คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอน9
ตอนนี้พวกเรากำลังเดินเข้าป่า ตามที่เรย์ได้บอกไว้ ว่าจะพาผมไปเยี่ยมฝูงนะครับ...
ซึ่งในใจลึกก็คิดว่ามันจะดีหรือเปล่าเน้อ ..... แต่ความอยากรู้มันมากกว่า และไหนจะได้เห็นลูกๆ หลานๆ ของเรย์อีก
ผมเดินตามเรย์เข้ามาในทางที่ไม่คุ้นเคยเลยก็ว่าได้.....เส้นทางนี้ปู่ผมเคยบอกว่ามันอันตรายมากๆ และไม่อยากให้ผมเดินเข้าไป.. แต่ตอนนี้ผมกลับกำลังเดินอย่างมุ่งมาด เพื่อจะได้เจอสิ่งที่ตัวเองหวังไว้
เรย์บอกว่าให้เดินใกล้ๆ เขา เพราะเส้นทางนี้เดินลำบากมากๆ และอาจหลงได้เพราะต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุม..
ผมเห็นต้นเถาวัลย์ขยับได้ด้วย..ที่จริงจะเรียกว่าเป็นอีกด้านหนึ่งของป่าแห่งนี้ก็ได้ เพราะมันเหนือจิตนาการที่ผมคาดไว้มาก.. เหมือนกับผมกำลังเดินวนอยู่ที่เดิมด้วยซ้ำ..ทั้งที่จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น....
“เรย์....นั้นต้นอะไรอ่ะ..” ผมมองเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีสีสันสวยงามและดึงดูดตัวผมให้เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อจะได้สัมผัสต้นไม้นั้น ดอกไม้ที่บานอยู่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมาที่จมูกของผม มือผมที่จะเอื้อมเพื่อไปสัมผัส แม้สักนิดก็ยังดี
“โอ๊ย.........นายทำอะไร..” ผมหันไปมองเรย์ที่ยืนค่ำผมอยู่ โดยที่เขาพุ่งมาชนผมอย่างแรง
“อย่าแตะต้องอะไรทั้งนั้นในป่าแห่งนี้....นายอาจตายโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ...และต้นไม้ที่นายจะจับ มันเป็นต้นโฮลิก..ที่ส่งกลิ่นยั่วยวน แต่พิษมันร้ายไม่ใช่เล่น ถ้าเกิดไปถูกมันจะปวดแสบปวดร้อนเหมือนตายก็ว่าได้..ดังนั้นนายอย่าไปยุ่งกับมันเลยดีกว่า...” ผมอึ้งและทึ้งกับความรู้ที่เรย์บอกจริงๆ ....
เรย์ยื่นมือมาเพื่อจะฉุดผมขึ้นจากพื้นที่ผมล้มลง....ตอนนี้เรย์เลยต้องมาเดินป่าด้วยร่างของมนุษย์เพราะผมเดินไปก็เที่ยวถามถึงต้นไม้ และดอกไม้แปลกๆ ที่ผมไม่เคยเห็น..ดังนั้นการเดินทางของเราเลยล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้
“เรย์..นายนี่รู้เรื่องพืช ต้นไม้ ใบหญ้าทุกอย่างเลยเนอะ...ผมอยากมีความรู้แบบเรย์จัง” ผมเอ่ยชมเพราะต้นไม้ทุกต้นที่ผมถามเรย์ มักจะได้คำตอบแบบรู้ลึกรู้จริง...และเป็นต้นที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนจากอีกด้านหนึ่งของป่า..
“หยุด..” อยู่ๆ เรย์ก็สั่งให้ผมหยุดพร้อมทั้งใช้นิ้วชี้ปิดที่ปาก เหมือนจะบอกว่าให้ผมหยุดพูดด้วย
เสียง พุ่มไม้สีกันอยู่ด้านหน้าของพวกเราทำให้ผมหวั่นได้นิดๆ เพราะอาจเป็นสัตว์ที่สามารถทำอันตรายพวกเราได้
ตอนนี้เรย์อยู่ในร่างของหมาป่าพร้อมที่จะกระโจน เพื่อตะปบบางอย่างถ้ามันกระโจนมาหาพวกเรา
และในชั่วเวลาแป๊ปเดียว สัตว์ตัวใหญ่ที่ดำก็พุ่งมาหาพวกเราจริง .....
มีดที่อยู่ในมือผมถูกยกขึ้นเพื่อป้องกันตัวจากสัตว์ป่าที่จะทำร้ายพวกเรา...
เสียงฟัดกันของสัตว์ทั้งสอง กำลังดังอยู่ด้านหน้าของผม โดยที่เรย์กระโจนเข้าไป พร้อมจะทำร้ายสัตว์ที่ดำตัวนั้นเช่นกัน
ผมยืนมองอยู่จนรู้ว่ามันคือหมาไน...ที่เป็นสัตว์ป่าที่ไม่ถูกกับหมาป่า...
ผมหยิบมืดปลายแหลมเล็กขึ้นมา เพื่อจะปาเข้าไปในวนของสัตว์ที่กำลังฟัดกันอยู่..
ผมถูกฝึกเรื่องการใช้มีดทุกแบบ ดังนั้นอาวุธที่ผมถนัดสุดคือมีด...ผมเล็งมันตอนที่มันกระโดนหลบและแยกจากเรย์
ฟิ๊ววว....เสียงมีดเล็กที่ผมปาไปโดนเป้าหมายที่เล็งไว้
“แอ็งๆๆ “ เสียงหมาไนที่โดนอาวุธผมก่อนที่มันจะทิ้งคาบเลือดและวิ่งเข้าไปในป่า...
ผมรีบวิ่งเข้าไปดูเรย์ที่ยืนจังก้ามองดูหมาในตัวนั้นวิ่งไป....
เรย์มีบาดแผลที่ขา..เพราะโดนหมาในตัวนั้นกัด... แต่ส่วนอื่นๆ เท่าที่ผมดูก็ไม่มีอะไรมาก
“เรย์ ทำแผลก่อน...” ผมหยิบใบยาที่ใช้สมานแผลขึ้นมาเพื่อทำแผล
“ไม่ต้องหรอกคาโอรุ เลียสักพักแผลก็หายแล้ว..” ตอนนี้เรย์กลายมาเป็นมนุษย์เพื่อพูดคุยกับผมอีกครั้ง
“ไม่ได้...ถึงไงก็ต้องทำแผลให้สะอาดไว้ก่อน...” ผมบอกออกไป แต่เรย์กลับยกแขนขึ้นแล้วเลียมันต่อหน้าผม
แต่สายตาผม ก็มองเห็นว่าเป็นแผลที่ไม่หน้าเป็นห่วงเท่าไหร่จริงๆ
“เรย์ ทำไมหมาไน ถึงไม่ถูกกับหมาป่าแหละ” ผมถามด้วยความสงสัย
“เรื่องมันนานมาแล้ว..ตั้งแต่สมัยปู่ของข้า......”
“เรย์เล่าให้ฟังได้ไหม...” ผมถามกลับไป
“อือ......หมาป่าอย่างพวกเรานะ เป็นหมาป่าที่ใช้เยี่ยวยารักษา แต่เนื้อและขนของหมาในเป็นยาพิษ...เมื่อก่อนพวกเราก็พึ่งพาซึ่งกันและกัน แม้จะไม่ได้อยู่รวมกัน และพวกเราก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน...จนวันหนึ่ง มีหมาไนมันคิดจะฆ่าหมาป่าอย่างพวกเราเพื่อที่จะครอบครองป่าแห่งนี้แทน ซึ่งตอนนั้นปู่ของข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน จนกระทั่งหมาในตัวนั้น ลอบเข้ามาและกัดเข้าที่คอของปู่ข้า...ซึ่งพิษของหมาไนทำให้ปู่ข้าของจบชีวิตลง แม้ว่าปู่ข้าจะเป็นหมาป่าที่แข็งแกร่งและสามารถรักษาตัวเองได้ แต่พิษที่ปู่ข้าได้รับมันก็มากเกินกว่าที่จะรักษาได้...และหมาไนตัวนั้นก็ถูกพวกพ่อขอข้าฆ่าตาย...แต่หมาไนตัวอื่นไม่เชื่อ...ทำให้เริ่มมีการทะเลาะกัน..จนในที่สุดเรื่องก็บานปลายกลายเป็นปัญหาระหว่าง สายพันธุ์ด้วยกันเอง...ตั้งแต่นั้นมาพวกข้า และพวกมันก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน มีแต่พวกมันที่จ้องจะทำร้ายหมาป่าอย่างเรานั้นแหละ..”
“เรย์...แล้วหมาป่าตัวอื่นๆ ไม่โดนพวกมันทำร้ายหรอ..”
“ก็มีบ้าง...พวกเราก็ฆ่าพวกมันเยอะเหมือนกัน..แต่พวกเราไม่คิดจะเริ่มก่อน...แต่ก็ต้องป้องกันตัว..”
“เรย์แล้วสัตว์ที่อยู่ในป่าทุกชนิด เหมือนเรย์บ้างไหม...”
“เจ้าหมายถึงมีร่างกายเป็นมนุษย์นะหรอ....มีสิสัตว์ที่อยู่ในป่าแห่งนี้ก็จะมีหัวหน้าคอยดูแล...แต่พวกเขาไม่คิดจะออกมาจากป่าหรอกนะ...ที่จริงข้าก็ไม่คิดจะออกมาเช่นกัน..แต่ข้าดีใจที่ได้เจอเจ้านะคาโอรุ...”
ผมดีใจมากทีเรย์พูดแบบนี้...เพราะผมก็ดีใจเช่นกันที่ได้เจอเรย์....
พวกเราเดินทางต่อไปจนถึงบึงแห่งหนึ่ง...ซึ่งมีน้ำสีแดงเข้มอยู่เต็มบึงแห่งนั้น....สีที่คล้ายเลือดก็ว่าได้
“คาโอรุ...บึงที่เจ้าเห็นมีเทพอาศัยอยู่...เขาชื่อว่า รากุ เป็นเทพที่ดูแลสัตว์น้ำในบึงนี้..และเป็นเพื่อนข้าด้วย....”
ผมนึกตกใจเพราะว่าผมลืมไปจริงๆ ว่าเรย์ก็เป็นเทพที่คอยดูแลหมาป่าที่อาศัยอยู่ในภูเขานี้เช่นกัน....ผมอยู่กลับเรย์มานานเกินไป จนทำให้ผมลืมไปว่าเขาก็เป็นเทพเช่นกัน
“คาโอรุเจ้าเป็นอะไร ดูหน้าตื่นๆ” เสียงเรย์ที่ถามผมทั้งที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าตาอย่างงั้นจริงๆ
“เปล่า...ผมแค่ลืมไปว่าเรย์ก็เป็นเทพ...เหมือนกับเทพรากุ..”
“รากุ....รากุ...” เสียงเรย์ที่ตะโกนเรียกเทพของบึงสีแดงฉานดังขึ้น
ผมเห็นผิวน้ำที่ตอนแรกนิ่งสงบ.. แต่ตอนนี้กลับมีระลอกคลื่นตรงกลางของบึงน้ำแห่งนี้ ก่อนที่ผมจะเป็นร่างของเทพรากุที่เรย์ตะโกนเรียก....
เทพรากุที่ผมเห็น ที่จริงผมไม่สามารถเดาได้เลยว่าท่านเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเพราะผิวที่ดูซีดขัดกับผมที่ยาวจรดปลายเท้าที่จริงคงจะยาวกว่านั้น แต่ผมทุกเส้นกลับเป็นสีแดงเหมือนกับบึงที่อยู่ตรงหน้าผม....
“รากุ..เจ้าสบายดีไหม..” เสียงเรย์ทักท่านรากุ....
“ห้าวววว......เรย์เจ้านั้นเอง ข้าคิดว่าเป็นใครซะอีก.....ข้าก็เพิ่งจะดีขึ้นนี่แหละ..เจ้าดูเนื้อตัวข้าสิ..ซีดจนข้าแทบอ่อนใจ...เพราะฤดูที่หนาวเย็นผิดปกตินั้นแหละทำให้ข้าแทบย่ำแย่..” เสียงท่านรากุที่บ่นให้เรย์ฟัง พร้อมที่สีหน้าที่ดูเบื่อหน่ายกับผิวที่ซีดเซียวนั้น...
“เรย์..เจ้าพามนุษย์เข้ามาทำอะไรที่นี่..” อยู่ๆ สายตาที่ท่านรากุมองเรย์ก็เปลี่ยนมามองผมซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของเรย์
“รากุ...เขาชื่อคาโอรุ..เขาเป็นคนช่วยข้าไว้ตอนที่ข้าบาดเจ็บ..” เสียงเรย์ที่บอกท่านรากุ
“นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะพามนุษย์เข้ามาได้...” เสียงที่ดูจะตึงๆ เกิดขึ้น
“เจ้าเด็กน้อย.....ทำรู้ไหมว่ามนุษย์ทำลายป่านี้ ภูเขานี้...และข้าก็เกียจมนุษย์อย่างพวกเจ้า..” อยู่ๆ ท่านรากุก็พูดด้วยเสียงที่น่ากลัวมาที่ผม....จนทำให้ผมลืมหายใจไปได้เลย
“รากุ...คาโอรุไม่เหมือนกับมนุษย์คนอื่น.....เขามีจิตวิญญาณของภูเขานี้...” เสียงเรย์ที่พูดขัดขึ้น ทำให้บรรยากาศดูดีขึ้น
“เจ้าเด็กน้อย..เพื่อนข้าบอกว่าเจ้ามีจิตวิญญาณของภูเขาหรือ...” ผมงงกับคำถามที่ท่านรากุพูด และที่เรย์บอก..ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมได้แต่ยืนอ่ำอึ้งอยู่....
“รากุ......เขาชื่อคาโอรุไม่ใช่เจ้าเด็กน้อย..” เสียงเรย์ที่พยายามแก้ชื่อผมให้ถูก ซึ่งสายตาที่ท่านรากุมองเรย์เหมือนไม่ใส่ใจคำพูดนั้นมากกว่า
“เจ้า.............มานี่สิ....” ท่านรากุเรียกผมให้เดินมาที่ริมบึงน้ำสีแดงใหญ่นั้น และผมก็ทำตามที่ท่านรากุสั่ง ซึ่งมีเรย์มองอยู่.........”เจ้าเอามือแตะไปที่ผิวน้ำนั่นซะ...และอยู่อย่างนี้จนกว่าข้าจะให้เจ้าเอามือขึ้นได้...” อีกคำสั่งที่ท่านรากุสั่งให้ผมทำซึ่งผมก็ทำตามด้วยความงงงวย....มือของผมค่อยจุ่มลงไปในสระที่มีสีแดงฉาน.... ผมรู้สึกได้ว่าน้ำในบึงแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหนียวมากกว่าน้ำตกที่อยู่หลังบ้านของผม...และผมรู้สึกว่ามันกำลังดูดผมของผมให้จุ่มลึกมากยิ่งขึ้น...
“พอแล้ว....เจ้าเอามือขึ้นได้...” เสียงท่านรากุที่สั่งให้ผมเอามือขึ้นจากบึง แขนทั้งสองข้างที่ผมจุ่มลงไปมีสีแดงติดขึ้นมา ก่อนที่สีแดงเหล่านั้นจะจากหายจนกลายเป็นสีผิวของผมดังเดิม
“รากุ...เป็นรู้แล้วใช่ไหม...” เสียงเรย์ที่ถามท่านรากุอีกครั้ง
“ได้...ข้าเชื่อเจ้า....เจ้าเด็กน้อย...เจ้าได้รับอนุญาตให้ดื่มกินน้ำในบึงนี้ได้...แต่ถ้าวันได้เจ้ากลายเป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว น้ำในบึงแห่งนี้จะฆ่าเจ้าเมื่อเจ้าสัมผัสมัน..” เสียงท่านรากุ..ที่บอกว่าน้ำสีแดงตรงหน้าของผมกินได้..ซึ่งผมแทบจะไม่กล้าแตะด้วยซ้ำ
“เรย์....แล้วเจ้าจะพาเจ้าเด็กนี้ไปไหน..” อยู่ๆ ท่านรากุก็เลิกสนใจผม และหันไปสนทนากับเพื่อน(เรย์) ดังเดิม
“ข้าตั้งใจจะพาคาโอรุเป็นเยี่ยมฝูงของข้านะ...เจ้าก็รู้ว่าคนที่ช่วยข้า ข้าต้องอยู่ดูแลเขาตลอดไป..”
“เรย์ข้าก็เข้าใจกฎของเจ้านะ....แต่จะดีหรือที่จะพาไปดูฝูงของเจ้านะ....” สายตาท่านรากุมองมาที่ผมอีกครั้งก่อนที่จะตวัดกลับไปมองเรย์
“อือ...ถึงไง..ไม่ช้าก็เร็วข้าก็ต้องพามาอยู่ดี..” เรย์บอกอะไรบางอยู่ที่ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำ
“นั้นเจ้าก็รีบเดินทางต่อเถอะ เดี๋ยวมืดแล้วมันจะลำบากสำหรับมนุษย์..”
“อืม..แล้วขากลับข้าจะแวะมาหา...”
“เจ้าเด็กน้อย...เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าโชคดีแค่ไหนที่ได้ช่วยเรย์ไว้....” เสียงที่พูดกับผมทำให้ผมรู้สึกโชคดีอย่างที่ท่านรากุพูดไว้จริงๆ....
“ครับ...ผมโชคดีที่ได้รู้จักเรย์.....แต่เขาอาจจะโชคร้ายที่รู้จักผม...” ผมตอบกลับไป
“เจ้าเด็กนี้.....ช่างพูดนัก.....เอาเถอะ...เจ้าก็ระวังตัวแล้วกันตอนกลางคืนในป่านี้มันน่ากลัวกว่าที่จะเคยเดินมามากนัก”
ท่านรากุที่ดูจะเป็นคนน่ากลัว กลับพูดจากที่อ่อนโยนกับผม..และท่านยังมอบสร้อยที่ทำจากบึงแห่งนี้ให้ผมอีกด้วย.สร้อยเส้นสีแดง ที่ตรงกลางสร้อยมีหยดน้ำที่แดงเหมือนกับสายสร้อย..แต่ใหญ่กว่า...
“ขอบคุณครับ ผมจะเก็บรักษาไว้อย่างดี.” ผมกล่าวขอบคุณท่านรากุ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังมุ่งหมายเดิม
พวกเราเดินมาทางต่อมาอีกหลายชั่วโมง จนมาถึงถ้ำหิน.....ที่อยู่บนเนินเขา...ซึ่งสามารถใช้เป็นที่พักสำหรับคืนนี้ได้
“คาโอรุ...ถ้าเจ้าได้ยินเสียงใครเรียกหรือร้องให้ช่วย...เจ้าอย่าออกไปเด็ดขาด.....”
คำเตือนที่เรย์บอกผมยิ่งทำให้ผมสงสัยว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นได้... แล้วใครจะมาร้องเรียก.....
“อือ..” แต่ผมก็ตอบเพื่อให้เรย์สบายใจขึ้น
กองไฟถูกจุดเพื่อให้ความอบอุ่นในยามค่ำคืน..แสงไฟที่เหมือนกับเต้นระบำอยู่ ฉายวาบอยู่บนผนังหินในถ้ำ
อาหารถูกแบ่งออกมาและกิน....อีกส่วนถูกเก็บไว้สำหรับวันต่อไป...
พวกเรารีบนอนเพื่อที่จะมีแรงสำหรับเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้...การเดินทางที่ยาวไกลไม่ได้ทำให้ผมลำบากแต่อย่างใด
แต่สองข้างทางที่เดินตั้งหากที่ผมให้ผมตื่นตาตื่นใจกับมัน....
ขนนุ่มๆ ของเรย์กลายเป็นผ้าห่มเฉพาะกิจสำหรับการเดินทางครั้งนี้.....แผงอกนุ่มๆ กลายเป็นหมอนไว้สำหรับหนุน
ก่อนที่พวกเราจะหลับ....
+++++++++++++++
รุ่งเช้าที่พระจันทร์หนีหายลับไป กลายเป็นดวงอาทิตย์ที่ทอแสงลงมาแทนที่ พวกเราออกเดินทางต่อเพื่อให้ทันก่อนที่พระจันทร์แวะมาทักในอีกคืน....
ยิ่งผมเดินเข้าไปในป่าลึกมาเท่าไหร่ สิ่งแปลกใหม่สำหรับผมก็มีมากขึ้นเท่านั้น...แม้ว่าต้นไม้บางต้นผมจะเคยเห็นจากอีกฝั่งหนึ่งก็ตาม.....ใจผมเริ่มจดจ่อกับสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตาของผม....
และผมก็จะได้รู้ว่า ที่จริงท่านรากุเป็นเทพของบึงน้ำที่ใช้รักษาและให้ชีวิตสัตว์ต่างๆ ในป่าแห่งนี้... และที่ท่านรากุไม่ชอบมนุษย์เพราะว่าเทพที่อาศัยอยู่ในน้ำตกที่ไหลเข้าหมู่บ้าน คอยเล่าเรื่องความไม่ดีของมนุษย์ให้ฟังนั้นเอง...
ที่จริงผมก็ตกใจที่น้ำตกที่อยู่หลังบ้านผมมีเทพคอยดูแลด้วย ซึ่งผมไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่เกิดมาด้วยซ้ำ...
“เรย์..เทพที่ดูแลทุกอย่างในป่าแห่งนี้คือเทพอะไรหรอก..” ผมถามออกไปหลังจากฟังสิ่งที่เรย์เล่า
“เทพมังกร...ท่านจะอาศัยอยู่บนภูเขา...”
“ห๊ะ เทพมังกร...” ผมตกใจจริงๆ กับเทพเจ้าที่ดูแลภูเขา...เพราะเหมือนผมกำลังฟังนิทานที่ปู่เล่าให้ฟังมากกว่า..
และผมไม่คิดว่าเทพมังกรจะมีจริง....
พวกเราใช้เวลาเดินทางอีกค่อนวันกว่าจะถึง ที่ๆ เรย์บอกว่าเป็นที่พักของฝูงของเรย์ก็ว่าได้...ซึ่งผมมองโดยรอบก็ไม่เห็นหมาป่าเลยซักตัว
“เรย์ไม่เห็นอะไรเลย..พวกเขาไม่อยู่กันแล้วหรอ..” ผมถามด้วยถามแปลกใจ
แต่เรย์กลับเดินตรงไปยังกอหญ้าที่ขึ้นรก ต้นหญ้าสีเขียวที่ดูคลายตะไคร้น้ำมากกว่าที่จะเป็นต้นไม้ได้...
แต่ขาทั้ง 4 ของเรย์ก็ยังเดินตรงไปจนถึงกอหญ้าสูงนั้น เรย์เดินผ่านกอหญ้าแล้วหายเข้าไป ซึ่งผมได้เพียงแต่สงสัยและเดิมตามเท่านั้น ผมเดินผ่านกอหญ้าซึ่งที่จริงเป็นภาพลวงตาก็ว่าได้ เพราะผมไม่รู้สึกว่า ตัวเองสัมผัสกับกอหญ้าที่ปิดไว้แม้แต่น้อย
“โห้....................” ผมอุทานด้วยความดีใจ แปลกใจ และตื่นตาปนอยู่ในคำๆ เดียว เพราะเมื่อผมเดินผ่านเข้ามา กับเป็นทุ่งใหญ่กว้าง และมีถ้ำหลากหลายแบบ ซึ่งจะเรียกว่าบ้านก็ไม่ผิด อยู่เต็มไปหมด และผมเห็นหมาป่าหลายตัวเดินวนเวียนเข้าถ้ำนู๋ออกถ้ำนี้...และสีของหมาป่าก็ไม่ได้มีแต่สีดำเหมือนเรย์เท่านั้น มีหลายสีทั้งสีขาว สีเทา หรือแม้แต่น้ำตาลแดงก็ยังมี
“หู้หหหหหหหหหห” เสียงเรย์ที่เห่าบ่งบอกถึงการกลับมา และเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างให้กับฝูงได้รับรู้ถึงการกลับมาของเขา ซึ่งทำให้หมาป่าในนั้นทุกตัวต่างหยุดและหันไปฟังเสียงที่เรย์กำลังบอก.....
ผมก็ไม่รู้ว่าเรย์บอกอะไรพวกเขาเช่นกัน.... แต่มีเสียหอนตอบกลับมา...ซึ่งน้ำเสียงที่ตอบกลับทำให้ผมรับรู้ได้ว่าเป็นสิ่งดีแน่ๆ
ก่อนที่เรย์จะเดินนำหน้าเข้าไปที่โพรงถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นบ้านของเรย์ก็ว่าได้ ผมเดินผ่านหมาป่าหลายตัวที่หันมามองผม
“เอ๊ะ.....อะไร..” อยู่ๆ ผมเหมือนจะได้ยินเสียงคนคุยกันก็ว่าได้.... ผมพยายามยืนหยุดกับที่ เพื่อฟังว่าผมได้ยินหรือหูฟาดกันแน่...แต่ผมกลับได้ยินเสียงเหมือนคนพูดกันจริงๆ ด้วย..ผมหันไปมองรอบตัวว่ามีมนุษย์คนไหนอยู่ที่นี่นอกจากผม..ซึ่งผมก็ไม่เห็นวี่แววแต่อย่างใด......
“เรย์...มีใครนอกจากผมหรือเปล่า...” ผมถามเรย์ซึ่งเดินเข้าไปในโพรงแล้ว..
สายตาที่มองมาที่ผม “ไม่มี..........ถ้ามีก็เป็นเจ้าเท่านั้นแหละ..” ดวงตาผมขยายโต
เพราะเรย์ซึ่งอยู่ในร่างของหมาป่ากำลังพูดกับผม และผมก็ได้ยินเต็มสองหูเลย.....
“เรย์......เรย์...นายกำลังพูดอยู่...” เสียงที่ติดขัดเมื่อผมบอกออกไป
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น