คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอน4
หลังจากที่คุณเน็ตอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ซึ่งเป็นชุดที่ผมยังไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่เขามาทำงาน
วันนี้การแต่งตัวเขาดูสบายๆ กางเกงยีนส์ เสื้อยืด และรองเท้าผ้าใบ ซึ่งต่างจากผม
เพราะชุดที่ผมใส่ก็ยังคงไว้ซึ่งชุดทำงาน เพียงแต่ไม่มีสูทมาให้เกะกะ เท่านั้น
“อลิซป่ะ ผมพร้อมแล้ว.....อยากไปไหนเป็นพิเศษเปล่า” นั้นเป็นเสียงเรียกของคุณเน็ต
“ไม่ครับ ....วันนี้เป็นวันของคุณ ทำตามใจเถอะ...” เห็นเขาท่าทางกระดี๊กระด๊า ผมละอ่อนใจ เหมือนมาเฝ้าเด็กเลย
และก็เป็นอย่างที่คาดเพราะเขาก็จะสนใจไปทุกอย่างที่ผ่านหน้าเขา
ซึ่งทำให้ผมหลงตื่นเต้นตามเขาไปด้วย อาจเป็นเพราะผมก็ไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวบ่อยเช่นกัน
“อลิซ ...กินไอติมกัน...ผมอยากกินอ่ะ...” ระหว่างเดินอยู่เขาก็ชี้ไปที่ร้านไอศครีมที่อยู่ในศูนย์การค้า
พร้อมทั้งดึงมือผมให้ตามไป เราได้กินไอติมคนละแท่ง เดินกินเหมือนเด็กๆ ซึ่งทำให้ผมสนุกไปกับการเที่ยวเล่นครั้งนี้ด้วย
เราเดินดูเสื้อผ้าหลายร้าน ซึ่งแนวที่คุณเน็ตเลือก ออกจะแปลกๆ ตามสไตล์แก แต่พอใส่แล้วเขาก็ดูดีชะมัด
ซึ่งบางชุดผมยังอดอิจฉาไม่ได้ เพราะร่างกายที่สมส่วน แขนขายาวทำให้ใส่ชุดให้ก็ดูดีไปหมด
ซึ่งผิดกับผมที่เป็นคนผมไม่มีเนื้อหนังเท่าไหร่ ดังนั้นไซส์เสื้อที่ผมใส่ประจำคือ ไซส์ S ซะเป็นส่วนใหญ่
“คุณเน็ต ...ผมหิวแล้วอ่ะ พักกันก่อนไม่ไหม ตอนนี้ท้องร้องเสียงดังมาก........”
“ไปดิ...มีร้านอาหารอยู่แถวนี้แวะกินกัน..เสร็จแล้วไปดูหนังกัน.....”
“โห้...ยังไมเบื่ออีกหรอ....”
“ผมจะเบื่อทำไมอ่ะ .....สนุกดีออก ได้เห็นหน้าใครบางคนที่ยิ้มแล้วดูสวยกว่า ไม่ยิ้มอีก.....”
“คุณเน็ต.....” ผมดุออกไป ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองเผลอยิ้มจริงหรือเปล่า
“น่าๆๆ วันนี้ก็ปล่อยตัวสบายๆๆ เหอะ อย่าเครียดนักเลย...”
“คุณเน็ตผมอยากไปร้านหนึ่งอ่ะ อยู่ใกล้ ...เป็นร้านที่อร่อยมากๆ”
“จริงดิ...ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างคุณก็ชอบสรรหาของกินด้วย....”
......................... ผมได้แต่ทำตาดุใส่
“ปะๆๆ ผมไม่แกล้งแหละ พาไปดิ ผมเริ่มหิวเหมือนกัน.......” แล้วเขาก็จับมือผมพาเดินไปตามทางที่ผมบอกว่า
“อลิซร้านสวยดีนี้....บรรยากาศดีเลยที่เดียว...”
“เลิกชมร้าน..แล้วสั่งอาหารได้แล้วครับ ..ผมหิวแล้ว....”
“ งั้นคุณสั่งแล้วกัน เพื่อผมด้วย...เอาแบบเด็ดๆๆ นะ...”
“อ้าวไม่สั่งเองอ่ะ.....เกิดสั่งแล้วไม่ถูกใจ...”
“เอามาเถอะน้าน...ผมกินได้หมด..”
“ได้........แล้วอย่ามาว่าที่หลังแล้วกัน....” ผมไม่อยากบอกว่าร้านที่มาเป็นร้านอาหารไทยที่ขึ้นชื่อในระแวกนี้
และผมก็ชอบรสชาติของ ต้มยำกุ้งของที่นี้จริง เพราะมีทั้งรสเผ็ด รสเปรี้ยว ซึ่งกินแล้วเจริญอาหารจริงๆ
รายการอาหารต่างถูกสั่งมาตามความต้องการของผมทั้งสิ้น ทั้งต้มยำ ปลาทอด ยำรวม และส้มตำซึ่งเป็นอาหารอีกอย่างที่เป็นทีเด็ดของร้าน
อาหารต่างๆ ถูกเรียงรายลงบนโต๊ของเรารวมทั้งข้าวสวยร้อนๆ ที่ส่งกินหอมมา....
“อลิซคุณสั่งแล้ว จะกินหมดไหมเนี้ย...”
“ ก็มีคุณอยู่..ช่วยผมนี้ ........”
“เหอะๆ แล้วไปที่สั่งมันเรียกว่าอะไรบ้างอ่ะ....”
“ไอที่เป็นน้ำสีแดงๆ และมีกุ้งด้วย เรียกว่าต้มยำกุ้ง นั้นปลาทอด แล้วที่มีของหลายๆ อย่างรวมกัน เรียกว่ายำ สุดท้ายนั้นคือส้มตำ เป็นของขึ้นชื่อที่นี่เลยนะครับ...”
“โห้ คุณนี้รู้จริงนะเนี้ย เคยไปมาประเทศไทยมาหรอ....”
“ไม่หรอก แต่ผมชอบอาหารของเขานะ มันไม่เลี่ยนเหมือนบ้านเราดี..คุณลองชิมนี้สิ...” พร้อมทั้งตักน้ำต้มยำให้เขาชิม
“อืม อร่อยดีนะ...แต่เผ็ดเนอะ.....”
“เผ็ดๆๆ สิดี....คุณกินเผ็ดได้ไหม ทำจะได้สั่งไหม เพราะส่วนมากมันเผ็ด”
“กินได้......เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก......” ผมบอกอลิซไปทั้งที่ตัวเองกินเผ็ดไม่เก่งแต่ไม่อยากให้เสียฟอร์ม
สรุปอาหารมือนั้นมือก็ต้องฝืนกิน ที่จริงอาหารเขาอร่อยจริงๆ แต่ถ้าลดเผ็ดได้อีก ผมว่าผมต้องอร่อยกว่านี้แน่น
แต่ต้องนี้ท้องผมร้อนวาบเลยครับ เพราะความเผ็ดของอาหาร
เราเช็คบิล จ่ายเงิน และเดินออกนอกร้าน
“คุณเน็ตไหวไหมเนี้ย หน้าคุณแดงมากเลยนะ....”
“อ้อ....ไม่หรอกเดี๋ยวก็หายเองแหละ....เราไปดูหนังก็ดีกว่า..” ผมพยายามทำสีหน้าให้ปกติ แต่ท้องไส้ผมเหมือนมีอะไรร้อนๆ อยู่ข้างในตลอด
แต่เพราะผมก็ยังไม่อยากให้วันพักผ่อนหมดเร็ว เลยต้องแข็งใจเดินอีกนิด กะว่าจะไปพักในโรงหนังแทน
เราซื้อตั๋วหนัง และเตรียมจะเข้าโรงหนัง แต่ผมก็ดันหลุดฟอร์มซะก่อน
ฮวบ........... “คุณเน็ตเป็นไรเปล่า....” เสียงอลิซดูตื่นกลัวเพราะผมทรุดลงไปนั่งกับพื้น
“อ่ะ...ผมปวดท้องนิดหน่อยอ่ะ พักสักเดี๋ยว คงดีขึ้น...”
“ดีขึ้นบ้าอะไร..ดูสิหน้าแดงไปถึงหูหมดแล้ว....กลับไปพักที่บ้านเหอะ...”
“ไม่...ถ้ากลับ ผมก็อดเที่ยวสิ........”
“คุณปวดท้องแล้วยังห่วงเรื่องเที่ยวอีกหรอ...”
“ผมเปล่าห่วงเที่ยวนะ....แต่อยากอยู่กับคุณอีกนิดหน่อยนะ......”
“เชื่อเขาเลย นี่คุณละแกล้งผมหรอเนี้ย.......”
“เปล่าแกล้ง แค่อยากอยู่จริงๆ”
ผมถูกพยุงพร้อมทั้งการโต้เถียงกันเล็กน้อย
“เค.....ผมยอมแพ้คุณแหละ นั้นกลับบ้านกัน แล้วผมจะอยู่เป็นเพื่อน..จนกว่าคุณจะดีขึ้น...”
เขาพูดพร้อมทั้งพาผมนั่งรถกลับคอนโด พร้อมทั้งแวะซื้อยาแก้ปวดท้องให้ผมด้วย
หลังกลับมาถึงห้อง ผมก็ต้องผมแพ้จริงๆ เพราะอาการปวดท้องเริ่มมากขึ้น
เป็นเพราะผมไม่ค่อยได้กินอะไรอย่างนี้เท่าไหร่ ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว
“คุณเน็ตกินยาแล้วนอนพักหน่อย.......” ต้นเสียงยื่นยาพร้อมแก้วน้ำส่งให้
“ป้อนหน่อยดิ...กินไม่ไหว...” ผมได้แต่นอนมองเขาอยู่บนเตียงในห้อง
อลิซเข้ามานั่งบนหัวเตียงแล้วจับผมนั่งผิงตัวเขา พร้อมทั้งป้อนยาและน้ำให้
“ขอบคุณ นะอลิซ..”
“ผมก็ผิดเหมือนกันที่ไม่รู้ว่าคุณกินเผ็ดไม่ได้...ดูสิหน้าแดง ปากแดงไปหมดเลย...”
เสียงที่แสดงความห่วงใยฉายออกมาให้ผมเห็นอลิซ ซึ่งทำหน้าที่พยาบาลให้
“คุณนอนพักซะ...” เขาเตรียมท่าจะลุกขึ้นเพื่อให้ผมนอนสบายขึ้น
“ผมขอนอนอย่างนี้ได้ไหม.....” ผมจับแขนเขาแล้วเลื่อนตัวเองลงมานอนบนตักอลิซแทน ซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธ
อาจเป็นเพราะเห็นว่าผมป่วยอยู่นั้นแหละ แล้วผมก็หลับไปโดยมีอลิซเป็นหมอนให้
++++++++++++++
ผมตื่นมาอีกที่ซึ่งก็มืดแล้ว แต่อลิซก็ยังอยู่ในท่าเดิมเพียงแต่ดูจะเหมือนหลับไปเช่นกัน
เพราะขนตาที่ประสานกันพร้อมทั้งลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอ
ผมเห็นหัวเขาพาดอยู่ขอบเตียงซึ่งเหมือนใช้พิงแทนหมอน
ตอนนี้อาการผมหายดี ไม่แสบท้อง และดูเหมือนจะหายเป็นปกติ.......
ผมค่อยๆ ขยับตัวลุกนั่ง และค่อยเขยิบไปใกล้อลิซ
เวลาเขาหลับใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าอายุจริง ยิ่งทำให้เขาดูเด็กกว่าผมอีก
ใบหน้าเรียวยาว พร้อมแว่นตาที่ทำให้เขาดูน่ารักในแบบใสๆ
ซึ่งผิดกับเวลาทำงานที่มีแต่ใบหน้าเคร่งเครียด
ริมฝีปากที่เผยอนิดๆ เหมือนจะช่วยจมูกในการหายใจอีกทาง
สันจมูกที่โด่งได้รูป ชูเด่นอยู่ใบใบหน้ายามรับ พร้อมทั้งสีผิวที่ขาวปนชมพูที่รวมกันเป็นใบหน้าของอลิซ
ผมค่อยๆ ถอดแว่นตาของเขาออก อย่างระวัง เพราะไม่อยากให้เขาตื่น
และสิ่งที่ทำให้ผมแปลใจ คือ แว่นตาที่เขาใส่เป็นเลนซ์ ธรรมดา ไม่ได้สั้นอย่างที่คิด
“ทำไมต้องเอาแว่น มาปิดใบหน้าสวยๆ ด้วยน้าน...” ผมพร่ำพรำ กับตัวเอง
“เห้อ.....สวยจริงๆ ด้วยสิ...”
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะได้ไม่รบกวนเขา
แต่ที่นอนที่ยวบตามแรงน้ำหนักทำให้เขาตื่น
“เน็ต..............” นั้นเป็นเสียงที่ผิดแผก แตกต่างจากที่ของอลิซ (เสียงโครตเซ็กซี่อ่ะ) ซึ่งผมคิดว่าเป็นเพราะเขาเพิ่งตื่น
“เน็ต..........คุณจะไปไหน...” พร้อมทั้งใช้วงแขนคล้องคอผมไหว
“อือ..ผมไม่อยากกวนคุณนะ เลยว่าจะให้คุณนอน...” ผมตอบตามความจริง
“เหอะ...คุณอยากให้ผมนอนจริงๆ หรอ...” ผมไม่เข้าใจไอท่าทางที่เขากำลังทำ เพราะเขากำลังเลียริมฝีปากตัวเองอยู่
เหมือนจะให้ท่าผม ซึ่งท่าผมไม่คิดไปเองนะ
“อลิซ..คุณเป็นไรเปล่า...” อารมณ์ผม ซึ่งพยายามควบคุมไม่ให้หลุด
“ผมสบายดี...แต่ผมแค่สงสัยว่า ปากคุณที่ห่างจากผมไม่ถึง2 นิ้วจะมีรสชาติอย่างไง....”
อาการตกตะลึงของผมเริ่มขึ้นเมื่อ เขากลายเป็นผู้ใหญ่ที่แกล้งเด็กขึ้นมาซะงั้น.....
ไอท่าทางยั่วยวนผม แต่กลับไม่ลงมือก่อน เหมือนจะรออะไร
“อลิซ ถ้าคุณไม่หยุดแกล้งอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ...” ผมพยายามเตือนเขา
จุ๊บ....นั้นเป็นเสียงอลิซที่เข้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ เหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังหยอกล้อเด็ก
ซึ่งเชือกเส้นสุดท้ายที่ขึงอยู่ในตัวผมก็ขาดออก (ที่จริงอยากขาดต้องนานแล้ว...)
ผมจับศีรษะเขากดลงมาจะบดขยี้ริมฝีปากพร้อมทั้งสำรวจโพลงปากที่ชุ่มชื่นของเขา
ซึ่งเขาก็อ้ารับด้วยความเต็มใจ และตอนนี้ผมก็ไม่มีสติจะสงสัยอะไรอีก
เพราะอลิซร้อนแรงมาก ไม่เหมือนอลิซที่ผมเคยเห็น....
ผมส่งไปเท่าไหน เขาก็ตอบกลับมาได้ไม่แพ้กัน เพียงแต่เหมือนขาดความเชี่ยวชาญเท่านั้น
เราจูบกันจนเหมือนจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
อืมๆ อืมๆ เสียงร้องประท้วงเมื่อผมจะปล่อยริมฝีปากนุ่มๆ ของอลิซ
ผมแกะกระดุมเสื้อเขาออกพร้อมทั้งใช้มือบดขยี้ที่หัวนมนั้น
หะ หะ เสียงหอบหายใจของเขา สร้างความตื่นเต้นให้กับผมอย่างยิ่ง จนผมแทบทนไม่ไหว
อยากให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในร่างเขาเร็วๆ ผมดันให้เขานอนลงพร้อมทั้งถอดกางกางที่อลิซใส่อยู่
ผมจับมือของเขาให้เข้ามาให้กางเกง และให้เขาสัมผัสน้องชายผม ซึ่งกำลังเต้นระริกอยู่ภายใต้มือของอลิซ
ผมช่วยปลดกางเกงตัวเองเพื่อให้เขาถนัดขึ้น “อืม....อลิซ..” ผมเรียกเขาเมื่อเขาเริ่มที่จะขยับมัน
ซึ่งผมก็ช่วยเขาด้วยเช่นกัน...เราประกบปาก พร้อมกับพายุที่กำลังพัดกระหน่ำเหนือเราทั้งคู่
“อลิซ พอก่อน...หันหลังหน่อย..” ผมทั้งพลิกตัวเขา
ผมให้มือและน้ำลายช่วยในการเปิดประตูของเขา ซึ่งประตูนั้นกำลังพยายามกัดมือผมอยู่
“อ่า...เน็ต ผม ผม เร็ว เร็ว...” เสียงอลิซ ที่ช่วยตัวเองอยู่ พร้อมทั้งร่ายกายที่โยกไปมา เหมือนพยายามจะลดแรงเสียวที่ถาโถมเข้ามา “อลิซ ใกล้แล้ว....” เสียงผมที่ใช้มือคว้างโดยรอบเพื่อให้เนื้อส่วนนั้นอ่อนลง
อ่า อ่า อ่า.... ผมถอนมือออกพร้อมทั้งเปลี่ยนจากนิ้วมือเป็นของตัวเองที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางลำตัว
“อือ อือ อือ....” ผมค่อยๆ ดันเข้าไปจนสุดพร้อมทั้งค้างไว้ เพื่อให้ร่างกายอลิซปรับสภาพ
ผมรู้สึกถึงสิ่งที่พยายามดูดกินท่อนเนื้อของผม “อืม...........” เป็นความสุขสมที่เกินบรรยาย
ผมเริ่มขยับ เข้า ออกสะโพกตัวเอง เพื่อสร้างความพอใจให้อลิซ ซึ่งเขาก็โค้งรับด้วยความเต็มใจ
ผมขยับจนเราเกือบไปจะไปแล้ว แต่ผมกลับถอดมันออก ซึ่งสร้างความขุ่นใจให้กับอลิซอย่างยิ่ง
ผมนอนแผ่ข้างๆ เขาซึ่งนอนคว่ำอยู่ “เน็ต...คุณทำอะไร....”
ผมยิ้มให้เขานิด “อลิซคุณมาทำให้ผมหน่อยสิ ผมเหนื่อยแหละ...” นั้นเป็นเสียงเหมือนแกล้ง และผมก็อดทนกับมันพอๆ กับอลิซ “คุณรู้สิว่า ต้องทำอย่างไง....” ผมเชื่อว่าถ้าผมจะสอนลูกสุนัข ก็ต้องเริ่มตั้งแต่เอามาเลี้ยงเลย ซึ่งอลิซต้องก็ได้รับการสอนแบบนั้นเช่นกัน ไม่ใช้เพียงแค่รออย่างเดียว...
ตอนนี้ไอเจ้าน้องชายผมมันตั้งโด่เด่ อยู่กลางอากาศ ซึ่งรอให้ใครบางคนเอาผ้าห่มมาสร้างความอบอุ่นให้
อลิซยันตัวเองลุกขึ้น พร้อมเสียงที่เซ็กซี่ ที่ครางเมื่อขยับตัวเอง ก่อนที่ความพยายามจะสำเร็จ เขาก็นั่งคร่อมตัวผมได้สำเร็จ
พร้อมทั้งค่อยๆ นั่งทับเจ้าน้องชายผม ซึ่งเมื่อเขาใส่จนมิดแล้ว ยิ่งทำให้ผมสัมผัสภายในเขามากขึ้นไปอีก
ซึ่งสร้างความอิ่มเอมให้กับอลิซอย่างยิ่ง ก่อนที่ผมจะกระทุ้งตัวเองขึ้นเหมือนจะแกล้งอลิซ “อ่าาาาาาา”
เหมือนเขารู้ว่าต้องทำอะไรต่อ ผมก็ดันตัวเองขึ้นจะจับขาทั้งสองข้างของอลิซไขว่หลังผม
และเราทั้งคู่ก็โลดแล่นอยู่ความหฤหรรษ์ ด้วยเวลาที่เรารอคอย หลังจากนั้นก็ตามมาอีก หลายครั้งซึ่ง
เราทั้งคู่ต่างเข้าขากันได้ดีทั้งคู่..............ก่อนที่เราจะหมดแรง ...............
++++++++++++++++
“อ๊ากกกกกกกกกกกก.....มึง คุณ ทำอะไรกู ผม”
เสียง พร้อมกับมีอะไรมากระชากที่ไหล่ผม ซึ่งต้องปลุกผมจากการหลับ
“อะไรที่รัก....” “ที่รักอะไร..แล้วทำไม ผมถึง โอ๊ยเจ็บ...”
“เหอะๆ จะไม่เจ็บได้ไง ก็เล่นกันไปตั้งกี่รอบ.......”
“ห๊าาาาา คุณข่มขืนผมหรอ......” เสียงตกใจสุดขีดของอลิซ
“เปล่า คุณนั้นแหละที่เป็นคนเริ่มก่อน ผมเพียงแค่ทำตามความต้องการของคุณ...” ผมพูดพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์
“ไม่...........” เหมือนเขาจะพยายามลุกจากเตียงให้ได้ แม้จะส่งเสียงโอดครวญก็ตาม
ซึ่งผมก็นั่งมองความพยายามของเราอยู่
จนเขาลุกขึ้นยืนได้นั้นและ พร้อมสภาพที่เปล่าเปลื้อง
เขาก้าวลงเตียง แต่ก้าวแรกที่ลงจากเตียงก็ทำให้เขาต้องทรุดอยู่ข้างขอบเตียง
และนั้นเป็นเวลาที่ทำให้ผมรู้ความจริงบางอย่าง
แว่นตา ที่ตอนนี้เขาให้หลุดออกเพราะตัวกระแทกกับพื้นตอนล้ม
“เน็ต....คุณไม่คิดจะช่วยผมหน่อยหรอ...” เขาไม่พูดเปล่าพร้อมทั้งส่งสายตา ส่ออารมณ์ตามมา
ซึ่งนั้นทำให้ผมสั่งเกตุว่า อารมณ์ต่างแตกต่างจากเมื่อกี้มากมาย
ผมจึงลุกขึ้นตามคำร้องขอของอลิซ เพื่ออุ้มเขากับมานอนบนเตียงเหมือนเดิม พร้อมทั้งหยิบแว่นที่ตกลงพื้นด้วย
“ปล่อยผม นะ ไอเจ้าวายร้าย” นั้นเป็นเสียงหลังจากที่ผมสวมแว่นให้กับเขาอีกครั้งขณะที่ยังอุ้มเขาอยู่
“เหอะๆ ..........”
“หัวเราะอะไร บอกให้ปล่อยไง.........”
ผมได้แต่ตัวเราะอยู่ในใจเพราะ เหมือนผมได้เจอ อลิซในแดนมหัศจรรย์ ตัวเป็นๆ เลยแหละ
ผมคงมีอะไรมากมายได้เล่นแก้เบื่อจริงๆ และคราวนี้.....
อลิซคุณเสร็จผมแน่น
+++++++++++++++++++
ความคิดเห็น