ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 10 วีฟ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.5K
      22
      21 มี.ค. 57

    Chapter 10 วีฟ์

     

    ให้ตายเถอะ สภาพของทุ่งนาตอนนี้ ดูไม่ต่างจากช่วงเวลากลางคืนเลย

    แล้ว ผมก็ต้องมาอยู่ท่ามกลางสภาพแบบนี้ โดยมีคนไม่เกี่ยวข้องอีก 3 คนอยู่ด้วย

     

    "สโรชา... สามคนนั้นจะทำยังไง"

    ผมเอ่ยถามสโรชาทันที โดยไม่ทันได้เป็นห่วงตนเอง

    แย่จริงๆ ที่ผมก็ดันไม่ได้ห่วงสโรชาด้วย

     

    "ชั้นไม่รู้รายละเอียดของ พวกมันหน่ะ"

    สโรชาตอบโดยยังคงจ้องมองศัตรู ผู้สวมฮู้ดดำ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของกระท่อม ห่างไป 30 เมตร อย่างไม่ละสายตา

     

    "นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

    หน่อยนั้นเอ่ยเสียงกลัวๆ หันไปทำพลอย

     

    "ไม่รู้ ชั้นจะไปรู้ได้ยังไงหละ ชั้นก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ไอ้มืดตอนเวลาบ่ายสี่โมงเนี่ย"

    พลอยเอ่ยตกใจไม่แพ้กัน

     

    "พวกเราควรจะรีบไปนะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลาดำนา"

    เจินเอ่ยเสียงเรียบ

     

    จากคำพูดนั้นทำให้ผมต้องหันควับไปมองสามสาวข้างหลัง

    นังคุณเจินครับ ทำไมคุณเจินยังใจเย็นอยู่ได้วะครับ

    ..... แต่ก็อย่างว่า เธอไม่เคยเจอแบบผมมาก่อนนี่

     

    แกรก.... แกรก ... แกรก แกรก

    เสียงอะไรกัน?

    ผมหันไปมอง ฮู้ดดำทั้งสองคนนั้น

    มันกำลังเหนี่ยวไกปืนคาบศิลา แบบในเกมส์สงครามสมัยเก่าวางแผนการรบ

    เดี๋ยวก่อนนะ ........ ปืนคาบศิลา

    ปืนโคตรจะล้าหลังเลย แต่ไม่ยักรู้ว่า ผู้ฝ่าฝืนจะใช้กันอยู่

     

    "ปืน!!"

    หน่อยเอ่ยชี้

     

    ผมรู้แล้วครับ..... หน่อย ไม่น่ามีคนไม่รู้

     

    ทั้งสองฮู้ดดำนั้นเล็งมาที่พวกเราแล้ว

     

    "อันตราย!!!"

    สโรชาเอ่ยแล้ว รีบผลักพวกเราเข้ามาในบ้าน

    พร้อมปิดประตู

     

    ปั้ง ปั้ง!

    เสียงยิงประสานเสียง

    ปุ ปุ

    เสียงของบางอย่าง เข้ามาชนกับประตู

     

    นั่นสินะ

    เม็ดกระสุน ที่ทำมาจากหินเหล็กไฟในอดีตก็น่าจะอานุภาพแค่นี้หละ

     

    "คนบ้าอะไรกันหน่ะ อยู่ๆก็โผล่มาเอาปืนล้าหลังแบบนั้น มายิง"

    เจินลุกขึ้นมาเดินเข้าไปมองดูกระสุนที่ฝังที่ประตูใกล้ๆพลางบ่น

     

    "น่านสิน้า..."

    พลอยเอ่ยเหงื่อตก

     

    นี่พวกหล่อน ไม่คิดจะกลัว กรีดร้อง กันหน่อยเลยสินะ ที่มีคนมายิงปืนใส่

     

    เปรี้ยะ~~

    จู่ๆ สะเก็ตประกายไฟก็ค่อยๆติดขึ้นจากลูกกระสุนนั้น

     

    "เจิน หลบออกมานะ!!!"

    สโรชาที่เห็นรีบตะโกน

     

    "เอ๋?"

    เจินไม่เข้าใจหันหน้ามามองสโรชา

     

    สโรชาที่อยู่ในตำแหน่งด้านข้างรีบกระโดดผลักเจินออกไป

     

    บรึ้ม!!!!!!!

    ทันที ที่มันระเบิด

    แรงระเบิดนั้น อัดกระแทกใส่ สโรชาเต็มๆ .... ต่อหน้าต่อตาผม

    แม้ว่าเสียงของมันจะไม่ดัง และระยะของมันจะสั้นแค่ไม่ถึง 2 เมตรก็ตาม

    แต่เพราะสโรชาอยู่ใกล้ประตูแทนเจินที่โดนผลักออก

    เธอจึง

     

    "สโรชา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

    ผมตะโกนเสียงดังลั่นทันทีเมื่อสโรชากระเด็นออกมาจากระเบิดแล้วล้มมาหาผมพอดิบพอดี

    "สโรชา!!... ไม่เป็นไรใช่มั้ย สโรชา!!"

    จะไม่เป็นอะไรได้ไงวะ!! ทำไมตรูถึงได้โง่แบบนี้ เธอเจ็บชัดเจน

    แต่ มันคิดคำพูดอะไรไม่ออกโว้ย

     

    "สะ สโรชา!"

    หน่อยและพลอยพากันตกใจด้วย

     

    เจินนั้นยันตัวขึ้นหันมามอง

    "ขะ ขอโทษนะ ...."

    เธอเอ่ยด้วยท่าทางลนลาน

    "ขอโทษ"

     

    ผมหันไปหาเจิน

    "เจิน ถ้าจะขอโทษหละก็ รีบเอาน้ำเย็นมาเร็ว"

    ผมไม่รู้ ..... ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป

    แต่ผมจำได้ ว่าถ้าโดนแผลไฟลวก ต้องรีบเอาของเย็นมาประคบ

     

    "ได้...."

    เจินนั้นพยักหน้ารีบวิ่งไปเอากระติกน้ำภายในกระท่อม

     

    "อึก ...."

    สโรชานั้นสะอึกลืมตาขึ้นมา

     

    "สโรชาเป็นยังไงบ้าง"

    ผมเอ่ยถามสโรชา

     

    "ไม่เป็นไรมากหรอก"

    สโรชาตอบผมยิ้มให้

     

    ยัยบ้า ... ยังจะมายิ้มอยู่อีก จะบ้าไปแล้วเหรอ!

    "จะบ้าหรือไงหน่ะ สภาพแผลไหม้เต็มตัวขนาดนี้"

     

    "ชั้นไม่เป็นไร จริงๆนะ .... ลืมไปแล้วหรือไง"

    เธอนั้นเอ่ยยิ้มๆ เหมือนจะสื่อว่า เธอไม่ได้เหมือนคนทั่วไป

     

    "งั้นเหรอ"

    ผมนั้นสบายใจขึ้นมาบ้าง

     

    "พยายาม พวกมันขยับเข้ามากันแล้ว!!"

    หน่อยเอ่ยตะโกนบอกผม เมื่อเธอมองลอดช่องรูประตูที่โดนแรงระเบิดจนโหว่

    เธอเห็นฮู้ดดำสองคนนั้น เดินขยับกายเข้ามาช้าๆ

     

    "ทุกคน เป็นเวทย์กันมั้ย"

    ผมนั้นหันไปเอ่ยถาม

     

    "มะ....ไม่เป็นหน่ะ"

    หน่อยที่นั่งแบอยู่กับพื้นตอบ

     

    เจินหยิบกระติกน้ำแข็งมาวางรวมถึงพลอย ส่ายหัวตอบผม

     

    "ชั้นกับสโรชาเป็นเวทย์นะ พวกนั้นแค่ตามมาเอาชีวิตผมคนเดียว ถ้าทั้งสามอยู่ด้วยจะลำบาก ...รีบหนีไปซะ"

    ผมโกหกหน้าตาย .... แต่ ถ้าจะให้สู้แล้วตาย อย่างน้อยๆ ก็ให้ สามคนนี้ปลอดภัยก่อนดีกว่า

    อย่างน้อยๆก็ยังมีสโรชา .....

     

    "แต่!..."

    หน่อยนั้นเอ่ย ยกมือขึ้นมาอย่างห่วงๆ

     

    "บอกให้ไป ก็ไปสิวะ อีพวกตัวถ่วงเอ้ย!!!!"

    ผมตะโกนไล่พวกเธออย่างไม่ใยดี

    พวกเธอน่าจะเกลียดผมไม่น้อย เสียงของผมมันดูแย่หรือป่าวนะ

    แต่มันก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะให้พวกเธอปลอดภัย

     

    "..... ไปกันเถอะ หน่อย อยู่ไปก็น่าจะถ่วงพวกเขาจริงๆ"

    เจินที่น่าจะเข้าใจสถานการณ์ที่สุดนั้นเข้ามาจับมือหน่อย

    แล้ววิ่งไปปีนหน้าต่างกระท่อมด้านหลังหนีแทน

    พลอยนั้นมองพวกผม ก่อนจะหันรีบวิ่งตามเพื่อนของเธอไป

     

    ผมมองทั้งสามจากไปแล้วรีบหันกลับไปมอง ฮู้ดดำสองคนนั้น

    พวกมันยังไม่ได้เข้ามา และก้าวช้าๆ

    แปลว่า มันยังไม่แน่ใจ ว่าพวกเรากำลังเตรียมอะไรกันอยู่

    แต่ผมไม่กลัวนัก เพราะ ผมมี สโรชา

    "สะ สโรชา ไหวมั้ย ...."

     

    "ไหวมาก .. สบายๆ"

    เธอเอ่ย ยิ้มหวาน ดันตัวลุกขึ้นมา หลับตา มีเสียงวนเวียนรอบกายแล้วกระจายออกเป็นคลื่น เสียงดังวิ้ง วิ้ง เธอทำแบบนั้นอยู่ราวๆ 3 ถึง 4 วินาที ก็หยุดแสงเหล่านั้นลง

    ก่อนจะหายใจแรงขึ้นเล็กน้อย ร่างกายสั่นช้าๆ

    ทันใดนั้น ชุดกันฝนฮู้ดดำ ก็โผล่ขึ้นมาสวมร่างกายของเธอ พร้อมกับ

    มีดอีโต้ 1 ด้ามในมือขวา และ มีดหั่นผักทำครัว 1 ด้ามในมือซ้าย

    "พยายามอย่าโผล่ออกมาให้พวกนั้นเห็นนะ"

    เธอเอ่ยแล้วพุ่งออกไปจากรูโหว่ของกระท่อม ไม่ทันให้ผมได้ตอบเธอ

     

     

    ถึงผมจะฉุกใจเรื่องมีด ที่แล้วจำได้ทันทีว่ามันอยู่ในครัวบ้านผม แต่ก็ต้องพับเก็บเรื่องนี้ไปก่อน

    ผมได้แต่คอยแอบมองเหตุการณ์เพื่อไม่ให้ตนเองเป็นตัวถ่วง

     

    สองฮู้ดดำนั้น ตกใจทันทีที่เห็นสโรชา

    ก่อนที่ หนึ่งในสองคนนั้นจะเอ่ยขึ้นมา

    "เธอมาจากไหนกัน!!! ... ถ้าใช้มีดก็ไม่น่าเป็นคนของเขตนี้"

    เสียงแบบนั้น ผู้หญิงนี่ .....

     

    สโรชาไม่ตอบพวกเธอ ก่อนจะกำมีดวิ่งเข้าใส่ทันที

     

    "มะ หมายเลขอะไรกัน!!"

    ฮู้ดดำทั้งสองเอ่ยด้วยเสียงอันตกใจเมื่อเพ่งมองแล้วเห็นอาวุธของสโรชาไม่มีหมายเลข

    ก่อนที่พวกเธอจะ เปลี่ยนท่าจับปืนจากใช้ ยิงขึ้นมาตั้งตรง กอดไว้เหมือนจับดาบ

    ใช่แล้วหละ ปืนคาบศิลาของพวกเธอ ติดดาบไว้ที่ปลายด้วย ไม่แปลกใจเลย

    ที่มันสามารถใช้รบได้ทั้งระยะไกลและประชิด ดูเป็นอาวุธที่น่าจะดีกว่าดาบด้วย

    แต่การฟันแต่ละครั้งคงจะช้าน่าดู

     

    แกร้ง!!!!

    อีโต้ของ สโรชาปะทะกับดาบติดปืนของหนึ่งในสองฮู้ดดำ

    ฮู้ดดำอีกคนที่เหลือนั้น ถอยห่างไป แล้วยิ่งเข้าใส่สโรชาทันที

    ปั้ง!

    แรงดีดไกจากปืนคาบศิลาดังขึ้น ลูกเหล็กที่โผล่พ้นออกมาจากปากกระบอก พุ่งแหวกอากาศเข้าหาสโรชา

    แคร้ง....

    เพียงเสี้ยววินาที สโรชานั้นใช้สัน มีดหั่นผักเพื่อตบลูกกระสุนไปทางอื่นโดยไม่เสียการควบคุมจากการปะทะอีโต้เข้ากับศัตรู

     

    กระสุนเม็ดนั้น พุ่งไปฝังที่พื้นด้านข้างสโรชา ก่อนที่จะมีเสียงดัง

    เปรี้ยะ!

    เสียงเหมือนกระแสไฟฟ้าดังขึ้น

    สโรชาไม่รอช้า ราวกับเธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนจะ สะบัดข้อมือให้หลุดจากการปะทะแล้วกระโดดสูงม้วนตัวออกทันที

    มนุษย์ธรรมดาคงจะทำไม่ได้แบบนั้น ...

     

    บรึ้ม!!!!!

    จุดที่มีเสียงนั้น ระเบิด ขึ้นมาทันที เป็นไปตามที่เธอคาดไว้

    แสงของระเบิดนั้น สว่างวาบขึ้นมา ทำให้ฟากฝ้าที่มืดมิด สว่างชั่วแวบหนึ่ง

     

    เจ๋งเป็นบ้าเลยแฮะ ...

    ผมคิดแบบนั้น สโรชาเก่งจริงๆ เหมือนตัวละครในเกมต่อสู้เลย

     

    ปัง!

    เสียงปืนดังขึ้นมาอีกรอบ

    เปรี้ยะ!

    แต่รอบนี้ มันมาพร้อมเสียงไฟฟ้า

    ผมสามารถเห็นแสงลูกปืนนั้นพุ่งเข้าหาสโรชา ที่ม้วนกลางอากาศได้

     

    เธอไม่รับ ก่อนจะปามีดหั่นผักพุ่งเข้าใส่กระสุน ลูกนั้น

     

    บรึ้ม!!!

    มันระเบิดพร้อมกับมีดทันที

    สโรชาม้วนตัวหมุนลงมา ยืนมองศัตรูของเธอ

     

    ผมหันกลับไปมองทางฝั่งศัตรู

    พวกมันช้ากว่าที่ผมคิดเอาไว้ เพราะพวกมันแทบไม่วิ่งตามเข้าไปสมทบเลยในการโจมตีแต่ละครั้ง

    ต่างจาก ของดวงใจมาก ที่เธอเร็วไม่ธรรมดา ขนาดว่าสโรชาใช้ความสามารถหายตัวเข้าจู่โจมยังรับได้ตลอด

    ผมสามารถสังเกตสิ่งที่สลักไว้บนปืนทั้งสองกระบอกได้ จากแสงของระเบิด 96775 และ 96995

    อันดับ เกือบแสนเลยเหรอ ....

    ไม่น่าเป็นคู่มือกับ สโรชาได้เลย

     

    "แบบนี้เองสินะ ... ที่ ... สามสองสองสี่กับหนึ่งเจ็ดสี่ หายตัวไปอย่างลึกลับ...จากองค์กร คงจะโดนแกจัดการไปแล้วสินะ"

    ฮู้ดดำคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา

     

    "ไม่เคยได้ยินเลยจริงๆ ... ว่าจะมีผู้ฝ่าฝืนเป็นผู้ชายด้วย"

    ฮู้ดดำอีกคนเสริม

     

    สโรชาไม่ตอบพวกมัน

    พร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่ทันที

     

    1 ใน ฮู้ดดำนั้น ก้มลงเอามือตบพื้น

    ทันใดนั้น ดินก็ก่อตัวกันขึ้นมาเป็นกำแพง บางๆทันที 3 ชั้น

    ทำให้แรงตวัดของสโรชานั้น ทุบเข้าใส่ได้เพียง 2 ชั้นจาก สามชั้นเพราะโดนลดทอนแรงลง

     

    "ฝากไว้แค่นี้ก่อนแล้วกัน"

    พวกมันเอ่ย ก่อนจะรีบวิ่งหนีไป ในระหว่างที่สโรชากำลังดึงเอามือออกจากกำแพง

     

    ก่อนที่สภาพบรรยากาศ จะกลับเป็นช่วงเย็นๆอีกครั้ง

    ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

    สโรชานั้นเดินกลับเข้ามาภายในกระท่อม

    มองซ้ายมองขวา ก่อนจะหลับตาเกร็ง แล้วชุด คลุมสีดำ กับมีดอีโต้ที่เหลืออยู่ก็หายไป

     

    "เจ๋งมากเลยหละ สโรชา ว่าแต่ แผลพวกนั้น..."

    ผมถามเธอทันทีหลังจากชม เมื่อมองเห็นสภาพร่างกายของเธอที่มีบาดแผลไฟไหม้เต็มตัว

    ร่างกายของเน็ตไอดอลที่ต้องมามีรอยตำหนิ ก็เพราะผมแท้ๆ

     

    สโรชานั้นยิ้มหวานชูสองนิ้วให้ผม

    "วีฟ์"

    เธอเอ่ย แล้วโซเซ เอนตัวล้ม

     

    ไม่ดีแล้วแฮะ

    "เห้ย สโรชา"

    ผมตกใจเข้าไปประคองเธอเอาไว้

    "บาดเจ็บจริงๆด้วย อย่าโกหกกันแบบนี้ได้มั้ย"

     

    "สบายดีจริงๆนะ ตอนต่อสู้ก็สบาย ตอนนี้เริ่มใช้พลังรักษาตัวเอง .... แต่มันต้องใช้พลังเยอะถ้าไม่มีอะไรสดๆหม่ำนี่นา"

    เธอเอ่ยตอบเสียงหวาน

     

    ผมที่กำลังตกใจก็ยิ้มแหยๆขึ้นมาได้

    ".....อย่าทำให้ชั้นหายห่วงเธอ ด้วยความน่ากลัวของเธอได้มั้ย"

    ผมบอกด้วยท่าทีโล่งอกอีกรอบ หวังว่ารอบนี้ เธอจะไม่โกหกผมแล้วนะ

     

    พวกเราสองคนอยู่กันภายในกระท่อมนั้น ไม่นาน กลุ่มสาวชาวนา นับสิบๆ ก็รีบวิ่งมากัน

    ท่าทางทั้งสาม จะไปตามพวกคนอื่นๆมาช่วยแล้ว

    ให้ตายเถอะลำบากใจเป็นบ้าเลยจริงๆ

     

    ------------------------------------

    ------------------------------------------------------

    ภายในกระท่อมที่ไหนสักแห่ง

    "มันใช้ฮู้ดดำขององค์กรไม่ผิดแน่ค่ะ"

    เสียงของหญิงสาวในชุดฮู้ดดำ ยืนถือกระบอกปืนคาบศิลาสลักหมายเลข 96995 เอ่ยขึ้น

     

    "ไม่น่ามีคนขององค์กร ที่ทรยศได้เลยนะ"

    ฮู้ดดำอีกคนที่นั่งบนแคร่ ในมือควงเคียงเกี่ยวข้าวไปมาอย่างชำนาญอยู่เอ่ยตอบ

    เสียงของเธอดูเป็นผู้ใหญ่มาก

     

    "คาดว่า มันน่าจะเป็นเป้าหมายของเราด้วย แต่ไม่เห็นว่ามันใช้รูปแบบพลังอะไร"

    ฮู้ดดำอีกคนที่ยืนถือกระบอกปืนคาบศิลาสลักเลข 96775 บอกกลับไป

     

    "หืม....เป้าหมาย? ผู้ชายเป็นคนทรยศขององค์กรเหรอ ไม่สิ ต้องพูดว่าคนขององค์กรนี้ มีผู้ชายด้วยเหรอ ... "

    หญิงสาวที่ถือเคียวนั้นตอบรับกลับมา

     

    "ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ... แต่ ... มัน อาจจะเก่งมาก และฆ่า หนึ่งเจ็ดสี่ และสามสองสองสี่ตาย ก่อนจะปล้นเอาอุปกรณ์ของพวกเธอมาก็ได้นะคะ เพราะตามที่ตรวจสอบตอนนี้ ทั้งสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกับองค์กรเลย"

    96995 ตอบไป

     

    หญิงสาวผู้นั่งบนแคร่หยุดการควงเคียงลงแล้วเงยหน้าขึ้นมามองทั้งสอง

    "นั่นสินะ .. อย่างนี้เอง .... เก่งขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ... แย่จังน้า ที่งานของพวกเราก็ต้องปราบมันด้วย ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่ทางองค์กรจะให้พวกเรามาทำงานกันเป็นกลุ่ม เพื่อปราบเป้าหมายเดียว .... เราควรจะวางแผนให้ดีกว่านี้หน่อยแล้วหละ"

    เธอเอ่ยแล้วแสยะยิ้มออกมา

     

    คนขององค์กรนี้นี่ แสยะยิ้มกันสวยทุกคนเลยจริงๆ

     

    End Chapter 10 วีฟ์

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×