ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yaoi เรื่องสั้น บุรุษ(พยาบาล)..ที่รัก ภาค เน็ต

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอน 6

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 54


     ตอน6

    ผมนั่งมองกระจกที่ใช้แทนผนังห้อง มองออกไปไกลยังตึกสูงๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ในย่านบริษัทผม

    พนักงานเดินขวักไข่ว ตามชั้นต่างๆ เพื่อที่จะทำงานให้บรรลุความต้องการ

    ซึ่งผมเห็นบางคนสีหน้าสดใส  บางคนเคร่งเครียด แตกต่างกันไป

    ตึกต่างๆ พยายามตกแต่งแข่งขันกัน เหมือนเป็นแฟชั่นใช้เดินแบบ

    เป็นภาพที่ทำผมรู้สึกอยากทำงานมากยิ่งขึ้น.....

    ยิ่งคนที่อยู่ให้ห้องผมด้วยแล้ว เขายิ่งพยายามมาเป็น 2 เท่า

    เพื่อทดแทนในส่วนที่ต้องลาป่วย....

     

    ผมกับอลิซเราสามารถปรับตัวเข้าหากันในเวลางานได้มากขึ้น

    และเขาให้ความเคารพผมให้ฐานะเจ้านายมากขึ้นด้วยเช่นกัน 

    อาจเป็นเพราะเขาได้ติดตามผมในการประชุมหรือดูงานต่างๆ มากขึ้น

    เขาสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบงานในหน้าที่  ...และสอนให้เข้าใจถึงภาระหน้าที่ของผู้บริหาร

    ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบที่จะ แชร์ประสบการณ์มากกว่า ซึ่งเราก็ได้แชร์กันในฐานะเจ้านายลูกน้อง

    ผมได้สัญญากับอลิซซึ่งร้อนแรงและมีเสน่ห์อีกแบบว่า ผมจะไม่ล้วนเกินเขาให้เวลาทำงาน

    ผมจะให้เกียรติเขาให้ฐานะคนทำงานคนหนึ่งด้วยเช่นกัน....ซึ่งเป็นศักดิ์ศรีสำหรับคนทำงาน

     

    ตอนนี้ผมนั่งทำงานอยู่ในห้อง....ซึ่งอลิซก็กำลังขะมักเขม้นตรวจเอกสารอยู่เช่นกัน....

    ผมพยายามละสายตาในการจ้องมองเขา ในเวลาทำงาน....แต่พอรู้ตัวอีกทีสายตาผมต้องจับจ้องอยู่ที่เขา

    เมื่อไหร่กันนะที่ผมเริ่มจ้องมองอลิซ ที่กำลังทำงานอยู่  

    ผมว่า....เขาคงไม่รู้ตัว.....ว่าเสน่ห์ที่เขากำลังเก็บซ่อน.....ได้หลุดลอดออกมาให้ผมได้หลงไหล

    “คุณเน็ตครับ...เอกสารเบิกจ่ายประจำเดือน..ผมตรวจสอบแล้ว...ผมอยากให้คุณตรวจและเซ็นเอกสารด้วยครับ..”

    ผมใจลอยมองเขา จนไม่รู้ตัวว่า.....เขาเดินมาใกล้และยื่นเอกสารบนโต๊ะ

    “โอ๊ะ..โทษทีผมใจลอยไปหน่อย....”

    ผมรับเอกสารแฟ้มหนาๆ มาดูรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อผลประโยชน์ของบริษัท......

    ++++++++++++++

     

    “อลิซผมอยากทำโครงการหนึ่ง  ผมสามารถปรึกษาคุณได้ไหม” ผมพูดขึ้นหลังจากดูรายงานเสร็จ

    “ครับ...ถ้าคุณต้องการ”

    “อลิซ ทำอยากทำโครงการเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนพิการทางสายตานะ ....”  ดูเหมือนอลิซจะทำหน้าแปลกใจ

    “ก็พี่คริสที่ไม่สบายอยู่นะ  พอผมเห็นแล้ว ผมคิดว่าในเมื่อเราเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยี ...เราน่าจะทำส่งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยประเภทนี้บ้าง  แล้วจากที่ผมดูโครงการที่ผ่านๆ มายังไม่มีงานประเภทนี้เลย...”

    “คุณแน่ใจนะครับว่าต้องการทำ.....แต่ถ้าคุณคิดจะทำแล้วหยุด  ผมว่าคุณลองพิจารณาดูอีกทีไหมครับ...”

    “อือ....ผมอยากทำจริงๆ  ....ผมคิดดูมาสักพักแหละ  ผมรู้ว่ามันคงยากเพราะงบประมาณในการพัฒนา และศึกษาคงมากพอควร...แต่มันสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้นะ...”

    “ถ้าคุณคิดอย่างนั้นจริงๆ ผมจะช่วยคุณอีกแรงครับ......”

    “อืม...ขอบใจนะอลิซ...ผมอยากให้คุณช่วยจริงๆ..”

    “ครับ....ผมจะรวบรวมเอกสารที่จำเป็นในการทำโครงการนี้ครับ..”

     

    +++++++++++++++

     

    ป้าแอนโทรมาหาผมให้กลับไปเยี่ยมพี่คริสบ้าง  ซึ่งผมตั้งใจจะไปเยี่ยมและคุยเรื่องโครงการนี้พอดี

    ผมบอกอลิซว่าจะเคลีย์งานให้เสร็จก่อนที่จะลาพัก  ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไร

    และยังฝากความห่วงใยมายังพี่ชายผมด้วย

    ผมนั่งเคลีย์งานต่างๆ ให้เสร็จก่อนที่จะลา ซึ่งอลิซก็อยู่ช่วยจนค่ำทุกวัน

    ดังนั้น ผมจึงมักจะชวนเขาไปทานข้าวเย็นเพื่อเป็นการขอบคุณ แม้วันแรกจะปฏิเสธบ้าง

    แต่สุดท้ายเขาก็ยอมรับน้ำใจจากผม...ซึ่งผมถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี

     

    ผมไม่เคยเจอลิซอีกคนที่เร่าร้อน มีเสน่ห์และเปิดเผย  เพราะผมไม่อยากทำลายความเชื่อใจ

    ที่อลิซในบุคลิกตอนทำงานมีให้  แต่ใจจริงผมก็อยากเจอทั้งสองพร้อมๆ กันมากกว่า

    “อลิซวันนี้คุณเลือกร้านแล้วกัน....”

    “อ้อ....นั้นร้านไทยเหมือนเดิมดีไหมครับ..”  รอยยิ้มที่เหมือนจะแกล้งหยอกผม

    “หือ.......”  “  ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า  ผมล้อเล่นนะครับ...”   ผมเหมือนจะเริ่มเล่นบุคลิกที่ขี้เล่นฉายออกมาหน่อยๆ

    “นั้นกินร้านเมื่อวานก็ได้ครับ  อาหารอร่อยดี...” 

     “อืม...”

     

    หลังจากเราทานอาหารเสร็จ ผมก็จะขันอาสาขับรถไปส่งที่บ้านของเขาให้.....

    เสียงโทรศัพท์ ของผมเอง......เบอร์ใครอ่ะ ไม่คุ้นเลย

    “สวัสดีครับ......แม็ก.......เป็นไงมาไงโทรมาได้......อ้อตอนนี้อยู่ที่นี่แหละ....อือ   แล้วเจอกัน...” ผมวางสายพร้อมกับขับมุ่งไปยังเป้าหมายโดยที่เจ้าตัวยังนั่งอยู่

     

    รถมาจอดหน้าบ้านไม้ที่ชั้นเดียว   ที่อยู่ออกไปนอกเมืองนิดหน่อย....ในระแวกนี้บ้านของอลิซเป็นแบบที่เห็นได้ทั่วไป

    แต่แตกต่างกันตรงสีของบ้านแต่ละหลังที่จะทากันตามสไตร์ของใครของมัน  ซึ่งบ้านของเขาเป็นสีขาว ประตูรั่วสีน้ำตาล

    มีกระดิ่งเล็กๆ แขวนหน้าบ้านแทนกริ่งไฟฟ้า ที่ทุกบ้านใช้  หน้าบ้านมีต้นไม้เล็กๆ  ปลูกไว้สำหรับตกแต่งเพื่อความสบายตาของผู้พักอาศัย

     

    หลังๆ ผมมาส่งเขาเกือบทุกวัน แต่ก็ไม่ได้รับคำเชิญให้เข้าบ้านเขาเลย.....

    “อลิซ............” ผมเรียกเขาพร้อมทั้งดึงแขนเขาไว้หน่อยๆ

    พร้อมทั้งโน้มตัวจุ๊บที่แก้มเขาเบาๆ  “ราตรีสวัสดิ์ครับ..”

    เขาหันมามอง   แล้วสายตาพลันผลุบต่ำ 

    “ครับ..ราตรีสวัสดิ์..”  ก่อนที่จะลุกออกไปเพื่อเข้าไปยังตัวบ้าน

    !!!!!!!!!!

     

     

    คุณเน็ตส่งผมถึงหน้าบ้าน..และขับรถออกไป.....

    แม้ตอนนี้อาการจะเริ่มเย็นบ้างแล้ว  แต่คงไม่ทำให้หน้าของผมแดงระเรื่อได้

    แต่มันกลับแดง  เพราะใครบางคน

    ช่วงหลังมานี้....เขาสุภาพกับผมมากขึ้น  และผมก็เริ่มที่จะเข้ากับเขาได้มากเช่นกัน

    ผมยอมรับว่าผมชอบความสามารถให้การทำงานของเขา  ซึ่งไม่แพ้พี่ชายเขาเลยก็ว่าได้

     

    ผมเดินเข้าตัวบ้านพร้อมกับคิดเรื่องโครงการของคุณเน็ตที่ต้องการทำ

    ซึ่งผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำโครงการให้กับสังคม

    ผมไม่เคยนึกเลยว่าคนนิสัยขี้เล่นอย่างเขา จะคิดถึงคนอื่นได้.....แต่พอผมเริ่มช่วยเขา

    ทำให้ผมเห็นทัศนคติในการดำเนินชีวิตของเขามากขึ้น......และผมก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า

    ทำไมคุณคริสถึงยังปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยที่ไม่มีคุณเน็ตมาทำงาน.....

    ผมรู้ว่าคนเราไม่เหมือนกัน ทั้งนิสัย  และท่าทาง 

    แต่ถ้าเราพยายามองเขาให้เห็นถึงจิตใจ  แม้จะต้องใช้เวลานาน แต่ก็คุ้มที่จะมอง

     

    ++++++++++++++++

    “อลิซ  นายจะทำยังไง.........”  ผมพูดกับตัวเอง

    ช่วงนี้ความคิดผม......มันวุ่นวายอยู่กับคุณเน็ต .....อาจเป็นเพราะนิสัยที่ไม่ดีของผมก็ได้ ที่ชอบมากวนใจ

    ผมอยากเป็นคนปกติ  ผมไม่ต้องการเสน่ห์บ้าบอที่ทำให้ใครต่อใครมารุมล้อม

    ผมอยากมีความรัก  และอยากรักเขา  รักที่เป็นตัวผม ไม่ใช้เสน่ห์ที่พ่วยพุ่งออกมาก

    ผมรู้ตัวดีครับว่า ฟีเรโมน* ในร่างกายผมมันเยอะ  จะเรียกว่าเป็นโรคก็ได้  (ขออธิบายนิดนึง: พี โร โมน คือ สารธรรมชาติ ที่ ร่างกายมนุษย์ ผลิตขึ้นมา จากการศึกษา การใช้ชีวิตของสัตว์โลก สารฟีโรโมน ได้มีบทบาทเป็นอย่างมากต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสังคม และมีบทบาทที่สำคัญต่อ การใช้ชีวิตคู่)

    เพราะใครที่อยู่รอบๆ ตัวผมมักจะคิดเรื่องแบบนั้นซะมากกว่า  ซึ่งผมพยายามปิดกั้นไม่ให้มันออกมา

    ผมเคยไปหาหมอมาด้วย  เพราะไอฟีเรโมนบ้าๆ เนี้ย  แต่หมอบอกว่ามันเกิดจากสารเคมีในร่างกายผมมีมากผิดปกติ

    ซึ่งผมก็งงๆ  และแปลกใจว่ามันมีโรคฟีเรโมน ด้วยหรอ  แต่หมอก็บอกว่ามันเป็นเสน่ห์ที่เราสามารถควบคุมได้

    เพียงแต่เราต้องรู้จักควบคุมมัน

    สมัยผมเด็กๆ ก็มีนะครับ.....แต่เหมือนกับว่ายิ่งโตก็ยิ่งมีมากขึ้น 

    ช่วงที่เรียนมหาลัยผมก็แทบแย่ เพราะไอโรคบ้านี้แหละครับ ทั้งเพื่อนหญิง เพื่อนชาย ............

    แต่ไม่ถึงกับทำอะไรบ้าๆๆ  จนผมเริ่มทำงานนั้นและครับ.ที่เห็นว่าจะแรงขึ้นเรื่อยๆ.......

    +++++++++++++++++++++

     

     

    “อลิซพรุ่งนี้ผมจะลา กลับไปเยี่ยมพี่คริสหน่อยนะ...”

    “ครับ  ตอนนี้คุณเคลีย์งานต่างๆ เรียบร้อยแล้วครับ...ผมฝากความคิดถึงให้คุณคริสด้วยนะครับ..”

    “อือ....แล้วผมจะบอกให้...”

     

    ตืด.......ตืด

    “ว่าไงมาร์.........”

    “มีแขกมาขอพบครับ....แขกไม่ได้นัดไว้ บอกว่าเป็นเพื่อนคุณนะ...”

    “เชิญเข้ามาแล้วกัน.......”     “ครับ.....”

     

    มาร์กเดินเข้ามาพร้อมกับฉีกทางให้กับคนที่บอกว่าเป็นเพื่อน

    “เฮ้..แม็ก...มาได้ไง......”  ผมแปลกใจที่เห็นเขา  เพราะเขาไม่ได้อาศัยอยู่เมืองนี้

    “อือ...มาทำธุระนะ  เลยแวะมาเยี่ยม...”  ผมเชิญเขานั่ง

    “โห้...เน็ต เดี๋ยวนี่คุณกลับตัวกลับใจมาทำงานแล้วหรอ....”

    5555 แหม ผมก็คิดได้เหมือนกันนะแม็ก”

    “ก็ผมเห็นเมื่อก่อน........มานั่งโอดควญกับผมเรื่องความรับผิดชอบอยู่เลย....”

    แม็กเคยเป็นเพื่อสมัยเที่ยวของผมครับ  เขาเป็นเกย์ขนานแท้ แม้บุคลิกภายนอกจะดูไม่ใช่ก็ตาม

    ผมเคยเพิ่มประสบการณ์ตัวเองกับเขา ครั้งหนึ่ง............... ซึ่งผมว่าเราทั้งคู่พอใจที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า

    ดังนี้ความสัมพันธ์ของเราเลยสนิทสนมกันครับ..........

    “ห้องนายนี่กว้างนะเนี้ย.......มีเลขาส่วนตัวด้วย...”  ผมเห็นเขาหลิ่วตาให้กับอลิซ ซึ่งทำท่าเหมือนไม่ได้ยิน

    “อือ.....ก็นิดหน่อยนะ...แต่นั้นเลขาประธานว่ะ....”

    “อ้าวแล้วนายไปเอามาได้ไง..”  ดูเหมือนเขาจะงงนิดหน่อย

    “อ้อ เรื่องมันยาวนะ...ไว้ค่อยเล่า....เย็นนี้นายว่างเปล่า...”

    “โห้...นายจะชวนเราเที่ยวอะดิ.....หรือว่ากำลังครึมๆๆ อยู่...555”  ผมมองหน้าแม๊ก ก่อนที่จะแอบมองอลิซ

    ซึ่งเห็นจ้องหน้าผมก่อนจะก้มหน้าลงทำงานตามเดิน

    “เปล่า ๆ  ตกลงนายว่างไหม....ฉันจะไม่อยู่ซักพักอ่ะ  ว่าจะพาเที่ยวนั้นแหละ.....”

    “อือ....เราก็ไม่ได้อยู่นานหรอ อีก วัน 2 วันก็ต้องกลับเหมือนกัน เดี๋ยวที่รักจะบ่นนะ....”

    “อือ...ดีแล้ว.....”    “แต่ถ้านายว้าเหว่  เราช่วยได้นะเห่ย........”  เจ้าแม็กนี่เป็นคนเสียงดังจริงๆ ครับ พูดได้ไม่เกรงใจคนในห้องเลย มันจะรู้ไหมว่าผมจะลำบากแค่ไหน

    “เปลี่ยนเรื่องๆ  .........”  ผมจะพยายามพาไอคุณแม็กเปลี่ยนเรื่อง และถามสารทุกข์สุขดิบนะครับ  แต่สายตาผมก็พยายามสังเกตอลิซ ไปด้วยเช่นกัน

    ซึ่งผมเริ่มรู้สึกเป็นรางสังหรณ์ (ร้องเพลงซะเลย)  ก็ไอคุณแม็กมันประสาทไวนะครับ  และชอบแกล้งเป็นที่สุด 

    สุดท้ายก่อนกลับ ผมก็โดนกอดจูบโดยไอคุณแม็กไปรอบหนึ่ง  ก่อนที่จะsay bey

    ผมอึ้ง  อลิซอึ้ง.....ส่วนต้นเหตุได้แต่อมยิ้มแบบมีเลศนัย.....เห้ย..กูไม่หน้าคบมันเป็นเพื่อนเลย....

     

    คืนนั้นผมกับมันก็ซดเหล้ากันไปตามระเบียบก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน....

    และผมก็หายไปจากบริษัท เกือบอาทิตย์  เพื่อมาเยี่ยม พี่คริส ป้าแอน....กับพยาบาลทีชื่อมิคกี้  หรือก็คือมิคนั้นแหละครับ (ผมมารู้ที่หลังว่าเป็นผู้ชายครับ หลังจากแซวพี่คริสทางโทรศัพท์ไปตั้งนาน)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×