คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ต อ น ที่ 3 [1/3]
วันถัดมาของมิรันดา เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว เธอก็เดินทางไปยังเลาจน์ทันที เธอไม่มีเวลาพอจะกลับบ้านไปแต่งตัว จึงอาศัยพกพาเสื้อผ้าติดกระเป๋านักเรียน มาแต่งเองในสถานที่ทำงาน
เสื้อผ้าที่เตรียมมาวันนี้เป็นของผกามาริน เธอเห็นว่าวับแวมเพียงเล็กน้อย และเหมาะสมกับคนไม่ชอบโชว์เรือนร่างอย่างเธอเท่าไหร่นัก
มิรันดาคิดว่าตัวเอง น่าจะมั่นใจมากขึ้น ถ้าได้สวมใส่ชุดนี้
รองเท้าที่เลือกมา สาวน้อยก็เตรียมมาพร้อม เป็นรองเท้าส้นเตารีด ที่เธอซื้อมาใส่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
พอนึกถึงรองเท้า ภาพชายหนุ่มเมื่อคืน ก็ทำให้เธออมยิ้ม
อาการปวดแปลบที่ประสบกับมันเมื่อคืน บัดนี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง น่าเสียดายที่ไม่ได้ซักถามชื่อเสียงเรียงนามของเขาเอาไว้ ดูเขาเอง ก็อายุไม่น่าจะมากนัก
คนดีๆ แบบนั้นจะชื่อว่าอะไรกันนะ
เด็กสาวคลี่ยิ้มน้อยๆ เมื่อคิดถึงผู้ชายใจดีคนนั้น…เป็นไปได้หรือเปล่าที่เธอจะได้พบเขาอีกครั้ง
“แต่งตัวได้แล้วหมิว”
เสียงเตือนจากนัท ทำลายรอยยิ้มของมิรันดาโดยพลัน เธอพยักหน้ารับ ก่อนจะเริ่มแต่งตัว
วันนี้เด็กสาวลงมือแต่งหน้าโดยทำตามคำแนะนำในคลิปวิดีโอที่โหลดเก็บไว้ในโทรศัพท์เมื่อวาน พอเห็นว่าไปวัดไปวาได้ เธอก็หยุดมือ
มิรันดาลุกจากโต๊ะเครื่องแป้ง มายืนอยู่หน้ากระจก สำรวจตัวเองเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนออกไปนั่งรวมกลุ่มกับเด็กนั่งดริงค์คนอื่นๆ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า พร้อมเพื่อนร่วมอาชีพที่เริ่มน้อยคนลง
น้อยลง…จนเหลือแค่เธอคนเดียว
มิรันดาคอตกทันที รู้สึกหมดหวัง ขณะมองชุดที่สวมใส่มา ชุดเดรสสีขาวแขนกุดจัมป์เอวกับกระโปรงสั้นเท่าเข่าทรงสุ่ม ยังไม่เท่าหน้าอกแบนราบที่ไม่ได้เหมาะกับงานซึ่งต้องขายจุดเด่น ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา หรือบุคลิกภาพ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกแขก
ในขณะที่ท้อแท้สิ้นหวังกับตัวเองอยู่ ดูเหมือนว่าเธอจะพอมีโชคดีๆ เหลือบ้าง เมื่อนัทเดินเข้ามาบอกว่า
“โต๊ะแปดเลยหมิว”
มิรันดาได้ยินก็ดีดตัวลุกพรวดจนนัทสะดุ้ง เธอดีใจมาก ยิ้มหน้าบานขณะเดินไปหาแขกที่เรียกไปนั่งด้วย
แม้ในใจแอบหวั่นอยู่บ้าง แต่เมื่อนึกถึงเจ้าหนี้ชั่วช้า ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าต้องสู้ วันนี้เธอรับแขกคนเดียวเป็นครั้งแรก จะต้องทำให้เขาประทับใจ และกลับมาอีกให้จงได้ ถ้ามีลูกค้าประจำ ก็จะได้เงินแบบนี้ทุกวัน เอาไปให้พ่อเลี้ยงกับพี่
ครั้นมาถึงที่โต๊ะ มิรันดาจึงได้เห็นรูปร่างของลูกค้า เขานั่งหันหลังให้เธอ แต่ก็ดูออกว่าไม่ใช่คนสูงวัยเหมือนเสี่ยหมูของบีบี เธอรู้สึกคุ้นในตัวเขาอยู่เหมือนกัน
สาวน้อยชะงักเท้าที่ก้าวเดิน เพราะเริ่มตื่นเต้น กับลูกค้าคนแรกของตัวเอง เธอก้มหน้าก้มตาเข้าไปหาเขา ยกมือไหว้ เอ่ยเสียงเบาอย่างเขินอาย
“สะ สวัสดีค่ะ”
“ไง”
น้ำเสียงของเขาทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองโดยเร็ว จากประหม่า ก็เปลี่ยนเป็นโล่งใจหลังเห็นว่าลูกค้าคือผู้ชายที่เธอเดินตัดหน้ารถเขาเมื่อวาน
“คุณ!” เธอเรียกเขา แล้วฉีกยิ้มดีใจ “ไม่อยากเชื่อเลย ว่าหมิวจะได้เจอคุณอีก”
“นั่งก่อนสิ” ภาคินบอกเธอ มือผายไปยังโซฟาตรงข้ามกัน
สาวน้อยทรุดตัวลงนั่งตามคำเชิญ โชคดีเหลือเกิน ที่ได้คนมีน้ำใจอย่างเขา เป็นลูกค้าคนแรกของเธอ
เธอถามเขา เผื่อว่าอยากจะทานอะไร
“รับอะไรดีคะ”
“เจอหน้าก็จะขายของเลยเหรอ”
ภาคินพูดทีเล่นทีจริงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตาเย็นชา เด็กสาวหน้าซีดเพราะกลัวเขาไม่พอใจ
เธอไม่ได้ตั้งใจฮาร์ดเซลล์ แค่กลัวเขาหิวเท่านั้นเอง
ภาคินเห็นหน้าจ๋อยๆ นั้นก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร เขายังกดดันเธอ ผ่านสายตาคมกริบเพราะอยากจะแกล้งคน
มิรันดานั่งละอายใจอยู่นาน กระทั่งชายหนุ่มเฉลยขึ้นมา
“ล้อเล่นน่ะ”
“โถ่!” คนถูกแกล้งส่งเสียงกระเง้ากระงอด “อย่าหลอกกันแบบนี้สิคะ คุณ…เอ่อ…คุณลูกค้า”
“ภาคิน” เขาแนะนำตัว คงแปร่งหูชอบกล หากปล่อยให้เธอเรียกอย่างนั้นต่อไป “เรียกคินก็ได้”
“อ่า คุณภาคิน” เธอทวนชื่อเขา ก่อนแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ “หนู…มิรันดาค่ะ ชื่อเล่นหมิว”
ท่ามกลางบทเพลงจังหวะโซลฟังสบาย กับบรรยากาศในเลาจน์ที่ไม่ค่อยคึกคักเพราะยังไม่ดึก หัวใจของภาคินกลับกระชุ่มกระชวย ยามได้เห็นอากัปกิริยาของเธอ
เขาเก็บความรู้สึกต่างๆ ไว้ใต้สีหน้าเรียบเฉยเหมือนทุกที ก่อนสั่งเครื่องดื่มราคาแพงๆ สั่งกับแกล้มหลายจาน
ระหว่างรออาหาร เขานั่งเงียบ นึกในใจว่าจะชวนเธอคุยอะไร เขาคุยไม่เก่ง ยิ้มก็ยาก เธออาจไม่ชอบ ที่เขาเรียกมานั่งด้วย
กว่าจะนึกเรื่องคุยขึ้นมาได้ บนโต๊ะ ก็เต็มไปด้วยจานกับแกล้มและเหล้า ภาคินถามถึงอาการบาดเจ็บของเธอว่า
“แผลเป็นไงบ้าง”
เด็กสาวยกแขนชูแผลให้เขาดูพร้อมรอยยิ้มสุดมุมปาก แผลของเธอถูกปิดด้วยพลาสเตอร์ยา ลายการ์ตูนน่ารักสีเขียวอ่อน
“สบายมากค่ะ แผลเล็กๆ น้อยๆ หนักกว่านี้หมิวก็เจอมาแล้ว”
“ไม่เป็นอะไรแล้วก็ดี…” เขาเอ่ยเรียบๆ แต่ในใจกลับโล่งที่เธอไม่เป็นอะไรมาก
มิรันดาชวนภาคินคุยสัพเพเหระเรื่อยๆ ก่อนเอ่ยถามเขาพร้อมลงมือชงเครื่องดื่มแบบเก้ๆ กังๆ
“หมิวรู้จักคำว่า ภาคินจากชื่อนักร้อง มันแปลว่า ผู้มีโชค มีกำไรใช่ไหมคะ”
“ไม่รู้สิ” เขาตอบ พลางรับแก้วเครื่องดื่มที่เด็กสาวยื่นมาให้ “ฉันไม่ได้ตั้งชื่อเอง ป๊าเป็นคนตั้งให้”
มิรันดาทำปากยื่น ย่นจมูก ระบายลมหายใจพรวดกับคำตอบแบบขอไปที
“งั้นหมิวคงต้องไปถามป๊าคุณคินสินะคะ”
“ก็ถามสิ” เขายกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ “เสี่ยมหรรนพน่ะ รู้จักหรือเปล่า”
ความคิดเห็น