ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #104 : Chapter 62-2 ขอสาบาน......... ว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 533
      6
      14 เม.ย. 57

    Chapter 62-2 ขอสาบาน......... ว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริง

     

    "ต่อจากนั้น ชั้นก็ไปลืมตาตื่นขึ้น ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ..... ซึ่งก็น่าจะเป็นหมู่บ้านใกล้ๆหาดทรายนั่นแหละ... ทุกๆคนที่นั่นใจดีกับชั้นมากๆเลยหละ .... แต่ไม่มีใครยอมรับเลี้ยงชั้นสักคนเดียว ..... พวกเขาก็เลย ผลัดกันมาเลี้ยงชั้น ... คิดว่าไง?"

    M10TH เล่าเรื่องแล้วอธิบายต่อ

    อ่าฮะ .... ฟังแล้วก็ดูลำบากดีนะ

     

    "... หมู่บ้านนั้นไร้ความเจริญเหรอ?"

    ผมถามย้อนกลับไป

     

    "สุดๆเลยหละ .... ไม่มีสถานที่อะไรพิเศษเลย .... แม้แต่ร้านสะดวกซื้อยังไม่มี .... แต่ก็ยังมีทีวีนะ.... ชั้นชอบดูการแข่งขันกีฬาเวทย์มากๆเลยหละ ...."

    เธอตอบกลับมา

     

    "อ่า.... งั้นเหรอ...."

    ผมตอบกลับไป

     

    ".... ที่นั่น ชั้นได้เข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลแบบฟรีๆ เพราะทุกๆคนสงสาร โรงเรียนก็สงสาร ....ส่วนโรงเรียน เป็นโรงเรียนเล็กๆ ที่ให้เด็กอายุสูงกว่า สอนเด็กอายุต่ำกว่า แล้วก็มีอาจารย์แค่สามคน ....สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ยันป.หก แต่ปกติทุกๆวัน ก็จะมีชาวบ้านผลัดเปลี่ยนกันมาสอนเด็กๆ"

    เด็กสาวอธิบาย

     

    "แร้นแค้นเกินไปมั้ง ....ที่นั่นมันหมู่บ้านอะไรนั่น"

    ผมถามกลับไปทันที

     

    "ตอนนั้นชั้นไม่รู้หรอก ... แต่ปัจจุบันมารู้เข้าว่า มันถูกตั้งเป็นนิคมเล็กๆเพื่อขุดหา ... แร่อะไรบางอย่าง ... แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นแร่อะไร ... โครงการถูกพับเก็บเงียบไป หลังจากเหตุการณ์บางอย่างที่ชั้นจะเล่าในช่วงหลัง"

    เธออธิบายเสียงนิ่งเรียบ

    แต่บอกตรงๆ

    เสียงของเธอมันทำให้ผมตื่นเต้นสุดๆ

    เออ... โคตรน่าลุ้นเลย มันจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหน่ะ....

     

    "พอชั้นเข้าเรียนในชั้นอนุบาล ก็มีเพื่อนทั้งหมด ห้าคนที่เรียนด้วยกัน..... เป็นผู้หญิงหมดเลยหละนะ ..... ชั้นเป็นคนที่งี่เง่า แล้วก็โง่สุดๆในกลุ่มเลยหละ .... แน่นอนว่าชั้นพูดไม่ชัด...... ฟังก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็ดีใจที่เรียนรู้คำพูดได้ค่อนข้างไว..... จนพูดได้ในเวลาไม่นาน เรื่องอ่านเขียนก็ถูๆไถๆไปเรื่อยๆ"

     

    "อ่า.... "

    ผมตอบรับสั้นๆ แสดงให้เธอเห็นว่ายังฟังอยู่

     

    "ชั้นก็เกาะติดกลุ่มพวกนั้นตลอด เหมือนครอบครัว .... ถึงแม้ว่าเย็นๆจนเช้าจะไม่มีใครเลย ... แต่กลางวันก็มีแต่พวกเขานี่แหละ .... ที่เป็นทุกอย่าง ... หมายถึง สำหรับชั้นในตอนนั้นหน่ะนะ..... ทุกๆคนใจดีกับชั้นมากๆเลยหละ .... ทั้งฟ้อน ... เมี้ยน ... สกาว แล้วก็นฤมล แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่รู้ว่า ... ใจดีหรือเห็นใจนะ .... อ่อๆ ... แต่ที่จะเน้นหนักคือ วารี .... เพื่อนในกลุ่มอีกคนนี่แหละ ...."

     

    "ออ.... คนที่หน้าคล้ายชั้นสินะ"

    ผมถามย้อนกลับไป

     

    "อย่าพูดก่อนหนังฉายสิ!"

    M10TH โวยกลับมาใส่ผม

     

    แหน่ะ ... ตกลงนี่มันหนังเหรอ

    ".... โทษที ....."

     

    "ก็ ... วารีเนี่ย เป็นคนที่ด่าชั้น .... ทำตัวเหมือนเกลียดขี้หน้าชั้นตลอดเลย ... ในความรู้สึกของชั้นตอนนั้นนะ .... ชั้นก็มองว่า พื้นฐานของบ้านวารี หน่ะ ชอบด่าลูกตลอด .... อะไรแบบนั้น เพื่อนคนอื่นๆก็ให้กำลังใจ .... แต่พอมาคิดอีกที สิ่งที่ยัยนั่นพูดจริงๆก็ถูกทุกครั้งเลย .... และคำพูดของยัยนั่น ก็จะมีแค่สองอย่าง ที่มันวนเวียนซ้ำๆ ในหัวจนรู้สึกเอียนจนอยากร้องไห้...."

    เธออธิบายแล้ว

    ผมก็สงสัยสิ ... อืม...

     

    "..... คำว่าอะไรหละนั่น ...."

     

    "อดทน ... กับพยายาม ..."

     

    อื้อหือ .... ชื่อตรูกับชื่อน้องตรูเลย.....

    "โอเค ... ต่อเลยๆ"

     

    "เดี๋ยวสิ ... ไม่คิดว่ามันแปลกๆหรือไง .... ชื่อเหมือนนายกับน้องชายนายที่ตายไปแล้วเลยนะ"

     

    นั่นไง! ทีงี้หละมาถาม

    เด๋วเหอะ เธอจะเอายังไงของเธอฟระเนี่ย

    "เออ!! ไอ้แปลกๆ หน่ะมันก็แปลก ..... เล่าๆไปเลย ... "

     

    "..... อ่า นั่นก็ส่วนนึง ... ชั้นก็แค่เดาว่ามันแปลก ... แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรหรอก ..... โอเค ต่อเลย .... ชั้นก็ใช้ชีวิตแบบนั้นเรื่อยๆ จนกระทั้งชั้นอายุ ได้เก้าขวบ .... หมายถึง .. จากอายุที่ชั้นจำได้แล้วผ่านมาอีก สี่ปีนะ .... ก็ ... จำได้ว่าเป็นวันที่อากาศร้อนมากๆ ...... ร้อนสุดๆ ..... จู่ๆ ..... ก็เกิดระเบิดขึ้น .... พวกผู้ใหญ่ตกใจมาก พาพวกเราเข้าไปแอบ ในห้องใต้ดินห้องหนึ่ง ...... พวกเรากลัวและไม่กล้าออกไปไหน .... ได้แต่รออยู่ในห้องใต้ดินนั้น ..... อ้อ ... ห้องใต้ดินนั้น จุเด็กๆได้แค่ หกคนหละนะ.... แล้วพวกเขาก็พาเด็กคนอื่นๆไปหลบห้องใต้ดินอื่น .... แต่แล้ว .... หลังจากเหตุการณ์นั้น .... ก็ไม่มีใครมาช่วยเปิดประตูให้พวกเราเลย .... จนเวลาผ่านไปเกือบ สองวันมั้ง ..... ก็มี .... ผู้หญิงในชุดฮู๊ดดำ .... มาช่วยพวกเราออกมา ....."

    เธอเอ่ยเสียงเครือนิดๆ

     

    "อืม .... ผู้ฝ่าฝืน?"

     

    "ใช่ ... หลังจากนั้นพวกเราทั้งหมดก็ได้รู้ว่า ทุกคนในหมู่บ้านตายหมดแล้ว .... แม้แต่เด็กๆที่โดนเอาไปแอบไว้ที่อื่น ก็โดนฆ่าตายหมด .... ฝีมือพวกสัตว์ประหลาด หน่ะแหละ.. อ่อ ส่วนที่พวกเรารอดเพราะทางเข้าของเรา กำแพงบ้านมันถล่มลงมาปิดทางไว้ ทำให้พวกปีศาจมันไม่สนใจด้วยแหละมั้งนะ... อืม...... แล้วต่อจากนั้น พวกเราก็โดนจับ ไปฉีดสารแทบจะทันที ปล่อยให้พวกเราได้ร้องไห้ยังไม่ทันได้ถึงไหนเลย ..... อ่า แต่ชั้นไม่ได้ร้องเท่าไหร่ อาจจะเสียใจนิดๆ ..... วารีด้วยหละนะ .... ยัยนั่นไม่เสียใจเลยด้วยซ้ำที่พ่อแม่ตาย ..... แปลกไหมหละ?"

     

    ไม่แปลกได้ไงหละ.... สุดๆเลยหละนะ

    "... เอ่อ ... อืม ... สารที่ทำให้ต้องฟังแต่ก็ทำให้กลายเป็นผู้มีพลังฝ่าฝืนสินะ"

     

    "นั่นแหละๆ .... ในนั้นมันเหมือนขุมนรกเลยนะ ..... เจ็บปวด ทรมาน แต่พวกเราโชคดีหน่อยที่สามารถรอดกันมาได้ทุกคน ..... แล้วพวกเขาก็ดันคาดหวังกับพวกชั้นด้วย ... บอกว่ามีพรสวรรค์ ก็หลังจากเรียนฝึกอาวุธและจำลองการต่อสู้แปบๆ พอเห็นว่าโอเคเลยให้ไปปฏิบัติภารกิจ ร่วมกับกลุ่มอื่นได้ สามสี่ครั้ง ก็ได้ไปภารกิจกลุ่มเดี่ยวหกคนเลย"

     

    "โฮ่ .... แล้วก็ประสพความสำเร็จ?"

     

    "อะ แน่นอน.... แต่นายไม่ต้องเดาหรอกนะ ..... ชั้นหน่ะ .... กระจอกที่สุดในกลุ่ม ผลงานน้อยที่สุดในกลุ่ม .. ไม่สิ ไม่มีผลงานเลยหละ.... อ่อ ... แล้วก็ ... โดยหมายหัวจากคนอื่นๆว่า น่าจะตายทุกภารกิจ .... ชั้นเสียใจมากๆเลยหละ ... และรู้ตนเองมาโดยตลอด แต่เพื่อนๆ อีกสี่คนยกเว้นวารี ก็คอยให้กำลังใจชั้น"

     

    "ยังรอดมาได้นะ...."

     

    "วารีช่วยชั้นทุกครั้งเลยหน่ะสิ ....."

     

    "อ่อ...."

    ผมตอบรับเชิงเข้าใจ

    "ปากไม่ตรงกับใจสินะ วารีหน่ะ"

     

    "ป่าวเลย .... ปากเธอก็ร้าย แต่ตรงมาก ... คำพูดของเธอมันสอนชั้นนะ ... อย่างบอกว่า ถ้าไม่พยายาม ก็คงจะไม่มีสิ่งต่อๆไป .... ถ้าไม่อดทน ก็จะไม่สามารถมีครั้งต่อไปได้ อะไรแบบนั้น ... สุดยอดไปเลยหละ.... ปากเสีย ... แต่นายต้องคิดนะ .... เด็กๆไม่เข้าใจหรอก ... ตอนนั้นชั้นไม่เข้าใจสิ่งที่เธอต้องการสื่อ รู้แต่ว่า เธอด่าชั้นตลอด......"

    M10TH อธิบายเสริม

     

    "โอเค ....แล้ว?"

     

    " แล้วพอสำเร็จหลายๆครั้ง .... พวกเราก็ได้รับการเสนอหมายเลขกันไวมาก ... สำหรับประเทศของเรา กลุ่มของชั้นนี่แหละ ....คือจุดเริ่มต้นเลย ที่เด็กวัยน้อยๆ หรือเพิ่งเข้ามาไม่ถึง ห้าปี ได้มีโอกาส ได้รับหมายเลข .....แน่นอนว่า .... ชั้นโดนหลายๆคนนอกกลุ่ม ..... จ้องมอง..... อ่อ แน่นอนว่า ถ้าได้หมายเลขแล้ว เราสามารถเลือกที่จะแยกไปทำภารกิจเดี่ยวได้ด้วยหละนะ ..... ชั้นก็กลัวตลอด"

     

    "อืม ... เข้าใจ ความอ่อนแต่เกาะคนอื่นสินะ.... คนอื่นไม่อยากจะได้ไปเข้าร่วม"

    ผมเข้าใจนะ .... ถ้าผมเป็นคนเก่ง .... ก็อาจจะรำคาญคนอ่อนและไม่อยากเอาเข้า

    ส่วนถ้าผมอ่อนเอง .... ก็คงไม่อยากเข้า แต่ก็กลัวโดนเพื่อนทิ้ง.....

     

    "ใช่ๆ ... นั่นแหละ ก่อนขึ้นไปรับ เพื่อนๆที่ไม่นับวารี ก็ปลอบใจชั้นใหญ่เลยหละ.... บอกว่า ต่อให้ได้หมายเลขต่ำแค่ไหน พวกเธอก็ไม่ทิ้งชั้น .... "

     

    "ว้าว .... เพื่อนๆ ก็ดีนี่นา...."

    เออ เพื่อนก็โอเคนิ

     

    ".... ฮะๆ .... คนอื่นๆได้ หมายเลขราวๆ สองศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ ไปจนถึง สามศูนย์ศูนย์ศูนย์ศูนย์ กันหมดเลยหละนะ ..... ส่วนชั้นก็จะขึ้นไปรับเป็นคนสุดท้าย"

     

    "แล้วได้อันดับ เก่งกว่าพวกนั้น?"

     

    "แหนะ .... นายนี่มัน"

     

    "อ่า ... โทษทีๆๆ"

    เออ ... ดันเดาถูกอีก ... แต่มันไม่ดีหรือไงหละ?"

     

    "ชั้นได้หมายเลขครั้งแรกคือ หกสี่เจ็ดสอง..... ซึ่งที่สุดในประเทศเรา สำหรับยุคนั้นเลย .... ทุกคนต่างพากันกรีดร้องตกใจอึ้ง ... "

     

    "อื้อหือ!!! โคตรเก่งเลย ..... "

    ผมชมออกไปทันที ... ไม่รู้หรอกนะ ... แต่อย่างมะม่วง ก็อันดับ 90000 บวกบวก นี่นะ

    ดังนั้น ไอ้พวก 10000 ลงมาก็สุดๆแล้วหละ

     

    "อ่า ....เพราะแม้แต่ เอ็มแปดทีเอช หน่ะ .... อ่า ชั้นหมายถึงหัวหน้ากลุ่มในยุคนั้น ที่ตำแหน่งเหมือนชั้นในปัจจุบัน อันดับก่อนรับตำแหน่ง ยังอยู่แค่ หกหกห้าเก้าเอง...."

     

    "เก่งกว่าหัวหน้าในยุคนั้นอีกสินะ ... เข้าใจหละ"

     

    "....ก็ .... นั่นแหละ ..... มันทำให้ชั้น..... ต้องเสียใจ .... "

     

    "ยังไงหละนั่น...."

    เออ ได้อันดับดีๆก็ดีแล้วนี่

     

    ".... ชั้นไม่เคยคิดเลยหน่ะสิ ... ว่าเพื่อนๆ ที่เคยพูดดีกับชั้น .... จะเปลี่ยนจากความหวังดี เป็นความริษยา ..... พวกเธอ หันหลังให้ชั้น .... และไม่รับชั้นเข้ากลุ่ม ...... บอกว่าชั้นมันเก่งแล้ว ..... "

    เด็กสาวอธิบายมา เสียงของเธอดูจะ แข็งมากขึ้น

     

    ".... อ่า .... ไอ้มุขที่ว่า อ่อนแค่ไหนก็ยอมรับได้ ... แต่พอเก่งกว่า ยอมไม่ได้เลยสินะ"

    เออ ... เข้าใจละ....

    อิจฉาสินะ ... ใครๆก็เป็นหละมั้ง

    ยิ่งถ้าอยากจะสร้างผลงานด้วย แล้วดันไปเป็นแรงผลักดัน

    ให้คนที่ไม่เคยทำอะไร เก่งกว่า เกินหน้าเกินตากว่า

    คงยอมรับไม่ได้หรอก

     

    ".....อืม ..... พวกเราเลยแตกออกจากกัน .... เมี้ยน ฟ้อน สกาว นฤมล ไปกลุ่มนึงด้วยกัน วารีไม่เข้าพวก เป็นหมาป่าเดียวดาย ..... ส่วนชั้น ไม่ได้ไม่อยากเข้า แต่ไม่มีใครเอา....."

    เธออธิบายต่อ

     

    "เออ .... เห้อ .... ปวดตับเลยแฮะ"

    ผมตอบออกไป

     

    "ฮ่าๆ .... แล้วต่อจากนั้น .........."

     

    เด็กสาวยังไม่ทันเอ่ยจบ ก็โดนเสียงหญิงสาวบางคนขัดเข้า

    "ท่านคะ! พวกกลุ่มผู้ปกป้องมาขอคุยค่ะ .... "

     

    เห้ย!!! ยังมันๆอยู่เลย ยังสนุกอยู่ อย่าเพิ่ง!!!.....

    โว้ยยย เวรกรรมจริงๆ ....

     

    "... อืม ... เข้าใจหละ ... จะไปเดี๋ยวนี้ ....."

    เธอหันไปตอบเจ้าของเสียงนั้น

    ".... โทษทีนะ .... มีเรื่องต้องไปทำ .... เอาไว้ เย็นนี้ก็แล้วกัน .... โทรมาหาชั้นหน่อย..... "

     

    "คุยธุระอะไรกันตั้งแต่ ตีห้าหน่ะ ..... "

     

    "นี่มันหกโมงแล้วนะ .... เห้อ ... เอาเถอะ .... เรื่องที่นายก็น่าจะเดาได้แหละ ..... โอเค ... ชั้นขอตัวก่อนหละ...."

     

    "แล้วคุยกัน ... เย็นนี้"

    ผมตอบไป

     

    ก่อนที่ฝั่งนั้นจะวางโทรศัพท์

     

    "..... เห้อ ... นั่นสินะ ...."

    ผมเอ่ยออกมาแล้วนอนแผ่ลงบนเตียง

    .....

    อยากจะฟังให้หมดจริงๆ ... เหมือนโดนไล่ออกจากโรงหนัง

    .... ตอนช่วงตัวเอกในเรื่องชีวิตกำลังจะพลิกผันเลย!!

     

    เอาเถอะ ... ฟังเรื่องแล้วมันก็แปลกๆ

    คนหน้าคล้ายแม่.... เป็นเพื่อนยัยนั่น ....

    แล้ว ดันมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรหรือป่าว

     

    แล้ว .... ไอ้คนที่มาจากต่างประเทศคนนั้น .... มีความลับเกี่ยวกับแม่ ....

    ไม่ใช่พ่อ ... หรือน้อง .... บ้าจริง

    เห้ย .... งงเฟ้ย ....

    เริ่มกลัวละ .... ว่ามันจะเกี่ยว

    .....

    เออ ... ไม่มีใครไม่อยากรู้บ้าง....

     

    แต่ที่ต้องตัดสินใจคือ

    จะช่วยฝั่งนั้นดี

    หรือจะช่วย ...... คนที่เราคิดว่าสนิทด้วยกว่าดี ... นี่สิ

     

    ไม่รู้สิ ... สำหรับคนอื่นมันคิดง่าย

    แต่ไอ้ตัวผมเองนี่แหละ .....

    เอาเถอะ รอเย็นนี้ ... แล้วก็อ่านไอ้กระดาษในนามบัตรไปด้วย

    ข้อเสนอมันคืออะไร .... กันนะ.....

     

    ผมค่อยๆดันตัวลุกขึ้นไปหยิบซองจดหมายที่ดันเรียกว่านามบัตรมาแกะ

    แล้วอ่านเนื้อความในนั้น

    ซึ่งเขียนเป็นภาษาท้องถิ่นผมชัดเจน.... ขอบใจ...

     

    :....................................................................:

     

    จาก M4LAO ฝาก 777 ถึง คุณพยายาม

     

                    กราบเรียน คุณพยายามที่เคารพ จากเรื่องที่ทาง 777 ได้เสนอไปแล้ว หากคุณได้รับจดหมายฉบับนี้ แสดงว่าคุณ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา สิ่งที่ได้เสนอไปแน่ๆ ทางเราอยากจะขอแจงให้ทราบ ถึงตัวสิ่งตอบแทนที่คุณจะได้รับ อันได้แก่

     

                    1.ตำแหน่งของท่าน ต่อให้คุณจะเสียตำแหน่งจากฝั่งประเทศท่านไป ทางเรายินดีจะรองรับ ตำแหน่งใหม่ที่สูงกว่า ให้แทน นั่นคือ ผู้คุมร้อยอันดับพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งพิเศษที่สามารถเลือกคนจากหน่วยไหน หมายเลขอะไร รหัสใดก็ได้ เข้าไปในทีมที่ท่านคุม ต่างจากฝั่งของ M10TH ที่ให้คุณเป็นเพียงผู้ช่วยเท่านั้น

     

                    2.ถ้าไม่นับคำสั่งจากทางผู้นำสูงสุดที่สูงกว่า เรา หรือ M4LAO เราจะให้เหล่าสมาชิก ทุกคน สาบานตน ต่อองค์กร เพื่อให้สารควบคุม ทำหน้าที่ ว่าด้วยพวกเธอไม่สามารถขัดขืนสิ่งใดๆ ต่อคุณได้ แน่นอนว่าทั้ง ร้อยคนที่ท่านเลือกไปนั้น คุณสามารถคัดหน้าตาเข้าไปได้

     

    :....................................................................:

     

    เดี๋ยวๆๆ ... เนื้อหาจดหมายยังไม่จบหรอก ...

    แต่ผมกำมือแน่นเลยหละ

     

    แต่ไอ้โปรโมชั่นนี่ มันบ้าอะไรฟระ.... ไอ้สองข้อแรกเนี่ย ...

    ฮะ ฮาเร็มเรอะ!!! สมาชิกหนึ่งร้อยคนเลยนะเว้ย

    สาวๆหนึ่งร้อยคน .... เหอๆ .... ปวดหัวจริงๆ

    ขอโทษเถอะ ผมไม่ได้สนใจเลยครับ!!

    แค่สามคน ผมก็ปวดหัวตายแล้วครับ ... แต่ .. ลืมไป ยัยสามคนนั้นมันไม่ได้ฟังเรานี่หว่า

    แต่ก็นั่นแหละ .... ไม่สนเลยเฟ้ย!!! ไอ้โปรโมชั่นบ้าๆนี่ ...

    ผู้หญิงนี่ .... คิดว่าผู้ชายจะเป็นแบบนี้กันหมดหรือไงนะ

    อืม ... ไม่แน่แฮะ ถ้าเรายังไม่มีแฟน

    หรือไม่เคยไปอยู่ในร่างผู้หญิงมาก่อน

    และไม่ได้สนิทกับ M10TH .... มันก็เข้าท่า.....

     

    อ่า ช่างมัน อ่านต่อ

     

    :....................................................................:

                    3.ทางเรายินดีจะมอบงบประมาณ "ที่ได้เพิ่มจากปัจจุบัน" จำนวน 1ใน10 ให้กับคุณไว้ใช้เป็นเวลา ห้าสิบปี ซึ่งผลสามารถตกถึงลูกหลานได้ โดยคุณยังได้รับเงินเดือนประจำตำแหน่ง ตามปกติ และมีสิทธิ์ขอรับหรือไม่รับ ภารกิจ เพื่อเพิ่มเงินให้กับคุณได้ โดยคุณสามารถส่ง เหล่าสมาชิกในสังกัดคุณ เพื่อทำภารกิจแทนคุณได้

     

                    4.ทางเรายินดีมอบพื้นที่ส่วนองค์กร ภายในประเทศ ซึ่งเราดูแลอยู่ ให้กับคุณไว้ใช้สอย 300 ไร่ รวมถึงกรรมสิทธิ์ ในการสร้างหรือออกอาวุธ และร่วมเสนอความคิดเห็นต่อที่ประชุมของประเทศเรา 3 เสียง จากคณะ การประชุม ที่มีอยู่ 5 คน

     

                    ทั้งนี้ ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณจะไม่คิดว่านี่คือส่วนหนึ่งของการทำให้องค์กรในประเทศของคุณย่ำแย่ลง เพราะเรายินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทาง M10TH หากคุณต้องการ ในด้านการปกป้องประเทศ ในระดับที่เป็นไปได้ เพียงแค่ในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องได้รับงบประมาณมากกว่าปัจจุบัน 3 เท่า (ซึ่งเป็นงบเพียง 1 ใน 10 ที่ M10TH ได้รับอยู่ในปัจจุบัน) เพื่อผลิตกำลังคน และอุปกรณ์ที่มีแสนยานุภาพ ต่อไป ซึ่งผู้ที่เสียประโยชน์จริงๆ คือ M10TH แต่ ก็เป็นเพียงผลประโยชน์อันน้อยนิดเพราะ ทางนั้น เพียงพอต่อการผลิตจำนวนคนอยู่แล้ว

                    จดหมายฉบับนี้ไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นการขอร้อง หวังว่าท่านจะเห็นใจ และเมตตา หากตกลงหรือมีข้อสงสัยเช่นไรโปรดติดต่อกลับมาที่เบอร์หรือที่อยู่อีเมล์ ที่เราได้ทำการลงเอาไว้ มา ณ ที่นี้

     

    ขอสาบานต่อองค์กรผู้ฝ่าฝืน ว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริง

    ลงชื่อ

    M4LAO

     

    :....................................................................:

     

    บ้าไปแล้วหรือไงนะ .... แต่ ... อ่านทั้งหมดแล้ว มันเป็นโปรโมชั่นที่ดีจริงๆนั่นแหละ

    อ่า .... เงิน 1 ใน 10 จากที่จะได้เพิ่มงั้นเหรอ เหล่าคนในการควบคุมงั้นเหรอ

    พื้นที่งั้นเหรอ .....

    สิ่งสำคัญจริงๆ มันไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอก

    ถ้าบอกไปจริงๆ M10TH จะทำอย่างไรหละ ..... ถึงจะคิดยังไงก็เถอะ

    ยัยนั่น .... จะเลือกทำยังไง .... จะเลือกไม่เอาเงินและฟังชั้น ....

    เพื่อไปเอาส่วนแบ่งกับ ฝั่งโน้นงั้นเหรอ .....

    แต่งบประมาณนี่ มันเยอะขนาดไหนกัน

     ..... ถ้าเงินของ M10TH ในปัจจุบันสามารถเลี้ยงคนได้ 200000 คนเป็นอย่างน้อย

    เงินที่ได้เพิ่มขึ้นคือ 1 ใน 10 ก็แปลว่าต้องป้อนคนเพิ่มขึ้นได้อีก 1 ใน 10 ด้วย

    คิดง่ายๆ ก็ 20000 ..... แต่งบนี้ มากกว่าฝั่งนั้น ถึง 3 เท่า

    งั้นก็แปลว่า .... ฝั่งนั้น ในปัจจุบัน ... ผลิตคนได้น้อยมากเลยเหรอ...

    ไม่สิ .... น่าจะเป็นผลิตได้แต่กลุ่มระดับต่ำออกมามากกว่า.....

    อ่า .... แย่เลยแฮะ แย่ที่สุดจริงๆ

     

    ฝั่งนั้น ก็ยอมเสี่ยง .....

    ฝั่ง M10TH ก็ดันไว้ใจเรา ......

    ฝั่งเราก็ดันต้องเลือก .......

    ระหว่าง ความรู้สึกของคนที่ไว้ใจ เพื่อ องค์กรและคนทั้งหมดของฝั่งนั้น

    หรือ เสี่ยงทิ้งคนทั้งองค์กรฝั่งนั้น เพื่อเอา ความรู้สึกของคนที่ไว้ใจเรา

    ไม่เอาทั้งสอง ก็แย่ทั้งคู่อีก!!

    ความรู้สึกอันมีค่าของคนหนึ่งคนที่สนิทกัน กับความหวังของคนอีกหลายคนที่ไม่ได้สนิทอะไรด้วย

    แล้วเรื่องความลับต่างๆด้วย ..... ไอ้โปรโมชั่นบ้าบอนั่นอีก

     

    บ้าเอ้ย!!

    เลือกอย่างไหน มันก็บ้าบอทั้งนั้นนั่นแหละ!!!

    ทำไม ต้องเลือกด้วยฟระ!!!

    ทำไมกัน!!!

     

    อยากจะเป็นคนธรรมดา ....

     

    แกร้ก!

     

    "..... พยายาม ...... กินข้าวกันเถอะ....."

    เสียงของ มายด์เอ่ยดังเข้ามา พร้อมโผล่หน้ามาจากประตู

    ตามด้วยหญิงสาวอีกสองคน ที่คุ้นหน้าดี

     

    "ใช่ ... แล้ว .... มาทานข้าวให้อร่อยดีกว่า แฮ่กๆๆ"

    สโรชาเอ่ยเสียงหื่นใส่ผม

     

    ".... มาไวๆเลย ไม่งั้นชั้นแดกเรียบไม่รู้ด้วยนะ"

    มะม่วงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ราวกับให้กำลังใจผม

     

    เออ .... อยากจะเป็นคนธรรมดาก็ไม่ได้อีก ....

    ไม่งั้น พวกเธอสามคนที่อยู่ตรงนี้

    อาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ก็ได้

     

    ....

     

    เลือกทางไหนก็แย่ทั้งนั้น

    เออ....

    ..........

    เพราะ ชีวิตของผม มันเกิดมาในแบบ เลือกไม่ได้ แต่ต้องเลือกหน่ะสิ

    เอาไงก็เอาวะ ... แต่ .... ขอเวลาอีกหน่อยแล้วกัน.....

     

    End Chapter 62-2 ขอสาบานต่อองค์กรผู้ฝ่าฝืน ว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริง

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×