spysky
ดู Blog ทั้งหมด

Doctor John ซีรีส์สนุก

เขียนโดย spysky






เพลงเพราะมาก เปิดฟังนะ
-------------------------------



ตอนนี้ติดตามดูซีรีส์เกาหลีอยู่ 3 เรื่อง

จบลงไป 2 เรื่องแล้ว
วันนี้มารีวิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนแล้วกันนะคะ

 

 Doctor  John







พล็อตเกี่ยวกับหมอ ศจ.ชาโยฮัน  วิสัญญีแพทย์ คนที่เกิดมาเพื่อจะมาเป็นหมอจริงๆ

ทุ่มเทร่างกายและจิตใจเพื่อผู้ป่วยมากๆ และเป็นหมอที่ดื้อรั้นมากๆเช่นกัน
แต่ความดื้อของพี่แกก็ดีค่ะ

มันทำให้ผู้ป่วย...หายป่วยได้ด้วยแนวทางการรักษาแบบห่ามๆนี้

 ติดคุก 3 ปี เพราะทำความผิดเกี่ยวกับการทำการุณยฆาตผู้ป่วยของเค้าเอง จริงอยู่ว่าผู้ป่วยคนนี้เป็นฆาตกรและสมควรตาย

แต่ว่า หมอก็ไม่มีสิทธิ์ทำอย่างที่บอกมา

มันมีที่มาที่ไปที่สลับซับซ้อนมากเลยค่ะ สปอยส์ไม่ได้หรอก เผื่อคนที่ผ่านมาอยากดู

เอาเป็นว่า ร้องไห้กับซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรกจนตอนอวสานเลยทีเดียว

วันหยุดทีไรจะตื่นมาดูเรื่องนี้ในตอนเช้าทุกที แล้วก็ได้น้ำตาทุกครั้ง

มันก็ไม่ได้ดราม่าน้ำตา  3 ลิตร ตลอดเวลาซะทีเดียวหรอก ก็มีหวานมุ้งมิ้งบ้าง ก็มีเฮฮาปราตี้บ้าง

แต่พอเพลง Pain or death และเพลง Star และอีกหลายๆเพลงที่เป็นเพลงประกอบขึ้นมาทีไร

 เอาละแม่.....เตรียมปาดน้ำตาเหอะ

เพลงเศร้าๆมันเรียกน้ำตาได้จริงๆเลยนะ

อ่อนไหวมากๆเลยเรา

ศจ.ชาโยฮัน เป็น วิสัญญีแพทย์ค่ะ และเป็นหัวหน้าศูนย์บรรเทาอาการเจ็บปวด

อะไรประมาณนี้ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นหัวหน้าหมอของแผนกนี้

แต่เชื่อไหมล่ะว่า หมอชาโยฮัน เป็นโรค CIPA

 ไม่รู้สึกถึงความเย็น ความอบอุ่น โรคที่อาการไม่ไวต่อความเจ็บปวด เป็นพันธุกรรมซึ่งพ่อเป็นมาก่อน

โรคที่มีแต่ หมอชียอง-- นางเอก-- รู้เพียงคนเดียว

จนหมอชาพูดเสมอว่า

...คนอื่นจะรู้ว่า ผมเป็นคนป่วย ก็เพราะอาการห่วงเกินเบอร์ของคุณนี่แหละ....ฮ่าๆ

เราก็ฮานางเอกนะ นางห่วงเวอร์วังมาก แต่ก็เพราะเธอรักของเธออ่านะ

 เอิม หมอชาคะ ถ้าหนูไม่รักหมอเนี่ย หนูจะทุ่มเทม้ายยยย

(ตะโกนกรอกหูหมอชา ...จากฝ่ายซัพพอร์ตหมอชียอง)

......เห็นเค้ารักและห่วง ทำเป็นเล่นตัวนะคะหมอ.....








เมื่อวานตอนจบก็ร้องไห้ไปอีก 

หมอชาโยฮัน คนที่อยู่โดดเดี่ยวมาตลอด

คนที่คิดว่า ไม่น่าจะมีคนรักและคนที่เข้าใจโรคที่เป็น

คนที่คิดมาตลอดว่าแม้จะไม่มีพรุ่งนี้ก็ไม่เป็นไร ก็ฉันไม่มีคนรักนี่นา

แต่มาวันนึง ก็แอบมีความหวังเล็กๆ อยากอยู่โลกนี้ไปอีกนานๆ
อยากมีวันพรุ่งนี้
เพราะหมอชียอง

เราเข้าใจหมอชามาก....

ยังกะแสดงเองเลย เข้าใจหมอชาไปทุกเรื่อง

 หมอชา...แกก็เย็นชาสมชื่อเลยค่ะ

กว่าหมอชียองจะฝ่าน้ำแข็งหัวใจของแกเข้ามาได้เนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ

บางทีเราเองก็ลุ้นนะว่า หมอชาจะใจอ่อนเมื่อไรน้อ ?

โอเค เราเข้าใจแหละว่า

หมอชาไม่อยากลากหมอชียองมาทุกข์ด้วย เพราะอาการป่วยของตัวเอง

มันพร้อมจะลาโลกได้ทุกเมื่อ

แต่เราก็ยังแอบคิดแบบเห็นแก่ตัวหน่อยๆว่า

..เมื่อยังไม่ตาย ก็ทำวันนี้ให้มีความสุขหน่อยไหม....

เผื่อจะไม่มีวันพรุ่งนี้ให้ได้สารภาพรักยังไงล่ะ

ตอนจบหมอชา จะไปทำงานที่แล็ปต่างประเทศค่ะ

แต่ไม่ยอมบอกหมอชียอง

พอหมอชียองตามไปถึงสนามบิน ก็เลยได้ปรับความเข้าใจกัน

หมอชาพูดว่า

...คนจะไปอยู่แล้ว จะบอกรักได้ยังไง ?...

หมอชียองเลยพูด

...เราสามารถบอกรักได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา....

จริงอย่างที่หมอชียองบอกเลย

บางครั้ง
เราก็ไม่เข้าใจอาการปากหนักอมพะนำของหมอชาเลยค่ะ

หรือว่า ผู้ชายส่วนมากจะเป็นแบบนี้ แบบปากหนัก  ไม่ชอบพูด

เราเองคนดูนี่โคตรจะอิน

เมื่อไรพี่แกจะบอกรักนางเอกสักทีนะ

 

แต่สุดท้ายพี่แกก็บอกรักค่ะ


...ที่ทำเงียบๆไม่พูดไม่จา แอบอยูู่ในซอกมุม คอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆทุกครั้งนางเอกร้องไห้
นี่แหละคือ รัก ...จากพี่หมอชา
จะเข้าใจมั้ยเนี่ย ?????
พฤติกรรมแบบนี้ที่หมายความว่า ผมรักคุณ





                           
 

พี่แก ก็มีนมุมน่ารักๆฮาๆอยู่นะคะ 



 

เรากรี๊ดหนักมาก ตอนหมอชาบอกรักหมอชียอง ที่สนามบิน
และ kiss
แอร๊ยยยยยย ฟิน
คือ ทั้งเรื่องมีฉากหวานน้อยมากกกกกกกก

โอยๆ ปลดล็อคสักที ตลอดเวลากว่าเดือนที่ติดตามดู

...บอกเลยว่า ช้านเหนื่อยร้องไห้........

 

 

ร้องอีกทีส่งท้ายคือ

...เมื่อหมอชาและหมอชียองปรับความเข้าใจกันแล้ว...

หมอชาไปต่างประเทศไปทำวิจัยเกี่ยวกับโรคที่ตัวเองเป็นเพื่อหาทางรักษาให้หายขาด

และทุกวันหมอชาจะส่งเมล์อาการป่วยมากว่า 3 เดือน ที่ทำแบบนี้

มาวันนี้หมอชาไม่ส่งมา ชียองก็เลยนั่งไม่ติด

โทรไปหาเพื่อนที่แล็ปก็บอกแต่ว่า หมอชา ยุ่งมากๆ..

หมอชียองเลยรีบแพ็คกระเป๋าเตรียมบินไปหา

เธอลากกระเป๋ามาที่สนามบินแล้วนะ และลงจากรถแล้ว

เพื่อนหมอชา ทางโน้นบอกว่า..หมอชา สบายดี ...ไม่ต้องมาหรอก

เธอก็นั่งทรุดเข่าลงตรงนั้นแหละ

ภาพตัดไปที่หมอชา...

เพื่อนหมอชา โกหกค่ะ

..หมอชา นอนป่วยติดเตียง กรอกตาไปมา...

โอย ตายยยยยยยยยยยย

น้ำตาคนดูอย่างเรา ไหลพรากๆ .....

คือ เข้าใจแหละว่า เพื่อนหมอชา พูดโกหกหมอชียองเพื่อไม่ให้หมอบินมาหา

การโกหกแบบนี้มันปวดใจน่าดูแฮะ

แต่ก็เอาเหอะค่ะ จบแบบแฮปปี้ดี๊ดา เราก็พอใจมากๆแล้ว
แต่กว่าจะหายปกติและกลับมารักกันได้ก็ใช้เวลา 3 ปี

ที่หมอชา หายไปจากโลกของหมอชียอง
 

เราก็ป่วยจิตนะคะ หนังดราม่าหนักขนาดนี้ ดูเข้าไปได้ยังไง ?

คงเป็นเพราะชอบพล็อตแนวหมอมั้งคะ เลยดูได้แบบทรมานตัวเอง ฮ่าๆ

 

เรื่องนี้มีโมเม้นท์หลายตอนที่ซึ้งใจมากๆเยอะเลยค่ะ

จากอาการเจ็บป่วยของนักมวย ที่อยากจบชีวิตลงเมื่อรู้ว่าตัวเองป่วยขึ้นชกไม่ไหว ก็ได้หมอชานี่แหละดื้อรั้นที่จะรักษาจนพี่บัวขาวหายป่วย
และจากหลายๆเคสของคนไข้ค่ะ แต่ละเคสก็ซึ้งบ่อน้ำตาแตก

จำคำพูดของหมอชาโยฮันขึ้นใจเลยว่า

...ไม่มีอาการป่วยใดๆที่จะไม่มีสาเหตุ......

จริงสินะ

 

โมเม้นท์ที่ร้องไห้บ่อยๆ จะเป็นฉากที่หมอชา นั่งอยู่ในห้องของตัวเอง

ในห้องมีเครื่องมือแพทย์มากมาย หมอจะต้องเจาะเลือดของตัวเองทุกวัน

และเก็บเอาไว้

และหมอใส่ชุดสีขาวทั้งตัวทุกที

มองจากด้านหลัง เรารู้สึกเศร้าไปกับหมออะ

มีบางครั้งที่หมอชา เจาะเลือดตัวเองไป ก็ร้องไห้ไป

เฮ้อๆ ชีวิต

 

หมอชาโยฮัน ในเรื่องนี้ลุคเท่มากๆเลยค่ะ

เวลาทำงานใส่เสื้อยืดสีดำข้างในและเสื้อกราวน์สีขาว

หูย เท่แฮะ ...ไม่ต้องเอสเซสซอรี่เยอะ เท่านี้แหละ ....ใจเราละลายแล้วจริงๆ

 





หมอชียอง นางเอก ก็น่ารักดีค่ะ

ร้องไห้เก่งมากๆ เจ้าน้ำตามากกกกกกกกกกกกก

น้ำตาสั่งได้จริงๆ



ผมไม่แน่ใจว่า ผมจะหายดีไหม
เมื่อผมแน่ใจ ผมจึงกลับมา

โอ้ยยยย อยู่ดีๆหายไป 3 ปี
ไม่กลับมาตอนหมอชียอง  ลูก 3 เลยล่ะ
หมอหนอหมอ...ทรมานกันจังเลย





จบแบบแฮปปี้ค่ะ
ปาดน้ำตาเบาๆแม้จะจบแบบพระนางไม่ตายก็เหอะ
ช้านปาดน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากหมอชา ...หลอนมาหลายวัน


 

 สายตาหมอชาที่มองหมอชียอง แอร๊ย เคลิ้มและฟิน

 

  แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม

10 ก.ย. 62
982
4

ความคิดเห็น

spysky
spysky 10 ก.ย. 62 / 23:51
แวะมาดักป้าไวค่ะ


พรุ่งนี้มี Staff Party 
กลัวว่าจะแฮงก์ ก๊าก
เลยแวะมาทักทายเอาไว้ก่อน ฮี่ๆ


พี่ช้าง ใจดีค่ะ
ไม่ได้คิดไรเลยเวลานวดลูกค้า
คิดอย่างเดียวว่า

เมื่อลูกค้าจ่ายเงินมาเยอะแล้ว
เราต้องบริการให้เต็มที่

ทิปเป็นผลพลอยได้
อาจได้ หรือ ไม่ได้ ก็ว่ากันไป

เพราะรักในงานที่ทำมากๆ
เวลาทำงาน เลยมีความสุขทุกวัน


ธีมงานชุดของเราคือ ชาวเขา ค่ะ
พรุ่งนี้ตามทางเดินจากที่ทำงาน จนถึงโรงแรม
อาจเจอสาวๆใส่ชุดชาวดอยกว่า 20 ชีวิต
อย่าตกใจกันนะคะ
กลุ่มมดงานเองแหละ
เราได้จัดงานที่โรงแรมห้าดาว
ซึ่งไม่ไกลจากที่ทำงานค่ะ
เราเดิน Sky walk ไปได้เลย อิอิอิ
อาจใช้เวลาเดิน 20 นาที
เริดๆหรูๆคุณค่าที่มดงานทำงานมาอย่างหนักตลอด 1 ปี

หวังว่างานนี้ ลิงเขียว จะสอยทองกลับบ้านนะคร้าบบบ


หวังมันมันทุกปีแหละ


จะดื่มและกินเผื่อป้าไวนะฮ้า



 
 
spysky
spysky 10 ก.ย. 62 / 23:56
อ่อ ไวโอเล็ต

เมื่อวานไปกินปิ้งย่างมาแหละ
555++++

แบบว่า เพื่อนอยากได้รองเท้า Converse  มาใส่งานนี้ค่ะ
เราเลยไปเป็นเพื่อน
ไม่ได้สนิทกับเพื่อนคนนี้หรอก
เพราะเค้าค่อนข้างเงียบนะในที่ทำงาน
แต่เรามันชอบพวกอาสา 555+
เห็นว่า น้องเค้าไม่ค่อยพูด แม้จะทำงานด้วยกันมาเป็นปี
เค้าค่อนข้างจะเป็นคนเงียบเพราะ แฟนป่วยและจากไป
เราเลย เรื่องไหนที่จะทำให้เพื่อนฮาได้ และเยียวยาได้ เราก็ทำ

ก่อนกลับน้องพูด ขอบคุณพี่นุชที่มาเป็นเพื่อน


ฺเราก็สายกิน และสายอาสา

ปกติน้องกินน้อยและผอม
เมื่อวานสังเกตว่า ปิ้งย่างไม่ทันเลยนะคะ
55++

นอนล้าววว

พรุ่งนี้สปาปิดไวค่ะ ปิด 4 โมง เย็น
และให้พนักงานแต่งหน้าทำผมกัน
และเริ่มงาน 18.00 เป็นต้นไป


เย้ๆ   

 
Pumpkin-Spice
Pumpkin-Spice 11 ก.ย. 62 / 06:39
เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลยยังไม่อ่านบล็อคแล้วกัน
แต่จะคอมเม้นท์ว่า...
ส่วนมากหนังที่สร้างเกี่ยวกับการทำงานของหมอจะสนุก
น่าสนใจและมีสาระ  
spysky
spysky 14 ก.ย. 62 / 00:33
ไวโอเล็ต

ยุ่งมาก ลูกค้าเยอะ ไม่มีเวลามาตอบเม้นท์
เอาไว้เม้าท์วันหยุดนะขอรับ :)

ได้ทิปมา
พรุ่งนี้จะตำแตงเลี้ยงเพื่อนๆ
กินกันให้ไส้ทะลุเล้ยยยยยย

เรื่องกิน เรื่องหญ่ายยยยยย

บาย