ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yaoi บุรุษ(พยาบาล)...ที่รัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอน4

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 54


    ตอน4

    อากาศแจ่มใส กับแดดอ่อนๆ  ช่วงสายๆ  กับมานั่งรับอากาศเย็นๆ นอกบ้านก็เป็นกิจวัตรอีกแบบที่คุณคริสทำ

    เขามักจะใช้เวลาส่วนมากในการโทรสั่งงาน และมอบหมายงานต่างๆ  ให้กับเพื่อนที่เป็นกรรมการอยู่ในบริษัทแห่งนี้

    จะเรียกว่าเพื่อนซะทีเดียวก็ไม่ได้หรอกครับ

    เพราะว่าผมเพิ่งรู้มาว่าเขามีฐานะเป็นน้อยชายด้วย  แม่ของเขาเป็นน้องสาวป้าแอน............

     

    เรานั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้านซึ่งปูด้วยหินอ่อนยืนออกมา  มีโต๊ะเหล็กวางเข้าชุดกับเก้าอี้ เหล็ก ซึ่งดัดเป็นลวดลาย

    กลางโต๊ะมีแก้วน้ำซึ่งนำมาทำเป็นแจกันและมีดอกกุหลาบซึ่งตัดเท่ากับปากแก้วอยู่ในนั้น

    “ ฮา   ฮา  ฮา  อินุ  บอกแล้วว่าอย่าเลีย.....ฮา  ฮา ฮา”  

    อย่าตกใจครับ  นั้นเสียงผมเอง.....ก็เจ้าตัวดี พอเห็นผมมันก็วิ่งกระโดดใส่  พอผมอุ้มมันได้ก็เลียซะแก้มผมเปียกหมดเลย

    คุณคริสก็นั่งหัวเราะ กับสิ่งที่เจ้าอินุมันทำ  ..........แฮ่ะๆๆๆ ............

    “คุณคริสอุ้มมันก่อนนะเดี๋ยว   มิคกี้จะเป็นเอาหารให้เจ้าตัวดีแป๊ป...”  ว่าแล้วผมก็วิ่งไปเอาอาหารให้ 

    เพื่อที่มันจะได้หยุดซักที    เจ้าตัวนี้ขี้อ้อนมากเลยครับ  มันชอบคลอเคลียและชอบให้ผมลูบขนมันเล่น เป็นที่สบายใจของมันเลยแหละ

    ไม่ว่าจะเป็นใครถ้าได้ลูบไล้ที่ขนมันเมื่อไหร่ เป็นต้องสนิทกับมันทุกราย.... 

    ซึ่งคุณคริสก็หลงกลเจ้านุ  มันแล้ว   ตอนนี้ผมกับดูแลเจ้านุน้อยลง   เนื่องจากต้องคอยดูแลคุณคริส

    ดังนั้นภาระให้การดูแล ให้อาหารและอาบน้ำจึงตกเป็นของป้าโรสโดยปริยาย

    ซึ่งน้ำใจที่ป้าโรสมีให้ผมนั้น เหมือนคนในครอบครัวมากกว่าซึ่งทำให้ผมรักและเคารพป้าโรสเช่นกัน

    อาหารของเจ้านุ  คือ อาหารเม็ด และนมถ้วย  ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอาหารโปรดเลยก็ว่าได้ครับ  ผมถือมาพร้อมกับวางใกล้ๆ  โต๊ะ ที่คุณคริสนั่งอยู่

    “มิคกี้...เจ้านุเนี้ยตัวเหม็นแล้วนะ...”  เขาพูดแหย่ผม

    “ห๊ะ....จริงหรอ....สงสัยต้องอาบน้ำแล้ว    เจ้านุเอ๋ย........”

    “ฮา   ฮา  ฮา   ฮา”  เสียงของเราทั้งคู่

    “มิคกี้....เรามาอาบน้ำเจ้าตัวดีกันไหม...ผมจะได้ออกกำลังกายด้วย....”

    “จริงหรอ...........เอาสิ...เดี๋ยวมิคกี้เตรียมน้ำยาและถังน้ำก่อนนะ.........”

     

    คุณคริสอุ้มเจ้าตัวดีเดินมาที่สนามหน้าบ้านซึ่งลงบันไดมา 3 ขั้น

    “คุณคริส เดินตรงมาเลย........”  ผมหันไปมองแล้วก็ส่งเสียงเรียกให้เขาเดินเข้ามา

     

    แต่เจ้าตัวน้อยนี่ไม่ชอบน้ำเป็นที่สุด...ดังนั้นเมื่อเห็นว่าตัวต้องเปียแล้วจึงดิ้นอยู่ในอ้อมแขนคุณคริส

    “มานี่เลยเจ้าตัวดี....ซนนักนะ...”  ผมรับเจ้านุมาจากคุณคริส  แล้วหยิบสายยางฉีดไปที่ตัวเจ้านุ

    อ๊ะ.......อ๊ะ  เสียงร้องอยากกับคนกลัวผีเลย  แต่ใช่ว่าผมจะใจอ่อนปล่อยมันไป 

    “คุณคริสนั่งลง  แล้วช่วยจับเจ้านุหน่อยสิ...”  ผมดึงมือเขาให้ช่วยจับเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวดีไว้

    ตอนนี้ตัวมันสั่นเป็นเจ้าเข้าเลย  อาจเพราะหนาวก็ได้  เพราะมันก็ไม่ชอบน้ำอยู่แล้ว

    “มันคงหนาวน่าดูเลยนะ...ดูซิ  สั่นซะขนาดนั้น...” คุณคริสชวนคุย

    “นั้นรีบๆๆ อาบน้ำให้เจ้าตัวดี ก่อนดีกว่าเนอะ..”   จากน้ำก็เปลี่ยนมาเป็นแชมพู  แต่ว่าชมพูมันลื่นมากทำให้เจ้านุ

    ที่ถูกจับอยู่หลุดมือไปจนได้......  “คุณคริส..มันวิ่งไปแล้ว...”  ผมตะโกนเมื่อเห็นมันกำลังจะดิ้นหลุด

    และมันก็เป็นอิสระจนได้

    สภาพเจ้านุตอนนี้มีฟองติดทั่วตัว  จากขนฟูพอโดนน้ำมันก็ลีบติดหนัง  เมื่อลูกหมาตกน้ำจริง ๆ

    ผมวิ่งไล่จับจนเริ่มอ่อนใจ  ส่วนคุณคริสทำได้เพียงเรียกให้เจ้านุมาหา 

    แต่เพราะว่าเหนื่อยและหนาว  เจ้าตัวดีเลยวิ่งไปหาคุณคริสและกระโดดใส่เหมือนจะให้กอดซะงั้น

    แม้คุณคริสจะตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยอมอุ้มมันโดยดี  แต่มีหรือเจ้านุมันจะหยุดซน  กลับสะบัดขนให้ฟองกระเด็นไปทั่ว

    “อ้าย.....คุณคริสขอโทษค่ะ...เปียหมดเลย..”

    “ไม่เป็นไร..รีบๆ  อาบให้เจ้านุก่อนเถอะ...มันคงจะหนาวจริงแล้วแหละ...”

    ดังนั้นผมจึงรีบอาบให้ดังที่คุณคริสว่า  มันก็สะบัดขนตลอดเลย  กว่าจะได้เช็ดตัว ก็เล่นเอาเราทั้งคู่เปียกได้เช่นกัน

    “ป้าโรส .....มิคกี้ว่าป้าเอาเจ้านุเช็คตัวที...เดี๋ยวมิคกี้จะพาคุณคริสเป็นเปลี่ยนเสื้อก่อน....” 

    ด้วยความลืมตัวผมจึงพาคุณคริสไปเปลี่ยนเสื้อแทนป้าโรส

     

     

    ระหว่างอยู่ในห้องผมก็หาชุดเปลี่ยนให้คุณคริส

    “อ้าว....คุณไม่ถอดเสื้อหละ...เดี๋ยวจะไม่สบายนะ”

    “อือ..ผมว่าคุณออกไปก่อนดีไหม.....เดี๋ยวผมเปลี่ยนเอง...”

     

    ผมซึ่งเป็นผู้ชาย    ไม่เห็นแปลกตรงไหนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้

    “...ฉันได้รับการฝึกมาให้ดูแลคนนะคะ...ดังนั้นเรื่องการเปลี่ยนเสื้อผ้านี่ก็เป็นงานเช่นกัน...”

    “....แต่มันจะไม่สุภาพกับคุณนะมิคกี้...”

    “นั้นเอาอย่างงี้....เดี๋ยวฉันจะหันหลังให้  เสร็จแล้วคุณก็บอกแล้วกัน...”

    ผมจำใจหันหลังให้ถามคำสัญญา  “แต่เหมือนว่าการเปลี่ยนเสื้อผ้าคนเดียวสำหรับคุณคริสนั้นลำบากเกินไป....”

    ทำให้ผมทนไม่ไหว ต้องเข้ามาช่วยเหลือ.....  “ขอบใจ...” นั้นเป็นคำพูดหลังจากเปลี่ยนเสร็จ

    ผมพาคุณคริสออกมานั่งที่โชฟาในห้องรับแขก   และพาตัวเองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง....

     

    เมื่อผมออกมา   ก็เห็นเจ้านุขนฟู นั่งบนตักคุณคริสเรียบร้อยแล้ว  

    เจ้านุเป็นตัวเรียกสีสันในบ้านก็ว่าได้  ป้าแอน  ป้าโรส ชอบใจกันใหญ่เวลาที่เจ้านุดึงชายกางเกง

    หรือเวลาที่มันทำท่าตลกๆๆ ให้คนในบ้านหัวเราะ............

    “อ้อ  ป้าโรสกับแม่บอกว่าจะออกไปจ่ายตลาดนะ....”  ผมบอกมิคกี้ไปตามคำสั่งของป้าโรส

     

    +++++++++++++++

     

    มีรถคันงามจอดอยู่ที่หน้าบ้าน

    “คุณคริสนัดใครมาหรอ........”  ผมถามเขาด้วยอาการงุนงง

    “อ้อ...ผมนั้นน้องชายที่บริษัทมานะ  เรามีเรื่องจะต้องปรึกษากัน...”

     

    ตั้งแต่ที่ผมมาเป็นพยาบาลให้  ผมก็ไม่เห็นมีใครมาเยี่ยมเยียนเลย  อาจเป็นเพราะคุณคริสไม่อยากเจอก็ได้

    ซึ่งผมว่าเป็นการดีเช่นกัน  ที่มีคนมาหาและพูดคุณเรื่องราวต่างๆๆ บ้าง

    “โอ๊ะ....พี่คริสสบายดีไหม”  น้องชายคุณคริส ซึ่งเป็นทั้งเพื่อน ทั้งน้องและคนที่ทำงาน กล่าวทักทายคุณคริส

    “เป็นไงบ้าง..เจ้าตัวดี...”

    “ผมก็เรื่อยๆๆ อ่ะนะ  งานที่บริษัทก็ไม่มีอะไรแปลก.....แต่ผมได้ข่าวว่าพี่เปลี่ยนพยาบาลอีกแล้วหรอ...”

    “อือ...ใช่....นี่คุณมิคกี้....” คุณคริสกล่าวแนะนำอย่างเป็นทางการ  พร้อมจับมือทักทาย

    “สวัสดีครับ......ไอผมก็นึกว่าสาวรายต่อไปที่ต้องร้องไห้คือใครซะอีก...ที่ไหนได้หนุ่มหล่อนี้เอง......”

    “อ๊ะ...........”  นั้นเป็นเสียงอุทานของผมเอง

    “หนุ่ม.....หนุ่มไหนว่ะ  เน็ต...” 

    “ก็พยาบาลพี่ไง  หล่อใช่ย่อยนะเนี้ย..”  สิ่งที่ทำผมได้มีเพียงโบกมือไปมา เหมือนบอกใบ้ว่าอย่าพูด

    จากบรรยากาศที่อบอุ่น ตอนนี้เริ่มมาคุแบบไม่รู้ตัว.......และความเงียบก็ปกคลุม 

    โดยที่คุณเน็ตไม่ได้เอะใจเลย   

    “เน็ต...กลับไปก่อน...พอดีพี่มีเรื่องจะปรึกษาคุณมิคกี้หน่อยนะ....”

    ผมเห็นคุณเน็ตทำท่างงๆ   แต่ก็ยอมกลับไปด้วยดี

    “เชิญคุณมิคกี้....ที่ห้องผมหน่อย...”  แล้วเขาก็เดินนำหน้าเข้าห้องไป

     

    ผมได้แต่ยืนอึ้งอยู่  ทำไมเวลามันแสนสั้นนัก  กว่าจะไว้ใจกันได้...แล้วตอนนี้ก็มาพังกับการโกหกของผมเอง

    ป้าโรส ป้าแอนก็ไม่อยู่...แล้วผมจะทำยังไงเนี้ย....

    แกร๊กๆๆๆ  เสียงกระดิ่งที่ใช้เรียกเหมือนคำตัดสินที่จะมาถึง............ผมเดินเข้าไปพร้อมใจที่สำนึกผิด

    +++++++++++++++

     

    ................ความเงียบและบรรยากาศที่เหมือนกับครั้งแรกที่ผมมาถึง   เริ่มอบอวลอยู่ภายในห้องนี้อีกครั้ง..............

    “...........คุณเป็นผู้ชาย...........”

    “ครับ.......ผมเป็นผู้ชาย........”

    “คุณเลิกทำเสียงแบบนี้ซักทีเถอะ  ผมทนไม่ได้............”  เขาให้เราเลิกทำเสียงทั้งที่เป็นเสียงเราเนี้ยนะ

    “...นี่เป็นเสียงผมเอง..........”

    “มีอะไรจะแก้ตัวก็ว่ามา  ผมรอฟังอยู่............”  เหมือนเขากำลังระงับสติอารมณ์อยู่

    “.........ไม่มีครับ...........”

    เพียงเท่านั้น อารมณ์ที่เก็บไว้อยู่ถูกปลดปล่อย..........  “คุณเห็นว่าผมมันโง่  ตาบอด  เลยคิดจะหลอกผมเพื่อเล่นตลกใช่ไหม....แล้วไอชื่อมิคกี้นั้นก็ด้วย....”

    “ผมชื่อมิค.....”   “เออใช่สิ....ทำไมผมถึงไม่สงสัยนะ  บางครั้งคุณก็เรื่องตัวเองว่ามิค  ......คุณบอกให้ผมไว้ใจคุณ....แต่คุณกับทำเรื่องเลวๆๆ แบบนี้หรอ.......คุณมันก็คนไร้หัวใจ....เห็นผมเป็นของเล่น  เอาหัวใจผมมาขย้ำเล่นละซิ...”

    เขาพูดพร้อมเดินเข้ามากระชากที่คอเสื้อของผม............ “ไอผมก็หลงเชื่อความมีน้ำใจของคุณ  ผมคิดเสมอนะว่าคุณคือคนที่เข้าใจผมจริงๆ.....แต่คุณกลับเป็นคนที่ทำให้ผมเสียใจที่สุด........คุณ....คุณ....คุณ.....โธ่โว้ย..”

    สิ้นคำพูดที่ไม่รู้จะว่าอะไรต่อแล้ว เขาก็ลงโทษผม.........เขาได้ผลักผมอย่างแรงจนทำให้  ตัวผมทรุดลงไปนั่งกับพื้น พร้อมกับมือที่กำแน่นเหมือนจะต่อยผมก็ว่าได้    ซึ่งผมก็เต็มใจรับมันอยู่แล้ว 

    ผมหลับตารอคอยหมัดที่จะลงมากระทบบนหน้าผม  แต่มันถูกเปลี่ยนเป็นเพียงการตบที่ไม่แรงอย่างที่คิด และจูบที่หนักหน่วง ซึ่งผมไม่เคยได้รับเลย  มันเป็นจูบที่ทำให้ผมแทบหายใจไม่ออก  ไม่มีความหวานอยู่ในนั้น

    ลิ้นร้อนๆและริมฝีปากที่บดขยี้ผม ทำให้ผมตกใจไม่ใช่น้อย.....ผมไม่มีเวลาแม้จะหยุดหายใจด้วยซ้ำไป......

    เป็นเพราะอารมณ์ที่รุนแรงของคุณคริส  ทำให้มือไม้ผมไม่มีแรง 

    “ในเมื่อคุณทำกับผมได้....ผมก็จะทำกับคุณบ้าง....”  นั้นเป็นเสียงที่คาดโทษผม

    กระดุมเสื้อที่ถูกปิดไว้เรียบร้อยตามมาตรฐานพยาบาล ถูกกระชากออกด้วยมือเพียงข้างเดียว

    ริมฝีปากคุณคริสบดขยี้เรื่อยมาจนถึงต้นคอ เขาได้ขบฟันลงรอยแผลเป็นที่ต้นขอผม 

    “อย่า.....อย่า..” 

    นั้นเป็นเสียงร้องห้าม   “ปล่อยผมเถอะครับ...........”

    ผมพยายามเรียกสติของคุณคริสคืน  ซึ่งมันไม่เป็นผลแต่อย่างใด  อารมณ์เดือดดาลและพลังที่มากเกินปกติ 

    ทำให้แขนผมชาด้วยมือเพื่อข้างเดียวของเขาที่กดทับอยู่เหนือศรีษะผม 

    หลังจากที่เขากัดไปที่ต้นคอผม  เขาก็ไม่หลุดเพียงแค่นั้น ฟันเขาได้กัดกระทบมาที่บริเวณหน้าอกผม

    “อย่า....ได้โปรด.......”  ผมพยายามร้องขอ   แต่คำตอบที่ได้คือ  รอยฟันที่กัดบริเวณหัวนม ซึ่งผมรู้สึกว่าน่าจะมีเลือดปนด้วย...

    ความกลัวเข้าสุมในความรู้สึกผม....เข้ากำลังข่มขืนผม.....แม้ว่าผมจะรู้สึกดีกับเขาแต่มันต้องไม่ใช่การข่มขืน....

    ผมพยายามดิ้นอย่าสิ้นกำลังมือผมสะบัดหลุดได้แล้ว...ผมพยายามผลักเขาให้ออกไปจากตัว...

    เขาเซนิดหน่อยซึ่งนั้นเป็นโอกาสที่ผมจะหนี......และความลนลานทำให้ผมไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้

    เขาจับข้อเท้าผมแล้วกระชาก ทำให้ผมต้องล้มไปอีกครั้ง..........

     

    เขาจับผมแล้วดึงกางเกงที่สวมอยู่...ออกพร้อมกับถอดกางเกงของเขาด้วยเช่นเดียวกัน

    ผมรู้ว่าการใส่เข้ามาโดย ไม่ใช้ตัวช่วยมันเจ็บ  และอาจเป็นแผลฉีดขาดได้.... “คุณคริสครับ...ผมขอร้อง...อย่าทำแบบนี้เลย..”

    ผมร้องขอเขา    เหมือนเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ  น้ำตาที่ไม่ได้หลั่งตั้งแต่เสียบิดาเริ่มจะไหลเปรอะบนใบให้ผม 

    ซึ่งเขาก็ไม่สามรถมองเห็นได้.................

    ไม่มีเสียตอบรับ  มีเพียงเขายกขาผมขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง  แล้วสอดใส่อัวยะเพศของเขาลงในไปตัวผม

    “อ๊ากกกก......คุณคริส.......ผมเจ็บ..........”  เสียงร้องอุทาน   เมื่อเขาพยายามใส่ความใหญ่โตเข้าไปในตัวผม

    กลิ่นคาวเลือดโชยมาแตะที่จมูกผม  ซึ่งผมรู้ว่ามันคืออะไร.......

     

    ไม่มีการเล้าโลม  ไม่มีคำพูดแสนหวาน  มีเพียงการลงโทษ....และโทษนั้นมีผมคนเดียวที่ได้รับ.....

    “อือ....อือ...อือ”   เมื่อเสร็จภาระกิจลงโทษเจียนตาย    เขาก็ลุกขึ้น    มีเพียงผมที่นอนกองอยู่กับพื้น ด้วยสภาพลูกผีลูกคน

    ผมพยายามพยุงตัวเองออกจากห้อง  เหมือนกับขอกลับไปตายที่รังยังดีเสียกว่านอนตายตรงนี้

     

    +++++++++++++++++

     

    ตุ๊บ??  เหมือนเสียงของหนักๆๆ ตกลงพื้น 

    “มิค.....มิค.......”  ผมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู  และเสียงที่ผมได้ยินก็ไม่ใช่เสียงเปิดประตูเช่นกัน

    “มิค...นายอยู่ไหน...อย่ามาเล่นตลกนะ...”  ผมเริ่มสำนึกได้เมื่อเอาตัวเองเข้าไปในร่างนั้น   แต่มันก็สายไปเสียแล้ว

     

    ผมพยายามเดินแตะที่โต๊ะและพยายามหาต้นเสียงที่ได้ยิน

     ผมเดินไปจนรู้สึกว่าเหยียบอะไรเข้า............ผมก้มจับว่านั่นคืออะไร  แต่สิ่งที่ได้คือปลายนิ้วมือ ของมิคนั้นเอง

    ผมประคองเข้าขึ้นมา...  “มิค...มิค...”  ไม่มีเสียงตอนรับจากมิค  ผมได้ยินเพียงลมหายแผ่วๆๆ 

    ความกลัวก่อเกิดให้ตัวผมขึ้นทันที....ผมทำอะไรลงไปเนี้ย....ผมทำร้ายชีวิตคนๆ หนึ่ง........  “มิค...มิค...” ผมเขย่าเพื่อให้เขารู้สึกตัว  แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆๆ อีกเช่นเคย

    ผมอุ้มร่างนั้นเดินผ่านไปยังเตียง....ซึ่งไม่ก็ไม่รู้ตัวว่าชนกับอะไรบ้าง  แต่เขาก็ถูกวางบนเตียงเรียบร้อยแล้ว

    ผมโทรหาเจ้าเน็ต  ซึ่งเป็นคนเดียวที่ผมติดต่อได้ในขณะนี้

    “เน็ต.....แกอยู่ไหน  มาที่บ้านด่วน  ตามหมอมาด้วย...”  ผมโทรหาอย่างร้อนใจ

    “เน็ต... แกต้องมาถึงภายใน 10 นาทีไม่งั้นแกได้ตายแน่เชื่อฉัน...”  นั้นเป็นครั้งที่2 หลังจากครั้งแรกโทรผ่านไปไม่ถึง 10 วิ  ด้วยซ้ำ

    “เน็ต...มึงอยู่ไหน...อย่าลืมหมอเด็ดขาดนะมึง..”ผ่านไปไม่ถึง นาที

     

    ผลั่ว!!!  เสียงกระแทกประตูเปิดของไอเน็ตทำให้ผมอุ่นใจขึ้น

    “เกิดอะไรขึ้นพี่....หมออยู่นี้แล้ว”

    “หมอดูอาการมิคด้วย....ผมมันเลวเอง...อยากให้เขาเป็นอะไรนะ”  เสียงพี่คริสที่กระหืดกระหอบ พยายามอธิบาย

    “พี่ใจเย็นๆ ก่อน...หมออยู่นี้แล้ว  มิคไม่เป็นไรหรอก  ..พี่ออกมานั่งข้างนอกดีกว่า..ให้หมอเขาจัดการเถอะ”

     

    ผมพาพี่ชายตัวดีออกจากห้องนอน  แล้วพามานั่งที่โชฟาภายในห้องรับแขก..........

    สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย....ผมเผ้ายุ่งเหยิง  หมดสภาพนักธุรกิจ

    เหมือนเขาจะกระวนกระวายอยู่ตลอด  สีหน้าแสดงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด

    ซึ่งผมไม่เคยเห็นตั้งแต่พ่อพี่เขาเสียไปแล้วเช่นกัน  เหมือนเขากำลังโทษตัวเองอยู่........

    ส่วนผมทำได้แค่คอยปลอบโยนพี่เค้าเท่านั้นเอง

    ++++++++++++

     

    เหตุการณ์ทุกอย่างสร้างความความกระจ่างด้วยเวลาอันสั้น  เมื่อแม่และป้าโรสกลับมาก

    แต่เพียงช่วงเวลาสั้นๆๆ นั้นกลับทำให้เกิดผลที่ร้ายแรงได้อย่างมหาศาล  ซึ่งผมคนนี้จะรับผิดชอบทั้งหมด

    ทำไมผมต้องอารมณ์ร้อนขนาดนี้ด้วย....ทำไมผมถึงไม่รอให้แม่กลับมาก่อนนะ......

    ทำไมผมต้องโกรธมิคขนาดนี้ด้วย......เขาไม่ใช่คนผิด  ที่ผิดคือผมเองที่เรื่องมาก........

    ผมมันเลวเกินกว่าที่เขาจะให้อภัยใช่ไหม..... 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×