คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ต อ น ที่ 1 [2/3]
หากเสียงกริ่งไม่ดังเตือนรัวๆ ผกามารินที่นอนหลับยาวจนถึงเที่ยงวันคงไม่ยอมลุกออกจากเตียง
หญิงสาวลงมายังชั้นล่างอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย สงสัยว่าใครกัน กดกริ่งเรียกได้ไม่เกรงใจเสียเลย ถ้าเจอหน้า…คงต้องต่อว่าคนรบกวนเสียหน่อยท่าจะดี
แต่แล้วความตั้งใจนั้นก็ปลิวหายราวกับฝุ่นถูกลมพัดไป เมื่อเธอออกมาจากบ้าน พบว่าศุภรุจยืนเกาะประตูรั้ว ชะเง้อชะแง้คอมองเข้ามาในบ้าน
หัวใจเธอหล่นวูบ ยิ่งเห็นความเศร้าบนใบหน้าชายหนุ่ม แสดงว่าเขาคงได้อ่านข้อความที่กลั้นใจส่งให้ว่า
‘เราเลิกกันเถอะ’
ผกามารินอาจบอกเลิกไม่สำเร็จหากต้องคุยต่อหน้า เธอจึงส่งเป็นข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ เพราะกลัวจะเผลอแสดงความอ่อนแอ ด้วยการร้องไห้ให้เห็น ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายตัดสัมพันธ์กับเขา
และตอนนี้ ศุภรุจก็มาถึงบ้านเพื่อจะถาม
ข้อความที่ได้รับทำให้เขาตกใจอยู่ไม่น้อย ทีแรกยังไม่เชื่อ คิดว่าเธอแกล้งเล่น กระทั่งกดโทรศัพท์ไปหา และพบว่าเบอร์นั้นมีการปิดเครื่อง
เขาพยายามโทร. อีกรอบ อีกรอบ และอีกรอบ จนร้อยสาย แต่ก็ไม่เป็นผล
ใจเขาเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่อาจอยู่ติดบ้านได้ จึงรีบคว้ากุญแจรถและกระเป๋าสตางค์ ออกมาจากบ้าน
เขารีบบึ่งรถมาหาเธอที่นี่ มากดกริ่งเรียกด้วยใจร้อนรุ่ม เขาอยากคุยกับเธอมาก
“คุณล้อผมเล่นรึเปล่าผึ้ง”
ชายหนุ่มว่าพลางชูโทรศัพท์มือถือให้เธอดู ผกามารินใจสั่นเล็กน้อยแต่ก็ข่มอารมณ์ ตอบกลับสุ้มเสียงจริงจัง
“ผึ้งไม่ได้ล้อเล่นค่ะรุจ…มันคือความจริง”
“ไม่” เขาส่ายหน้ารัวๆ อย่างไม่เชื่อ ทำไมเธอต้องบอกเลิกเขาด้วย“คุณโกหก”
“ผึ้งพูดจริง รุจ” หญิงสาวเบือนหน้า หลบสายตาของเขาที่จ้องมองมา“ผึ้งไม่ได้รักคุณแล้ว”
ศุภรุจรู้สึกเหมือนคำพูดทั้งหมดทั้งมวล จุกอยู่ในลำคอที่แห้งผากจนไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้อีก เขาช็อกจริงอยู่ แต่กลับอยากรู้เหตุผลที่บอก‘ไม่ได้รักแล้ว’ ของเธอมากกว่า
“เพราะอะไรผึ้ง เพราะอะไร หรือผมทำหน้าที่แฟนบกพร่อง”
“เปล่าหรอก” เธอตอบเสียงเย็นเยือก“แต่เป็นเพราะผึ้งไม่ได้รักคุณแล้วต่างหาก”
“ทั้งที่เรากำลังจะแต่งงานกันเนี่ยนะ!” เขาโพล่งออกมา
“ดีเสียอีกไม่ใช่เหรอคะ…” ผกามารินยกเหตุผลเท่าที่นึกได้มาโกหก เธอต้องจบกับเขาให้เร็วที่สุด ก่อนน้ำตาแห่งความเจ็บช้ำ จะไหลลงฟ้องว่าเธอยังรักเขาอยู่ “ดีกว่าแต่งกันไป แล้วมาเลิกทีหลังให้คนเขาเอาไปนินทา”
หญิงสาวคิดว่าตัวเองช่างเลือดเย็นที่ทำกับเขาอย่างนี้ แต่คนดีๆ อย่างศุภรุจ ควรได้พบผู้หญิง ที่ควรค่าแก่การเป็นภรรยา มากกว่าเธอ ที่ต้องขายตัวเพื่อใช้หนี้สินนัก
ตัดเชือกควรตัดให้ขาดในทีเดียว จะได้ไม่เหลือเยื่อใยไว้
ผกามารินหมุนตัวหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน ภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เขาได้พบคนที่ดี ที่จะไม่ทำให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจเหมือนเธอ
“ไม่! อย่าทิ้งผมไป! ผึ้ง! ผมรักคุณ ชีวิตผมมีแค่คุณคนเดียวนะ ผึ้ง!”
ศุภรุจไม่เหลือเค้าคนเดิม เขาโวยวายพลางเขย่ารั้วบ้านอย่างเสียสติ ในอกเขาเจ็บแปลบปลาบ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะถูกผกามารินสะบั้นรักโดยไม่มีเค้าลางใดๆ มาก่อน
เขากับเธอรักกันหวานชื่นเหมือนคู่รักทั่วไป เรื่องทะเลาะเบาะแว้งมีบ้างตามประสา แต่ก็ไม่เคยคิดจะเลิกกัน
ชีวิตเขามีแต่เธอ เขาเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อมีแม่ จึงทุ่มเทความรักทั้งหมด ให้กับเธอที่เป็นรักแรก และรักเดียว…
ยิ่งคิด ชายหนุ่มก็ยิ่งเศร้าใจ…เขาคงทนไม่ได้ ถ้าไม่มีผกามาริน
ศุภรุจทรุดตัวลงนั่งบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง เสียงฟ้าร้องคำรามพร้อมเมฆฝนสีดำทะมึน ลอยอยู่เหนือศีรษะสักพัก ก่อนหยาดฝนจะเริ่มโปรยปราย
ผกามารินแหวกม่านไว้เล็กน้อย ลอบมองคนรักจากในบ้าน เธอยกมือปิดปาก เพราะไม่อยากได้ยินเสียงสะอื้นไห้อันน่าสมเพช
ยิ่งเห็นเขานั่งตากฝน พิงประตูรั้ว หัวใจแสนอ่อนไหว ก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น
หญิงสาวโอบกอดร่างตัวเองแน่น น้ำตาไหลลงอาบแก้ม สมองและหัวใจกำลังต่อสู้กัน เมื่อใจเรียกร้องให้ไปหาคนรัก แต่สมองสั่งห้าม
เธอบอกตัวเองซ้ำๆ ว่า
ห้ามออกไปเด็ดขาด! ห้ามใจอ่อนกลับไปหาเขาอีกเป็นอันขาด!
เพราะอยากช่วยเหลือครอบครัว เธอจึงวิ่งไปที่โทรศัพท์ ต่อสายหายามรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน สั่งให้ยามลากศุภรุจไปจากหน้าบ้านเธอ
เธอบอกยามว่าเขาเป็นโรคจิต ตามตื้อมาจากร้านกาแฟ ก่อนจะลามเลยมาถึงบ้านที่อาศัยอยู่ ยามรับปาก สักพักก็สวมเสื้อกันฝน มาลากตัวเขาไปตามเธอบอก
ศุภรุจไม่ขัดขืนใดๆ และปล่อยให้ยามถูลู่ถูกัง ทำตนราวกับไม่มีความรู้สึก
ความคิดเห็น