอร์ของแฟนต้าเลยหละ

    แต่ไม่ว่าจะโทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด พวกเขาก็ถอดใจ

     

    พวกเราออกมาจากทั้งสองบ้าน แม้ตอนเข้าไปจะมีความสุข แต่ตอนออกมา ก็ค่อนข้างเจ็บปวด

    บ้าที่สุดเลยแฮะ

     

    ผมเริ่มเข้าใจคำว่า ไม่เสียสละชัยชนะไม่เกิด ขึ้นมาหน่อย

    มันดูไม่ค่อยจะเหมาะสมนักที่จะใช้คำนี้

    แต่ถ้าถามว่า แลก ชีวิตของผมไปให้กับแฟนต้า

    เพื่อเด็กพวกนี้ .... สำหรับหลายๆคน โดยเฉพาะกับพวกเด็กกำพร้าเอง

    อาจจะรู้สึกดีกว่าถ้าแฟนต้ารอด แล้วปล่อยผมตาย

    แต่ผมก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ขอโทษนะ

     

    พวกเราตัดสินใจไปซื้อตุ๊กตามาเพิ่ม

    จนตอนเย็น กลับบ้านมาก็ช่วยกันห่อของขวัญอีกครั้ง

    ก่อนจะได้รับโทรศัพท์จากบ้านเติมเต็ม

    ผมก็กดรับโดยไม่คิดอะไร

    "สวัสดีครับ"

    ผมตอบรับ

     

    "ขอโทษค่ะ ... คือ ไม่ทราบว่า จะขอเลื่อนวันที่จะมาเป็นวันที่ ยี่สิบเก้าช่วงบ่ายแทนจะได้ไหมคะ"

    ผู้ดูแลหญิงของสถานเลี้ยงเด็กบ้านเติมเต็มเอ่ยเสียงสำนึกผิดสุดๆ

     

    "เอ่อ ... ทำไมเหรอครับ?"

     

    "..... พอดีเจ้าของสถานที่ มาขอคุยธุระในเวลานัดพอดีหน่ะค่ะ"

     

    "อ๋อครับ ไม่เป็นไร ยังไง วันที่ ยี่สิบเก้าก็ว่างอยู่แล้วครับ"

    ผมตอบรับไปง่ายๆ

     

    "ขอบคุณมากๆค่ะ ... งั้นแค่นี้นะคะ"

     

    "ครับผม"

     

    แล้วผมก็วางหูจากเขาไป

     

    "สรุปว่า พรุ่งนี้เราไปแค่บ้านบัวบานสินะ"

    สโรชาเอ่ยถาม

     

    "อืม ... ไปแค่นั้น แล้วไปบ้านเติมเต็มวันที่ ยี่สิบเก้าตอนบ่ายแทน"

     

    "จ้ะ .... โอเคเลย"

    สโรชาทำมือเป็นเครื่องหมายตกลงแล้วก้มหน้าก้มตาห่อของขวัญต่ออย่างสนุกสนาน

     

    พวกเรากว่าจะห่อของขวัญเสร็จ ก็ร่วมสองทุ่มเข้าไปแล้ว

    หลังจากเสร็จ

    ผมก็ชิงถอดเสื้อผ้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ

     

    เห้อ ... รู้สึกแย่ แต่ก็โล่งใจ

    อย่างน้อยๆ ก็ขอให้มีเวลาพัก มากกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็แล้วกัน

    แฟนต้าเป็นคนจิตใจดีกว่าที่คิดไว้เยอะจริงๆ

    ถ้าผมสามารถอัญเชิญมะม่วงกับมายด์กลับมาได้ และยังพอไหว

    คงต้องพิจารณาเธอด้วยหละนะ

    ส่วน

    สโรชานี่ก็เป็นคนจิตใจดีเหมือนกัน

    ถึงจะเพี้ยนๆไปหน่อย แต่เธอก็มีความสุขที่จะได้แจกของขวัญให้เด็ก

    ถึงแม้ว่าตอนนี้ เงินเก็บของเธอจริงๆจะเหลือไม่มากขนาดจะเอาไปแจกใครก็ตาม

    ผมก็ไม่ได้เหมือนกัน แค่ตอนนี้ เก็บเงินกินดอก ต่อปีก็แย่แล้ว

    ....

    แกร๊ก!

    เสียงไขกุญแจ เล่นทำให้ผมตกใจ

     

    "เห้ย"

    ผมหันไปมองต้นเสียงทันที

     

    "พยายาม!! มาอาบน้ำด้วยกันให้หายเครียดกันเถอะ!!!"

    สโรชาโผล่เข้ามาในห้องน้ำโดยไม่ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น

     

    "ว้าก!!!! จะบ้าเหรอสโรชา ออกไปเลยนะเห้ย!!!"

    ผมโวยวายรีบเอามือกุมน้องชายที่ห้องโทงๆของผมอยู่ทันที

     

    "อะไรกัน!! เราอาบน้ำด้วยกันตอนเป็นมะม่วงตลอดเลยน้า ... ไม่เห็นต้องอายเลย"

    สโรชาเอ่ยส่ายร่างกายไปมา

     

    ไม่ๆๆๆ ชั้นเห็นหน่มน้มเธอหมดแล้ว

    หยุดมาล่อชั้นด้วยร่างกายแห่งหายนะทางศีลธรรมเลยนะโว้ย

    "สโรชา ออกไป ชั้นขอถอนคำพูด เธอไม่ใช่คนที่จิตใจดีเลย!!"

    ผมเอ่ยอย่างโมโห ถอยกรูดไปติดกำแพง

     

    สโรชาไม่ยอมออกพร้อมยิ้ม

    "แล้วเป็นคนจิตใจแบบไหนหละ"

     

    "สโรชา ....เธอหน่ะ....เป็นคนที่มีจิตใจบ้ากามที่สุดเลยโว้ย!!!!!"

    ผมตะโกนลั่นห้อมน้ำด้วยความปวดตับ

    กับการกระทำของเธอ

     

    End Chapter 26 สโรชา ....เธอหน่ะ....เป็นคนที่มีจิตใจบ้ากามที่สุดเลยโว้ย!!!!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×