คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอน5
“คริสจ๊ะ.....มิคตื่นแล้ว...เข้าไปดูหน่อยไหม...”
ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ...และพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
หมอให้มิคพักและอย่าขยับเขยื้อนมากนัก พร้อมทั้งให้ยาแก้ไข้ บรรเทาปวด ยาทาแก้ช้ำ แก้อักเสบอีกมากมาย
ซึ่งทุกอย่างเป็นเพราะน้ำมือผมทั้งนั้น...............
ผมกล้าๆ กลัวที่จะเดินเข้าไปในห้อง ซึ่งมันก็เป็นห้องของผม บ้านของผม แต่มีบางอย่างเกาะกินใจผมอยู่
ผมเดินเข้ามาได้สักพัก ก็ต้องหยุดลังเลว่าจะเดินต่อ หรือหันหลังกลับดี
“คุณคริส...เดินตรงมาอีกนิดก็ถึงเตียงแล้วครับ...” นั้นเป็นเสียงของมิคแน่นอน และคำพูดเขาดูอ่อนล้าเหลือเกิน
ผมจึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปนั่งใกล้เขา ซึ่งนอนอยู่บนเตียง
“มิค...ผมรู้มาจากแม่ และป้าโรสแล้ว........ผม.........ผม...”
“คุณอย่าพูดถึงมันอีกเลย......คิดซะว่าผมมันโชคร้ายดีกว่า....”
“แต่.........ว่า....”
“ไม่ใช้ว่าผมไม่โกรธคุณหรอกนะ ......ผมอยากนอน.....”
ผมนั่วอยู่ตรงนั้นจนได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ อจึงตัดสินใจเดินออกไป ปล่อยให้เขาได้พักผ่อน.....
++++++++++++
ผมพยายามหายใจให้สม่ำเสมอ แต่สายตาผมก็ยังที่จับจ้องใบหน้าที่เขาแสดงออกมา
เขาคงไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าแสดงสีหน้าอะไรออกมาบ้าง ซึ่งผมยอมรับว่าโกรธและกลัวจริง
แต่สีหน้าที่ผมได้เห็นนั้น ทำให้ความรู้สึกของผมดีขึ้น
.........เมื่อกว่าตอนที่อาศัยอยู่กับพ่อ เวลาท่านเมา ผมมักจะโดนทำร้ายโดยไม่ทราบสาเหตุ...แม้ว่าตอนเด็กจะเป็นเพียงแค่ไม้เรียว แต่ยิ่งโตขึ้นออการถูกทำร้ายก็ยิ่งหนักขึ้นเช่นกัน
ชีวิตผมมันอาจดูมืดมน แต่ผมก็ไม่เคยทำให้ตัวเองต้องตกไปกลับสิ่งเลวร้ายที่สังคมเมืองเป็นอยู่
ผมเข้าเรียนโรงเรียนที่ฝึกการเป็นผู้ช่วยพยาบาล
เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือท่านเมื่อท่านเริ่มแก่ตัวและเป็นอาชีพที่ทำเงินได้ในเวลานั้น.........
...แต่ช่วงเวลาที่ท่านจากไปผมเริ่มไร้จุดมุ่งหมายในชีวิต จนได้ครอบครัวป้าแอนนี่แหละ ที่ทำให้ชีวิตผมมีความหมายขึ้น
ผมได้ดูแลคุณคริส....แม้ช่วงแรกๆๆ จะเป็นการยาก....แต่เมื่อเขาเปิดใจมากขึ้นทำให้ผมเห็นใจและเข้าใจเขาจริงๆ....
ผมจำคำสัญญาที่ผมได้บอกเขาได้
............ผมจะอยู่กลับคุณจนคุณหายเป็นปกติ หรือก็ไปต่อเมื่อคุณไม่ต้องการผมแล้ว....... ผมไม่รู้ว่าทำไมผมต้องรักษาสัญญานี่ด้วย ในเมื่อเขาทำร้าย.........แต่ในใจอีกครึ่งก็บอกว่า ผมยังไม่สามารถทิ้งเขาไว้ได้ในตอนนี้.....
ผมจะทำอย่างไงดี........
ก๊อกๆๆ “ป้าเองจ๊ะ...มิค..”
“เชิญครับ............”
ป้าแอนเดินเข้ามาพร้อมถาดนมในมือ.............
“มิค....ป้ารู้ว่าหนูยังไม่หลับ.....เลยเอานมอุ่นๆ มาให้...”
“แล้ว.....คุณ..” “คริสนะหรือจ๊ะ....ป้าให้โรส พาคริสไปพักอีกห้องแล้วจ๊ะ....”
ผมรับแก้วนมมาจากป้าแอน... “ขอบคุณครับ”
“ที่จริงมันเป็นความผิดของป้าเองแหละ....ถ้าป้าเพียงแต่ใจกล้า บอกความจริงคริสเขาตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด...”
“ไม่ใช่ความผิดป้าแอนหรอครับ...ผมก็ผิดเช่นกัน....”
“มิคจ๊ะ....มิคจะยกโทษให้คริสได้ไหม....” เธอรอคำตอบผม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า ผมต้องยกโทษให้เขา หรือให้เขายกโทษให้ผมกันแน่............
“มิครู้ไหม..คริสเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่....ป้ารู้ได้เพราะเขาเป็นลูกป้า....” ผมปล่อยให้ป้าแอนเล่าโดยที่ผมไม่ขัด
“....คริสนะ..แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยแคร์ใครเลย...ตอนที่ตาเขายังดีๆ มีผู้หญิงมากมายเข้ามาหาเขา ถึงเขาจะรักผู้หญิงเล่านั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใด แต่เวลาที่เธอโกหกเขา คริสไม่เคยมีอารมณ์หึงหวงเช่นนี้ เขาจะปล่อยเธอเหล่านั้นไปอย่างไม่ใยดีด้วยซ้ำ...........” ผมพยายามฟังเหตุผลที่ยังไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับผมตรงไหน
“.....ป้าพอจะเดาได้นะว่าทำไมเขาถึงเกิดอาการแบบนั้น.........เขาคงน้อยใจที่มิคโกหก ซึ่งป้าเองก็มีส่วน.....แต่มิครู้ไหม ยิ่งเขารักใครมากเท่าใด เขาก็ยิ่งอยากให้คนๆ นั้นซื่อสัตย์กับเขาเท่านั้น...ยิ่งให้เวลาแบบนี้....”
“แต่ผมเป็นผู้ชาย...ไม่มีใครที่จะมารักผู้ชายด้วยกันหรอกครับป้าแอน...” ผมพูดย้ำถึงเพศของตัวเอง
“....ป้ารักหนูนะมิคและถ้าคริสกับมิคจะรักกันป้าก็จะดีใจมาก........แต่มิคลองนึกสิจ๊ะ....ว่าคริสมองมิคไม่เห็น....แต่สิ่งที่เขาเห็นผู้หัวใจของมิคต่างหาก.....ป้าพอจะรู้จะว่าคริสนะ รักมิคมากแค่ไหน.....”
“ร...รัก...หรอครับ....” ผมพยายามทบทวน คำว่ารักที่ป้าแอนพูด
“มิค...ป้าไม่ได้เพราะคริสเป็นลูกป้า......แต่ป้าอยากพูดให้หนูเข้าใจเขามากขึ้นอีกนิด...”
“ ...ครับ...”
“ถ้าไงหนูลองเอาคำพูดไปไปคิดก่อนก็ได้นะ...........” ป้าแอนยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและกอดผมด้วยอ้อมแขนที่ให้กำลังใจ เหมือนแม่ที่จะปลอบประโลมยามเมื่อเขาอ่อนแอ ทำให้น้ำใสๆ เกิดขึ้นที่เบ้าตาโดยไม่รู้ตัว.........
“ป้าคงพูดเยอะไปหน่อย...หนูคงเหนื่อยแล้วจริงๆ....นั้นนอนเถอะจ๊ะ......” พูดพร้อมกับให้นิ้วเช็ดน้ำตาที่เกือบล้นออกมา
แล้วเธอก็เดินออกจากห้องไป.........
อ้อมกอดของป้าแอนเหมือนมนต์สะกดให้ผมให้ได้ดีทีเดียว...........ผมนอนหลับและฝันถึงอ้อมกอดของแม่แม่ตอนผมยังเด็ก...........ซึ่งเป็นฝันที่ผมไม่อยากตื่นเลยจริง............เอ๊ะ...แม่ครับ แม่อย่าไป อยู่ภาพแม่ที่กอดผมก็ค่อยๆ จางหายไป
ผมเห็นพ่อยืนถือไม้เรียว....ผมจะพยายามวิ่งแต่มือยาวๆๆๆ ของเขาก็ตามหลัง.. “พ่ออย่าครับ...ผมผิดไปแล้ว”..... ไม้เรียวตีลงมาที่ผมแม้ผมจะไม่รู้สึกเจ็บและผมก็กลัวมาก.........ผมเห็นชายอีกคนวิ่งมาแล้วอุ้มผมหนีพ่อไป......เขาลูบหัวผม และเหมือนเขาจะเป่าให้แผลเหล่านั้นหายไป เขาทำท่าเหมือนจะชวนผมออกไปเล่นที่ไหนซักแห่ง...........เขาพาผมขึ้นเรือ.....แล้วอยู่ๆๆ เขาก็ค่อยๆๆ จางหายไปเหมือนแม่......อย่าทิ้งผมไว้.....ผมกลัว.........ผมพยามคว้าร่างที่ค่อยๆๆ หายไปนั้น....ปากก็พร่ำบอกว่าอย่าไป...อยู่กับผมก่อน.....ผมกลัว......และผมจะเห็นน้ำเป็นเหมือนมือคน ค่อยๆๆ คืบคลานเข้ามาหาผม.......ช่วยผมด้วย...อือ....ช่วยด้วย....อย่าทิ้งผมไว้........ผมกลัว.......อือ......
+++++++++++++
ผมเดินเข้ามาหามิคกลางดึกเพื่อดูว่าเขาเป็นไงบ้าง แต่เสียงหาห้องที่ดังลอดออกมา ทำให้ผมตกใจ
ผมเปิดประตูเข้าไป ได้ยินเสียง ......ช่วยด้วย...ช่วยด้วย...อย่าทิ้งผม......
เหมือนหัวใจผมจะตกไปอยู่ที่ตาตุ้มอีกครั้ง
ผมพาตัวเองไปหาไปหาเขา จะเขย่าเพื่อปลุกเขาให้ตื่นขึ้น.......
ผมรู้ว่าเขากำลังฝันร้าย และในฝันคงมีผมด้วยแน่นอน ดังนั้นรีบให้เขาตื่นเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี......
“มิค....มิค....ตื่นซิ...มิค” ผมเขย่าร่างนั้นอยู่สักพัก
“อือ..อือ...คุณอย่าทิ้งผมนะ...” นั้นเป็นคำพูดแรก ที่ผมได้ยินพร้อมกับแขนทั้งสองข้างโอบคอผมไว้
“..พี่ไม่ทิ้งเราหรอก....นิ่งๆ นะ โอ๋ๆ....” เหมือนเสียงผมที่กำลังปลอบใจอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดมาได้อย่างไง แต่ผมก็ปล่อยให้คำพูดออกมาตามธรรมชาติ
ใบหน้าเขาที่ซุกอยู่ที่ตรงซอกคอผม ทำให้ผมรู้ว่าอุณหภูมิในร่างกายเขาร้อน นั้นหมายถึงเขาเป็นไข้ และสมองก็บอกอีกว่าเป็นเพราะฝีมือผมเองอีกนั้นแหละ...........
คืนนี้ผมอาสาเฝ้าไข้มิค ซึ่งป้าโรสบอกว่าเดี๋ยวป้าจะเฝ้าเอง
ซึ่งผมคงไม่ยอม ในเมื่อผมบอกเขาเองว่าจะอยู่ด้วยและจะไม่ทิ้งไปไหน..................
+++++++++++
สามวันเต็มๆ ที่มิคยึดห้องของผม ซึ่งผมก็ต้องระเห็จออกไปอยู่ห้องอื่น
แต่ผมว่าก็ดีเหมือนกันเพราะเครื่องใช้ เสื้อผ้าก็ยังอยู่ที่เดิมเลยทำให้ผมมีโอกาสเข้ามาหามิคได้บ่อยๆ
โดยผมก็อ้างนู่นี้ไปเรื่อย ก็แค่อยากได้ยินเสียงบ้างก็เท่านั้น
สามวันที่ผ่านมาผมทุ่มเทดูแลเขาเต็มที่เช่นกัน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน
หลังจากวันนั้น เจ้าเน็ตก็มาเยี่ยมมิคมากขึ้น และเข้ามาคุยธุระเรื่องบริษัทกับผม
ผมดีใจนะที่เขายิ้มได้ ฟังจากน้ำเสียงสดใสขึ้นเยอะๆ
ทุกวันที่เน็ตเข้ามาที่บ้านก็มักจะหอบหิ้วของฝากมาให้มิคบ่อยๆๆ
จนบางครั้งผมก็อดหวงไม่ได้ ....อาจเป็นเพราะผมรู้ว่าเจ้าเน็ตมันเป็นคนแบบไหน....
“ป้าแอนครับ....วันนี้เน็ตว่าจะชวนมิคกับพี่คริส ออกไปขับรถเล่นนะ...”
นั่นเป็นเสียงที่เจ้าเน็ตกำลังออดอ้อนขออนุญาตพามิคออกไปเที่ยว
ผมได้ยินอยู่แต่ไกล ซึ่งตอนนี้มิคกำลังช่วยผมเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
“มิค...อยากไปไหมล่ะ...ได้ยินที่เจ้าเน็ตคุยกับแม่แล้วนิ” ผมถามอย่างอยากรู้
“...ผมต้องดูและคุณคริส....แต่ถ้าคุณจะไปผมก็จะไปเป็นเพื่อนครับ...”
“พี่คริส.......พี่คริส ผมจะมาพาพวกพี่ออกไปขับรถแล่น...ไปกับผมนะ....ไปเที่ยวกัน....” ตะโกนมาแต่ไกลเลยเสียง
พรึบ!!! เสียงเปิดประตู อย่าว่าแต่เคาะเลย เจ้าเน็ตไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นได้หรอกครับ
“พี่คริส มิค ไปขับรถเล่นกัน...”
“คุณคริสจะไปไหมครับ...”
“อ้อ....แล้วแต่มิคละกันยังไงวันนี้เราก็ว่าง...”
“คุณเน็ต นั้นขอผมเปลี่ยนชุดแป๊ปนะครับ..ส่วนคุณคริสเดี๋ยวผมกลับมารับ...” ว่าแล้วเสียงเดินของมิคก็หายไปจากห้อง
“พี่คริส...ผมได้ข่าวว่าแฟนพี่ประกาศจะกลับมาคืนดีกับพี่อ่ะ........พี่จะเอาไงต่อ...” เจ้าเน็ตกระซิบ
“....หรอ...พี่ไม่เห็นรู้เลย...”
“.........โห้พี่ไม่รู้ไร หล่อนประกาศว่าพี่ขอร้องให้เธอกลับมารักพี่...หล่อนยังบอกอีกว่า...พี่พร้อมแต่งงานกับเธอด้วย...”
ผมได้แต่ฟังข่าวซึ่งไร้สาระมากสำหรับผม จากปากเจ้าเน็ต
“....พี่ ถ้าพี่ไม่ตัดไฟแต่ต้นลม แล้วเรื่องมิคก็ยังไม่เคลียร์แบบนี้ ...ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้นะพี่....”
“.............................”
“แต่ถ้าพี่ยังคิดว่าจะกับไปคบกับหล่อน....ผมขอมิค...เหอะๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะก้องห้องและค่อยจางหายไป
จนผมรู้ว่าอยู่คนเดียวแล้ว
“ชิ.......เจ้าเน็ต แกอยากตายเร็วแน่ๆ.....” ผมคิด ............กว่ามิคจะกลับมาคุยได้ก็ลำบากแหละ......
แกยังจะเอาของๆๆ ฉันไปอีก.........อย่าหวังเลย......
ครั้งนี้ผมจริงจังมากกับเรื่องของมิค........และผมมีความคิดว่าจะลองเข้ารับการผ่าตัด เหมือนอย่างที่มิคชอบพูดเสมอ...
มิคเชื่อว่าผมต้องหาย ซึ่งผลออกมาแล้วไม่ใช่ ก็เป็นอะไรที่ยากจะยอมรับเช่นกัน.......และชีวิตตอนนี้ของผมก็เพียงพอแล้ว ถึงจะมองไม่เห็น แต่ได้คนรู้ใจมาอยู่ใกล้ๆ ผมก็พร้อมที่จะเดินบนทางที่มืดมิดนี้
+++++++++++
“มิคๆๆ มาดูเสื้อตัวนี้ดิ....สวยใช่ป่ะ...” หลังจากที่เขาขับรถเข้ามาให้ตัวเมืองแล้ว
เจ้าเน็ตก็อาสาพามิคไปช้อปปิ้งมันบอกผมว่า มันทนไม่ได้ที่จะเห็นมิคใส่แต่ชุดพยาบาล
มันให้เหตุผลว่า ทีนี่เป็นบ้าน ไม่ใช่โรงพยาบาล นะ การแต่ตัวก็ให้ดูสบายตาหน่อย...
ซึ่งผมไม่เคยคิดเลย เป็นเพราะเรื่องสายตาของผมก็ได้
สองคนนี้ดูสนิทสนมกันเร็วเป็นเพราะวัยที่ใกล้เคียงกันก็เป็นได้ ซึ่งอายุของผมก็มากกว่าเข้าทั้งสองเกือบครึ่งรอบ
ดังนั้นอะไรที่ทำให้เขาสบายใจผมก็อยากจะทำเช่นกัน
+++++++++++++
“มิค...มาดูเสื้อตัวนี้มะ..” เสียงคุณเน็ต เรียกให้ผมเดินเข้าร้านเสื้อ ซึ่งคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมคือคุณคริส
ผมเดาว่าคุณคริสคงลำบากใจที่ต้องมาเดินแบบนี้ แต่เขาก็ไม่พูดสักคำ....ยิ่งทำให้ผมเกรงใจเข้าไปใหญ่
“ไปสิมิค..เจ้าเน็ตเรียกนะ...” เขาส่งยิ้มเล็กๆ ให้ผม
ผมจึงเดินพาเขาเข้าร้านพร้อมกัน
“คุณเน็ตพอเถอะครับ....ผมว่าเราไปหาอะไรอร่อยๆ กินแทนดีกว่า ผมเมื่อยแหละ...”
คุณเน็ตมองหน้าผม และคุณคริสอย่างรู้ใจ
“นั้นเราไปหาอะไรอร่อยๆๆ กินกันดีกว่า...” ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินนำลิ่ว ไปยังร้านอาหารให้ละแวกนั้น
“รู้ไหมร้านนี้ขึ้นชื่อเลยน้า มีของอร่อยๆ เยอะด้วย...” คุณเน็ตบรรยายรายการอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านให้ฟัง
ร้านที่เราเดินเข้าเป็นร้านที่จัดได้ว่าหรูหราเลยครับ.....ถ้าเป็นผม คงไม่มีโอกาสเข้าร้านแบบนี้แน่นอน...
กระจกใสที่มองเห็นด้านนอกถูกทำเป็นผนังทุกด้าน แสงไฟสีส้มอ่อนช่วยทำให้สบายตา
เราสั่งอาหารโดยที่คุณเน็ตเป็นคนเลือกรายการ ซึ่งจัดได้ว่าเยอะไม่ใช่เล่น.......
“ผมขอตัวเข้าห้องน้ำสักครู่...” ผมขอตัวแล้วเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร
“พี่คริส....ผมเคยบอกพี่ยังว่ามิคอ่ะ หล่อ ไม่ๆๆ น่ารักมากกว่า....”
ผมทำหน้าดุๆ ใส่เจ้าเน็ต ซึ่งก็ไม่ทำให้มันเกรงกลัวได้
“พี่ๆ หน้ามิคเนี้ยเป็นแบบ จัสติน บีเวอร์ เลย...ยิ่งไว้ผมยาวได้ด้วยแล้ว น่ารักไปอีกแบบ...” ผมได้แต่นึกภาพก่อนที่ผมจะมองไม่เห็น ............ห๊ะ ...ผมยังตกใจเลย...ถ้าเค้าเหมือนจัสตินจริงๆ ผมว่าเจ้าเน็ตคงหลงเสน่ห์ไปแล้วแน่ๆ
“เน็ต.....อย่าทำให้มีอารมณ์ได้ป่ะ....” ผมบอกแบบเหี้ยมๆ
“อะไรพี่มีอารมณ์แล้วหรอ” “อารมณ์อยากฆ่าแกไง ไอน้องบ้า...”
“คุยอะไรกันครับเห็นน่าสนุกเชียว” เสียงที่แทรกขึ้นมากกลางวงทำให้เราสะดุด
“เปล่าๆๆ ผมเจ้าคุยกับพี่คริสเรื่องดารา นักร้องนะ มิครู้จักจัสติน บีเวอร์ป่ะ..”
“เออ ...ผมได้ค่อยได้ดูทีวีเท่าไหร่นะครับ....ขอโทษด้วย..”
“มิคอย่าฟังเรื่องไร้สาระจากเจ้าเน็ตเลย มันก็เลื่อนลอยแบบนี้ประจำแหละ...” ผมว่าสำทับเจ้าเน็ตอีกแรง
อาหารมือนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานที่เจ้าเน็ตสามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ดีทีเดียว
พลอยทำให้ผมกับมิคได้คุยกันมากขึ้นด้วย.....วันนี้ต้องขอบคุณเจ้าเน็ตแล้ว....
เรากลับมาถึงบ้านพร้อมกับถุงเสื้อผ้าที่มิคและเน็ตเป็นคนเลือก แต่เงินผม ซึ่งผมเต็มใจอย่างยิ่ง
“คุณคริสหลับยังครับ....”
“ยัง ...เข้ามาก่อนสิ...”
“เออ.....ผมเห็นเสื้อตัวหนึ่งเหมาะกับคุณนะครับ เลยเลือกมาด้วย...เออ....ถ้าไง....”
“เอามาใกล้ๆๆ สิ.......”
“ไม่รู้คุณจะชอบหรือเปล่า...เป็นสีฟ้าเข้ม.....”
เขาจับมือผมแล้วจูบที่หลังมือ “มิค....ขอบใจนะ...” หน้าผมแดงขึ้นมาทันที ซึ่งถ้าเขาเห็นหน้าผมคงแย่เหมือนกันเพราะผมรู้สึกเป็นจะเป็นไข้เมื่อเขาทำแบบนี้.....
“นั้นราตรีสวัสดิ์นะครับ.....” ผมกล่าวราตรีสวัสดิ์และเขย่งจุ๊บที่หน้าผาก ก่อนกลับไปนอนที่ห้อง...
ความคิดเห็น