ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yaoi เรื่องสั้น บุรุษ(พยาบาล)..ที่รัก ภาค เน็ต

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอน 3

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 54


     ตอน 3

    “คุณเน็ตครับ  วันนี้ตารางงานของคุณ มี............”

    “โห้...อลิซ  คุณกะจะฆ่าผมเลยใช่ไหม.....ผมทำทุกวันไม่มีพักเลยนะ...” ผมบ่นกับอลิซ ซึ่งยังยืนหน้าสงบนิ่งซะงั้น

    “คุณคริสทำมากกว่าคุณอีก” นั้นเป็นเสียงที่เหมือนกับบ่นกับตัวเอง แต่ผมได้ยินเต็ม 2 รูหูเลย

    ห้องทำงานผมเป็นเหมือนสงครามขนาดย่อม ระหว่างผมกับ อลิซเสมอ

    “นั้น วันนี้ผมไปพบลูกค้า เสร็จแล้วผมของลาพักช่วงบ่ายแล้วกัน  แต่ถ้าคุณอยากให้ผมทำงานก็ไปตามที่บ้าน....”

    “คุณทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ ตอนบ่ายคุณมีประชุมกับฝ่ายการตลาดของบริษัท”

     

    ผมพูดเสร็จพร้อมเดินออกนอกห้อง  เพื่อเดินทางมาพบกับลูกค้า ซึ่งนัดไว้นอกบริษัท 

    โดยมีมาร์กเป็นคนติดตามมาด้วย......

    การพบปะ นัดคุยกับลูกค้าเรื่องธุรกิจเป็นไปด้วยดี  เนื่องจากพี่คริสได้ปูทางไว้แล้ว

    เหลืออีกนิดหน่อยซึ่งผมในฐานะกรรมการคนหนึ่ง ก็สามารถทำได้เช่นกัน (แต่ไม่ทำ)

     

    ผมเคยสงสัยว่าทำไมพี่คริสถึงไม่เคยแซ่ซี้ให้ผมเข้าบริษัท 

    หรือทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ซะที  ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ผมก็เอาคำถามคาใจไปถามเขาตรงๆ นั้นแหละ

    แต่ทำตอบที่ได้มากลับทำให้ผมอื้ง

    “พี่รู้ว่า  ถ้าแกอยากจะทำอะไรแล้ว จะต้องผมสำเร็จ ...แต่พี่ก็รู้ว่าตอนนี้แกยังอยากเป็นอิสระอยู่....ซึ่งพี่ก็เคยเป็นเหมือนกัน..แต่วันหนึ่งเมื่อแกโตขึ้น  แกจะรู้เองว่าแกอยากทำอะไร...และพี่รู้ว่าเมื่อแกเอาจริงเมื่อไร พี่ก็สู้แกไม่ได้หรอก...พี่แค่รอวันนั้นเท่านั้นเอง...”    นั้นเป็นคำพูดที่ผมได้จากคำถาม คาใจของผม  ซึ่งผมให้ผมกลับมาถามตัวเองว่าต้องนี่ผมเริ่มที่จะจริงจังกับมันหรือยัง  นี่เป็นโอกาสที่ทำให้ผมตัดสินใจใช่ไหม...

     

    “มาร์ก....นายกลับไปก่อนนะ....ฉันกลับบ้านก่อน...”

    “แต่คุณเน็ตครับ  แล้วช่วงบ่ายอ่ะ...”

    “มาร์ก......เชื่อผม  ผมไม่ทำให้งานเสียแน่นๆ..........”

    รถที่พวกเรานั่งมา  ขับส่งผมที่คอนโดของพี่คริส ซึ่งผมได้อาศัยเป็นการชั่วคราวให้ช่วงที่อลิซกำลังหาห้องใหม่ให้

    แม้คอนโดเขาจะกว้างขว้างมีหลายห้อง  แต่ผมก็ไม่ชอบการตกแต่ที่ดูทุกอย่างจะเข้ากันไปไหม เหมือนออกมาจากหนังสือตกแต่งภายในซะงั้น  ผมว่าห้องต้องเป็นที่ผ่อนคลาย ยามเหนื่อยและต้องเป็นสิ่งที่เรารู้สึกชอบต่างหาก

    ผมถอดสูท และล้มตัวลงนอนเพื่อพักสายตา 

    ซึ่งผมก็รู้ว่าอีกไม่นาน  จะต้องมีคนมาเยี่ยมผมแน่น 

    ซึ่งผมก็รอต้อนรับอยู่เช่นกัน

     

    กริ่งก๊องๆ  เสียงออดประตูหน้าห้องดัง เพื่อเตือนบุคคลภายในห้องให้รู้ถึงการมาเยี่ยมของใครบ้างคน

    กริ่งก๊องๆ  เสียงออดอีกครั้ง เหมือนจะบอกว่าให้มาเปิดประตู  ซึ่งผมก็รอเปิดอยู่นั้นแหละ

    “คุณเน็ต ผมรู้ว่าคุณอยู่หลังประตูนั้น เปิดมันซะ”  นั้นเสียงผู้มาเยี่ยม ที่ใครฟังแล้วเหมือนมาทวงหนี้

    “คุณเน็ต ถ้าคุณไม่เปิดผมจะเรียกให้พนักงานมาไขประตูบ้าๆๆ นี่ซะ......”

     

    แกร็ก.....งงเสียงปลดล็อคที่ผมปลดมันออก  ................  “เมื่อเช้าเราคุยกันแล้วแต่คุณก็ยังทำแบบนี้อีก...” คนพูดเดินผ่านผมเข้ามายื่นกลางห้องและหันมาประจัญหน้าผม พร้อมด้วยสายตาที่แสดงว่ากำลังเก็บอารมร์อย่างแรง

    มือทั้งสองข้างของผม  ยกขึ้นพร้อมทั้งปล่อยลงมากเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง  “ก็คุณใช่งานผมหนักนิ...ผมก็หมดแรงเหมือนกันนะ”

    “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง......คุณลองบอกมาซิ”  เหมือนเป็นข้อเสนอที่ยืนให้ผม เหมือนผมเป็นเด็กๆ ที่อยากได้ลูกอมกินจากผู้ใหญ่  ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน

    “นั้นวันเสาร์นี้  คุณพาผมไปเที่ยวหน่อยซิ   ตั้งแต่กลับมาผมยังไม่ได้ไปสำรวจเมืองนี้เลย...ไปศูนย์การค้าก็ได้..ใกล้ๆ นี่เอง...”

    “คุณจะให้ผมพาไป เหมือนคุณเป็นเด็กๆ เนี้ยนะ...”

    “ใช่...เหมือนเด็ก  ไปกินไอติม   ดูหนัง เดินเล่น และซื้อของด้วย  คุณจะทำมันไหมหละ”

    สีหน้าของอลิซที่ฟัง แล้วดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระขนานแท้ 

    ซึ่งทำให้ผมคิดว่าเขามีความคิดเรื่องพักผ่อนประเภทนี้บ้างไหม  หรือชีวิตเขามีแต่งานๆๆๆๆ

    “เอาไง ...ตอบหน่อยซิ....”

    “ก็ได้....จะทำตามที่คุณข้อร้อง....แต่ผมขอบอกว่าผม ไม่เต็มใจ....”

    5555555  ต้องอย่างงี้....ซิ......ปะ ตอนนี้คุณจะพาผมไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็ได้ ผมพร้อมแหละ....”

     

    เหมือนข้อตกลงของเราจะสำเร็จ  ซึ่งผมก็กะไว้แล้วว่าถ้าไม่สำเร็จ

    ผมก็ต้องไปประชุมอยู่ดี....ก็มันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผมนี้ครับ

    แต่ลองเชิงดูก่อน............เหอะๆๆ แต่ดันสำเร็จ.............

     

    การประชุมกับฝ่ายการตลาดถึงการโปรโมทสินค้าตัวใหม่ที่ทางบริษัทได้ผลิตขึ้นเพื่อใช้งานกับธุรกิจขนาดกลาง

    และลดความสิ้นเปลืองของเอกสารให้สำนักงานต่างๆ  ผ่านไปได้ด้วยดี 

    โดยที่มีอลิซนั่งฟังการประชุมและคอยจดสรุปการประชุมในครั้งนี้

     

    “อลิซ ผมของบันทึกการประชุม เมื่อกี้หน่อยนะ”

    “คุณเน็ต ผมเคยบอกแล้วว่า อย่าเรียกผมว่าอลิซ   ผมอยากให้คุณเรียกว่า อลิซันส์  มากกว่า”

    “ทำไม มาร์ก พี่คริส ยังเรียกคุณว่าอลิซเลย......แต่.......”

    “เรียกอลิซนั้นแหละ ดีแล้ว เราจะได้สนิทกันไวๆ ไง  “

     

    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    วันเสาร์ กับ นัดของบางคน

    เสียงนาฬิกาปลุก บนหัวนอนทำให้ผมต้องตื่นขึ้นเหมือนวันทำงานปกติ 

    ซึ่งมันคือวันพักผ่อนของผม  แต่ผมก็ต้องรีบตื่น และทำเรื่องส่วนตัวให้เรียบร้อย

    พร้อมทั้งต้องนั่งรถไปบ้านเจ้านาย อีก เพื่อปลุกเขา  ซึ่งคล้ายเป็นกิจวัตรไปแล้ว

    เพราะคุณคริสไม่เคยต้องให้ผมปลุก เขารู้หน้าที่  และเวลาเป็นอย่างดี

    แต่หมอนี้ไม่ ...ยังคงใช่ชีวิตแบบสบายๆ เช่นเดิม

     

    ผมได้มีโอกาสเข้าประชุมร่วมกันคุณเน็ต  ซึ่งทำให้ผมเห็นถึงศักยภาพการชักจูงใจคน

    รวมทั้งความเป็นผู้นำที่แผงอยู่ในตัวเขา....แต่นอกเวลางาน นิสัยเขาก็ยังเหมือนเด็กเช่นเดิม

     

    แกร็ก เสียงไขกุญแจที่ผมพึ่งได้มาเมื่อวานนี้เอง..........แม้ผมจะต้องมาปลุกเขาบ้าง แต่ผมจะปฏิเสธที่จะถือกุญแจห้องไว้

    แต่วันนี้ผมกลับต้องมานั่งถือกุญแจห้องของเจ้านาย เพราะเขาจะไม่ยอมมาเปิดเด็ดขาด  แต่ถ้าผมไม่เปิดเข้ามา

    วันจันทร์เขาจะลาพักผ่อนชั่วคราว   เขาบอกผมว่า เขาจะอาสาไปรับพี่คริสมาทำงานแทน

    ซึ่งผมต้องยอมแบบไม่ลังเล  เพราะผมไม่สามารถให้คนที่ไม่สบายต้องมาทำงานได้ แถมยังต้องพบปะผู้คน

    ซึ่งผมเขาเข้าใจ ว่าต้องทำให้คุณคริสลำบากใจแน่นอน

    ผมโมโหมากกับเรื่องนี้  และเป็นครั้งแรกที่ทำให้อารมณ์ผมหลุดแบบไร้การควบคุม

    ผมกระชากกุญแจในมือเขา ซึ่งห้อยอยู่ตรงหน้า พร้อมสบถคำหยาบออกไป 

    แต่ต้องขอบคุณที่เขาไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้นัก...............

     

     

    “คุณเน็ต ตื่น.........” ผมเดินเข้ามาที่ห้องเขาพร้อมทั้งยืนเรียกพร้อมทั้งกระตุกผ้าห่มที่พันตัวอยู่

    “ขอ อีก 5 นาที”  เสียงคนขี้เซาที่ขอเวลาเพิ่ม

    “คุณเน็ต ตื่น       ..ไม่งั้นวันนี้ผมจะไม่ไปกับคุณนะ เพราะคุณไม่ตื่นซึ่งไม่ใช่ความผิดผม...”

    ไม่มีเสียงตอบกลับ  มีแต่มือที่กวักเรียกผม  

    ผมโน้มตัวไปข้างหน้า เพื่อจะถามว่าต้องการอะไร

    แต่เขากลับคว้าคอผมลง ทำให้หน้าทิ่มอยู่บนผ้าห่มที่เขาห่มอยู่ซะงั้น

    “คุณเน็ตเล่นอะไรเป็นเด็กๆ  ปล่อยผมนะ...”  ผมพยายามดิ้นจากอ้อมแขนนั้น

     

    ทันใดผ้าห่มก็ถูกเปิดออกมา ทำให้เห็นใบหน้าขี้เล่นที่โผล่ออกมานอกผ้าห่ม 

    และโขมยหอมแก้มผม ไปฟอดหนึ่ง

    “คุณเน็ต  ปล่อยๆๆ”  นั้นเป็นเสียงเมื่อผมหายตกใจ  ผมใช้มือดันหน้าเขาเพื่อให้ปล่อยซะที

    ซึ่งก็ได้ผล  เขาปล่อยผมพร้อมทั้งกระโดดลุกขึ้น เดินเข้าห้องน้ำหัวเราะสบายใจเชิบ

    เหมือนกับว่าเล่นเกมชนะ อะไรประมาณนี้ ...........

    ซึ้งผมก็ได้แต่ทำให้หมั่นไส้ตามหลัง............

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×