ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #25 : Chapter 18 บางทีนะ .... แค่บางที.....

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.08K
      18
      25 มี.ค. 57

    Warning : ตอนนี้มีการบรรยายฉากลามก ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย เด็กอายุ 15 ปี ลงไป ควรได้รับคำแนะนำจาก ผู้ใหญ่
    หรือระมัดระวัง ด้วยตนเองนะฮะ lol

    Chapter 18 บางทีนะ .... แค่บางที.....

     

    "บอกชั้นมานะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

    ชั้นเอ่ยออกไป

     

    มันไม่ตอบ ไม่ขยับ

    ไม่ทำอะไรทั้งนั้น

    แต่ทำไมภาพมันเหมือนติดตา ... แต่ก็เหมือนจะไม่ติด

    มันฆ่า เพื่อนของเราไป

    มันกิน .... เพื่อนของเราไป!....

    .....

    แต่ตอนนี้ มันไม่ขยับตัวอะไรเลย

    แต่ถ้าในฝันนั้น สโรชาพูดจริงหละก็

    มันก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

    ชั้นเชื่อใจของสโรชาได้

     

    ก็แค่ลุกไปเปิดมัน..... ขา.. ของชั้น .... ลุกสิเฟ้ย ไอ้ขาบ้า

    ตุบ!!

    ชั้นทุบขาตนเองที่ยังสั่นให้หายสั่น

    แล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้นช้าๆอีกครั้ง

     

    "เอาหละ .... ถ้าแกไม่ตอบ ชั้นจะขอ.... เปิดชุดเกราะของแกหละนะ"

    ชั้นเอ่ยคุยกับมัน

    .... จะบ้าหรือฟระเนี่ยตรู ... คุยกับไอ้เกราะเหล็กนี่ แล้วจะรู้เรื่องได้ยังไงกัน

    แต่ก็ช่วยไม่ได้ อย่างน้อยๆ ขออนุญาตมันสักหน่อยก็ยังดี

     

    มือของชั้น ค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปสัมผัสมันช้าๆ......

     

    ฟู่!!!....

    จู่ๆ ไอควันก็ค่อยๆ กระจายโพยพุ่งออกมามากมาย

    พร้อมกับเกราะที่ค่อยๆง้างออกช้าๆ ....

     

    "กลิ่น .... กลิ่นเน่าเหม็นนี่มันอะไรกัน ....."

    เหม็นชิบหาย .... กลิ่นบ้าอะไรฟระ

    ....เปรี้ยะ!!!!!

    อึ้ก!!!... เหมือนสมองของเราโดนอะไรแล่นเข้ามาในหัวหลังจากสูดกลิ่นนั้นเข้าไป

    ไม่ไหว ไม่อยากจะเปิดเข้าไปเลย ....

    แต่ .... แต่ว่า ถ้าไม่เปิดดูหละก็

     

    แกร้งงงงงง......

    ..........................................................

    ...............................

    แกร้งง!!! กรึ้ง!!!!!!!

     

    ..............

    "อุ้บ อึก อ้วกกกก"

    .....

    "อึ ... ...อ้วกกกกก!!!"

     

    ..........

    ................

    ผมอ้วกไม่หยุด....... หลังจากได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น

    และได้รับอะไรบางอย่างเข้ามาภายในสมอง...

    แม้ว่าในท้องจะไม่มีอะไรแล้วก็ตาม

    แต่ผมก็ยังหยุดอ้วกไม่ได้ ทั้งน้ำเปล่าในกระเพาะ ทั้งน้ำย่อย ไม่เหลือ....

    จนอ้วกอากาศออกมา..... ผมอ้วกนานมาก ... นานจนจำไม่ได้ว่านั่งทำอยู่แบบนั้นไปนานเท่าไหร่

    แต่....

     

    ผม.... จำได้หมดแล้วว่าผมเป็นใคร

    ผมคือพยายาม ไม่ใช่มะม่วง

    แม้ว่าร่างกายจะเป็นเธอก็ตาม .....

    แย่แล้ว .... ร่างกายมัน เหงื่อจากดวงตาไหลไม่หยุด....

    มะม่วงรักผมมาก .. รักมาตลอด

    แต่ผมกลับจำเธอไม่ได้เลย

    และที่มาเพื่อฆ่าผม ก็เพราะมันจำเป็น

    เพราะเธอเชื่อมั่นในคำพูดของผม .. เธอก็ต้องมีชีวิตต่อไป

    เธอไม่แม้แต่จะโกรธผมด้วยซ้ำที่ถูกฆ่า

    ....อ่า

    ถ้ารู้ว่าเหตุผลเป็นแบบนี้ ชั้นก็ไม่โกรธเธอเหมือนกันมะม่วง

     

    แต่....

    มันเจ็บปวดหัวใจไปหมดเลย .....

    เพราะความทรงจำของเธอ มันดันอยู่กับชั้นหมด

    ผมเอามือขึ้นมากุมหน้าอกด้วยความเจ็บ

    ไม่ได้เจ็บปวด ที่หัวใจนั้นโดนกรีด หรือโดนทำร้าย

    แต่มันเจ็บมาจากความรู้สึกที่อยู่ข้างในจิตใจ

    "ฮึก.... ฮือออ.... ฮื้อออ... แง!!!!"

    บ้าจริงๆเลย ทำไมร่างกายของเธอถึงได้ เหงื่อไหลออกมาทางตาง่ายยังงี้มะม่วง

    ได้โปรดเถอะ ชั้นหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย.....

    .....ขอโทษนะ มะม่วง .....

    "ฮื้ออ ....ขอโทษนะ ฮึก .... อึก ...มะม่วง....."

    ...........................................................................

    ......................................................

    ......................

    หลังจากที่ผมจำเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมเองได้ ผมก็รู้สึกได้เลย

    ว่าจิตใจของพวกผู้หญิงเข้มแข็งมาก

    แม้ว่าจะอ่อนแอ.... มันพูดออกมาเป็นรูปธรรมไม่ได้แต่ผมรู้สึกแบบนั้น

    ผมนั้นนอนร้องไห้อยู่ที่พื้น ไร้เหตุผลราวกับเด็ก

    ร้องไห้ไปนานมาก...นานจนกว่าจะรู้ตัวก็ท้องฟ้าสว่างแล้ว

    ผมร้องไห้อยู่อย่างนั้น....

    ร้องไห้เบื้องหน้าชุดเกราะเหล็ก ผู้ที่เป็นทั้งฆาตกร และผู้ที่ปกป้องผม

     

    ........

    เมื่อเริ่มอาการดีขึ้น .... ผมก็ค่อยๆนอนขด

    นึกถึงความทรงจำในคืนนั้น

    ส่วนความทรงจำในเรื่องนั้น ผมจำได้ไม่ละเอียดนัก

    แรงระเบิด และ ไฟที่โหมกระหน่ำ น่าจะทำให้ผมและสโรชาเกือบตาย

    แม้ว่าผมจะไม่ได้รับรู้อะไรมากนัก

    แต่สโรชาน่าจะอัญเชิญเจ้าปีศาจเหล็กตัวนี้ออกมา ตอนที่ระเบิดนั้นทำงานพอดี

    แล้วมันก็กลืนกินพวกเรา ที่เริ่มโดนไฟคลอก

    เนื้อเยื่อ และ หนังของพวกเรา เละ พุพอง ฉีกขาด

    ......

    ใช่แล้วหละ

     เพราะผมเห็นตัวของผมเองกับสโรชาอยู่ในเกราะนั่นตอนเปิดออกมา

    สภาพ ..... ดูน่าสยดสยอง

    ใบหน้าครึ่งซีก นั้นเละจนเห็นฟันกราม และกะโหลกเปิด

    ร่างกายแถวแขน และช่วงขา นั้นมองเห็นกล้ามเนื้อชั้นในได้ชัดเจน

    แต่ถึงจะเละขนาดนั้น บางส่วนก็เริ่มมองเห็นว่ากลับมาเป็นคนอีกครั้ง

    ส่วนต่างๆของร่างกาย กลับโดนเนื้อเยื่อภายในชุดเกราะนั้น ค่อยๆ ซ่อมแซม

    ร่างกายหลายๆส่วนของพวกเราเริ่มจะโดนรักษาอย่างช้าๆ

     

    และหลังจากที่มันปกป้องพวกเราทั้งสองคนเอาไว้ในตัวมันแล้ว

    มันก็เริ่มต้น สังหารทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น

    ศพแล้วศพเล่า....

    จนกระทั่งมาถึงมะม่วง

    .....เกราะนั่นกินเธอเข้าไปแล้ว....ก็กลับมากินศพคนอื่นๆจนหมด....

    และ.....

    ตรงนี้หละ ที่เราจำไม่ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น

    แม้ว่าจะจำได้ว่าตัวเราเป็นใคร

    และร่างกายนี้เป็นใคร รู้สึกยังไงกับเรา

    แต่เราก็จำไม่ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

     

    "โถ่เอ้ย!!! อย่างน้อยๆก็บอกอะไรกันบ้างสิเฟ้ย!! แล้วกูจะรู้มั้ยเนี่ย!!"

    ผมทุบพื้นห้องตะโกนเสียงดัง

     

    "ชั้นจะบอกเธอเองว่าเกิดอะไรขึ้น พยายาม.... แม้จะบอกได้ไม่หมดก็เถอะ"

    อะไรกันหน่ะ จู่ๆร่างกายเราก็พูดไปเอง

     

    "....?!!! สโรชา......"

    ผมเอ่ยถามออกมาด้วยความรู้สึกตกใจ

    "ทำไม เธอเพิ่งมาตอบ"

     

    "ก็... ชั้นเห็นพยายามร้องไห้อยู่.... ขอโทษนะ ชั้นควรจะปลอบตั้งแต่ตอนนั้น?"

    ร่างกายผมเอ่ยเองอีกครั้ง ... แต่มันไม่ใช่ผมเอ่ย

     

    "ไม่ต้องหละ .... ไม่ต้อง... มาตอนนี้น่าจะดีแล้ว .... "

    ผมเริ่มสงบสติอารมณ์

     

    "ขอชั้นควบคุมร่างนี้ไปด้วย และพูดไปด้วยได้มั้ย พอดี...มีเรื่องอยากจะทำหน่ะ...."

    ร่างกายของผมถามตัวผมเอง

     

    "อืม.... รบกวนบอกให้หมดด้วยหละ เท่าที่เธอจะบอกได้หน่ะ"

    ผมตอบรับ

     

    ก่อนที่ร่างกายของเธอจะรู้สึกเหมือนว่าไม่ใช่ตัวของผมเอง

    ตอนนี้มันกลายเป็นของสโรชาไปแล้วสินะ... ร่างของมะม่วง

    เธอพาร่างกายนี้ ลุกขึ้นไปหยิบ ....

    .....

    กระดาษทิชชู่ มาเพื่อทำความสะอาดห้อง

    ใช่ๆ อ้วกนั่นหน่ะแหละ...

     

    เห้ย บอกตรงๆว่ามุขนี้ของเธอ มันทำเอาชั้น หมดอารมณ์ซึ้งแล้วนะโว้ย

    "แค่นี้เหรอ ที่อยากได้ร่างมา"

    ปากของมะม่วงขยับ แต่มันคือคำพูดของผมเอง

     

    "อืม แค่นี้แหละ.... ไม่สิ อยากอาบน้ำอีกรอบด้วย ถึงจะไม่ใช่ร่างของตนเองก็เถอะ แต่เล่นทั้งอ้วก ทั้งฉิ้งฉ่องปิบ เหงื่อแตกซิกจนเหม็นแบบนี้ ทนไม่ไหวหรอก"

     

    ผมไม่มีอะไรจะเถียงเธอ ความผิดของผมทั้งนั้น

    แต่ขอเถอะ อย่าพูดเรื่องฉี่ไหลออกมาด้วยได้มั้ยฟระ ..... มันอายนะ

     

    "เอาหละ ชั้นจะเล่าเรื่องหละนะ"

     

    "อืม...."

     

    เธอใช้ร่างของมะม่วงเอ่ยระหว่างใช้ทิชชู่ ซับอ้วกตามพื้นไปด้วย

    "ที่ตอนแรกสุดเลย ที่ฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาลจนถึงเมื่อกี้ ชั้นไม่ออกมาพูดเลยเพราะ ความทรงจำของชั้น ก็ผสมปนเปเหมือนพยายามนั่นแหละ .... เป็นความทรงจำของชั้น ผสมกับมะม่วง แต่ที่รู้และจำได้แม่นคือ ชั้นจะไม่แย่งร่างกายนี้ใช้ เพราะชั้นนึกว่า ชั้นเป็นอีกจิตใจหนึ่งของพยายาม ไม่สิ ของมะม่วงในตอนนั้น แล้วต่อมา ก็เหมือนจะฝันแปลกๆ แต่รู้สึกว่า ชั้นต้องบอกอะไรสักอย่างกับมะม่วง อีกคน ... และชั้นก็บอกไปว่า มันมีอะไรบางอย่าง อยู่ในตู้นั่น แล้วพวกเราก็จะรู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่ควรจะเปิดตอนนี้ ควรจะรอก่อน ถ้าเปิดตอนนี้เลย มันจะมีภาพไม่น่าดู ... แต่พยายามก็คือพยายามหละนะรั้นจริงๆ"

     

    อ่า ไม่ขอเถียง ขอโทษด้วยนะครับ คุณสโรชา

    "อืม"

    ผมตอบรับ ด้วยร่างกายของมะม่วงเอง

     

    "นอกนั้นคือที่ชั้นเดานะ .... การกระทำหน่ะ จะสัมผัสกันได้ก็ต่อเมื่อ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกระทำออกมาร่างกายเท่านั้น ส่วนสมองน่าจะไม่ได้"

     

    "เออ.. เรื่องนั้นช่างมันเถอะ.... ที่ชั้นอยากรู้ตอนนี้คือ มะม่วง..."

     

    "เธอตายแล้ว"

    สโรชาชิงเอ่ยตัดคำพูดผม

     

    ผมนิ่งทันที

    ....

    พูดไม่ออก

     

    "ถ้าถามว่า ตอนนี้ ทำไมถึงยังใช้ร่างของมะม่วงได้ ทั้งๆที่ตอนนั้นน่าจะโดนชุดเกราะเหล็กนั่นกัดเคี้ยวและกลืนทุกๆคนไปแล้ว ชั้นก็พอจะตอบได้แต่ไม่ทั้งหมด เพราะชั้นไม่แน่ใจนัก สติของชั้นตอนนั้นก็แทบจะมีไม่ครบเหมือนกัน.... "

     

    "นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธออัญเชิญมาเหรอ"

     

    "ชั้นก็ไม่แน่ใจ.... มันอาจจะเป็นสิ่งที่พยายามอัญเชิญออกมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ"

     

    เอาหละสิ โบ้ยกันไปกันมาแล้ว

    มันไม่ใช่ไอ้ตัวที่สโรชาอัญเชิญมาเหมือนกันสินะ

    และเราก็ไม่ได้อัญเชิญออกมาด้วย? ... บ้าไปใหญ่แล้ว ของเธอนั่นแหละเฟ้ย!

    "จะบ้าหรือไง ชั้นยังไม่เคยผูกวิญญาณมาก่อนเลยนะ"

     

    "นั่นสินะ.... งั้นก็ต้องตัดเรื่องนี้ไป .... โอเค เช็ดเสร็จแล้ว ต่อไปก็ถูห้อง...."

     

    "รบกวนเล่าต่อด้วยครับ คุณสโรชา"

     

    สโรชาเหมือนจะทำหน้ายิ้มด้วยใบหน้าของมะม่วง ขอโทษเถอะ ชั้นมองไม่เห็น

    เธอเดินไปหยิบไม้ถู ถังน้ำใส่น้ำพอค่อนถัง กับน้ำยาขัดพื้น มาหยอดใส่บริเวณที่เพิ่งเช็ด แล้วเริ่มถู

    "อื้ม ชั้นรู้แต่ว่า เหมือนมันคุยกับชั้นได้ .... และมันก็บอกกับชั้น"

     

    นั่นแหละ ชั้นอยากรู้ว่ามันพูดอะไร รีบๆพูดเถอะ....

     

    "มะม่วง เป็นหนึ่งในวิญญาณที่ยังไม่ยอมไปเกิด และยังวนเวียนอยู่ภายในร่างกายของมัน มันจึงสามารถดึงเอาประจุเวทย์ ที่มีภายในร่างและที่ยังหลงเหลือจากการผูกติดไว้ในวิญญาณของเธอ ออกมาเปลี่ยนบางอย่างให้กลายเป็นกายมนุษย์ได้"

     

    เห้ย? ไม่ใช่ละเจ้าเกราะเหล็กนั่น มันสามารถอัญเชิญได้?

    "เดี๋ยวนะ? ชั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสิ่งอัญเชิญสามารถอัญเชิญมนุษย์ได้"

     

    "ชั้นก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกัน ว่าสิ่งที่อัญเชิญมา สามารถอัญเชิญมนุษย์กลับออกมาด้วยตนเองอีกได้ ดังนั้น มันก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทั้งพยายาม และชั้นอัญเชิญมาก็ได้"

    สโรชาเอ่ยหลังจากถูเสร็จ

    "ต่อจากนี้ ไปคุยกันต่อในห้องน้ำก็แล้วกัน....."

     

    "อืม"

    ผมตอบรับ

     

    ระหว่างที่สโรชาพาร่างกายของมะม่วงไปปลดเปลื้องเสื้อผ้า

    ผมก็ได้แต่ครุ่นคิด

     

    เรื่องแรก

    สิ่งอัญเชิญต้องใช้ประจุเวทย์ แต่ชั้นยังไม่เคยผูกประจุเวทย์มาก่อน

    สโรชาก็บอกว่าไม่ใช่ของเธอ ....แล้วมันจะเป็นของใคร.....

    แล้วถ้า...เจ้าเหล็กนั่น ไม่ใช่สิ่งอัญเชิญ

    มัน....คือตัวอะไร......

     

    เรื่องต่อมาคือ มันสามารถสร้างร่างกายของมะม่วงออกมาได้ยังไง

    อัญเชิญ จากประจุเวทย์ที่กินเข้าไป ?

    ถึงจะบอกแบบนั้น

    แต่การอัญเชิญ ก็ต้องมีประจุเวทย์ของตนเอง

    สิ่งที่อัญเชิญมีประจุเวทย์ของตนเองเหรอ ?

    เป็นไปไม่ได้

     

    ไม่นะ .... เหมือนจะเริ่ม ปะติดปะต่ออะไรได้บางอย่างแล้ว

    มันอาจจะเป็น!.. เสียว!! เสียวเว้ย!! เสียวไปทั่วท้องน้อยเลย!!!

    คะ... ความรู้สึกเสียวซ่านนี่มันอะไรวะครับ

     

    "แฮ่ก... พยายามรู้สึกดีมั้ย อา พยายาม พยายาม ..... พยายามมมมม ชั้นรู้สึกดีมากๆเลย"

    สโรชาในร่างกายของมะม่วง เอ่ยระหว่างเอาใยขัดผิวแบบละมุนต่อผิวที่เต็มไปด้วยสบู่ถูบี้กดบนไปมา

    ตรงกรีบดอกไม้กลางระหว่างขาของมะม่วง

     

    "ยะ ยะ หยุดนะ สะ สโรชา!!!"

    ผมโวยออกมาทันที ด้วยร่างของมะม่วงเช่นกัน

     

    "คิกๆ ..... ชอบหละสิ ง้า!!! ชั้นก็ชอบนะ ได้เล่นแบบนี้... แฮ่ก ... พะ ...พร้อมๆกับพยายาม พยายามงื้ออ พยายามมม... พะ.."

     

    "สโรชา!... นี่มันร่างของมะม่วงนะ เธอก็รู้ เธอได้ความทรงจำไป เหมือนกัน!!! เธอเข้าใจชั้นไม่ใช่เหรอ!!! ถ้าไม่หยุด ชั้นจะโกรธจริงๆแล้วนะ!!!!!!!!!"

    ผมเอ่ยโวยแทรกด้วยร่างของมะม่วงน้ำเสียงจริงจัง แม้จะมีอาการครางอยู่บ้างก็เถอะ

    แต่สโรชา .... ขอโทษนะ

    นี่ไม่ใช่เรื่องที่ชั้นจะสนุกกับเธอ

     

    ".... ขะ ขอโทษ"

    สโรชาเอ่ยเสียงซึมไปเลย ก่อนจะ อาบน้ำตามปกติ

     

    ผมนั้นหยุดความคิดแต่เพียงเท่านั้น

    ให้ตายเถอะ แย่จริงๆ เมื่อกี้มันเหมือนจะคิดออกแล้วแท้ๆ...

    แต่ตอนนี้ลืมไปแล้ว... บ้าชิบ

     

    ผ่านไปราวๆ 2 นาที เธอก็เริ่มเข้าเรื่อง

    "ชั้นจะพูดต่อนะ"

     

    "อืม...."

     

    "มันแค่บอกกับชั้นลางๆ .... แค่ลางๆนะ ว่ามันเปลี่ยนอะไรบางอย่างให้กลายเป็นร่างกายนี้ แล้วจึงถ่ายโอนสติสัมปชัญญะพร้อมความจำของพยายามและชั้น มาเพื่อจะได้รักษาร่างกายของพวกเราได้ไวขึ้น"

     

    "สรุปง่ายๆว่า มันต้องการที่จะช่วยพวกเราจริงๆ"

     

    "ชั้นก็คิดว่าแบบนั้น ... นอกนั้น ชั้นก็ไม่ได้จำ หรือจำไม่ได้อีก ...... "

    สโรชาในคราบมะม่วง ที่ย้ายมาขัดผิวที่ช่วงขาเอ่ยตอบ

     

    ดวงตาเธอไม่ได้มองช่วงที่จะทำให้เกิดความลามกได้

    ขอบใจเธอจริงๆ ที่เข้าใจชั้น ....

     

    "ที่แน่ๆคือ .... พวกเรา ในตอนนั้นความทรงจำเพี้ยน แต่พอได้พบกับร่างของตนเองจริงๆความทรงจำก็กลับมา มันทำให้ชั้นได้เบาะแส ...."

    สโรชาอธิบายต่อ

     

    "อ่า... ใช่ ว่าแต่ เบาะแสของเธอคือ?"

     

    "บางทีนะ .... แค่บางที....."

     

    "แค่บางที?"

    ผมย้อนคำกลับ

     

    "ตัวชั้นจริงๆ อาจจะไม่ใช่ สโรชาผู้หญิงที่พูดคุยกับพยายามอยู่ตรงนี้ก็ได้....... ชั้นอาจจะ ... เป็นคนอื่นเหมือนกัน"

    สโรชาเอ่ยออกมา

    ทำให้ผมนั้นถึงกับอึ้ง

     

    "จะบ้าเหรอ!!! ... จะเป็นไปได้ยังไงกัน!!"

    ใช่ ...จะบ้าเหรอ

    ยอมรับไม่ได้หรอก ผู้หญิงที่คุยด้วย เป็นสโรชาแต่ไม่ใช่สโรชา

    เธอเข้ามาเพื่อช่วยเหลือชั้นนะ .... เธอยอมทรยศ และหักหลัง ผู้ฝ่าฝืน เพื่อมาช่วยชั้น

    จะเป็นไปได้ยังไง .... เธอตัวจริง ... ไม่ได้คิดแบบนี้อย่างนั้นเหรอ

     

    "ไม่แน่หรอกพยายาม"

    สโรชาเตือนสติผมให้กลับมา

    "ชั้นก็ความทรงจำเพี้ยนและบิดเบี้ยวเหมือนกัน"

     

    End Chapter 18 บางทีนะ .... แค่บางที.....

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×