คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอน5
“ที่รัก...........” ผมเรียกอลิซที่ยังก้มหน้าก็ตาพิมพ์งานอยู่ในห้องทำงานอยู่
“อย่าเรียก...เงียบไปเลยไอคำนี้นะ...” เขาเงยหน้าขึ้นมาต่อว่า และกลับไปพิมพ์งานเหมือนเดิม
หลังจากที่เราเรียบร้อยกันแล้ว เขาก็จะพยายามหนีกลับบ้านลูกเดียว
เมื่อคืนวานเลยต้องมัดเอาไว้ แต่ไม่ได้ใช้เชือกนะครับ ก็มัดด้วยแขนผมนี่แหละ
สุดท้ายเหมือนจะสู้แรงไม่ไหว เลยหลับไปอีกรอบ จนถึงเช้านั้นแหละ
ผมอุตสาห์บอกว่าไม่ต้องมาทำงาน ให้พักผ่อน เขาก็ไม่ยอมเชื่อ ยังแบกสังขารตัวเองมาเลย
ผมว่าต้องนี้ต้องปวดเมื่อยแน่นๆ ก็ตั้งแต่เช้ายังไม่ยอมลุกไปไหนเลยสงสัยคงไม่ไหวจริงๆ
แต่เพราะพนักงานดีเด่นค้ำหัวไว้มั่ง เลยต้องมาทำตัวเป็นแบบอย่าง ประมาณ ว่า ไม่เคย ขาด ลา มาสายอ่ะ
แต่สีหน้าก็บอกว่าเหนื่อยเต็มทีแหละ ดีนะที่ให้มาอยู่ในห้องตั้งแต่แรก ไม่งั้นอาการคงแย่กว่านี้
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ เหมือนเห็นอาการเหนื่อยล้า ของอลิซ
แค่ตั้งใจว่าจะไปบีบนวดให้ ซะหน่อย ........ ผมเลยเดินไปอยู่ที่ด้านหลังเขาซึ่งตอนนี้
ก็ยังตั้งใจทำงานอยู่แม้สภาพไม่อำนวย
“อืม.........อืม.......อ๊ะ ทำไรนะ ปล่อยผมนะ..” มือผมที่นวดบริเวณไหล่เขา เหมือนทำให้คลายปวดได้ แต่เมื่อรู้ตัวก็โดนเอ็ดให้เอามือออกไป
“อะไรกัน.....ที่รักจะรักเกียจผมซะขนาดนั้น...เมื่อคืนเรายังสนุกกันอยู่เลย...” ผมยิ้มด้วยใบหน้าเหี้ยมๆ เหมือนจะทำให้เขาลำบากใจ
ผมไม่รู้ว่าเขาจำได้หรือเปล่าว่าตัวเองทำอะไรไปมั่ง แต่จากท่าทางเหมือนจะจำได้ลางๆ
เพราะตอนนี้ดูหน้าเขา จะมีเลือดฟาดขึ้นเล็กน้อย
“คุณอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาพูดในที่ทำงานนะ...และผมได้ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย...เลิกความคิดบ้าๆ ของคุณได้แล้ว..”
“เหอะๆๆๆ ว่าความคิดผมบ้า........แต่คุณก็คิดไปถึงไหนๆๆ แล้วซิ เพราะหน้าคุณตอนนี้มันยั่วอารมณ์ผมมาก”
“ผมบอกให้หยุด...........ไอวายร้าย....” ผมเผลอหลุดปาก ว่าคุณเน็ตไปทั้งที่ไม่ได้คิดแบบนั้น
“คุณว่าผมว่าวายร้าย ..แต่คุณยังไม่เคยเห็นของจริงละซิ....ตอนนี้คุณจะได้เห็นว่าไอวายร้ายอย่างผมจะทำอะไรได้มั่ง...”
ผมไม่พูดเปล่า แต่ก้มลงไปประทับจูบที่ต้นคอของเขา พร้อมทำเครื่องหมายเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“โอ้ย..ปล่อย ผมเจ็บ..” เพียงเพราะเขาไม่คอยอ่อนลงให้ผม เลยอยากให้รู้สึกมั่งเท่านั้น
ทำอยู่สักพักจนรู้สึกว่าเหมือนได้กินเลือดติดออกมากับลิ้ม ทำให้ผมรู้สึกตัว
และก็สร้างรอยไว้ที่ต้นคอของอลิซได้ด้วยเช่นกัน เป็นรอยจ้ำแดงๆ
ที่มองเห็นชัดเพราะอยู่ตรงซอกคอที่ปกคอเสื้อไม่สามารถปกปิดได้
เหมือนเห็น ผมถึงกับตัวแข็งและโกรธตัวเองที่ทำแบบให้กับเขา เพราะการแสดงให้คนอื่นเป็นรอยสวาทแบบนั้น
เป็นเหมือนกันไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย และถ้าใครเห็นคงเป็นการไม่ดีสำหรับเขาแน่น
+++++++++++++++++++++++
ปัง!!!!! ที่เสียงตบโต๊ะคุณเน็ต พร้อมของบนโต๊ะสั่นสะเทือนไปด้วย รวมทั้งตัวของผมเองก็เหมือนกัน
เขาเริ่มทำให้ผมรู้สึกกลัวที่อยู่ใกล้ เพราะผมเหมือนจะควบคุมคุณเน็ตไม่ได้เมื่อเขาเข้ามาใกล้
เมื่อก่อนก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน
ก่อนที่ผมจะมาทำงานที่นี้ ผมก็มีหน้าที่ในการเป็นผู้ช่วยให้กับผู้จัดการ
แต่..ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เขาดูจะยุ่งยามกับตัวผม.....จนครั้งหนึ่งถึงขั้นเรียกทำให้ทำงานที่บ้านแทนที่บริษัท
เพื่อจะพยายามข่มขืมผม....ดีที่ผมหนีมาได้
และผมก็ได้มาสมัครบริษัทเพื่อนคุณคริส ซึ่งผมก็พยายามทำให้ตัวเองไม่เป็นที่สนใจของใครมากนั้น
ผมไม่อยากซ้ำรอยกับที่เดิม จะก็ไม่วายมีคนมาจ๊อแจ๊ะ
แต่ก็ได้เพื่อนคุณคริสมาช่วยเหลือ และฝากให้ผมได้ทำงานที่บริษัทแห่งนี้
ผมดีใจที่เจ้านายใหม่ผมไม่ได้มีความคิดแบบนั้น มันทำให้ผมสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
แต่ผมดันมาพลาดท่าให้กับน้อยชายเขาซะได้.......
วันนี้ทั้งวัตั้งแต่เราทะเลาะกันคุณเน็ตก็เดินออกจากห้องและไม่ได้เข้ามาอีกเลย
ซึ่งสามารถทำให้ผมมีสมาธิมากขึ้น แม้อาการปวดเกร็งจะยังมีอยู่ แต่ก็ไม่ได้หนักหนา
ผมก็กำลังเก็บเอกสารและเคลีย์โต๊ะทำงาน ตั้งใจจะรีบกลับบ้านไปพักซะหน่อย
เพราะก็เลยเวลาเลิกงานมาเยอะแล้ว ปกติผมเป็นคนรักษาเวลา
แต่วันนี้สมาธิผมไม่ค่อยดี เลยทำงานตามตารางที่ตัวเองตั้งไว้ไม่ทัน ต้องอยู่ทำจนเสร็จ
ผมเดินมาทางเดินจะลงลิฟท์ เพื่อนั่งรถกลับบ้าน แต่ก็ต้องมายืนหลบ
เพราะเจ้าวายร้าย ดันออกมาจะลิฟท์พอดี.....ดีที่ผมได้ยินเสียง เพราะไม่อยากเห็นหน้าเลยหลบ
กะว่าให้เข้าห้องทำงานก่อนแล้วคล่อยลงลิฟท์กลับบ้านตัวเอง
ผมได้ยินเสียงปิดประตูตามหลังเจ้านายกำมะลอ ...จึงตันสินใจเดินออกมาที่จะหลบภัยชั่วคราว
และลงลิฟท์กับบ้าน............ระหว่างรอลิฟท์ สายมาร์กโทรเข้ามาหาพอดี
“มีอะไรหรือเปล่า............” ผมถามขึ้นเมื่อรับสายจากเพื่อนร่วมงาน
“เปล่า ผมเป็นห่วงนะ เลยโทรมาถาม.............”
กริ่ง เสียงลิฟท์ที่มาถึงชั้นของผม ผมก้าวเข้าไปอยู่ในลิฟท์พร้อมทั้งกดเลขชั้นที่ต้องการ
กืก....เสียงลิฟท์ปิด และเปิดขึ้นในคราวเดียวกัน
ชายที่ยืนอยู่หน้าที่ส่งสายตาให้ผม พร้อมทั้งเดินเข้ามาให้ลิฟท์
และจู่โจมผมแบบไม่ทันตัวตัว
“อลิซ....อลิซ...” เสียงในสายโทรถามเมื่อไม่ได้ยินผมตอบกลับ
“อือ.....ผมอยู่ให้ลิฟท์ อึก...สัญญาณไม่ดีแค่นี้นะ..”
ผมรีบวางสายก่อนที่จะได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ
“คุณเน็ตปล่อยผม.......” มือเขายังสาระวนอยู่กับแผ่นหลังผม และใบหน้าเขาก็ยังอยู่ที่ซอกคอผม
“คุณเน็ตปล่อย..........” ผมพยายามดันเขาออกไปเพื่อให้เกิดระยะห่าง เพื่อจะได้มีเนื้อที่หายใจมากขึ้น
“ไงคุณกระต่ายน้อย..หลบผมอยู่หรอ...”
“เปล่า ผมกำลังกับบ้าน..”
“ผมจำไม่ได้ว่าเดินสวนคุณเมื่อกี้นะ...”
“....................................”
ผมเขาเข้ามาตะปบที่ก้นผมและบีบ เหมือนพยายามให้ผมตอบให้ได้
ซึ่งมันทำให้ผมเจ็บจี๊ดที่ร่องก้น เพราะ..............
“ผมเจ็บ ปล่อย........”
ผมหมดแรงจริงๆ จนต้องเกาะเสื้อเขาไว้ เพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ลงไม่กองอยู่หว่างขาเขา
หน้าผมแดง และหอบหายใจถี่ขึ้น.....ผมรู้สึกว่าตัวเองร้อนขึ้นไม่แบบไม่มีสาเหตุ
กริ่ง เสียงลิทฟ์ที่ลงมาถึงด้านล่าง พร้อมประตูลิฟท์ที่เปิดออก
ทำให้ผมหมดแรงทรุดฮวบลงไปจริง แต่คุณเน็ตก็ช้อนตัวผมอุ้มแล้วเดินออกนอกลิฟท์
“ประธาน คุณเลขาเป็นอะไรหรือเปล่าครับ...” เสียงยามที่เดินเข้ามา
“เขาไม่สบายนะ...เดี๋ยวผมจะพากลับบ้าน..”
“ครับ..” เสียงยาม พร้อมทำท่าทำความเคารพก่อนจะกลับไปทำงานตามเดิม
“ปล่อย...ผม...” เสียงขาดชั่วเป็นระยะๆ เพราะผมหายจะไม่ทัน
“อย่าดื้อ ..อลิซ....ไม่รู้หรอว่าตัวร้อนนะ...” ผมไม่คิดว่าตัวเองจะไม่สบายจริงๆ
แต่สงสัยผมคงต้องยอมรับความช่วยเหลือจริงๆ ผมเหนื่อยและอยากนอนพักมากๆ
ผมหลับมาในรถของคุณเน็ต อากาศเย็นในร้อนทำให้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้น
ผมลืมตามองทางที่รถวิ่ง “คุณจะพาผมกลับบ้านใช่ไหม”
“อืม จะพากลับบ้าน....แต่บ้านผมนะ....”
ผมได้ฟังยินสิ่งที่เขาพูด แต่ก็เถียงไม่ไหว เพราะสภาพร่างกายและจิตใจไม่พร้อม
ทำให้นั่งหลับตา และรอคอยให้รถถึงบ้านเร็ว เพื่อที่จะได้หลับจริงๆ ซักที
ผมถูกอุ้มลงจากรถและพาเขามาในห้องของคุณเน็ต พร้อมทั้งได้รับการเช็ดตัวโดยคุณเน็ต
“สบายขึ้นไหม...” “ครับ...ขอบคุณ...”
รอยยิ้มของคุณเน็ตที่ผมเห็นสวยจริงๆ ผมหลับเพราะยาลดไข้ที่เขากรอกลงที่ปากของผม
“กระต่ายหมดฤทธิ์ เพราะฤทธิ์ไข้นี้เอง......หลับซะ...”
“เน็ต.......” เสียงแรกเมื่อผมนั่งทำงานอยู่ในห้อง....ผมรู้ว่านั้นไม่ใช่อลิซ เพราะน้ำเสียงที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นคนเดียวกัน
“อลิซ...ดีขึ้นยัง....”
“อืม...ดีขึ้นไว้......”
“แล้วอีกคนคุณเอาไปไว้ไหนซะแหละ”
“อลิซหรอ....ก็อยู่ในผมนี้แหละ....ทำไมอยู่อยากคุยกับอลิซอีกคนหรอ”
“สำหรับผมคุณทั้งสองก็เป็นคนเดียวกันนั้นแหละ”
“ใช่ผมเป็นคนเดียวกันจริงๆ แต่เพราะอลิซไม่ยอมรับผม ที่เป็นแบบ ที่คุณรู้จัก .เขาเลยพยายามที่จะลืม..”
“ทำไมเขาถึงอยากลืมแหละ...”
“แล้วคุณคิดว่าอลิซใส่แว่นตาตลอดเพราะอะไรแหละ ก็เพราะหน้าตาตอนไม่ใส่มันยั่วอารมณ์คุณมากใช่ไหม”
“มันก็ใช้....” ผมยอมรับความจริง
“คุณมานั่งนี้ซิ แล้วผมจะเล่าให้ฟังถึงตัวผมในสมัยก่อน....” ผมเดินเข้าไปนั่งใกล้เขาซึ่งลุกขึ้นมาพิงหมอนอยู่
“คุณเหนื่อยไหม.........”
อลิซส่ายหน้านิด “เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้แว่นหรอก.........แต่เพราะคนรอบข้างที่ผมทำงานด้วย เขาคิดไม่ซื่อคอยแต่พยายามแสดงอารมณ์ใคร่ หรือไม่ใช้กำลังบ้าง แต่ผมก็เอาตัวรอดมาได้ จนครั้งหนึ่ง ผมเกือบเสร็จแล้ว และผมก็ได้ยินเขาพูดว่าเพราะหน้าผมมันยั่วเขาจริงๆ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย.....ผมเลยต๋อยมันแล้วหนีมา
ผมเคยคิดว่าหน้าผมมันมีปัญหาอะไรนัก ผมเลยเริ่มที่จะใส่แว่นเพื่อบังสายตาและใบหน้าตัวเอง พร้อมทั้งเปลี่ยนบุคลิกให้ดูหน้ากลัวขึ้น เพื่อที่จะป้องกันตัวเอง จนผมได้มาทำงานที่บริษัทเพื่อนคุณคริส......ตอนแรกผมคิดว่าถูกอย่างถูกต้องแล้ว ผมสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ และไม่มีใครที่จะมาทำรุ่มร่ามกับผมอีก แต่นั้นก็ผิดถนัด เพราะนานไปผู้จัดการเลว มันก็พยายามหาช่องทางจนได้ จนอลิซเริ่มที่จะทิ้งผม เขาพยายามลืมส่วนที่เป็นเค้าอีกครึ่ง และผมก็เริ่มที่จะลืมตัวเองไปแล้วเหมือนกัน ที่จริงแม้ว่าอลิซจะใส่แว่นผมก็ยังอยู่กับเขา ผมเห็นคุณเสมอเน็ต....แต่อลิซก็จะพยายามที่จะไม่คิดถึงสิ่งเหล่านี้......”
ผมทำได้แค่กอดเขาได้แน่น แม้มือของผมจะเขี่ยเล่นที่บนใบหน้าของอลิซ
“เน็ตคุณเป็นคนแรกที่ทำให้ผมตื่นรู้ไหม.....”
“เหอะๆๆ ฉันเป็นคนปลุกเธอที่เร่าร้อนหรอ กระต่ายน้อย”
“อืม.........” เขายอมรับแต่โดยดี อลิซคนนี้เป็นคนที่พูดตรงตามความรู้สึกของตัวเอง และนั้นก็เป็นเสน่ห์อีกแบบ
ของอลิซด้วยเช่นกัน
ถ้าผมทำได้ผมอยากให้ทั้งสอง รวมเป็นคนเดียวกันและกลายเป็นอลิซที่ผมรัก.......
“อลิซ คุณบอกว่าคุณก็เห็นผมแม้ตอนที่อลิซใส่แว่นหรอ...”
“ใช่...แต่ผมก็รู้ว่านั้นก็เป็นผมเช่นกัน และผมก็ให้เกียติตัวผมเองในเวลาทำงานนะ....”
“ถ้างั้นอลิซอีกคนก็ต้องอยู่ด้วยในตอนนี้สิ....” ผมชี้ไปที่ตัวของอลิซ
“อืม........เพียงแต่ถ้าเขาตั้งใจฟังนะ....”
ผมก้มลงจูบอลิซที่ริมฝีปากซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี
แต่ผมรู้ว่าตอนนี้เขาไม่พร้อม “ผมฝากบอกอลิซตอนใส่แว่นด้วย ว่า ผมขอโทษสำหรับเมื่อเช้า แต่ผมก็ไม่รับปากว่าจะไม่ทำอีก...”
ผมขยับที่ให้ตัวเองและอลิซนอน เพื่อพักผ่อนอีกครั้ง เพราะครั้งนี้โอบกอดของผมจะปกป้องเขาได้เอง
ความคิดเห็น