ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #289 : Chap.64 ถ้าเราอยากจะเรียนรู้เรื่องให้รอบทันโลก เกี่ยวกับเวทย์หละก็

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 164
      2
      22 มิ.ย. 57

    Chap.64 ถ้าเราอยากจะเรียนรู้เรื่องให้รอบทันโลก เกี่ยวกับเวทย์หละก็

     

    ...........................................................................

    ...........................................................................

    .........................................

    ............

    เวทศักราช 398 / 08 / 13

    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

     

    เวลา 10.50 น.

     

    กรึกๆๆๆ

    "ใช่ๆ .... สุดยอดเลยนะเว้ย นมนี่อย่างเด้งอะ ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตเวอร์ก็เหอะ แต่มันเด้งน่าจับจริงๆนะ"

    "เออ เข้าใจดีเลยหวะ ... เมื่อคืนนี่แบบ ดูหนังเรทสิบห้า ที่หน้ากากจิ้งจอกแสดงแล้วแบบ วุ้ว สุดๆอะ"

    "เห้ย ไอ้เรื่องดังนั่นหน่ะเหรอ ... เอามาดูมั่งดีว้า"

    "อย่าบอกนะเว้ย ว่าเมื่อคืน เอ็งแฟ็บ กับหน้ากากจิ้งจอก"

    "เออดิ .... ช่วยไม่ได้นี่หว่า เห็นแล้วมันอดหื่นไม่ได้ ... "

    "ถ้าได้มีโอกาส อยากจะ วิ่งไล่จับกับหน้ากากจิ้งจอกหวะ ... คงจะสุดยอดน่าดู"

    "เออ ... จริง สุดยอด ของสุดยอดเลย ... คงจะมันมิใช่น้อย"

    เสียงของการเดินเป็นกลุ่มคนดังขึ้น พร้อมกับการพูดคุยกัน

    เข้ามาภายในห้องน้ำที่ผมอยู่

    หัวข้อสนทนาของพวกเขา ก็คือเรื่อง ลามกของพวกเขากับหน้ากากจิ้งจอก

     

    จะพูดยังไงดีหละ

    คือดาราหนัง 18+ หรือ ดาราสวยๆอื่นๆที่มองเห็นหน้าได้ก็มีเยอะแยะ

    พวกคุณจะมาคลั่งอะไรกับแค่หน้ากากจิ้งจอกคนเดียวครับ ....

     

    เอาเถอะ .... จะอะไรก็ช่างมันเหอะ

    "เห้อ ...."

    ผมถอนหายใจเบาๆ หลังจากนั่ง ปล่อยของเหลวภายในร่างกายออกมาจนเสร็จ

    แล้วใช้กระดาษทิชชู่ซับ .....

     

    โคร้กกกกกก ......

    แกรก ... ตึ้ง

     

    "อ้าว .... ฝ่าฟัน .... ว่าไงเพื่อน ช่วงเช้าไม่ได้คุยกันเลย"

    "เออ ตั้งแต่ปิดเทอมละ ได้ข่าวว่าไปทำงานที่ร้านขายอาหารใช่ป่ะ"

    "ธาตุดินได้ทำอะไรบ้างเหรอ ร้านอาหารเนี่ย"

    และทันทีที่ผมเดินออกมา เพื่อนๆก็ทักผมทันที

     

    "สบายดี ทำงานร้านอาหารสบายอย่างที่คิดเอาไว้เลย ถ้าไม่นับว่า ได้ใช้ธาตุดินในการกวาดฝุ่นออกจากร้าน ก็ไม่มีอะไรทีเกี่ยวกับการใช้เวทย์เลยหละ"

    ผมตอบเพื่อนๆ ออกไประหว่างเดินมาล้างมือไปด้วย

    "แล้วพวกนายหละ?"

     

    "เออ ดีหวะ ตรูไปทำงานปั่นไฟฟ้าภาคสนาม .... เหนื่อยชิบ"

    "เออ เราก็ได้ไปทำงานบริษัทน้ำดื่ม เหนื่อยโคตรๆ"

    "ชั้นไปทำโรงงานทำอุปกรณ์เวทย์ อย่างร้อนอะ แม่ม หัวหน้าก็ให้ตรูยืนหน้าเตาตลอด"

    "เออ พอๆกันเลย ตรูก็โดน โคตรเหนื่อยเลยหวะ เจออัดเข้าไปเต็มๆ กับห้างสรรพสินค้าเนี่ย นึกว่าจะสบาย ต้องไปนั่งคอยปรับอุณหภูมิภายในห้างตลอดไม่ได้พัก สี่ชั่วโมง ปวดหลังเชรี่ยๆ"

    "เงินนึกว่าจะได้เยอะนะ แสรด ไม่คุ้มเลย ตรูหละ อุตส่าห์ขยัน เข้างานไปนั่งหลอมเกราะเวทย์แต่เช้า"

    พวกเพื่อนๆก็ตอบรับ และบ่น ในงานที่แต่ละคนไปทำกันมาอย่างสนุกปาก

     

    แน่หละนะ ... คงจะไปเจองานเหนื่อยๆมาเยอะแยะ ....เงินก็ได้ไม่คุ้มค่าหละสิ

    ต่างจากผม ... ที่ได้งานสบายๆ ... รายได้ก็ดี ... ทำงานไม่กี่อย่างก็ได้เงินแล้ว

     

    "ฮ่ะๆๆ ... เหรอ คงจะลำบากกันน่าดูเลยหละสิ"

    ผมหัวเราะตอบไปอย่างง่ายๆ

     

    "เออ .... ว่าแต่ ... เอ็งดูแปลกๆไปป่าววะฝ่าฟัน"

    "ไหนวะ ... เออ เห้ย ... หุ่นเอ็งดูดีขึ้นป่าว"

    "เห้ย ... เออ พูดแล้วก็จริง .... หน้าอย่างใสเลย"

    "ไม่ๆ ... แบบนี้ เรียกว่าดูสวยขึ้นป่าววะ ?"

    พวกเพื่อนๆพูดขึ้นแล้วหันมามองผม

     

    เช็ดหม้อข้าว ....

    เอาหละสิ ... งานงอกแล้วไง ... จะบอกไปยังไงดีฟระ

    "คิดไปเองเปล่า ทำงานจนหน้ามืด ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันแล้วมั้ง"

    อืม ... แบบนี้แล้วกัน

     

    "... ป่าวนะเว้ย .... หุ่นเอ็งมันดูสมส่วนขึ้นจริงๆ ... ก้น ... เงี้ย"

    "หน้าก็ดูหวานขึ้นนะเนี่ย ... สามเดือนไปทำร้านอาหารแถวไหนฟระ"

    "เออ ช่วงคางเอ็งนี่มองไปมองมา เหมือนหน้ากากจิ้งจอกเลยฟร่ะ"

    "เห้ยๆ .... เจ้าฝ่าฟัน อย่าบอกนะว่าเอ็งค้นพบหนทางใหม่แล้ว "

    "เห้ย หรือว่า เอ็งจะเป็นสาวดุ้นไปแล้ววะ!! มาเปิดชุดให้ดูหน่อยสิ!!"

    "... แฮ่กๆๆ ... ชักน่าสงสัยหวะเห้ย"

    "ขอจับก้นหน่อยดิวะ"

    "เปิดกางเกงมาให้ดูหน่อยดิ้ .... ช่วงนี้เห็นกระแสสาวดุ้นแถวร้านสาวในฝันบุฟเฟ่มาแรง"

    "ช่ายๆ ... มองไปมองมาก็ชักเหมือนอิจิกะด้วยนะเนี่ย"

     

    เห้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!

    เอาหละสิ เจ้าพวกนี้ อยู่ๆ ไหงหื่นออกขนาดนี้ฟระ ...

    แล้วพวกเอ็งจะยืนล้อมตรูทำไมกันฟระ

    "พวกเอ็งบ้าไปแล้วเหรอฟระ!!!"

    ผมโวยแล้วผละเพื่อนของผมออกทันที

     

    "โอ้โห ... โมโหใหญ่ เลยหวะ ... "

    "ฮ่าๆๆ... เห้ย ล้อเล่นนิดเดียวทำเป็นโกรธไปได้"

    "เออ นั่นสิ ล้อเล่นนิดเดียวเอง กลัวไปได้"

    "... ตลกหวะฝ่าฟัน ... "

     

    อื้อหือ ... ล้อเล่น แต่ถ้าทำได้นี่ จะทำจริงๆสินะ

     

    ผมค่อยๆสะบัดมือแล้วเดินแทรกเพื่อนออกห้องน้ำเพื่อกลับห้องเรียน

    "... เห้อ ...  ไม่ตลกเลยนะเว้ย .....ที่พวกเอ็งจะมาทำตัวแบบนี้"

     

    "ฮ่าๆๆ ....."

    เพื่อนๆต่างหัวเราะขำขัน ไปตามเรื่องตามราว

     

    ...............

     

    11.40 น.

     

    "เอาหละทุกๆคน วิชา ความรู้รอบเวทย์ ก้าวทันโลก ในเรื่องเกี่ยวกับหน้ากากจิ้งจอก เกริ่นนำแบบคลายเครียด ก็หมดลงแต่เพียงเท่านั้น สัปดาห์หน้าเราจะมาเรียนหน้ากากจิ้งจอกตอนที่หนึ่งกัน.... มีใครสงสัยอะไรไหมจ๊ะ..."

    อาจารย์จุ๋มจิ๋มที่เทอมนี้ ย้ายมาสอนวิชาความรู้รอบเวทย์ก้าวทันโลก

    ก็ได้อธิบายเรื่องราวของหน้ากากจิ้งจอก แบบเกริ่นนำให้พวกเราฟังภายในห้องเรียน

     

    ผมหละชักสงสัยแล้วสิ ...

    ว่าไอ้หน้ากากจิ้งจอกเนี่ย ... มันกลายมาเป็นหัวข้อการเรียนรู้ได้ไง

    ผมยกมือขึ้นทันที

    "อาจารย์ครับ ... ผมสงสัยมากเลยครับ .... กะอีแค่ นักสู้เวทย์ใต้ดินคนเดียว เป็นดาราหน่ะพอเข้าใจนะครับ แต่ทำไมเราจะต้องมาใส่ใจกับเขาขนาดนั้นด้วยครับ ... มันไม่น่าจะเอามาใส่ในการเรียนเลยนะครับ ... "

     

    แล้วสิ้นคำถามของผมนั้นเอง .... ทุกๆคนในห้องก็หันพรึบกันมาหมดทันที

     

    "อะไรของนายฟระ ฝ่าฟัน ... ไม่รู้หรือไง ว่าหน้ากากจิ้งจอกตอนนี้ดังมาก"

    "เออ! .. จริง ตอนนี้หน้ากากจิ้งจอกดังมากเลยนะเว้ย"

    "ใช่แล้วย่ะ ฝ่าฟัน มัวไปทำอะไรอยู่"

    "นี่หละ หัวข้อที่น่าเรียนที่สุดของเทอมนี้เลยนะ!!!"

    เพื่อนๆรุมล้อมว่าผมทันที

     

    อ้าว ... พวกเอ็งคลั่งหน้ากากจิ้งจอกมากไปมั้ย!!!

     

    "ถูกต้องแล้วจ๊ะ ทุกๆคน ที่ช่วยอธิบายให้ฝ่าฟันฟัง ..."

    อาจารย์จุ๋มจิ๋มยิ้มหวานให้กับทุกคนทันที

     

    ไอ้คำพูดแบบนั้น มันเรียกอธิบายตรงไหนฟระ!!!

     

    " เข้าใจแล้วนะฝ่าฟัน ก็เพราะว่า ถ้าเราอยากจะเรียนรู้เรื่องให้รอบทันโลก เกี่ยวกับเวทย์หละก็ ... หัวข้อในช่วงเดือนแรกนี้ ต้องพูดถึงหน้ากากจิ้งจอกนี่หละจ๊ะ!"

     

    ......

    จะให้ตอบอะไรต่อนอกจาก ถอนหายใจแล้วตอบไปว่า

    "ครับ .... ขอโทษอาจารย์ และทุกๆคนมากๆครับ ที่ถามอะไรแปลกๆ"

     

    "ไม่เป็นไรๆ ... เข้าใจก็ดีแล้ว"

    ทุกๆคนตอบราวๆนี้นี่หละนะ ....

    ....................

     

    12.02 น.

     

    ต่างคนต่างก็รีบเดินทางออกจากห้องเรียนเพื่อไปโรงอาหารกันใหญ่

     

    "..... เห้อ ....."

    ผมถอนหายใจออกมาทันทีที่หลายๆคนลุกออกไปหมดแล้ว

     

    เหลือแต่เพียงผม กับก้าวเดิน ที่นั่งรอตุ้มติ้มไปห้องน้ำอยู่

     

    "คนจะคลั่งหน้ากากจิ้งจอกมากเกินไปแล้วนะ ว่ามะ...."

    ก้าวเดินเริ่มประเด็นขึ้นมาทันที

     

    เออ ... เห็นด้วย

    "อืม เห็นด้วยสุดๆ"

     

    "ไม่ดีใจหรือไง .... ที่ดังขนาดนี้ ..."

     

    โอ้โห ... ถามมาได้

    "ไม่เฟ้ย .... ไม่ได้คิดว่าจะดังขนาดนี้ด้วย .... สิ่งที่ชั้นตั้งใจจะทำ มันไม่ใช่ความดังจนกลายมาเป็นหัวข้อการเรียนนะ ... แบบนี้มันเหมือนศึกษาชีวิตดาราชัดๆ ตั้งแต่เด็กจนโตมา ไม่เห็นเคยได้ยิน ว่าจะเอาชีวประวัติ ดาราธรรมดาๆ แบบนี้ มายัดในบทเรียน"

     

    "ฮ่าๆๆ ... จริงฟร่ะ .. ชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมคนถึงได้ฮิตหน้ากากจิ้งจอกกันจริงอะไรจริง แม้แต่ตุ้มติ้มยังไม่เว้นเลย .....คงจะมีเสน่ห์ จริงๆหละมั้ง .... ถ้าชั้นไม่รู้จักตัวจริงมาก่อนอาจจะหลงหัวปักหัวปำเหมือนกันก็ได้ ใครจะไปรู้"

    ก้าวเดินนั่งมองหน้าผมไปหัวเราะไป

     

    ผมพยักหน้าตอบรับแล้วเอ่ย

    "เออ .... ไม่รู้ ... รู้แต่ว่าไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสัก ......."

     

    แต่ยังไม่ทันจบดี

    เสียงจากด้านหน้าห้องก็ขัดผมเสียก่อน

    "ฝ่าฟานนนน!!"

    "ฝ่าฟานนนนน~~~"

    ไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน .... หนิงกับฝ้ายนั่นเอง

     

    "ไปกินข้าวกานเหอะ"

    "ไปกินข้าวกันปะ!!"

    ทั้งสองเอ่ยพร้อมกันราวกับนัดกันมา

     

    "..... สาวเรียกแล้วแหนะ ฝ่าฟัน แยกกันตรงนี้แหละ เดี๋ยววันนี้ชั้นไปกินกับตุ้มติ้มนอกเวทยาลัย"

    ก้าวเดินบอกให้ผมไปกับหนิงและฝ้ายไม่ขัด

     

    "เออ"

    ผมตอบรับก้าวเดินแล้วลุกขึ้นเดินไปหาทั้งฝ้ายและหนิง

    "ปะๆ ... กินข้าวกัน .... "

     

    หนิงและฝ้ายยิ้มหวานให้กับผม พร้อมทั้งตอบรับ และ....

    "อื้อ ... ปะ ไปกินข้าวกัน"

    "ปะ กินข้าวๆ"

    ยื่นมือมาจับมือผมไว้ ....

     

    "อึก"

    น่ากลัวแปลกๆ

    ".... วันนี้เป็นอะไรของพวกเธอหน่ะ อยู่ๆก็มาจับมือกันแบบนี้ .... "

     

    "ผิดด้วยเหรอ ... จับมือแบบนี้ไม่เห็นเป็นไรเลย ...."

    หนิงยิ้มหวาน ตอบผม ด้วยสีหน้ามีความสุข

     

    "... ตามนั้นๆ .. จับมือกันให้หายคิดถึงไง ... ไม่เจอกันตั้งหลายวัน เพราะทำงานหนัก"

    ฝ้ายตอบรับต่อ อย่างสุขใจชื่นบาน

     

    ".... นี่ ... ทำแบบนี้มันไม่ดีนะ คนเสียหายจะเป็นพวกเธอรู้ไหม"

    ผมว่าออกไปทันทีที่ทำได้

     

    ไม่ว่าก็แย่หละ ....

     

    "น่าๆ เพื่อนกันไม่เป็นไรหรอก อย่าหัวโบราณสิฝ่าฟัน เชื่อในตัวชั้นที่เชื่อในตัวนายเซ่"

    "ช่ายแล้วหละฝ่าฟัน ... หัวโบราณเกินไปแล้ว ... ปะๆ เชื่อในตัวชั้นที่เชื่อในตัวนายจริงๆนั่นแหละ"

    ทั้งสองไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบพูดแล้วลากผมไปทันที

     

    "... เหมือนโดนย้อนแปลกๆแฮะ ..."

     

    "คิกๆๆๆๆ"

    "ฮะๆๆ"

    .......................

     

    ช่วงบ่ายก็เรียนวิชาอุปกรณ์เวทย์ขั้นสูง

    แต่อาจารย์ที่สอน ก็ดันพาวกเข้าชุดของหน้ากากจิ้งจอกอีก

    มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากสำหรับผม .... เพราะผมไม่ได้อยากจะรู้เรื่องของหน้ากากจิ้งจอกเลย

    สักกะนิด

     

    ทุกๆคน ก็ควรจะมีคนปฏิเสธบ้าง ...

    แต่ไม่มีเลย ....

    ทุกๆคน ชอบและตั้งใจฟังกันผิดคาดเกินไปเสียด้วยซ้ำ กับการเรียนวิชานี้

     

    และแล้วก็ช่วงเย็น แทนที่จะได้ซ้อมกีฬาเวทย์กันตามปกติ

    หนิงกับฝ้าย กลับไม่ว่างที่จะมาซ้อมด้วย เพราะ อาจารย์ธิดาเรียกตัวไปช่วยงาน

    ทำให้พวกผมได้ซ้อมกันแค่ 3 คน คือ ตุ้มติ้ม และ ก้าวเดิน

    จึงกลายเป็นว่า ล้มเลิกการซ้อม และนั่งคุยทริคต่างๆแทน ....

     

    จนเสร็จ พวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ...

     

    .....................

     

    ผมกับก้าวเดิน เดินมาด้วยกัน ผ่านถนนต่างๆ .... จนกระทั่งผ่านเข้าสู่ซอยแยกตัดเข้าเขตทุ่งร้าง

    และกำลังจะเดินเข้าสู่ห้างสรรพสินค้า ...

     

    ".... นี่ฝ่าฟัน .... ตอนเด็กๆนายเคยถามชั้นสินะ .... ว่าอยากจะเป็นสายอัญเชิญหรือป่าว ..."

     

    จู่ๆมาถามอะไรเอาตอนนี้หละเนี่ย

    " ... อ่า ... เคยสิ ... ทำไมเหรอ .... อยากจะเป็นขึ้นมาแล้วหละสิ"

     

    "คิดๆดูแล้ว .... ชั้นคิดว่ายังไงชั้นก็ไม่อยากเป็นสายอัญเชิญหวะ ... "

    ก้าวเดินตอบกลับออกมา

     

    เวร ... แล้วจะพูดขึ้นมาทำไมฟระ

    "แล้วจะพูดขึ้นมาทำไมฟระ"

     

    ".... ป่าว .... แค่นึกเล่นๆหน่ะ .... ..."

    ก้าวเดินตอบผมกลับมา ก่อนจะเอื้อมมือมาจับก้นผม

     

    หนึบ!

    ว้าก!!! ตกใจเว้ย!!!

    "เหวอ!! ไอ้บ้า ... อยู่ๆมาบีบทำไมฟระ!!"

     

    ".... ว่าก็ว่าเหอะ ... จริงๆ แค่อยากเปลี่ยนเรื่องนึก แต่มันเปลี่ยนเรื่องนึกไม่ได้ฟร่ะ ... สรุปแล้ว .... ทำไมไม่ไปศัลยกรรมกลับเหมือนเดิมฟระ ... ฝ่าฟัน"

    ก้าวเดินโวยแล้วปล่อยมือออก

     

    ".... ........ เพราะยังเป็น ... หน้ากากจิ้งจอกอยู่หละมั้ง"

    ผมนิ่งสักพัก แล้วกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ก่อนจะตอบออกไป

     

    "... เออ .... นี่ก็ผ่านมา สามเดือนแล้วนะ .... สิ่งที่นายพยายามทำอยู่มันคืออะไรกันแน่ ... บอกชั้นไม่ได้เลยหรือไงหน่ะ .... นอกจากสร้างความนิยมไปทั่วแบบนี้แล้ว ... ชั้นยังมองไม่เห็นจุดอื่นอีกเลยนะ ..."

    ก้าวเดินถามผมออกมาด้วยเสียงสงสัยเพิ่มเติม

     

    พวกเราทั้งสองกำลังเดินเลยห้างสรรพสินค้า เข้าสู่เขตร้านค้ากันแล้ว ...

    ผมนึกคำพูดอยู่พักหนึ่ง ....

    "เคยได้ยินมะ ..... คนเรา มักจะเชื่อถือในไอดอล ที่พวกเขาหลงรักเสมอ"

     

    "..... เออ .... ก็เคยได้ยินอารมณ์นั้นอยู่บ้าง .... ทำตามไอดอลที่ตัวเองชอบสินะ"

    ก้าวเดินตอบแล้วนึกตาม

     

    "... ถ้าชั้นสามารถ ทำให้คนดังๆ ที่เป็นพวกค้ายาชอบได้จริงๆหละก็ .... ชั้นอาจจะได้เบาะแสที่จะช่วยแม่ ไม่ก็หนทางอื่นๆ ที่จะช่วยแม่ก็ได้ ... จริงมั้ย"

     

    ก้าวเดินหันมามองหน้าผมกลับ .... สายตาหรี่จ้อง ...

    "จะไหวเหรอ .... พวกนั้นมันระดับมาเฟียเลยนะ!"

     

    หึ .... ถามคำถามนี้มา ... คำตอบมันก็มีอยู่แค่อย่างเดียวอยู่แล้ว

    "ก้าวเดิน .... นายคิดว่าชั้นเป็นใครกัน"

     

    "เห้ยๆ... คำพูดแบบนั้นอีกแล้วเหรอ .... "

    ก้าวเดินเอ่ยเสียงเบื่อหน่ายทันที

     

    เบื่อแล้วก็ช่วยไม่ได้ แต่มันก็ยังต้องบอกไปอยู่ดี

    "เออ .... คำพูดนั้นนั่นแหละ ....ฟังไว้ให้ดีหละ จงเชื่อมั่นในตัวชั้นซะ .... "

    ผมเอ่ยด้วยใบหน้าแสนเท่ ... แล้วเอานิ้วโป้งชี้เข้าที่อก

     

    ก้าวเดินค่อยๆยิ้มออกมา แล้วตบไหล่....

    "..... เออ เชื่อๆ ถึงสภาพหน้าของเอ็งตอนนี้จะหวานจนไม่เหลือเค้าชายแท้เท่ๆแบบตอนม.ปลายแล้วก็เหอะ .... พยายามเข้าแล้วกันนะครับ คุณพี่สาวหน้ากากจิ้งจอก .... "

     

    นี่ตรูไม่เหลือความเป็นชายแล้วจริงดิ? ... แม้แต่เอ็งยังพูดเนี่ยนะ ....

    เออ ช่างมัน ... รับแค่คำอวยพรพอละ

    "... ฮ่าๆๆ .... ขอบใจ .... "

    ผมหัวเราะแล้วตอบรับออกไป

     

    หมับ

    ก้าวเดินจับไหล่ผมทันที

    "วันนี้ ตอนอาบน้ำด้วยกันพร้อมแม่ คงจะไม่บอกหรอกนะ ว่าจะถอดชิ้นส่วนชายปลอมทั้งหมด เพื่อเข้ามาอาบในสภาพ ผู้หญิงด้วยหน่ะ .... ตรูเหนื่อยแล้วนะเว้ย .... "

     

    ก็เข้าใจหรอกนะ .... ว่าไม่อยากเห็นสภาพของชั้นตอนเป็นหญิง เพราะเดี๋ยวดุ้นของนายจะตั้ง

    แต่ .... ชิ้นส่วนที่ชั้นซื้อมา มันไม่ครบหน่ะ ....

    ".... แน่นอนสิ .... ถอดหมดอยู่แล้ว .... ก็ชั้นไม่มีดุ้นปลอมด้วยนี่หว่า .... หรืออยากจะเห็นสภาพ พี่ชายของนาย ที่ไร้ดุ้นกันหละ"

    มันขาด ช้างน้อยไป ....

     

    ก้าวเดินทำหน้าเงิบ .... แล้วรีบบอกทันที

    ".... งั้นมาเป็นพี่สาวเหอะ ...."

     

    มันก็ต้องแบบนั้นแหละ ....

    "ฮ่าๆๆ .. เออ โอเค ... จัดไป"

     

    ..........

    ................................

    ......................................................................................

    ......................................................................................

    End Chap.64 ถ้าเราอยากจะเรียนรู้เรื่องให้รอบทันโลก เกี่ยวกับเวทย์หละก็



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×