ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแสนแสบ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่3 งานใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 54


           ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยหับที่หายไปนาน เนื่องจากว่าใกล้สอบเลยต้องหยุดไว้คับ แต่ตอนนี้ว่างแล้วคบเลยมาต่อ ต้องขอโทษจิงนะคับ


    ตอนที่
    3 งานใหม่

     

            ผมมีข่าวร้ายอยากจะมาบอกคับ จำได้ไหมคับว่าช่วงกลางวันผมเป็นเด็กเสริฟ์ที่ร้านอาหารอิตาเลียน แต่เนื่องจากเศรษฐกิจย่ำแย่และเจ้าของร้าน  รับภาระในการเช่าร้านไม่ไหว เลยต้องปิดกิจการร้านอาหารไปโดยปริยาย แต่ร้านกาแฟยังอยู่คับเพราะว่าช่วงเย็นจะมีคนเข้าร้านคอฟฟี่ร่วมถึงทานอาหารเย็นไปเลย ดังนั้นเจ้าของเลยปิดร้านอาหารคับ ที่จริงผมก็ได้ข่าวมาเหมือนกันคับว่าร้านอาหารขาดทุน  แต่เนื่องจากเจ้าของแกเห็นใจ พวกลูกจ้างอย่างเรา  เลยพยายามประคับประคองร้านไว้ แต่สุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงเพราะรายจ่ายเยอะว่ารายรับ

            วันนี้ผมมาสัมภาษณ์งาน เป็นงานที่ผมจบมาโดยตรง ถึงแม้ว่าผมจะเคยทำงานประเภทนี้มาแล้ว  แต่ก็มีความประมาทอยู่ถ้าคนที่สัมภาษณ์ถามคำถามที่ต้องใช้  การวิเคราะห์และหาเหตุผลเป็นหลักในการตัดสินใจ


           
    ผมเดินเข้ามาในตึกสูง
    12 ชั้น ตั้งอยู่ในตัวเมืองครับ ตอนที่ผมเดินเข้ามาส่งใบสมัคร ผมยังเกร็งๆ เลย ถึงแม้บริษัทแห่งนี้จะไม่ใหญ่นักแต่ก็เป็นที่รู้จักของคนในแวดวงธุรกิจ



           
    “เชิญคุณทิวานนท์ ค่ะ” เสียงพนักงานเรียกผมให้เข้าไปข้างใน เมื่อผมเดินเข้าไปในห้อง ผมเห็นชายคนหนึ่งกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่คับ ผมยืนรออยู่สักพัก ชายคนที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นผู้จัดการฝ่าย ก็หันมามองผม เขาเชิญผมเข้าไปนั่งและสัมภาษณ์ ............ในระหว่างที่ผมกำลังตอบคำถามอยู่นั้น


           
    ผลั่ก
    !!........ประตูก็เปิดออก “คุณสักกะ ยอดการตลาดเดือนนี้ทำไมไม่ถึงเป้าที่กำหนดไว้” ชายที่เดินเข้ามา โหวกเหวกโดยไม่มองว่าพวกเรากำลังทำอะไรอยู่ ......ดีนะคับที่ผมตอบคำถามเสร็จพอดี ผมหันไปมองเจ้าของเสียงที่ดังเข้ามา สายตาผมไปหยุดอยู่ตรงหน้าของชายคนนั้น “เอ้ย!”  ............ผมร้องออกมาด้วยความตกใจนิดหน่อย” แต่คนที่ผมเห็นนี้สิคับ กลับทำหน้าเหมือนไม่เห็นผม เขามองผมแว่บเดียว......แล้วเดินตรงมาที่คุณสักกะ ผมจึงหันไปมองคุณสักกะ..........เขาพยักหน้าให้กับผมและบอกว่าจะติดต่อกลับครับ ผมพยักหน้ารับและเดินออกไปจากห้อง ในใจก็คิดว่าถ้าผมไม่ได้ส่วนหนึ่งต้องมาจากไอตือคับ เพราะไอคนที่ผมเห็นนั้นคือ ไอตือที่ผมช่วยไว้นะคับ “ทำมาเป็นเมิน ฉิ ฉะ” ผมคิดในใจ ...........


           

            กริ๊งๆๆ  เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ในช่วงเย็นของวัน “สวัสดีคับ” “ดี......นายนนท์” เสียงอีกฟากตอบกลับ ผมมองเบอร์อีกครั้งและถามว่า “ใคร......อ่ะ” “ไงเราจำพี่ไม่ได้หรอ เมื่อเช้าเรายังเจอกันเลย” เสียงโทรศัพท์ตอบกลับมาอีก  


           
    เอ๋
    !  เสียงมันคุ้นว่ะ  ใครว่ะเม็งเล่นตลกแหละ ผมคิด “พี่เอง........ตือ”  และแล้วมันก็เฉลยคับว่าใคร


           แหมๆ แทนตัวเองว่าพี่........ตือ และเขารู้เบอร์ผมได้ไงหว่า  “รู้เบอร์ผมได้ไง......”  “ก็นายสมัครที่บริษัทฉันนี้............นายมาสมัครงานใช่ไหม ฉันตกลง.........พรุ่งมาพบกันที่ทำงานตอบแปดโมง.....อย่ามาสายหละ....
    พูดเสร็จเขาก็วางสายไป ผมยืนอึ้งกับเสียงที่พูดผ่านโทรศัพท์มา 

           

            ผมวิ่งกระหืดกระหอบมาที่ทำงานของผม วิ่งไปก็มองนาฬิกาไป โอ้ย!! จะแปดโมงแล้ว ผมวิ่งแล้ววิ่งอีกเพื่อจะขึ้นไปแผนกที่ผมจะได้ทำเป็นวันแรก

     

            “สวัสดีครับ คุณ......” “ดิฉันชื่อ ฉัตรทิพย์ค่ะ เรียกทิพย์ก็ได้” สาวสวยที่นั่งหน้าห้องเอ่ยทักทายผม “คุณทิวานนท์ค่ะ  ฝ่ายที่คุณต้องทำไม่ใช่ฝ่ายนี้ค่ะ คุณได้ทำงานในฝ่ายบริหารบุคคลค่ะ ชั้นของคุณต้องขึ้นไปอีกชั้นค่ะ” คุณฉัตรพูดเสร็จก็ชี้นิ้วไปทางขึ้นบันไดให้กับผม  ผมเลยเดินตามทางขึ้นไปอีกชั้นเพื่อจะไปพบหัวหน้าฝ่ายของผมคับ เดินไปก็คิดไปเรื่อย (มาสมัครฝ่ายการตลาดแต่กับได้ฝ่ายบุคคล แต่ไอผมจะถามซอกแซกก็ไม่เหมาะคับ เพราะงานสมัยนี้หายาก ไว้ผมค่อยเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันคับ)

            ผมเดินมาที่ฝ่ายบุคคลที่มีป้ายแผนกติดไว้หน้าห้อง  ฝ่ายบุคคลเป็นห้องใหญ่กว้าง...กินเนื้อที่ทั้งชั้น ..และจะมีพาทิชั่นกันไว้เหมือนคอกม้าเลยคับ แบ่งให้พนักงานแต่ละคนทำงาน และด้านหลังสุดทำเป็นห้องส่วนตัวสำหรับหัวหน้าฝ่ายบุคคลคับ  ขณะผมกำลังเดินเข้าไป มีพนักงานเรียกผม และบอกว่าหัวหน้าฝ่ายต้องการพบผมครับและให้เข้าไปพบเดี๋ยวนี้เลย  ผมจึงเร่งฝีเท้าเดินตรงไปยังสุดทางเดิน   เคาะประตูเข้าไปในห้องนั้น

     

            ผมพบนายตือ ยืนจ้องนาฬิกาข้อมือ และหันมาทางผม “นายช้าไป 5 นาที ฉันบอกให้นาย ตอนแปดโมงตรงนิ นายฟังไม่ได้ยินหรือนายไม่เข้าใจที่ฉันพูด” ผมยื่นจ้องนายตืออย่าง งงๆ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยแปลกใจเกี่ยวกับเขาแล้วก็ตาม แต่....มาแบบนี้ผมก็มีมึนๆ เหมือนกัน อะไรว่ะ แม่ง แม่ง  “ตั้งแต่วันนี้ไป นายจะมาเป็นผู้ช่วยฉัน นายต้องค่อยจดบันทึกและดูข้อมูลที่ฉันต้องการ”นายตือพูด(สั่งจะดีกว่าคับ)  ผมมองหาอะไรบางอย่าง...และในที่สุดผมก็เจอคับ มันเป็นแผ่นไม้สักที่ระบุชื่อและตำแหน่ง ไอคนที่ยืนสั่งผมอยู่ เขาคือ นายแสงตะวัน  ปฐิยาวิกรณ์ ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ผมคิดว่าชื่อของเขาช่างเหมาะสมกับบุคลิกมากไปเปล่า เพราะอารมณ์ของเขาช่างเหวียงสุดๆๆ  แล้วผมจะทำได้ไหมเนี้ย เห่อ....เหนื่อยใจ

     

    “นายต้องเรียนรู้งานกับคุณหน่อย เขาจะลาคลอด ในอีก 2 อาทิตย์ และนายต้องมาทำหน้าที่แทนเขา และถ้านายไม่สามารถเรียนรู้งานได้ทัน นายจะไม่ผ่านโปร เพราะฉันจะไม่เอาคนที่ไร้ความสามารถมาทำงานแน่นอน”  พูดเสร็จเขาก็โฟนเรียกคุณหน่อยที่อยู่หน้าห้องมาคับ  และทำมือให้ผมออกเดินตามเธอไป

    “หวัดดีจ๊ะ ฉันเรียกเธอว่านนท์ได้ไหม”  “ได้คับ” “อย่าคิดมากเลยนะ.......คุณตือเขาก็เป็นแบบนี้แหละ .......เธอเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่ว่าเธอก็บริหารงานดีทีเดียว” พี่หน่อยพูดให้กำลังใจผมคับ  ไอผมก็ตอบได้แค่ว่า “ครับ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด”

    วันนี้ทั้งวันผมวิ่งวุ่นอยู่กับการเดินเอกสารและเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย  ...แม้ว่ามันวุ่นมาก แต่ก็สนุกเช่นกันคับ และเพราะพี่หน่อยเดินไม่ค่อยจะไหวแล้ว ผมเลยเป็นคนที่ส่งแฟ้มต่างๆ เพื่อให้นายตือ หรือคุณตือ ของพี่หน่อยเซ็น

    ช่วงเย็นหลังเลิกงานผมก็มาที่ร้านคอฟฟี่คับ ผมยังทำงานพิเศษเป็นเด็กเสริฟ์ที่ร้านนี้อยู่ แม้ว่าจะเป็นรายได้เล็กน้อย แต่ก็สามารถช่วยผมและครอบครัวผมได้ดีครับ “สวัสดีครับ เชิญครับ” ผมกล่าวต้อนรับลูกค้าทุกคนที่เดินเข้ามาให้ร้าน บางคนเป็นลูกค้าประจำที่ติดใจฝีมืออาหารและรสชาติกาแฟที่นี่ครับ

    กริ้งๆ  เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น “สวัสดีครับ” “นายอยู่ไหน....” เสียงนายตือ
    ครับ ผมเริ่มจำได้แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เมนไว้ แต่เสียงแบบนี้และอารมณ์แบบนี้ชัวร์“ครับ...ผมทำงานอยู่ครับ” “นายเลิกงานแล้วนิ จะมาทำงานอะไรอีก” นายตือถาม “คือผมทำงานอีกทีหนึ่งนะครับและตอนนี้ผมคงไม่สะดวกคุย ต้องขอโทษนะครับ” ผมพูดเสร็จก็วางสายนายตือและเริ่มทำงานต่อ

    กริ้งๆๆ “นายทำงานที่ไหนฉันมีเรื่องจะคุย อย่างวางสายเด็ดขาดไม่งั้นนายได้ออกแน่นๆๆ” เสียงนายตือพูดขู่แกมบังคับ ไอผมก็ไม่อยากจะมีเรื่องด้วยเพราะผมเพิ่งจะได้งานแถมเงินเดือนก็ดีด้วยคับ “ผมทำงานที่ร้านกาแฟ ตรงถนนสุขุมวิทซอย 2 คุณจะทำไมหรือครับ” ผมตอบออกไปอย่างช่วยไม่ได้

    แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาแถมสายยังตัดไปซะงั้น โธ่!!! กูอย่างกลั้นใจตายจิงๆๆ   สักพักผมก็เห็นคุณชายตือ คงต้องเรียกอย่างนั้นก็พี่แกเล่นซะเต็มที่ ตามฉบับคุณหนูเอาแต่ใจเลยครับ แต่นายตือมาแปลกมากๆๆ เขาเข้ามาสั่งอาหารและเครื่องดื่มโดยที่ไม่ถามอะไรผม ทำให้ผมทำงานได้อย่างสบายใจครับไม่ต้องมาค่อยพะวงกับนายจอมวุ่น(เรียกว่าเด็กแสบดีกว่า)  ผมทำงานเสร็จจนร้านปิด และผมเห็นนายตือมายืนรอผมอยู่ ที่ลานจอดรถด้านหน้าของร้าน เขาเดินเข้ามาหาและบอกให้ผมไปเป็นเพื่อนเขาหน่อย

    เขาขับรถมาที่บาร์แห่งหนึ่งในย่านสีลมครับ ผมนะไม่เคยมาหรอกคับเพราะว่ามันเสียเงินโดยใช่เหตุ และตอนเช้าผมยังเข็นรถผักด้วยคับ นายตือให้ผมตามเขาเข้ามาและให้นั่งดื่มเป็นเพื่อน ไอผมก็ไม่รู้จะทำไง ไอนี่ก็เป็นเจ้านาย ผมเลยยอมๆๆ ตามเรื่องนะคับ ที่จริงสมัยก่อนผมก็มีเพื่อนซ่าส์ๆ อยู่เหมือนกัน  เลยได้ลองกินเหล้าพอเป็นความรู้ไว้บ้าง  เหมือนเป็นการเข้าสังคมกับเพื่อนมากกว่าแต่นานๆ ครั้ง   และส่วนมากเพื่อนมันก็เลี้ยงด้วย ผมนั่งเป็นเพื่อนนายตือ จนร้านเกือบปิดแล้วครับ และเขาก็เมาแอ้ไปแล้วด้วย ตานี้เยิ้มเชียว ....... ผมคิดในใจแล้วเช้านี้กูจะตื่นไหวไม่เนี้ย กูต้องเข็นผักนะเว้ย............

      

    ผมขับรถเก๋งบรรทุกนายตือขี้เมาจากร้านมาที่บ้าน.....ที่ผมได้มาส่งเขาเมื่อครั้งก่อน  ผมเพิ่งสังเกตได้คับ ว่า.......เวลามันเมามันขี้อ้อนมาก ผิดกะเวลาปกติเพราะเจ้าอารมณ์มากเช่นกัน 555  และผมก็รู้มาเรื่องหนึ่งตอนที่นายตือเมาคับ คือ....นายตือโดนสาวออกหัก  (สมน้ำหน้า ก็นิสัยแบบนี้ใครจะอยู่ไหวล่ะคับ ....จิงไหม)  ผมพยุงนายตือเข้ามาในบ้านแต่คราวนี้ผมรู้แล้วคับว่าต้องแบกนายตือไปไว้ที่ไหน บ้านหลังนี้มี 2 ชั้นคับและเขาก็อยู่คนเดียว ดังนั้นห้องนอนของเขาจึงอยู่ชั้นบนคับ ผมแบกนายตือ ขึ้นชั้นบนของตัวบ้าน และเลือกห้องแรกที่อยู่ติดกับบันไดคับ ผมวางเขาลงบนเตียงเรียบร้อยแล้วผมก็จะกลับบ้านซะที แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ปล่อยให้นายตือนอนเป็นที่เรียบร้อย .........นายตือก็ประคองหน้าผมและจูบที่ริมฝีปากผมคับ เขาเอาลิ้นเข้ามาที่ปากของผมและพันเกี่ยวกับลิ้มของผม รสชาติขมๆ ของเหล้าและกลิ่นของเหล้าผสมกันอยู่ในริมฝีปากของผม ผมเริ่มรู้สึกตัว และพยายามดันตัวเองให้หลุดจากวงแขนที่เริ่มเกาะกุมผมไว้ ผมพยายามอย่างที่สุดแต่กลับเป็นว่าไอนี่แรงมันเยอะมากๆไม่สมกับตัวเลยแท้ๆๆ

    นายตือมันเหวี่ยงผมไปบนที่นอนคับ เนื่องจากเตียงของนายตือจะมีต้นเสาเล็กอยู่ที่มุมเตียง ทำให้หัวผมไปกระแทกที่เสาต้นหนึ่งเขามันเลยมึนเลยคับ เหมือนจะเห็นดาว “พงษ์...คุณทิ้งผม ผมรักคุณนะคับ” นายตือพูดพร้อมกับถอดเสื้อ และเขากระโจนเข้ามาเกาะกุมผม เขายึดข้อมือผมทั้งสองข้างและใช้ขาของเขาทับลงบนขาของผม ทำให้ผมไม่สามารถขยับได้ บวกกับอาการปวดหัวตุ๊บๆๆ ที่โดนกระแทก “ตือ....นาย....ปล่อยฉันนะ...ฉันไม่ใช่ แฟนนาย...” ผมพยายามพูดเพื่อเรียกสติไอคนเมาให้รู้ตัวคับ แต่เหมือนมันจะไม่เข้าใจ   มันก้มลงมาจูบทีซอกคอของผม ตอนแรกผมตกใจมากที่รู้ว่าแฟนของเขาเป็นผู้ชาย เขาจูบซอกไซ้ผมและเลื่อนขึ้นมาที่ติ่งหู ที่ตา ที่ปลายจมูก และที่ริมฝีปากของผม เพราะความชำนาญของนายตือบวกกับอาการปวดหัวตรงที่โดนกระแทก  ทำให้ผมไม่สามารถประมวลผลหรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ผมเริ่มที่จะคล้อยตามกับสิ่งที่เกิดขึ้น มือของเขาเลื่อนลงมาที่เสื้อของผมและเริ่มปลดกระดุมปลายนิ้วของเขาที่เคลื่อนผ่านผิวหนังของผมทำให้ผมขนลุกไปทั้งตัวและเคลิบเคลิ้มในสิ่งเหล่านั้น  ริมฝีปากของเข้าไล้ลงมาตามซอกคอและหน้าอก วนไปเจอหัวนมที่ตั้งชูของผม เขาเม้นเหมือนกำลังดูดลูกอมและเลียบเหมือนกินไอติม “อืมมมม” เสียงร้องที่ไม่ได้ตั้งใจของผมหลุดออกมา

    มือของเขาเริ่มปลดกางเกงของผมโดยที่ไม่รู้ตัว ผมเริ่มรู้สึกตัวเมื่อตอนที่เรา 2 คนไม่เหลืออะไรติดตัวแล้ว มือของเขากำลังกุมน้องชายของผมอยู่ เขาลูบไร้น้องชายของผมและเขี่ยน้องผมเล่นไปมาจนน้องของผมทนไม่ไหว น้ำตาน้องชายของผมไหล “อ๊าก  อ๊า....ก”  “อย่าคับ.........ได้โปรด..” ผมพยายามเค้นคำพูดเพื่อให้เขาหยุดการกระทำนั้น  “...........นายก็ชอบมันนิ........จะให้หยุดทำไมหละ”   นายตือพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ขณะที่กำลังลิ้มรสชาติไอติมแท่งอยู่นั้น นิ้วของเขาก็วนอยู่ที่ประตูของผม..........และนั้นทำให้ผมเริ่มรู้ตัวว่ามันไม่สมควรเป็นแบบนี้  ผมเริ่มดิ้นอีกและพยายามแตะขาของตัวเองเพื่อป้องกันอาณาเขตไว้  สิ่งที่ผมทำ....ทำให้นายตือ ใช้ขาของเขากดขาผมไว้ และเขาก็รวบมือของผม พร้อมกับพลิกตัวผมให้คว่ำลง เมื่อคว่ำลง เขาดันขาทั้งสองข้างให้ตั้งฉากและจับมือของผมไขว่หลัง

    ไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร.......ผมรู้คับ ผมพยายามหยุดยั้งเขาเท่าที่ผมมีแรง แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ช่วยอะไรเลย กับเป็นการกระตุ้นต่อมของเขามากขึ้นเพราะผมเห็นมันชูตั้งท่าพร้อมรบอย่างดี  สิ่งที่ผมได้สัมผัสก่อนที่ผมจะหมดสติ คือ น้องชายนายตือได้เข้ามาที่ตัวผม โดยที่ผมไม่ได้เชื้อเชิญ เขาทำลายกำแพงสุดท้ายของผมและรุดเดินหน้า ความเจ็บปวดที่ผมได้รับเหมือนกับผมโดนฟันแล้วมีคนเอาเหล้ามาราดเลยคับ นั้นคือสิ่งที่ผมรับรู้ก่อนที่ผมจะไร้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น

    ..............................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×