แวะเอาลิงค์หนังมาแปะค่ะ
เรื่อง The pursuit of happiness
http://www.youtube.com/watch?v=iZAD2P4ZUXA&feature=related
หาเจอจาก ยูทูบค่ะ
ลองดูก็แล้วกันนะ
ซึ้งดี...
นุชเคยดูแต่เวอร์ชั่น ซับไทยเลยพอจะรู้เรื่องบ้าง
อิิอิ เดาเอาเหมือนกันค่ะ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
The curious case of Benjamin botton
อัศจรรย์คนโลกไม่เคยรู้
“ผมเกิดมาในสภาวะที่ไม่ปกติ”
กำกับการแสดง เดวิด ฟินเซอร์
เข้าฉาย 12 กุมภาพันธ์ 2009
ดัดแปลงจากเรื่องราวของ เอฟ สก๊อต ฟิทซ์เจอราลด์ ในปี 1920
ของชายที่เกิดมาด้วยวัยแปดสิบ และย้อนอายุถอยหลัง
เขาก็เหมือนเราทุกคนที่ไม่สามารถหยุดเวลาได้
จากนิวออร์ลีนส์ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1918 จนถึงศตวรรษที่ 21
ชายคนหนึ่งที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยค่ะ
พ่อของเขาทำโรงงานกระดุมค่ะ ในวันที่เขาเกิดเป็นวันเดียวกับแม่ของเขาเสียชีวิต
แม่ของเขานั้นเห็นหน้าลูกก็ตกใจค่ะ แต่เธอก็ยังรู้สึกรักลุกของเธอ
แต่สำหรับสามีของเธอนั้นไม่กล้าแม้จะดูหน้าของลูกชายด้วยซ้ำไป
พอภรรยาเสียชีวิตลงหลังคลอดสามีของเธอก็เอาลูกชายของตัวเอง
ที่มีรูปร่างน่าเกลียดไปทิ้งไว้ที่เชิงบันได้ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าค่ะ
ทั้งๆที่ภรรยาก่อนจะเสียชีวิตก็กำชับไว้แล้วให้เลี้ยงดูลูกของเธอ
พี่เลี้ยงในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เป็นคนผิวสีรับเลี้ยงดูเบนค่ะ
เบนเกิดมาก็แก่เลยอยากรู้ว่าใบหน้าเขาแก่ขนาดไหนก็ดูคนวัยชราในวัย 80 นะคะ
ใบหน้าของเขาจะแตกต่างจากเราค่ะเริ่มจาก 80-70-60-50-40-30-20-10-5-1-
ใบหน้าของเขาจะแก่ก่อนค่ะ เหมือนคนในวัยชราค่ะ หน้าตาเต็มไปด้วยริ้วรอยที่เหี่ยวย่น
และก็หนุ่มขึ้นเรื่อยๆตรงข้ามกับนางเอก
ในขณะที่นางเอกของเราค่อยๆแก่ลงพระเอกก็จะหนุ่มขึ้นเรื่อยๆ
เลยเป็นปัญหาในชีวิตรักของทั้งสองคนค่ะ
เบนจะเด็กลงเรื่อยๆค่ะจนเป็นเด็กน้อยซึ่งนางเอกก็เป็นคนเลี้ยงดูเขาค่ะ
จนเขาได้หมดอายุลงไปในวัยทารกอีกครั้ง
เรื่องนี้มีโรแมนติกและก็เศร้าค่ะ
ได้เห็นความรักที่วัยและอายุนั้นไม่ได้มีส่วนสำคัญเลยในการที่สองคนจะรักกัน
เบนได้เจอพ่อค่ะก่อนที่พ่อของเขาจะเสียชีวิตลงทิ้งมรดกไว้มากมายเลย
Brokeback Moutain หุบเขาเร้นรัก
กำกับการแสดง อั่งลี่
เข้าฉาย 16 กุมภาพันธ์ 2006
เอนนิสและแจ็กเริ่มงานบนภูเขาโบรคแบ็กโดยแยกกันอยู่คนละที่
เอนนิสอยู่เฝ้าแคมป์ ส่วนแจ็กเฝ้าแกะบนภูเขาที่อยู่สูงเหนือขึ้นไป
ช่วงแรกทั้งสองจึงพบกันเฉพาะเวลาอาหารที่แคมป์
นานเข้าจากที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ทั้งคู่เริ่มสนิทจนเป็นเพื่อนกัน
ไม่นานหลังจากนั้นเริ่มมีการสลับหน้าที่กันโดยแจ็กอยู่เฝ้าแคมป์และเอนนิสอ
อกไปเฝ้าแกะ
คืนหนึ่งทั้งสองคนดื่มวิสกี้จนเมามาย
เอนนิสตัดสินใจไม่ไปเฝ้าแกะและลังเลที่จะเข้าไปนอนในกระโจมเดียวกับแจ็ก
ดึกมากขึ้นเมื่อกองไฟที่จุดไว้มอดดับไป
อากาศหนาวเย็นมากจนแจ็กต้องเรียกให้เอนนิสเข้าไปนอนในกระโจม
ทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่าเพื่อนในคืนนั้น
และยิ่งแนบ แน่นขึ้นตลอดช่วงฤดูร้อน
เรื่องราวของความรักของผู้ชายกับผู้ชายค่ะ ต่างคนต่างแต่งงานกันแล้ว
เรื่องนี้จบแบบเศร้าค่ะไม่ได้สมหวังหรอกนะคะ
ไม่มีฉากโป๊หรอกคะ บอกเอาไว้เผื่อบางคนอยากจะหาซื้อมาดู
ลองเปิดใจดูอะไรใหม่ๆนะคะแล้วเราจะได้รู้จักความรักที่สวยงามอีกรุปแบบหนึ่ง
รักที่ไม่ใช่เพียงแค่หญิงกับชายค่ะ
นุชชอบนักแสดงทั้งสองคนเลยค่ะ
แจ็ก (เจค กิลเลนฮาล) เอนนิส ( ฮีด เลดเจอร์) ฮีด เสียชีวิตแล้วค่ะ
หนังเรื่องสุดท้ายที่เขาแสดงเอาไว้ก็คือ Batman
เขาแสดงเป็นตัวโจ๊กเกอร์ค่ะ
คอหนังเรื่อง Batman น่าจะรู้จักตัวโจ๊กเกอร์นะคะ
นุชล่ะไม่ค่อยชอบตัวนี้เลย
ซ่าส์เกิน แต่สะใจเวลาที่โจ๊กเกอร์ทำอะไรที่มนุษย์มนาเขาไม่ทำกันนะคะ
ไม่กินเส้นกับพระเอกเอาซะเลย
ใจหายค่ะที่ฮีดจากไป
หลับให้สบายนะคะ ฮีด นุชชอบหนังที่คุณแสดงมากๆเลยค่ะ
The Davinci Code รหัสลับระทึกโลก ภาค 1
กำกับการแสดง รอน โฮเวิร์ด
เข้าฉาย 18 พฤษภาคม 2006
ค่ำคืนหนึ่งกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ‘ฌาคส์ โซนิแยร์’
ภัณฑารักษ์หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ “ลูฟว์”
พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
ในพิพิธภัณฑ์อย่างไม่ทราบสาเหตุ
โดยก่อนเสียชีวิต โซนิแยร์ ได้ทิ้งปริศนาการตายเป็นศพของเขาที่วางอยู่บนเป็นรูปสัญลักษณ์
“วิทรูเวียนแมน” หรือรูปคนกลางแขนบนดาวห้าแฉก
เหมือนเป็น 1 ในผลงานเลื่องชื่อของศิลปินระดับโลก
ลีโอนาโด ดาวินชี
“โรเบิรต์ แลงดอน” (ทอม แฮงค์)
ศาสตราจารย์ด้านศาสนวิทยาสัญลักษณ์แห่งมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด
จึงได้รับมอบหมายจากหน่วยราชการลับแห่งฝรั่งเศส
นำโดย ผู้กอง เบซู ฟาสช์ (ณ็อง เรย์โนลด์)
ในการไขรหัสลับของคดีฆาตกรรมอันน่าสยดสยอง
เรื่องนี้ได้อ่านหนังสือด้วยค่ะ มีหนังสือเก็บไว้เลย
ตอนที่อ่านก็คิดภาพไม่ค่อยออกแต่พอไปดุหนังค่อยคิดออกมาหน่อย
นุชเป็นคนที่จินตนาการต่ำนะคะ ฮ่าฮ่า
เรืองนี้อ่านประมาณ 3 รอบ และดุหนังอีก 2 รอบเช่นเดียวกันค่ะ กว่าจะเข้าใจ
ตอนแรกๆที่ดูก็ได้แต่คิดว่าอยากไปเห็นโรมสักครั้งจัง
โรม นครวาติกันเป็นสถานทีถ่ายทำในเรื่องค่ะ
จนมาวันหนึ่งได้มีโอกาสมาทำงานที่อิตาลีก็เลยไปเที่ยว
ให้เห็นฉากในหนังเรื่องนี้ซะเลย
แต่ยังมีอีกทีค่ะที่อยากไป คือ พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ค่ะ ที่อยู่ในกรุงปารีส
อยากเห็นรูปภาพของโมนาลิซ่านะคะ หวังเอาไว้ว่าสักวันจะไปให้ได้
Fighting อิอ บอกตัวเองค่ะ หรือใครจะแอบเอาไปบอกตัวเองก็ไม่หวงนะ
ท่องไว้ค่ะว่าสักวันเราต้องไปในประเทศที่เราฝันไว้ หวังไว้
Catch Me If You Can จับให้ได้ ถ้านายแน่จริง 
กำกับการแสดง สตีเฟ่น สปีลเิร์ก
2002
เรื่องย่อ
แฟรงค์ ดับเบิ้ลยู อบาเนล (ลีโอนาโด ดีคาปริโอ)ทำงานเป็นทั้งหมอ
ทนายความ และนักบินร่วมของสายการบินสำคัญ ทั้งหมดนี้เขาทำมา
ก่อนที่จะถึงวันเกิดปีที่ 21 ของเขา นอกจากนี้เขายังเป็นพวก 18 มงกุฎ
จอมลวงโลกในเรื่องการโกงเช็ค ทำให้เขาได้เงินหลายล้านดอลลาร์
นักสืบเอฟบีไอคาร์ล ฮันแร็ทตี้ (ทอม แฮงค์)
ผู้มุ่งมั่น และอดทน มีภารกิจสำคัญ ในการจับกุมแฟรงค์
และนำเขามาขึ้นศาล ...แต่แฟรงค์มักจะนำเขาไปหนึ่งก้าวเสมอ
อยากเป็นแฟรงค์ค่ะ ใครกันจะฉลาดได้ขนาดนี้
คุณตำรวจตามจับแบบหัวปั่นเลย
เป็นหมอทั้งๆที่ไม่ได้เรียน เป็นนักบินทั้งๆที่ก็ไม่ได้เรียนมาอีกเช่นเดียวกัน
แฟรงค์รู้สึกจะเก่งและฉลาดเวอร์
แต่สุดท้ายความฉลาดของเขาก็เป็นประโยชน์ต่อกรมตำรวจนะคะ
ตามจับกันไปกันมาในที่สุดทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนกันค่ะ
เรื่องนี้สงสารเฮีย ทอมมากๆ วิ่งล่อวิ่งชนไปเรื่อยแต่ก็ตามเฮียลีโอไม่ทัน
พี่ทอมแก่อยู่หลายปี เข้าใจ๊ เข้าใจ ที่จะตามเด็กหนุ่มไม่ทัน ฮ่าฮ่า
ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ The Pursuit of Happyness 2006
เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับชีวประวัติของคริส การ์ดเนอร์
มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน
ผิว สี
ในช่วงที่เขากำลังอยู่ในช่วงลำบากของชีวิต
ช่วงที่เขาเป็นพ่อหม้ายที่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกชาย คริสโตเฟอร์ จูเนียร์
อีกคนทั้งๆที่เป็นคนพเนจรไม่มีบ้าน
แต่ก็สามารถสร้างตัวเองขึ้นมาได้จากการเป็นนายหน้าค้าหุ้น
จนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านในปัจจุบัน
ประทับใจความรักความพยายามของคุณพ่อผิวสีค่ะ
ตอนที่สะเทือนใจในเรื่องที่ทำเอาน้ำตาไหลพรากๆเหมือนหลายๆเรื่องที่ผ่านมา
ก็คือ วันที่ คริสและลูกชายถูกไล่ออกจากบ้าน
และได้ไปนอนอยู่ในห้องน้ำของสถานีรถไฟนะคะ
คริสได้ล็อกประตูห้องน้ำเอาไว้และก็นอนกอดลูกค่ะ
น้ำตาไหลอีกครั้งตอนที่คริสรู้ตัวว่าบริษัทที่เขาไปสมัครงานเอาไว้
นั้นได้รับเขาเข้าทำงานนะคะ
คริสเดินออกจากสำนักงานด้วยหน้าที่ที่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น
พออกจากลิฟท์มาเท่านั้นแหละ เขาแทบจะเหมือนคนเสียสติเลย
เหมือนอยากตะโกนกู่ก้องให้คนที่ผ่านไปมาได้รู้ว่า
ฉันได้งานทำแล้วโว๊ยยยยย นุชคิดเอาเองนะว่า
ปู่คริสน่าจะอยากบอกกับทุกคนแบบนี้
Elizabeth Town อลิซาเบ็ท ทาวน์ เส้นทางสายรัก
กำกับการแสดง คาเมรอน โคร์ว
เข้าฉาย 2005
หนัง เล่าถึงความล้มเหลวของ “ดรูว์ เบย์เลอร์” (ออแลนโด บลูม)
มนุษย์เงินเดือนที่มุ่งมั่นทำงานสนองตามกลไกทุนนิยมเสรีตลอด 8 ปี
ในบริษัทรองเท้ากีฬาชั้นนำของอเมริกา ในตำแหน่งผู้ออกแบบรองเท้า
“ดรูว์” คือดาวรุ่งของบริษัท
เขามุ่งมั่นสะสมประสบการณ์ความรู้เพื่อสร้างนวัตกรรมรองเท้ากีฬาใหม่ขึ้นมา
พองานที่ทำล้มเหลว
ดูร์วก็คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่จะฆ่าตัวตายเขาได้รับจดหมายจากญาติว่า
พ่อเสียชีวิตเขาก็เลยต้องเดินทางกลับบ้านเพื่อมาทำพิธีศพในฐานะลูกชายคนโต
การเดินทางกลับบ้านของเขาในครั้งนี้ได้เมาเจอกับนางเอก แคลร์ แฮร์โฮสเตส
บนเครื่องที่เขานั่งกลับบ้านค่ะ
แคลร์มีบุคลิกที่สดใสค่ะ
“ใน ชีวิตทุกคนน่าจะขับรถทางไกลสักครั้ง มีแต่คุณกับเสียงเพลง…”
แคลร์พูดกับดรูว์ไว้อย่างนั้น เป็นปรัชญาชีวิตแสนง่าย…แต่ทำยาก!!
เพราะสำหรับดรูว์แล้วไม่มีชีวิตอีกด้านหลังความล้มเหลว
แต่ “แผนที่” ทำมือที่แคลร์มอบให้กับดรูว์
เพื่อให้เขาตระเวนขับรถโปรยเถ้าอัฐิของพ่อในที่
ต่างๆ- -สถานที่ที่เขาเคยสัญญาจะขับรถมาเที่ยวกับพ่อ แต่ไม่เคยได้ทำสักที
เพราะการทุ่มเทเพื่อความสำเร็จให้ตัวเองจนลืมคนรอบข้าง!
ชอบเรื่องนี้เพราะรู้สึกเป็นอิสระไปกับพระเอกค่ะ
ชอบที่เขาขับรถตะลอนๆไปโปรยอัฐิของพ่อไปในที่ต่างๆนะคะ
และฉากจบ จบได้ประทับใจมากๆๆๆๆๆๆ
ชอบเสื้อผ้าที่พระเอกใส่ค่ะ แค่เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มและกางเกนยีนส์ง่ายๆสบายๆ
แต่มันเท่มากๆ ในสายตานุช
ไม่ต้องแบรนด์เนมก็หล่อและเท่ได้ ชอบโอแลนโด้ บลูมเป็นทุมเดิมอยู่แล้ว
เรื่อง Lord of the ring และ Pirate of caribian ไม่ยักที่จะกรี๊ดแฮะ
แต่เรื่องนี้ขอกรี๊ดๆๆๆๆๆ ดังๆๆ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
คอหนังต้องดูหนังให้จบนะ
ปล.ข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยนะคะ
หนังบางเรื่องดูมานานแล้วค่ะ
ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆ คนจ้า
NuChAbA
ความคิดเห็น
นายเบนจามิน กระดุมเสื้อ อิอิ คือคนเราเคยคิดว่าถ้าเราแก่เลยแล้วจะเป็นยังไง พอดุหนังเรื่องนี้ก็เลยรู้ว่า มันไม่ใช่เรื่องดีเลย เมื่อกลับมาเห็นลูกสาว อายุเท่ากับตนเอง ฉากที่เขากลับไปหาภรรยาที่โรงเรียนสอนบัลเล่ย์อ่ะ
ต้องยกเครดิตกับช่างแต่งหน้าครับ ทำให้หนุ่มแบรดกลับาหนุ่มอีกครั้ง อิอิ
เรื่องนี้เป็นหนังเกย์เรื่องแรกที่ผมดู และรู้สึกว่าถ้าเราไปอยู่่ตรงนั้น จะเป็นยังไง อิอิ เราจะมีเปลี่ยนได้ไหม มันน่าแปลกเนอะ แต่สุดท้ายแอบงง แอนนิสจะรู้ไหมว่า แจ็คถูกเมียตัวเองฆ่าตาย น่าเศร้ามากครับ
ที่ผมดูเรื่อง ดาวินซี่โค้ด เพราะชาวคริสต่อต้านนี่ล่ะ พอดูไป มันก็น่าต่อต้านจริงๆ และครับ แดน บราวน์เก่งจริงๆ หาช่องโหว่ของประวัติศาสตร์ มายำซะเละ เลย อิอิ แต่มันก็น่าคิดนะ แมรร์รี่ แมกดาเลน เป็นพระชายาของ พระคริสต์ จริงๆ เหรอ
Catch me if you can ผมเคยดู จำได้ รู้ว่ามันสนุกแต่ จำพล็อตไม่ได้และ ตอนนั้น ลีโอนาโด ดังจริงๆ
เรื่อง ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ไม่เคยดูครับ
อลิซาเบธ ก็ไม่เคยดู
รอบนี้มีสองเรื่องที่ยังไม่เคยดู อิอิ
หนังยาวพอดูเลยค่ะ ซึ้งมากตอนฉากสุกท้าย น้ำตามันไหลแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
เป็นเรื่องที่แทบจะบอกว่า ไร้ที่ติจริงๆค่ะ
ไม่ได้ละๆๆๆ ต้องไปหาดูสักเรื่อง
มีความน่าดูตรงที่ลดอายุคนให้น้อยลงๆเป็นจุดเร้าใจ
พี่นุชบรรยายน่าอ่านครับ
เรื่องที่สอง ขอผ่านครับ บอกสั้นๆว่า ดูแต่แนวผู้หญิงครับสวยงามกว่าแฮ่...
ดาวินชี่ เป็นหนังที่ผมรอดู และก็สมหวังครับ
คิดว่าหนังดังด้วยตัวเอง และก็มีคุณภาพครัึบดูแล้วไม่เสียดายเิงิน
จับให้ได้ฯ ชอบมาก แนวนี้เป็นหนังที่ดูแล้วผมรู้สึกว่าออกจากโรงมาแล้วอารมณ์ดี
สมกับที่อยากออกจากบ้านมาเปิดหูเปิดตาจริงๆ
ยิ้มไว้ก่อนฯ ไม่เคยดู แต่พออ่านพี่นุชเล่าแล้ว อยากดู ชอบตรงที่พี่นุชบอกว่า
ประทับใจความรักคุณพ่อนั้น.
เรื่องสุดท้าย ชอบปรัชญา
แล้วก็ชอบการเล่าเรื่องของพี่นุช(อีกแล้ว) พี่นุชเล่าได้น่ารักๆไงครับ
อ่านแล้วยิ้มไปด้วย
ดูจบทุกเรื่องเดินตัวปลิวออกมาจากโรงหนังพี่นุชด้วยความสุข
แล้วก็คิดว่าคนฉายก็คงมีความสุขด้วยที่ทำให้คนดูอารมณ์แจ่มใส
ไปต่อโรงหน้าดีก่า
Benjamin Button
เรื่องนี้ก้อยยังไม่เคยดูจ้ะ
แต่อ่านพล็อตที่พี่นุชเล่าแล้วสะดุดเลย พล็อตเก๋มาก
แปลกดี...ท่าทางจะสนุก เก็บใส่ลิสต์ เตรียมไปหามาดู
Brokeback Moutain
ก้อยมีเพื่อนเป็นเพศที่สามที่สี่ที่ห้าเยอะเลย ก้อยรักพวกมัน
แล้วก็เป็นพวกมันนี่แหละที่สรรหาหนังเรื่องนี้มาให้ก้อยดู
พี่คิดดูว่าตอนนั้น เกย์ถือหนังที่มันเรียกว่า นี่คือตำนาน!
จะให้ก้อยคิดเป็นอื่นไกลได้ไงนอกจาก เรื่องนี้มันต้องเป็นหนังเกย์ที่แบบ
ไม่ทำอะไรนอกจากบริโภคถั่วดำ แต่สุดท้ายทนรำคาญมันไม่ได้ที่มาคอยจิกให้ดู
ก้อยก็เลยจำใจดู ดูจบ...เจ็บใจ เจ็บใจตัวเองที่คับแคบและตัดสินอะไรจากภายนอก
มันเป็นหนังในตำนานจริงๆ คำว่า ตำนาน สำหรับก้อยมันเป็นแฝดกับคำว่า จำนาน จ้ะ
ไม่เคยลืมหนังเรื่องนี้จริงๆ เจค กับ ฮีท ด้วย ตามดูหนังเรื่องอื่นๆของเจคเพราะเรื่องนี้แหละ
ส่วน ฮีด พี่รู้มั้ยว่า ขนาดตอนที่นั่งดูแดแมน ดู ฮีท เล่นเป็นโจ๊กเกอร์
ทาหน้าทาปากขนาดนั้น ก้อยยังอุตส่าห์คิดถึง หน้าฮีดที่เป็น เอนนิส ขึ้นมาได้
เชื่อรึยังล่ะว่าคลั่ง ^^
The Davinci Code.
เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลยจ้ะ หนังสือก็ยังอ่านไม่จบ
เพราะมีคนยืมไปแล้วไม่คืนT^T ก้อยอยากอ่านให้จบก่อนแล้วค่อยดูอ่ะ
แต่ถ้าอ่านหนังสือแล้วประทับใจมากๆ ก้อยมักจะเกิดอาการกลัวที่จะดูหนัง
แต่ถ้าพี่นุชบอกว่าเจ๋ง ก็ไม่น่าผิดหวัง ^^
ซักวันนึง...พี่นุชพาก้อยไปดูสถานที่ถ่ายทำจริงๆบ้างนะคับ ><
Catch me if you can.
เรื่องนี้สนุกมาก ตอนดูก้อยพูดอยู่สองประโยค
คิดได้ไง?! กับ ทำไปได้!
ชอบนะที่แบบ ยืนอยู่กันคนฝั่ง เป็นศัตรูกัน ไฟท์กัน
แต่สุดท้ายทำไปทำมาดันซี้กัน ดูแนวนี้ทีไร ปลื้มทุกที
The Pursuit of Happyness.
วิลล์ สมิท นะพี่ แค่ชื่อก็การันตีได้แล้ว
ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนของวิลล์ แม้แต่เรื่องเดียวที่ทำก้อยผิดหวัง
เรื่องนี้เหมือนกัน ร้องไห้เยอะจนจำไม่ได้ว่าช็อตไหนบ้าง
แต่แน่ๆคือช็อตนอนในห้องน้ำสถานีรถไฟแหละช็อตนึง
ความจริงร้องมาตั้งแต่พ่อลูกโดนไล่แล้ว แต่อารมณ์มันบีบมาเรื่อย
จนมาหลุดสะอื้นฉากนั้นแหละ
ดูแล้วอยากกอดพ่อแน่นๆพี่ว่ามั้ย ^^
Elizabeth Town
เฮ้ยพี่! ก้อยว่าก้อยตามบลูมไปทุกที่ ทุกเรื่องแล้วนะ
ก้อยพลาดได้ไงอ่ะ บลูมเล่นเรื่องนี้ด้วยเหรอ?
ไม่ได้แล้ว ต้องหามาดูให้ได้เลย ชอบสุดๆเลยประโยคนี้อ่ะ...
ในชีวิตทุกคนน่าจะเคยขับรถทางไกลสักครั้ง มีแต่คุณกับเสียงเพลง...
แถมพล็อตที่เล่นกับความรู้สึกของพ่อแบบนี้ มันทางก้อยชัดๆ ><
ขอบคุณพี่นุชมากคับ สำหรับหนังดีๆเจ๋งๆแบบนี้ ><
วันนี้สี่รอบ = =
คนเราเมื่อแก่แล้วแลดูน่ากลัวนะ
สงสารเบนจามินค่ะ ดูไปก็ร้องให้ไป
ชีวิตรันทดตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิตเลยทีเดียว
Broken Mountain เปิดใจรับอะไรใหม่ๆเราก็จะรู้จักโลกกว้างขึ้น ว่ามั้ย
Davinci Code ยิ่งถูกสังคมต่อต้านยิ่งดังแฮะ การตลาดของฮอลีวู๊ด
Catch me ได้ใจเนาะ ล่ากันไปมาสุดท้ายก็เป็นเพื่อนกันเอง
ยิ้มไว้ก่อน กับ อลิซาเบ็ท ไปดูให้ได้นะ
ขอบคุณสำหรับเม้นท์จ้า
@ น้องจิ๊บ
ประทับใจเหมือนพี่นุชเลย
@ น้องฟ้าต้องตามเพื่อนให้ทันนะจ๊ะ เบบี๋
@เคน
ฺBenjamin ทุกๆคนที่ได้ดูประทับใจกันทุกคนเลย
เฮ้ เคน อย่าใจแคบกับเรื่องที่สอง ดิ พลาดแล้วจะเสียดายนา
Davinci ชอบนะภาคแรก ภาคสองไม่ไหว
Catch ชอบเหมือนกัน
ยิ้มไว้ก่อนดูให้ได้นะ หนุกหนาน ซึ้งๆ
อลิซาเบท ถ้าชอบอิสระเรื่องนี้อย่าพลาดนะคะ พี่เคน
@ก้อย
Benja min อย่าพลาดนะคะก้อย
Broken mountain ชอบโจ๊กเกอร์เช่นเดียวกัน
จำนาน กับ ตำนาน อิอิ ไม่ค่อยแตกต่างกันเลยนะ
Davinci อ่านไปจบเหรอ เพื่อนใจร้ายจังรู้สึกว่าเพื่อนยืมหนังสือไปแล้วไม่คืนเยอะนะเนี่ย
น่าเห็นใจจัง อยากพาน้องเที่ยวชมอยู่เนี่ย
โรมนั่งรถไฟจากเยอรมันไปประมาณ 3 ชม ค่ะก้อย
Catch me ตามจับไปกันมาดั๊น มาเป็นเพื่อนกันซะงั้นน้อ
The pursuit ซึ้งร้องให้เช่นเดียวกัน
Elizabeth อย่าพลาดนะ
จำตอนบล็อกของก้อยได้มั้ย ที่ขับรถไปคนเดียวนะ
พี่นุชคิดถึงน้องก้อยเลย
อารมณ์ของ บลูมประมาณนั้นแหละ
หาตัวตนของตัวเองอยู่
ว่าสิ่งไหนคือ่สิ้่งที่ใช่สำหรับตัวของเค้าเอง
บลูม หนุ่มในสเปคค่า ชอบคนผมหยิก อิอิ
สุดท้าย ขอบคุณทุกๆคนค่า